More Related Content
Similar to 2560 project (20)
2560 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ไวรัสตับอักเสบซี
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.จิรานันท์ ทองห่อ เลขที่ 20 ชั้น ม.6 ห้อง 13
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.จิรานันท์ ทองห่อ ชั้น ม.6/13 เลขที่ 20
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ไวรัสตับอักเสบซี
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Hepaitits C
ประเภทโครงงาน
พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว จิรานันท์ ทองห่อ
ชื่อที่ปรึกษา
คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสตับอักเสบซีเป็นโรคที่พบได้บ่อยพอควร โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะไม่ทราบมาก่อนว่ามี
เชื้อนี้อยู่ในร่างกาย จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อไปตรวจร่างกายแล้วพบค่าการอักเสบของตับผิดปกติ และตรวจเลือดพบการติด
เชื้อ จึงอยากจะศึกษาและเรียนรู้ว่าโรคนี้เป็นอย่างไรและจะเกิดขึ้นกับในหมู่คนแบบไหนได้ง่ายและมีวิธีป้องกันรักษา
โรคนี้อย่างไร
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบซี
2.เพื่อศึกษาวิธีการรักษาและป้องกันของโรค
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ
2.ให้ข้อมูลและแนวทางของผู้ที่เป็นโรคและคนที่อยากศึกษา
3.มีเนื้อที่น่าอ่าน และเข้าใจง่าย
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ไวรัสตับอักเสบซีมีระยะฟักตัวประมาณสองสัปดาห์ถึงหกเดือน ระยะฟักตัวเริ่มจากเมื่อกาลังสัมผัสกับเชื้อไวรัสไป
ยังจุดเริ่มต้นของอาการ บางคนมีอาการไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการใด ๆ เลย คนเหล่านี้ยังคงเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อ
และสามารถส่งผ่านโรคไปยังผู้อื่น ซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้
ผู้ที่เป็นตับอักเสบ ซี เรื้ออาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่ไม่มาก อาการที่พบได้คือ
อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร
- 3. 3
คลื่นไส้อาเจียน
ปวดชายโครงขวา
ปวดกล้ามเนื้อและ ปวดข้อ
สาหรับผู้ป่วยที่เป็นเรื้อรังและกลายเป็นตับแข็งจะมีอาการ
ตับ ม้ามโต
ตัวเหลืองตาเหลือง
กล้ามเนื้อลีบ
ท้องมาน
เท้าบวม
ภาวะแทรกซ้อน
หากเป็นไวรัสตับอักเสบซีเป็นเวลานาน สามารถนาไปสู่??โรคตับแข็งได้ ถ้าไม่ได้มีการรักษา หากเป็นโรคตับแข็งมี
ความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งตับได้
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในเลือดแพร่กระจายระหว่างผู้คนโดยการสัมผัสกับเลือดของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดย
วิธีการดังต่อไปนี้
• การใช้เข็มและกระบอกฉีดยาร่วมกันในรายที่ติดยาเสพติด
• มีแผลเปิดโดยการสัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อ
• จากอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือทันตกรรมที่ปนเปื้อนและไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
• จากอุปกรณ์การสักที่ปนเปื้อนและไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
• การใช้ใบมีดโกนหรือแปรงสีฟันที่มีการปนเปื้อนร่วมกัน
• การได้รับเลือดจากผู้บริจาคที่มีติดเชื้อ
• มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกันกับผู้ติดเชื้อ แต่พบน้อยมาก
• จากมารดาไปสู่?ทารกในระหว่างการคลอดบุตร หรือให้นมบุตรแล้วมีหัวนมแตกโดยที่ทารกมีแผลในปาก
ไวรัสตับอักเสบซียังสามารถแพร่กระจายจากอุบัติเหตุถูกเข็มแทงสาหรับบุคคลากรทางด้านการแพทย์ จึงเป็นสิ่งสาคัญ
ที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการทาหัตถการต่างๆ
ปัจจัยเสี่ยงและการติดต่อไวรัสตับอักเสบ ซี
ไวรัสตับอักเสบ ซี ติดต่อทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน แต่มีผู้ป่วยบางท่านได้รับเชื้อโดยไม่ทราบแหล่งที่มาปัจจัย
เสี่ยงได้แก่
ผู้ที่เคยได้รับเลือด และ สารเลือดก่อนปี คศ 1992 เนื่องจากยังไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้รับอุบัติเหตุถูกเข็มตา
ผู้ป่วยติดยาเสพติดใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ ซี พบได้ร้อยละ 5
ผู้ที่สาส่อนทางเพศ หรือ รักร่วมเพศ
ไดรับเชื้อจากการสักตามตัว
การรักษาไวรัสตับอักเสบ ซี
โดยการให้ alpha interferon
ให้ยาสองขนานคือ alpha interferon and ribavirin.
ควรไดรัการฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ เอ และ บี
ผู้ป่วยไวรัสตับอัเสบ ซีรายใดที่ควรได้รับการรักษา
- 4. 4
มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี และ มีการเพิ่มของ SGOT,SGPT และผลการเจาชิ้นเนื้อตับพบว่ามีการอักเสบ และไม่มีข้อ
ห้ามการให้ยา
ผู้ป่วยที่มีตับแข็งต้องไม่มี ตัวเหลืองตาเหลือง ท้องมาน เส้นเลือดในหลอดอาหารโป่งพอง
อายุ น้อยกว่า60 ปี
ผู้ป่วยไวรัสตับอัเสบ ซีรายใดที่ไม่ควรได้รับการรักษา
โรคตับแขงและมีโรคแทรกซ้อน
ผลเลือด SGOT,SGPT ปกติ
มี ตับ ไต หัวใจวาย
มีข้อห้ามในการให้ยา
ข้อห้ามในการให้ยา interferon
ผู้ป่วยซึมเศร้า ติดยา ติดสุรา autoimmune disease โรคไขกระดูก ไม่สามารถคุมกาเนิด
ผลข้างเคียงของยา interferon interferon pegylated interferon alfa 2a และ 2b
ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนไข้หวัด ไข้ ปวดตามตัว ปวดหัวในระยะแรก
ระยะหลังอาจมีอาการเหนื่อยหอบ
ผมร่วง
เม็ดเลือดขาวต่า
ซึมเศร้า ซึ่งพบได้ร้อยละ 20 ถึง 30 โดยพบมากในช่วง 24 สัปดาห์แรกของการรักษา
จะมีผู้ป่วยจานวนน้อยที่เกิดอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง เช่น โรคไทรอยด์ ชัก หัวใจ และไตวาย
นอกจากนั้นยังทาให้ตับอักเสบด้วย
วิธีป้องกันตับไวรัสอักเสบ ซี
ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
ให้สวมถุงมือถ้าต้องสัมผัสเลือด
ห้ามใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟันร่วมกัน
ห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกัน
ให้ใช้ถุงยางคุมกาเนิดถ้าหากมีเพศสัมพันธ์หลายคน
ถ้าคุณเป็นตับอักเสบ ซีห้ามบริจาคเลือด
ผู้ป่วยที่มีไวรัสตับอักเสบ ซี จะป้องกันการอักเสบของตับอย่างไร
งดสุรา
พบแพทย์ตามนัด
ก่อนใช้ยา หรือสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์
ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ บี
การปฏิบัติตัวและการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค และยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน
การติดเชื้อหลังการสัมผัสโรค (postexposure prophylaxis) ดังนั้นมาตรการที่ควบคุม และป้องกันการแพร่หระจาย
เชื้อ จึงมีความสาคัญ เช่น วิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง รวมถึงการทาความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ดีพอ
นอกจากนี้บุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ก็ได้รับการตรวจเลือด anti HCV
การวิฉัยโรค
หากได้รับการสัมผัสกับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ให้ไปพบแพทย์เพื่อที่จะตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยการตรวจ
ร่างกาย ตรวจเลือด และมีการตรวจเลือดซ้าระหว่าง 6 สัปดาห์ และ 6 เดือน หลังจากที่ได้มีการสัมผัสเชื้อ
นอกจากนี้จะตรวจสอบการทางานของตับโดยการเจาะเลือดวัดค่าการทางานของตับ บางรายอาจมีการตรวจชิ้นเนื้อ
- 5. 5
ตับซึ่งสามารถบอกภาวะความรุนแรงของตับที่ถูกทาลายในกรณีที่เป็นเรื้อรัง ว่าจะเป็นโรคตับแข็งหรือมีภาวะโรคตับ
อักเสบซีชนิดเรื้อรังหรือไม่ หากเป็นโรคตับอักเสบซีแบบเรื้อรัง แพทย์จะป้องกันความคืบหน้าของโรคในการนาไปสู่
โรคตับแข็งและโรคตับระยะสุดท้าย โดยให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยาเสพติด
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.เลือกข้อหัวที่น่าสนใจ
2.นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
3.ศึกษาและรวบรวมข้อมูล
4.จัดทารายงาน
5.นาเสนอครูผู้สอน
6.ปรับปรังและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.โปรแกรม Microsoft word
3.อินเทอร์เน็ต
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ได้รู้เท่าทันโรค
2.ผู้ที่ได้อ่านได้นาความรู้ไปใช้
3.ความรู้ที่ได้รับในการค้นคว้านี้นาไปใช้ในชีวิตได้
สถานที่ดาเนินการ
ห้องคอม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง