Pbl11. แบบบันทึกการศึกษาค้นคว้าและการแก้ปัญหา
โจทย์ปัญหา PBL 1 เรื่อง ประวัติและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม
รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น ง30201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวฐิติมาภรณ์ สงวนพิมพ์ เลขที่ 6
2. นางสาวเบญจรักษ์ กลองกระโทก เลขที่ 28
3. นางสาวอุไรรัตน์ เจริญรอย เลขที่ 29
ภารกิจ
จากสถานการณ์ปัญหา ที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายถึงประวัติและจุดเด่น
ของภาษาซี (2 คะแนน)กรณีที่นักเรียนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษา นักเรียนควรเริ่มต้น
จากศึกษาตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์แบบคอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ก่อน แล้วจึง
เลือกเป็นตัวแปลภาษา พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ (2 คะแนน)
ตอนที่ 1
หัวข้อปัญหา ประวัติและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม
ทาความเข้าใจปัญหา ค้นคว้าประวัติของภาษาซี และจะเลือกเป็นตัวแปลภาษาใด
สิ่งที่ต้องการรู้ 1. ประวัติของภาษาซี
2. เหตุภาษาซีที่ได้รับความนิยม
3. ตัวแปรภาษา
2. วิธีการหาคาตอบ 1. ประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่ในการหาข้อมูล
2. ค้นคว้าหาข้อมูล
แหล่งข้อมูล 1.http://kroohathaichon.wordpress.com
2. http://th.wikipedia.org/wiki/ภาษาซี
3. http://www.sorncomputer.com
4. http://www.webthaidd.com
5. http://iam.hunsa.com
การศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหา
ชื่อสมาชิก การแบ่งหน้าที่ แหล่งข้อมูล/อ้างอิง
นางสาวฐิติมาภรณ์ 1.ค้นคว้าประวัติภาษาซี http://th.wikipedia.org/wiki/ภาษาซี
สงวนพิมพ์
http://www.webthaidd.com
นางสาวเบญจรักษ์ 1. วิเคราะห์ปัญหา http://www.sorncomputer.com
กลองกระโทก
2.ค้นคว้าประวัติภาษาซี http://kropomprograming.wordpress.
com
3.พิมพ์ข้อมูล
นางสาวอุไรรัตน์ เจริญ 1.ค้นคว้าประวัติภาษาซี http://kroohathaichon.wordpress.co
รอย m
http://www.webthaidd.com
3. ตอนที่ 2 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหาตามภารกิจ
1. จากสถานการณ์ปัญหา ที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายถึงประวัติและ
จุดเด่นของภาษาซี (2 คะแนน)
ตอบ ประวัติของภาษาซี
ภาษาซีเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1972 โดย Dennis Ritchie แห่ง Bell Labs โดยภาษาซี
นั้นพัฒนามาจาก ภาษา B และจากภาษา BCPL ซึ่งในช่วงแรกนั้นภาษาซีถูกออกแบบให้
ใช้เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมในระบบ UNIX และเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นในปี ค.ศ.1978
เมื่อ Brain Kernighan ร่วมกับ Dennis Ritchie พัฒนามาตรฐานของภาษาซีขึ้นมา
คือ K&R (Kernighan & Ritchie) และทั้งสองยังได้แต่งหนังสือชื่อว่า “The C
Programming Language” โดยภาษาซีนั้นสามารถจะปรับใช้กบเครื่องคอมพิวเตอร์
ั
รูปแบบต่างๆได้ ต่อมาในช่วง ปี ค.ศ.1988 Ritchie และ Kernighan ได้ร่วมกับ ANSI
(American National Standards Institute) สร้างเป็นมาตรฐานของภาษาซีขึ้นมาใหม่มีชื่อ
ว่า “ANSI C” ภาษาซีนั้นจัดเป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมที่นยมใช้งาน ซึ่ง
ิ
ภาษาซีจัดเป็นภาษาระดับกลาง (Middle-Level Language) เหมาะกับการเขียนโปรแกรม
แบบโครงสร้าง (Structured Programming) โดยมีคุณสมบัติโดดเด่นอย่างหนึ่งคือ มี
ความยืดหยุ่นมาก กล่าวคือ สามารถทางานกับเครื่องมือต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนการ
เขียนโปรแกรมในรูปแบบต่างๆได้ เช่น สามารถเขียนโปรแกรมที่มีความยาวหลายบรรทัด
ให้เหลือความยาว 2-3 บรรทัดได้ โดยมีการผลการทางานที่เหมือนเดิม
จุดเด่นของภาษาซี
1. เป็นภาษาที่มีลักษณะเป็นโครงสร้างจึงเขียนโปรแกรมง่าย โปรแกรมที่เขียนขึ้นจะ
ทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง สั่งงานคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ
2. สั่งงานอุปกรณ์ในระบบคอมพิวเตอร์ได้เกือบทุกส่วนของฮาร์ดแวร์ซึ่งภาษาระดับสูง
ภาษาอื่นทางานดังกล่าวได้น้อยกว่า3. คอมไพเลอร์ภาษาซีทุกโปรแกรมในท้องตลาดจะ
ทางานอ้างอิงมาตรฐาน(ANSI= American National Standards Institute) เกือบทั้งหมด
จึงทาให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาซีสามารถนาไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ทุกรุ่นที่
มาตรฐาน ANSI รับรอง
4. 4. โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาซีสามารถนาไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียูต่าง
เบอร์กันได้ หรือกล่าวได้ว่าโปรแกรมมีความยืดหยุ่น (portabiliy) สูง
5. สามารถนาภาษาซีไปใช้ในการเขียนโปรแกรมประยุกต์ได้หลายระดับเช่น เขียน
โปรแกรมจัดระบบงาน(OS) คอมไพเลอร์ขอภาษาอื่น โปรแกรมสื่อสารข้อมูลโปรแกรมจัด
ฐานข้อมูล โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์(AI = Artificial Inteeligent) รวมทั้งโปรแกรม
คานวณงานทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น
6. มีโปรแกรมช่วย (tool box) ที่ช่วยในการเขียนโปรแกรมมาก และราคาไม่แพงหาซื้อได้
ง่าย เช่น vitamin c หรืออื่น ๆ7. สามารถประกาศข้อมูลได้หลายชนิดและหลายรูปแบบ
ทาให้สะดวกรวดเร็วต่อการพัฒนาโปรแกรมตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้8. ประยุกต์ใช้ในงาน
สื่อสารข้อมูล และงานควบคุมที่ต้องการความแม่นยาในเรื่องเวลา(real time
application) ได้ดีกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ หลาย ๆ ภาษา9. สามารถเขียนโปรแกรมด้วย
เทคนิคแบบโอโอพี (OOP = Object Oriented Programming) ได้หากใช้ภาษาซี
รุ่น TURBO C++ ขึ้นไป ทาให้สามารถพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เพื่อใช้งานได้กว้างขวาง
มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
2. กรณีที่นักเรียนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษา นักเรียนควรเริ่มต้นจากศึกษาตัวแปล
ภาษาคอมพิวเตอร์แบบคอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ก่อน แล้วจึงเลือกเป็นตัวแปล
ภาษา พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ (2 คะแนน)
ตอบ เลือกคอมไพเลอร์ เพราะ ทางานได้เร็ว เนื่องจากทาการแปลผลทีเดียว แล้วจึง
ทางานตามคาสั่งของโปรแกรมในภายหลัง
เมื่อทาการแปลผลแล้ว ในครั้งต่อไปไม่จาเป็นต้องทาการแปลผลใหม่อีก