activity1

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ยาเสพติด
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาว ศศิวิมล พวงเทพ เลขที่ 21 ชั้น ม.6 ห้อง 14
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี) -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์

2. 2
สมาชิกในกลุ่ม 1 คน
1 นางสาว ศศิวิมล พวงเทพ เลขที่ 21
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ยาเสพติด
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Drugs
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ศศิวิมล พวงเทพ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เพื่อให้ประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ตระหนักถึงพิษภัยและโทษของยาเสพติด และช่วยกันคุ้มครอง สร้างความ
รัก ความอบอุ่นให้กับครอบครัวเพื่อเป็นการไม่ให้เยาวชนไทยติดยาเสพติดปัจจุบัน มีผู้ติดยาเสพติดเป็นจานวนมาก
โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงกาลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนวัย 9
ขวบ 10 ขวบ สาเหตุอาจเป็นเพราะถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสาคัญอีก
ประการหนึ่งคือการขาดความอบอุ่นในครอบครัว ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็ก
ได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยหันไปหายาเสพติด หรือเป็นเป้าล่อให้กับผู้ไม่ปรารถนาดีอย่างพอดี
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ ปันทอน
ความเจริญของประเทศชาติ หากประเทศใดมีประชาชนติดยาเสพติดจานวนมาก ก็ไม่สามารถพัฒนาประเทศชาติให้
เจริญรุ่งเรืองได้ ยาเสพติดมีมากมายหลายชนิด ได้แก่ ฝิ่น เฮโรอีน ทินเนอร์ กัญชา ยาบ้า ยาอี สาระเหย กระท่อม
และยากระตุ้นประสาทเป็นต้น แต่ละชนิดก่อให้เกิดผลร้ายแก่ร่างกายทั้งสิ้น ทาให้สุขภาพทรุดโทรมอ่อนแอ ความจา
เสื่อม เสียบุคลิกภาพ และปัญหาสาคัญที่ตามมาอีกประการหนึ่ง ก็คือผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นมีโอกาสติดเชื้อ
ไวรัสเอดส์และแพร่กระจายไปยังกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดด้วยกัน รวมไปถึงคนกลุ่มอื่น ๆ ด้วย แม้รัฐบาลจะประกาศ
สงครามกับยาเสพติดก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าการป้องกัน การปราบปรามยาเสพติดจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
เท่านั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกัน การปราบปรามเป็นการแก้ปัญหาที่ปลาย
เหตุ การป้องกันยังเป็นสิ่งที่สาคัญ โดยการให้การศึกษาและความรู้เรื่องพิษภัยและโทษของยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
แก่ประชาชน ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จะต้องเอาใจใส่ดูแลลูกหลาน ให้
ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว เป็นที่พึ่งของเด็กได้ เมื่อเด็กมีปัญหาสามารถจะพูดคุย ช่วยกันแก้ปัญหาให้เด็กใช้
เหตุผลกับเด็ก ไม่ใช้อารมณ์ เพราะการใช้อารมณ์อาจทาให้เด็กเกิดความน้อยเนื้อต่าใจ กลุ้มใจและเตลิดออกจากบ้าน
ไปพึ่งยาเสพติดและเสียอนาคตได้ในที่สุด "เยาวชนคืออนาคตของชาติ อย่าให้ตกเป็นทาสของยาเสพติด"

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อเป็นการศึกษาถึงปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดในชุมชน และสถาบันการศึกษา
2. เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาเสพติด
3. เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างครู, นักเรียน และชุมชน เพื่อเป็นแนวทางให้ห่างไกลยาเสพติด
4. เพื่อให้รู้โทษภัยและอันตรายจากยาเสพติด
5. เพื่อให้รู้วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากยาเสพติด
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
การพัฒนาขบวนการ (Social movement) เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ที่สสส. ได้กาหนดไว้ ทั้งนี้ก็
เพื่อให้สามารถแก้ไขและเยียวยาปัญหาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้ง
กายและใจของผู้คนในสังคมอย่างร้ายแรง คือ ปัญหายาเสพติด ซึ่งการขยายตัวของกลุ่มผู้เสพยังอยู่ในกาวะที่น่าเป็น
ห่วง โดยเฉพาะ กลุ่มเสี่ยงกลุ่มใหญ่ที่สุดคือยาวชนซึ่งเป็นวัยที่ยังขาดความตระหนักถึงผลร้ายที่จะตามมาการป้องกัน
และการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องยาก เพราะมีอุปสรรคใหญ่คือทัศนคติของคนในสังคมที่มีต่อคนกลุ่มนี้ ทาให้
โอกาสในการกลับตัวกลับใจและได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไปยังเป็นเรื่องลาบาก จะเห็นได้ว่าปัญหายาเสพติดยังคง
เป็นปัญหาใหญ่ แม้จะเป็นนโยบายที่สาคัญของรัฐบาลแต่ก็ด้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจากทุก ฝ่ายทุกภาคส่วนของ
สังคมซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายตามแผนงานดังกล่าวได้ จาเป็นต้องมีผู้จัดการแผนงานเพื่อช่วยผลักดันให้เกิด
แผนปฏิบัติการ การจัดเตรียมระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนทาการระดมบุคลากรที่จะมาเป็นแกน
ขับเคลื่อนพร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดขบวนการทางานที่เป็นระบบและมีทิศทาง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมสุขภาวะอย่าง
ยั่งยืนต่อไป
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด จะต้องหันหลักการไปที่ปัญหายาเสพติดในชุมชน การปรับเปลี่ยนปัจจัย
เสี่ยงที่เป็นเป้าหมาย หลักซึ่งอาจจะทาให้หมดไปหรือน้อยลง และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับปัจจัยป้องกันปัญหา
สาเสพติด จะต้องดาเนินการให้เหมาะสมกับกลุ่มประชากรจาเพาะและปัจจัยเสียงนั้นนั้น โดยต้องเหมาะกับอายุ เพศ
และสังคมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ อาจจะนาไปสู่ประสิทธิผล
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
เขียนโครงเรื่องยาเสพติดวางแผน และค้นคว้าข้อมูลเพื่อนามาทาโครงงานตามที่ได้วางโครงเรื่อง ศึกษาและ
ค้นคว้าข้อมูล จัดทาโครงร่างงาน ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ปรับปรุงทดสอบ ทาเอกสารรายงาน ประเมินผลโครงงาน
และนาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
กลุ่มเป้าหมาย
1. กลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาเสพติด
2. กลุ่มเป้าหมายได้มีค่านิยม และทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการที่คิดจะไม่พึ่งพายาเสพติด
3. มีการร่วมมือกันระหว่างครู,นักเรียน และชุมชน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ผู้จัดทาโครงงาน
1. ทาให้รู้จักการทางานเป็นกลุ่มซึ่งเกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
2. ทาให้รู้จักการเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ
3. ได้ฝึกความอดทนในการทางาน
4. ได้ความรู้ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และเข้าใจถึงปัญหาของยาเสพติดในชุมชนมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระสุขศึกษา และพลศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://arts.kmutt.ac.th/ssc210/Group%20Project/ASSC210/bangpakok/objective.html
https://sites.google.com/site/khorngnganldtidyaniwayrun/watthuprasngkh/hlak-kar-laea-thvsdi-thi-
keiywkhxng
http://resource.thaihealth.or.th/library/10726