More Related Content
Similar to 2560 project (20)
2560 project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ความเครียดในวัยรุ่น
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวจิราพร จิตต์มั่น เลขที่ 14 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวจิราพร จิตต์มั่น เลขที่ 14
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ความเครียดในวัยรุ่น
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The problem of stress in teens
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวจิราพร จิตต์มั่น
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันความเครียดเกิดขึ้นมากมายในหลายช่วงอายุ แต่ผู้จัดทาได้เลือกกรณีศึกษาคือช่วงวัยรุ่น
เพราะผู้จัดทาได้อยู่ในช่วงวัยนี้และมีความสนใจใจศึกษา วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งด้านร่างกาย
จิตใจ และสังคม จึงทาให้วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องเผชิญกับความเครียดอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและ
พัฒนาการเหล่านี้อย่างมากตามไปด้วย นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ตั้งแต่ระดับ
ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ประเทศจนถึงระดับโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจการเมือง ค่านิยม และวัฒนธรรม ล้วนมี
อิทธิพลต่อการดาเนินชีวิตของวัยรุ่นอย่างมาก รวมไปถึงการที่พ่อแม่และสังคมมีความคาดหวังต่อวัยรุ่นสูง โดยเฉพาะ
ในด้านการเรียน ปัจจัยเหล่านี้รวมกันเป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้วัยรุ่นในปัจจุบัน ต้องเผชิญกับความเครียดใน
ชีวิตประจาวันมากกว่าวัยรุ่นในอดีตปัจจัยส่วนบุคคลมีความสาคัญต่อการเกิด ความเครียดในด้านการให้ความสาคัญ
ต่อปัญหา และความเครียดหรือมุมมองต่อปัญหาต่าง ๆ แต่ละบุคคลให้ความสาคัญกับปัญหาต่าง ๆ แตกต่างกัน และ
มีมุมมองต่อปัญหาแต่ละเรื่องแตกต่างกัน เช่น บางคนมีมุมมองต่อปัญหาว่าเป็นการท้าทายและสามารถจัดการได้ แต่
บางคนมีมุมมองว่าเป็นอุปสรรคและคิดว่าไม่สามารถจัดการได้ เป็นต้น
- 3. 3
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาสาเหตุของความเครียดในวันรุ่น
2. เพื่อศึกษาผลกระทบของความเครียดในวัยรุ่น
3. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเผชิญความเครียดของวัยรุ่น
4. เพื่อศึกษาวิธีจัดการความเครียดของวัยรุ่น
ขอบเขตโครงงาน
การศึกษาในครั้งนี้มีขอบเขตที่มุ่งศึกษา ความเครียดของวัยรุ่น โดยศึกษาในวัยรุ่นที่มีปัญหาด้านความเครียด
หลักการและทฤษฎี
วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งร่างกาย จิตใจและความสัมพันธ์กับครอบครัวรวมทั้งเพื่อน
ฝูง วัยรุ่นตอนต้น อายุราว 13 – 15 ปี เป็นวัยที่สนุกสนานร่าเริง เปิดเผย ไม่ค่อยเก็บความรู้สึกไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ
ผิดหวัง ก็แสดงออกมาให้เห็นได้ชัด อารมณ์ต่างๆ มักเป็นไปชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเพราะเป็นวัยที่อารมณ์เปลี่ยนแปลง
ง่าย ทาให้วัยรุ่นไม่ค่อยมีความเครียดมากนัก ประกอบกับวัยรุ่นตอนต้นยังมีความรับผิดชอบในระยะสั้น เพราะผู้ใหญ่
ไม่ค่อยไว้ใจปล่อยให้รับผิดชอบเต็มที่ แต่มักจะใช้วิธีสั่งให้ทาเป็นเรื่องๆ ไปมากกว่า และความรับผิดชอบนี้เองเป็นสิ่ง
สาคัญที่จะทาให้เกิดความเครียด ดังนั้น หากวัยรุ่นจะเกิดความเครียดก็เป็นความเครียดในระยะสั้นๆ ไม่รุนแรงและ
ยาวนานเหมือนผู้ใหญ่ ซึ่งต้องรับผิดชอบตนเองเต็มที่ รวมทั้งความสนใจและความต้องการของวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงง่าย
จนไม่สามารถจะคาดเดาได้ เรื่องสาคัญและทาให้เขาเครียดในขณะหนึ่งอาจเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น การแสดงออกอย่างเด็กๆ โดยมิได้คานึงถึงความรู้สึกของผู้ใกล้ชิดหรือกติกาของสังคมก็เป็นการ
ช่วยระบายความเครียดได้อย่างหนึ่ง เช่น อยากตะโกนคุยกันหรือเล่นหยอกล้อกันเสียงดังๆ ตามทางเดินหรือถนน
หนทางก็ทาได้ และสังคมก็มักจะไม่ค่อยถือสาหาความนัก ยิ่งเป็นวัยรุ่นไทยด้วยแล้ว มักจะไม่ค่อยมีความเครียด
เท่าที่ควรเพราะผู้ปกครองยังคอยดูแลให้ความช่วยเหลือ จนบางครั้งทาให้เด็กไม่รู้จักโตดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาถ้ายัง
แก้ไขไม่ได้ ก็วิ่งไปหาผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือ ทาให้วัยรุ่นตอนต้นนี้ ไม่เครียดเท่าที่ควรอย่างไรก็ตาม วัยรุ่นก็ใช่จะไม่มี
ความเครียดเสียเลย เพราะยังมีปัจจัยหลายประการที่เป็นสาเหตุแห่ง
ความเครียดของวัยรุ่น ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างรวดเร็ว สัดส่วนของร่างกายเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทาให้วัยรุ่นกังวลกับความ
สูง-เตี้ย- อ้วน-ผอม เป็นสิว ปรับตัวปรับใจไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร
2. การบรรลุวุฒิภาวะทางเพศ ทาให้มีความต้องการทางเพศ อยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้และต้องการระบายความรู้สึก
ออกไป แต่ไม่ทราบวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม บางคนอาจหาวิธีการผิดๆ เพียงเพราะอยากลองอยากรู้
- 4. 4
3. ต้องการอยากเด่น อยากดัง อยากหล่อ อยากสวย อยากรวย สารพัดอยาก แต่ไม่ได้ดังที่ต้องการยิ่งเปรียบเทียบกับ
เพื่อนแล้วรู้สึกว่าด้อยกว่า สู้ไม่ได้ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด พยายามหาทางออกด้วยวิธีการต่างๆ ที่จะเสริมให้ตนเองเด่นและ
ดัง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่สู้ดีจะรู้สึกมีปมด้อย เพราะคิดว่าฐานะทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือที่ใช้ซื้อ
การยอมรับจากเพื่อนๆ เป็นสิ่งเชิดชูตนเองให้เด่นขึ้น มองเห็นว่าสิ่งฟุ่มเฟือยหรือเครื่องใช้ราคาแพงจะทาให้ได้รับ
ความสนใจจากเพศตรงข้าม เพราะวัยรุ่นจะตัดสินกันด้วยสิ่งที่เห็นภายนอกเท่านั้น
นอกจากนั้น วัยรุ่นมีความต้องการการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม จึงมักให้ความร่วมมือและภักดีต่อกลุ่ม
เมื่อมีปัญหาก็จะหันไปปรึกษาเพื่อน และในการคบเพื่อนต่างเพศก็จะมีท่าทีเคอะเขิน เนื่องจากยังไม่มีความมั่นใจใน
ตนเอง ไม่รู้ว่าจะผูกมิตรและวางตัวอย่างไรให้ถูกใจและประทับใจเพศตรงข้าม
4. การรับรู้ ความต้องการ การมองปัญหาและเหตุผลของวัยรุ่นมักแตกต่างจากผู้ใหญ่ จึงมักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ ทา
ให้เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย อย่างเช่น ในบางขณะวัยรุ่นคิดว่า ตนโตพอที่จะช่วยตัวเองได้มีอิสระในการกระทา
และการตัดสินใจ แต่พ่อแม่ผู้ปกครองคิดว่าวัยรุ่นยังขาดประสบการณ์ชีวิต ความรักความห่วงใยนี้จะทาให้วัยรุ่นรู้สึกว่า
เขาถูกกวดขันเข้มงวดและถูกปิดกั้นไม่ให้มีอิสระ นอกเหนือไปกว่านี้ ผู้ใหญ่มักจะใช้การสร้างความเครียดเป็นอาวุธ
เพื่อบังคับหรือลงโทษวัยรุ่นเพื่อให้เป็นคนดีตามที่ตนต้องการ หรือเพื่อรักษาหน้าหรือศักดิ์ศรีความเป็นผู้ใหญ่ของตน
เช่น การที่พ่อแม่ตั้งความหวังในเรื่องการเรียน เมื่อไม่ได้ดังหวังก็นาความผิดหวังของตนไปสร้างความกดดันให้กับ
วัยรุ่นเพิ่มขึ้นอีก
แก้ไขความเครียดของวัยรุ่นได้อย่างไร
วิธีการแก้ไข ซึ่งนอกจากจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ใหญ่แล้ว วัยรุ่นก็ต้องช่วยตนเองด้วย
1. ความเติบโตอย่างรวดเร็วทางร่างกาย นอกจากจะทาให้วางตัวลาบากแล้วความกังวลในเรื่องรูปร่างหน้าตา สิวบน
ใบหน้า ก็สร้างความกดดันให้แก่วัยรุ่นอยู่ไม่น้อย แต่ความอึดอัดเหล่านี้จะค่อยๆ ผ่อนคลายลงไป ถ้าหากได้รับ
คาแนะนาที่เหมาะสม ได้เห็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการวางตัว การแต่งกาย การทาความสะอาดใบหน้า การออกกาลัง
กาย และการเลือกรับประทานอาหารจากเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่โตกว่า
2. ความรู้สึกทางเพศ หากผู้ใหญ่เข้มงวดหรือปล่อยให้อิสระจนเกินไปจะทาให้วัยรุ่นเดินผิดทางได้การให้คบเพื่อนต่าง
เพศหรือเรียนในสหศึกษาโดยให้อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ จะลดความกดดันลงไปมาก และวิธีที่ดีที่สุดคือ การได้เล่นกีฬา
หรือออกกาลังกาย ไม่ให้วัยรุ่นหมกมุ่นหรือใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นส่วนใหญ่ วัยรุ่นที่มีความมุมานะ เอาดีทางการ
เรียน รู้จักรับผิดชอบต่อตนเองหรือมีงานอดิเรกที่ชอบทา จะทาให้ความสนใจทางด้านนี้น้อยลง
3. ความต้องการอยากเด่น อยากดัง อยากสวย อยากงาม อยากเป็นอิสระ ถ้าได้รับคาแนะนาส่งเสริมที่ถูกทาง ให้รู้จัก
รับผิดชอบต่อผลของการกระทาตามความต้องการของตนแบบพบกันครึ่งทาง จะช่วยลดความตึงเครียดในจิตใจลงได้
สาหรับวัยรุ่นนั้น การมีความรับผิดชอบในหน้าที่จะทาให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้วัยรุ่นมีอิสระใน
การตัดสินใจมากขึ้น
- 5. 5
สาหรับการเข้ากลุ่ม และการวางตัวในการคบเพื่อนต่างเพศนั้น การเข้าสังคม ไม่เก็บตัว จะช่วยให้หูตากว้างขวาง
เรียนรู้การแก้ปัญหาได้มากขึ้น ควรสนับสนุนให้วัยรุ่นเข้าร่วมชมรมต่างๆ ที่สนใจ ซึ่งมีสมาชิกรุ่นราวคราวเดียวกันทั้ง
ชายหญิง จะช่วยลดความเคอะเขิน เป็นการฝึกให้รู้จักและเคยชินกับการทางานเป็นกลุ่มที่มีทั้งเพศเดียวกันและเพศ
ตรงข้าม จะทาให้กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และในช่วงนี้ผู้ใหญ่ต้องยอมรับธรรมชาติของวัยรุ่น
ว่า เขาค่อนข้างจะติดเพื่อน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ดังนั้น พ่อแม่ควรพยายามทาความรู้จัก ให้
ความสนิทสนมกับเพื่อนๆ ของลูกและวางตัวให้วัยรุ่นรู้สึกว่า ถ้ามี
ปัญหาก็สามารถขอคาปรึกษาแนะนาได้
หากวัยรุ่นรู้สึกมีปมด้อยในเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจ ควรใช้วิธีสนับสนุนให้เขารู้จักหารายได้พิเศษในเวลาว่าง
เช่น รับจ้างตัดหญ้า ประดิษฐ์ของขาย รับจ้างสอนพิเศษ เป็นต้น นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เขามี
4. การแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ เป็นธรรมชาติของวัยรุ่น การได้เห็นแบบอย่างการแสดงออกทางอารมณ์ที่
เหมาะสมจากผู้ใหญ่ จะช่วยให้เขาสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น หรือการเล่นดนตรี เล่นกีฬา ก็เป็นหนทางระบายอารมณ์
และความกดดันได้อย่างหนึ่ง
5. ความขัดแย้งระหว่างวัย มีสาเหตุสาคัญมาจากความต้องการของวัยรุ่นและความต้องการของพ่อแม่ที่มักจะสวนทาง
กัน ซึ่งความจริงแล้วเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกครอบครัวมากบ้าง น้อยบ้าง สิ่งสาคัญอยู่ที่ผู้ใหญ่จะวางตัวเป็นผู้ใหญ่ได้
มากน้อยเพียงไร หากผู้ใหญ่ลดตัวลงไปทะเลาะกับเด็ก หรือเอาแต่ใจตนเอง ต้องการให้เด็กทาตามใจทุกอย่าง เชื่อฟัง
ทุกคาก็เท่ากับเป็นการฝืนธรรมชาติเด็ก และปิดกั้นไม่ให้เด็กรู้จักพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ใหญ่ ส่วนวัยรุ่นก็ควรพยายาม
เข้าถึงความหวังดีของผู้ใหญ่ ให้รับฟังและคิดเสียว่าผู้ใหญ่มีประสบการณ์มากกว่า ไม่ควรต่อต้านผู้ใหญ่ไปเสียทุกเรื่อง
การยอมรับฟังและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาทีหลัง นอกจากจะทาให้ไม่เกิดความขัดแย้งแล้ว ยังแสดงว่าวัยรุ่นนั้นมี
จิตใจเป็นผู้ใหญ่อีกด้วย
สาหรับวัยรุ่นที่มีปัญหา มีความเครียดมากๆ อาจแสดงออกมาในรูปของการเก็บตัว ไม่พูด ไม่คุยกับใคร ไม่
อยากให้ใครเข้ามายุ่งหรือหลบหน้า มีอาการซึมเศร้า กินอาหารไม่ลง เจ็บป่วยทางด้านร่างกายซึ่งวัยรุ่นกลุ่มนี้จะต้อง
รีบเร่งให้ความช่วยเหลือหรือแก้ไข ส่วนความเครียดในระดับที่ไม่รุนแรง หรือความเครียดที่เกิดกับวัยรุ่นทั่วๆ ไปนั้น
แสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นเริ่มมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้พร้อมที่จะทางานหรือแก้ปัญหาที่กาลังเผชิญอยู่
อย่างมีประสิทธิภาพ