Biology8. 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดิฉันได้เข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ทุกวัน ( ในตอนเช้า / ก่อนนอน ) ใส่บาตร ไปวัดในวันหยุด 2 ซื่อสัตย์สุจริต เวลาที่ยายใช้ให้ไปซื้อของแล้วเงินเหลือดิฉันก็นำไปคืนยายทุกครั้ง ไม่ขโมยของของคนอื่น เจอของอะไรในห้องก็ถามเพื่อนว่าของใครแล้วนำกลับไปคืนเจ้าของ 3 มีวินัย ดิฉันแต่งกายถูกต้องตามระเบียบวินัยของโรงเรียน เวลาขึ้นอาคารก็จะถอดรองเท้าทุกครั้งทิ้งขยะลง ถังขยะ กินข้าวเสร็จในตอนกลางวันก็จะนำจาน ไปเก็บที่ล้างจานทุกครั้ง 14. 1. co2 ที่ทำให้โลกร้อนได้อย่างไร ตอบ ถ้าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมีมากเกินไปก็จะทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นแก็สที่มีคุณสมบัติสามารถกักเก็บความร้อนเอาไว้ได้ แต่ถ้าแก็สนี้มีมากจนเกินไปมันก็จะดูดเอาความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากขึ้นจึงส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นด้วย สาเหตุก็เพราะว่าเกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่ปล่อยแก๊สขึ้นสู่บรรยากาศมากขึ้น และอีกประการหนึ่งก็คือการตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ที่มีเพิ่มขึ้นในทุกๆปีโดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาแทนที่จะเป็นการปลูกทดแทน ซึ่งเมื่อต้นไม้มีจำนวนที่ลดลงทำให้มีตัวที่ไปตรึง co2 ในอากาศมาใช้น้อยลง 15. 2. พืชมีความเกี่ยวกับภัยธรรมชาติอย่างไร ตอบ ในระบบนิเวศพืชมีความสำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารเองได้ เป็นผู้ผลิตในระบบนิเวศ และยังเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ธรรมชาติต่างๆบนโลก เพราะกระบวนการสร้างอาหาร ( กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ) ของพืชจะต้องใช้ น้ำ และ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากอากาศก็จะได้ช่วยลดปัญหาโลกร้อนเพราะปัญหานี้ส่งผลต่อโลกในหลายๆด้าน เช่นทำให้อุณหภูมิภายในโลกสูงขึ้น แผ่นดินไหว เกิดสึนามิ นอกจากนี้ก็จะทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายน้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล เชื้อโรคมีการระบาดเพิ่มมากขึ้น ส่วนน้ำก็ได้มาจากใต้ดินส่วนในเวลาที่ฝนตกต้นไม้ก็จะช่วยดูดซับเอาน้ำนั้นไว้ไม่ให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมที่ประเทศไทยประสบอยู่ทุกวันนี้ 16. 3. วิธีการใช้และการเก็บรักษากล้องจุลทรรศน์ วิธีการใช้ 1. ยกกล้องจุลทรรศน์โดยเอามือด้านหนึ่งจับที่แขนของกล้อง และอีกมือหนึ่งวางรองจับที่ใต้ฐานของตัวกล้องในลักษณะที่ให้ลำกล้องตั้งตรง 2. วางกล้องให้ฐานอยู่บนพื้นที่ราบเรียบสม่ำเสมอเพื่อเป็นการป้องกันตัวกล้องจะล้มเพราะ ส่วนประกอบต่างๆนั้นมีราคาค่อนข้างแพงอีกทั้งยังเป็นของส่วนรวมที่เราจะต้องรักษาเมื่อมันเป็นของส่วนรวม 3. เสียบปลั๊กไฟตรวจดูว่ามีการรั่วของไฟฟ้าหรือไม่เพื่อที่จะไม่ได้เป็นอันตรายขณะที่ทำการทดลอง 4. เปิดสวิตซ์กล้องเพื่อที่จะทำการใช้งาน 5. เมื่อจะทำการส่องดูวัตถุก็นำวัตถุที่จะศึกษานั้นไปใส่ในแท่นวางสไลด์ โดยจะต้องเฉือนวัตถุให้เป็นชิ้นบางๆเสียก่อน 6. เลื่อนแท่นวางวัตถุขึ้นโดยหมุนปุ่มปรับภาพหยาบโดยเริ่มแรกจะใช้กำลังขยายต่ำที่สุดก่อนเมื่อมองเห็นภาพแล้วค่อยหมุนปรับภาพละเอียด เมื่อเห็นแล้วก็ค่อยปรับภาพละเอียดทีหลังถ้าวัตถุนั้นไม่ตรงกับเลนส์ที่เราจะส่องดูก็หมุนปรับตัวแท่นวางสไลด์ 19. 1. เนื้อเยื่อเจริญและเนื้อเยื่อถาวรประกอบด้วยเนื้อเยื่ออะไรบ้าง ตอบ 1. เนื้อเยื่อเจริญประกอบด้วย ( Meristemmatic tissue หรือ Meristem ) 1.1 เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย ( Apical meristem) - เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด ( apical shoot meristem ) - เนื้อเยื่อเจริญปลายราก ( apical root meristem) 1.2 เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ ( Interculary meristem ) 1.3 เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง ( Lateral meristem ) - แคมเบียมท่อลำเลียง ( Vacular cambium ) -Cork Cambium 20. 2. เนื้อเยื่อถาวร ( Permanent Tissue) 2.1 เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว ( Simple permanent tissue ) - Epidermis - Parenchyma - Collenchyma - Sclerenchyma - Endodermis - Cork 2.2 เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ( Complex permanent tissue ) 2.2.1 Xylem 2.2.2 Phloem - Tracheid - Sieve tube member - Vessel - Companion cell - xylem parenchyma - phloem parenchyma - xylenfiber - ploem fiber 21. 2. บอกตำแหน่งและหน้าที่ของเนื้อเยื่อชนิดนั้น ตอบ เนื้อเยื่อเจริญ ( Meristemmatic tissue หรือ Meristem ) ประกอบด้วย Cell ที่มีชีวิตกำลังจะแบ่งตัวแบบไมโอซีส ( mitotic celldivition ) อยู่ตลอดเวลา มีลักษณะดังนี้ ( 1 ) เป็น cell ที่มีชีวิตและมี protoplasm มาก ( 2 ) มี nucleus ขนาดใหญ่และเห็นได้ชัดเจน ( 3 ) ขนาดเล็กหรือไม่มีเลย ( 4 ) ผนัง cell บางและประกอบด้วย cellulose เป็นส่วนใหญ่ ( 5 ) cell มีรูปร่างที่ค่อนข้างกลมหรือหลายเหลี่ยมอยู่ด้วยกันจนทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่าง cell ให้เห็น ( 6 ) cell ที่แบ่งได้จะมีรูปร่างแบบเดิมจนกว่าจะเปลี่ยนแปลง ( differentiation ) ไปทำหน้าที่เฉพาะอย่างมีดังต่อไปนี้ 23. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง ( Lateral meristem ) 3.1 ) ท่อลำเลียงแคมเบียม ( Vascular cambium ) พบที่ ด้านข้างบริเวณท่อลำเลียงของรากและลำต้น หน้าที่ เมื่อมีการแบ่ง cell จะเป็นการช่วยเพิ่มความกว้างของเส้นผ่านศูนย์กลางของรากและลำต้น 3.2) Cork cambium พบที่ อยู่ถัดจากเนื้อเยื่อของราก และลำต้นเข้าไปด้านใน หน้าที่ เมื่อมีการแบ่ง cell จะทำให้รากและลำต้นขยายใหญ่ขึ้น 24. เนื้อเยื่อถาวร ( Permanent tissue ) เกิดจากเนื้อเยื่อเจริญแต่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดของ cell เพื่อทำหน้าที่เฉพาะอย่างแตกต่างกันออกไปแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว ( Simple permanent tissue ) ( 1 ) Epidermis พบที่ ชั้นนอกสุดของลำตันและรากพืช หน้าที่ ป้องกันการระเหยของน้ำเนื่องจากมีสารพวก cutin หรือขี้ผึ้งฉาบอยู่ ( 2 ) Parenchyma พบที่ ส่วนที่อยู่ถัดเข้ามาจากชั้น cortex หน้าที่ เก็บน้ำและอาหารให้แก่ต้นพืชเนื่องจากมี Vacuole บาง cell ที่มีขนาดใหญ่และบาง cell มี choroplast อยู่ด้วยทำให้สร้างอาหารเองได้ และบาง cell ก็เก็บสะสมอาหารให้แก่พืช 25. ( 3 ) Collenchyma พบที่ ก้านใบ บริเวณมุมขอบหรือเหลี่ยมต้นพืช หน้าที่ ทำให้พืชแข็งแรงและเหนียวทนทาน ( 4 ) Sclerenchyma พบที่ ตามส่วนที่แข็งๆของเปลือกไม้ หน้าที่ ช่วยให้พวกเปลือกหุ้มเมล็ดแข็งแรง ( 5 ) Endodermis พบที่ ด้านนอกของเนื้อเยื่อลำเลียงราก หน้าที่ ที่ผนังมีสารพวก lignin และ suberin มาเกาะพอกหนาอยู่ ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่าง cell เลย 6 ) Cork พบที่ ชั้นนอกถัดเข้าไปจากชั้น epidermis ของลำต้นและรากของพืชซึ่งมีการเจริญเติบโตขั้นที่สอง ( Secondary growth ) หน้าที่ ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำภายใน Cell และทำให้น้ำผ่านเข้า cell ไม่ได้ 27. (2) ท่ออาหารหรือ Phloem 2.1 ) Sieve tube member พบที่ แทรกอยู่ตามท่ออาหาร หน้าที่ ทำให้สารลำเลียงผ่าน cell ได้ 2.2 ) Companion cell พบที่ แทรกอยู่ในท่ออาหารข้างเคียงกับ Sivebiut หน้าที่ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับ Sivebiut 2.3 ) Phloem parenchyma พบที่ ท่ออาหารและแทรกอยู่ตาม cell อื่นๆ หน้าที่ ช่วยลำเลียงอาหารไปเลี้ยง cell ที่อยู่ด้านข้างและสะสมอาหารที่อยู่ในท่ออาหาร 2.4 ) Phloem fiber พบที่ แทรกอยู่ในท่ออาหาร หน้าที่ ช่วยให้ความแข็งแรงแก่พืช อ้างอิง : ผู้ช่วย ดร . สมาน แก้วไวยุทธ : คู่มือชีววิทยา ม 5. เล่ม 4 . กรุงเทพ๚มหานคร : โรงพิมพ์อมรการพิมพ์ 28. เนื้อเยื่อพืช plant tissue เนื้อเยื่อถาวร Permanent Tissue เนื้อเยื่อเจริญ Meristem Tissue เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย Apical Meristem Apical root Meristem Apical shoot Meristem เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ Intercalary Meristem เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง Lateral Meristem Cork cambium Vascular cambium เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว Simple Permanent Tissue Epidermis Parenchyma Collenchymas เนื้อเยื่อถาวรเชิง ซ้อน Complex Permanent Tissue Xylem tracheid Vessel Xylem parenchyma Xylem fiber Pholem sieve tube member Companion cell Phloem parenchyma Phloem fiber Sclerenchyma Endodermis cork 34. โครงสร้างของรากพืชใบเลี้ยงคู่ Epi - Cor - En - Pr - Ph - Cam - X - Cam - Ph - Pr - En - Cor - Epi Pt Pc G G Pt Co Pe Co Pe 2X 2Ph 2Ph 2X หมายเหตุ Epi = Epidermis Cor = Cortex En = Endodermis Pr = Pericycle Ph = Phloem Cam = Cambium X = Xylem Co= Cork Pe = Phelloderm Pt = Protoderm Pc = Procambium G = Ground meristem 2X = secundaryxylem 2Ph = secundaryphloem 35. Pt Pc G G Pt Epi - Cor - En - Pr - Ph - X - Ph - Pr - En - Cor - Epi โครงสร้างของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยว 39. ทำความรู้จักกับ เนื้อไม้ เปลือกไม้ กระพี้ แก่นไม้ วงปี 1. เนื้อไม้ ( Wood ) คือ Xylem ทั้งหมดที่เกิดจากการแบ่งตัวของ Cambium รวมทั้ง Pith 2. เปลือกไม้ ( Bark ) คือ Phloem ทั้งหมดที่เกิดจากการแบ่งตัวของ Cambium รวมทั้ง Epidermis,cork,cambium,phelloderm,Phloem,2Phloem 3. กระพี้ ( Sap Wood ) คือ ส่วนของเนื้อไม้ที่อยู่ถัดออกมาจากแก่นไม้และยังลำเลียงน้ำได้ 4. แก่นไม้ ( Heart Wood ) คือเนื้อไม้ที่มีสารพวก lignin มาพอกทำให้ข้างในเนื้อไม้อุดตันจนใช้ลำเลียงน้ำไม่ได้ 5. วงปี ( Annual ring ) คือ เนื้อไม้สีเข้มสลับสีอ่อน สีเข้มคือฤดูแล้งที่น้ำน้อย Xylem เจริญไม่ดีและเบียดกันเป็นแถบแคบ สีอ่อนคือฤดูฝนที่น้ำมาก Xylem เจริญได้ดีและอยู่กันเป็นแถบกว้าง Wood Bark Co –C.C- Pe -Ph - 2Ph- C - 2X - X- Pi – X -2X - C -2Ph – Ph - Pe - C.C - Co Bark ตำแหน่งเนื้อเยื่อ Secondary Dicot ที่ มี Secundary Growth แล้ว Co= Cork C.C = cork cambium Pe = Phelloderm Ph = Phloem 2Ph = secundaryphloem C = Cambium 2X = secundaryxylem X = Xylem Pi = Pith 43. 3. นักเรียนศึกษาและวิเคราะห์ปฏิบัติการที่ 12.4 ตอนที่ 2 หน้า 25-26 ในหนังสือแบบเรียนชีววิทยา เล่ม 4 ( ของ สสวท .) เพื่อเตรียมทำปฏิบัติการ