1. 1
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันของ
โปรแกรม Excel
• ฟังก์ชันคืออะไร
ฟังก์ชันเป็นสูตรสำาเร็จของการคำานวณในรูปแบบ
ของการใช้งานต่างๆกันเช่นฟังก์ชัน SUM หาผลรวม
ฟังก์ชัน MIN หาค่าตำ่าสุด
ซึ่งโปรแกรม Excel ได้จัดสูตรเหล่านี้ไว้เป็นหมวดหมู่
เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน

2. 2
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันของ
โปรแกรม Excel
• โครงสร้างของฟังก์ชัน
=ชื่อ
ฟังก์ชัน(ค่าargument1,ค่าargument2,…)
สำาหรับการป้อนค่า argument เราต้องทราบก่อนว่า
ฟังก์ชันนั้นรับค่า argument แบบใดบ้าง ซึ่งเราอาจใส่
ข้อมูลตัวเลขเข้าไปโดยตรง เช่น
=SUM(1700,9800,7200) เพื่อให้หาผลรวม หรืออาจ
กำาหนดให้ฟังก์ชันอ้างอิงค่าในเซลล์ก็ได้ เช่น

3. 3
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันของ
โปรแกรม Excel
• การเขียนสูตรฟังก์ชัน
เราสามารถใช้สูตรฟังก์ชันด้วยการพิมพ์ฟังก์ชัน
นั้นๆด้วยตนเองลงไปในเซลล์หรือแถบสูตร หรือใน
กรณีที่ต้องการหาฟังก์ชันต่างๆเพื่อนำามาใช้งานได้
ง่ายและสะดวกโดยที่ไม่ต้องพิมพ์ฟังก์ชันนั้นด้วย
ตนเองทั้งหมด เราสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชัน Insert
Function บนแถบสูตรได้เหมือนกัน

4. 4
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันของ
โปรแกรม Excel
• การเรียกใช้ฟังก์ชันของ Ms Excel
คลิกเมนู Insert -> คลิก Function หรือ คลิก ที่แถบ
สูตร จะเกิด Insert Function Dialog ดังรูป

5. 5
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันใน
Excel
•SUM(กลุ่มเซลล์) ฟังก์ชันหาค่าผลรวมของตัวเลขในกลุ่ม
เซลล์ที่เลือก
•MIN(กลุ่มเซลล์) ฟังก์ชันหาค่าตำ่าสุดของตัวเลขในกลุ่มเซล
ที่เลือก
•MAX(กลุ่มเซลล์) ฟังก์ชันหาค่าสูงสุดของตัวเลขในกลุ่มเซ
ที่เลือก
•AVERAGE(กลุ่มเซลล์) ฟังก์ชันหาค่าเฉลี่ยของตัวเลขในก
เซลล์ที่เลือก
•COUNT(กลุ่มเซลล์) ฟังก์ชันนับจำานวนเซลล์ที่มีตัวเลขใ
กลุ่มเซลล์ที่เลือก

6. 6
การคำานวณโดยใช้ฟังก์ชันใน
Excel
•COUNTIF() ฟังก์ชันนับจำานวนเซลล์ที่
ตรงตามเงื่อนไขในกลุ่ม เซลล์ที่เลือก
•IF() ฟังก์ชันคำานวณค่าเมื่อถูกทดสอบ
ตามเงื่อนไขที่กำาหนด

7. 7
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้
ฟังก์ชัน MIN()
• รูปแบบฟังก์ชัน
=MIN(กลุ่มเซลล์)
ตัวอย่างเช่น
=MIN(B4:G4)
หมายความว่าทำาการหาค่าตำ่าสุดของข้อมูล
ที่อยู่ในเซลล์ตั้งแต่เซลล์ B4 จนถึง G4

8. 8
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้Insert
Function Dialog
1. Click เซลล์
ที่ทำาการคำานวณ
2. Click เพื่อเลือก
ฟังก์ชันที่จะคำานวณ

9. 9
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้ฟังก์ชัน Insert
Function Dialog(ต่อ)
3.เลือกประเภทฟังก์ชัน
4.เลือกฟังก์ชัน MIN
5.Click OK

10. 10
6.Click เพื่อไปเลือกช่วงเซลล์
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้ฟังก์ชัน Insert
Function Dialog(ต่อ)

11. 11
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้ฟังก์ชัน Insert
Function Dialog(ต่อ)
7.เลือกช่วงเซลล์ที่จะหาค่าตำ่า
สุด
8.Clickปุ่ม

12. 12
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้ฟังก์ชัน Insert
Function Dialog(ต่อ)
9.แสดงช่วงเซลล์ที่ทำาการเลือก
10.Click OK

13. 13
การคำานวณหาค่าตำ่าสุดโดยใช้ฟังก์ชัน Insert
Function Dialog(ต่อ)
11.แสดงผลลัพธ์
12.แสดงฟังก์ชันที่ใช้คำานวณ

14. 14
การคำานวณหาค่าสูงสุดโดยใช้
ฟังก์ชัน MAX()
• รูปแบบฟังก์ชัน
=MAX(กลุ่มเซลล์)
ตัวอย่างเช่น
=MAX(B4:G4)
หมายความว่าทำาการหาค่าสูงสุดของข้อมูลที่
อยู่ในเซลล์ตั้งแต่เซลล์ B4 จนถึง G4

15. 15
การคำานวณหาค่าเฉลี่ยสุดโดยใช้
ฟังก์ชัน AVERAGE()
• รูปแบบฟังก์ชัน
=AVERAGE(กลุ่มเซลล์)
ตัวอย่างเช่น
=AVERAGE(B4:G4)
หมายความว่าทำาการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่อยู่ในเซลล์
ตั้งแต่เซลล์ B4 จนถึง G4

16. 16
• รูปแบบฟังก์ชัน
=COUNTIF(กลุ่มเซลล์, เงื่อนไข)
ตัวอย่างเช่น
=COUNTIF(C2:C7, “PASS”)
หมายความว่านับจำานวนเซลล์ที่มีคำาว่า PASS
การนับจำานวนเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไข
ในกลุ่มเซลล์ที่เลือกโดยใช้ฟังก์ชัน
COUNTIF ()

17. 17
การคำานวณค่าเมื่อถูกทดสอบตาม
เงื่อนไขที่กำาหนดโดยใช้ฟังก์ชัน IF()
• รูปแบบฟังก์ชัน
=IF(เงื่อนไข,ส่วนที่กระทำาถ้าเงื่อนไขเป็นจริง, ส่วนที่
กระทำาถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ)
ตัวอย่างเช่น
=IF(B2>10,1,2)
หมายความว่าตอบค่า 1 ถ้าเซลล์ B2 มีค่า
มากกว่า10
ตอบค่า 2 ถ้าเซลล์ B2 มีค่าน้อยกว่าหรือ

18. 18
การคำานวณค่าเมื่อถูกทดสอบตาม
เงื่อนไขที่กำาหนดโดยใช้ฟังก์ชัน IF()
ตัวอย่างเช่น
=IF(B2>50,“PASS”,“FAIL”)
หมายความว่าตอบค่า PASS ถ้าเซลล์ B2 มีค่า
มากกว่า50
ตอบค่า FAIL ถ้าเซลล์ B2 มีค่าน้อย
กว่าหรือเท่ากับ50

19. 19
รูปกรอกรายละเอียดตารางเกรด

20. • จากตารางเกรดมีเงื่อนไขในการตัดเกรด ดังนี้
ช่วงคะแนน เกรด
80 - 100 A
60 - 79 B
40 - 59 C
0 - 39 F
=IF(B2>=80,"A",IF(B2>=60,"B",IF(B2>
=40,"C","F")))

21. 21
การคำานวณค่าเมื่อถูกทดสอบตาม
เงื่อนไขที่กำาหนดโดยใช้ฟังก์ชัน IF()

22. 22
การคำานวณค่าเมื่อถูกทดสอบตาม
เงื่อนไขที่กำาหนดโดยใช้ฟังก์ชัน IF()

23. 23
• เมื่อต้องการอ้างข้อมูลที่อยู่ใน Work Sheet ไหน ก็จะต้องมี
การอ้างถึงชื่อ Work Sheet ที่จะนำาข้อมูลมาคำานวณ โดยจะมี
รูปแบบในการอ้าง Work Sheet ดังนี้
ชื่อ Work Sheet ที่อ้างถึง ! Range ของข้อมูลใน Sheet
ที่อ้างถึงเพื่อนำามาคำานวณ
การคำานวณ ต่าง Work Sheet

24. 24
การคำานวณ ต่าง Work Sheet
(ต่อ)
ตัวอย่าง ต้องการนับจำานวนเซลล์ที่มีคำาว่า A ซึ่ง
ข้อมูลอยู่ในช่วง C2 ถึง C7 ใน
Work Sheet ชื่อ เกรด โดยให้แสดงผลลัพธ์ ใน
Work Sheet ชื่อ Sheet2
ที่เซลล์ B1 จะสามารถป้อนสูตรในเซลล์ B1 ใน
Sheet2 ได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่ชื่อ Sheet2 ให้ Active
2. คลิกที่เซลล์ B1 ของ Sheet2 เพื่อป้อนสูตร
โดยพิมพ์สูตร
= COUNTIF(เกรด!C2:C7, “A”)

25. 25
Function ที่ควรรู้ (เพิ่มเติม)
• =NOW() ฟังก์ชันสำาหรับการแสดง
วันเดือนปีและเวลา ปัจจุบันของ
ระบบออกมา
• =TODAY() ฟังก์ชันสำาหรับการแสดงวันเดือน
ปีปัจจุบันของ ระบบออกมา
• =DAY(serial_number) ฟังก์ชันสำาหรับการ
แสดงหมายเลขวันที่ออกมา
เช่น =DAY(“24-1-06”) ได้เลข 24
เช่น =DAY(“24/1/06”) ได้เลข 24
เช่น =DAY(NOW()) ได้ตัวเลขวันของวันนี้
• =MONTH(serial_number) ฟังก์ชันสำาหรับการ
แสดงหมายเลขเดือน 1 ใน 12