More Related Content
What's hot
What's hot (19)
Similar to กลุ่มที่ 33
Similar to กลุ่มที่ 33 (20)
กลุ่มที่ 33
- 2. วัตถุประสงค์ 1. สามารถนาสมุนไพรมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพได้ 2. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เวลา และสร้างความน่าเชื่อถือในการนา สมุนไพรมาประยุกต์ใช้ได้ 3. สามารถอนุรักษ์พืชเศรษฐกิจของไทยได้
- 5. สมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวง สาธารณสุขได้ดาเนินโครงการ สมุนไพรกับสาธารณสุขมูลฐาน โดยเน้นการนา สมุนไพรมาใช้บาบัดรักษาโรคในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐมากขึ้น และ ส่งเสริม ให้ปลูกสมุนไพรเพื่อใช้ภายในหมู่บ้านเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้สมุนไพรมากยิ่งขึ้น อันเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยประเทศชาติประหยัดเงินตราในการสั่งซื้อยาสาเร็จรูปจาก ต่างประเทศได้ปีละเป็นจานวนมาก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในช่วงสภาวะที่มีฝนชุก ในหลายๆพื้นที่จึงมีพืชพรรณ สมุนไพรเกิดขึ้นได้อย่างมากมาย อาทิ ขิง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ใบย่านาง ฯลฯ โดยนาพืช ผักและผลไม้ที่ถูกนามาใช้เป็นยาและสิ่งบารุงร่างกาย มานานนับพันปี โดยที่สมุนไพรเหล่านี้มีทั้งแบบนาผล ใบ ราก เปลือก ยาง เนื้อไม้ เถา หัวและดอก หรือทั้งต้นมาใช้งาน ประโยชน์และ สมุนไพรแต่ละชนิดล้วนมีประโยชน์ มากมายแล้วแต่มนุษย์เราจะนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ดังนั้นเราจึงนา สมุนไพรมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในวิธีสะดวก ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย สมุนไพรแก้ไขปัญหาสุขภาพ
- 6. พืชสมุนไพร เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ที่มนุษย์รู้จักนามาใช้เป็นประโยชน์ เพื่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เช่นในเอเชียก็มีหลักฐานแสดงว่า มนุษย์รู้จักใช้พืชสมุนไพรมากว่า 6,000 ปี แต่หลังจากที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ มี การพัฒนาเจริญก้าวหน้ามากขึ้น มีการสังเคราะห์ และผลิตยาจากสารเคมี ในรูปที่ใช้ ประโยชน์ได้ง่าย สะดวกสบายในการใช้มากกว่าสมุนไพร ทาให้ความนิยมใช้ยา สมุนไพรลดลงมาเป็ นอันมาก เป็ นเหตุให้ความรู้วิทยาการด้านสมุนไพรขาดการ พัฒนา ไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร ในปัจจุบันทั่วโลกได้ยอมรับแล้วว่าผลที่ได้จากการ สกัดสมุนไพร ให้คุณประโยชน์ดีกว่ายา ที่ได้จากการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ประกอบกับในประเทศไทยเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ มีพืชต่าง ๆ ที่ใช้เป็นสมุนไพรได้อย่างมากมายนับหมื่นชนิด ยังขาดก็แต่เพียงการค้นคว้าวิจัย ในทางที่เป็ นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น ความตื่นตัวที่จะพัฒนาความรู้ด้านพืช สมุนไพร
- 7. ประโยชน์ของพืชสมุนไพร 1. สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคา แพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น 2. ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่า แผนปัจจุบัน 3. สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท 4. มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า 5. ใช้เป็นยาบารุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง 6. ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตาลึง 7. ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
- 8. 8. ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน 9. สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ 10. ใช้ปรุงเป็นเครื่องสาอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ประคาดีควาย 11. ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ 12.เป็นพืชที่สามารถส่งออกทารายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว 13. เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นา พืชสมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ 14. ทาให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดาเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น 15. ทาให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย
- 11. ว่านหางจระเข้ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera (L.) ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก ลำต้นสั้น ใบเรียงซ้อนเป็นกอ ใบเดี่ยว ปลำยใบ เรียวแหลม สีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้ม ขอบใบมีหนำมแหลมเล็กขึ้นห่ำงๆกัน ภำยใน เนื้อใบมีวุ้นใสเป็นเมือกว่ำนหำง จระเข้เดิมเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปแอฟริกำ แต่มี กำรนำมำปลูกในประเทศเขตร้อนทั่วไป สรรพคุณ : ✪ ช่วยป้ องกันโรคเบาหวาน ✪ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ✪ ช่วยรักษาอาการท้องผูก ✪ ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร ✪ ช่วยบรรเทาและแก้อาการปวดตามข้อ ✪ ช่วยรักษาแผลสด ✪ ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ ทาให้แผลเป็นจางลง
- 13. มะรุม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Moringaoleifera Lam. ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : เป็นไม้ยืนต้นสูง รำกหนำนุ่ม ใบสลับแบบขนนก แบบรูปไข่ รูปไข่หัวกลับรูปคู่ขนำน ใต้ใบสีเขียวอ่อน ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตำมซอกใบ สรรพคุณ : ✪ ช่วยเป็นยำขับลมในลำไส้ ✪ ช่วยแก้พิษ ฝี แก้ปวด แก้อักเสบ ✪ ช่วยบรรเทำอำกำรเจ็บคอ ✪ ช่วยลดไข้
- 15. มะแว้งเครือ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum trilobatum L. ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ไม้เถำเลื้อยพำดพันกับต้นไม้อื่น ลำต้นกลม สีเขียวเป็นมัน มีหนำมแหลมตำมกิ่งก้ำน ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ สีเขียวเป็นมัน แผ่นใบล่ำงมีหนำม ตำมเส้นใบ ดอก ออกเป็นช่อตำมซอกใบที่ปลำยกิ่ง ดอกสีม่วง สรรพคุณ : ✪ แก้โลหิตออกทำงทวำรหนัก ✪ แก้ไอ ✪ แก้ขับเสมหะให้ตก ✪ ขับปัสสำวะกระหำยน้ำ ✪ แก้วัณโรค ✪ รักษำโรคเบำหวำน ✪ บำรุงเลือด
- 17. มะกอก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spondias cytherea Sonn. ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : เปลือกลำต้นสีเทำหรือน้ำตำลแดง ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ก้ำนใบยำว ใบย่อยรูปไข่ค่อนข้ำงเรียวแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอก ออกเป็นช่อ แบบเพนิเคิล ตำมปลำยยอด ผลอ่อนมีสีเขียวเข้ม ผลแก่มีสีเขียวอมเหลือง สุกมีสีส้ม เมล็ดกลมรี เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง และมีขนแข็งที่เปลือกหุ้มเมล็ด สรรพคุณ : ✪ แก้โรคบิด ✪ ใช้หยอดหู แก้ปวดหู ✪ แก้กระหายน้า ✪ แก้ร้อนในอย่างแรง แก้ลงท้องปวดมวน แก้สะอึก
- 19. ดอกแคร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sesbania grandiflora (L.) ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : : ไม้ต้นขนำดเล็ก แตกกิ่งก้ำนสำขำมำก เปลือกต้นสีน้ำตำล ปนเทำ ขรุขระ แตกเป็นสะเก็ด ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ปลำยใบ และโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียว ดอกสีขำวหรือแดงออกเป็นช่อตำมซอกใบ มีกลิ่นหอม สรรพคุณ : ✪ แก้โรคบิดมีตัว ✪ แก้ท้องเดิน ท้องร่วง คุมธำตุ ✪ แก้ไข้เปลี่ยนอำกำศ เปลี่ยนฤดู (แก้ไข้หัวลม) ✪ รักษำโรค ริดสีดวงในจมูกและทำให้มีน้ำมูกออกมำ ✪ แก้ปวดและหนักศีรษะ ✪ ลดควำมร้อน ลดไข้
- 21. ขมิ้นชัน ชื่อวิทยาศาสตร์ :Curcuma longa L. ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : เหง้ำใต้ดินรูปไข่มีแขนงรูปทรงกระบอกแตกออกด้ำนข้ำง เนื้อในเหง้ำสีเหลืองส้มมีกลิ่นเฉพำะ ใบเดี่ยวแทงออกมำ เหง้ำเรียงเป็นวงซ้อนทับกัน ดอกช่อแทงออกจำกเหง้ำแทรกขึ้นมำระหว่ำงก้ำนใบ กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ใบประดับ สีเขียวอ่อนหรือสีนวล สรรพคุณ : ✪ แก้ท้องอืด ✪ แก้ท้องร่วง ✪ แก้โรคกระเพำะ ✪ ทำแก้ผื่นคัน โรคผิวหนัง พุพอง ✪ ยำรักษำชันนะตุและหนังศีรษะเป็นเม็ดผื่นคัน
- 23. ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ :Cymbopogon citratus Stapf. ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ตะไคร้เป็นพืชล้มลุกมีอำยุหลำยปี เหง้ำใต้ดินมีกลิ่นเฉพำะ ข้อและปล้องสั้นมำกแตกเป็นกอกำบใบสีขำวนวลอมม่วงยำวและหนำหุ้มข้อและปล้องไว้ ใบเป็นใบเดี่ยว ยำว เรียวปลำยแหลม แผ่นใบสำกและ ดอกเป็นช่อยำว มีดอกเล็ก สรรพคุณ : ✪ แก้โรคทำงเดินปัสสำวะ นิ่ว ขับปัสสำวะ ประจำเดือนมำผิดปกติ ✪ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ บำรุงไฟธำตุ ✪ ช่วยทำให้เจริญอำหำร แก้ปวดกระเพำะอำหำร แก้ท้องเสีย ✪ แก้ปวดข้อ ปวดเมื่อย ฟกช้ำจำกหกล้ม ขำบวมน้ำ ✪ แก้ปัสสำวะเป็นเลือด แก้โรคหืด ✪ ช่วยรักษำเกลื้อน แก้อำกำรขัดเบำ ✪ ช่วยลดควำมดันโลหิตสูง
- 25. ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Roscoe ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก มีเหง้ำใต้ดิน สีน้ำตำลแกมเหลือง เนื้อในสีนวล มีกลิ่นเฉพำะ จะแทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นมำเหนือพื้นดิน ใบเดี่ยว ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อแทงออกจำกเหง้ำใต้ดิน ดอกสีเหลืองแกมเขียว เป็นผลแห้ง ทรงกลม สรรพคุณ : ✪ ยำแก้อำเจียน ✪ ยำแก้ท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อ ขับลม ✪ แก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงธำตุ ✪ สำมำรถต้ำนกำรเกิดแผลในกระเพำะอำหำร ลดอำกำรจุกเสียดได้ดี ✪ มีฤทธิ์ในกำรขับน้ำดี เพื่อย่อยอำหำร ✪ แก้ปำกคอเปื่อย แก้ท้องผูก ✪ ลดควำมดันโลหิต
- 27. ใบบัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Centella asiatica (L.) ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นไหลทอดเลื้อยไปตำมดินที่ชื้นแฉะ ขึ้นง่ำย มีรำกฝอยออกตำมข้อ ใบชูตั้งขึ้น มีไหลงอกออกจำกต้นเดิม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไต ปลำยใบกลม โคนใบเว้ำ ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวมีขนเล็กน้อย ก้ำนใบยำว ดอก ออกเป็นช่อแบบซี่ร่มตำมซอกใบ มีดอกย่อย สีม่วงอมแดง สรรพคุณ : ✪ แก้แผลโรคเรื้อน ✪ เป็นยำบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้ำ ✪ รักษำแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือมีกำรชอกช้ำจำกกำรกระแทก แก้พิษงูกัด ✪ ปวดศีรษะข้ำงเดียว ✪ ขับปัสสำวะ ✪ เป็นยำห้ำมเลือด ส่ำแผลสด แก้โรคผิวหนัง ✪ ลดควำมดัน แก้ช้ำใน