Submit Search
Upload
Kingdom_Animalia.pdf
•
0 likes
•
202 views
S
SakesanPanjamawat
Follow
Animalia kingdom
Read less
Read more
Science
Report
Share
Report
Share
1 of 113
Download now
Download to read offline
Recommended
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจ
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
Kingdom plantae
Kingdom plantae
Thanyamon Chat.
plantae plant
อาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตา
พัน พัน
อาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตา
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
อาณาจักรมอเนอรา
อาณาจักรมอเนอรา
Pinutchaya Nakchumroon
รายวิชาชีววิทยา ม.6
Kingdom Animalia
Kingdom Animalia
Thanyamon Chat.
animal
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
Pinutchaya Nakchumroon
วิชา ชีววิทยา ม.4
อาณาจักรโพรติสตา Protista-kingdom
อาณาจักรโพรติสตา Protista-kingdom
Pl'nice Destiny
งานนนนนนนนนน
Recommended
อาณาจักรฟังไจ
อาณาจักรฟังไจ
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
Kingdom plantae
Kingdom plantae
Thanyamon Chat.
plantae plant
อาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตา
พัน พัน
อาณาจักรโพรติสตา
อาณาจักรโพรติสตา
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
อาณาจักรมอเนอรา
อาณาจักรมอเนอรา
Pinutchaya Nakchumroon
รายวิชาชีววิทยา ม.6
Kingdom Animalia
Kingdom Animalia
Thanyamon Chat.
animal
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
Pinutchaya Nakchumroon
วิชา ชีววิทยา ม.4
อาณาจักรโพรติสตา Protista-kingdom
อาณาจักรโพรติสตา Protista-kingdom
Pl'nice Destiny
งานนนนนนนนนน
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
dnavaroj
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
sirieiei
Animalia Kingdom
Kingdom fungi
Kingdom fungi
Thanyamon Chat.
fungi
Animal55
Animal55
Oui Nuchanart
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.5
translocation in plant
translocation in plant
Thanyamon Chat.
translocation in plant
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
Tatthep Deesukon
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
ใบ structure leaf
Kingdom protista
Kingdom protista
Thanyamon Chat.
protist
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
Kingdom monera
Kingdom monera
Thanyamon Chat.
bacteria monera
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
athiwatpc
เพื่อการศึกษา
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
orasa1971
เนื้อหาหลัก เคมี เล่ม 5
โครโมโซม
โครโมโซม
Wan Ngamwongwan
ยีนและโครโมโซม ชีววิทยาบทที่ 16
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Thanyamon Chat.
evolution
Kingdom animal
Kingdom animal
พัน พัน
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
plant tissue
Polymer : พอลิเมอร์
Polymer : พอลิเมอร์
Dr.Woravith Chansuvarn
แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับพอลิเมอร์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ ปรับปรุงล่าสุด : 21 มิถุนายน 2563 ----------------------------------------- https://www.facebook.com/ChemoGraphics
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
เข็มชาติ วรนุช
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Taxonomy test
Taxonomy test
Nattapong Boonpong
แนวข้อสอบ เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ
More Related Content
What's hot
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
dnavaroj
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
sirieiei
Animalia Kingdom
Kingdom fungi
Kingdom fungi
Thanyamon Chat.
fungi
Animal55
Animal55
Oui Nuchanart
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.5
translocation in plant
translocation in plant
Thanyamon Chat.
translocation in plant
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
Tatthep Deesukon
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
ใบ structure leaf
Kingdom protista
Kingdom protista
Thanyamon Chat.
protist
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
Pinutchaya Nakchumroon
ชีววิทยา ม.6
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
Kingdom monera
Kingdom monera
Thanyamon Chat.
bacteria monera
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
athiwatpc
เพื่อการศึกษา
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
orasa1971
เนื้อหาหลัก เคมี เล่ม 5
โครโมโซม
โครโมโซม
Wan Ngamwongwan
ยีนและโครโมโซม ชีววิทยาบทที่ 16
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Thanyamon Chat.
evolution
Kingdom animal
Kingdom animal
พัน พัน
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
plant tissue
Polymer : พอลิเมอร์
Polymer : พอลิเมอร์
Dr.Woravith Chansuvarn
แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับพอลิเมอร์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ ปรับปรุงล่าสุด : 21 มิถุนายน 2563 ----------------------------------------- https://www.facebook.com/ChemoGraphics
What's hot
(20)
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืช
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
Kingdom fungi
Kingdom fungi
Animal55
Animal55
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
translocation in plant
translocation in plant
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม4
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Kingdom protista
Kingdom protista
อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
Kingdom monera
Kingdom monera
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
ไฟลัมแพลทิเฮลมินทีส
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
โครโมโซม
โครโมโซม
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Evolution แก้ไขล่าสุดนักเรียน
Kingdom animal
Kingdom animal
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Polymer : พอลิเมอร์
Polymer : พอลิเมอร์
Similar to Kingdom_Animalia.pdf
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
เข็มชาติ วรนุช
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Taxonomy test
Taxonomy test
Nattapong Boonpong
แนวข้อสอบ เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ
1 repro
1 repro
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Supaluk Juntap
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยเดียวกันหรือแตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันจะมีความแตกต่างกันในด้านชนิดและจำนวน หรือทางสายพันธุกรรม
ระบบสืบพันธุ์ สอน
ระบบสืบพันธุ์ สอน
nokbiology
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
feeonameray
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
yangclang22
1
1
pang_patpp
พันธุกรรม
พันธุกรรม
wijitcom
บทที่-5-การสืบพันธุ์.ppt
บทที่-5-การสืบพันธุ์.ppt
rathachokharaluya
การสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (Reproduction) การสืบพันธุ์ (Reproduction) หมายถึง ขบวนการในการผลิต หรือเกิดหน่วยสิ่งมีชีวิตใหม่ที่เหมือนตนเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิต ที่จะดำรงค์พันธุ์หรือสปีชีส์ (species) ให้คงอยู่ในโลกสืบต่อไปไม่ให้สูญพันธุ์ ความสำคัญของการสืบพันธุ์ 1. การสืบพันธุ์ เป็นขบวนการที่สำคัญที่สุดในการสร้างหน่วยสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนหน่วยสิ่งมีชีวิตเดิมที่ตายและดับสูญไป ทำให้สิ่งมีชีวิตดำรงพันธุ์สืบต่อเนื่องกันไปเป็นระยะอันยาวนาน เช่น บรรพบุรุษของมนุษย์ กำเนิดเมื่อ 2-5 ล้านปี มาแล้ว หรือพืชเกิดขึ้นในโลกเมื่อ 200 กว่าล้านปีมาแล้ว ก็เนื่องมาจากสมบัติที่สำคัญ คือ การสืบพันธุ์ ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตเจริญสืบเนื่องกันมาถึงปัจจุบัน 2. การสืบพันธุ์ โดยเฉพาะแบบอาศัยเพศ ทำให้เกิดความแตกต่างแปรผันของลักษณะภายในสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน (variation) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญยิ่งในกระบวนการปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและก่อให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2
Coverslide Bio
Kingdom animal
Kingdom animal
กฤศอนันต์ ชาญเชี่ยว
สื่อการสอน Kingdom animal
อาณาจักรสิ่งมีชีวิต
อาณาจักรสิ่งมีชีวิต
กมลรัตน์ ฉิมพาลี
แผนผังมโนทัศน์ ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ของลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแต่ละอาณาจักร
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
supreechafkk
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
krunidhswk
Kingdom fungi
Kingdom fungi
Tanchanok Pps
Protista5555
Protista5555
Oui Nuchanart
Manybio
Manybio
krudararad
Animal55
Animal55
Oui Nuchanart
สัตว์
แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1
ฟลุ๊ค ลำพูน
Similar to Kingdom_Animalia.pdf
(20)
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Taxonomy test
Taxonomy test
1 repro
1 repro
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ระบบสืบพันธุ์ สอน
ระบบสืบพันธุ์ สอน
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
1
1
พันธุกรรม
พันธุกรรม
บทที่-5-การสืบพันธุ์.ppt
บทที่-5-การสืบพันธุ์.ppt
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2
Kingdom animal
Kingdom animal
อาณาจักรสิ่งมีชีวิต
อาณาจักรสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
Kingdom fungi
Kingdom fungi
Protista5555
Protista5555
Manybio
Manybio
Animal55
Animal55
แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1
Kingdom_Animalia.pdf
1.
อาณาจักรสัตว (Kingdom Animalia)
2.
Kingdom Animalia มีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษพวกแฟลกเจลเลต
3.
Kingdom Animalia ลิ่นทะเล เปนสัตวโบราณที่ยังมีชีวิตอยู
4.
Kingdom Animalia เปนสิ่งมีชีวิตกลุมยูคาริโอตที่มีหลายเซลล ไมมีผนังเซลล
เซลลจัดเรียงตัว กันเปนเนื้อเยื่อ เปนพวก heterotroph ไมสามารถสรางอาหารเองได มีการพัฒนาของเซลลกลามเนื้อและเซลลประสาทเพื่อตอบสนอง ตอสิ่งเราและการเคลื่อนไหว มีการสืบพันธุทั้งแบบอาศัยเพศ และไมอาศัยเพศ เชน การแตกหนอ (budding) การงอกใหม (regeneration) การแบงเปนสอง (binary fission)
5.
เกณฑในการจัดจําแนกสัตว 1. เนื้อเยื่อ (tissue)
แบงออกเปน 2 กลุม คือ กลุมที่มีเนื้อเยื่อแทจริง (eumatazoa) ซึ่งเปนลักษณะของสัตวสวนใหญ กลุมที่มีเนื้อเยื่อไมแทจริง (parazoa) ไดแก ฟองน้ํา 2. ลักษณะสมมาตร (symmetry) แบงออกเปน 2 ประเภท คือ สมมาตรดานขางหรือสมมาตรแบบครึ่งซีก (bilateral symmetry) สมมาตรแบบรัศมี (radial symmetry)
6.
เกณฑในการจัดจําแนกสัตว 3. การเปลี่ยนแปลงของบลาสโทพอร พบเฉพาะสัตวที่มีสมมาตรดานขาง
มี 2 แบบ คือ แบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) : บลาสโทพอรเปลี่ยนเปนทวารหนัก แบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) : บลาสโทพอรเปลี่ยนเปนชองปาก
7.
เกณฑในการจัดจําแนกสัตว 4. การเจริญในระยะตัวออน พบในสัตวที่มีชองปากแบบโพรโทสโทเมีย
แบงเปน 2 กลุม คือ กลุมที่มีระยะตัวออนแบบเอ็กไดโซซัว (ecdysozoa) กลุมที่มีระยะตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) พบในหนอนตัวแบน ไสเดือนดิน ปลิง หอย หมึก มีการลอกคราบในการเจริญเติบโต พบในหนอนตัวกลมและอารโทพอด
8.
เกณฑในการจัดจําแนกสัตว 5. โพรงลําตัว (coelom)
แบงออกเปน 3 แบบ คือ Pseudocoelomate : มีโพรงลําตัวแทรกอยู ระหวางชั้น mesoderm และ endoderm เชน สัตวใน Phylum Nematoda Acoelomate : ไมพบโพรงลําตัว เชน สัตวใน Phylum Platyhelminthes Coelomate : มีโพรงลําตัวแทรกอยูใน ชั้น mesoderm เปนสัตวกลุมที่มีโพรงลําตัวแทจริง
9.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
10.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
11.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) มีโครงสรางรางกายไมซับซอน
ไมมีเนื้อเยื่อที่แทจริง ฟองน้ําสวนใหญมักไมมีสมมาตร (asymmetry) ตัวเต็มวัยมักเกาะอยูกับที่ (sessile animal) สามารถรับรูและตอบสนอง ตอการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลอมได Porifera มาจากภาษาละติน (porudus + ferre = pore + bearing) หมายถึงสัตวที่มีรูพรุน “ฟองน้ํา (sponges)”
12.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) รูเปดเล็ก
ๆ ขางลําตัวเรียกวา ออสเทีย (Ostia) ทําหนาที่เปนทางน้ําไหลเขาสูลําตัวฟองน้ํา สวนรูเปดดานบนลําตัว เรียกวา ออสคิวลัม (Osculum) ทําหนาที่เปนทางน้ําออก ไมมีระบบหมุนเวียน ระบบหายใจ ระบบขับถาย และระบบประสาท อาศัยการไหลเวียนน้ําเปน ตัวการสําคัญในกระบวนการเหลานี้
13.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera)
14.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) การสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศ โดยการหักออกเปนชิ้น
(fragmentation) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ : ฟองน้ํามี 2 เพศในตัวเดียวกัน (hermaphrodite)
15.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) ฟองน้ํามีโครงรางแข็งค้ําจุนรางกาย
เรียกวา spicule ซึ่งเปนสารประกอบ ประเภทหินปูนหรือซิลิกา บางชนิดมีเสนใยพิเศษเรียกวา spongin fiber spicule spongin
16.
ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) ฟองน้ําแกว
ฟองน้ําหินปูน ฟองน้ําถูตัว
17.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
18.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) สัตวในกลุมนี้บางชนิดอาศัยในน้ําเค็ม ไฮดรา
แมงกะพรุน ดอกไมทะเล ปะการัง กัลปงหา ไฮดรา แมงกะพรุน มีเนื้อเยื่อ 2 ชั้น คือชั้น ectoderm และชั้น endoderm พัฒนาไปเปนเยื่อบุผิวลําตัว (epidermis) มีสมมาตรแบบรัศมี (radial symmetry) บางชนิดอาศัยในน้ําจืด พัฒนาไปเปนเยื่อบุทางเดินอาหาร (gastrodermis)
19.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) มีรูปราง
2 แบบ คือ แบบที่คลายกับทรงกระบอกหรือตนไม เรียกวา โพลิบ (polyp) แบบที่คลายรูประฆังคว่ํา เรียกวา เมดูซา (medusa)
20.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) มีทางเดินอาหารไมสมบูรณ
มีชองเปดจากลําตัวชองเดียว มีการลาเหยื่อโดยใชเทนทาเคิล (tentacle) ที่เรียงอยูรอบชองปาก โดยที่เทนทาเคิลจะมีไนโดไซต (cnidocyte) เมื่อมีเหยื่อมาสัมผัส ไนโดไซตจะปลดปลอยเข็มพิษ (nematocyst) ใชเพื่อจับเหยื่อหรือ ปองกันตัว
21.
22.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) อาหารจะผานไปยังทอทางเดินอาหาร (gastrovascular
cavity) เซลลเยื่อบุ ทอทางเดินอาหาร จะหลั่งเอนไซม ออกมายอยอาหาร
23.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) มีการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศโดยการแตกหนอ
(budding) หรือการแบง ออกเปนสวน (fission) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ มีทั้งกลุมที่มีสองเพศในตัวเดียวกัน และกลุมที่ แยกเพศ โดยมีการปฏิสนธิภายนอก (external fertilization)
24.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria)
25.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) แมงกะพรุน
26.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) ไฮดรา
27.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) ปะการัง
28.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) ดอกไมทะเล
(sea anemone)
29.
ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) กัลปงหา
30.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
31.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) สิ่งมีชีวิตในไฟลัมนี้เรียกรวมกันวา
“หนอนตัวแบน (flat worm)” มีขนาดแตกตางกัน มีทั้งที่ไมสามารถมองเห็นดวยตาเปลาและสามารถมองเห็น ไดดวยตาเปลา มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น และเปนสัตวกลุมที่ไมมีโพรงลําตัว (acoemate)
32.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) มีทางเดินอาหารไมสมบูรณ
ทางเดินอาหารมีการแตกแขนงเพื่อใหสามารถ ลําเลียงอาหารไปยังเซลลแตละเซลลได ในพยาธิตัวตืดจะไมมีทางเดินอาหารแตจะใชกระบวนการแพรของสารอาหาร ที่ยอยแลวเขาสูรางกาย
33.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) เริ่มมีการพัฒนาระบบประสาท
โดยมีการรวมกลุมของเซลลประสาทบริเวณ หัว (cerebral ganglion) และมีเสนประสาทเรียงมาสองเสนทางดานทอง เรียกวา longitudinal nerve cord และมีเสนประสาทเรียงเปนวงรอบ เสนประสาททางดานทองทั้งสองเสน เรียกวา transverse nerve
34.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) มีการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศโดยการงอกใหม
(regeneration)
35.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ
โดยหนอนตัวแบนจะมีสองเพศในตัวเดียวกัน (hermaphrodite) แตจะตองมีการปฏิสนธิขามตัว (cross fertilization) ยกเวนในพยาธิตัวตืดที่มีการปฏิสนธิในตัวเดียวกันได (self-fertilization) หนอนตัวแบนบางชนิดดํารงชีวิตแบบอิสระ เชน พลานาเรีย
36.
ไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Phylum Platyhelminthes) สวนใหญดํารงชีวิตเปนปรสิต พยาธิใบไม
(Fluke worm) พยาธิใบไมในตับคน (Clonorchis sinesis) พยาธิตัวตืด (Tapeworm) พยาธิใบไมในเลือด (Schistosoma sp.) พยาธิตืดหมู (Taenia solium)
37.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) สัตวในกลุมนี้ไดแก
ลิ่นทะเล หอยฝาเดียว หอยสองฝา หอยงาชาง หอยงวงชาง ทากเปลือย หมึกชนิดตาง ๆ ลิ่นทะเล หอยทาก หอยเชอรี่
38.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) สัตวในกลุมนี้ไดแก
ลิ่นทะเล หอยฝาเดียว หอยสองฝา หอยงาชาง หอยงวงชาง ทากเปลือย หมึกชนิดตาง ๆ หอยนางรม หอยแครง หอยกาบ
39.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) สัตวในกลุมนี้ไดแก
ลิ่นทะเล หอยฝาเดียว หอยสองฝา หอยงาชาง หอยงวงชาง ทากเปลือย หมึกชนิดตาง ๆ หอยงาชาง หอยงวงชาง ทากเปลือยหรือทากทะเล
40.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) สัตวในกลุมนี้ไดแก
ลิ่นทะเล หอยฝาเดียว หอยสองฝา หอยงาชาง หอยงวงชาง ทากเปลือย หมึกชนิดตาง ๆ หมึกกลวย หมึกยักษ หมึกกระดอง
41.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) มีสมมาตรดานขาง
(bilateral symmetry) มีโพรงลําตัวแบบแทจริง (coelomate) มีรูปแบบการเจริญเติบโตแบบ protostome ตัวออนเปนแบบ trochophore larva
42.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) เปนสัตวที่มีลําตัวนิ่มแตสามารถสรางเปลือกแข็งที่มีสารประกอบแคลเซียม คารบอเนตมาหอหุมลําตัว มีแมนเทิล
(mantle) ทําหนาที่สรางเปลือกหุมลําตัว อวัยวะภายในที่มักอยูรวมกัน เรียกวา visceral mass
43.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) Mantle พวกหมึกตาง
ๆ เปลือกจะลดรูปเปน โครงรางแข็งที่อยูภายใน เชน แกนใสของ หมึกกลวย แตหมึกยักษจะไมพบโครงรางแข็ง
44.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) มีการไหลเวียนของน้ําเพื่อแลกเปลี่ยนแกสโดยใชเหงือก สวนใหญเปนระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปด
(open circulatory system) ยกเวนพวกหมึกที่จะมีระบบหมุนเวียนเลือดแบบปด (closed circulatory system)
45.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) มีการสืบพันธุแบบอาศัยเพศเปนหลัก
สวนใหญมีเพศแยกออกจากกัน มีการดํารงชีวิตหลายแบบ บางชนิดกินพืช เชน หอยเชอรี่กัดกินตนขาว บางชนิดกินสัตว เชน หมึกผูลาสัตวอื่น และบางชนิดกินทั้งพืช สัตว และ แพลงกตอน เชน หอยสองฝา หอยน้ําจืดหลายชนิด เชน หอยโขง หอยขม เปนพาหะนําพยาธิมาสูคน
46.
ไฟลัมมอลลัสคา (Phylum Mollusca) หอยบางชนิดอาจทําอันตรายแกมนุษยได
เชน หอยเตาปูน มีโครงสราง เปลี่ยนแปลงไป มีลักษณะคลายเข็มและมีถุงน้ําพิษ ทําใหคนถูกพิษเปนอัมพาต
47.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) สัตวในไฟลัมนี้อาศัยอยูในทะเล
น้ําจืด และบนพื้นดินบริเวณที่ชื้นแฉะ แมเพรียง ไสเดือนดิน ปลิงน้ําจืด ทากดูดเลือด
48.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) มีสมมาตรดานขาง
และมีรูปแบบการเจริญเติบโตแบบ protostome สัตวในกลุมนี้มีขอปลองชัดเจน ภายในมีเยื่อกั้น (septum) ตัวออนเปนแบบ trochophore larva สวนใหญจะมีขนหรือเดือย (setae) ซึ่งชวยในการเคลื่อนที่ setae
49.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) มีทอทางเดินอาหารแบบสมบูรณ
โดยในกลุมไสเดือนดินจะมีกึ๋น (gizzard) และกระเพาะ พักอาหาร (crop) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยอยอาหาร มีระบบหมุนเวียนเลือดแบบปด แตละชนิดมีการแลกเปลี่ยนแกสแตกตางกันขึ้นอยูกับ บริเวณที่อาศัยอยู มีการขับถายโดยใชเมตาเนฟริเดีย (metanephridia) สวนใหญมีการสืบพันธุแบบอาศัยเพศ โดยไสเดือนทะเลเปนสัตวที่มีการแยกเพศ และปฏิสนธิภายนอก สวนไสเดือนดินและทากดูดเลือดจะมีสองเพศในตัวเดียวกัน (hermaphrodite) และมีการปฏิสนธิภายในรางกาย
50.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)
51.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) มีปมประสาทบริเวณหัวหรือสมอง
(cerebral ganglion or brain) มีเสนประสาททางดานทอง (ventral nerve cord) และแตละ ปลองมีปมประสาท (segmental ganglia) กลามเนื้อมี 2 ชุด คือ • กลามเนื้อวง (circular muscle) • กลามเนื้อตามยาว (longitudinal muscle)
52.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) ปลิงและทากเปนสัตวที่ดํารงชีวิตเปนปรสิตชั่วคราว
โดยการดูดเลือดของสัตวอื่น เมื่อใชเขี้ยวกัดผิวหนังโฮสต ปลิงและทากจะปลอยสารคลายยาชาทําใหไมรูสึกเจ็บ และปลอยสารฮิรูดิน (Hirudin) เพื่อปองกันไมใหเลือดของโฮสตแข็งตัว
53.
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)
54.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
55.
ไฟลัมนีมาโทดา (Phylum Nematoda) เปนสัตวที่พบอยูทั่วไปในน้ําจืด
น้ําเค็มและพื้นดินชื้นแฉะ สวนใหญดํารงชีวิตแบบอิสระ เชน ไสเดือนฝอย บางชนิดดํารงชีวิตเปนปรสิต เชน พยาธิไสเดือน พยาธิปากขอ พยาธิเสนดาย
56.
ไฟลัมนีมาโทดา (Phylum Nematoda) มีลําตัวรูปทรงกระบอก
ไมมีปลองบริเวณลําตัว จึงเรียกสัตวกลุมนี้วา “หนอนตัวกลม (round worm)” มีชั้นคิวทิเคิล (cuticle) หอหุมรางกายเพื่อปองกันการสูญเสียน้ํา และทําให มีการลอกคราบระหวางการเจริญเติบโต
57.
ไฟลัมนีมาโทดา (Phylum Nematoda) มีทางเดินอาหารสมบูรณ ไมมีระบบหมุนเวียนเลือด ลําเลียงสารอาหารโดยของเหลวภายในชองลําตัวเทียม
(pseudocoelom) พบเฉพาะกลามเนื้อตามยาว (longitudinal muscle)
58.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) เปนสัตวที่พบจํานวนมาก
จําแนกไดมากกวาลานสปชีส สวนใหญเปน “แมลง” มีลําตัวเปนปลอง รยางคเปนขอ ๆ ตอกัน รยางคเปนลักษณะพิเศษปรับเปลี่ยนใหทําหนาที่ไดหลายอยาง เดิน จับอาหาร รับความรูสึก ผสมพันธุ ปองกันอันตราย
59.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) มีโครงรางเปนเปลือกแข็งภายนอกประกอบไปดวยสาร
chitin มีการลอกคราบจากระยะตัวออนเปนตัวเต็มวัย มีระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัสที่เจริญ มีศูนยรวมระบบประสาทอยูที่หัว
60.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) มีระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปด
(open circulatory system) กลุมที่อยูในน้ําจะมีการแลกเปลี่ยนแกสผานเหงือก (gill) สวนกลุมที่อยูบนบก จะมีการแลกเปลี่ยนแกสผานทางทอลม (tracheal tube) หรืออวัยวะที่มี ลักษณะคลายปอด กลุมที่อยูบนบกขับถายผานทาง Mulpighian tubule สวนกลุมที่อยูในน้ํา ขับถายผาน green gland
61.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) มีการสืบพันธุแบบอาศัยเพศที่มีเพศแยก
และมีการปฏิสนธิภายในรางกาย เมื่อเกิดการปฏิสนธิแลวตัวออนมักมีการเจริญเติบโตแบบเมทามอรโฟซิส (metamorphosis)
62.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) คลาสเมอโรสโตมาตา
(Class Merostomata) “แมงดาทะเล (horseshoe crabs)” ปจจุบันเหลือเพียง 3 จีนัส 4 สปชีส ลําตัวแบงออกเปน 2 สวน หัว+อก (cephalothorax) ทอง (abdomen) สวนหัวและอกรวมกัน (cephalothorax) สวนทอง (abdomen) มีรยางคคูแรกชวยในการกินอาหาร มีขาเดิน 5 คู
63.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) ในประเทศไทยพบ
2 สปชีส แมงดาหางเหลี่ยมหรือแมงดาจาน แมงดาหางกลมหรือแมงดาถวย
64.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) แมงปอง
แมงมุม เห็บ ไร คลาสอะแรคนิดา (Class Arachnida)
65.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) มีสวนหัวและอกรวมกัน
(cephalothorax) มีรยางค 6 คู คู 1 และ 2 จับ อาหารและรับสัมผัส ขาเดิน 4 คู
66.
“แมงมุม”
67.
“แมงปอง”
68.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) กิ้งกือ
(millipede) ตะเข็บ คลาสไดโพลโพดา (Class Diplopoda) ลําตัวมีปลองจํานวนมาก มีรยางคปลองละ 2 คู บริเวณหัวมีหนวด 1 คู
69.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) คลาสชิโลโพดา
(Class Chilopoda) ตะขาบ (centipede) ลําตัวแบน มีรยางคปลองละ 1 คู บริเวณหัวมีหนวด 1 คู ปลองแรกของลําตัว มีเขี้ยวพิษ 1 คูแนบกับสวนหัว
70.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) คลาสอินเซ็คตา
(Class Insecta) แมลงชนิดตาง ๆ มีลําตัว 3 สวน คือ สวนหัว (head) สวนอก (thorax) และสวนทอง (abdomen) มีขา 3 คู อยูบริเวณอก มีปก 1-2 คู มีหนวด 1 คู
71.
แมลงมีทางเดินอาหาร 3 สวน
คือ สวนตน (foregut) สวนกลาง (midgut) และสวนทาย (hindgut) สรางเอนไซมยอย อาหารและชวยดูดซึม สารอาหาร ขับถายของเสีย
72.
การกําจัดแมลงที่เปนศัตรูพืช ตัวเบียน (parasite) ตัวห้ํา
(predator) แมลงที่เบียดเบียนเหยื่อ จนกระทั่งเหยื่อตาย การเปนตัวเบียนจะเปนเฉพาะชวงตัวออนเทานั้น แมลงที่กินแมลงชนิดอื่น ๆ เปนอาหาร ทําลายเหยื่อไดทุกระยะในวัฏจักรชีวิต
73.
การกําจัดแมลงที่เปนศัตรูพืช เชื้อโรค (insect pathogens) เชน
เชื้อรา แบคทีเรีย ที่ทําใหแมลงตายได
74.
ไฟลัมอารโทรโพดา (Phylum Arthropoda) คลาสครัสตาเชีย
(Class Crustacea) กุง กั้ง ปู ไรน้ํา
75.
คลาสครัสตาเชีย (Class Crustacea) มีรยางคจํานวนมากทําหนาที่พิเศษหลายอยาง มีหนวด
2 คู รยางคสวนอก รยางคสวนทอง ขับถายผานทาง green gland
76.
บรรพบุรุษของสัตว ไมมีเนื้อเยื่อแทจริง สมมาตรตามรัศมี (radial symmetry) ตัวออนมีการลอกคราบ (ecdysozoa) นีมาโทดา (Nematoda) มีเนื้อเยื่อแทจริง พอริเฟอรา (Porifera) ไนดาเรีย (Cnidaria) สมมาตรดานขาง (bilateral symmetry) ชองปากแบบโพรโทสโทเมีย (protostomia) ชองปากแบบดิวเทอโรสโทเมีย (deuterostomia) ตัวออนแบบโทรโคฟอร (trochophore) อารโทรโพดา (Arthropoda) แพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes) มอลลัสคา (Mollusca) แอนเนลิดา (Annelida) เอไคโนเดอรมาตา (Echinodermata) คอรดาตา (Chordata)
77.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) ดาวทะเล
ปลิงทะเล พลับพลึงทะเล ดาวขนนก ดาวมงกุฎหนาม
78.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata)
79.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) พบในทะเลทั้งหมด
เปนสัตวที่มีโครงรางแข็ง ผิวชั้นนอกบางเปนชั้นคิวทิน ผิวชั้นนอกบางเปนชั้นคิวทิน ผิวชั้นในผนังหนาประกอบไปดวยแผน แคลเซียมคารบอเนตหุมโครงรางแข็ง
80.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) สวนใหญลําตัวเปนแฉก
บางชนิดผิวลําตัวมีหนามยื่นออกมา
81.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) มีระบบน้ํา
ซึ่งมีความสําคัญ เกี่ยวของกับการเคลื่อนที่ การลําเลียงสารอาหารและ ของเสียไปยังสวนตาง ๆ ของรางกาย มีการแลกเปลี่ยนแกสผานเหงือก ที่อยูบริเวณผิว (dermal papillae)
82.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) Tube
feet โครงสรางที่ใชในการเคลื่อนที่
83.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) การสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศโดยการงอกใหม
(regeneration)
84.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศสวนใหญมีการแยกเพศและปฏิสนธิภายนอก รางกาย ตัวเต็มวัยมีสมมาตรแบบรัศมี เปลี่ยนแปลงรูปราง ตัวออนมีสมมาตรดานขาง
85.
ไฟลัมเอไคโนเดอรมาตา (Phylum Echinodermata)
86.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) ลักษณะสําคัญที่พบในวัฏจักรชีวิตในระยะเอ็มบริโอ
มีดังนี้ 1. การมีโนโตคอรด (notochord) ลักษณะเปนแทงยาวตลอดความยาวของลําตัว มีความยืดหยุนตัวดี อยูระหวางทางเดินอาหาร และทอประสาท เปนลักษณะที่พบในระยะ เอ็มบริโอของสัตวในไฟลัมคอรดาตาทุกชนิด และในบางชนิดยังพบในระยะตัวเต็มวัย เชน แอมฟออกซัส (amphioxus) และปลาปากกลม
87.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) ลักษณะสําคัญที่พบในวัฏจักรชีวิตในระยะเอ็มบริโอ
มีดังนี้ 2. การมีเสนประสาทกลวงดานหลัง (dorsal hollow nerve cord) เสนประสาทกลวงดานหลังเจริญมาจาก เนื้อเยื่อชั้น ectoderm พบบริเวณดานหลัง เหนือโนโตคอรดในระยะเอ็มบริโอ ซึ่งจะ พัฒนาตอไปเปนสมองและไขสันหลังใน ระยะตัวเต็มวัย
88.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) ลักษณะสําคัญที่พบในวัฏจักรชีวิตในระยะเอ็มบริโอ
มีดังนี้ 3. การมีชองเหงือกอยูบริเวณคอหอย (pharyngeal slit) โดยอยูเปนคู ๆ ทําหนาที่กรองน้ําที่ไหลผานเขามา และมีการปรับเปลี่ยนไปทําหนาที่อื่น ๆ ในระยะตัวเต็ม วัย เชน เปนทอยูสเตเชียน ตอมทอนซิล ตอมไทรอยด และพาราไทรอยดในคน แตในสัตวบางชนิด เชน ฉลาม กระเบน จะยังมีชองเหงือกอยูตลอดชีวิต
89.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) ลักษณะสําคัญที่พบในวัฏจักรชีวิตในระยะเอ็มบริโอ
มีดังนี้ 4. การมีหาง (Postanal tail) เปนสวนที่อยูถัดจากทวารหนักบริเวณดาน ทายลําตัว โดยมีองคประกอบเปนกลามเนื้อ สวนของหางอาจลดรูปไปเหลือเพียงกระดูก ขนาดเล็ก เชน กระดูกกนกบของมนุษย
90.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) ลักษณะสําคัญที่พบในวัฏจักรชีวิตในระยะเอ็มบริโอ
มีดังนี้ 5. การมี endostyle ทําหนาที่ในการสะสมไอโอดีน
91.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) สัตวในไฟลัมคอรดาตาแบงออกเปน
2 กลุม คือ สัตวที่ไมมีกระดูกสันหลังและสัตวที่มีกระดูกสันหลัง สัตวในไฟลัมคอรดาตาที่ไมมีกระดูกสันหลัง เปนสัตวที่มีถุงหุมลําตัว ประกอบดวยสารคลายเซลลูโลส ตัวเต็มวัยไมมีโนโทคอรด ไมมีเสน ใยประสาทขนาดใหญ บริเวณหลัง และหางจะหดหายไปในระยะตัว เต็มวัย เชน เพรียงหัวหอม : ไมมีโครงสรางแข็งค้ําจุนภายในรางกาย ยูโรคอรเดต (Urochordate) โครงสรางตัวเต็มวัย โครงสรางตัวออน
92.
ไฟลัมคอรดาตา (Phylum Chordata) เปนสัตวที่ระยะตัวเต็มวัยมีทอประสาทขนาดใหญที่บริเวณหลัง มีโนโทคอรดยาวตลอดลําตัวและมีตลอดชีวิต
มีชองเหงือกและหาง ไดแก แอมฟออกซัส (Amphioxus) ซึ่งมีขนาดเล็กอยูในน้ําตื้นชายฝงทะเล เซฟาโลคอรเดต (Cephalochordate) สัตวในไฟลัมคอรดาตาที่ไมมีกระดูกสันหลัง
93.
ไดแก ปลาไมมีขากรรไกร สวนใหญจะสูญพันธุไปแลว
ที่พบในปจจุบัน คือปลาปากกลม ไดแก แฮกฟช (hagfish) เปนปรสิตภายนอกของปลาหลายชนิด และแลมเพรย (lamprey) มีรูปรางคลายปลาไหล มีโครงรางเปนกระดูกออนและไมมีครีบคูเหมือนปลาทั่วไป สัตวในไฟลัมคอรดาตาที่มีกระดูกสันหลัง (vertebrate) แบงเปน 2 กลุม คือ สัตวมีกระดูกสันหลังที่ไมมีขากรรไกรและสัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร สัตวมีกระดูกสันหลังที่ไมมีขากรรไกร hagfish lamprey
94.
มีขากรรไกรและครีบคูที่เจริญดี เชน ฉลาม
กระเบน สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร กําเนิดขึ้นเมื่อประมาณ450-425 ลานปที่ผานมา ปลายยุคซิลูเรียนและตนยุคดีโวเนียน ปลามีขากรรไกรที่พบในปจจุบันมี 2 กลุม คือ ปลากระดูกออนและปลากระดูกแข็ง คลาสคอนดริคไทอิส (Class Chondrichthyes) เรียกสัตวคลาสนี้วา “ปลากระดูกออน” มีโครงรางเปนกระดูกออนที่ยืดหยุนตัวดี แลกเปลี่ยนกาซโดยใชเหงือกภายนอก มีการปฏิสนธิภายในและออกลูกเปนตัว มีเกล็ดคมปกคลุมผิวหนัง
95.
สวนใหญมีการปฏิสนธิภายนอก คลาสออสติอิคไทอิส (Class Osteicthyes) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร เรียกสัตวคลาสนี้วา
“ปลากระดูกแข็ง” พบดํารงชีวิตทั้งในน้ําจืดและน้ําเค็ม มีโครงรางภายในเปนกระดูกแข็งที่มีสารประกอบแคลเซียมฟอสเฟต สวนใหญผิวหนังมีเกล็ดปกคลุม มีครีบคู 2 คู คือ ครีบอกและครีบสะโพก หายใจโดยใชเหงือกโดยมีแผนปดเหงือก (operculum) มีถุงลม (air bladder) ชวยควบคุมการลอยตัวในน้ํา
96.
ปลากระดูกแข็งสวนใหญในปจจุบันดํารงชีวิตในน้ํา โดยอาศัยแกสออกซิเจนที่ละลายในน้ํา แตมีปลา กระดูกแข็ง
2 กลุมคือ ปลาที่มีครีบเนื้อและปลาปอด ที่สามารถหายใจจากอากาศไดในชวงเวลาสั้นๆ ปลาทั้ง 2 นี้เปนที่สนับสนุนการเกิดวิวัฒนาการเพื่อมาดํารงชีวิตบนพื้นดิน โดยพัฒนาถุงลมมาเปนปอด และครีบอกพัฒนาเปนขาในสัตวบก คลาสออสติอิคไทอิส (Class Osteicthyes) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร ปลาปอด ปลาที่มีครีบเนื้อ (ปลา coelacanth)
97.
ตัวออนอาศัยอยูในน้ําและหายใจดวยเหงือกภายนอก เมื่อเจริญเปนตัวเต็มวัยจะดํารงชีวิตบนบกและใชปอดหายใจ ยกเวนซาลามานเดอรบางชนิดที่อาศัยอยูในน้ําตลอดชีวิต คลาสแอมฟเบีย (Class Amphibia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร เรียกสัตวในคลาสนี้วา
“สัตวสะเทินน้ําสะเทินบก (amphibain)” แบงเปน 3 กลุม คือ กลุมซาลามานเดอร กลุมกบ และกลุมงูดิน เปนสัตวเลือดเย็นมีผิวหนังเปยกชื้นทําหนาที่แลกเปลี่ยนแกส ไมมีเกล็ดปกคลุม มีการปฏิสนธิภายนอก
98.
คลาสแอมฟเบีย (Class Amphibia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร
99.
มีการปฎิสนธิภายในรางกายเพศเมีย แลวสรางเปลือกมาหอหุมไขและวางไขภายนอก คลาสเรปทิเลีย (Class
Reptilia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร เรียกสัตวในคลาสนี้วา “สัตวเลื้อยคลาน (reptile)” เปนสัตวมีกระดูกสันหลังกลุมแรกที่ดํารงชีวิตบนบกอยางแทจริง มีผิวหนังที่ปกคลุมดวยเคราติน (keratin) มีการหายใจโดยใชปอด
100.
คลาสเอเวส (Class Aves) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร เรียกสัตวในคลาสนี้วา
“สัตวปก” มีวิวัฒนาการมาจากสัตวเลื้อยคลาน ในชวงมหายุคมีโซโซอิก โดยพบซากดึกดําบรรพของ อารคีออพเทริกซ (Archaeopteryx) แตวามีขนเหมือนขนนก อารคีออพเทริกซมีบรรพบุรุษรวมกัน กับนกในปจจุบัน ลักษณะเหมือนสัตวเลื้อยคลาน คือ - มีเกล็ดที่ขา - มีกรงเล็บ - มีฟน - มีหางยาว
101.
นกเปนสัตวเลือดอุน มีการปรับเปลี่ยนรูปรางที่ชวยในการบินไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยกระดูกมี รูพรุน
ทําใหมีน้ําหนักเบาแตแข็งแรง มีการปฏิสนธิภายในและออกลูกเปนไข คลาสเอเวส (Class Aves) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร ขนที่มีลักษณะเปนแผง (feather) โครงสรางกระดูกของนก
102.
คลาสเอเวส (Class Aves) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร นกเจาฟาหญิงสิรินธร
(สูญพันธุแลว) นกเงือก (ใกลสูญพันธุ)
103.
คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร เรียกสัตวในคลาสนี้วา
“สัตวเลี้ยงลูกดวยนม (mammal)” มีวิวัฒนาการมาจากสัตวเลื้อยคลาน สัตวเลี้ยงลูกดวยนมเริ่มแพรกระจายอยางรวดเร็ว เมื่อไดโนเสารเริ่มสูญพันธุ สัตวเลี้ยงลูกดวยนมในเพศเมียทุกชนิดมีตอมน้ํานมทําหนาที่ผลิตน้ํานมสําหรับเลี้ยงลูกออน มีขนปกคลุมตัว มีการปฏิสนธิภายในรางกายและสวนใหญออกลูกเปนตัว เปนสัตวเลือดอุนอุณหภูมิรางกายจึงคอนขางคงที่ สัตวเลี้ยงลูกดวยนมแบงเปน 3 กลุมใหญ กลุมมอโนทรีม (Monotremes) กลุมมาซูเพียล (Marsupials) กลุมยูเทเรียน (Eutherians)
104.
เปนสัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่มีลักษณะโบราณคือ ออกลูกเปนไข แตมีขนและตอมน้ํานม คลาสแมมมาเลีย
(Class Mammalia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร : กลุมมอโนทรีม (Monotremes) ตัวออนฟกออกจากไขแลวจะเลียน้ํานมบริเวณหนาทองของแมกิน ตุนปากเปดพบไดเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย ตัวกินมดหนามพบเฉพาะประเทศนิวกินี
105.
สัตวกลุมนี้จะตั้งทองในระยะเวลาที่สั้นมาก ทําใหลูกออนที่คลอดออกมามีขนาดเล็กและจะคลานไปยัง ถุงหนาทองของแมซึ่งภายในจะมีตอมน้ํานม มีหัวนมใหลูกดูดนม
ลูกจะอยูในถุงหนาทองจนกวา จะเจริญเติบโตเต็มที่จึงจะออกจากถุงหนาทองของแม คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร : กลุมมาซูเพียล (Marsupials) จิงโจ โคอาลา โอพอสซัม
106.
107.
สัตวในกลุมยูเทเรียน ไดแก สัตวเลี้ยงลูกดวยนมสวนใหญ
รวมทั้งกลุมไพรเมต (Primate) คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) สัตวมีกระดูกสันหลังที่มีขากรรไกร : กลุมยูเทเรียน (Eutherians) เปนสัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่มี “รก” มีระยะการตั้งทองนานกวามาซูเพียล โดยตัวออนจะเจริญภายในมดลูกและรับสารอาหาร จากแมผานรก “ไพรเมต (primate)”เปนสัตวที่อาศัยบนตนไมเปนสวนใหญ สัตวกลุมนี้มีมือและเทาใชยึดเกาะ นิ้วหัวแมมือพับขวางได มีสมองขนาดใหญ มีขากรรไกรสั้น ทําใหใบหนาแบนมีพฤติกรรมทางสังคม ซับซอนยิ่งขึ้น แอนโทรพอยด (Anthropoid) กลุมไพรเมตมีวิวัฒนาการแบงเปน 2 สาย โพรซิเมียน (Prosimian)
108.
วิวัฒนาการของไพรเมต
109.
โพรซิเมียน เปนสัตวกลุมไพรเมตระยะแรกเริ่มที่อาศัยอยูบนตนไม ลําตัวเล็ก ตากลมโต
มีนิ้วมือ 4 นิ้ว และออกหากินในเวลากลางคืน สัตวในกลุมนี้ เชน ลิงลมหรือนางอาย และลิงทารซิเออร พบอยูในเขตรอนแถบแอฟริกาและเอเชียใต
110.
แอนโทรพอยดเปนสัตวกลุมไพรเมตที่มีนิ้วมือ 5 นิ้ว
มองเห็นไดดีในเวลากลางวัน สมองเริ่มมีขนาดใหญ และหนาผากแบน สัตวในกลุมนี้ไดแก ลิงมีหาง ลิงไมมีหาง และ มนุษย ลิงมีหาง ไดแก ลิงโลกเกาและลิงโลกใหม “ลิงโลกเกา” อาศัยอยูบนพื้นดิน พบในทวีปแอฟริกาและเอเชีย มีกนเปน แผน หนังหนา เกลี้ยง เชน ลิงแสม ลิงบาบูน
111.
“ลิงโลกใหม” อาศัยอยูบนตนไม มีแขนขายาวใชประโยชนในการปนปายและหอยโหน มีการแพรกระจายอยูตามธรรมชาติในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต
เชน ลิงสไปเดอร ลิงมีหาง ไดแก ลิงโลกเกาและลิงโลกใหม สัตวทั้ง 2 กลุมหากินตอนกลางวันอยูรวมกันเปนฝูง มีการอยูรวมกันโดยใชพฤติกรรมทางสังคม โดยลิงเพศผูที่แข็งแกรงที่สุดจะไดเปนจาฝูงและมีอํานาจควบคุมฝูงลิงทั้งหมด
112.
มีสมองที่พัฒนาดีกวาลิงโลกเกามาก สมองมีรอยหยักคลายมนุษย
มีการสื่อสารระหวางกลุมมีการ ลิงไมมีหางหรือเอพ (ape) มีการสืบเชื้อสายมาจากลิงโลกเกา มีแขนยาวขาสั้นและไมมีหาง สามารถหอยโหนไปมาได มีเพียงชะนีและอุรังอุตังเทานั้นที่ยังคงอาศัยบนตนไม
Download now