โปรแกรม Citavi สำหรับช่วยทบทวนวรรณกรรม สำหรับ PhD ISKKU12 only

1. แนะนำ CITAVI
Yuttana J.
อีกหนึ่งตัวช่วยในกำรทบทวนวรรณกรรม
PhD #IS12 577080014-2
jyuttana@wu.ac.th
1

2. OMG! Literature Review…
• บ่อยครั้งที่เราปวดตับกับการทา note การจัดหมวดหมู่ความรู้ นิยาม
การทา quotations ที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรม
• สรุปไว้แล้วหาไม่เจอ อยู่กันคนละไฟล์ เชื่อมโยงลาบาก จะทา cross-
Ref หรือ citation ก็ยุ่งยาก
2

3. โปรแกรมเล็กๆชื่อ CITAVI ช่วยท่านได้
หน่วยวิจัยนวัตกรรมด้านสารสนเทศ สานักวิชาสารสนเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
3

4. • เราสามารถ import ไฟล์ต้นฉบับที่เข้า CITAVI ได้หลายวิธี เช่น นาเข้าจาก text
files ประเภท RIS, BibTex หรือ Google Scholar (ถ้าใช้ IEEE, Science
Direct หรือ Emerald จะมีให้) ง่ายสุดก็ยัด PDF นั่นแหละเข้าไป
4

5. • ในที่นี้ผมจะลองยัด (import สุภาพกว่าไหม) ไฟล์ PDF เรื่อง Information
Management ของตา Choo Chun Wei (ศาสดาของ ISKKU12 หรือไงนี่แหละ)
ลงไปแบบ Single file 5

6. • ใครจะ import ทีละหลายไฟล์ก็ไม่ขัดศรัทธานะครับ กระบวนการ import ก็
เหมือนการเรียนของหลักสูตรเรานั่นแหละ กว่าจะเสร็จมันก็ช้าหน่อย เมื่อ
ครบถ้วนตามที่ต้องการแล้วก็ Add to Project ได้เลย 6

7. • ที่เหลือก็ไปเติมรายละเอียด เช่น หัวเรื่อง บทคัดย่อ หรืออื่นๆเอาเอง (ถ้านาเข้า
จาก BibTex หรือ RIS มันจะเติมให้อัตโนมัติ ดูวิธีการสไลด์ถัดไป)
7

8. • อันนี้คือตัวอย่างการ import จาก citation file แบบ BibTex ที่ได้จากการสืบค้น
ฐานข้อมูลสาเร็จรูป ไม่ต้องคีย์หรือทารายการอะไรให้เมื่อยตุ้ม 8

9. 9
• มาดูกันดีกว่าว่าโปรแกรมมันช่วยอะไรเราได้บ้าง อันนี้คือ Overview ครับ บอก
รายละเอียดโดยรวมของเอกสาร บทคัดย่อ หัวเรื่อง และหมวดหมู่ความรู้ที่เรา
รีวิวได้จากเอกสารชิ้นนั้นๆ (ต้องรีวิวก่อนนะครับ)

10. 10
• อันนี้เป็น tab Reference เวลาท่านจะทาอ้างอิงครับ ถ้ารายละเอียดไม่ครบควร
ใส่ให้ครบ ข้อดีคือ มันทา link เชื่อมโยงเพื่ออ้างอิงภายใน paper ของเราหรือ
เชื่อมไปยัง URL และไฟล์อื่นๆในคลังของเราได้

11. 11
• ส่วน Content เอาไว้ใส่บทคัดย่อของเอกสารชิ้นนั้นๆ (ในกรณีที่ท่านอยากแปล
บทคัดย่อส่งอาจารย์) ใส่สารบัญเพื่อให้เห็นโครงสร้างหัวข้อของเอกสารที่รีวิวอยู่
ชิ้นนั้นๆ
• มีการให้ดาวของเอกสารว่าดีงามกับงานของเราหรือไม่ด้วยนะเออ (คนที่ชอบ
ตัดสินและประเมินงานคนอื่นแบบพี่เบิ้มน่าจะชอบฟังก์ชั่นนี้ครับ)

12. 12
• การใส่สารบัญหรือโครงสร้างหัวข้อของเอกสารชิ้นนั้นๆลงไปทั้งหมด ช่วยให้เรา
เห็นภาพเวลากลับมาทบทวน เริ่มเขียนตาม หรือแม้แต่ตอนส่งอาจารย์ครับ ว่า
มันพอจะใช้ได้ไหมเอกสารชิ้นนั้น โดยพิจารณาจากสารบัญเป็นหลัก

13. 13
• ส่วน Context เอาไว้ระบุบริบทการใช้งานของเอกสารครับ เช่น เอกสารนั้นเรา
จัดไว้ในกลุ่มใด หมวดหมู่ความรู้ที่ได้คืออะไร เชื่อมโยงไปยังเอกสารภายนอก
อื่นๆอะไรได้บ้าง

14. 14
• ที่ได้ใช้ประโยชน์มากๆคือตรงนี้ การทา Quotation ที่ได้จากการอ่านและสรุป
เอกสาร สามารถจัดเป็นหมวดหมู่ ดูง่ายสบายตา หยิบมาใช้แสนสะดวก และที่
สาคัญคือเอาไปจัดกลุ่มความรู้ที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรมได้ด้วย!

15. 15
Quotation ยังแบ่งได้เป็น 4 แบบคือ
• Direct ที่เรา copy เค้ามาเลยทั้งยวง
• Indirect คือไอเดียของคนเขียนที่เราเอามาเขียนใหม่เป็นภาษาของเรา
• Image or File quotation สาหรับภาพหรือสื่อ
• Summary คือไอเดียที่เขียนเป็นภาษาของเราและจะเอาไปใช้ใน paper ของเรา

16. 16
ข้อดีสุดๆสาหรับผมก็คือ มันสามารถจัด category หรือกลุ่มของความรู้ที่ได้จากการ
ทบทวนวรรณกรรม ว่าเราได้อะไรบ้าง ในแต่ละหมวดแบ่งออกเป็นอะไรบ้าง และแต่
ละหัวข้อมีอะไรอยู่ข้างใน โดยเชื่อมโยงไปยังพวกบทคัดย่อ สารบัญ และที่สาคัญคือ
Quotation ทั้งหลายแหล่ที่เราได้มาจากการสรุปการอ่านเอกสารนั่นแหละครับ

17. หน่วยวิจัยนวัตกรรมด้านสารสนเทศ สานักวิชาสารสนเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
17
• โปรแกรม CITAVI (คงมาจาก Citation Navigator มั้ง) มีคู่มือและ Tips ใน
ตัว ผมไม่ทา How to use นะ ส่วนจะหาจากไหน ติดตั้งอย่างไร ผมไม่สอน
จระเข้ให้ว่ายน้าละกัน สวัสดีครับ 