ว่าด้วย ภัยที่เกิดแต่ที่พึ่งอาศัย
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภทารกคนหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนี้ ดังนี้.
ได้ยินว่า ทารกนั้นเป็นบุตรของกุฎุมพีในนครสาวัตถี ได้เป็นผู้ฉลาดในการสังเกตรอยเท้า ในเวลาที่ตนมีอายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น. ครั้งนั้น บิดาของเขาคิดว่าจักทดลองลูกคนนี้ จึงได้ไปเรือนของเพื่อนโดยที่ทารกนั้นไม่รู้เลย ทารกนั้นก็มิได้ถามที่ไปของบิดา เดินไปโดยสังเกตรอยเท้าของบิดา ได้ไปยืนอยู่ที่สำนักของบิดา
อยู่มาวันหนึ่ง บิดาได้ถามทารกนั้นว่า ลูกรัก เมื่อพ่อไปก็ไปโดยมิให้เจ้ารู้ แต่เจ้ารู้ที่ไปของพ่อได้อย่างไร? เขากล่าวตอบบิดาว่า พ่อจ๋า ฉันจำรอยเท้าของพ่อได้ ฉันฉลาดในการสังเกตรอยเท้า.
ลำดับนั้น บิดาของเขาต้องการจะทดลองอีก เมื่อบริโภคอาหารเช้าแล้ว ออกจากเรือนไปยังเรือนของผู้ที่คุ้นเคยซึ่งอยู่ติดๆ กัน แล้วออกจากเรือนนั้นไปยังเรือนที่ ๓ ออกจากเรือนที่ ๓ มายังประตูเรือนของตนอีก แล้วออกจากประตูเรือนของตนไปยังประตูเมืองทิศอุดร ออกประตูนั้นอ้อมเมืองไปทางซ้าย ไปถึงพระเชตวันวิหาร ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว นั่งฟังธรรมอยู่.
ทารกถามพวกบ้านว่า พ่อฉันไปไหน เมื่อได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบ จึงได้สังเกตรอยเท้าของบิดา ตั้งต้นแต่เรือนของผู้ที่คุ้นเคยซึ่งอยู่ติดๆ กัน ไปตามทางที่บิดาไปนั่นแหละ จนถึงพระเชตวันวิหาร ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว ไปยืนอยู่ใกล้ๆ บิดา เมื่อบิดาถามว่า ลูกรัก เจ้ารู้ว่าพ่อมาในที่นี้หรือ? เขาตอบว่า ฉันจำรอยเท้าพ่อไปจึงได้มา โดยสังเกตรอยเท้า.
พระศาสดาตรัสถามว่า พูดอะไรกันอุบาสก? เมื่อกุฎุมพีกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เด็กคนนี้ฉลาดสังเกตรอยเท้า ข้าพระองค์ทดลองเด็กนี้จึงได้มาโดยอุบายนี้ แลเด็กนี้ครั้นไม่เห็นข้าพระองค์ในเรือน ได้มาโดยสังเกตรอยเท้าข้าพระองค์ จึงตรัสว่า อุบาสก การจำรอยเท้าบนพื้นดินได้ไม่น่าอัศจรรย์ บัณฑิตก่อนๆ จำรอยเท้าในอากาศได้
กุฎุมพีนั้นกราบทูลอาราธนาให้ตรัสเรื่องราว จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้