การศึกษาพรรณไม้ “มะค่าแต้” โดย  โรงเรียนสุรินทร์พิทยาคม
วัตถุประสงค์การศึกษา   1.  เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่นักเรียนในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช  2.  เพื่อปลูกฝังและสร้างเสริมภูมิปัญญาไทยและสากลให้นักเรียนเกิดทักษะในการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง  3.  เพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความเข้าใจในธรรมชาติแห่งชีวิตของปัจจัยด้านชีวภาพและ ปัจจัยด้านกายภาพที่มาเกี่ยวข้องกัน 4.  เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งรอบกายของผู้ศึกษา
อุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา   1 .  ต้นมะค่าแต้ในบริเวณโรงเรียน จำนวน  300  ต้น และ เพาะ  30  ต้น  2.  กล้องจุลทรรศน์ 3.  แว่นขยาย 4.  กรรไกรตัดกิ่ง 5.  ไม้บรรทัด 6.  สายเทปวัดระยะ  7.  เชือก 8.  วัสดุการเกษตร  ได้แก่  จอบ  เสียม  ถุงดำ  เศษใบไม้แห้ง ปุ๋ยอินทรีย์  9.  แผงอัดพรรณไม้ 10.  สมุดบันทึก “การศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” 11.  สมุดบันทึกการทดลอง การสังเกต ของนักเรียน 12.  แบบใบงานจากตัวอย่างของโครงการ อพ . สธ .
วิธีการดำเนินการศึกษา 1 .  ศึกษาข้อมูลลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ มะค่าแต้ ได้แก่ ราก  ลำต้น  กิ่ง  ใบ  ดอก  ผล  เมล็ด 2.  ศึกษาด้านการขยายพันธุ์ ได้แก่ การปักชำ  การตอน  การติดตา  การต่อยอด  การเพาะ เมล็ด  3.  ศึกษาด้านการใช้ประโยชน์  4.  ศึกษาสภาพดิน  แสงสว่าง  ค่า  PH  ที่มีผลต่อความเจริญเติบโต 5.  ศึกษาความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ได้แก่  มดแดง  มดดำ  นกกระจิบ  นก กระจาบ  ปลวก  ต้นส้มลม  หญ้า  ไก่พื้นเมือง  มนุษย์ ในด้านการดำรงชีวิตที่สังเกตได้  6.  ศึกษาความสัมพันธ์กับปัจจัยทางกายภาพ ได้แก่ น้ำ  ดิน  ปุ๋ยอินทรีย์  ปุ๋ยคอก  แกลบเผา  ในด้านการเจริญเติบโตที่สังเกตได้ 7.  นำข้อมูลที่สังเกต  และบันทึกไว้  รวบรวมและจัดเป็นหมวดหมู่ 8.  นำข้อมูลที่จัดเป็นหมวดหมู่  มาพิจารณาว่า ข้อมูลด้านใดที่มีการจดบันทึกคล้าย ๆ กัน  ถือว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้แล้วนำข้อมูลนั้นมาสรุป 9.  นำข้อมูลที่สรุปจากการศึกษามาตรวจความถูกต้อง และตรวจสอบกับเอกสารทางวิชาการที่ศึกษาไว้แล้ว  เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ 10.  จัดทำเอกสารเป็นรูปเล่มที่สมบูรณ์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ราก รากมะค่าแต้ ลักษณะ สี   เปลือกนอกมีสีน้ำตาล  ภายในสีขาว ความยาวเมื่อแรกงอก  1  เดือน  ประมาณ 7-15  ซม . รากแขนงยาวประมาณ 1-2  มม .  การแตกของรากจะแตกยาวขนานกับพื้นดิน  กลิ่น  คล้ายกลิ่นของเมล็ด หน้าที่ของราก   ลำเลียงน้ำและอาหาร ความเป็นพิษ   เมื่อสัมผัสดูไม่มีพิษ
ลำต้น ลำต้นไม่มียาง ลำต้นอ่อนจะมีสีเทาอ่อน ลำต้นแก่มีสีเทาคล้ำจะแตกเป็นเกล็ด เป็นลำต้นเหนอดิน ลำ ต้นอ่อนผิวเรียน ส่วนลำต้นแก่ผิวจะขรุขระ ไม่มีข้อปล้อง
ใบ 1. เป็นใบประกอบแบบขนนก สี ของใบอ่อนเป็นสีน้ำตาลและเขียวอ่อน  ใบแกสีเขียวเข้ม การเรียงตัวของใบเป็นคู่ตรงข้าม  3-4  คู่ รูปร่างแผ่นใบเป็นรูป รี ปลายใบกลมหยักเว้าตื้นตรงกลางเล็กน้อย รูปร่างโคนใบมน รูปร่างขอบใบ เรียบ
ดอก ดอกเป็นช่อ ออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ยาวประมาณ  10-25  เซนติเมตร  สี ของดอกมีสีน้ำตาลอ่อน  กลีบเลี้ยงติดกัน  4  กลีบ  กลีบดอกมีเพียงกลีบ เดียว มีสีแดงอมเหลือง  จำนวนเกสร ตัวผู้  10  อัน เกสรตัวเมีย  1  อัน เป็น ดอกสมบูรณ์เพศ  ตำแหน่งของรังไข่ เหนือวงกลีบ  ดอกไม่มีกลิ่น รูปร่างของดอก กลีบดอกแยกกัน รูปดอกกากบาท  ระยะการออกดอก เดือนมีนาคม – พฤษภาคม
ผล ชนิดของผลเป็นผลเดี่ยว  ผลแห้งแก่แล้วแตก  สีของผล ผลอ่อนสีเขียวอ่อน  ผลแก่สีน้ำตาลถึงน้ำตาลดำ รูปร่างของผล เป็นฝัก รูปไข่  ขนาด  4-12  เซนติเมตร  ลักษณะพิเศษของผล  มีจงอยแหลมยื่นออกตรงปลายยาว  5-7  เซนติเมตร  ผลมี 2 ลักษณะคือผนังเปลือกของผลมีหนามแหลมแข็ง และผนังเปลือกเรียบ ระยะเวลาการติดผล เดือนกรกฎาคม – กันยายน
เมล็ด จำนวนเมล็ดต่อผล  1-3  เมล็ด  รูปร่างของเมล็ด กลม  สีน้ำตาลถึงดำ  การงอกของเมล็ด  ส่วนของรากแรกเกิดจะโผล่ออกมาแรกสุด   ในการเพาะเมล็ดต้องแช่น้ำก่อนนำไปเพาะเนื่องจากเปลือกแข็ง
สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว มดแดงทำรังบนใบอ่อน ไม้เลื้อยมาพันเกี่ยวเช่นต้นเถาวัลย์ปูน ปลวกมาอาศัยชั่วคราวในฤดูแล้ง มดแดงและแมงมุมตัวเล็ก ๆ มาอาศัย ตามเปลือกที่มีรอยแตก
ประโยชน์แท้แก่มหาชน ประโยชน์นั้นสืบเนื่องยาวนานไม่รู้จบ ประโยชน์นั้นตกกับมหาชนคนส่วนใหญ่ ประโยชน์นั้นบำบัดความขาดแคลนทางกาย ประโยชน์นั้นจรรโลงจิตให้เบิกบาน
ประโยชน์นั้นสืบเนื่องยาวนานไม่รู้จบ มะค่าแต้  แผ่ กิ่งก้าน เป็นที่อาศัยชั่วคราวของ สัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น นก มดแดง ปลวก แมงมุม
ประโยชน์นั้นตกกับมหาชนคนส่วนใหญ่ มะค่าแต้เป็นส่วนหนึ่งของป่าที่เป็นต้นกำเนิด  ของต้นน้ำลำธาร ทำให้ฝนตกตามฤดูกาล  เป็นที่ร่มเงาของผู้คน
ประโยชน์นั้นบำบัดความขาดแคลนทางกาย เมล็ด  รสเมาเบื่อ  แก้โรคผิวหนัง  ทำให้หัวริดสีดวงแห้ง เมล็ดคั่วให้สุกนำไปแช่น้ำให้อ่อนนิ่มรับประทานได้  รสชาติมันเหมือนเม็ดมะขาม
ประโยชน์นั้นจรรโลงจิตให้เบิกบาน นำเมล็ดมาเล่นเป็นเกมกีฬาพื้นบ้าน เรียกว่า โบก  ในเทศกาลรื่นเริง เช่น เทศกาลสงกรานต์  เป็นที่ร่มเงาช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ส่งผลให้จิตใจ เราแจ่มใส

surinpittayakom

  • 1.
    การศึกษาพรรณไม้ “มะค่าแต้” โดย โรงเรียนสุรินทร์พิทยาคม
  • 2.
    วัตถุประสงค์การศึกษา 1. เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่นักเรียนในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช 2. เพื่อปลูกฝังและสร้างเสริมภูมิปัญญาไทยและสากลให้นักเรียนเกิดทักษะในการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 3. เพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความเข้าใจในธรรมชาติแห่งชีวิตของปัจจัยด้านชีวภาพและ ปัจจัยด้านกายภาพที่มาเกี่ยวข้องกัน 4. เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งรอบกายของผู้ศึกษา
  • 3.
    อุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา 1 . ต้นมะค่าแต้ในบริเวณโรงเรียน จำนวน 300 ต้น และ เพาะ 30 ต้น 2. กล้องจุลทรรศน์ 3. แว่นขยาย 4. กรรไกรตัดกิ่ง 5. ไม้บรรทัด 6. สายเทปวัดระยะ 7. เชือก 8. วัสดุการเกษตร ได้แก่ จอบ เสียม ถุงดำ เศษใบไม้แห้ง ปุ๋ยอินทรีย์ 9. แผงอัดพรรณไม้ 10. สมุดบันทึก “การศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” 11. สมุดบันทึกการทดลอง การสังเกต ของนักเรียน 12. แบบใบงานจากตัวอย่างของโครงการ อพ . สธ .
  • 4.
    วิธีการดำเนินการศึกษา 1 . ศึกษาข้อมูลลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ มะค่าแต้ ได้แก่ ราก ลำต้น กิ่ง ใบ ดอก ผล เมล็ด 2. ศึกษาด้านการขยายพันธุ์ ได้แก่ การปักชำ การตอน การติดตา การต่อยอด การเพาะ เมล็ด 3. ศึกษาด้านการใช้ประโยชน์ 4. ศึกษาสภาพดิน แสงสว่าง ค่า PH ที่มีผลต่อความเจริญเติบโต 5. ศึกษาความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ได้แก่ มดแดง มดดำ นกกระจิบ นก กระจาบ ปลวก ต้นส้มลม หญ้า ไก่พื้นเมือง มนุษย์ ในด้านการดำรงชีวิตที่สังเกตได้ 6. ศึกษาความสัมพันธ์กับปัจจัยทางกายภาพ ได้แก่ น้ำ ดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก แกลบเผา ในด้านการเจริญเติบโตที่สังเกตได้ 7. นำข้อมูลที่สังเกต และบันทึกไว้ รวบรวมและจัดเป็นหมวดหมู่ 8. นำข้อมูลที่จัดเป็นหมวดหมู่ มาพิจารณาว่า ข้อมูลด้านใดที่มีการจดบันทึกคล้าย ๆ กัน ถือว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้แล้วนำข้อมูลนั้นมาสรุป 9. นำข้อมูลที่สรุปจากการศึกษามาตรวจความถูกต้อง และตรวจสอบกับเอกสารทางวิชาการที่ศึกษาไว้แล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ 10. จัดทำเอกสารเป็นรูปเล่มที่สมบูรณ์
  • 5.
    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ราก รากมะค่าแต้ลักษณะ สี เปลือกนอกมีสีน้ำตาล ภายในสีขาว ความยาวเมื่อแรกงอก 1 เดือน ประมาณ 7-15 ซม . รากแขนงยาวประมาณ 1-2 มม . การแตกของรากจะแตกยาวขนานกับพื้นดิน กลิ่น คล้ายกลิ่นของเมล็ด หน้าที่ของราก ลำเลียงน้ำและอาหาร ความเป็นพิษ เมื่อสัมผัสดูไม่มีพิษ
  • 6.
    ลำต้น ลำต้นไม่มียาง ลำต้นอ่อนจะมีสีเทาอ่อนลำต้นแก่มีสีเทาคล้ำจะแตกเป็นเกล็ด เป็นลำต้นเหนอดิน ลำ ต้นอ่อนผิวเรียน ส่วนลำต้นแก่ผิวจะขรุขระ ไม่มีข้อปล้อง
  • 7.
    ใบ 1. เป็นใบประกอบแบบขนนกสี ของใบอ่อนเป็นสีน้ำตาลและเขียวอ่อน ใบแกสีเขียวเข้ม การเรียงตัวของใบเป็นคู่ตรงข้าม 3-4 คู่ รูปร่างแผ่นใบเป็นรูป รี ปลายใบกลมหยักเว้าตื้นตรงกลางเล็กน้อย รูปร่างโคนใบมน รูปร่างขอบใบ เรียบ
  • 8.
    ดอก ดอกเป็นช่อ ออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่งยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร สี ของดอกมีสีน้ำตาลอ่อน กลีบเลี้ยงติดกัน 4 กลีบ กลีบดอกมีเพียงกลีบ เดียว มีสีแดงอมเหลือง จำนวนเกสร ตัวผู้ 10 อัน เกสรตัวเมีย 1 อัน เป็น ดอกสมบูรณ์เพศ ตำแหน่งของรังไข่ เหนือวงกลีบ ดอกไม่มีกลิ่น รูปร่างของดอก กลีบดอกแยกกัน รูปดอกกากบาท ระยะการออกดอก เดือนมีนาคม – พฤษภาคม
  • 9.
    ผล ชนิดของผลเป็นผลเดี่ยว ผลแห้งแก่แล้วแตก สีของผล ผลอ่อนสีเขียวอ่อน ผลแก่สีน้ำตาลถึงน้ำตาลดำ รูปร่างของผล เป็นฝัก รูปไข่ ขนาด 4-12 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของผล มีจงอยแหลมยื่นออกตรงปลายยาว 5-7 เซนติเมตร ผลมี 2 ลักษณะคือผนังเปลือกของผลมีหนามแหลมแข็ง และผนังเปลือกเรียบ ระยะเวลาการติดผล เดือนกรกฎาคม – กันยายน
  • 10.
    เมล็ด จำนวนเมล็ดต่อผล 1-3 เมล็ด รูปร่างของเมล็ด กลม สีน้ำตาลถึงดำ การงอกของเมล็ด ส่วนของรากแรกเกิดจะโผล่ออกมาแรกสุด ในการเพาะเมล็ดต้องแช่น้ำก่อนนำไปเพาะเนื่องจากเปลือกแข็ง
  • 11.
    สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว มดแดงทำรังบนใบอ่อน ไม้เลื้อยมาพันเกี่ยวเช่นต้นเถาวัลย์ปูนปลวกมาอาศัยชั่วคราวในฤดูแล้ง มดแดงและแมงมุมตัวเล็ก ๆ มาอาศัย ตามเปลือกที่มีรอยแตก
  • 12.
    ประโยชน์แท้แก่มหาชน ประโยชน์นั้นสืบเนื่องยาวนานไม่รู้จบ ประโยชน์นั้นตกกับมหาชนคนส่วนใหญ่ประโยชน์นั้นบำบัดความขาดแคลนทางกาย ประโยชน์นั้นจรรโลงจิตให้เบิกบาน
  • 13.
    ประโยชน์นั้นสืบเนื่องยาวนานไม่รู้จบ มะค่าแต้ แผ่ กิ่งก้าน เป็นที่อาศัยชั่วคราวของ สัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น นก มดแดง ปลวก แมงมุม
  • 14.
    ประโยชน์นั้นตกกับมหาชนคนส่วนใหญ่ มะค่าแต้เป็นส่วนหนึ่งของป่าที่เป็นต้นกำเนิด ของต้นน้ำลำธาร ทำให้ฝนตกตามฤดูกาล เป็นที่ร่มเงาของผู้คน
  • 15.
    ประโยชน์นั้นบำบัดความขาดแคลนทางกาย เมล็ด รสเมาเบื่อ แก้โรคผิวหนัง ทำให้หัวริดสีดวงแห้ง เมล็ดคั่วให้สุกนำไปแช่น้ำให้อ่อนนิ่มรับประทานได้ รสชาติมันเหมือนเม็ดมะขาม
  • 16.
    ประโยชน์นั้นจรรโลงจิตให้เบิกบาน นำเมล็ดมาเล่นเป็นเกมกีฬาพื้นบ้าน เรียกว่าโบก ในเทศกาลรื่นเริง เช่น เทศกาลสงกรานต์ เป็นที่ร่มเงาช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ส่งผลให้จิตใจ เราแจ่มใส