SlideShare a Scribd company logo
1 of 122
การติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver 
MX 
เตรียมการติดตั้งโปรแกรม 
1. เตรียมโปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX 
2. เตรียมโปรแกรม Dreamweaver MX Thai addo 
ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม 
1. นำาแผ่น CD โปรแกรม Macromedia Dreamweaver 
MX ใสที่่ไดรว์ CD-ROM 
2. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน My Computer 
3. ดับเบิ้ลคลิกไดรว์ CD-ROM 
4. ดับเบิ้ลคลิกโฟลเดอร์ Macromedia Dreamweaver MX 
5. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน คือ Dreamweaver MX 
Installer.exe 
6. จะปรากฏหน้าต่าง Welcome to the InstallShield 
Wizard for Dreamweaver MX 
7. จะปรากฏหน้าต่างแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของ
9. จะแสดงโฟลเดอร์สำาหรับจัดเก็บโปรแกรม คลิกปุ่ม 
Next 
10. เลือกชนิดของไฟล์ที่จะใช้ร่วมกับ 
Dreamweaver แล้วคลิกปุ่ม Next 
11. หน้าต่างนโี้ปรแกรมพร้อมทจี่ะทำาการติดตั้ง ให้ 
คลิกปุ่ม Next 
12. เริ่มทำาการติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver รอ 
ใหโ้ปรแกรมติดตั้งจนครบ 100% 
13. เมอื่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ให้คลิกปุ่ม Finish
การติดตั้งภาษาไทย Dreamweaver MX Thai addo 
1. ดับเบิ้ลคลิกโฟลเดอร์ 
2. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน 
3. คลิกปุ่ม Next 
4. คลิกปุ่ม Next 
5. โปรแกรมจะแสดงรายละเอียดทไี่ด้เลือกมา ให้คลิก 
ปุ่ม Install 
6. เมอื่ติดตั้งสิ้นสุด ให้คลิกปุ่ม Finish
การเข้าสู่โปรแกรม Dreamweaver MX 
ขั้นตอนเข้าสู่โปรแกรม Dreamweaver MX 
1. คลิกปุ่ม Start 
2. คลิกรายการ Programs หรือ คลิก All Programs 
3. คลิกรายการ Macromedia 
4. คลิกโปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX 
5. ถา้เข้าโปรแกรมครั้งแรก ให้คลิกปุ่ม x (close) จะปรากฏ 
โปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX
ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ใหม่ 
1. คลิกเมนู Site เลือกรายการNew Site 
2. จะปรากฏหน้าต่าง ให้ตั้งชื่อเว็บไซต์ 
3. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ว่า Mysite แล้วคลิกปุ่ม Next 
4. จะปรากฏหน้าต่างถามว่าต้องการใช้หรือไม่ใช้เว็บ 
เซริ์ฟเวอร์จำาลองในการทดสอบใหเ้ลือกเป็น คลิก NO, I 
do not want to use a sever technology. แล้ว 
คลิกปุ่ม Next 
5. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ลือกโฟลเดอร์ทตี่้องการเก็บไฟล์ต่าง 
ๆ แล้วคลิกปุ่ม Next 
6. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ลือกรูปแบบการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ 
ใหค้ลิกเลือก None 
7. แล้วคลิกปุ่ม Next 
8. แล้วคลิกปุ่ม Done
ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ใหม่ ด้วยป้านคำาสั่ง 
Advanced 
1. คลิกเมนู Site คลิกรายการ New Site 
2. จะปรากฏหน้าต่าง ใหตั้้งชื่อเว็บไซต์ Site Definition for 
Unnamed Site 1 
3. ใหค้ลิกป้ายคำาสั่ง Advanced จะปรากฏหน้าต่าง Local 
Info 
4. ช่อง Category ใหค้ลิกรายการ Local Info ใหม้แีถบสี 
5. Site Name ใหตั้้งชื่อเว็บไซต์ทตี่้องการ ตามตัวอย่างตั้งชื่อ 
ว่า CAI 
6. Local Root Folder ให้คลิกสัญลักษณ์โฟลเดอร์รูปแฟ้มสี 
เหลือง เลือกโฟลเดอร์ทใี่ช้เก็บเว็บไซต์ตามตัวอย่างทไี่ดร์ฟ 
c: เก็บไว้ทโี่ฟลเดอร์ Mysite แล้วคลิกทปีุ่่ม Select 
7. Default Images Folder กำาหนดค่าเริ่มต้นสำาหรับ 
โฟลเดอร์ทใี่ช้เก็บรูปภาพเลือก Mysite
การแก้ไขรายการ Site 
1. คลิกเมนู Site เลือกรายการ Edit Sites 
2. จะปรากฏหน้าต่าง Edit Sites 
ปุ่ม New สำาหรับกำาหนดไซต์ใหม่ 
ปุ่ม Edit สำาหรับแก้ไขไซต์ 
ปุ่ม Duplicate สำาหรับคัดลอกไซต์สำารอง 
ปุ่ม Remuve สำาหรับลบไซต์ 
ปุ่ม Done สำาหรับทำางานกับไซต์ที่ต้องการเลือก 
ใช้งาน
การพิมพ์ข้อความบนเว็บเพจ 
การพิมพ์ข้อความบนเว็บเพจด้วยโปรแกรม 
Dreamweaver MX มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ 
1. พิมพ์ข้อความลงบนจอภาพ 
2. พิมพ์ข้อความจากโปรแกรมอื่น เช่น โปรแกรม 
Word.Excel หรือ Notepad แล้วนำาสำาเนามา 
ใสที่่หน้าจอภาพการทำางานของโปรแกรม 
Dreamweaver MX 
3. พิมพ์ข้อความเป็นเอกสาร HTML ข้อสำาหรับผู้ใช้ 
ทถี่นัดภาษา HTML คลิกปุ่ม  Code แล้ม 
พิมพ์ข้อความลงในส่วน <body> หรือ <head>
การแทรกรูปภาพบนเว็บเพจ 
การแทรกรูปภาพบนเว็บเพจมีผล 
ทำาให้เว็บเพจดูน่าสนใจ และการนำาไฟล์รูปภาพ 
ต่างๆเข้ามาใช้งานมขี้อควรพิจารณา 3 ประการ 
คือ 
1.ประเภทของไฟล์รูปภาพ ควรจะใช้เป็น 
นามสกุล *.gif, *.jpg หรือ *.png 
2.ไฟล์รูปภาพ ถ้าผ่านการใช้คำาสั่ง 
Optimize ในโปรแกรม ImageRedy 
ก่อนการนำามาใช้งาน จะทำาให้ภาพบน 
เว็บเพจสามารถเปิดได้เร็วขึ้น 
3.ควรมกีารแทรกไฟล์รูปภาพเท่าทจี่ำาเป็น 
ไม่ควรใช้รูปภาพมากเกินไป
วิธีนำารูปภาพมาใส่ในหน้า 
เว็บเพจ 
1. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่ต้องการ 
2. คลิกเมนู Insert เลือกรายการ Image 
3. จะปรากฏหน้าต่าง Select Image Source 
4. คลิก  ช่อง Look in : เลือกไดร์ฟและ 
โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์รูปภาพ 
5. คลิกปุ่ม View Menu จะปรากฏเมนูย่อย เลือก 
รายการ Thumbnails 
6. คลิกเลือกรูปที่ต้องการ 
7. คลิกปุ่ม OK จะปรากฏรูปภาพหน้าจอ
วิธีปรับขนาดรูปภาพ 
1. คลิกทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle สีดำา 
2. เลื่อนเมาสบ์ริเวณจุด Handle สีดำา จะปรากฏลูก 
ศร 2 หวั 
3. คลิกเมาส์ตรงจุด Handle ค้างไว้แล้วย่อ หรือ 
ขยายภาพตามขนาดที่ต้องการ
วิธีการใส่คำาอธิบายแสดง 
ข้อความบนรูปภาพ 
1. คลิกรูปภาพใหม้จีุด Handle สีดำา 
2. คลิก วางเคอร์เซอร์ช่อง A1T พิมพ์คำาว่า Bugs 
life 
3. คลิกเมนู File เลือกรายการ Preview คลิก 
รายการ iexplore หรือกดปุ่ม F12 เพื่อทดลอง 
ผลงานบนเบราเซอร์ ( Internet Explorer )
วิธีการใส่เส้นขอบให้กับ 
รูปภาพ 
1. คลิกเมาส์ทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle 
2. คลิกวางเดอร์เซอร์ทชี่่อง Border พิมพ์เลข 6 
กำาหนดขนาดของกรอบรูปภาพ 
3. คลิกเมาส์ที่พื้นที่ว่างจะได้กรอบมีขนาดตาม 
ต้องการ ( ตัวเลขน้อยกรอบบาง ตัวเลขมากกรอบ 
หนา )
วิธีปรับระยะห่างของรูปภาพและ 
ข้อความ 
1. คลิกเมาส์ทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle 
2. ใส่ตัวเลขทตี่้อง Vspace เพมิ่ระยะหา่งแนวตั้ง 
3. ใส่ตัวเลขทชี่่อง Hspace เพิ่มระยะหา่งแนวนอน 
4. คลิกบริเวณทวี่่างของหน้าต่างทำางาน จะทำาให้ 
เกิดระยะห่างของภาพมากขึ้น
วิธีการจัดรูปภาพประกอบกับ 
1ข.้อคควลาิกมเมาส์ทรีู่ปภาพ ใหม้จีุด Handle 
2. คลิก  ช่อง Alegn ปรากฏรายการลักษณะการจัดรูปภาพ 
ประกอบกับข้อความ เลือกLeft 
3. ความหมายของรายการลักษณะการจัดรูปภาพประกอบกับ 
ข้อความ 
- Default เป็นการจัดการกับรูปภาพแบบ 
ปกติ 
- Baseline จัดขอบล่างของรุปอยู่แนวเดียว 
กบับรรทัดข้อความ 
- Top จัดให้ขอบบนของรูปอยู่แนว 
เดียวกับบรรทัดข้อความ 
- Midd จัดให้ตรงกลางของรูปอยู่แนว 
เดียวกับบรรทดัข้อความ 
- Bottom จัดให้ขอบล่างของรูปอยู่แนวเดียวกับ
วิธีทำาการปรับรูปภาพให้โปร่งแสง 
(Tracing Image) 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่หน้าจอการทำางาน 
2. คลิกเมนู Modify เลือกรายการ Page 
Properties หรือกดปุ่ม Ctrl+J 
3. คลิกปุ่ม Browse ทชี่่อง Tracing Image เลือก 
ไฟล์รูปภาพที่ต้องการใช้งาน 
4. เลื่อน Scroll ช่อง Image Transparency ปรับ 
ความโปร่ง ค่าความจางมวัOpaque ตามต้องการ 
5. คลิกปุ่ม Apply ดูผลทไี่ด้บนหน้าจอการทำางาน 
6. คลิกปุ่ม Ok
การทำา Swap Image 
1. วางเคอร์เซอร์ในตำาแหน่งที่ต้องการ 
2. คลิกปุ่ม เลือกรูปภาพมาวางบนหน้าต่างเว็บเพจ 
3. คลิกเมนู Windows--> Behaviors 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Behaviors 
5. คลิกปุ่ม  
6. จะปรากฏเมนูย่อย ใหค้ลิกรายการ Swap Image 
7. จะปรากฏหน้าต่าง Swap Image 
8. คลิกปุ่ม Browse 
9. เลือกไฟล์รูปที่ต้องการ 
10.คลิกปุ่ม OK 
11. คลิกปุ่ม OK
1. เมอื่เสร็จจะปรากฏข้อความ 
OnloadSwap Image หน้าต่าง 
2. กดปุ่ม F12 หรือคลิกเมนู File --> 
Preview in Browser คลิกรายการ 
Iexplorer 
3. จะปรากฏหน้าต่าง Internet 
Explorer ภาพปกติเมื่อเลื่อนเมาส์มา 
วางที่ภาพจะเปลี่ยนเป็นรูปอื่น
สาระสำาคัญ 
• ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการสร้าง 
ตาราง ตารางเป็นส่วนสำาคัญในการสร้าง 
เว็บเพจเพราะการพิมพ์งาน และควบคุม 
วัตถุต่างๆ เช่น รูปภาพในเอกสารเว็บ มี 
ข้อจำากดัหลายประการ เช่น การวาง 
รูปภาพใหม้ขี้อความล้อมรอบ การสร้าง 
เอกสารคอลัมน์ ซึ่งจะต้องอาศัยตารางเป็น 
เครื่องมอืช่วยทงั้หมด
การสร้างตาราง 
การนำาเสนอข้อมลู จำาเป็นทจี่ะต้องสร้างตารางขึ้นมาเพอื่ 
ใหข้้อมลูที่นำาเสนอ ดูเข้าใจง่าย 
ขั้นตอนการสร้างตาราง 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ ตำาแหน่งทตี่้องการจะสร้างตาราง 
2. คลิกปุ่ม Layout บนแถบเครื่องมอื Insert 
3. คลิกปุ่ม Insert Table 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Table ใหก้ำาหนดค่าต่างๆ ของ 
ตาราง 
- Rows จำานวนแถวของตาราง 
- Columns จำานวนคอลัมน์ของตาราง 
- Width ความกว้างของตารางมี 2 แบบ 
Pixels หรือ Percent 
- Border ความหนาของเส้นขอบตาราง 
- Cell Padding ระยะห่างจากขอบข้างในของเซลล์
- คลิกปุ่ม OK 
- จะได้ตารางสำาหรับ 
การทำางาน 
การปรับแต่งตาราง 
1. คลิกเมาส์เสน้ขอบของตารางใหป้รากฏจดุ Handle 
2. จะปรากฏหน้าต่าง Propertoes แสดงรายละเอียด 
ของตารางทั้งหมด
การพิมพ์ข้อความลงในตาราง 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่ช่องเซลล์แรก 
2. พิมพ์ข้อความตรงตำาแหน่งเคอร์เซอร์ชิองแรกว่า 
กิจกรรม 
3. กดปุ่ม Tab เคอร์เซอร์กระโดดมาช่องสอง พิมพ์ว่า 
ระยะเวลา 
4. กดปุ่ม Tab เคอร์เซอร์กระโดดมาช่องสาม พิมพ์ว่า 
กิจกรรม ระยะ 
จำานวนเงิน 
เวลา 
จำานวน 
เงิน 
5. ถ้าต้องการเพมิ่บรรทัดใหม่ ใหก้ดปุ่มTeb ช่องเซลล์ 
สุดทา้ย จะเพมิ่บรรทดัใหอั้ตโนมตัิ
การเลือกตารางทั้งหมด 
1. คลิกเลือกเสน้ขอบของตาราง ด้านขวาเส้นแบ่งเซลล์ 
จะปรากฏจุด Handle เลือกตาราง 
2. คลิกทมี่มุบนซ้าย,มมุล่างขวา,เส้นแบ่งตาราง หรือ 
เส้นขอบนอกจะปรากฏลูกศรสีดำา 4 หวั
การเลือกทั้งแถว 
1. เลื่อนเมาสม์าวางทเี่ส้นขอบด้านหน้าของแถว ตัวชี้ 
เมาส์จะเปลี่ยนเป็นลูกศรขวาสีดำา 
2. คลิกเมาส์เลือกทีละแถว หรือคลิกเลื่อนลงเพอื่ 
เลือกแบบหกลาายแรถเวลือกทั้งคอลัมน์ 
1. เลื่อนเมาสม์าวางเส้นขอบด้านบนคอลัมน์ ตัวชี้ 
เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปลูกศรหัวลงสีดำา 
2. คลิกเมาส์เลือกทีละคอลัมน์ หรือคลิกเลื่อนเมาส์ 
เพื่อเลือกแบบหลายคอลัมน์
การเลือกเซลล์ 
1. เลื่อนเมาส์คลิกวางเคอร์เซอร์ที่เซลล์ที่ต้องการ 
2. คลิกลากจากเซลล์ช่องแรกไปยังอีกเซลล์หนงึ่ หรือ 
3. กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการ 
เลือกถดัไป หรือ 
4. กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วคลิกเลือกเซลล์ทตี่้องการแบบ 
ไม่ต่อเนื่อง
การปรับความกว้างและความสูงด้วยเมาส์ 
1. เลื่อนเมาสม์าวางทเี่ส้นแบ่งคอลัมน์ จะปรากฏเมาส์ 
เป็นลูกศรแนวนอน 2 หวั 
2. คลิกเมาส์ค้างไว้ ลากขยายหรือย่อขนาดของคอลัมน์ 
ตามต้องการ 
3. เลื่อนเมาสว์างทเี่ส้นแบ่งแถว จะปรากฏเมาส์รูปเมาส์ 
ลูกศรแนวตั้ง 2 หัว 
4. คลิกเมาส์ค้างไว้ ลากขยายหรือย่อขนาดของแถว 
ตามต้องการ
การปรับความกว้างปละความสูงด้วยแถบเครื่องมือ 
Properties 
1. คลิกเลือกคอลัมน์และแถว ใหม้กีรอบสีดำาทงั้หมด 
2. กำาหนดค่า W= 50 หรือ H=50 บนแถบเครื่องมือ 
Properties 
3. กดปุ่ม Enter
การยกเลิกความและความสูงที่กำาหนด 
1. เลือกตารางทั้งหมด 
2. คลิกเมนู Modify --> Table --> Clear 
Cellหรือ 
3. คลิกปุ่ม Clear Column Width บนแถบ 
Properties 
3. คลิกเมนู Modify --> Table --> Clear Cell 
การลบแถวและคอลัมน์ 
Height หรือ 
4. คลิกปุ่ม Clear Row Heightบนแถบ 
1. คลิกเลือกตารางทงั้หมด หรือเลือกเฉพาะแถว 
Properties 
หรือเลือกเฉพาะคอลัมน์ 
2. กดปุ่ม Delete
การนำารูปภาพมาใส่ลงในตาราง 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่เซลล์ที่ต้องการใส่ 
รูปภาพ 
2. คลิกหาไฟล์รูปภาพทแี่ถบเครื่องมอื Properties 
3. เลือกรูปภาพที่ต้องการ 
4. คลิกปุ่ม OK 
5. จะปรากฏรูปภาพที่ช่องเซลล์ที่เลือก
การใส่รูปภาพพื้นหลังตารางทั้งหมด 
1. คลิกเลือกตารางทั้งหมดใหม้จีุด Handle 
2. คลิกหาไฟล์รูปภาพทชี่่อง Bg Image จากเครื่องมือ 
Properties 
3. เลือกรูปที่ต้องการ 
4. คลิกปุ่ม Ok 
5. รูปภาพจะปรากฏที่พื้นหลังของตารางทั้งหมด
การเปลี่ยนพื้นหลังของตาราง 
1. คลิกเลือกตารางให้มจีุด Handle 
2. คลิกเลือกสีพื้นหลังทชี่่อง Bg Color จากตาราง 
Properties 
3. สีพื้นหลังของตารางจะเปลี่ยนแปลงตามที่เลือก 
การเปลี่ยนสีเส้นขอบตาราง 
1. คลิกเลือกตารางให้มจีุด Handle 
2. คลิกเลือกสีขอบตารางทชี่่อง Brdr จากเครื่องมอื 
Properties 
3. เส้นขอบตารางจะเปลี่ยนสีตามที่เลือก
การรวมเซลล์และแยกเซลล์ 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ ตำาแหน่งทตี่้องการจะสร้าง 
ตาราง 
2. คลิกปุ่ม Layout บนแถบเครื่องมอื Insert 
3. คลิกปุ่ม Insert Table 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Table ใหก้ำาหนดค่าต่าง 
ๆ ของตาราง 
5. คลิกปุ่ม Ok 
6. จะได้ตาราง 3 แถว 3 คอลัมน์ 
7. เลือกเซลล์ 1 และ 2 ใหม้แีถบสี 
8. คลิกขวาเซลล์ตารางที่เลือก ปรากฏเมนูลัด คลิก 
รายการTable-- > Merge Cells
การแยกเซลล์(Split Cells) 
1. จากตารางรวมเซลล์ 
2. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ช่องรวมเซลล์ 
3. คลิกขวา ปรากฏเมนูลัด คลิกรายการ Table -- > 
Splet Cell หรือคลิกปุ่ม Splet Cell 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Splet Cell ใหร้ะบุจำานวน 
คอลัมน์ช่อง Nunber of Columns 
5. คลิกปุ่ม OK 
6. เซลล์จะแยกเป็น 2 คอลัมน์
ขั้นตอนการสร้างลิงก์จากข้อความ 
1. พิมพ์ข้อความบนหน้าต่างทำางาน 
2. ลากเมาส์คลุมข้อความให้มีแถบสี 
3. คลิกปุ่มในแถบ properties 
4. เพื่อเลือกไฟล์ที่จะทำาการลิงก์ 
5. คลิกปุ่ม ok 
6. ข้อความจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้ามีเส้นใต้ขีดอยู่
การสร้างลิงก์แบบรูปภาพ 
1. คลิกเมาสท์ี่รูปภาพใหม้จีุด Handle 
2. คลิกปุ่มของช่อง link properties 
3. เลือกไฟล์ที่จะลิงก์ 
4. แล้วคลิกปุ่ม ok หรือดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ 
5. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in 
Browser iexplorer หรือกดปุ่ม F12
การสร้างลิงก์แบบ Named Anchor 
Named Anchor คือจุดอ้างอิง ใช้ในการทำาลิงก์ทมีี่ 
ความยาวของเอกสารมากกว่าหนึ่งหน้าจอ โดยมรีายระ 
เอียดและขั้นตอนดังนี้ 
1. คลิกเมาส์ที่ตำาแหน่งต้นทาง(อาจจะเป็นตำาแหน่งด้านบนสุด 
ของเอกสาร) 
2. คลิกทเี่ครื่องมอื Name Anchor ทแี่ถบเครื่องมอื Insert 
3. จะปรากฏหน้าต่าง Named Anchor ใหพิ้มพ์ชื่อ เพอื่ 
ระบุตำาแหน่งต้นทาง(ในทนีี่้ตั้งชื่อ top) 
4. คลิกปุ่มok 
5. จะปรากฏเครื่องมือที่ต้นทาง 
6. ใหเ้ลื่อนเมาส์ไปยังตำาแหน่งล่างสุด ทำาการเลือกข้อความ 
หรือรูปภาพ(ในทเี่ลือกข้อความ Go to topแล้วพิมพ์ 
#top) (จะต้องมีเครื่องหมาย # นำาหน้าข้อความเสมอ) 
7. ทดลองแสดงผลการรันโปรแกรม จะเหน็ว่าเมอื่เลื่อนเมาส์ 
ผ่าน Go to top เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปมอื และเมอื่ทำาการ 
คลิกก็จะลิงก์ไปยังด้านบนของเอกสารตามที่อยู่ที่ต้นทาง
การสร้างลิงก์แบบ Image Map 
การสร้างลิงก์แบบ Image Map คือการใช้ 
รูปภาพในส่วนต่าง ๆ เป็นจุดในการเชื่อมโยงไปยัง 
ปลายทาง โดยมขีั้นตอนในการปฏบิัติดังนี้ 
1. คลิกบริเวณรูปภาพทตี่้องการ ใหม้จีุด Handle 
2. ให้กระทำาดังต่อไปนี้บนแถบเครื่องมือproperties 
- Map 
- คลิกเลือกรูปแบบของพนื้ทจีุ่ดลิงก์ มสีเี่หลี่ยม 
วงกลม รูปอิสระ 
1. ลากเมาส์ที่รูปให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ 
2. กำาหนดไฟล์หรือจุดลิงก์ลงในช่อง 
3. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in 
Browseriexplorer หรือกดปุ่ม F12
การสร้างลิงก์ไปยัง E-mail 
การสร้างลิงก์ไปยัง E-mail สามารถทำาได้ทงั้ 
แบบรูปภาพ และแบบข้อความโดยมขีั้นตอนดังนี้ 
คือ 
1. คลิกเมาสท์ี่ข้อความใหม้แีถบสี หรือคลิกเมาส์ที่ 
รูปภาพให้มีจุดhandle 
2. พิมพ์ mailto: ชื่ออีเมล์ลงในช่อง Link 
3. คลิกพื้นที่ว่าง 
4. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู 
FilePreviewiexplorer หรือกดปุ่ม F12
การสร้างลิงก์ ไปยังเว็บไซต์อื่น 
การสร้างลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น สามารถทำาได้ 
ทั้งแบบรูปภาพและแบบข้อความเช่นเดียวกับการ 
สร้างลิงกไ์ปยัง E-mail โดยมขีั้นตอนดังนี้ 
1. เลือกข้อความหรือคลิกเมาส์ทรีู่ปภาพให้มจีุด 
Handle 
2. พิมพ์ชื่อ URL http:// ชื่อเว็บไซต์ลงในช่อง Link 
และเลือกรูปภาพปลายทางเช่น www.moe.go.th 
3. คลิกเมาส์พื้นที่ว่าง 
4. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in 
Browseriexplorerหรือกดปุ่ม F12
การสร้างลิงก์แบบ Rollover Image 
การสร้างลิงกแ์บบ Rollover Image คือการทำา 
เทคนิคภาพบนเว็บเพจ ให้ดูแปลกตา ภาพจะแสดงผล 
เปลี่ยนไปเมอื่ลากเมาส์ผ่าน (ต้องมี2 ภาพที่มขีนาดเทา่ ๆ 
กันให้ภาพหนึ่งเป็นภาพปกติและอีกภาพหนึ่งถูกเรียกขึ้นมา 
แทนเมื่อลากเมาส์ผ่าน) 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่ต้องการ 
2. คลิกปุ่ม Rollover Image 
3. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Rollover Image 
4. ใหก้ำาหนดค่าตัวเลือกไฟล์รูปภาพทตี่้องการ ดังนี้ 
- Original Image: ภาพต้นฉบับ สำาหรับแสดงเป็นภาพ 
ปกติ 
- Rollover Image: ภาพที่ใช้สลับขึ้นมาเมื่อลากเมาส์ 
ผ่าน 
- Alternate Text: ข้อความอธิบายภาพที่แสดงขึ้นมาใน 
กรณีนำาเมาส์ลากผ่าน
การเปลี่ยนสีตัวอักษรที่เป็นลิงก์ 
1. ให้พิมพ์ข้อความเพื่อตั้งค่าการเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ 
เป็นการลิงก์ 
2. คลิกเมนู ModifyPage Properties หรือกดปุ่ม 
Ctrl+j 
3. จะปรากฏหน้าต่าง Page Properties 
4. เลือกทหี่วัข้อ Link ใหก้ำาหนดค่าเหล่านี้ 
- Link :สีของข้อความที่ต้องการสร้าง 
ลิงก์ 
- Visited Link: สีของข้อความลิงก์ที่เคยเข้ามา 
ชมแล้ว 
- Active Link: สีของข้อความลิงก์ในขณะที่ใช้ 
งาน
รูปแบบของเฟรม 
• เฟรมจะมอียดู่้วยกนั 2 รูปแบบ คือ 
เฟรมหลัก (Frameset)และเฟรม 
ย่อย(Frame) เฟรมหลัก (Frameset) 
คือ หน้าต่างเฟรมทใี่หญ่ทสีุ่ด ที่คอย 
ควบคุมเฟรมย่อยอื่น ๆ อีกทีหนึ่งและ 
กำาหนดลักษณะการแบ่งเฟรมในแนวตั้ง 
และแนวนอน ทั้งยังกำาหนดขนาดของ 
ขอบ สี รวมถึงระยะห่างระหว่างเฟรมได้ 
อีกด้วยเฟรมย่อย (Frame) คือหน้าต่าง 
เฟรมทกี่ำาหนดชื่อของแต่ละเฟรม และ
การออกแบบเฟรม 
1. คลิกทแี่ทบ็คำาสั่ง Frames บนแถบเครื่องมอื 
Insert 
2. คลิกปุ่ม Left and Nested Top Frames จะ 
ปรากฏหน้าต่างเฟรมแบบสามส่วนตามที่เลือก 
- คอลัมน์แรกจะแสดงเมนู 
- คอลัมน์ทสี่อง แถวแรกจะแสดงหวัเรื่องเว็บเพจ 
- คอลัมน์ทสี่าม ส่วนล่าง จะแสดงเนอื้หา 
1. ในกรณีทคี่ลิกปุ่ม Top and Nested Left Frames 
- แถวแรกจะแสดงหัวเรื่องเว็บเพจ 
- แถวทสี่อง ซา้ยมอืแสดงเมนู 
- แถวทสี่าม สว่นขวามอืแสดงเนื้อหา
ลักษณะต่าง ๆ ของเฟรม 
1. Left Frame แบ่งเป็นสองส่วนแนวตั้ง ด้านซา้ยแสดงเมนู 
ด้านขวา แสดงเนอื้หา 
2. Right Frame แบ่งสองสว่นแนวตั้ง ด้านซ้ายแสดงเนื้อหา 
ด้านขวาแสดงเมนู 
3. Top Frame แบ่งสองส่วนแนวนอน ด้านบนแสดงเมนู 
ด้านล่างแสดงเนื้อหา 
4. Bottom Frame แบ่งสองส่วนแนวนอน ด้านบนแสดง 
เนอื้หา ด้านล่างแสดงเมนู 
5. Bottom and Nested Left Frame แบ่งสามส่วน ด้าน 
ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 
6. Bottom and Nested Right Frame แบ่งสามสว่น ด้าน 
ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 
7. Left and Nested Bottom Frame แบ่งสามส่วน ด้าน 
ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 
8. Right and Nested Bottom Frame แบ่งสามสว่น ด้าน 
ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง
การกำาหนดคุณสมบัติของเฟรม 
การแบ่งหน้าจอการทำางานเป็นลักษณะเฟรม ควรจะ 
กำาหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ของเฟรมดังนี้ 
1. เลื่อนเมาสว์างทเี่ส้นแบ่งเฟรม จะปรากฏลูกศร 2 หวั ให้ 
คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 
2. จะปรากฏหน้าต่าง Frame Properties ด้านล่าง 
3. การกำาหนดคุณสมบัติของเฟรมมีดังนี้ 
- Bprders ให้เส้นเฟรมแรเงาหรือไม่ 
- Border color สีของขอบเฟรม 
- Border Width ขนาดของเส้นเฟรม 
- Row ความกว้างของเฟรม 
1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 
2. ใหค้ลิก  ช่อง Border เลือก Yes 
3. ใหค้ลิก  ช่องBorder color เลือกสีของเฟรม 
4. พิมพ์ช่อง Border Width 5 
5. พิมพ์ช่อง Row 100 กำาหนดความกว้างของเฟรม
การปรับแต่งเฟรม 
1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 
2. คลิกลูกศร 2 หัว ค้างไว้ลากเมาส์ย่อ-ขยายเฟรมตาม 
ที่ต้องการ 
3. คลิกเมาส์พนื้ที่ว่าง ก็จะได้ขนาดเฟรมตามต้องการ
การลบเฟรม 
1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 
2. ลากเมาส์เลื่อนขึ้น ให้ชิดขอบด้านบน 
3. เฟรมจะถูกยุบรวมกันกับเฟรมที่เส้นขอบด้านบน
การสร้างเฟรมเพิ่มเติม 
การสร้างเฟรมเพิ่มเติม สามารถทำาตามขั้นตอนได้ 
ดังนี้ 
1. คลิกเมาส์วงเคอร์เซอร์บริเวณพื้นที่ที่ต้องการสร้าง 
เฟรมใหม่เพิ่มเติม 
2. คลิกเลือกรูปแบบเฟรมทตี่้องการสร้างเพิ่ม เช่น คลิก 
แบบที่ 3 
3. จะได้รูปเฟรมเพิ่มทันที
การนำาเว็บเพจมาเปิดภายในเฟรม 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์พื้นที่ของเฟรมย่อยที่ต้องการ 
2. คลิกเมนู File คลิกรายการ Open in Frame… 
หรือกดปุ่ม Ctrl+Shift+0 
3. เลือกไฟล์เว็บเพจทจี่ะเปิดในเฟรม แล้วคลิกปุ่ม OK 
4. จะปรากฏผลลัพธ์ที่ได้ในเฟรมตามที่กำาหนดไว้
การบันทึกเฟรม 
การสร้างเฟรมจะต้องมีการบันทึก(Save)ชื่อของ 
แต่ละเฟรม ทงั้เฟรมหลักและเฟรมย่อยใหเ้หมอืนกบั 
การบันทกึหน้าของเว็บเพจทวั่ไป การบันทึกเฟรมมี 
ขั้นตอนดังนี้คือ 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่พื้นที่เฟรมที่จะบันทึก 
2. คลิกเมนู Fileคลิกรายการ Save Frame As… 
หรือกดปุ่ม Ctrl+Shift+S 
3. เลือกสถานทเี่ก็บไฟล์ ช่องSave in: 
4. พิมพ์ชื่อในช่อง File name: แล้วคลิกปุ่ม Save
การบันทึกเฟรมหลัก 
1. คลิกเมาส์ทีเส้นขอบเฟรม 
2. คลิกเมนู Fileคลิกรายการ Save Frameset 
As…หรือ กดปุ่ม Ctrl+Shift+S 
3. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ 
4. พิมพ์ชื่อลงในช่อง File name:แล้วคลิกปุ่ม Save
การสร้างแบบฟอร์ม 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างทำางาน 
2. คลิกเลือกแทบ็ Froms จากแถบเครื่องมอื 
Insert 
3. คลิกปุ่ม Froms เพื่อเปลี่ยนการทำางานใน 
ลักษณะแบบฟอร์ม 
4. จะได้ตารางเส้นประสีแดงปรากฏบนพื้นที่การ 
ทำางาน 
5. ใหก้ดปุ่ม Enter เพื่อขึ้นบรรทดัใหม่ หรือขยาย 
ช่องตารางเส้นปะสีแดง 
6. กดปุ่ม Backspace เพอื่ลดขนาดของช่อง 
ตารางเส้นประสีแดง 
7. ทดลองพิมพ์ข้อความ และทำาการปรับแต่งด้วย
การสร้าง Text Field สำาหรับกรอกข้อความ 
1. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่จะทำา Text Field 
2. คลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบเส้นประ 
Text Field สำาหรับการกรอกข้อความตรง 
ตำาแหน่งเคอร์เซอร์ 
3. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ช่อง Char Width 
กำาหนดความยาวของฟิลด์ =30 
4. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ช่อง Max Chars 
กำาหนดจำานวนตัวอักษรสูงสุด =50
การสร้างปุ่ม Radio Button 
1. พิมพ์ข้อความ เพศ ชาย หญงิ 
2. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่จะทำา Radio Button 
3. คลิกปุ่ม เพื่อสร้างปุ่ม Radio Button ด้านหน้า 
รายการ ชาย 
4. คลิกวางเคอร์เวอร์ตำาแหน่งหน้าคำาว่า หญงิ 
5. คลิกปุ่ม เพื่อสร้างปุ่ม Radio Button ด้านหน้า 
รายการ หญิง 
6. พิมพ์ข้อความว่า อายุ ปี เกิดวันที่ เดือน ปี พ.ศ. 
6. คลิกเมาสว์างเคอร์ด้าหลังคำาว่า อายุ 
7. คลิกปุ่ม Text Field ปรากฏกรอบเส้นประ Text 
Field ตรงตำาแหน่งเคอร์เซอร์ 
8. คลิกเมาส์ที่กรอบให้มีเส้นประ
การทำาช่องกรอกแบบ Menu 
1. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ด้านหลังคำาว่า เกดิวันที่1 
2. คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมอื Forms 
3. จะปรากฏกรอบ คลิกเลือก Type Menu จะ 
แสดงรายละเอียดเมอื่กดปุ่ม  
4. คลิกปุ่ม List Values…บริเวณแถบเครื่องมอื 
Properties 
5. ใหพิ้มพ์เลขตั้งแต่ 1 แล้วคลิกปุ่ม + เพื่อเพิ่มในช่อง 
Item Lable 
6. ทำาเหมือนข้อ 5 จนถึงเลข 31 แล้วคลิก OK 
7. จะปรากฏรายการทชี่่อง Initially Selected บน 
แถบ Properties 
8. คลิกเมนู File Preview in Browser 
9. คลิกรายการ Iexplore หรือกดปุ่ม F12 
10.คลิกปุ่ม เพื่อเลือกวันที่ 
จะปรากฏรายการตัวเลขให้เลือกวันที่
13.คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลังคำาว่า เดือน 1 
14.คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมือ Forms 
15. จะปรากฏกรอบ 
16.คลิกเลือกวงกลม List 
17.คลิกปุ่ม List Values 
18.พิมพ์ชื่อเดือน มกราคม แล้วคลิกปุ่มเคื่องหมาย + 
19.พิมพ์ชื่อเดือน กุมภาพันธ์ แล้วคลิกปุ่มเคื่องหมาย + ทำา 
เช่นนี้จนถึงเดือนธันวาคม 
20.คลิกปุ่ม Ok 
21.คลิกเมนู FilePreview in Browser  iexplore 
22.คลิกปุ่ม  เพื่อเลือกรายการที่ต้องการ 
23.คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลัง ปี พ.ศ. 
24.คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมอื Forms 
25. จะปรากฏกรอบ 
26.คลิกปุ่ม คลิกปุ่ม List Values 
27.ปรากฏหน้าต่าง List Values...
28.พิมพ์ ปี พ.ศ. 2540 แล้วคลิกปุ่มเครื่องหมาย+ 
29.พิมพ์ 2541 แล้วคลิกปุ่มเครื่องหมาย+ ทำาเช่นนจี้นถงึปี 
พ.ศ.2547 
30.คลิกปุ่ม Ok 
31.คลิกทปีุ่่ม Lise และคลิกเครื่องหมายด้านหน้า Allow 
multiple 
32. จะปรากฏกรอบ 
33.คลิกเมนู File Preview in Browseriexplore 
34. จะได้ผลลัพธ์แสดงบนจอภาพ 
35.พิมพ์ข้อความ บ้านเลขที่ แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ 
ปรากฏกรอบ 
36.พิมพ์ข้อความ หมบู่้าน แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ 
ปรากฏกรอบ 
37.พิมพ์ข้อความ ถนน แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ 
ปรากฏกรอบ 
38.พิมพ์ข้อความ แขวง/ตำาบล แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ
28.พิมพ์ข้อความ จังหวัด แล้วคลิกปุ่ม Text 
Field จะปรากฏกรอบ 
29.พิมพ์ข้อความ รหสัไปรษณีย์ แล้วคลิกปุ่ม 
Text Field จะปรากฏกรอบ 
30.พิมพ์ข้อความ เบอร์โทรศัพท์ แล้วคลิกปุ่ม 
Text Field จะปรากฏกรอบ 
31.พิมพ์ข้อความ มือถือ แล้วคลิกปุ่ม Text Field 
จะปรากฏกรอบ 
32.พิมพ์ข้อความ E-mail แล้วคลิกปุ่ม Text 
Field จะปรากฏกรอบ 
33.พิมพ์ข้อความ คลิกเมนู FilePreview in 
Brower  iexplore จะได้ผลลัพธ์
การทำาฟอร์มแบบ Check Box 
Check Box คือ การสร้างปุ่มทใี่ช้สำาหรับ 
คลิกเลือกว่าต้องการหวัข้อใดบ้าง มขีั้นตอน 
ดังนี้ 
1. พิมพ์ข้อความทตี่้องการใช้ทำา Check Box บน 
หน้าต่างทำางาน 
2. คลิกขวาวางเคอร์เซอร์ด้านหน้าของหัวข้อที่ 
ต้องการทำา Check Box 
3. คลิกปุ่ม  จากเครื่องมือ Fromes 
4. จะปรากฏกรอบ Check Box 
5. ใหท้ำาเช่นนกีั้บทกุหวัข้อทตี่้องการทำา Check 
Box 
6. คลิกเมนู File Preview in 
Browseriexplore
การทำาปุ่ม Submit และ ปุ่ม Reset 
การกรอกแบบฟอร์มขั้นตอนสุดทา้ยคือ การกดปุ่ม 
Submit เพื่อยอมรับการสมัครและ 
กดปุ่ม Reset เพื่อยกเลิกหรือทำาการกรอกแบบฟอร์มใหม่ มขีั้น 
ตอนการสร้างดังนี้ 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งทตี่้องการสร้างปุ่ม 
Submit 
2. คลิกปุ่ม  Botton เพื่อสร้างปุ่มสำาหรับบันทกึ 
3. จะปรากฏปุ่ม Submit 
4. ช่อง Label บนแถบ Properties เปลี่ยนชื่อของปุ่มจาก 
Submit เป็นยอมรับ 
5. คลิกเมาส์พนื้ที่การทำางาน ปุ่มจะเปลี่ยนเป็น ยอมรับ 
6. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลังของปุ่ม ยอมรับ 
7. คลิกปุ่ม Button จะปรากฏปุ่ม Submit อีก 1 ปุ่ม 
8. คลิกเลือกวงกลม  Reset Form 
9. จะปรากฏปุ่ม Reset 
10. เปลี่ยนชื่อช่อง Label จาก Reset เป็นยกเลิก
ส่วนประกอบของเลเยอร์ 
1. หแูลเยอร์ มไีว้เพอื่ดึง หรือลากเลเยอร์ไปตาม 
ตำาแหน่งที่ต้องการ 
วิธีการสร้างเลเยอร์ 
2. จุดปรับขนาด มจีุดสีดำาแปดจดุใช้ในการปรับ 
ขนาด ย่อ-ขยายเลเยอร์1. คลิกป้ายคำาสั่ง Layer บนแถบเครื่องมอื Insert 
2. คลิกปุ่ม Draw Layer 
3. ลากเมาส์สร้างเลเยอร์ให้ได้กรอบสี่เหลี่ยมขนาดตาม 
ต้องการ 
4. คลิกเมาส์วางเคอเซอร์ในพนื้ที่ของเลเยอร์ พิมพ์ข้อความ 
หรือ นำารูปมาวางภายในเลเยอร์ 
5. คลิกป้ายคำาสั่ง Common 
6. คลิกปุ่ม 
7. คลิกเลือกรูปภาพทตี่้องการ แล้วคลิกปุ่ม ok 
8. จะปรากฏรูปภาพในเลเยอร์
การกำาหนดค่าเลเยอร์เพิ่มเติมด้วย Properties 
1. คลิดเมาส์เลเยอร์ใหม้จีุด Handle 8 จดุ 
2. ใหป้รับแต่งค่าต่าง ๆ ทแี่ถบ Properties 
- Layer ID คือ หมายเลขอ้างอิงเลเยอร์ เวลาเรียกใช้ 
เลเยอร์สามารถตั้งชื่อได้ตามชอบใจปกติโปรแกรมจะติด 
ตั้งชื่อใหต้ามลำาดับว่า Layer1,2,3… 
- L และ T คือการกำาหนดตำาแหน่งของเลเยอร์ ด้านซา้ย 
L (Left) และด้านบน T (Top)ให้ทดลองกำาหนดตัวเลข 
ในช่อง L และช่อง T 
- W และ H คือ กำาหนดความกว้าง W (width) และ 
ความสงู H (Height) ของเลเยอร์หน่วยวัดควรจะเป็น 
พิกเซล PX (Pixel) จะช่วยให้คลาดเคลื่อนน้อยกว่าระบุ 
แบบอื่นใหท้ดลองกำาหนดตังเลขในช่อง W และช่อง H
- Z-Index คือ Stacking Order ใช้ในการเปลี่ยน 
ลำาดับเลเยอร์มีตัวเลือกต่าง ๆ เช่น 
- Default โดยส่วนใหญ่ Browser จะใช้คำาว่า 
inherit 
- Inherit ใหใ้ช้ค่าของ Visibility ของเลเยอร์ทเี่ซ็ต 
ไว้ 
- Visible ให้แสดงเลเยอร์ 
- Hidden ให้ซ่อนเลเยอร์ 
- Bg Image คือเลือกรูปภาพพื้นหลังของเลเยอร์เลือกที่ 
ไอคอนโฟลเดอร์ 
- Bg Color คือปรับแต่งเลือกสีพื้นหลังของเลเยอร์ 
- Overflow คือ ตั้งค่าแสดงเนอื้หาเลเยอร์ หรือ การตั้ง 
ค่าเผื่อรูปภาพ ทมี่ขีนาดใหย๋กว่าเลเยอร์ 
- Clip คือ การจำากัดสว่นการแสดงผลโดยมตีำาแหน่ง L
การเรียกใช้งาน Layer Palette 
1. คลิกเมนู Window 
2. คลิกรายการ Others 
3. คลิกรายการ Layer หรือกดปุ่ม F12 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Layer Palette
ประโยชน์ของ Layer Palette 
1. ใช้ในการบอกตำาแหน่งของเลเยอร์ทำาให้ทราบได้ว่าเลเยอร์ 
ใดอยู่บริเวณตำาแหน่งใด 
2. สามารถเปลี่ยนตัวเลขที่อยทู่างช่อง z ด้านขวาเพื่อจัดลำาดับ 
เลเยอร์ 
3. เมื่อต้องการจะเรียกใช้เลเยอร์ใดสามารถคลิกที่ชื่อเลเยอร์ 
ภายในช่อง Layer Palette นั้น จะทำาให้เลเยอร์ทอี่ยู่ใน 
หน้าต่างทำางานก็จะถูกเรียกไปด้วย โดยสังเกตจะปรากฏ 
จุด Handle 
4. คลิกเมาส์ทเี่ลเยอร์ 1 แล้วคลิกปุ่ม Ctrl ค้างไว้ ลากไปไว้ 
ในเลเยอร์ 2 จะทำาใหเ้ลเยอร์ซ้อนกนั 
5. ถ้าคลิกสญัญลักษณ์รูปดวงตา ใช้ในการกำาหนดว่าจะแสดง 
หรือไม่แสดงเลเยอร์ 
6. สามารถป้องกันการซอ้นทับของเลเยอร์ โดยคลิก 
เครื่องหมาย  หน้าคำาว่าPrevent Overlaps
การจัดวางเลเยอร์ด้วยกริด (Grid) 
Grid คือ การตีตารางเป็นช่อง ๆ คล้ายกับกระดาษกราฟมี 
ประโยชน์คือ ช่วยใหส้ามารถจักวางและกะระยะได้แมน่ยำา 
มากขึ้นเมื่อนำา Grid หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าจุดกริด มา 
ใช้ในการจัดวางเลเยอร์จะทำาให้การทำางานดูมีระเบียบมาก 
ขึ้น 
1. คลิกเมนู View 
2. คลิกรายการGrid 
3. คลิกรายการ Show Grid หรือกด Ctrl+Alt+Grid 
4. ปรากฏเสน้ Grid บนหน้าต่างการทำางาน 
5. คลิกเมนู View 
6. คลิกรายการ Grid 
7. คลิกรายการ Grid Settings 
8. จะปรากฏหน้าต่าง Grid Settings 
- Color: เลือกสีของเส้นกริด
- Snap to Grid: การวางเลเยอร์ใกล้เส้นกริด 
- Spacing: กำาหนดขนาดของช่องกริด ถ้าตัวเลข 
น้อย จะได้ตารางช่องเล็ก ตัวเลขมากจะได้ช่อง 
ใหญ่ 
- Display: เลือกว่าจะแสดงเส้นกริดแบบใด 
ระหว่าง Line คือ แบบเส้น Dote คือ แบบจุด
การแปลงเลเยอร์เป็นตาราง 
การออกแบบเลเยอร์สามารถกำาหนดรายระเอียด และขนาด 
ได้สะดวกกว่าการใช้ตารางหรือสร้างเลเยอร์ก่อนแล้วค่อย 
แปลงเป็นตารางทีหลังก็ได้ 
1. คลิกป้าย Layour บนแถบ Insert 
2. คลิกปุ่ม สร้างเลเยอร์บนหน้าต่างทำางาน 
3. คลิกป้าย common 
4. ปุ่ม แทรกรูปภาพในเลเยอร์ 
5. คลิกเมนู Modify 
6. คลิกรายการ Convert 
7. คลิกรายการ Layers to Table 
8. ปรากฏหน้าต่างตั้งค่า Convert Layers Table 
9. คลิกปุ่ม ok 
10. รอสักครู่เลเยอร์จะถูกเปลี่ยนเป็นตาราง
การแปลงตารางเป็นเลเยอร์ 
ตารางแปลงตารางเป็นเลเยอร์ มลีักษณ์และขั้น 
ตอนคล้ายกับการแปลงเลเยอร์เป็นตาราง โดยมี 
ขั้นตอนดังนี้ 
1. คลิกเมนู Modify 
2. คลิกรายการ Convert 
3. คลิกรายการ Tables to Layers 
4. จะปรากฏหน้าต่าง Convert Tables to 
Layers 
5. คลิกปุ่ม ok 
6. ตารางจะถูกเปลี่ยนเป็นเลเยอร์เหมือนเดิม
การสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยTimelines 
Timelines หรือ เส้นเวลาเป็นส่วนพิเศษทชี่่วยใหวั้ตถุ 
สามารถเปลี่ยนตำาแหน่ง ขนาด หรือลักษณะการแสดงผล 
แบบเคลื่อนไหวแบบออบเจ็คได้ 
• สร้างเลเยอร์ บนหน้าต่างการทำางาน 
• คลิกปุ่มเพื่อใส่รูปภาพลงในเลเยอล์ 
• จะปรากฏกรอบโต้ตอบ ให้คลิกเลือกรูปภาพทตี่้องการใส่ 
ลงในเลเยอร์ แล้วคลิกปุ่ม ok 
• จะปรากฏรูปภาพภายในเลเยอร์ ใหป้รับขนาดรูปภาพให้ 
เหมาะสมไม่ควรใหญ่เกินไป 
• คลิกเมนู Window 
• คลิกรายการ Others 
• คลิกรายการTimelines 
• จะปรากฏพาเนล Timelines 
• คลิกเลเยอร์ให้มีจุดล้อมรอบ 
• คลิกเมนู Modify  Timeline  Add Object to 
Timeline
พิมพ์ชื่อเลเยอร์ ช่อง Layer ID ว่า Logo 
คลิกเมาส์คีย์เฟรมจุดสุดท้ายของแถบเคลื่อนที่ 
15.คลิกเลื่อนเลเยอร์ไปวางยังตำาแหน่งทตี่้องการเคลื่อนที่ เช่น 
เลื่อยไปวางด้านหน้าจะปรากฏเส้นการเคลื่อนที่ 
16.ถ้าต้องการใหเ้ส้นการเคลื่อนทเี่ป็นเส้นโค้ง ให้กดปุ่ม Ctrl 
ค้างไว้ 
17.คลิกทเี่ฟรมตรงส่วนทตี่้องการใหโ้ค้ง เช่น ตรงกลาง ให้ 
คลิกเฟรม 10 
18.คลิกเมนู Modify  Timeline Add Keyframe 
19. ให้คลิกหูดึงด้านบนเลเยอร์เพื่อเลื่อนเส้นการเคลื่อนที่ให้โค้ง 
ขึ้น 
20. จะได้เส้นการเคลื่อนที่โค้ง 
21.คลิกปุ่ม ➨ Play ในพาเนล Timelines ค้างไว้เพื่อดุการ 
เคลื่อนที่ของภาพ หรือ กำาหนด การแสดงผลบนแถบ
15.ทดลองดูผลที่ได้ในเว็บบราวเซอร์ กดปุ่ม F12 
หรือคลิกเมนู FilePreview in Browser 
คลิกรายการ iexporer 
16.ปรากฏหน้าต่าง Internet explorer การ 
เคลื่อนที่ของรูปภาพ 
17. ให้คลิกเคลื่องหมาย √หน้าสี่เหลี่ยม Loop 
กำาหนดให้แสดงแบบวนรอบ 
18. ให้กดปุ่ม F12 เพื่อดูผลที่ได้ในเว็บบราวเซอร์อีก 
ครั้ง จะวนรอบไปเรื่อย ๆ
การเคลื่อนที่แบบอิสระ 
1. สร้างเลเยอร์ บนหน้าต่างการทำางาน 
2. คลิกปุ่ม ใสรู่ปภาพลงในเลเยอร์ 
3. จะปรากฏหน้าต่างให้คลิกเลือกรูปภาพที่ต้องการ 
ใสล่งในเลเยอร์ แล้วคลิกปุ่ม ok 
4. จะปรากฏรูปภาพลงในเลเยอร์ ใหป้รับขนาดของ 
รูปภาพให้เหมาะสมแล้วคลิกให้มีจุดล้อมรอบ 
5. คลิกเมนู ModifyTimelineRecord Path 
of Layer 
6. คลิกหูเลเยอร์ลากไปทางซ้ายตามเส้นทางที่ 
ต้องการเคลื่อนที่ 
7. ปรากฏหน้าต่าง Dreamweaver คลิกปุ่ม ok 
8. คลิกปุ่ม Play ค้างไว้เพอื่ดูการเคลื่อนทขี่องภาพ 
9. ทดลองดูผลที่ได้ในเว็บบรางเซอร์ กดปุ่ม F12
การเคลื่อนที่พร้อมกันหลายเลเยอร์ 
1. สร้างเลเยอร์บนหน้าต่างการทำางาน 2 เลเยอร์ 
2. เลเยอร์แรกใหพิ้มพ์ข้อความ เลเยอร์ที่สองใหใ้ส่ 
รูปภาพ 
3. คลิกเลเยอร์แรกให้มีจุดล้อมรอบ 
4. คลิกเมนู Modify  Timeline  Add 
Object to Timeline 
5. คลิกเลเยอร์ที่สองให้มีจุดล้อมรอบ 
6. คลิกเมนู Modify  Timeline  Add 
Object to Timeline 
7. คลิกเมาส์เฟรมจดุสุดทา้ยของแถบเคลื่อนที่ Text 
8. คลิกลากหูเลเยอร์ของข้อความเลื่อนไปทางขวา 
9. คลิกเมาส์คีเฟรมจุดสุดท้ายของแถบเคลื่อนที่ 
Logo
การปรับตำาแหน่งคีย์เฟรม 
1. ลากคีย์เฟรมสุดท้ายเลื่อนไปยังตำาแหน่งที่ต้องการ 
2. กดปุ่ม Alt ค้างไว้ถ้าต้องการเลื่อนคีย์เฟรมบาง 
ตำาแหน่ง 
การเปลี่ยนจุดเวลาเริ่มต้นของการเคลื่อนที่ 
1. เลือกแถบการเคลื่อนทที่ตี่้องการ หรือกดปุ่ม 
Shift ถ้าต้องการเลือกหลาย ๆ แถบ 
2. ลากแถบการเคลื่อนที่ไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนจุดเริ่ม 
ต้น 
การเพิ่ม/ลบเฟรมในเส้นเวลา 
1. คลิกขวาทตี่ำาแหน่งเฟรม จะปรากกเมนูลัด ให้ 
เลือกใหเ้ลือก Add Frame เพิ่มเฟรมหรือ 
Remove Frame ลบเฟรม 
2. คลิกเมนู Modify Timeline  Add Frame 
เพิ่มเฟรมหรือ
การเพิ่มเส้นเวลา 
1. คลิกเมนู ModifyTimeline Add 
Timeline 
การเรียกใช้เส้นเวลา 
1. เลือกชื่อเส้นเวลาจากพาเนล Timelines 
การเปลี่ยนชื่อเส้นเวลา
การเปลี่ยนชื่อเส้นเวลา 
• เลือกเส้นเวลาที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ 
• คลิกเมนู ModifyTimelineRename 
Temeline 
• พิมพ์ชื่อลงในส่วนของชื่อเส้นเวลาในพาเนล 
Temeline 
• พิมพ์ชื่อลงในช่อง Timeline Name:
การนำาไฟล์ Flash มาแสดงในหน้าเว็บเพจ 
Flash เป็นโปรแกรมสร้างสรรค์ประเภท ซงึ่อยคู่่ายเดียว 
กับ Dreamweaver โดย Flash สามารถใช้ออกแบบผล 
งานทั่วไป และผลงานทแี่สดง Browser ได้ 
สำาหรับผลงานทจี่ะนำามาใชใ้นการทำาเว็บเพจ แสดงผล 
ทาง Browser ได้นั้น จะต้องเป็ยไฟล์สกุล. Swf (Flash 
Movie) เทา่นนั้เพราะฉะนนั้ต้องมไีฟล์สกุล .swf ก่อนจึง 
จะทำาตามขั้นตอนนี้ได้ 
1. วางเคอร์เวอร์บนพื้นที่หน้าต่างการทำางาน 
2. คลิกปุ่มแทรก Flash หรือเมนู Insert เลือกรายการ 
Media Flash 
3. คลิกเลือกไฟล์ Flash ทจี่ะนำามาใช้งาน 
4. คลิก ok 
5. รอสกัครู่จะแสดงที่ตั้งของไฟล์ Flash 
6. ทดสอบการแสดงผลทาง Browser โดยกดปุ่ม F12
วิธีสร้างปุ่มกดด้วย Flash Button 
1. วางเคอร์เซอร์บนพื้นที่การทำางาน 
2. คลิกเมนู InsertInteractive 
ImagesFlash Button 
3. จะปรากฏหน้าต่างเตือนให้บันทึกไฟล์ก่อนใช้งาน 
ไฟล์ Flash Button 
4. จะปรากกหน้าต่าง Insert Flash Buton ขึ้นมา 
ให้เลือกแบบปุ่มที่ต้องการ 
5. จะได้ปุ่ม Flash ตามทเี่ลือก 
6. คลิกสัญลักษณ์ให้มีจุดล้อมรอบ 
7. ปรับตำาแหน่งและขนาดของ Flash Button ที่ 
แถบพาเนล Properties 
6. คลิกเมนู FilePreview in 
Browseriexplore
การสร้างข้อความจุดเชื่อมโยงด้วย Flash Text 
Flash text เป็นส่วนที่ใช้ในการสร้างจุดเชื่อม 
โยงไปยังตำาแหน่งต่าง ๆ เมื่อผู้ชมคลิกทบี่ริเวณ 
ข้อความเชื่อมโยงไปยังตำาแหน่งที่กำาหนดได้ 
• คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างการทำางาน 
• คลิกเมนู InsertInteractive 
ImagesFlash Text 
• ปรากฏหน้าต่าง Insert Flash Text กำาหนดค่า 
ต่าง ๆ 
• คลิกปุ่ม Ok จะปรากฏออบเจ็กทข์อง Flash text 
• กดปุ่ม F12 ดูผลบนเว็บบราวเซอร์
การใส่ Shockwave movie,ActiveX control,Java 
applet 
1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างทำางาน 
2. คลิกเมนู InsertMediaShockwave หรือ 
ActiveX หรือ Java Applet หรือเลือกจากแทบ็ 
Media 
3. เลือกไฟล์ที่ต้องการ 
4. คลิก ok
การใส่ไฟล์เสียงลงในเว็บเพจ 
การใส่ไฟล์เสียงที่สามารถนำามาใช้ได้จะมีอยู่ 
ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งตาละชนิดก็จะมขี้อดีข้อ 
เสียในการนำามาใช้ในเว็บเพจต่างกัน อีกทั้งยัง 
ต้องการโปรแกรมเสริม (Plug-in) ในการแสดง 
ผลที่ต่างกัน 
ขั้นตอนการใส่ไฟล์เสียงลงในเว็บเพจ 
1. คลิกเมาส์วางเคอรืเซอร์บนหน้าต่างการทำางาน 
ตำาแหน่งที่ต้องการ 
2. คลิกเมนู Insert MediaPlugin หรือคลิกปุ่ม 
3. จะปรากฏไฟล์เสียง 
4. คลิกปุ่ม ok 
5. จะปรากกสัญลัษณ์การใส่ไฟล์เสียง 
6. กดปุ่ม F12 หรือ คลิกเมนู FilePreview in 
Browser iexplorer
โครงสร้างของ CSS 
รูปแบบโครงสร้างของ Style Sheets ของ CSS 
จะใช้แท็ก <STYLE> ในการกำาหนดคุณลักษณะ 
ของเว็บเพจ เช่น รูปแบบตัวอักษร ขนาด สี ซึ่ง 
สามารถกำาหนดใหเ้ชื่อมโยงไปยังเว็บเพจ หรือสร้าง 
จุดเชื่อมโยงไปยังไฟล์ *.CSS ที่เก็บรูปแบบ CSS 
ไว่ได้ โครงสร้างของ CSS มรีูปแบบดังนี้ 
การเปิดหน้าต่าง CSS Styles Sheets 
1. คลิกเมนู window 
2. เลือกรายการ CSS Styles 
3. จะแสดงหน้าต่าง CSS Styles
การสร้าง CSS Style Sheetsใหม่ 
1. คลิกทปีุ่่มในหน้าต่าง Desing ป้ายคำาสั่ง CSS 
Style 
2. จะปรากฏหน้าต่าง New CSS Style 
3. ใหก้ำาหนดรายละเอียด ช่อง Name: ตั้งชื่อใหกั้บ 
Style ตามต้องการ 
4. กำาหนดชนิดของ CSS ช่อง Type: Make 
Custom Style (Class) กำาหนดรูปแบบเอง 
 Redefine HTML Tag CSS Tag 
HTML 
Use CSS Selector 
1. คลิก  ช่อง Define In: กำาหนดทเี่ก็บ CSS 
Style Sheet ต้องการเลือกเก็บไว้ที่ใด 
เลือก New Style Sheet File ใหอ้อกแบบ
1. คลิกปุ่ม Ok 
2. ปรากฏหน้าต่าง Save Style Sheet File 
As 
3. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์และตั้งชื่อไฟล์ 
4. คลิกปุ่ม Save 
5. ปรากฏหน้าต่าง CSS Style Sheet File 
As
11.คลิก  Font เลือกแบบตัวอักษร 
12.คลิก  Suze กำาหนดขนาดตัวอักษร 
13.คลิก  Style กำาหนดลักษณะตัวอักษร 
14.คลิก  Line Height กำาหนดความยางของเส้น 
15.คลิกเครื่องหมาย √Decoration เลือกค่าที่ 
ต้องการปรับแต่ง ภายในกรอบสี่เหลี่ยม 
16.คลิก  Weight เลือกนำ้าหนัก 
17.คลิก  Variant เลือกรูปแบบปกติหรือ 
เปลี่ยนแปลง 
18.คลิก  Case เลือกรูปแบบของตัวอักษร 
19.คลิก Color เลือกสีของตัวอักษร 
20.คลิกปุ่ม Ok 
21.จะได้ไฟล์ CSS ทอี่อกแบบไว้แสดงอยู่ที่ CSS 
Style Panel
การเปิดใช้งาน CSS Style Sheets 
1. เลือกข้อความที่ต้องการจัดรูปแบบให้มีแถบสี 
2. คลิกเมาส์ที่ Style ทตี่้องการกำาหนดรูปแบบ ให้ 
หน้าต่าง CSS Style 
3. จะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ 
4. การดูไฟล์ทบีั่นทกึไว้ ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ .CSS เพื่อดู 
โค้ด จะปรากฏป้ายแถบ Style ทแี่ถบด้านล่างจะ 
ปรากฏ Code บนหน้าต่างทำางาน
การแก้ไข CSS Style Sheets 
1. คลิก  Edit Style ใหม้จีุดสีดำา 
2. ดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ CSS คลิกขวาทชีื่่อไฟล์ CSS 
จะปรากฏเมนูลัด 
3. คลิกรายการ Edit 
4. จะปรากฏหน้าต่าง CSS Style Definition For 
.unnamed 1 
5. แก้ไขรายการต่าง ๆ แล้วคลิก Ok
การเปิดใช้งาน CSS Style Sheets สำาเร็จรูป 
1. คลิกเมนู Fine 
2. คลิกรายการ New 
3. ปรากฏหน้าต่าง New Document 
4. คลิกรายการ CSS Style Sheets ใหม้แีถบสี 
5. ด้านขวาแสดงรายชื่อไฟล์ ใหเ้ลือก Style ที่ 
ต้องการ ดูตัวอย่างในช่อง Preview 
6. คลิกปุ่ม Create
การจัดเมนูด้วย 
HTML Style ใช้สำาหรับสร้างรูปแบบตัวอักษร 
ใหกั้บข้อความทเี่ลือกหรือย่อหน้านนั้ ๆโดยจะ 
กำาหนด Attribute ใหกั้บตัวอักษร จะทำาให้ 
สามารถสร้างข้อความได้รวดเร็วและง่ายขึ้น 
การสร้าง HTML Style 
1. คลิกปุ่ม ป้าย HTML Style 
2. ปรากฏหน้าต่าง Define HTML Style 
3. ตั้งชื่อช่อง Name: Hstyle 1 
4. Apply to: เลือกแบบ Selection 
5. Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษรเลือก Abgsana 
UPC 
กำาหนดขนาดของตัวอักษร เลือก
การสร้าง HTML Style แบบ Paragraph 
1. คลิกปุ่มป้าย HTML Style 
2. ปรากฏหน้าต่าง Define HTML Style 
3. ตั้งชื่อช่อง Name: Hpragraph 
4. Apply To: เลือกแบบ Paragraph 
5. Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษรเลือก Angsana 
UPC 
6. Size: กำาหนดขนาดของตัวอักษร เลือก 4 
7. Color: กำาหนดสีของตัวอักษร สีนำ้าเงิน 
8. Style: กำาหนดลักษณะตัวอักษรเลือก B ตัวหนา 
9. คลิกปุ่ม Ok 
10.จะได้ไฟล์ Hparagraph 1
การเปิดใช้งาน HTML Style 
ก่อนใช้งาน HTML Style ใหสั้งเกต 
สญัลักษณ์ของ HTML Style 
- สญัลักษณ์ แสดงว่าเป็นการกำาหนดแบบ 
Selection 
- สญัลักษณ์ แสดงว่าเป็นการกำาหนดแบบ 
1. เลือกข้อความใหม้แีถบสี กรณีใช้แบบ Selection 
2. คลิกไฟล์ HStyle 1 
3. สงัเกตผลที่ได้บนหน้าจอภาพ จะเปลี่ยนไปตาม 
รูปแบบที่กำาหนดไว้ 
3. คลิกเมาสวางเคอร์เซอร์ที่ข้อความบรรทัดใดก็ได้ 
4. คลิกเมาสไ์ฟล์ Hparagraph 1 
5. สงัเกตผลที่ได้บนหน้าจอภาพ จะเปลี่ยนไปตาม 
รูปแบบที่กำาหนดไว้
การยกเลิกรูปแบบ HTML Style 
1. คลิกเลือกข้อความที่ต้องการยกเลิกรูปแบบให้มี 
แถบสี 
2. คลิก ไฟล์ทปี่้าย HTML Style มรีูปแบบการ 
ยกเลิก 2 รายการ คือ 
- Clear Selection Style เพื่อลบรูปแบบของ 
ข้อความแบบตัวเลือกที่กำาหนดไว้ 
- Clear Paragraph Style เพื่อลบรูปแบบ 
ของย่อหน้าที่กำาหนดไว้ 
3. ให้คลิกเลือกรายการที่ต้องการใช้งาน 
4. สังเกตดูผลลัพธ์บนจอภาพ
การแก้ไข HTML Style 
1. ดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ HTML Style จะปรากฏ 
หน้าต่างตัวเลือกให้แก้ไข 
2. ใหแ้ก้ไขรูปแบบทตี่้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ เช่น 
เปลี่ยนขนาดตัวอักษรเป็น 6 
3. เปลี่ยนช่อง Color : เป็นสเีขียว 
4. คลิกปุ่ม Ok 
5. ทดลองคลิกชื่อไฟล์ Hparagraph 1 ใหม่อีกครั้ง 
เพื่อดูผลที่ได้บนหน้าจอภาพ
การใช้ Behaviors 
Behaviors เป็นการเพมิ่สีสัน หรือเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ให้ 
กับเอกสารเว็บเพจ เช่นการทำาภาพเคลื่อนไหว หรือตอบ 
สนองต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ การใช้ Behaviors ใน 
Macromedia Dreamweaver MX นั้น เป็นการสร้าง จา 
วาสคลิปต์ในรูปแบบของคำาสั่งสคลิปต์ 
< Script Language = “ JavaScript” > 
การสร้างเมนูย่อย Popup Menu 
Popup Menu เป็นเครื่องมือที่ใช้กันอยู่ทั่วไปตามเว็บไซต์ 
ต่าง ๆ ช่วยให้สะดวกในการค้นหาข้อมลูบนเว็บ โปรแกรม 
Dreamweaver MX มีความสามารถในสร้างเมนูย่อยได้ 
สะดวกและง่าย 
ขั้นตอนการสร้างเมนุย่อย Popup Manu 
1. สร้างตาราง 1 Rows 3 Columns บนจอภาพ 
2. พิมพ์ข้อความหัวข้อเมนู 
3. เลือกข้อความช่อง ดาวโหลด ใหม้แีถบสีดำาคลุม 
4. คลิก Browse for File ช่อง Link 
คลิกเลือกไฟลื ลิงค์ทตี่้องการกำาหนด
1. คลิกปุ่ม Ok 
2. ปรากฏชอื่ไฟล์ทตี่้องการเชื่อมโยง ช่อง Link 
3. คลิกทปีุ่่ม ของหน้าต่าง Behavior 
4. คลิกรายการ Show Pop-Up Menu 
5. ปรากฏหน้าตา่ง Show Pop-Up Menu 
11.พิมพ์ข้อความช่อง Text: Programs 
12.คลิก ข้อความช่อง Target : เลือก _blank 
13.คลิก  ช่อง Link : เลือกเว็บเพจทตี่้องการ 
กำาหนด 
14.คลิกเมนู  จะเพิ่มรายการแสดงด้านล่าง
11.คลิกป้าย Appearance เพอื่กำาหนดลักษณะรูป 
แบบของ Pop – Up Menu 
12.ช่อง Vertical Menu คลิก  เลือกรูปแบบแนว 
ตั้งหรือแนวนอน 
13.ช่อง Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษร 
14.ช่อง Size: กำาหนดขนาดตัวอักษร 
15.ช่อง Up state: และ Over state: กำาหนด 
รูปแบบเมนู 
16.คลิกป้าย Advanced เพอื่กำาหนดขนาดของ 
Pop-Up Menu 
17.คลิกป้าย Position เพื่อกำาหนดตำาแหน่งการวาง 
Pop-Up Menu 
18.คลิก Menu Position รูปที่ 2 ใหถู้กเลือก 
19.คลิกปุ่ม OK
การสมัครขอใช้พื้นที่ฟรีบนอินเตอร์เน็ต 
การสมคัรขอใช้พื้นทฟี่รีบนอินเตอร์เน็ต มเีว็บไซต์ 
ทใี่ห้บริการพนื้ที่ฟรีอยมู่ากมาย แต่จะมโีฆษณาของ 
เว็บไซต์ทขี่อใช้บริการฟรีติดอยดู่้วย เพอื่เป็นการ 
ประชาสัมพันธ์ให้กับเว็บไซต์ที่เราใช้บริการฟรี 
ตัวอย่างรายชอื่เว็บไซต์ทใี่ห้บริการฟรี ( ของต่าง 
ประเทศ ) 
www.geocities.com 11 mb 
www.100megsfee.com 100 mb 
www.50megs.com 50 mb 
www.Freewebpage.ore 150 mb 
www.angelfire.lycos.com 20 mb 
www.fortunecity.com
ตัวอย่างรายชอื่เว็บไซต์ทใี่ห้บริการฟรี 
( ของไทย ) 
www.thai.net 10 mb 
www.thaitopsites.com 20 mb 
www.thai4free.com ไม่จำากัดเนื้อที่ 
www.se-ed.net 15 mb 
www.thcity.com 11mb 
www.etccafe.com ไม่แน่ชัด
ขั้นตอนการสมคัรขอใช้พื้นทฟี่รีของ Geocities 
1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ WWW.geocities.com เพอื่เปิดหน้าต่าง 
เว็บไซต์นี้บนจอภาพ 
2. คลิกคำาว่า Free สีนำ้าเงิน 
3. คลิกปุ่ม Sing up ด้านขวา 
4. คลิกคำาว่า sign up now 
5. ปรากกหน้าต่างใหก้รอกรายละเอียดส่วนตัว ในหน้าต่าง 
แบบฟอร์ม GeoCities 
6. เมอื่กรอกเรียบร้อย ใหค้ลิกปุ่ม Submit This Firm 
7. ปรากฏหน้าต่าง Registration Completed: Welcome 
to Yahoo !ampakultumyotin คือการลงทะเบียนเสร็จ 
สิ้นเรียบร้อย 
8. คลิกปุ่ม Continue to Yahoo ! 
9. รอสกัครู่จะปรากกหน้าต่างให้เลือกหัวข้อโฆษณาอย่างน้อย 
1 หัวข้อ 
10.คลิกปุ่ม Continue
1. ถา้ต้องออกแบบเว็บผ่านทาง 
geocities.com ใหค้ลิกปุ่ม Build Your 
Web Site Now ! 
2. จะปรากฏหน้าต่าง geocities มีชอื่ URL 
ที่สมัครไว้พร้อมมีการนำาเสนอขั้นตอนการ 
ออกแบบเว็บผ่านทาง geocities.com มา 
ให้อีกด้วย
การ ( Upload ) 
การอัพโหลด (Upload) คือ การนำาข้อมลูขึ้นสู่ 
Web Server ซึ่งทำาให้เกิดการแสดงผลบน 
อินเตอร์เน็ตได้ เมอื่ออกแบบเรียบร้อยต้องทำากา 
รอัฟโหลดข้อมลู ซึ่งมี 2 แบบ คือ 
1. แบบบราวเซอร์ Browser 
2. แบบ FTP File Transfer Protocol 
ขั้นตอนการอัพโหลดแบบ Browser 
1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ www.geocities.com 
2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ geocities 
3. พิมพ์ชื่อทตีั่้งไว้ช่อง Yahoo ID: 
4. พิมพ์รหสัผ่านช่อง Password: 
5. คลิกปุ่ม Sign in 
6. ช่อง Advanced Toolbox ใหค้ลิกรายการ Easy 
Upload
1. คลิกปุ่ม Browse… เพอื่หาไฟล์เว็บเพจทตี่้องการ 
อัพโหลด ให้เลือกไฟล์แรกคือ Index.html ก่อน 
เป็นหน้าแรกสุด เลือกไฟล์ชอ่งละ 1 ไฟล์จนครบ 
หมด 
2. ใหค้ลิกปุ่ม Upload Files 
3. เรียบร้อยแล้ว พิมพ์เว็บไซตท์ี่ตั้งไว้ทดสอบ 
ผลลัพธ์บนอินเตอร์เน็ต 
ขั้นตอนการอัพโหลดแบบ FTP 
ต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนการอัพโหลด ในทนีี่้ใช้ 
โปรแกรม CuteFTP เริ่มจากการติดตั้งโปรแกรม 
CuteFTP ก่อนจึงทำาการอัพโหลด
การติดตั้งโปรแกรม CuteFTP 
1. ดับเบิ้ลคลิกไอคอล CuteFTP 
2. ปรากฏหน้าต่างการติดตั้งโปรแกรม CuteFTP 
3. คลิกปุ่ม Next 
4. คลิกปุ่ม Yes 
5. คลิกปุ่ม Next 
6. คลิกปุ่ม Next 
7. รอสกัครู่ติดตั้งจนครบ 100% 
8. คลิกปุ่ม Finish 
9. จะปรากฏหน้าต่าง CuteFTP Connection Wizard ตั้ง 
ชื่อ FTP Site 
10.คลิกปุ่ม Next 
11.ปรากฏหน้าต่างใหใ้ส่ชื่อ FTP Address ( ทอี่ยู่ของเว็บที่ 
ใช้ในการอัพโหลดแบบ FTP ) เว็บทสี่ามารถอัพโหลดแบบ
12.คลิกปุ่ม Next 
13.ปรากฏหน้าตา่งใหใ้ส่ User name และ Password 
ตามที่ได้ตั้งไว้เมื่อตอนลงทะเบียนสมัครขอพื้นที่ 
14.คลิกปุ่ม Next 
15.คลิกปุ่ม  เพื่อเลือก Folder ทเี่ป็นค่าตั้งต้นในการ 
อัพโหลด ( หรือถา้ไมต่้องการกำาหนดให้ข้ามขั้นตอน ) 
16.คลิกปุ่ม Next 
17.คลิกปุ่ม Finish เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ขั้นตอนการใช้โปรแกรม Cite FTP ในการอัพโหลด 
1. คลิกปุ่ม Start 
2. คลิกรายการ Proframs 
3. คลิกรายการ GlobalSCAPECuteFTP Home 
Cute FTPHome 
4. ปรากฏหน้าต่างโปรแกรม และจะทำาการเชื่อมต่อ 
Server ที่เราตั้งค่าไว้โดยอัตโนมัติ
การอัพโหลดโดยใช้โปรแกรม CuteFTP 
มี 2 แบบ คือ 
1. แบบที่ 1 คลิกไฟล์ ลากค้างไว้ แล้วปล่อยทาง 
ด้านขวา 
1. เลือกคลิกไฟล์ 1 ไฟล์หรือหลาย ๆ ไฟล์พร้อมกัน 
2. ลากค้างไว้แล้วปล่อยลงในหน้าต่างด้านล่าง 
2. แบบที 2 
1. เลือกคลิกไฟล์หลายๆ ไฟล์พร้อมกันใหม้แีถบสี 
2. คลิกเมาส์ขวาปรากฏเมนูลัด 
3. คลิกรายการ Upload 
4. โปรแกรมจะทำาการอัพโหลดขึ้นบน Server
การใช้บริการ Webboard Guestbook Counter ฟรี 
1. http://www.212cafe.com/freewebboard 
2. http://www.th2.net 
3. http://www.212server.com 
4. http://www.icygang.com/freewebboard 
ตัวอย่างการขอใช้เว็บบอร์ดฟรี 
1. ปิดเว็บไซต์ 
ชื่อhttp://www.212cafe.com/freewebboard 
2. ปรากฏ 
หน้าต่างhttp://www.212cafe.com/freewebbo 
ard 
3. ให้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม 
4. คลิกปุ่ม Submit
การขอใช้บริการสมดุเยยี่ม Guestbook 
1. http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 
2. http://frestbookcentral.com 
3. http://freecenter.com/guestbook.html 
4. http://toolzone.com 
5. http://boxchart.com 
ตัวอย่างการขอใช้บริการสมุดเยยี่ม Guestbook 
1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ 
http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 
2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ 
http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 
3. คลิกรายการ สมคัรสมาชิก คลิกทนีี่่ ! 
4. รอสกัครู่จะปรากฏหน้าต่างแสดงเงื่อนไข คลิกปุ่ม ตกลง 
5. ปรากฏหน้าต่างปรับค่าต่าง ๆ ของสมดุเยยี่ม กรอกราย
รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการตัวนับจำานวนผู้เข้าชม 
1. http://www.zcounter.com 
2. http://www.freecenter.com/counter.html 
3. http://www.counted.com 
4. http://www.acecounter.com 
5. http://www.free-counters.co.uk 
6. http://www.stats4all.com 
ตัวอย่างการขอใช้บริการขอใช้บริการตัวนับจำานวน 
ผู้เข้าชม 
1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ http://www.zcounter.com 
2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ 
http://www.zcounter.com 
3. พิมพ์ User Login:
4. คลิกทขี่้อความว่า Sign up for a Free 
Counter 
5. กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบ 
6. คลิกทปีุ่่ม Sing Up 
7. รอสกัครู่ การลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ 
8. คลิกทขี่้อความว่า Here เพื่อทำาการ Login 
9. ระบุช่อง User Login: 
User Password:
busines

More Related Content

What's hot

เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excelเอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน ExcelLerdrit Dangrathok
 
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้นPdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้นkrusan03
 
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์Suthida23
 
การใช้
การใช้การใช้
การใช้Thammapricha
 

What's hot (10)

Word2
Word2Word2
Word2
 
Lesson8
Lesson8Lesson8
Lesson8
 
Word1
Word1Word1
Word1
 
Knowlage14
Knowlage14Knowlage14
Knowlage14
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excelเอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
 
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้นPdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
Pdfคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
 
รู้จักกับโปรแกรม adobe flash cs3
รู้จักกับโปรแกรม adobe flash cs3รู้จักกับโปรแกรม adobe flash cs3
รู้จักกับโปรแกรม adobe flash cs3
 
การใช้
การใช้การใช้
การใช้
 
Lesson5
Lesson5Lesson5
Lesson5
 

Similar to busines

การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้น
การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้นการใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้น
การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้นkrunoommr
 
ตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานKriangx Ch
 
Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Wee Jay
 
Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Wee Jay
 
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3Pop Thakonwan
 
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษรการแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษรpanisa
 
ใบความรู้ที่ 2 การป้อนและแก้ไขข้อมูล
ใบความรู้ที่ 2  การป้อนและแก้ไขข้อมูลใบความรู้ที่ 2  การป้อนและแก้ไขข้อมูล
ใบความรู้ที่ 2 การป้อนและแก้ไขข้อมูลMeaw Sukee
 
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layoutการจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ LayoutKhon Kaen University
 
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์ Dream
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์  Dreamคู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์  Dream
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์ Dreamsommat
 
powerpoint2007
powerpoint2007powerpoint2007
powerpoint2007krupairoj
 
แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3wattaree
 
Macromedia dreamweaver 8
Macromedia dreamweaver 8Macromedia dreamweaver 8
Macromedia dreamweaver 8Nadda Laosakul
 

Similar to busines (20)

การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้น
การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้นการใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้น
การใช้ Frontpage 2003 เบื้องต้น
 
ตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงาน
 
Projectpowerpoint
ProjectpowerpointProjectpowerpoint
Projectpowerpoint
 
Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007
 
Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007Microsoft office power point 2007
Microsoft office power point 2007
 
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3
ใบความรู้หน่วยที่6ตัวอักษร+animation3
 
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษรการแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร
การแทรกรูปภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร
 
ใบความรู้ที่ 2 การป้อนและแก้ไขข้อมูล
ใบความรู้ที่ 2  การป้อนและแก้ไขข้อมูลใบความรู้ที่ 2  การป้อนและแก้ไขข้อมูล
ใบความรู้ที่ 2 การป้อนและแก้ไขข้อมูล
 
Word2007
Word2007Word2007
Word2007
 
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layoutการจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
การจัดการเว็บเพจ การออกแบบหน้าด้วยตารางและ Layout
 
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์ Dream
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์  Dreamคู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์  Dream
คู่มือประกอบการสร้างเว็บไซต์ Dream
 
powerpoint2007
powerpoint2007powerpoint2007
powerpoint2007
 
แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3
 
Macromedia dreamweaver 8
Macromedia dreamweaver 8Macromedia dreamweaver 8
Macromedia dreamweaver 8
 
Word2007
Word2007Word2007
Word2007
 
เอกสารประกอบการสอน Dreamweaver8 ม.6
เอกสารประกอบการสอน  Dreamweaver8 ม.6เอกสารประกอบการสอน  Dreamweaver8 ม.6
เอกสารประกอบการสอน Dreamweaver8 ม.6
 
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
 
Joomla2-5-article-manager
Joomla2-5-article-managerJoomla2-5-article-manager
Joomla2-5-article-manager
 
Powerpoint
PowerpointPowerpoint
Powerpoint
 
Pwpdata 7.1-7.4
Pwpdata 7.1-7.4Pwpdata 7.1-7.4
Pwpdata 7.1-7.4
 

More from Tolaha Diri

More from Tolaha Diri (6)

EX
EXEX
EX
 
SMEs
SMEsSMEs
SMEs
 
Design
DesignDesign
Design
 
farmland
farmlandfarmland
farmland
 
farmland
farmlandfarmland
farmland
 
1 การเขียนแบบเบื้อนต้น
1 การเขียนแบบเบื้อนต้น1 การเขียนแบบเบื้อนต้น
1 การเขียนแบบเบื้อนต้น
 

busines

  • 1.
  • 2.
  • 3. การติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver MX เตรียมการติดตั้งโปรแกรม 1. เตรียมโปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX 2. เตรียมโปรแกรม Dreamweaver MX Thai addo ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม 1. นำาแผ่น CD โปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX ใสที่่ไดรว์ CD-ROM 2. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน My Computer 3. ดับเบิ้ลคลิกไดรว์ CD-ROM 4. ดับเบิ้ลคลิกโฟลเดอร์ Macromedia Dreamweaver MX 5. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน คือ Dreamweaver MX Installer.exe 6. จะปรากฏหน้าต่าง Welcome to the InstallShield Wizard for Dreamweaver MX 7. จะปรากฏหน้าต่างแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของ
  • 4. 9. จะแสดงโฟลเดอร์สำาหรับจัดเก็บโปรแกรม คลิกปุ่ม Next 10. เลือกชนิดของไฟล์ที่จะใช้ร่วมกับ Dreamweaver แล้วคลิกปุ่ม Next 11. หน้าต่างนโี้ปรแกรมพร้อมทจี่ะทำาการติดตั้ง ให้ คลิกปุ่ม Next 12. เริ่มทำาการติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver รอ ใหโ้ปรแกรมติดตั้งจนครบ 100% 13. เมอื่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ให้คลิกปุ่ม Finish
  • 5. การติดตั้งภาษาไทย Dreamweaver MX Thai addo 1. ดับเบิ้ลคลิกโฟลเดอร์ 2. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน 3. คลิกปุ่ม Next 4. คลิกปุ่ม Next 5. โปรแกรมจะแสดงรายละเอียดทไี่ด้เลือกมา ให้คลิก ปุ่ม Install 6. เมอื่ติดตั้งสิ้นสุด ให้คลิกปุ่ม Finish
  • 6. การเข้าสู่โปรแกรม Dreamweaver MX ขั้นตอนเข้าสู่โปรแกรม Dreamweaver MX 1. คลิกปุ่ม Start 2. คลิกรายการ Programs หรือ คลิก All Programs 3. คลิกรายการ Macromedia 4. คลิกโปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX 5. ถา้เข้าโปรแกรมครั้งแรก ให้คลิกปุ่ม x (close) จะปรากฏ โปรแกรม Macromedia Dreamweaver MX
  • 7.
  • 8. ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ใหม่ 1. คลิกเมนู Site เลือกรายการNew Site 2. จะปรากฏหน้าต่าง ให้ตั้งชื่อเว็บไซต์ 3. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ว่า Mysite แล้วคลิกปุ่ม Next 4. จะปรากฏหน้าต่างถามว่าต้องการใช้หรือไม่ใช้เว็บ เซริ์ฟเวอร์จำาลองในการทดสอบใหเ้ลือกเป็น คลิก NO, I do not want to use a sever technology. แล้ว คลิกปุ่ม Next 5. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ลือกโฟลเดอร์ทตี่้องการเก็บไฟล์ต่าง ๆ แล้วคลิกปุ่ม Next 6. จะปรากฏหน้าต่างใหเ้ลือกรูปแบบการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ ใหค้ลิกเลือก None 7. แล้วคลิกปุ่ม Next 8. แล้วคลิกปุ่ม Done
  • 9. ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ใหม่ ด้วยป้านคำาสั่ง Advanced 1. คลิกเมนู Site คลิกรายการ New Site 2. จะปรากฏหน้าต่าง ใหตั้้งชื่อเว็บไซต์ Site Definition for Unnamed Site 1 3. ใหค้ลิกป้ายคำาสั่ง Advanced จะปรากฏหน้าต่าง Local Info 4. ช่อง Category ใหค้ลิกรายการ Local Info ใหม้แีถบสี 5. Site Name ใหตั้้งชื่อเว็บไซต์ทตี่้องการ ตามตัวอย่างตั้งชื่อ ว่า CAI 6. Local Root Folder ให้คลิกสัญลักษณ์โฟลเดอร์รูปแฟ้มสี เหลือง เลือกโฟลเดอร์ทใี่ช้เก็บเว็บไซต์ตามตัวอย่างทไี่ดร์ฟ c: เก็บไว้ทโี่ฟลเดอร์ Mysite แล้วคลิกทปีุ่่ม Select 7. Default Images Folder กำาหนดค่าเริ่มต้นสำาหรับ โฟลเดอร์ทใี่ช้เก็บรูปภาพเลือก Mysite
  • 10. การแก้ไขรายการ Site 1. คลิกเมนู Site เลือกรายการ Edit Sites 2. จะปรากฏหน้าต่าง Edit Sites ปุ่ม New สำาหรับกำาหนดไซต์ใหม่ ปุ่ม Edit สำาหรับแก้ไขไซต์ ปุ่ม Duplicate สำาหรับคัดลอกไซต์สำารอง ปุ่ม Remuve สำาหรับลบไซต์ ปุ่ม Done สำาหรับทำางานกับไซต์ที่ต้องการเลือก ใช้งาน
  • 11. การพิมพ์ข้อความบนเว็บเพจ การพิมพ์ข้อความบนเว็บเพจด้วยโปรแกรม Dreamweaver MX มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ 1. พิมพ์ข้อความลงบนจอภาพ 2. พิมพ์ข้อความจากโปรแกรมอื่น เช่น โปรแกรม Word.Excel หรือ Notepad แล้วนำาสำาเนามา ใสที่่หน้าจอภาพการทำางานของโปรแกรม Dreamweaver MX 3. พิมพ์ข้อความเป็นเอกสาร HTML ข้อสำาหรับผู้ใช้ ทถี่นัดภาษา HTML คลิกปุ่ม  Code แล้ม พิมพ์ข้อความลงในส่วน <body> หรือ <head>
  • 12. การแทรกรูปภาพบนเว็บเพจ การแทรกรูปภาพบนเว็บเพจมีผล ทำาให้เว็บเพจดูน่าสนใจ และการนำาไฟล์รูปภาพ ต่างๆเข้ามาใช้งานมขี้อควรพิจารณา 3 ประการ คือ 1.ประเภทของไฟล์รูปภาพ ควรจะใช้เป็น นามสกุล *.gif, *.jpg หรือ *.png 2.ไฟล์รูปภาพ ถ้าผ่านการใช้คำาสั่ง Optimize ในโปรแกรม ImageRedy ก่อนการนำามาใช้งาน จะทำาให้ภาพบน เว็บเพจสามารถเปิดได้เร็วขึ้น 3.ควรมกีารแทรกไฟล์รูปภาพเท่าทจี่ำาเป็น ไม่ควรใช้รูปภาพมากเกินไป
  • 13. วิธีนำารูปภาพมาใส่ในหน้า เว็บเพจ 1. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่ต้องการ 2. คลิกเมนู Insert เลือกรายการ Image 3. จะปรากฏหน้าต่าง Select Image Source 4. คลิก  ช่อง Look in : เลือกไดร์ฟและ โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์รูปภาพ 5. คลิกปุ่ม View Menu จะปรากฏเมนูย่อย เลือก รายการ Thumbnails 6. คลิกเลือกรูปที่ต้องการ 7. คลิกปุ่ม OK จะปรากฏรูปภาพหน้าจอ
  • 14. วิธีปรับขนาดรูปภาพ 1. คลิกทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle สีดำา 2. เลื่อนเมาสบ์ริเวณจุด Handle สีดำา จะปรากฏลูก ศร 2 หวั 3. คลิกเมาส์ตรงจุด Handle ค้างไว้แล้วย่อ หรือ ขยายภาพตามขนาดที่ต้องการ
  • 15. วิธีการใส่คำาอธิบายแสดง ข้อความบนรูปภาพ 1. คลิกรูปภาพใหม้จีุด Handle สีดำา 2. คลิก วางเคอร์เซอร์ช่อง A1T พิมพ์คำาว่า Bugs life 3. คลิกเมนู File เลือกรายการ Preview คลิก รายการ iexplore หรือกดปุ่ม F12 เพื่อทดลอง ผลงานบนเบราเซอร์ ( Internet Explorer )
  • 16. วิธีการใส่เส้นขอบให้กับ รูปภาพ 1. คลิกเมาส์ทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle 2. คลิกวางเดอร์เซอร์ทชี่่อง Border พิมพ์เลข 6 กำาหนดขนาดของกรอบรูปภาพ 3. คลิกเมาส์ที่พื้นที่ว่างจะได้กรอบมีขนาดตาม ต้องการ ( ตัวเลขน้อยกรอบบาง ตัวเลขมากกรอบ หนา )
  • 17. วิธีปรับระยะห่างของรูปภาพและ ข้อความ 1. คลิกเมาส์ทรีู่ปภาพใหมี้จดุ Handle 2. ใส่ตัวเลขทตี่้อง Vspace เพมิ่ระยะหา่งแนวตั้ง 3. ใส่ตัวเลขทชี่่อง Hspace เพิ่มระยะหา่งแนวนอน 4. คลิกบริเวณทวี่่างของหน้าต่างทำางาน จะทำาให้ เกิดระยะห่างของภาพมากขึ้น
  • 18. วิธีการจัดรูปภาพประกอบกับ 1ข.้อคควลาิกมเมาส์ทรีู่ปภาพ ใหม้จีุด Handle 2. คลิก  ช่อง Alegn ปรากฏรายการลักษณะการจัดรูปภาพ ประกอบกับข้อความ เลือกLeft 3. ความหมายของรายการลักษณะการจัดรูปภาพประกอบกับ ข้อความ - Default เป็นการจัดการกับรูปภาพแบบ ปกติ - Baseline จัดขอบล่างของรุปอยู่แนวเดียว กบับรรทัดข้อความ - Top จัดให้ขอบบนของรูปอยู่แนว เดียวกับบรรทัดข้อความ - Midd จัดให้ตรงกลางของรูปอยู่แนว เดียวกับบรรทดัข้อความ - Bottom จัดให้ขอบล่างของรูปอยู่แนวเดียวกับ
  • 19. วิธีทำาการปรับรูปภาพให้โปร่งแสง (Tracing Image) 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่หน้าจอการทำางาน 2. คลิกเมนู Modify เลือกรายการ Page Properties หรือกดปุ่ม Ctrl+J 3. คลิกปุ่ม Browse ทชี่่อง Tracing Image เลือก ไฟล์รูปภาพที่ต้องการใช้งาน 4. เลื่อน Scroll ช่อง Image Transparency ปรับ ความโปร่ง ค่าความจางมวัOpaque ตามต้องการ 5. คลิกปุ่ม Apply ดูผลทไี่ด้บนหน้าจอการทำางาน 6. คลิกปุ่ม Ok
  • 20. การทำา Swap Image 1. วางเคอร์เซอร์ในตำาแหน่งที่ต้องการ 2. คลิกปุ่ม เลือกรูปภาพมาวางบนหน้าต่างเว็บเพจ 3. คลิกเมนู Windows--> Behaviors 4. จะปรากฏหน้าต่าง Behaviors 5. คลิกปุ่ม  6. จะปรากฏเมนูย่อย ใหค้ลิกรายการ Swap Image 7. จะปรากฏหน้าต่าง Swap Image 8. คลิกปุ่ม Browse 9. เลือกไฟล์รูปที่ต้องการ 10.คลิกปุ่ม OK 11. คลิกปุ่ม OK
  • 21. 1. เมอื่เสร็จจะปรากฏข้อความ OnloadSwap Image หน้าต่าง 2. กดปุ่ม F12 หรือคลิกเมนู File --> Preview in Browser คลิกรายการ Iexplorer 3. จะปรากฏหน้าต่าง Internet Explorer ภาพปกติเมื่อเลื่อนเมาส์มา วางที่ภาพจะเปลี่ยนเป็นรูปอื่น
  • 22. สาระสำาคัญ • ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการสร้าง ตาราง ตารางเป็นส่วนสำาคัญในการสร้าง เว็บเพจเพราะการพิมพ์งาน และควบคุม วัตถุต่างๆ เช่น รูปภาพในเอกสารเว็บ มี ข้อจำากดัหลายประการ เช่น การวาง รูปภาพใหม้ขี้อความล้อมรอบ การสร้าง เอกสารคอลัมน์ ซึ่งจะต้องอาศัยตารางเป็น เครื่องมอืช่วยทงั้หมด
  • 23. การสร้างตาราง การนำาเสนอข้อมลู จำาเป็นทจี่ะต้องสร้างตารางขึ้นมาเพอื่ ใหข้้อมลูที่นำาเสนอ ดูเข้าใจง่าย ขั้นตอนการสร้างตาราง 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ ตำาแหน่งทตี่้องการจะสร้างตาราง 2. คลิกปุ่ม Layout บนแถบเครื่องมอื Insert 3. คลิกปุ่ม Insert Table 4. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Table ใหก้ำาหนดค่าต่างๆ ของ ตาราง - Rows จำานวนแถวของตาราง - Columns จำานวนคอลัมน์ของตาราง - Width ความกว้างของตารางมี 2 แบบ Pixels หรือ Percent - Border ความหนาของเส้นขอบตาราง - Cell Padding ระยะห่างจากขอบข้างในของเซลล์
  • 24. - คลิกปุ่ม OK - จะได้ตารางสำาหรับ การทำางาน การปรับแต่งตาราง 1. คลิกเมาส์เสน้ขอบของตารางใหป้รากฏจดุ Handle 2. จะปรากฏหน้าต่าง Propertoes แสดงรายละเอียด ของตารางทั้งหมด
  • 25. การพิมพ์ข้อความลงในตาราง 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่ช่องเซลล์แรก 2. พิมพ์ข้อความตรงตำาแหน่งเคอร์เซอร์ชิองแรกว่า กิจกรรม 3. กดปุ่ม Tab เคอร์เซอร์กระโดดมาช่องสอง พิมพ์ว่า ระยะเวลา 4. กดปุ่ม Tab เคอร์เซอร์กระโดดมาช่องสาม พิมพ์ว่า กิจกรรม ระยะ จำานวนเงิน เวลา จำานวน เงิน 5. ถ้าต้องการเพมิ่บรรทัดใหม่ ใหก้ดปุ่มTeb ช่องเซลล์ สุดทา้ย จะเพมิ่บรรทดัใหอั้ตโนมตัิ
  • 26. การเลือกตารางทั้งหมด 1. คลิกเลือกเสน้ขอบของตาราง ด้านขวาเส้นแบ่งเซลล์ จะปรากฏจุด Handle เลือกตาราง 2. คลิกทมี่มุบนซ้าย,มมุล่างขวา,เส้นแบ่งตาราง หรือ เส้นขอบนอกจะปรากฏลูกศรสีดำา 4 หวั
  • 27. การเลือกทั้งแถว 1. เลื่อนเมาสม์าวางทเี่ส้นขอบด้านหน้าของแถว ตัวชี้ เมาส์จะเปลี่ยนเป็นลูกศรขวาสีดำา 2. คลิกเมาส์เลือกทีละแถว หรือคลิกเลื่อนลงเพอื่ เลือกแบบหกลาายแรถเวลือกทั้งคอลัมน์ 1. เลื่อนเมาสม์าวางเส้นขอบด้านบนคอลัมน์ ตัวชี้ เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปลูกศรหัวลงสีดำา 2. คลิกเมาส์เลือกทีละคอลัมน์ หรือคลิกเลื่อนเมาส์ เพื่อเลือกแบบหลายคอลัมน์
  • 28. การเลือกเซลล์ 1. เลื่อนเมาส์คลิกวางเคอร์เซอร์ที่เซลล์ที่ต้องการ 2. คลิกลากจากเซลล์ช่องแรกไปยังอีกเซลล์หนงึ่ หรือ 3. กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วคลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการ เลือกถดัไป หรือ 4. กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วคลิกเลือกเซลล์ทตี่้องการแบบ ไม่ต่อเนื่อง
  • 29. การปรับความกว้างและความสูงด้วยเมาส์ 1. เลื่อนเมาสม์าวางทเี่ส้นแบ่งคอลัมน์ จะปรากฏเมาส์ เป็นลูกศรแนวนอน 2 หวั 2. คลิกเมาส์ค้างไว้ ลากขยายหรือย่อขนาดของคอลัมน์ ตามต้องการ 3. เลื่อนเมาสว์างทเี่ส้นแบ่งแถว จะปรากฏเมาส์รูปเมาส์ ลูกศรแนวตั้ง 2 หัว 4. คลิกเมาส์ค้างไว้ ลากขยายหรือย่อขนาดของแถว ตามต้องการ
  • 30. การปรับความกว้างปละความสูงด้วยแถบเครื่องมือ Properties 1. คลิกเลือกคอลัมน์และแถว ใหม้กีรอบสีดำาทงั้หมด 2. กำาหนดค่า W= 50 หรือ H=50 บนแถบเครื่องมือ Properties 3. กดปุ่ม Enter
  • 31. การยกเลิกความและความสูงที่กำาหนด 1. เลือกตารางทั้งหมด 2. คลิกเมนู Modify --> Table --> Clear Cellหรือ 3. คลิกปุ่ม Clear Column Width บนแถบ Properties 3. คลิกเมนู Modify --> Table --> Clear Cell การลบแถวและคอลัมน์ Height หรือ 4. คลิกปุ่ม Clear Row Heightบนแถบ 1. คลิกเลือกตารางทงั้หมด หรือเลือกเฉพาะแถว Properties หรือเลือกเฉพาะคอลัมน์ 2. กดปุ่ม Delete
  • 32. การนำารูปภาพมาใส่ลงในตาราง 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่เซลล์ที่ต้องการใส่ รูปภาพ 2. คลิกหาไฟล์รูปภาพทแี่ถบเครื่องมอื Properties 3. เลือกรูปภาพที่ต้องการ 4. คลิกปุ่ม OK 5. จะปรากฏรูปภาพที่ช่องเซลล์ที่เลือก
  • 33. การใส่รูปภาพพื้นหลังตารางทั้งหมด 1. คลิกเลือกตารางทั้งหมดใหม้จีุด Handle 2. คลิกหาไฟล์รูปภาพทชี่่อง Bg Image จากเครื่องมือ Properties 3. เลือกรูปที่ต้องการ 4. คลิกปุ่ม Ok 5. รูปภาพจะปรากฏที่พื้นหลังของตารางทั้งหมด
  • 34. การเปลี่ยนพื้นหลังของตาราง 1. คลิกเลือกตารางให้มจีุด Handle 2. คลิกเลือกสีพื้นหลังทชี่่อง Bg Color จากตาราง Properties 3. สีพื้นหลังของตารางจะเปลี่ยนแปลงตามที่เลือก การเปลี่ยนสีเส้นขอบตาราง 1. คลิกเลือกตารางให้มจีุด Handle 2. คลิกเลือกสีขอบตารางทชี่่อง Brdr จากเครื่องมอื Properties 3. เส้นขอบตารางจะเปลี่ยนสีตามที่เลือก
  • 35. การรวมเซลล์และแยกเซลล์ 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ ตำาแหน่งทตี่้องการจะสร้าง ตาราง 2. คลิกปุ่ม Layout บนแถบเครื่องมอื Insert 3. คลิกปุ่ม Insert Table 4. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Table ใหก้ำาหนดค่าต่าง ๆ ของตาราง 5. คลิกปุ่ม Ok 6. จะได้ตาราง 3 แถว 3 คอลัมน์ 7. เลือกเซลล์ 1 และ 2 ใหม้แีถบสี 8. คลิกขวาเซลล์ตารางที่เลือก ปรากฏเมนูลัด คลิก รายการTable-- > Merge Cells
  • 36. การแยกเซลล์(Split Cells) 1. จากตารางรวมเซลล์ 2. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ช่องรวมเซลล์ 3. คลิกขวา ปรากฏเมนูลัด คลิกรายการ Table -- > Splet Cell หรือคลิกปุ่ม Splet Cell 4. จะปรากฏหน้าต่าง Splet Cell ใหร้ะบุจำานวน คอลัมน์ช่อง Nunber of Columns 5. คลิกปุ่ม OK 6. เซลล์จะแยกเป็น 2 คอลัมน์
  • 37.
  • 38. ขั้นตอนการสร้างลิงก์จากข้อความ 1. พิมพ์ข้อความบนหน้าต่างทำางาน 2. ลากเมาส์คลุมข้อความให้มีแถบสี 3. คลิกปุ่มในแถบ properties 4. เพื่อเลือกไฟล์ที่จะทำาการลิงก์ 5. คลิกปุ่ม ok 6. ข้อความจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้ามีเส้นใต้ขีดอยู่
  • 39. การสร้างลิงก์แบบรูปภาพ 1. คลิกเมาสท์ี่รูปภาพใหม้จีุด Handle 2. คลิกปุ่มของช่อง link properties 3. เลือกไฟล์ที่จะลิงก์ 4. แล้วคลิกปุ่ม ok หรือดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ 5. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in Browser iexplorer หรือกดปุ่ม F12
  • 40. การสร้างลิงก์แบบ Named Anchor Named Anchor คือจุดอ้างอิง ใช้ในการทำาลิงก์ทมีี่ ความยาวของเอกสารมากกว่าหนึ่งหน้าจอ โดยมรีายระ เอียดและขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเมาส์ที่ตำาแหน่งต้นทาง(อาจจะเป็นตำาแหน่งด้านบนสุด ของเอกสาร) 2. คลิกทเี่ครื่องมอื Name Anchor ทแี่ถบเครื่องมอื Insert 3. จะปรากฏหน้าต่าง Named Anchor ใหพิ้มพ์ชื่อ เพอื่ ระบุตำาแหน่งต้นทาง(ในทนีี่้ตั้งชื่อ top) 4. คลิกปุ่มok 5. จะปรากฏเครื่องมือที่ต้นทาง 6. ใหเ้ลื่อนเมาส์ไปยังตำาแหน่งล่างสุด ทำาการเลือกข้อความ หรือรูปภาพ(ในทเี่ลือกข้อความ Go to topแล้วพิมพ์ #top) (จะต้องมีเครื่องหมาย # นำาหน้าข้อความเสมอ) 7. ทดลองแสดงผลการรันโปรแกรม จะเหน็ว่าเมอื่เลื่อนเมาส์ ผ่าน Go to top เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปมอื และเมอื่ทำาการ คลิกก็จะลิงก์ไปยังด้านบนของเอกสารตามที่อยู่ที่ต้นทาง
  • 41. การสร้างลิงก์แบบ Image Map การสร้างลิงก์แบบ Image Map คือการใช้ รูปภาพในส่วนต่าง ๆ เป็นจุดในการเชื่อมโยงไปยัง ปลายทาง โดยมขีั้นตอนในการปฏบิัติดังนี้ 1. คลิกบริเวณรูปภาพทตี่้องการ ใหม้จีุด Handle 2. ให้กระทำาดังต่อไปนี้บนแถบเครื่องมือproperties - Map - คลิกเลือกรูปแบบของพนื้ทจีุ่ดลิงก์ มสีเี่หลี่ยม วงกลม รูปอิสระ 1. ลากเมาส์ที่รูปให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ 2. กำาหนดไฟล์หรือจุดลิงก์ลงในช่อง 3. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in Browseriexplorer หรือกดปุ่ม F12
  • 42. การสร้างลิงก์ไปยัง E-mail การสร้างลิงก์ไปยัง E-mail สามารถทำาได้ทงั้ แบบรูปภาพ และแบบข้อความโดยมขีั้นตอนดังนี้ คือ 1. คลิกเมาสท์ี่ข้อความใหม้แีถบสี หรือคลิกเมาส์ที่ รูปภาพให้มีจุดhandle 2. พิมพ์ mailto: ชื่ออีเมล์ลงในช่อง Link 3. คลิกพื้นที่ว่าง 4. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreviewiexplorer หรือกดปุ่ม F12
  • 43. การสร้างลิงก์ ไปยังเว็บไซต์อื่น การสร้างลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น สามารถทำาได้ ทั้งแบบรูปภาพและแบบข้อความเช่นเดียวกับการ สร้างลิงกไ์ปยัง E-mail โดยมขีั้นตอนดังนี้ 1. เลือกข้อความหรือคลิกเมาส์ทรีู่ปภาพให้มจีุด Handle 2. พิมพ์ชื่อ URL http:// ชื่อเว็บไซต์ลงในช่อง Link และเลือกรูปภาพปลายทางเช่น www.moe.go.th 3. คลิกเมาส์พื้นที่ว่าง 4. ทดสอบผลลัพธ์ คลิกเมนู FilePreview in Browseriexplorerหรือกดปุ่ม F12
  • 44. การสร้างลิงก์แบบ Rollover Image การสร้างลิงกแ์บบ Rollover Image คือการทำา เทคนิคภาพบนเว็บเพจ ให้ดูแปลกตา ภาพจะแสดงผล เปลี่ยนไปเมอื่ลากเมาส์ผ่าน (ต้องมี2 ภาพที่มขีนาดเทา่ ๆ กันให้ภาพหนึ่งเป็นภาพปกติและอีกภาพหนึ่งถูกเรียกขึ้นมา แทนเมื่อลากเมาส์ผ่าน) 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่ต้องการ 2. คลิกปุ่ม Rollover Image 3. จะปรากฏหน้าต่าง Insert Rollover Image 4. ใหก้ำาหนดค่าตัวเลือกไฟล์รูปภาพทตี่้องการ ดังนี้ - Original Image: ภาพต้นฉบับ สำาหรับแสดงเป็นภาพ ปกติ - Rollover Image: ภาพที่ใช้สลับขึ้นมาเมื่อลากเมาส์ ผ่าน - Alternate Text: ข้อความอธิบายภาพที่แสดงขึ้นมาใน กรณีนำาเมาส์ลากผ่าน
  • 45. การเปลี่ยนสีตัวอักษรที่เป็นลิงก์ 1. ให้พิมพ์ข้อความเพื่อตั้งค่าการเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ เป็นการลิงก์ 2. คลิกเมนู ModifyPage Properties หรือกดปุ่ม Ctrl+j 3. จะปรากฏหน้าต่าง Page Properties 4. เลือกทหี่วัข้อ Link ใหก้ำาหนดค่าเหล่านี้ - Link :สีของข้อความที่ต้องการสร้าง ลิงก์ - Visited Link: สีของข้อความลิงก์ที่เคยเข้ามา ชมแล้ว - Active Link: สีของข้อความลิงก์ในขณะที่ใช้ งาน
  • 46.
  • 47. รูปแบบของเฟรม • เฟรมจะมอียดู่้วยกนั 2 รูปแบบ คือ เฟรมหลัก (Frameset)และเฟรม ย่อย(Frame) เฟรมหลัก (Frameset) คือ หน้าต่างเฟรมทใี่หญ่ทสีุ่ด ที่คอย ควบคุมเฟรมย่อยอื่น ๆ อีกทีหนึ่งและ กำาหนดลักษณะการแบ่งเฟรมในแนวตั้ง และแนวนอน ทั้งยังกำาหนดขนาดของ ขอบ สี รวมถึงระยะห่างระหว่างเฟรมได้ อีกด้วยเฟรมย่อย (Frame) คือหน้าต่าง เฟรมทกี่ำาหนดชื่อของแต่ละเฟรม และ
  • 48. การออกแบบเฟรม 1. คลิกทแี่ทบ็คำาสั่ง Frames บนแถบเครื่องมอื Insert 2. คลิกปุ่ม Left and Nested Top Frames จะ ปรากฏหน้าต่างเฟรมแบบสามส่วนตามที่เลือก - คอลัมน์แรกจะแสดงเมนู - คอลัมน์ทสี่อง แถวแรกจะแสดงหวัเรื่องเว็บเพจ - คอลัมน์ทสี่าม ส่วนล่าง จะแสดงเนอื้หา 1. ในกรณีทคี่ลิกปุ่ม Top and Nested Left Frames - แถวแรกจะแสดงหัวเรื่องเว็บเพจ - แถวทสี่อง ซา้ยมอืแสดงเมนู - แถวทสี่าม สว่นขวามอืแสดงเนื้อหา
  • 49. ลักษณะต่าง ๆ ของเฟรม 1. Left Frame แบ่งเป็นสองส่วนแนวตั้ง ด้านซา้ยแสดงเมนู ด้านขวา แสดงเนอื้หา 2. Right Frame แบ่งสองสว่นแนวตั้ง ด้านซ้ายแสดงเนื้อหา ด้านขวาแสดงเมนู 3. Top Frame แบ่งสองส่วนแนวนอน ด้านบนแสดงเมนู ด้านล่างแสดงเนื้อหา 4. Bottom Frame แบ่งสองส่วนแนวนอน ด้านบนแสดง เนอื้หา ด้านล่างแสดงเมนู 5. Bottom and Nested Left Frame แบ่งสามส่วน ด้าน ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 6. Bottom and Nested Right Frame แบ่งสามสว่น ด้าน ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 7. Left and Nested Bottom Frame แบ่งสามส่วน ด้าน ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง 8. Right and Nested Bottom Frame แบ่งสามสว่น ด้าน ซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง
  • 50. การกำาหนดคุณสมบัติของเฟรม การแบ่งหน้าจอการทำางานเป็นลักษณะเฟรม ควรจะ กำาหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ของเฟรมดังนี้ 1. เลื่อนเมาสว์างทเี่ส้นแบ่งเฟรม จะปรากฏลูกศร 2 หวั ให้ คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 2. จะปรากฏหน้าต่าง Frame Properties ด้านล่าง 3. การกำาหนดคุณสมบัติของเฟรมมีดังนี้ - Bprders ให้เส้นเฟรมแรเงาหรือไม่ - Border color สีของขอบเฟรม - Border Width ขนาดของเส้นเฟรม - Row ความกว้างของเฟรม 1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 2. ใหค้ลิก  ช่อง Border เลือก Yes 3. ใหค้ลิก  ช่องBorder color เลือกสีของเฟรม 4. พิมพ์ช่อง Border Width 5 5. พิมพ์ช่อง Row 100 กำาหนดความกว้างของเฟรม
  • 51. การปรับแต่งเฟรม 1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 2. คลิกลูกศร 2 หัว ค้างไว้ลากเมาส์ย่อ-ขยายเฟรมตาม ที่ต้องการ 3. คลิกเมาส์พนื้ที่ว่าง ก็จะได้ขนาดเฟรมตามต้องการ
  • 52. การลบเฟรม 1. คลิกที่เส้นแบ่งเฟรม 2. ลากเมาส์เลื่อนขึ้น ให้ชิดขอบด้านบน 3. เฟรมจะถูกยุบรวมกันกับเฟรมที่เส้นขอบด้านบน
  • 53. การสร้างเฟรมเพิ่มเติม การสร้างเฟรมเพิ่มเติม สามารถทำาตามขั้นตอนได้ ดังนี้ 1. คลิกเมาส์วงเคอร์เซอร์บริเวณพื้นที่ที่ต้องการสร้าง เฟรมใหม่เพิ่มเติม 2. คลิกเลือกรูปแบบเฟรมทตี่้องการสร้างเพิ่ม เช่น คลิก แบบที่ 3 3. จะได้รูปเฟรมเพิ่มทันที
  • 54. การนำาเว็บเพจมาเปิดภายในเฟรม 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์พื้นที่ของเฟรมย่อยที่ต้องการ 2. คลิกเมนู File คลิกรายการ Open in Frame… หรือกดปุ่ม Ctrl+Shift+0 3. เลือกไฟล์เว็บเพจทจี่ะเปิดในเฟรม แล้วคลิกปุ่ม OK 4. จะปรากฏผลลัพธ์ที่ได้ในเฟรมตามที่กำาหนดไว้
  • 55. การบันทึกเฟรม การสร้างเฟรมจะต้องมีการบันทึก(Save)ชื่อของ แต่ละเฟรม ทงั้เฟรมหลักและเฟรมย่อยใหเ้หมอืนกบั การบันทกึหน้าของเว็บเพจทวั่ไป การบันทึกเฟรมมี ขั้นตอนดังนี้คือ 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ที่พื้นที่เฟรมที่จะบันทึก 2. คลิกเมนู Fileคลิกรายการ Save Frame As… หรือกดปุ่ม Ctrl+Shift+S 3. เลือกสถานทเี่ก็บไฟล์ ช่องSave in: 4. พิมพ์ชื่อในช่อง File name: แล้วคลิกปุ่ม Save
  • 56. การบันทึกเฟรมหลัก 1. คลิกเมาส์ทีเส้นขอบเฟรม 2. คลิกเมนู Fileคลิกรายการ Save Frameset As…หรือ กดปุ่ม Ctrl+Shift+S 3. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ 4. พิมพ์ชื่อลงในช่อง File name:แล้วคลิกปุ่ม Save
  • 57.
  • 58. การสร้างแบบฟอร์ม 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างทำางาน 2. คลิกเลือกแทบ็ Froms จากแถบเครื่องมอื Insert 3. คลิกปุ่ม Froms เพื่อเปลี่ยนการทำางานใน ลักษณะแบบฟอร์ม 4. จะได้ตารางเส้นประสีแดงปรากฏบนพื้นที่การ ทำางาน 5. ใหก้ดปุ่ม Enter เพื่อขึ้นบรรทดัใหม่ หรือขยาย ช่องตารางเส้นปะสีแดง 6. กดปุ่ม Backspace เพอื่ลดขนาดของช่อง ตารางเส้นประสีแดง 7. ทดลองพิมพ์ข้อความ และทำาการปรับแต่งด้วย
  • 59. การสร้าง Text Field สำาหรับกรอกข้อความ 1. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่จะทำา Text Field 2. คลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบเส้นประ Text Field สำาหรับการกรอกข้อความตรง ตำาแหน่งเคอร์เซอร์ 3. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ช่อง Char Width กำาหนดความยาวของฟิลด์ =30 4. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ช่อง Max Chars กำาหนดจำานวนตัวอักษรสูงสุด =50
  • 60. การสร้างปุ่ม Radio Button 1. พิมพ์ข้อความ เพศ ชาย หญงิ 2. คลิกวางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งที่จะทำา Radio Button 3. คลิกปุ่ม เพื่อสร้างปุ่ม Radio Button ด้านหน้า รายการ ชาย 4. คลิกวางเคอร์เวอร์ตำาแหน่งหน้าคำาว่า หญงิ 5. คลิกปุ่ม เพื่อสร้างปุ่ม Radio Button ด้านหน้า รายการ หญิง 6. พิมพ์ข้อความว่า อายุ ปี เกิดวันที่ เดือน ปี พ.ศ. 6. คลิกเมาสว์างเคอร์ด้าหลังคำาว่า อายุ 7. คลิกปุ่ม Text Field ปรากฏกรอบเส้นประ Text Field ตรงตำาแหน่งเคอร์เซอร์ 8. คลิกเมาส์ที่กรอบให้มีเส้นประ
  • 61. การทำาช่องกรอกแบบ Menu 1. คลิกเมาสว์างเคอร์เซอร์ด้านหลังคำาว่า เกดิวันที่1 2. คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมอื Forms 3. จะปรากฏกรอบ คลิกเลือก Type Menu จะ แสดงรายละเอียดเมอื่กดปุ่ม  4. คลิกปุ่ม List Values…บริเวณแถบเครื่องมอื Properties 5. ใหพิ้มพ์เลขตั้งแต่ 1 แล้วคลิกปุ่ม + เพื่อเพิ่มในช่อง Item Lable 6. ทำาเหมือนข้อ 5 จนถึงเลข 31 แล้วคลิก OK 7. จะปรากฏรายการทชี่่อง Initially Selected บน แถบ Properties 8. คลิกเมนู File Preview in Browser 9. คลิกรายการ Iexplore หรือกดปุ่ม F12 10.คลิกปุ่ม เพื่อเลือกวันที่ จะปรากฏรายการตัวเลขให้เลือกวันที่
  • 62. 13.คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลังคำาว่า เดือน 1 14.คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมือ Forms 15. จะปรากฏกรอบ 16.คลิกเลือกวงกลม List 17.คลิกปุ่ม List Values 18.พิมพ์ชื่อเดือน มกราคม แล้วคลิกปุ่มเคื่องหมาย + 19.พิมพ์ชื่อเดือน กุมภาพันธ์ แล้วคลิกปุ่มเคื่องหมาย + ทำา เช่นนี้จนถึงเดือนธันวาคม 20.คลิกปุ่ม Ok 21.คลิกเมนู FilePreview in Browser  iexplore 22.คลิกปุ่ม  เพื่อเลือกรายการที่ต้องการ 23.คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลัง ปี พ.ศ. 24.คลิกปุ่ม List/Menu บนแถบเครื่องมอื Forms 25. จะปรากฏกรอบ 26.คลิกปุ่ม คลิกปุ่ม List Values 27.ปรากฏหน้าต่าง List Values...
  • 63. 28.พิมพ์ ปี พ.ศ. 2540 แล้วคลิกปุ่มเครื่องหมาย+ 29.พิมพ์ 2541 แล้วคลิกปุ่มเครื่องหมาย+ ทำาเช่นนจี้นถงึปี พ.ศ.2547 30.คลิกปุ่ม Ok 31.คลิกทปีุ่่ม Lise และคลิกเครื่องหมายด้านหน้า Allow multiple 32. จะปรากฏกรอบ 33.คลิกเมนู File Preview in Browseriexplore 34. จะได้ผลลัพธ์แสดงบนจอภาพ 35.พิมพ์ข้อความ บ้านเลขที่ แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ ปรากฏกรอบ 36.พิมพ์ข้อความ หมบู่้าน แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ ปรากฏกรอบ 37.พิมพ์ข้อความ ถนน แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ ปรากฏกรอบ 38.พิมพ์ข้อความ แขวง/ตำาบล แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะ
  • 64. 28.พิมพ์ข้อความ จังหวัด แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบ 29.พิมพ์ข้อความ รหสัไปรษณีย์ แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบ 30.พิมพ์ข้อความ เบอร์โทรศัพท์ แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบ 31.พิมพ์ข้อความ มือถือ แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบ 32.พิมพ์ข้อความ E-mail แล้วคลิกปุ่ม Text Field จะปรากฏกรอบ 33.พิมพ์ข้อความ คลิกเมนู FilePreview in Brower  iexplore จะได้ผลลัพธ์
  • 65. การทำาฟอร์มแบบ Check Box Check Box คือ การสร้างปุ่มทใี่ช้สำาหรับ คลิกเลือกว่าต้องการหวัข้อใดบ้าง มขีั้นตอน ดังนี้ 1. พิมพ์ข้อความทตี่้องการใช้ทำา Check Box บน หน้าต่างทำางาน 2. คลิกขวาวางเคอร์เซอร์ด้านหน้าของหัวข้อที่ ต้องการทำา Check Box 3. คลิกปุ่ม  จากเครื่องมือ Fromes 4. จะปรากฏกรอบ Check Box 5. ใหท้ำาเช่นนกีั้บทกุหวัข้อทตี่้องการทำา Check Box 6. คลิกเมนู File Preview in Browseriexplore
  • 66. การทำาปุ่ม Submit และ ปุ่ม Reset การกรอกแบบฟอร์มขั้นตอนสุดทา้ยคือ การกดปุ่ม Submit เพื่อยอมรับการสมัครและ กดปุ่ม Reset เพื่อยกเลิกหรือทำาการกรอกแบบฟอร์มใหม่ มขีั้น ตอนการสร้างดังนี้ 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ตำาแหน่งทตี่้องการสร้างปุ่ม Submit 2. คลิกปุ่ม  Botton เพื่อสร้างปุ่มสำาหรับบันทกึ 3. จะปรากฏปุ่ม Submit 4. ช่อง Label บนแถบ Properties เปลี่ยนชื่อของปุ่มจาก Submit เป็นยอมรับ 5. คลิกเมาส์พนื้ที่การทำางาน ปุ่มจะเปลี่ยนเป็น ยอมรับ 6. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์ด้านหลังของปุ่ม ยอมรับ 7. คลิกปุ่ม Button จะปรากฏปุ่ม Submit อีก 1 ปุ่ม 8. คลิกเลือกวงกลม  Reset Form 9. จะปรากฏปุ่ม Reset 10. เปลี่ยนชื่อช่อง Label จาก Reset เป็นยกเลิก
  • 67.
  • 68. ส่วนประกอบของเลเยอร์ 1. หแูลเยอร์ มไีว้เพอื่ดึง หรือลากเลเยอร์ไปตาม ตำาแหน่งที่ต้องการ วิธีการสร้างเลเยอร์ 2. จุดปรับขนาด มจีุดสีดำาแปดจดุใช้ในการปรับ ขนาด ย่อ-ขยายเลเยอร์1. คลิกป้ายคำาสั่ง Layer บนแถบเครื่องมอื Insert 2. คลิกปุ่ม Draw Layer 3. ลากเมาส์สร้างเลเยอร์ให้ได้กรอบสี่เหลี่ยมขนาดตาม ต้องการ 4. คลิกเมาส์วางเคอเซอร์ในพนื้ที่ของเลเยอร์ พิมพ์ข้อความ หรือ นำารูปมาวางภายในเลเยอร์ 5. คลิกป้ายคำาสั่ง Common 6. คลิกปุ่ม 7. คลิกเลือกรูปภาพทตี่้องการ แล้วคลิกปุ่ม ok 8. จะปรากฏรูปภาพในเลเยอร์
  • 69. การกำาหนดค่าเลเยอร์เพิ่มเติมด้วย Properties 1. คลิดเมาส์เลเยอร์ใหม้จีุด Handle 8 จดุ 2. ใหป้รับแต่งค่าต่าง ๆ ทแี่ถบ Properties - Layer ID คือ หมายเลขอ้างอิงเลเยอร์ เวลาเรียกใช้ เลเยอร์สามารถตั้งชื่อได้ตามชอบใจปกติโปรแกรมจะติด ตั้งชื่อใหต้ามลำาดับว่า Layer1,2,3… - L และ T คือการกำาหนดตำาแหน่งของเลเยอร์ ด้านซา้ย L (Left) และด้านบน T (Top)ให้ทดลองกำาหนดตัวเลข ในช่อง L และช่อง T - W และ H คือ กำาหนดความกว้าง W (width) และ ความสงู H (Height) ของเลเยอร์หน่วยวัดควรจะเป็น พิกเซล PX (Pixel) จะช่วยให้คลาดเคลื่อนน้อยกว่าระบุ แบบอื่นใหท้ดลองกำาหนดตังเลขในช่อง W และช่อง H
  • 70. - Z-Index คือ Stacking Order ใช้ในการเปลี่ยน ลำาดับเลเยอร์มีตัวเลือกต่าง ๆ เช่น - Default โดยส่วนใหญ่ Browser จะใช้คำาว่า inherit - Inherit ใหใ้ช้ค่าของ Visibility ของเลเยอร์ทเี่ซ็ต ไว้ - Visible ให้แสดงเลเยอร์ - Hidden ให้ซ่อนเลเยอร์ - Bg Image คือเลือกรูปภาพพื้นหลังของเลเยอร์เลือกที่ ไอคอนโฟลเดอร์ - Bg Color คือปรับแต่งเลือกสีพื้นหลังของเลเยอร์ - Overflow คือ ตั้งค่าแสดงเนอื้หาเลเยอร์ หรือ การตั้ง ค่าเผื่อรูปภาพ ทมี่ขีนาดใหย๋กว่าเลเยอร์ - Clip คือ การจำากัดสว่นการแสดงผลโดยมตีำาแหน่ง L
  • 71. การเรียกใช้งาน Layer Palette 1. คลิกเมนู Window 2. คลิกรายการ Others 3. คลิกรายการ Layer หรือกดปุ่ม F12 4. จะปรากฏหน้าต่าง Layer Palette
  • 72. ประโยชน์ของ Layer Palette 1. ใช้ในการบอกตำาแหน่งของเลเยอร์ทำาให้ทราบได้ว่าเลเยอร์ ใดอยู่บริเวณตำาแหน่งใด 2. สามารถเปลี่ยนตัวเลขที่อยทู่างช่อง z ด้านขวาเพื่อจัดลำาดับ เลเยอร์ 3. เมื่อต้องการจะเรียกใช้เลเยอร์ใดสามารถคลิกที่ชื่อเลเยอร์ ภายในช่อง Layer Palette นั้น จะทำาให้เลเยอร์ทอี่ยู่ใน หน้าต่างทำางานก็จะถูกเรียกไปด้วย โดยสังเกตจะปรากฏ จุด Handle 4. คลิกเมาส์ทเี่ลเยอร์ 1 แล้วคลิกปุ่ม Ctrl ค้างไว้ ลากไปไว้ ในเลเยอร์ 2 จะทำาใหเ้ลเยอร์ซ้อนกนั 5. ถ้าคลิกสญัญลักษณ์รูปดวงตา ใช้ในการกำาหนดว่าจะแสดง หรือไม่แสดงเลเยอร์ 6. สามารถป้องกันการซอ้นทับของเลเยอร์ โดยคลิก เครื่องหมาย  หน้าคำาว่าPrevent Overlaps
  • 73. การจัดวางเลเยอร์ด้วยกริด (Grid) Grid คือ การตีตารางเป็นช่อง ๆ คล้ายกับกระดาษกราฟมี ประโยชน์คือ ช่วยใหส้ามารถจักวางและกะระยะได้แมน่ยำา มากขึ้นเมื่อนำา Grid หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าจุดกริด มา ใช้ในการจัดวางเลเยอร์จะทำาให้การทำางานดูมีระเบียบมาก ขึ้น 1. คลิกเมนู View 2. คลิกรายการGrid 3. คลิกรายการ Show Grid หรือกด Ctrl+Alt+Grid 4. ปรากฏเสน้ Grid บนหน้าต่างการทำางาน 5. คลิกเมนู View 6. คลิกรายการ Grid 7. คลิกรายการ Grid Settings 8. จะปรากฏหน้าต่าง Grid Settings - Color: เลือกสีของเส้นกริด
  • 74. - Snap to Grid: การวางเลเยอร์ใกล้เส้นกริด - Spacing: กำาหนดขนาดของช่องกริด ถ้าตัวเลข น้อย จะได้ตารางช่องเล็ก ตัวเลขมากจะได้ช่อง ใหญ่ - Display: เลือกว่าจะแสดงเส้นกริดแบบใด ระหว่าง Line คือ แบบเส้น Dote คือ แบบจุด
  • 75. การแปลงเลเยอร์เป็นตาราง การออกแบบเลเยอร์สามารถกำาหนดรายระเอียด และขนาด ได้สะดวกกว่าการใช้ตารางหรือสร้างเลเยอร์ก่อนแล้วค่อย แปลงเป็นตารางทีหลังก็ได้ 1. คลิกป้าย Layour บนแถบ Insert 2. คลิกปุ่ม สร้างเลเยอร์บนหน้าต่างทำางาน 3. คลิกป้าย common 4. ปุ่ม แทรกรูปภาพในเลเยอร์ 5. คลิกเมนู Modify 6. คลิกรายการ Convert 7. คลิกรายการ Layers to Table 8. ปรากฏหน้าต่างตั้งค่า Convert Layers Table 9. คลิกปุ่ม ok 10. รอสักครู่เลเยอร์จะถูกเปลี่ยนเป็นตาราง
  • 76. การแปลงตารางเป็นเลเยอร์ ตารางแปลงตารางเป็นเลเยอร์ มลีักษณ์และขั้น ตอนคล้ายกับการแปลงเลเยอร์เป็นตาราง โดยมี ขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเมนู Modify 2. คลิกรายการ Convert 3. คลิกรายการ Tables to Layers 4. จะปรากฏหน้าต่าง Convert Tables to Layers 5. คลิกปุ่ม ok 6. ตารางจะถูกเปลี่ยนเป็นเลเยอร์เหมือนเดิม
  • 77.
  • 78. การสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยTimelines Timelines หรือ เส้นเวลาเป็นส่วนพิเศษทชี่่วยใหวั้ตถุ สามารถเปลี่ยนตำาแหน่ง ขนาด หรือลักษณะการแสดงผล แบบเคลื่อนไหวแบบออบเจ็คได้ • สร้างเลเยอร์ บนหน้าต่างการทำางาน • คลิกปุ่มเพื่อใส่รูปภาพลงในเลเยอล์ • จะปรากฏกรอบโต้ตอบ ให้คลิกเลือกรูปภาพทตี่้องการใส่ ลงในเลเยอร์ แล้วคลิกปุ่ม ok • จะปรากฏรูปภาพภายในเลเยอร์ ใหป้รับขนาดรูปภาพให้ เหมาะสมไม่ควรใหญ่เกินไป • คลิกเมนู Window • คลิกรายการ Others • คลิกรายการTimelines • จะปรากฏพาเนล Timelines • คลิกเลเยอร์ให้มีจุดล้อมรอบ • คลิกเมนู Modify  Timeline  Add Object to Timeline
  • 79. พิมพ์ชื่อเลเยอร์ ช่อง Layer ID ว่า Logo คลิกเมาส์คีย์เฟรมจุดสุดท้ายของแถบเคลื่อนที่ 15.คลิกเลื่อนเลเยอร์ไปวางยังตำาแหน่งทตี่้องการเคลื่อนที่ เช่น เลื่อยไปวางด้านหน้าจะปรากฏเส้นการเคลื่อนที่ 16.ถ้าต้องการใหเ้ส้นการเคลื่อนทเี่ป็นเส้นโค้ง ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ 17.คลิกทเี่ฟรมตรงส่วนทตี่้องการใหโ้ค้ง เช่น ตรงกลาง ให้ คลิกเฟรม 10 18.คลิกเมนู Modify  Timeline Add Keyframe 19. ให้คลิกหูดึงด้านบนเลเยอร์เพื่อเลื่อนเส้นการเคลื่อนที่ให้โค้ง ขึ้น 20. จะได้เส้นการเคลื่อนที่โค้ง 21.คลิกปุ่ม ➨ Play ในพาเนล Timelines ค้างไว้เพื่อดุการ เคลื่อนที่ของภาพ หรือ กำาหนด การแสดงผลบนแถบ
  • 80. 15.ทดลองดูผลที่ได้ในเว็บบราวเซอร์ กดปุ่ม F12 หรือคลิกเมนู FilePreview in Browser คลิกรายการ iexporer 16.ปรากฏหน้าต่าง Internet explorer การ เคลื่อนที่ของรูปภาพ 17. ให้คลิกเคลื่องหมาย √หน้าสี่เหลี่ยม Loop กำาหนดให้แสดงแบบวนรอบ 18. ให้กดปุ่ม F12 เพื่อดูผลที่ได้ในเว็บบราวเซอร์อีก ครั้ง จะวนรอบไปเรื่อย ๆ
  • 81. การเคลื่อนที่แบบอิสระ 1. สร้างเลเยอร์ บนหน้าต่างการทำางาน 2. คลิกปุ่ม ใสรู่ปภาพลงในเลเยอร์ 3. จะปรากฏหน้าต่างให้คลิกเลือกรูปภาพที่ต้องการ ใสล่งในเลเยอร์ แล้วคลิกปุ่ม ok 4. จะปรากฏรูปภาพลงในเลเยอร์ ใหป้รับขนาดของ รูปภาพให้เหมาะสมแล้วคลิกให้มีจุดล้อมรอบ 5. คลิกเมนู ModifyTimelineRecord Path of Layer 6. คลิกหูเลเยอร์ลากไปทางซ้ายตามเส้นทางที่ ต้องการเคลื่อนที่ 7. ปรากฏหน้าต่าง Dreamweaver คลิกปุ่ม ok 8. คลิกปุ่ม Play ค้างไว้เพอื่ดูการเคลื่อนทขี่องภาพ 9. ทดลองดูผลที่ได้ในเว็บบรางเซอร์ กดปุ่ม F12
  • 82. การเคลื่อนที่พร้อมกันหลายเลเยอร์ 1. สร้างเลเยอร์บนหน้าต่างการทำางาน 2 เลเยอร์ 2. เลเยอร์แรกใหพิ้มพ์ข้อความ เลเยอร์ที่สองใหใ้ส่ รูปภาพ 3. คลิกเลเยอร์แรกให้มีจุดล้อมรอบ 4. คลิกเมนู Modify  Timeline  Add Object to Timeline 5. คลิกเลเยอร์ที่สองให้มีจุดล้อมรอบ 6. คลิกเมนู Modify  Timeline  Add Object to Timeline 7. คลิกเมาส์เฟรมจดุสุดทา้ยของแถบเคลื่อนที่ Text 8. คลิกลากหูเลเยอร์ของข้อความเลื่อนไปทางขวา 9. คลิกเมาส์คีเฟรมจุดสุดท้ายของแถบเคลื่อนที่ Logo
  • 83. การปรับตำาแหน่งคีย์เฟรม 1. ลากคีย์เฟรมสุดท้ายเลื่อนไปยังตำาแหน่งที่ต้องการ 2. กดปุ่ม Alt ค้างไว้ถ้าต้องการเลื่อนคีย์เฟรมบาง ตำาแหน่ง การเปลี่ยนจุดเวลาเริ่มต้นของการเคลื่อนที่ 1. เลือกแถบการเคลื่อนทที่ตี่้องการ หรือกดปุ่ม Shift ถ้าต้องการเลือกหลาย ๆ แถบ 2. ลากแถบการเคลื่อนที่ไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนจุดเริ่ม ต้น การเพิ่ม/ลบเฟรมในเส้นเวลา 1. คลิกขวาทตี่ำาแหน่งเฟรม จะปรากกเมนูลัด ให้ เลือกใหเ้ลือก Add Frame เพิ่มเฟรมหรือ Remove Frame ลบเฟรม 2. คลิกเมนู Modify Timeline  Add Frame เพิ่มเฟรมหรือ
  • 84. การเพิ่มเส้นเวลา 1. คลิกเมนู ModifyTimeline Add Timeline การเรียกใช้เส้นเวลา 1. เลือกชื่อเส้นเวลาจากพาเนล Timelines การเปลี่ยนชื่อเส้นเวลา
  • 85. การเปลี่ยนชื่อเส้นเวลา • เลือกเส้นเวลาที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ • คลิกเมนู ModifyTimelineRename Temeline • พิมพ์ชื่อลงในส่วนของชื่อเส้นเวลาในพาเนล Temeline • พิมพ์ชื่อลงในช่อง Timeline Name:
  • 86. การนำาไฟล์ Flash มาแสดงในหน้าเว็บเพจ Flash เป็นโปรแกรมสร้างสรรค์ประเภท ซงึ่อยคู่่ายเดียว กับ Dreamweaver โดย Flash สามารถใช้ออกแบบผล งานทั่วไป และผลงานทแี่สดง Browser ได้ สำาหรับผลงานทจี่ะนำามาใชใ้นการทำาเว็บเพจ แสดงผล ทาง Browser ได้นั้น จะต้องเป็ยไฟล์สกุล. Swf (Flash Movie) เทา่นนั้เพราะฉะนนั้ต้องมไีฟล์สกุล .swf ก่อนจึง จะทำาตามขั้นตอนนี้ได้ 1. วางเคอร์เวอร์บนพื้นที่หน้าต่างการทำางาน 2. คลิกปุ่มแทรก Flash หรือเมนู Insert เลือกรายการ Media Flash 3. คลิกเลือกไฟล์ Flash ทจี่ะนำามาใช้งาน 4. คลิก ok 5. รอสกัครู่จะแสดงที่ตั้งของไฟล์ Flash 6. ทดสอบการแสดงผลทาง Browser โดยกดปุ่ม F12
  • 87. วิธีสร้างปุ่มกดด้วย Flash Button 1. วางเคอร์เซอร์บนพื้นที่การทำางาน 2. คลิกเมนู InsertInteractive ImagesFlash Button 3. จะปรากฏหน้าต่างเตือนให้บันทึกไฟล์ก่อนใช้งาน ไฟล์ Flash Button 4. จะปรากกหน้าต่าง Insert Flash Buton ขึ้นมา ให้เลือกแบบปุ่มที่ต้องการ 5. จะได้ปุ่ม Flash ตามทเี่ลือก 6. คลิกสัญลักษณ์ให้มีจุดล้อมรอบ 7. ปรับตำาแหน่งและขนาดของ Flash Button ที่ แถบพาเนล Properties 6. คลิกเมนู FilePreview in Browseriexplore
  • 88. การสร้างข้อความจุดเชื่อมโยงด้วย Flash Text Flash text เป็นส่วนที่ใช้ในการสร้างจุดเชื่อม โยงไปยังตำาแหน่งต่าง ๆ เมื่อผู้ชมคลิกทบี่ริเวณ ข้อความเชื่อมโยงไปยังตำาแหน่งที่กำาหนดได้ • คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างการทำางาน • คลิกเมนู InsertInteractive ImagesFlash Text • ปรากฏหน้าต่าง Insert Flash Text กำาหนดค่า ต่าง ๆ • คลิกปุ่ม Ok จะปรากฏออบเจ็กทข์อง Flash text • กดปุ่ม F12 ดูผลบนเว็บบราวเซอร์
  • 89. การใส่ Shockwave movie,ActiveX control,Java applet 1. คลิกเมาส์วางเคอร์เซอร์บนหน้าต่างทำางาน 2. คลิกเมนู InsertMediaShockwave หรือ ActiveX หรือ Java Applet หรือเลือกจากแทบ็ Media 3. เลือกไฟล์ที่ต้องการ 4. คลิก ok
  • 90. การใส่ไฟล์เสียงลงในเว็บเพจ การใส่ไฟล์เสียงที่สามารถนำามาใช้ได้จะมีอยู่ ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งตาละชนิดก็จะมขี้อดีข้อ เสียในการนำามาใช้ในเว็บเพจต่างกัน อีกทั้งยัง ต้องการโปรแกรมเสริม (Plug-in) ในการแสดง ผลที่ต่างกัน ขั้นตอนการใส่ไฟล์เสียงลงในเว็บเพจ 1. คลิกเมาส์วางเคอรืเซอร์บนหน้าต่างการทำางาน ตำาแหน่งที่ต้องการ 2. คลิกเมนู Insert MediaPlugin หรือคลิกปุ่ม 3. จะปรากฏไฟล์เสียง 4. คลิกปุ่ม ok 5. จะปรากกสัญลัษณ์การใส่ไฟล์เสียง 6. กดปุ่ม F12 หรือ คลิกเมนู FilePreview in Browser iexplorer
  • 91.
  • 92. โครงสร้างของ CSS รูปแบบโครงสร้างของ Style Sheets ของ CSS จะใช้แท็ก <STYLE> ในการกำาหนดคุณลักษณะ ของเว็บเพจ เช่น รูปแบบตัวอักษร ขนาด สี ซึ่ง สามารถกำาหนดใหเ้ชื่อมโยงไปยังเว็บเพจ หรือสร้าง จุดเชื่อมโยงไปยังไฟล์ *.CSS ที่เก็บรูปแบบ CSS ไว่ได้ โครงสร้างของ CSS มรีูปแบบดังนี้ การเปิดหน้าต่าง CSS Styles Sheets 1. คลิกเมนู window 2. เลือกรายการ CSS Styles 3. จะแสดงหน้าต่าง CSS Styles
  • 93. การสร้าง CSS Style Sheetsใหม่ 1. คลิกทปีุ่่มในหน้าต่าง Desing ป้ายคำาสั่ง CSS Style 2. จะปรากฏหน้าต่าง New CSS Style 3. ใหก้ำาหนดรายละเอียด ช่อง Name: ตั้งชื่อใหกั้บ Style ตามต้องการ 4. กำาหนดชนิดของ CSS ช่อง Type: Make Custom Style (Class) กำาหนดรูปแบบเอง  Redefine HTML Tag CSS Tag HTML Use CSS Selector 1. คลิก  ช่อง Define In: กำาหนดทเี่ก็บ CSS Style Sheet ต้องการเลือกเก็บไว้ที่ใด เลือก New Style Sheet File ใหอ้อกแบบ
  • 94. 1. คลิกปุ่ม Ok 2. ปรากฏหน้าต่าง Save Style Sheet File As 3. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์และตั้งชื่อไฟล์ 4. คลิกปุ่ม Save 5. ปรากฏหน้าต่าง CSS Style Sheet File As
  • 95. 11.คลิก  Font เลือกแบบตัวอักษร 12.คลิก  Suze กำาหนดขนาดตัวอักษร 13.คลิก  Style กำาหนดลักษณะตัวอักษร 14.คลิก  Line Height กำาหนดความยางของเส้น 15.คลิกเครื่องหมาย √Decoration เลือกค่าที่ ต้องการปรับแต่ง ภายในกรอบสี่เหลี่ยม 16.คลิก  Weight เลือกนำ้าหนัก 17.คลิก  Variant เลือกรูปแบบปกติหรือ เปลี่ยนแปลง 18.คลิก  Case เลือกรูปแบบของตัวอักษร 19.คลิก Color เลือกสีของตัวอักษร 20.คลิกปุ่ม Ok 21.จะได้ไฟล์ CSS ทอี่อกแบบไว้แสดงอยู่ที่ CSS Style Panel
  • 96. การเปิดใช้งาน CSS Style Sheets 1. เลือกข้อความที่ต้องการจัดรูปแบบให้มีแถบสี 2. คลิกเมาส์ที่ Style ทตี่้องการกำาหนดรูปแบบ ให้ หน้าต่าง CSS Style 3. จะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ 4. การดูไฟล์ทบีั่นทกึไว้ ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ .CSS เพื่อดู โค้ด จะปรากฏป้ายแถบ Style ทแี่ถบด้านล่างจะ ปรากฏ Code บนหน้าต่างทำางาน
  • 97. การแก้ไข CSS Style Sheets 1. คลิก  Edit Style ใหม้จีุดสีดำา 2. ดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ CSS คลิกขวาทชีื่่อไฟล์ CSS จะปรากฏเมนูลัด 3. คลิกรายการ Edit 4. จะปรากฏหน้าต่าง CSS Style Definition For .unnamed 1 5. แก้ไขรายการต่าง ๆ แล้วคลิก Ok
  • 98. การเปิดใช้งาน CSS Style Sheets สำาเร็จรูป 1. คลิกเมนู Fine 2. คลิกรายการ New 3. ปรากฏหน้าต่าง New Document 4. คลิกรายการ CSS Style Sheets ใหม้แีถบสี 5. ด้านขวาแสดงรายชื่อไฟล์ ใหเ้ลือก Style ที่ ต้องการ ดูตัวอย่างในช่อง Preview 6. คลิกปุ่ม Create
  • 99. การจัดเมนูด้วย HTML Style ใช้สำาหรับสร้างรูปแบบตัวอักษร ใหกั้บข้อความทเี่ลือกหรือย่อหน้านนั้ ๆโดยจะ กำาหนด Attribute ใหกั้บตัวอักษร จะทำาให้ สามารถสร้างข้อความได้รวดเร็วและง่ายขึ้น การสร้าง HTML Style 1. คลิกปุ่ม ป้าย HTML Style 2. ปรากฏหน้าต่าง Define HTML Style 3. ตั้งชื่อช่อง Name: Hstyle 1 4. Apply to: เลือกแบบ Selection 5. Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษรเลือก Abgsana UPC กำาหนดขนาดของตัวอักษร เลือก
  • 100. การสร้าง HTML Style แบบ Paragraph 1. คลิกปุ่มป้าย HTML Style 2. ปรากฏหน้าต่าง Define HTML Style 3. ตั้งชื่อช่อง Name: Hpragraph 4. Apply To: เลือกแบบ Paragraph 5. Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษรเลือก Angsana UPC 6. Size: กำาหนดขนาดของตัวอักษร เลือก 4 7. Color: กำาหนดสีของตัวอักษร สีนำ้าเงิน 8. Style: กำาหนดลักษณะตัวอักษรเลือก B ตัวหนา 9. คลิกปุ่ม Ok 10.จะได้ไฟล์ Hparagraph 1
  • 101. การเปิดใช้งาน HTML Style ก่อนใช้งาน HTML Style ใหสั้งเกต สญัลักษณ์ของ HTML Style - สญัลักษณ์ แสดงว่าเป็นการกำาหนดแบบ Selection - สญัลักษณ์ แสดงว่าเป็นการกำาหนดแบบ 1. เลือกข้อความใหม้แีถบสี กรณีใช้แบบ Selection 2. คลิกไฟล์ HStyle 1 3. สงัเกตผลที่ได้บนหน้าจอภาพ จะเปลี่ยนไปตาม รูปแบบที่กำาหนดไว้ 3. คลิกเมาสวางเคอร์เซอร์ที่ข้อความบรรทัดใดก็ได้ 4. คลิกเมาสไ์ฟล์ Hparagraph 1 5. สงัเกตผลที่ได้บนหน้าจอภาพ จะเปลี่ยนไปตาม รูปแบบที่กำาหนดไว้
  • 102. การยกเลิกรูปแบบ HTML Style 1. คลิกเลือกข้อความที่ต้องการยกเลิกรูปแบบให้มี แถบสี 2. คลิก ไฟล์ทปี่้าย HTML Style มรีูปแบบการ ยกเลิก 2 รายการ คือ - Clear Selection Style เพื่อลบรูปแบบของ ข้อความแบบตัวเลือกที่กำาหนดไว้ - Clear Paragraph Style เพื่อลบรูปแบบ ของย่อหน้าที่กำาหนดไว้ 3. ให้คลิกเลือกรายการที่ต้องการใช้งาน 4. สังเกตดูผลลัพธ์บนจอภาพ
  • 103. การแก้ไข HTML Style 1. ดับเบิ้ลคลิกชื่อไฟล์ HTML Style จะปรากฏ หน้าต่างตัวเลือกให้แก้ไข 2. ใหแ้ก้ไขรูปแบบทตี่้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ เช่น เปลี่ยนขนาดตัวอักษรเป็น 6 3. เปลี่ยนช่อง Color : เป็นสเีขียว 4. คลิกปุ่ม Ok 5. ทดลองคลิกชื่อไฟล์ Hparagraph 1 ใหม่อีกครั้ง เพื่อดูผลที่ได้บนหน้าจอภาพ
  • 104. การใช้ Behaviors Behaviors เป็นการเพมิ่สีสัน หรือเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ให้ กับเอกสารเว็บเพจ เช่นการทำาภาพเคลื่อนไหว หรือตอบ สนองต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ การใช้ Behaviors ใน Macromedia Dreamweaver MX นั้น เป็นการสร้าง จา วาสคลิปต์ในรูปแบบของคำาสั่งสคลิปต์ < Script Language = “ JavaScript” > การสร้างเมนูย่อย Popup Menu Popup Menu เป็นเครื่องมือที่ใช้กันอยู่ทั่วไปตามเว็บไซต์ ต่าง ๆ ช่วยให้สะดวกในการค้นหาข้อมลูบนเว็บ โปรแกรม Dreamweaver MX มีความสามารถในสร้างเมนูย่อยได้ สะดวกและง่าย ขั้นตอนการสร้างเมนุย่อย Popup Manu 1. สร้างตาราง 1 Rows 3 Columns บนจอภาพ 2. พิมพ์ข้อความหัวข้อเมนู 3. เลือกข้อความช่อง ดาวโหลด ใหม้แีถบสีดำาคลุม 4. คลิก Browse for File ช่อง Link คลิกเลือกไฟลื ลิงค์ทตี่้องการกำาหนด
  • 105. 1. คลิกปุ่ม Ok 2. ปรากฏชอื่ไฟล์ทตี่้องการเชื่อมโยง ช่อง Link 3. คลิกทปีุ่่ม ของหน้าต่าง Behavior 4. คลิกรายการ Show Pop-Up Menu 5. ปรากฏหน้าตา่ง Show Pop-Up Menu 11.พิมพ์ข้อความช่อง Text: Programs 12.คลิก ข้อความช่อง Target : เลือก _blank 13.คลิก  ช่อง Link : เลือกเว็บเพจทตี่้องการ กำาหนด 14.คลิกเมนู  จะเพิ่มรายการแสดงด้านล่าง
  • 106. 11.คลิกป้าย Appearance เพอื่กำาหนดลักษณะรูป แบบของ Pop – Up Menu 12.ช่อง Vertical Menu คลิก  เลือกรูปแบบแนว ตั้งหรือแนวนอน 13.ช่อง Font: กำาหนดรูปแบบตัวอักษร 14.ช่อง Size: กำาหนดขนาดตัวอักษร 15.ช่อง Up state: และ Over state: กำาหนด รูปแบบเมนู 16.คลิกป้าย Advanced เพอื่กำาหนดขนาดของ Pop-Up Menu 17.คลิกป้าย Position เพื่อกำาหนดตำาแหน่งการวาง Pop-Up Menu 18.คลิก Menu Position รูปที่ 2 ใหถู้กเลือก 19.คลิกปุ่ม OK
  • 107.
  • 108. การสมัครขอใช้พื้นที่ฟรีบนอินเตอร์เน็ต การสมคัรขอใช้พื้นทฟี่รีบนอินเตอร์เน็ต มเีว็บไซต์ ทใี่ห้บริการพนื้ที่ฟรีอยมู่ากมาย แต่จะมโีฆษณาของ เว็บไซต์ทขี่อใช้บริการฟรีติดอยดู่้วย เพอื่เป็นการ ประชาสัมพันธ์ให้กับเว็บไซต์ที่เราใช้บริการฟรี ตัวอย่างรายชอื่เว็บไซต์ทใี่ห้บริการฟรี ( ของต่าง ประเทศ ) www.geocities.com 11 mb www.100megsfee.com 100 mb www.50megs.com 50 mb www.Freewebpage.ore 150 mb www.angelfire.lycos.com 20 mb www.fortunecity.com
  • 109. ตัวอย่างรายชอื่เว็บไซต์ทใี่ห้บริการฟรี ( ของไทย ) www.thai.net 10 mb www.thaitopsites.com 20 mb www.thai4free.com ไม่จำากัดเนื้อที่ www.se-ed.net 15 mb www.thcity.com 11mb www.etccafe.com ไม่แน่ชัด
  • 110. ขั้นตอนการสมคัรขอใช้พื้นทฟี่รีของ Geocities 1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ WWW.geocities.com เพอื่เปิดหน้าต่าง เว็บไซต์นี้บนจอภาพ 2. คลิกคำาว่า Free สีนำ้าเงิน 3. คลิกปุ่ม Sing up ด้านขวา 4. คลิกคำาว่า sign up now 5. ปรากกหน้าต่างใหก้รอกรายละเอียดส่วนตัว ในหน้าต่าง แบบฟอร์ม GeoCities 6. เมอื่กรอกเรียบร้อย ใหค้ลิกปุ่ม Submit This Firm 7. ปรากฏหน้าต่าง Registration Completed: Welcome to Yahoo !ampakultumyotin คือการลงทะเบียนเสร็จ สิ้นเรียบร้อย 8. คลิกปุ่ม Continue to Yahoo ! 9. รอสกัครู่จะปรากกหน้าต่างให้เลือกหัวข้อโฆษณาอย่างน้อย 1 หัวข้อ 10.คลิกปุ่ม Continue
  • 111. 1. ถา้ต้องออกแบบเว็บผ่านทาง geocities.com ใหค้ลิกปุ่ม Build Your Web Site Now ! 2. จะปรากฏหน้าต่าง geocities มีชอื่ URL ที่สมัครไว้พร้อมมีการนำาเสนอขั้นตอนการ ออกแบบเว็บผ่านทาง geocities.com มา ให้อีกด้วย
  • 112. การ ( Upload ) การอัพโหลด (Upload) คือ การนำาข้อมลูขึ้นสู่ Web Server ซึ่งทำาให้เกิดการแสดงผลบน อินเตอร์เน็ตได้ เมอื่ออกแบบเรียบร้อยต้องทำากา รอัฟโหลดข้อมลู ซึ่งมี 2 แบบ คือ 1. แบบบราวเซอร์ Browser 2. แบบ FTP File Transfer Protocol ขั้นตอนการอัพโหลดแบบ Browser 1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ www.geocities.com 2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ geocities 3. พิมพ์ชื่อทตีั่้งไว้ช่อง Yahoo ID: 4. พิมพ์รหสัผ่านช่อง Password: 5. คลิกปุ่ม Sign in 6. ช่อง Advanced Toolbox ใหค้ลิกรายการ Easy Upload
  • 113. 1. คลิกปุ่ม Browse… เพอื่หาไฟล์เว็บเพจทตี่้องการ อัพโหลด ให้เลือกไฟล์แรกคือ Index.html ก่อน เป็นหน้าแรกสุด เลือกไฟล์ชอ่งละ 1 ไฟล์จนครบ หมด 2. ใหค้ลิกปุ่ม Upload Files 3. เรียบร้อยแล้ว พิมพ์เว็บไซตท์ี่ตั้งไว้ทดสอบ ผลลัพธ์บนอินเตอร์เน็ต ขั้นตอนการอัพโหลดแบบ FTP ต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนการอัพโหลด ในทนีี่้ใช้ โปรแกรม CuteFTP เริ่มจากการติดตั้งโปรแกรม CuteFTP ก่อนจึงทำาการอัพโหลด
  • 114. การติดตั้งโปรแกรม CuteFTP 1. ดับเบิ้ลคลิกไอคอล CuteFTP 2. ปรากฏหน้าต่างการติดตั้งโปรแกรม CuteFTP 3. คลิกปุ่ม Next 4. คลิกปุ่ม Yes 5. คลิกปุ่ม Next 6. คลิกปุ่ม Next 7. รอสกัครู่ติดตั้งจนครบ 100% 8. คลิกปุ่ม Finish 9. จะปรากฏหน้าต่าง CuteFTP Connection Wizard ตั้ง ชื่อ FTP Site 10.คลิกปุ่ม Next 11.ปรากฏหน้าต่างใหใ้ส่ชื่อ FTP Address ( ทอี่ยู่ของเว็บที่ ใช้ในการอัพโหลดแบบ FTP ) เว็บทสี่ามารถอัพโหลดแบบ
  • 115. 12.คลิกปุ่ม Next 13.ปรากฏหน้าตา่งใหใ้ส่ User name และ Password ตามที่ได้ตั้งไว้เมื่อตอนลงทะเบียนสมัครขอพื้นที่ 14.คลิกปุ่ม Next 15.คลิกปุ่ม  เพื่อเลือก Folder ทเี่ป็นค่าตั้งต้นในการ อัพโหลด ( หรือถา้ไมต่้องการกำาหนดให้ข้ามขั้นตอน ) 16.คลิกปุ่ม Next 17.คลิกปุ่ม Finish เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  • 116. ขั้นตอนการใช้โปรแกรม Cite FTP ในการอัพโหลด 1. คลิกปุ่ม Start 2. คลิกรายการ Proframs 3. คลิกรายการ GlobalSCAPECuteFTP Home Cute FTPHome 4. ปรากฏหน้าต่างโปรแกรม และจะทำาการเชื่อมต่อ Server ที่เราตั้งค่าไว้โดยอัตโนมัติ
  • 117. การอัพโหลดโดยใช้โปรแกรม CuteFTP มี 2 แบบ คือ 1. แบบที่ 1 คลิกไฟล์ ลากค้างไว้ แล้วปล่อยทาง ด้านขวา 1. เลือกคลิกไฟล์ 1 ไฟล์หรือหลาย ๆ ไฟล์พร้อมกัน 2. ลากค้างไว้แล้วปล่อยลงในหน้าต่างด้านล่าง 2. แบบที 2 1. เลือกคลิกไฟล์หลายๆ ไฟล์พร้อมกันใหม้แีถบสี 2. คลิกเมาส์ขวาปรากฏเมนูลัด 3. คลิกรายการ Upload 4. โปรแกรมจะทำาการอัพโหลดขึ้นบน Server
  • 118. การใช้บริการ Webboard Guestbook Counter ฟรี 1. http://www.212cafe.com/freewebboard 2. http://www.th2.net 3. http://www.212server.com 4. http://www.icygang.com/freewebboard ตัวอย่างการขอใช้เว็บบอร์ดฟรี 1. ปิดเว็บไซต์ ชื่อhttp://www.212cafe.com/freewebboard 2. ปรากฏ หน้าต่างhttp://www.212cafe.com/freewebbo ard 3. ให้กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม 4. คลิกปุ่ม Submit
  • 119. การขอใช้บริการสมดุเยยี่ม Guestbook 1. http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 2. http://frestbookcentral.com 3. http://freecenter.com/guestbook.html 4. http://toolzone.com 5. http://boxchart.com ตัวอย่างการขอใช้บริการสมุดเยยี่ม Guestbook 1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ http://guestbook.th2.net/thai/home.asp 3. คลิกรายการ สมคัรสมาชิก คลิกทนีี่่ ! 4. รอสกัครู่จะปรากฏหน้าต่างแสดงเงื่อนไข คลิกปุ่ม ตกลง 5. ปรากฏหน้าต่างปรับค่าต่าง ๆ ของสมดุเยยี่ม กรอกราย
  • 120. รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการตัวนับจำานวนผู้เข้าชม 1. http://www.zcounter.com 2. http://www.freecenter.com/counter.html 3. http://www.counted.com 4. http://www.acecounter.com 5. http://www.free-counters.co.uk 6. http://www.stats4all.com ตัวอย่างการขอใช้บริการขอใช้บริการตัวนับจำานวน ผู้เข้าชม 1. พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ http://www.zcounter.com 2. ปรากฏหน้าต่างเว็บไซต์ http://www.zcounter.com 3. พิมพ์ User Login:
  • 121. 4. คลิกทขี่้อความว่า Sign up for a Free Counter 5. กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบ 6. คลิกทปีุ่่ม Sing Up 7. รอสกัครู่ การลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ 8. คลิกทขี่้อความว่า Here เพื่อทำาการ Login 9. ระบุช่อง User Login: User Password: