More Related Content Similar to กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 1 (DAY 1) Similar to กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 1 (DAY 1) (20) กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 1 (DAY 1)2. ความคาดหวัง:
เมื่อสิ้นสุดการอบรม ผู้เข้าอบรมสามารถ :
เห็นถึงความสาคัญของวิธีป้ องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยการจัด
สิ่งแวดล้อมที่เอื้ออานวยและการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนและบุคคลที่
เกี่ยวข้องได้
นาขั้นตอนต่างๆที่อบรมในครั้งนี้ไปใช้ในการวางแผนและปฏิบัติจริงกับการ
ช่วยเหลือเป็นรายบุคคลของนักเรียนที่มีความต้องการการส่งเสริมด้าน
พฤติกรรมได้
3. เนื้อหาการอบรม: ตอนที่ 1 และ 2
เกริ่นนาและแนะนาจุดมุ่งหมาย
วิธีการป้ องกันการเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม (Functional Behavioural Assessment)
แบบฟอร์ม ABC
แบบฟอร์มตาราง Scatterplots
แบบสัมภาษณ์ Interviews
4. เนื้อหาการอบรม: ตอนที่ 3 และ 4
ทบทวน เรื่องกระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม (FBA)
การตั้งสมมติฐาน (Hypothesis)
การตั้งเป้ าหมาย (Goals)
เทคนิควิธีการจัดการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ (Intervention strategies)
เรื่องจริงจากสนามวิจัย
5. แนะนากรอบแนวความคิดหลัก
ปรับปรุงจาก April, 2007, with permission from Fox, L., Dunlap, G., Hemmeter, M. L., Joseph, G., & Strain, P. (2003). The
teaching pyramid: A model supporting social competence and preventing challenging behavior in young children.
Young Children, 58(4), 48-52. Published by the National Association for the Education of Young Children (NAEYC)(USA).
7. กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ A
ลองนึกถึงนักเรียนในชั้นเรียน (หรือเคยอยู่ในชั้นเรียน) ของท่านที่มีความ
ต้องการดูแลอย่างเป็นพิเศษด้านพฤติกรรมอยู่หรือเคยดูแล และตอบคาถาม
ต่อไปนี้ในกลุ่มของท่าน
ท่านคิดว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนของท่านเกิดมาจากสาเหตุเจาะจง
อะไรบ้าง
เราในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่และดูแลนักเรียน จะสามารถส่งเสริมและสนับสนุนพฤติกรรที่พึง
ประสงค์แก่นักเรียนคนนี้ได้อย่างไรบ้าง
9. พฤติกรรมที่ต้องการการช่วยเหลือ หมายความว่าอย่างไร?
พฤติกรรมที่แสดงออกมาจากบุคคลหนึ่งอย่างเป็นประจา ซึ่งไม่เหมาะสมกับวัย บริบท และ
วัฒนธรรม นอกจากนี้พฤติกรรมนี้ยังส่งผลต่อในการจากัดความสามารถในการเรียนและ
ความสัมพันธ์ทางสังคมของตัวบุคคลเองและคนรอบข้าง รวมถึงครอบครัว คุณครู และผู้อื่น
ต้องเตรียมพร้อมในการช่วยเหลืออย่างถูกต้องและเหมาะสมด้านจริยธรรมด้วย พฤติกรรม
เหล่านี้อาจได้แก่ พฤติกรรมก้าวร้าว พฤติกรรมก่อกวนในชั้นเรียน พฤติกรรมไม่อยู่นิ่งและไม่มี
สมาธิ พฤติกรรมที่มีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับเพื่อน พฤติกรรมต่อต้านสังคม และปัญหา
ทางอารมณ์ อย่างไรก็ดีพฤติกรรมนี้อาจลดลงได้หากมีการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
(DADHC Behaviour Intervention Policy, February 2003)
13. ลักษณะของพฤติกรรมที่ต้องการความช่วยเหลือ
ลักษณะ (Form) – พฤติกรรมนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร
ปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่:
ความสามารถพิเศษหรือความต้องการพิเศษของนักเรียนด้านต่างๆ เช่น ทักษะด้านการ
สื่อสาร ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดย่อย
ประวัติการเรียนของนักเรียน พร้อมทั้งสารวจว่านักเรียนนั้นเคยใช้พฤติกรรมที่ไม่พึง
ประสงค์ในการช่วยให้เขาทาสิ่งต่างๆสาเร็จมาแล้วหรือไม่
14. วัตถุประสงค์ของพฤติกรรมที่ต้องการความ
ช่วยเหลือ
วัตถุประสงค์ (Function) – พฤติกรรมที่แสดงออกมาแท้จริงแล้วเพื่อวัตถุประสงค์ใด
หรือกล่าวได้ว่าเป้ าหมายหรือจุดประสงค์ของพฤติกรรมนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ยากต่อการ
ระบุชี้ชัด ดังนั้นเราต้องเก็บข้อมูลให้เพียงพอจากหลายๆช่องทางก่อนจะสรุปผล
ปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่ :
พฤติกรรมที่แสดงออกเพื่อการสื่อสารของนักเรียนมีมากน้อยเพียงใด
พฤติกรรมเหล่านี้ได้ผลหรือไม่ในบริบทต่างๆ?
บุคคลรอบข้างหรือกิจกรรมต่างๆนั้นมีการส่งเสริมให้ทักษะทางสังคมหรือการสื่อสาร
หรือไม่?
17. หลักสาคัญของ FBA
ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและปัจจัยภายนอกพื้นฐาน (Ecological factors and setting
events) มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้รวมถึงปัจจัย
ภายนอกพื้นฐาน เช่น การได้รับยา การรับประทานอาหาร การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งการ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคลกับสิ่งแวดล้อมนั้นถือเป็ นหัวใจสาคัญของวิธีการคานึง(ด้านระบบนิเวศ)
สภาพแวดล้อม
เหตุการณ์ก่อนเกิดพฤติกรรม (Antecedents) มีตัวกระตุ้นหลายๆอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นทาให้เกิด
พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์นั้นได้
เหตุการณ์หลังเกิดพฤติกรรม (Consequences) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังการเกิดพฤติกรรม
อาจจะส่งผลให้พฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นอีกครั้งก็ได้ภายใต้เงื่อนไขเดิม
ปรับปรุงจาก Arthur, M. (2002). Providing Effective Behaviour Support.
NSW Dept of Education.
18. กรณีศึกษารายบุคคล
ขั้นที่ 1 : เก็บข้อมูลพื้นฐาน
ขั้นตอนการเก็บข้อมูลพื้นฐานต่างๆ รวมตั้งแต่ ความสามารถของนักเรียน
และความต้องการพิเศษในด้านต่างๆ ได้แก่:
ข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลทางสภาพครอบครัว
ทักษะด้านประสาทสัมผัส ความสามารถด้านกายภาพ
ความสามารถด้านสติปัญญา ทักษะทางสังคม
ทักษะด้านการสื่อสาร อาหารและยาที่ได้รับ
อื่นๆ
19. ขั้นที่ 2: ระบุพฤติกรรมเป้ าหมาย
ขั้นนี้คือการระบุพฤติกรรมหนึ่งของนักเรียนกรณีศึกษา ทั้งนี้พฤติกรรมนี้อาจที่
สามารถสังเกตจากภายนอก หรือพฤติกรรมที่เกิดจากภายในก็ได้
การระบุพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ควรต้องชัดเจน คือเมื่อบุคคลอื่นอ่านแล้วสามารถ
บอกได้ว่าเป็นพฤติกรรมเดียวกันกับที่ท่านหมายถึง
ตัวอย่างเช่น สมศรีบ้วนน้าลายใส่เพื่อนเมื่อพวกเขาเดินเข้าใกล้สมศรีมากกว่า 3
เมตร
ตัวอย่างข้างบนนี้ค่อนข้าง เจาะจง สังเกตและสามารถวัดผลได้
22. การเก็บข้อมูลทางตรง : แบบสังเกต ABC
แบบสังเกต ABC จะช่วยในการศึกษาลาดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเกิด
และหลังการเกิดพฤติกรรม โดยปกติแล้วเราจะใช้วิธีการจดบันทึกเหตุการณ์ก่อนเกิด
พฤติกรรม (antecedents) ตามด้วยพฤติกรรมที่เกิดขึ้น (behaviour) และ
เหตุการณ์หลังการเกิดพฤติกรรม (consequences) จากนั้นจึงกลับมาสู่การจด
บันทึกเหตุการณ์ก่อนเกิดพฤติกรรมอีกครั้ง (หากมีแค่พฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นแค่ครั้ง
เดียว) นอกจากนี้หากเกิดพฤติกรรมขึ้นในหลายๆเหตุการณ์ เราสามารถจดบันทึกได้
เหมือนเช่นกัน
จุดมุ่งหมายของแบบสังเกตนี้คือ เพื่อทาให้เรามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่อาจ
กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม (antecedents) และผลหลังจากการเกิดพฤติกรรมที่อาจ
เป็นสาเหตุให้พฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นซ้าแล้วซ้าเล่า
24. การเก็บข้อมูลทางตรง : แบบสังเกตแบบตาราง
(Scatterplots)
แบบสังเกตแบบตาราง(Scatterplots) สามารถให้ข้อมูลภาพรวมของการเกิด
พฤติกรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยการแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ใด ช่วงเวลาใดและกิจกรรมใดเป็นพิเศษ
จุดสาคัญของแบบสังเกตนี้คือ ความสอดคล้องสม่าเสมอ และ การใช้ได้
จริง ครูในโรงเรียนของท่านมีความมั่นใจในการใช้แบบสังเกตนี้หรือไม่
และครูท่านอื่นมีความเห็นพ้องต้องกันกับคานิยามที่ได้เขียนไว้ในขั้นตอนที่
2 หรือไม่อย่างไร