SlideShare a Scribd company logo
1 of 13
Download to read offline
นำเสนอ

      อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร

              สมำชิก

นำยจิรำยุส เวียงสิมมำ ม.4/1 เลขที่1

นำยสุภัทรชัย วอนเป้ำ ม.4/1 เลขที่11
สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Wire)
• เป็นสายชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการนามาใช้งานตามห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทั่วไป รวมทั้งตาม
  สานักงานต่างๆ สายชนิดนี้ได้ชื่อมาจากลักษณะองค์ประกอบภายในของสาย ที่เป็นสายลวดทองแดงสองเส้นนามา
  พันเกลียวเข้าด้วยกันเพือทาให้เกิดเป็นสนามแม่เหล็ก ซึงใช้เป็นเสมือนเกราะสาหรับป้องกันสัญญาณรบกวนทั่วไป
                         ่                            ่
  ได้ในตัวเอง จานวนรอบหรือความถี่ ในการพันเกลียว สายคู่บิดเกลียว ประกอบด้วยสายทองแดงจานวนหนึ่ง หรือ
  หลายคู่สาย ห่อหุ้มสายด้วยฉนวนบางๆ เพือป้องกันไม่ให้เกิดการลัดวงจร แล้วนามาพันเกลียวเข้าด้วยกันเป็นคู่ ทุกคู่
                                          ่
  จะถูกห่อหุ้มฉนวนอีกชั้นหนึ่งรวมกันเป็นสายขนาดใหญ่เพียงสายเดียว สายคู่บิดเกลียวแบ่งออกเป็นสองประเภท
• 1.แบบไม่มฉนวนหุ้ม (UTP : Unshielded Twisted Pair)
             ี
• 2.แบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded Twisted Pair)
สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีฉนวนหุม (UTP :
                                       ้
            Unshielded Twisted Pair)
• สาย UTP เป็นสายที่พบเห็นกันมาก มักจะใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์
  สื่อสารตามมาตรฐานที่กาหนด สาหรับสายประเภทนี้จะมีความยาวของสายใน
  การเชื่อมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร และสาย UTP มีจานวนสายบิดเกลียวภายใน 4
  คู่ คู่สายในสายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวนคล้ายสายโทรศัพท์ มีหลายเส้นซึ่งแต่ละเส้น
  ก็จะมีสีแตกต่างกัน และตลอดทั้งสายนั้นจะถูกหุ้มด้วยพลาสติก (Plastic
  Cover) ปัจจุบันเป็นสายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาถูกและ
  ติดตั้งได้ง่าย แสดงดังรูป
มาตรฐานสายสัญญาณ
• สมำคมอุตสำหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EIA (Electronics
  Industries Association) และสมำคมอุตสำหกรรมโทรคมนำคม หรือ
  TIA (Telecommunication Industries Association) ได้
  ร่วมกันกำหนดมำตรฐำน EIA/TIA 568 ซึ่งเป็นมำตรฐำนที่ใช้ในกำรผลิต
  สำย UTP โดยมำตรฐำนนี้ได้แบ่งประเภทของสำยออกเป็นหลำยประเภท
  โดยแต่ละประเภทเรียกว่ำ Category N โดย N คือหมำยเลขที่บอก
  ประเภท ส่วนสถำบันมำตรฐำนนำนำชำติ (International
  Organization for Standardization) ได้กำหนดมำตรฐำนนี้เช่นกัน
  โดยจะเรียกสำยแต่ละประเภทเป็น Class A-F คุณสมบัติทั่วไปของสำยแต่
  ละประเภทเป็นดังนี้
•
มาตรฐานสายสัญญาณ2
• Category 1/Class A : เป็นสายที่ใช้ในระบบโทรศัพท์อย่างเดียว โดยสายนี้ไม่สามารถใช้ในการ
  ส่ง ข้อมูลแบบดิจิตอลได้
• Category 2/Class B : เป็นสายที่รองรับแบนด์วิธได้ถึง 4 MHz ซึ่งทาให้สามารถส่งข้อมูลแบบ
  ดิจิตอล ได้ถึง 4 MHz ซึ่งจะประกอบด้วยสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่
• Category 3/Class C : เป็นสายที่สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4
  คู่
• Category 4 : ส่งข้อมูลได้ถึง 20 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่
• Category 5/Class D : ส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่
• Category 5 Enhanced (5e) : มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ Cat 5 แต่มีคุณภาพของสายที่
  ดีกว่า เพื่อรองรับการส่งข้อมูลแบบฟูลล์ดูเพล็กซ์ที่ 1,000 Mbps ซึ่งใช้4 คู่สาย
• Category 6/Class E : ส่งข้อมูลได้ถึง 10,000 Mbps รองรับแบนด์วิธได้ถึง 250 MHz
• Category 7/Class F : รองรบแบนด์วิธได้ถึง 600 MHz และกาลังอยู่ในระหว่างการวิจัย
ปัจจัยที่ใช้กาหนดคุณภาพของสายสัญญาณ
• ผู้ผลิตสาย UTP แต่ละ Category ต้องผลิตสายสัญญาณให้ได้คุณภาพขั้นต่าตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐาน
  ANSI/EIA/TIA-568-B (568-B.2 (Category 5e) และ 568.B.2-1 (category 6)) ซึ่ง
  กาหนดค่าต่าง ๆ ในสาย UTP ดังนี้

•   Parameter dB
•   CAT5
•   CAT5e
•   CAT6
•   Minimum Frequency (สูงสุด)100 MHz100 MHz250 MHzAttenuation (สูงสุด)24
    dB24 dB36 dBNEXT (ต่าสุด)27.1 dB30.1 dB33.1 dBPS-NEXT(ต่าสุด)N/A27.1
    dB33.2 dBELFEXT(ต่าสุด)17 dB17.4 dB17.3 dBPS-ELFEXT(ต่าสุด)14.4 dB14.4
    dB12.3 dBACR(ต่าสุด)3.1 dB6.1 dB-2.9 dBPS-ACR(ต่าสุด)N/B3.1 dB-5.8 dBReturn
    Loss(ต่าสุด)8 dB10 dB8 dBPropagation Delay (สูงสุด)548 nsec548 nsec546
    nsecDelay Skew (สูงสุด)50 nsec50 nsec50 nsec
ปัจจัยที่ใช้กาหนดคุณภาพของสายสัญญาณ2
•   Maximum Frequency คือค่าความถีของสัญญาณในสายสัญญาณ ค่าสูงดีกว่า แสดงถึงความสามารถในการ รองรับความถี่ที่สูงกว่า
                                                   ่
•   Attenuation เป็นค่าการลดทอนของสัญญาณในสายสัญญาณ ค่าที่ตากว่าจะดีกว่า แต่จากตาราง สาย UTP CAT6 จะสูงกว่า UTP CAT5 และ UTP
                                                                           ่
    CAT5e เนื่องจากเป็นการกาหนดที่ความถี่สงสุดของสายสัญญาณ คือ 250 MHz ของ UTP CAT6 ในขณะที่ UTP CAT5 และ CAT5e กาหนดจาก
                                               ู
    ความถี่ที่ 100 MHz
•   NEXT (Near-end Crosstalk) เป็นค่าสัญญาณรบกวน (Crosstalk)ที่เกิดจากคู่สายที่ใช้สงสัญญาณอีกคู่ ต่อคู่ ที่ใช้สงสัญญาณที่ทาการวัด มีหน่วย
                                                                                                    ่                      ่
    เป็นเดซิเบล ค่าที่สงหมายถึงสายสัญญาณคู่ที่วัดค่านี้ สามารถรองรับต่อ Crosstalk ที่เกิดได้ดีกว่า
                       ู
•   PS-NEXT (Power Sun NEXT) เป็นค่าสัญญาณรบกวนจากการใช้สายสัญญาณครบทังสี่คู่ โดยวัดสัญญาณ รบกวนที่เกิดจากสายสัญญาณในอีก 3 คู่ ที่
                                                                                               ้
    เกิดต่อสายคู่ที่วดสัญญาณ เป็นค่าที่ใช้ทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่า สายสัญญาณทั้งสี่คู่ สามารถใช้งานพร้อมกันได้โดยไม่ก่อสัญญาณรบกวนระหว่างกันมากเกินไป
                     ั
•   ELFEXT (Equal Level FEXT) เป็นค่าการลดทอนของสัญญาณที่เกิดจาก Crosstalk ค่าที่ต่าแสดงอัตราการ สูญเสียข้อมูลที่สูงกว่าค่ามาก
•   PSELFEXT (Power Sum ELFEXT) เป็นค่า FEXT ที่วัดจากสายสัญญาณทั้งสี่คู่
•   ACR เป็นค่าที่ใช้บอกความคุณภาพของสายสัญญาณในการรองรับการส่งข้อมูล วัดจากอัตราส่วนระหว่าง การลดทอนของสัญญาณ กับค่า crosstalk ค่าที่สูง
    บอกถึงความสามารถในการรองรับ Bandwidth ที่มากกว่า
•   PSACR เป็นค่า ACR ที่วัดจากสายสัญญาณทั้ง 4 เส้น จากตาราง จะพบว่า ค่า ACR และ PSACR ของสาย UTP CAT 6 จะต่ากว่า UTP CAT5 และ
    CAT 5e เนื่องจากเป็นการกาหนดที่ความถี่สงสุดของสายสัญญาณ คือ 250 MHz ของ UTP CAT6 ในขณะที่ UTP CAT5 และ CAT5e กาหนดจาก
                                                     ู
    ความถี่ที่ 100 MHz
•   Return Loss เป็นค่าอัตราส่วนการสะท้อนกลับของสัญญาณในสายจากปลายทาง ซึ่งจะขัดขวางการส่ง สัญญาณในสาย ทาให้สัญญาณในสายหาย สาหรับ
    ทั้ง UTP CAT5 , 5e, 6 กาหนดไว้ไกล้เคียงกัน โดยค่าที่ มากกว่า จะมีประสิทธิภาพดีกว่า
•   Propagation Delay เป็นระยะเวลาที่สญญาณเดินทางอยูในสายสัญญาณจากจุดหนึง ไปอีกจุด โดยมาตรฐาน EIA/TIA กาหนดให้ไม่เกิน 548 nsec
                                                 ั                ่                        ่
    ต่อระยะทาง 100 เมตร ในสาย UTP CAT5 , 5e และ 546 nsec ในสาย UTP CAT6
•   Delay Skew เป็นค่าบอกความแตกต่างของเวลาระหว่างสัญญาณในคูสายสัญญาณที่เร็วที่สด กับที่ช้าที่สุดใน สาย UTP เนื่องจากสัญญาณอาจเดินทาง
                                                                         ่                       ุ
    มาถึงปลายทางไม่พร้อมกัน ค่าสูงสุดกาหนดให้ไม่เกิน 50 nsec
ข้อดีของสาย UTP-ข้อเสียของสาย UTP
• - ราคาถูก
   - ติดตั้งง่ายเนืองจากน้าหนักเบา
                    ่
   - มีความยืดหยุ่น และสามารถโค้งงอได้มา
ข้อเสียของสำย UTP
• - ไม่เหมาะในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ห่างไกลมาก เพราะสัญญาณที่
   วิ่งบนสายจะถูกลดทอนลงไปตามความยาวของสาย (มีความยาวของ
   สายในการเชือมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร)
                  ่
สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded
                   Twisted Pair)
• สายสัญญาณ STP มีการนาสายคู่พันเกลียวมารวมอยู่และมีการเพิ่มฉนวน
  ป้องกันสัญญาณรบกวน ซึ่งร่างแหนี้จะมีคุณสมบัติเป็นเกราะในการป้องกัน
  สัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ เรียกเกราะนี้ว่า ชิลด์ (Shield)
  และเป็นสายสัญญาณที่ได้รับการพัฒนาต่อจากสาย UTP โดยเพิ่มการชีลด์กัน
  สัญญาณรบกวนเพื่อทาให้คุณสมบัติโดยรวมของสัญญาณดีมากขึ้น คุณลักษณะ
  ของสาย STP ก็เหมือนกับสาย UTP คือมีเรื่องเกี่ยวกับอัตราการบั่นทอนครอส
  ทอร์ก
ข้อดีของสาย STP -ข้อเสียของสาย STP
• - ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่า UTP
  - ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นวิทยุ
• ข้อเสียของสำย STP
  - มีขนาดใหญ่และไม่ค่อยยืดหยุนในการงอพับสายมากนัก
                                 ่
  - ราคาแพงกว่าสาย UTP
คาถาม ????????????
• 1.สายคู่บิดเกลียวมีกี่ประเภทอะไรบ้าง
• 2.ทาไมถึงได้ชื่อว่าสายคู่บิดเกลียว
• 3.สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มฉนวนหุ้ม มักมีความยาวสายไม่เกินกี่เมตร
                              ี
• 4.สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุมมีคุณสมบัติเป็นเกราะในการป้องกัน
                                  ้
  สัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ เรียกเกราะนี้ว่าอะไร
• 5. สาย UTP จะมีสายสัญญาณอยู่จานวน 4 คู่ 8 เส้น ประกอบด้วย
  อะไรบ้าง
เฉลย !!!!!!
• 1. 2.ประเภท 1.แบบไม่มีฉนวนหุ้ม 2.แบบมีฉนวนหุ้ม
• 2. สายชนิดนี้ได้ชื่อมาจากลักษณะองค์ประกอบภายในของสาย ที่เป็นสาย
  ลวดทองแดงสองเส้นนามาพันเกลียวเข้าด้วยกัน
• 3.ไม่เกิน 100 เมตร
• 4. เรียกเกราะนีว่า ชิลด์ (Shield)
                   ้
• 5. เขียว - ขาวเขียว
      ส้ม - ขาวส้ม
      น้าเงิน - ขาวน้าเงิน
      น้าตาล - ขาวน้าตาล
• http://www.dcs.cmru.ac.th
• http://www.kmitl.ac.th/~kpteeraw/data_com/
  datacom_52/html/utp.htm

More Related Content

What's hot

Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Noppanut Bany
 
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404ณัชชา เอื้อนฤมลสุข
 
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Noppanut Bany
 
คลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟคลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟPeerapas Trungtreechut
 
คลื่น ไมโครเวฟ 2003
คลื่น ไมโครเวฟ 2003คลื่น ไมโครเวฟ 2003
คลื่น ไมโครเวฟ 2003Peerapas Trungtreechut
 
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405Nachi Montianarrt
 
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401Niewkaryu Mungtavesinsuk
 
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403Piyawan
 
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405Jutapak Mahapaskorn
 
ไมโครเวฟ
ไมโครเวฟไมโครเวฟ
ไมโครเวฟPram Pu-ngoen
 
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402Pitchayanis Kittichaovanun
 
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสาร
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสารช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสาร
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสารPaksorn Runlert
 
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)Pampam Chaiklahan
 
สายไฟเบอร์ออพติก
สายไฟเบอร์ออพติกสายไฟเบอร์ออพติก
สายไฟเบอร์ออพติกGunn Chaemkasem
 
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403Supanut Maiyos
 
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407Paksupa Pleehajinda
 
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406BK KB
 

What's hot (18)

Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
 
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404
สายไฟเบอร์ออฟติก(ณัชชา+กวิสรา+ศิรภัสสร)404
 
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
Fiber optic(นพณัฐ เจตนันท์)407
 
คลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟคลื่น ไมโครเวฟ
คลื่น ไมโครเวฟ
 
คลื่น ไมโครเวฟ 2003
คลื่น ไมโครเวฟ 2003คลื่น ไมโครเวฟ 2003
คลื่น ไมโครเวฟ 2003
 
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405
ไมโครเวฟ(ภคพรวรรณ+ณิชา)405
 
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401
ไมโครเวฟ(พิทักษ์พงษ์+สุทธวีร์)401
 
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัฐมน+พิชญานันท์+อุไรรัตน์)403
 
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405
ไมโครเวฟ(จุธาภัค+กมลรัตน์)405
 
ไมโครเวฟ
ไมโครเวฟไมโครเวฟ
ไมโครเวฟ
 
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
คลื่นไมโครเวฟ (ยุวภรณ์+พิชญานิษฐ์)402
 
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสาร
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสารช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสาร
ช่องทางสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสาร
 
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)
สายคู่บิดเกลียว(พศิกา+นันทพัทธ์)
 
สายไฟเบอร์ออพติก
สายไฟเบอร์ออพติกสายไฟเบอร์ออพติก
สายไฟเบอร์ออพติก
 
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
คลื่นไมโครเวฟ(เจตน์+ศุภณัฐ)403
 
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407
สายคู่บิดเกลียว(ชญานิศ ภัคสุภา-ณัฐณิชา)407
 
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406
สายไฟเบอร์ออพติก(ณัทวุฒิ)406
 
Ethernet
EthernetEthernet
Ethernet
 

Viewers also liked

Viewers also liked (15)

Private Kiara
Private KiaraPrivate Kiara
Private Kiara
 
Practica 3
Practica   3Practica   3
Practica 3
 
Laws
LawsLaws
Laws
 
A4_DL_AmsherEd_02(1)
A4_DL_AmsherEd_02(1)A4_DL_AmsherEd_02(1)
A4_DL_AmsherEd_02(1)
 
5 cosas importantes
5 cosas importantes5 cosas importantes
5 cosas importantes
 
Crees que lo has visto todo.pps
Crees que lo has visto todo.ppsCrees que lo has visto todo.pps
Crees que lo has visto todo.pps
 
Exercise for weight loss
Exercise for weight lossExercise for weight loss
Exercise for weight loss
 
1st dayprocedures
1st dayprocedures1st dayprocedures
1st dayprocedures
 
C-Moocy
C-MoocyC-Moocy
C-Moocy
 
防敏有感
防敏有感防敏有感
防敏有感
 
2012 JCP Year End Summary
2012 JCP Year End Summary2012 JCP Year End Summary
2012 JCP Year End Summary
 
E twinning 2013
E twinning 2013E twinning 2013
E twinning 2013
 
天下雜誌:外資金童的第二人生
天下雜誌:外資金童的第二人生天下雜誌:外資金童的第二人生
天下雜誌:外資金童的第二人生
 
Resume (Tan Ling Loh)
Resume (Tan Ling Loh)Resume (Tan Ling Loh)
Resume (Tan Ling Loh)
 
Energian pientuotannon yhteistyö raportti 2013 public
Energian pientuotannon yhteistyö raportti 2013 publicEnergian pientuotannon yhteistyö raportti 2013 public
Energian pientuotannon yhteistyö raportti 2013 public
 

Similar to สายคู่บิดเกลียว(จืรายุส+สุภัทรชัย)401

สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401
สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401
สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401Mink Chonnikan
 
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402แพทตี้ ฉัตรบริรักษ์
 
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403Papangkorn Chamviteelert
 
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405คทาณัฐ เมธชนัน
 
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะtuplschool
 
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407Aommy Arpajai
 
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์ASpyda Ch
 
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNET
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNETระบบเครือข่าย LAN - ETHERNET
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNETAdisak Kammungkun
 
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406Kamnuan Jompuk
 
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)Ploy's Sutantirat
 
บทที่ 6 lan
บทที่ 6 lanบทที่ 6 lan
บทที่ 6 lannoorinryrinry
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LAN
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LANอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LAN
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LANnoorinryrinry
 
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402Theepop Eamchotchawalit
 
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสาร
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสารเทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสาร
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสารMrpopovic Popovic
 

Similar to สายคู่บิดเกลียว(จืรายุส+สุภัทรชัย)401 (20)

สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401
สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401
สายคู่บิดเกลียว(Chonnikarn+mutita)401
 
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402
สายทองแดง สายคู่บิดเกลียว(จิดาภา+ธัชนนท์)402
 
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403
สายคู่บิดเกลียว(ปภังกร+ปัณณธร)403
 
Utp
UtpUtp
Utp
 
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405
สายคู่บิดเกลียว(1.คทาณัฐ+2.อัฏฐเศรษฐ์)405
 
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
 
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407
สายโคแอ็กซ์เชียล (ธมนวรรณ อาภาใจ)407
 
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์
สายไฟฟ้า, ไฟฟ้ากำลัง, อิเล็กทรอนิคส์
 
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNET
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNETระบบเครือข่าย LAN - ETHERNET
ระบบเครือข่าย LAN - ETHERNET
 
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406
สายโคแอกเชียล(คำนวณ+ธีรภัทร)406
 
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)
สายไฟเบอร์ออพติก(พิชญ์ชพร+พิชญานิน 405)
 
บทที่ 6 lan
บทที่ 6 lanบทที่ 6 lan
บทที่ 6 lan
 
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LAN
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LANอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LAN
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการเข้าหัวสาย LAN
 
Basic Network Thai.pdf
Basic Network Thai.pdfBasic Network Thai.pdf
Basic Network Thai.pdf
 
Media
MediaMedia
Media
 
01 basic
01 basic01 basic
01 basic
 
Design & Install Telephone.pdf
Design & Install Telephone.pdfDesign & Install Telephone.pdf
Design & Install Telephone.pdf
 
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402
สายคู่บิดเกลียว(ธีภพ สิรภพ)402
 
6. Wiring&Cable.ppt
6. Wiring&Cable.ppt6. Wiring&Cable.ppt
6. Wiring&Cable.ppt
 
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสาร
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสารเทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสาร
เทอม 1 คาบ 8 ตัวกลางในการสื่อสาร
 

สายคู่บิดเกลียว(จืรายุส+สุภัทรชัย)401

  • 1. นำเสนอ อ.ปิยวรรณ รัตนภำนุศร สมำชิก นำยจิรำยุส เวียงสิมมำ ม.4/1 เลขที่1 นำยสุภัทรชัย วอนเป้ำ ม.4/1 เลขที่11
  • 2. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Wire) • เป็นสายชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการนามาใช้งานตามห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทั่วไป รวมทั้งตาม สานักงานต่างๆ สายชนิดนี้ได้ชื่อมาจากลักษณะองค์ประกอบภายในของสาย ที่เป็นสายลวดทองแดงสองเส้นนามา พันเกลียวเข้าด้วยกันเพือทาให้เกิดเป็นสนามแม่เหล็ก ซึงใช้เป็นเสมือนเกราะสาหรับป้องกันสัญญาณรบกวนทั่วไป ่ ่ ได้ในตัวเอง จานวนรอบหรือความถี่ ในการพันเกลียว สายคู่บิดเกลียว ประกอบด้วยสายทองแดงจานวนหนึ่ง หรือ หลายคู่สาย ห่อหุ้มสายด้วยฉนวนบางๆ เพือป้องกันไม่ให้เกิดการลัดวงจร แล้วนามาพันเกลียวเข้าด้วยกันเป็นคู่ ทุกคู่ ่ จะถูกห่อหุ้มฉนวนอีกชั้นหนึ่งรวมกันเป็นสายขนาดใหญ่เพียงสายเดียว สายคู่บิดเกลียวแบ่งออกเป็นสองประเภท • 1.แบบไม่มฉนวนหุ้ม (UTP : Unshielded Twisted Pair) ี • 2.แบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded Twisted Pair)
  • 3. สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีฉนวนหุม (UTP : ้ Unshielded Twisted Pair) • สาย UTP เป็นสายที่พบเห็นกันมาก มักจะใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์ สื่อสารตามมาตรฐานที่กาหนด สาหรับสายประเภทนี้จะมีความยาวของสายใน การเชื่อมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร และสาย UTP มีจานวนสายบิดเกลียวภายใน 4 คู่ คู่สายในสายคู่ตีเกลียวไม่หุ้มฉนวนคล้ายสายโทรศัพท์ มีหลายเส้นซึ่งแต่ละเส้น ก็จะมีสีแตกต่างกัน และตลอดทั้งสายนั้นจะถูกหุ้มด้วยพลาสติก (Plastic Cover) ปัจจุบันเป็นสายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาถูกและ ติดตั้งได้ง่าย แสดงดังรูป
  • 4. มาตรฐานสายสัญญาณ • สมำคมอุตสำหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EIA (Electronics Industries Association) และสมำคมอุตสำหกรรมโทรคมนำคม หรือ TIA (Telecommunication Industries Association) ได้ ร่วมกันกำหนดมำตรฐำน EIA/TIA 568 ซึ่งเป็นมำตรฐำนที่ใช้ในกำรผลิต สำย UTP โดยมำตรฐำนนี้ได้แบ่งประเภทของสำยออกเป็นหลำยประเภท โดยแต่ละประเภทเรียกว่ำ Category N โดย N คือหมำยเลขที่บอก ประเภท ส่วนสถำบันมำตรฐำนนำนำชำติ (International Organization for Standardization) ได้กำหนดมำตรฐำนนี้เช่นกัน โดยจะเรียกสำยแต่ละประเภทเป็น Class A-F คุณสมบัติทั่วไปของสำยแต่ ละประเภทเป็นดังนี้ •
  • 5. มาตรฐานสายสัญญาณ2 • Category 1/Class A : เป็นสายที่ใช้ในระบบโทรศัพท์อย่างเดียว โดยสายนี้ไม่สามารถใช้ในการ ส่ง ข้อมูลแบบดิจิตอลได้ • Category 2/Class B : เป็นสายที่รองรับแบนด์วิธได้ถึง 4 MHz ซึ่งทาให้สามารถส่งข้อมูลแบบ ดิจิตอล ได้ถึง 4 MHz ซึ่งจะประกอบด้วยสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่ • Category 3/Class C : เป็นสายที่สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่ • Category 4 : ส่งข้อมูลได้ถึง 20 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่ • Category 5/Class D : ส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps และมีสายคู่บิดเกลียวอยู่ 4 คู่ • Category 5 Enhanced (5e) : มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ Cat 5 แต่มีคุณภาพของสายที่ ดีกว่า เพื่อรองรับการส่งข้อมูลแบบฟูลล์ดูเพล็กซ์ที่ 1,000 Mbps ซึ่งใช้4 คู่สาย • Category 6/Class E : ส่งข้อมูลได้ถึง 10,000 Mbps รองรับแบนด์วิธได้ถึง 250 MHz • Category 7/Class F : รองรบแบนด์วิธได้ถึง 600 MHz และกาลังอยู่ในระหว่างการวิจัย
  • 6. ปัจจัยที่ใช้กาหนดคุณภาพของสายสัญญาณ • ผู้ผลิตสาย UTP แต่ละ Category ต้องผลิตสายสัญญาณให้ได้คุณภาพขั้นต่าตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐาน ANSI/EIA/TIA-568-B (568-B.2 (Category 5e) และ 568.B.2-1 (category 6)) ซึ่ง กาหนดค่าต่าง ๆ ในสาย UTP ดังนี้ • Parameter dB • CAT5 • CAT5e • CAT6 • Minimum Frequency (สูงสุด)100 MHz100 MHz250 MHzAttenuation (สูงสุด)24 dB24 dB36 dBNEXT (ต่าสุด)27.1 dB30.1 dB33.1 dBPS-NEXT(ต่าสุด)N/A27.1 dB33.2 dBELFEXT(ต่าสุด)17 dB17.4 dB17.3 dBPS-ELFEXT(ต่าสุด)14.4 dB14.4 dB12.3 dBACR(ต่าสุด)3.1 dB6.1 dB-2.9 dBPS-ACR(ต่าสุด)N/B3.1 dB-5.8 dBReturn Loss(ต่าสุด)8 dB10 dB8 dBPropagation Delay (สูงสุด)548 nsec548 nsec546 nsecDelay Skew (สูงสุด)50 nsec50 nsec50 nsec
  • 7. ปัจจัยที่ใช้กาหนดคุณภาพของสายสัญญาณ2 • Maximum Frequency คือค่าความถีของสัญญาณในสายสัญญาณ ค่าสูงดีกว่า แสดงถึงความสามารถในการ รองรับความถี่ที่สูงกว่า ่ • Attenuation เป็นค่าการลดทอนของสัญญาณในสายสัญญาณ ค่าที่ตากว่าจะดีกว่า แต่จากตาราง สาย UTP CAT6 จะสูงกว่า UTP CAT5 และ UTP ่ CAT5e เนื่องจากเป็นการกาหนดที่ความถี่สงสุดของสายสัญญาณ คือ 250 MHz ของ UTP CAT6 ในขณะที่ UTP CAT5 และ CAT5e กาหนดจาก ู ความถี่ที่ 100 MHz • NEXT (Near-end Crosstalk) เป็นค่าสัญญาณรบกวน (Crosstalk)ที่เกิดจากคู่สายที่ใช้สงสัญญาณอีกคู่ ต่อคู่ ที่ใช้สงสัญญาณที่ทาการวัด มีหน่วย ่ ่ เป็นเดซิเบล ค่าที่สงหมายถึงสายสัญญาณคู่ที่วัดค่านี้ สามารถรองรับต่อ Crosstalk ที่เกิดได้ดีกว่า ู • PS-NEXT (Power Sun NEXT) เป็นค่าสัญญาณรบกวนจากการใช้สายสัญญาณครบทังสี่คู่ โดยวัดสัญญาณ รบกวนที่เกิดจากสายสัญญาณในอีก 3 คู่ ที่ ้ เกิดต่อสายคู่ที่วดสัญญาณ เป็นค่าที่ใช้ทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่า สายสัญญาณทั้งสี่คู่ สามารถใช้งานพร้อมกันได้โดยไม่ก่อสัญญาณรบกวนระหว่างกันมากเกินไป ั • ELFEXT (Equal Level FEXT) เป็นค่าการลดทอนของสัญญาณที่เกิดจาก Crosstalk ค่าที่ต่าแสดงอัตราการ สูญเสียข้อมูลที่สูงกว่าค่ามาก • PSELFEXT (Power Sum ELFEXT) เป็นค่า FEXT ที่วัดจากสายสัญญาณทั้งสี่คู่ • ACR เป็นค่าที่ใช้บอกความคุณภาพของสายสัญญาณในการรองรับการส่งข้อมูล วัดจากอัตราส่วนระหว่าง การลดทอนของสัญญาณ กับค่า crosstalk ค่าที่สูง บอกถึงความสามารถในการรองรับ Bandwidth ที่มากกว่า • PSACR เป็นค่า ACR ที่วัดจากสายสัญญาณทั้ง 4 เส้น จากตาราง จะพบว่า ค่า ACR และ PSACR ของสาย UTP CAT 6 จะต่ากว่า UTP CAT5 และ CAT 5e เนื่องจากเป็นการกาหนดที่ความถี่สงสุดของสายสัญญาณ คือ 250 MHz ของ UTP CAT6 ในขณะที่ UTP CAT5 และ CAT5e กาหนดจาก ู ความถี่ที่ 100 MHz • Return Loss เป็นค่าอัตราส่วนการสะท้อนกลับของสัญญาณในสายจากปลายทาง ซึ่งจะขัดขวางการส่ง สัญญาณในสาย ทาให้สัญญาณในสายหาย สาหรับ ทั้ง UTP CAT5 , 5e, 6 กาหนดไว้ไกล้เคียงกัน โดยค่าที่ มากกว่า จะมีประสิทธิภาพดีกว่า • Propagation Delay เป็นระยะเวลาที่สญญาณเดินทางอยูในสายสัญญาณจากจุดหนึง ไปอีกจุด โดยมาตรฐาน EIA/TIA กาหนดให้ไม่เกิน 548 nsec ั ่ ่ ต่อระยะทาง 100 เมตร ในสาย UTP CAT5 , 5e และ 546 nsec ในสาย UTP CAT6 • Delay Skew เป็นค่าบอกความแตกต่างของเวลาระหว่างสัญญาณในคูสายสัญญาณที่เร็วที่สด กับที่ช้าที่สุดใน สาย UTP เนื่องจากสัญญาณอาจเดินทาง ่ ุ มาถึงปลายทางไม่พร้อมกัน ค่าสูงสุดกาหนดให้ไม่เกิน 50 nsec
  • 8. ข้อดีของสาย UTP-ข้อเสียของสาย UTP • - ราคาถูก - ติดตั้งง่ายเนืองจากน้าหนักเบา ่ - มีความยืดหยุ่น และสามารถโค้งงอได้มา ข้อเสียของสำย UTP • - ไม่เหมาะในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ห่างไกลมาก เพราะสัญญาณที่ วิ่งบนสายจะถูกลดทอนลงไปตามความยาวของสาย (มีความยาวของ สายในการเชือมต่อได้ไม่เกิน 100 เมตร) ่
  • 9. สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (STP : Shielded Twisted Pair) • สายสัญญาณ STP มีการนาสายคู่พันเกลียวมารวมอยู่และมีการเพิ่มฉนวน ป้องกันสัญญาณรบกวน ซึ่งร่างแหนี้จะมีคุณสมบัติเป็นเกราะในการป้องกัน สัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ เรียกเกราะนี้ว่า ชิลด์ (Shield) และเป็นสายสัญญาณที่ได้รับการพัฒนาต่อจากสาย UTP โดยเพิ่มการชีลด์กัน สัญญาณรบกวนเพื่อทาให้คุณสมบัติโดยรวมของสัญญาณดีมากขึ้น คุณลักษณะ ของสาย STP ก็เหมือนกับสาย UTP คือมีเรื่องเกี่ยวกับอัตราการบั่นทอนครอส ทอร์ก
  • 10. ข้อดีของสาย STP -ข้อเสียของสาย STP • - ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่า UTP - ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นวิทยุ • ข้อเสียของสำย STP - มีขนาดใหญ่และไม่ค่อยยืดหยุนในการงอพับสายมากนัก ่ - ราคาแพงกว่าสาย UTP
  • 11. คาถาม ???????????? • 1.สายคู่บิดเกลียวมีกี่ประเภทอะไรบ้าง • 2.ทาไมถึงได้ชื่อว่าสายคู่บิดเกลียว • 3.สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มฉนวนหุ้ม มักมีความยาวสายไม่เกินกี่เมตร ี • 4.สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุมมีคุณสมบัติเป็นเกราะในการป้องกัน ้ สัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ เรียกเกราะนี้ว่าอะไร • 5. สาย UTP จะมีสายสัญญาณอยู่จานวน 4 คู่ 8 เส้น ประกอบด้วย อะไรบ้าง
  • 12. เฉลย !!!!!! • 1. 2.ประเภท 1.แบบไม่มีฉนวนหุ้ม 2.แบบมีฉนวนหุ้ม • 2. สายชนิดนี้ได้ชื่อมาจากลักษณะองค์ประกอบภายในของสาย ที่เป็นสาย ลวดทองแดงสองเส้นนามาพันเกลียวเข้าด้วยกัน • 3.ไม่เกิน 100 เมตร • 4. เรียกเกราะนีว่า ชิลด์ (Shield) ้ • 5. เขียว - ขาวเขียว ส้ม - ขาวส้ม น้าเงิน - ขาวน้าเงิน น้าตาล - ขาวน้าตาล