More Related Content
Similar to โครงงาน มะยม ม.5/5
Similar to โครงงาน มะยม ม.5/5 (8)
โครงงาน มะยม ม.5/5
- 1. บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์
กลุ่ม
Star gooseberry lamp
โดย
นางสาว กนกพร โพธิเรื อง เลขที่
1
นางสาว พัชรา ไชยยา เลขที่
9
นาย พันธขจร ขาวอิ่น เลขที่
10
นางสาวภารวี ชุมภูคา เลขที่
12
นายสุ เมธ ปัญญาแดง เลขที่
14
นางสาวฤทัยทิพย์ ตรี ธานี เลขที่
19
นายกิตติพงษ์ จอมแปง เลขที่
21
นายภูริ ดวงแก้ว เลขที่
23
นางสาวกาญจนา จันต๊ะมงคล เลขที่
25
นายเจษฏา ขันคา เลขที่
26
นางสาวสรศักดิ์ บุญทา เลขที่
39
ครูที่ปรึกษา
คุณครู คชารัศมิ์ รักษ์ธรรมเสมอ
คุณครู ปิ ยะวัฒน์ เรี ยบเรี ยง
ภาคเรี ยนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๕๖
โรงเรี ยน วัฒโนทัยพายัพ จังหวัด เชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๔
- 2. บทคัดย่ อ
โครงงานเรื่ อง “Star gooseberry lamp” การศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการใช้ รู ปลักษณ์ของผล
มะยม ซึ่ งทางคณะผูจดทาได้วางแผนการทางานในช่วงเวลาระยะสั้น โดยมี คุณครู คชารัศมิ์ รักษ์ธรรมเสมอ
้ั
และคุณครู ปิยะวัฒน์
เรี ยบเรี ยง เป็ นอาจารย์ที่ปรึ กษาในการทาโครงงานบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์
แรกเริ่ มทางคณะผูจดทาได้สังเกตเห็นว่ารู ปลักษณ์ของผลมะยมสามารถนามาดัดแปลงเป็ นโคมไฟเพื่อ
้ั
ประดับตกแต่งและให้แสงสว่างภายในบ้านหรื อสถานที่อื่นๆได้ ดังนั้นทางคณะผูจดทาจึงตั้งใจที่จะทาโคม
้ั
ไฟเพราะอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ามีราคาสู งจึงอยากประดิษฐ์ตวอย่างให้สนใจนาไปทาลองดู
ั
- 3. กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่ องนี้ จะไม่สามารถสาเร็ จลุล่วงไปด้วยดีได้หากปราศจากคาแนะนา จาก
คุณครู คชารัศมิ์ รักษ์ธรรมเสมอ และ คุณครู ปิ ยะวัฒน์ เรี ยบเรี ยง ซึ่งเป็ นที่ปรึ กษาโครงงาน บูรณาการ
สวนพฤษศาสตร์ ของทางคณะผูจดทา ที่ได้กรุ ณาให้คาแนะนา ติเตียน คอยวิจารณ์และแสดงความคิดเห็น
้ั
ระหว่างการปฏิบติการณ์ของเรามาโดยตลอด ทาให้เรารู ้จุดด้อยของโครงงาน และนามาปรับปรุ งให้ดียงขึ้น
ั
ิ่
คอยสนับสนุนในด้านจุดเด่น เพื่อทาให้เราได้ส่งเสริ มข้อเด่นนั้นๆ และพัฒนา ให้มีความสมบูรณ์มาก
ยิงขึ้นไปจนกระทังสาเร็ จลุล่วงไปด้วยดี
่
่
ขอขอบพระคุณ บิดามารดา และผูปกครองของสมาชิกทุกๆคน ที่ได้คอยให้คาปรึ กษา แนะนาใน
้
เรื่ องของการทาโคมไฟ ขอขอบพระคุณที่ได้มอบกาลังใจ ความรักและความห่วงใยเสมอมาในด้านของการ
ทางาน จนสุ ดท้ายแล้วโครงงานที่ออกมานั้น ประสบผลสาเร็ จลุล่วงไปด้วยดี
ขอขอบใจ เพื่อนๆร่ วมชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/5 ทุกๆคน ที่คอยให้กาลังใจ และร่ วมแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์คาแนะนาซึ่ งกันและกัน ขอขอบคุณประธานห้องและผูช่วยประสานงานทุกๆคน ที่รับผิดชอบ
้
หน้าที่ของตนเองเป็ นอย่างดีในด้านการติดต่อประสานงาน ข้อมูลข่าวสารต่าง จนโครงงานเรื่ องนี้ออกมา
อย่างบรรลุผลสาเร็ จ
- 4. คานา
โครงงานเล่มนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของการทากิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์ของโรงเรี ยน
วัฒโนทัยพายัพ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพรรณไม้ที่กลุ่มของคณะผูจดทาได้ศึกษา คือ เรื่ องมะยมและ
้ั
คุณสมบัติต่างๆของพรรณไม้คณะผูจดทาโครงงานได้ศึกษาข้อมูลมาจากการสารวจในสวน
้ั
พฤกษศาสตร์ของโรงเรี ยนและได้รวบรวมข้อมูลมาจากเว็บไซด์ต่างๆ เพื่อทามาศึกษาเรื่ องของ
มะยมและทางคณะผูจดทาได้นารู ปลักษณ์ของผลมะยมมาประดิษฐ์เป็ นโคมไฟที่ให้ความสว่าง
้ั
และไปตกแต่งห้องตามความต้องการ
หวังว่าโครงงานเล่มนี้จะให้ความรู ้แก่ผที่ให้ศึกษาไม่มากก็นอยหากมีขอผิดพลาด
ู้
้
้
ประการใดทางคณะผูจดทาก็ขออภัยมา ณ ที่น้ ี
้ั
คณะผูจดทา
้ั
- 6. บทที่ 1
บทนา
1.1 ทีมาและความสาคัญของโครงงาน
่
มะยมเป็ นไม้ตนขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สู งประมาณ 3 – 10 เมตร ลาต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขา
้
บริ เวณปลายยอด กิ่งก้านจะเปราะและแตกง่าย เปลือกต้นขรุ ขระสี เทาปนน้ าตาล ใบ เป็ นใบรวม มีใบย่อย
ออกเรี ยงแบบสลับกันเป็ น 2 แถว แต่ละก้านมีใบย่อย 20 – 30 คู่ ใบรู ปขอบขนานกลมหรื อค่อนข้างเป็ น
สี่ เหลี่ยมขนมเปี ยกปูนปลายใบแหลม ฐานใบกลมหรื อมน ขอบใบเรี ยบ ดอก ออกเป็ นช่อตามกิ่ง ดอกย่อย
สี เหลืองอมน้ าตาลเรื่ อๆ ผล เมื่ออ่อนสี เขียว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็ นสี เหลืองหรื อขาวแกมเหลือง เนื้อฉ่ าน้ า เมล็ด
รู ปร่ างกลม แข็ง สี น้ าตาลอ่อน 1 เมล็ด ร่ างกายของเราเปรี ยบอย่างกับต้นไม้ เมื่อเราโตขึ้นร่ างกายของเราก็
จะเจริ ญเติบโตเหมือนกับต้นไม้ มีคุณสมบัติ/ความสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้ความสามารถที่เรา
ได้รับ มีประสบการณ์มากขึ้น สามารถนาใช้ประโยชน์สูงสุ ด เมื่อเราดูแลเอาใจใส่ ตนไม้เป็ นอย่างดี ได้รับ
้
แสงแดด น้ า อย่างพอเพียง ต้นไม้จะเจริ ญเติบโต แข็งแรง สวยงาม เมื่อสังเกตตัวเองถ้าเรามีความสุ ขเบิกบาน
่ ิ
ใจ จะทาให้เราไม่ทอแท้ต่ออุปสรรคในชีวต จากที่เราได้เรี ยนรู ้จากธรรมชาติทาให้รู้วาชีวตองเราก็เปรี ยบดัง
้
ิ
่
ต้นไม้ตนหนึ่ง แต่เราสามารถมีความรู ้พฒนาตัวเองมากกว่าต้นไม้ เราควรตั้งใจทาปั จจุบนวันนี้ให้ดีที่สุด
้
ั
ั
่ ้
ต้นมะยมไม่สามารถที่จะอยูดวยตัวเองได้ตองมีสิ่งอื่นเมาเกี่ยวข้อง เช่น มีสัตว์และพืชเข้ามา
้
เกี่ยวข้อง 1.มด เป็ นสัตว์ในวงศ์ Formicidae อันดับ Hymenoptera มีจานวนชนิดมากกว่า 12,000 ชนิด โดย
พบมากในเขตร้อนของโลก มดมีการสร้างรังเป็ นอาณาจักรขนาดใหญ่ บางรังมีจานวนประชากรมากถึงล้าน
ตัว มีการแบ่งวรรณะกันทาหน้าที่คือ วรรณะมดงาน เป็ นมดเพศเมียเป็ นหมัน ทาหน้าที่หาอาหาร สร้างและ
ซ่อมแซมรัง ปกป้ องรังจากศัตรู ดูแลตัวอ่อน และงานอื่นๆ ทัวไป เป็ นวรรณะที่พบได้มากที่สุด วรรณะ
่
สื บพันธุ์ เป็ นมดเพศผู้ และราชินี เพศเมีย มีหน้าที่สืบพันธุ์ เนื่องจากมดเป็ นสัตว์ในวงศ์ Formicidae จึง
สามารถผลิตกรดมดหรื อกรดฟอร์ มิกได้เป็ นลักษณะเฉพาะของสัตว์ในวงศ์น้ ี
- 7. ่
2.ไลเคน คือ สิ่ งมีชีวตชนิดหนึ่งซึ่ งเกิดจากการมาอยูรวมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน (mutualism symbiosis) ของ
ิ
รา (fungi) และสาหร่ าย (algae) โดยรานั้นมีหน้าที่เก็บความชื้นและป้ องกันอันตรายให้สาหร่ าย ส่ วนสาหร่ าย
ทาหน้าที่สร้างอาหารและแบ่งปั นให้รา ดังนั้นทั้งราและสาหร่ ายต่างเอื้อประโยชน์ซ่ ึ งกันและกันอย่างลงตัว
ทาให้ไลเคนเกิดขึ้นได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการดารงชีวตของฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งหรื อสิ่ งมีชีวต
ิ
ิ
อื่น ๆ
่
ปั จจัยกายภาพอื่น ได้แก่ 1.ดิน เป็ นที่อยูอาศัยของพืช ดินแต่ละแห่งมีส่วนประกอบและแร่ ธาตุ
ที่จาเป็ นต่อการเจริ ญเติบโตของพืชต่างกัน พืชจะเจริ ญเติบโตได้ดี ถ้าปลูกในดินที่เหมาะสมกับพืชชนิดนั้น
2.น้ า ช่วยในการสร้างอาหารของพืช และยังช่วยละลายแร่ ธาตุ เพื่อให้รากดูดและลาเลียงไปยังส่ วนต่าง ๆ
ของพืช 3.อากาศ พืชต้องการแก๊สออกซิ เจนสาหรับหายใจ และแก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์สาหรับการสร้าง
อาหาร 4.แสงสว่าง แสงสว่างมีความสาคัญต่อพืชสี เขียวมาก เพราะพืชต้องการแสงเพื่อการสร้างอาหาร
่
จะเห็นได้วาความสัมพันธภาพระหว่างชีวต ระหว่างทรัพยากรชีวภาพ พืช สัตว์ ก็เปรี ยบเหมือนชีวตที่จะอยู่
ิ
ิ
ร่ วมกันในสังคม เราควรพึ่งพาอาศัยซึ่ งกันและกัน มีน้ าใจ เอื้อเฟื้ อเผือแผ่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผอื่น
่
ู้
เอาใจเขามาใส่ ใจเราอยูเ่ สมอก็จะทาให้เรามีความสุ ขและเข้ากับทุกคนในสังคม
่
จากสิ่ งที่ศึกษามะยม เห็นได้วาส่ วนผล
ของมะยมจะมีลกษณะรู ปร่ างกลมแป้ น มีสีเขียวอ่อน มี
ั
ศักยภาพดึงดูดความสนใจ และความสวยงามองผล สามารถนามาดัดแปลงทาเป็ นสิ่ งของได้อย่างสวยงาม จึง
ได้นารู ปลักษณ์องมะยมมาเป็ นแนวคิดในการทาโคมไฟ ที่มีรูปร่ างเป็ นทรงกลม สี เ ขียวอ่อน โดยสามารถใช้
ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น สามารถนาไปเป็ นของประดับตกแต่ง สร้างเป็ นรายได้ และใช้ความคิด
สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สงสุ ด
ในผลงานStar Gooseberry lamp ได้เกิดจากแนวความคิดของรู ปลักษณ์มะยม เพื่อให้ใช้ประโยชน์
ได้อย่างสู งสุ ด โดยได้มีการศึกษารู ปทรงมะยมแล้ว เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อสามารถนาไปใช้ใน
ชีวตประจาวันได้จริ ง และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริ ง
ิ
- 8. 1.2 วัตถุประสงค์ ของการศึกษา
1.เพื่อพัฒนาทักษะความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์
2.เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถในด้านประดิษฐ์ผลงาน
3.เพื่อสร้างความรู ้ ความเข้าใจในการนารู ปลักษณ์ของมะยมมาใช้ให้เกิดประโยชน์
4.เพื่อออกแบบในการประดับของตกแต่งบ้าน
1.3 ขอบเขตการจัดสร้ างโครงงาน
วัน/เดือน/ปี
แผนการดาเนินงาน
11 พฤศจิกายน 56
ประชุมให้ความรู ้เกี่ยวสวนพฤกษศาสตร์ และศึกษาพรรณไม้
วางแผนการดาเนินงานโครงงาน
12 พฤศจิกายน 56
ปฏิบติงานตามแผนการดาเนินงานที่วางแผนไว้ และครู ที่
ั
ปรึ กษาให้คาแนะนาเกี่ยวกับผลงาน
13 พฤศจิกายน 56
นาเสนอผลงานในห้องเรี ยน และหอประชุม
1.4 ประโยชน์ ทคาดว่ าจะได้ รับ
ี่
1.สามารถเห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงาม ของธรรมชาติ
2สามารถใช้วิธีคิดและความสามารถในการดาเนินงานโครงการสวนพฤกษศาสตร์น้ ีก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้าน
จิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร
3.สามารถเข้าใจเห็นความสาคัญการใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สงสุ ด
- 9. บทที่ 2
เอกสารและงานศึกษาที่เกียวข้ อง
่
ในการศึกษาโครงงานเรื่ อง Star gooseberry lamp ผูจดทาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการ
้ั
ต่างๆจากเอกสารและงานที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
กระดาษสา
กระดาษสาเป็ นกระดาษชนิดหนึ่ง ที่ทามาจากต้นกระดาษสาซึ่งต้นปอสาเป็ นพืชเส้นใยในตระกูล
เดียวกับหม่อนและขนุนมีหลายชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น ภาคเหนือเรี ยกปอสา ภาค
อีสานเรี ยก ปอกะสา หรื อปอสา ภาคตะวันตกเรี ยกหมกพี หรื อหมอพี ส่ วนภาคใต้เรี ยกปอฝ้ าย
่
เส้นใยปอสาส่ วนใหญ่ได้จากเปลือกของลาต้น ใช้เป็ นวัตถุดิบคุณภาพดี ทนทานไม่เปื่ อยยุย เก็บรักษา
ได้นาน
- 10. โคมไฟกระดาษสา
โคมไฟที่เราจะมาทากันมีเรี ยกว่า Shoji lamp เป็ นโคมไฟสไตล์ญี่ปุ่นสร้างขึ้นจากกระดาษสาและไม้ไผ่
่
จากน้ าหนักที่เบาของไม้ไผ่และแสงที่ผานกระดาษสา มีแสงนวลตา โคมไฟประดิษฐ์น้ ีเหมาะจะใช้เป็ น
โคมไฟหัวเตียง อาจใช้เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ก่อนนอน หรื อ ใช้อ่านหนังสื อก็ได้
หลอดไฟ
ให้แสงสว่างโดยการให้ความร้อนแก่ไส้หลอดที่เป็ นลวดโลหะกระทังมีอุณหภูมิสูงและเปล่งแสงไส้ที่
่
ร้อนนั้นถูกป้ องไม่ให้สัมผัสอากาศโดยหลอดแก้วที่เติมแก๊สเฉื่ อยหรื อที่เป็ นสู ญญากาศในหลอดฮาโล
เจนกระบวนการทางเคมีคืนให้โลหะเป็ นไส้หลอด ซึ่ งขยายอายุการใช้งาน หลอดไฟฟ้ านี้ได้รับ
กระแสไฟฟ้ าโดยเทอร์ มินอลต่อสายไฟ (feed-through terminal) หรื อลวดที่ฝังในแก้ว หลอดไฟฟ้ า
ส่ วนใหญ่ใช้ในเต้ารับซึ่ งสนับสนุนหลอดไฟฟ้ าทางกลไกและเชื่อมกระแสไฟฟ้ าเข้ากับเทอร์ มินล
ั
ไฟฟ้ าของหลอด หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาผลิตออกมาในหลายขนาด กาลังส่ องสว่าง และอัตราทน
ความต่างศักย์ จาก 1.5 โวลต์ไปจนถึงราว 300 โวลต์ หลอดประเภทนี้ไม่ตองอาศัยอุปกรณ์ควบคุม
้
ภายนอก มีค่าบารุ งรักษาต่า และทางานได้ดีเท่ากันทั้งไฟฟ้ ากระแสสลับหรื อกระแสตรง ด้วยเหตุน้ ี
ั
หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาจึงใช้กนอย่างกว้างขวางในครัวเรื อนและไฟฟ้ าใช้ในเชิงพาณิ ชย์ ตลอดจน
ไฟฟ้ าแบบพกพา อย่างเช่น ไฟตั้งโต๊ะ ไฟหน้ารถยนต์ และไฟฉายและไฟฟ้ าสาหรับตกแต่งและ
โฆษณา
- 20. บทที่ 4
ผลการเรียนรู้
การจัดทาโครงงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรี ยนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ฯ เรื่ อง Star gooseberry
lamp มีวตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความคิดริ่ เริ่ มสร้างสรรคืในการประดิษฐ์ผลงานเพื่อให้ผจดทาโครงงาน
ั
ู้ ั
สามารถนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น ตลอดจนสามารถนาต้นไม้ที่ผศึกษา
ู้
่
สนใจมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสด ซึ่ งมีผลการดาเนินงานโครงงาน ดังนี้
1.ได้นาความรู ้ที่ศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้นามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุ ด
2.ได้ใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์ ทาให้เรามีความรู ้เกี่ยวกับพันธ์ไม้ที่เราได้ศึกษามากขึ้น
3.สามารถนาความคิดสร้างสรรค์มาเป็ นแนวคิดการทาโคมไฟ
4.นาผลงานที่ได้ไว้ประดับตกแต่งภายในบ้านได้
5.สามารถต่อยอดนาไปเป็ นผลิตภัณฑ์ขายได้
ั
6.สร้างรายได้ให้กบตนเอง
- 21. บทที่ 5
สรุปและวิจารณ์
5.1 บทสรุปและวิจารณ์
บทสรุ ป
จากการออกแบบโคมไฟโดยใช้รูปลักษณ์ของผลมะยมเป็ นตัวกาหนด เพื่อให้ผลงานมี
ั
ความน่าสนใจมากขึ้น พบว่าสามารถนาไปต่อยอดได้ในหลายๆด้าน เช่น สร้างรายได้ให้กบ
ตนเอง ดัดแปลงจากโคมไฟทัวไปให้มีลกษณะโดดเด่นมากขึ้น โดยผูที่ออกแบบสามารถ
ั
้
่
่
ออกแบบได้หลายรู ปแบบ ไม่วาจะเป็ นแบบตั้งโต๊ะ แบบแขวน แบบติดผนัง ฯลฯ ช่วยให้เกิด
ความคิดริ่ เริ่ มสร้างสรรค์ในการทาสิ่ งประดิษฐ์ได้เพิ่มมากขึ้น
วิจารณ์ผลงาน
1. ผลงานที่ได้อาจไม่สวยงามมากพอ
2. เนื้อหาในโครงงานบางตอนอาจไม่ครอบคลุมชัดเจน
3. รายละเอียดของชิ้นงานอาจจะมีนอยเกินไป
้