SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
ใบงานที่ 2-8
จัดทำโดย
นำยพงษ์พัฒน์ ตำลศรี เลขที่4 ม.6/12
นำยภูวำนนท์ สุวรรณมณี เลขที่18 ม.6/12
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของ
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนศึกษาปัญหาหรือประเด็นที่สนใจโดยต้องใช้ทักษะ
พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ มีการวางแผนอย่างมีขั้นตอน รวมทั้งต้องใช้ความรู้ความสามารถ
ทางด้านกระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และวัสดุอุปกรณ์ ซึ่งโครงงานการ
คอมพิวเตอร์นี้ยังเป็นงานวิจัยระดับนักเรียน ทั้งนี้เพื่อให้การศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้นจึงมีการใช้
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆร่วมด้วย ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์
ที่ช่วยให้นักเรียน ได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้ง
เครื่องมือต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงาน ซึ่งโครงงานที่สนใจอาจมีผู้สนใจ
ทามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนามาแล้ว แต่นักเรียนยัง
สามารถทาโครงงานดังกล่าวได้ เพียงแต่คิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล การ
พัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ โดยในการพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของครูใน สาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรือต่าง
สาขาวิชารวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ด้วย เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนา
ความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมี
ความสุข
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ำยของโครงงำน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง
ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา
สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า
ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ
แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม
จุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ
สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงำน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน
ส่วนใหญืจะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน
การจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน
ชีวิตประจาวัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษา”
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือ
รายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น
อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน
แบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา
สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา
ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น
โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชา
ต่าง ๆ
ตัวอย่ำง โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก
ผู้พัฒนา นางสาว อัญชลี เตมีประเสริฐกิจ
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ชนารัตน์ คาอ่อน
สถานศึกษา โรงเรียนระยองวิทยาคม
2.. โปรแกรมสนุกไปกับตำรำงธำตุ
ผู้พัฒนา เด็กหญิงวริศรา พรหมมณี และเด็กหญิงกมลวรรณ ทองงาน
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ทัศนีย์ ระลึกมูล
สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนา
เครื่องมือ”
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงาน
ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์
ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาด
รูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ
มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้
วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร
ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและ
แก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็นต้น
ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำเครื่องมือ”
1.โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย
2.โปรแกรมอ่านอักษรไทย
3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
4.โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
5.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
6.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
7.โปรแกรมการออกแบบผังงาน
8.พอร์ตแบบขนานของไทย
9.การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่
สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น
โครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิด
ต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง
หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งกำรจำ
ลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำม
สูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำ
โครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำง
ดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของ
ของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่อง
กำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี”
1.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3.การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา
4.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
5.ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
6.ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
7.การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้ มข้อมูล
8.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
9.โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลฃ
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน”
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิต
ประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สา
หรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้
จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะ
สร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้
โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา
ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ
ทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มี
ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธี
ทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน”
ชื่อโครงงำน
ซียูเท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์ออกแบบลำยผ้ำ
สำมมิติ CU Textile Design
ชื่อผู้ทำโครงงำน
นำงสำวอัจฉริยำ วิเศษเกษม , นำยณัฐ ศรีกฤษณพล , นำย
อำชว์ สรรพอำษำ
ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ
สถำบันกำรศึกษำ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
ระดับชั้น ปริญญาตรี
หมวดวิชำ คอมพิวเตอร์
วัน/เดือน/ปี ทำโครงงำน 1/1/2541
บทคัดย่อ อุตสาหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง และอุตสาหกรรมอัญมณี และ
เครื่องประดับ ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วปัจจุบัน
ประเทศไทยมีโรงงานแฟชัน ไม่ต่ากว่า 10,207 โรงงาน คนงาน ประมาณ
1.58 ล้านคน และมี มูลค่าการส่งออกในปี 2545 ประมาณ 346,822.3
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของ GDP
ปัญหาที่ประสบของอุตสาหกรรมแฟชันในปัจจุบัน คือ ปัญหาแนวโน้ม
การส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดยปัจจัยของการ
ถดถอย ได้แก่ ผู้ประกอบการของไทยส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับจ้างผลิต
หรือ
โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM)
ผลิตสินค้าคุณภาพระดับล่าง และไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งมีการแข่งขัน
สูงขึ้นจากประเทศที่มีต้นทุนและค่าจ้างแรงงานต่า เช่น จีน เวียดนาม
และอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีตระหนักถึงความสาคัญของการ
ส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบในกิจกรรมการเปิดตัว
โครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชัน โดยคาสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อ
สร้างธุรกิจ จากการที่ประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นด้านแฟชัน และ
เพื่อให้ตราสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งออก
งบประมาณและรายได้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแฟชันอย่างแท้จริง
หนึ่งในกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าว คือการวิจัย
และพัฒนา ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น การเพิ่ม
ศักยภาพของขั้นตอนการออกแบบลายผ้าสามารถเพิ่มมูลค่าของ
ผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มได้อย่างสูง จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนา
เครื่องมือในลักษณะโปรแกรมจาลองลายผ้าสามมิติขึ้น เพื่อช่วย
พัฒนาขีดความสามารถในการออกแบบลายผ้าสาหรับนักออกแบบ
หรือดีไซเนอร์ ให้ผลิตสินค้าที่มีรูปแบบและคุณภาพระดับสากล อีกทั้ง
ยังลดระยะเวลา ค้นทุน และความผิดพลาดในการผลิต
การออกแบบลายผ้า (Textile design) เป็นการผสมผสานกัน
ระหว่างเทคนิค การผลิต และความคิดสร้างสรรค์ ให้ตรงกับ ความ
ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งลวดลายผ้าในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
ลวดลายที่เกิดจากสี และลวดลายที่เกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย
หากลวดลายที่เกิดจากสีนั้นหลุดไป ผ้าก็ยังคงเป็นผืนผ้าและใช้
ประโยชน์ได้ เรียกลวดลายประเภทนี้ว่า ลวดลายตกแต่ง
(Decorative design) เกิดจากการย้อม และพิมพ์พลิกแพลง
แบบต่างๆ ส่วนลวดลายที่เกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย หากดึงเอา
เส้นด้าย ที่เป็นลวดลายออก ลายผ้าบริเวณนั้นจะเสื่อมสภาพไป ไม่
สามารถใช้ประโยชน์ได้ เรียกว่าลวดลายโครงสร้าง (Structural)
ซึ่งเกิดจากการทอ
การออกแบบสิ่งทอนี้เริ่มต้นจากการพิจารณาวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย
เส้นด้าย ผ้า และการตกแต่ง แล้วจึงเริ่มออกแบบลวดลายผ้าซึ่งถือเป็น
ขั้นตอนที่สาคัญที่สุด เพราะเป็นขั้นตอนที่จะตัดสินว่า ผ้าจะสวยงาม
และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ การปฏิบัติงานแต่ละ
ขั้นตอน จึงต้องอาศัยผู้ชานาญเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่ง
โปรแกรมจาลองลายผ้าสามมิติ จะช่วยให้ผู้ผลิตเห็นโครงร่างของลาย
ผ้าที่ออกแบบไว้ ในลักษณะเสมือนจริง เป็น สามมิติ เพื่อให้เห็น
จุดบกพร่องของการออกแบบนั้นๆ อย่างชัดเจน และสามารถแก้ไขได้
โดยสะดวก ก่อนนาเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายของ
ผู้ประกอบการ และยังสนับสนุนการเชื่อมโยงวงจรการผลิตให้มี
ศักยภาพในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมากขึ้น
ในปัจจุบัน มีซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถใช้งานในการออกแบบลายผ้าได้ เช่น
Photoshop หรือการจาลองสามมิติโดยโปรแกรมมายา (Maya)
หรือ ทรีดีสตูดิโอแม๊กซ์ (3D Studio Max) รวมทั้ง อราห์วีฟ แคด
แคม (Aearah Weave CAD CAM) ซึ่งเป็นโปรแกรมจาลอง
ลายผ้าโดยเฉพาะ แต่โปรแกรมดังกล่าวอาจทาให้ผู้ผลิตต้องใช้ต้นทุน
ทางด้านเวลาสูงยิ่งขึ้น เพื่อจัดการศึกษาและอบรบโปรแกรมหลาย
โปรแกรมประกอบกัน รวมทั้งต้องอาศัยความชานาญมากกว่า เนื่องจาก
ไม่มีเครื่องมือ ที่อานวยความสะดวก ในการออกแบบลายผ้าโดยเฉพาะ
อีกทั้งมีปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ (license) ทาให้มีต้นทุนในการผลิต
สูงขึ้น จะเห็นได้ว่า โปรแกรมออกแบบลายผ้าสามมิติ สามารถ
แก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน และนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริม
วงการอุตสาหกรรมแฟชันของประเทศไทยซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สาคัญ
ของเมืองไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นอีกด้วย
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อ
ความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง
เพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะ
และกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้
สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่
เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำโปรแกรมประยุกต์”
แหล่งที่มา
1. http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm
2.http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html
3.http://st.mengrai.ac.th/users/9134/u1.doc
4.http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
5.http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit1/unit1-3.html
6.http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy
7. https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-
khxmphiwtexr
8. http://oumsunipharuamsap.blogspot.com/2012/09/7-
thanapongkiatsujja.html
9. http://www.vcharkarn.com/project/view/499

More Related Content

What's hot

โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8unstreet
 
ความหมายและความสำคัญ
ความหมายและความสำคัญความหมายและความสำคัญ
ความหมายและความสำคัญLupin F'n
 
3 tp
3 tp3 tp
3 tpTHXB
 
งานคอมสวย
งานคอมสวยงานคอมสวย
งานคอมสวยfahsrisakul
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Thanyalux Kanthong
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Kingchat Laolee
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานThank Chiro
 
ใบงานที่2-16
ใบงานที่2-16ใบงานที่2-16
ใบงานที่2-16PrinceKs
 
งานคอมมมมมม...
งานคอมมมมมม...งานคอมมมมมม...
งานคอมมมมมม...Lupin F'n
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8Aimie 'owo
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8Aimie 'owo
 
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excelแผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office ExcelKhon Kaen University
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานFreshsica Chunyanuch
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์uniquejupjang5603
 
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศABELE Snvip
 

What's hot (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่2-8
 
ความหมายและความสำคัญ
ความหมายและความสำคัญความหมายและความสำคัญ
ความหมายและความสำคัญ
 
Work.com2
Work.com2Work.com2
Work.com2
 
3 tp
3 tp3 tp
3 tp
 
งานคอมสวย
งานคอมสวยงานคอมสวย
งานคอมสวย
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Comm
CommComm
Comm
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ใบงานที่2-16
ใบงานที่2-16ใบงานที่2-16
ใบงานที่2-16
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
งานคอมมมมมม...
งานคอมมมมมม...งานคอมมมมมม...
งานคอมมมมมม...
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8
 
ใบงาน2 8
ใบงาน2 8ใบงาน2 8
ใบงาน2 8
 
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excelแผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
แผนการเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
Bar and two ON Tour
Bar and two ON TourBar and two ON Tour
Bar and two ON Tour
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 

Similar to ใบงานที่2 8 (20)

K6
K6K6
K6
 
K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
K6
K6K6
K6
 
K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
K6222
K6222K6222
K6222
 
ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6ใบงานที่ 6
ใบงานที่ 6
 
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงานใบงานท   3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 ขอบเขตและประเภทของโครงงาน
 
ใบงาน6
ใบงาน6ใบงาน6
ใบงาน6
 
ใบงาน6
ใบงาน6ใบงาน6
ใบงาน6
 
ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6
 
ใบงานที่6
ใบงานที่6ใบงานที่6
ใบงานที่6
 
ใบงาน6 แก้
ใบงาน6 แก้ใบงาน6 แก้
ใบงาน6 แก้
 
ใบงาน6
ใบงาน6ใบงาน6
ใบงาน6
 
3
33
3
 
2
22
2
 

More from Phongphat Tansi (20)

K16
K16K16
K16
 
K15
K15K15
K15
 
K14
K14K14
K14
 
K13
K13K13
K13
 
K12
K12K12
K12
 
K11
K11K11
K11
 
K10
K10K10
K10
 
K9
K9K9
K9
 
K17
K17K17
K17
 
K17
K17K17
K17
 
K16
K16K16
K16
 
K14
K14K14
K14
 
K13
K13K13
K13
 
K12
K12K12
K12
 
K9
K9K9
K9
 
K15
K15K15
K15
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
วิชาเคมี
วิชาเคมีวิชาเคมี
วิชาเคมี
 
7 soc1
7 soc17 soc1
7 soc1
 
7 phy1
7 phy17 phy1
7 phy1
 

ใบงานที่2 8

  • 1. ใบงานที่ 2-8 จัดทำโดย นำยพงษ์พัฒน์ ตำลศรี เลขที่4 ม.6/12 นำยภูวำนนท์ สุวรรณมณี เลขที่18 ม.6/12
  • 2. ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสาคัญของ โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนศึกษาปัญหาหรือประเด็นที่สนใจโดยต้องใช้ทักษะ พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ มีการวางแผนอย่างมีขั้นตอน รวมทั้งต้องใช้ความรู้ความสามารถ ทางด้านกระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และวัสดุอุปกรณ์ ซึ่งโครงงานการ คอมพิวเตอร์นี้ยังเป็นงานวิจัยระดับนักเรียน ทั้งนี้เพื่อให้การศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้นจึงมีการใช้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆร่วมด้วย ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้นักเรียน ได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้ง เครื่องมือต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงาน ซึ่งโครงงานที่สนใจอาจมีผู้สนใจ ทามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนามาแล้ว แต่นักเรียนยัง สามารถทาโครงงานดังกล่าวได้ เพียงแต่คิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล การ พัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ โดยในการพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คาปรึกษาของครูใน สาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรือต่าง สาขาวิชารวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ด้วย เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนา ความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมี ความสุข
  • 3. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน ขอบข่ำยของโครงงำน 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม จุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 4. ประเภทของโครงงำน 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ ผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญืจะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิตประจาวัน 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
  • 5. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา” เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือ รายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน แบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชา ต่าง ๆ
  • 6. ตัวอย่ำง โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ 1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก ผู้พัฒนา นางสาว อัญชลี เตมีประเสริฐกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ชนารัตน์ คาอ่อน สถานศึกษา โรงเรียนระยองวิทยาคม 2.. โปรแกรมสนุกไปกับตำรำงธำตุ ผู้พัฒนา เด็กหญิงวริศรา พรหมมณี และเด็กหญิงกมลวรรณ ทองงาน อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ทัศนีย์ ระลึกมูล สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก
  • 7. ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนา เครื่องมือ” โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วยสร้างงาน ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาด รูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและ แก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็นต้น
  • 8. ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรพัฒนำเครื่องมือ” 1.โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย 2.โปรแกรมอ่านอักษรไทย 3.โปรแกรมวาดภาพสามมิติ 4.โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล 5.โปรแกรมบีบอัดข้อมูล 6.โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ 7.โปรแกรมการออกแบบผังงาน 8.พอร์ตแบบขนานของไทย 9.การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • 9. ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี” โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ ซึ่งเป็นงำนที่ไม่ สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง และแนวคิด ต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย พร้อมทั้งกำรจำ ลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำม สูตรหรือสมกำรนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น กำรทำ โครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำง ดี ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของ ของเหลว กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ และกำรทดลองเรื่อง กำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
  • 10. ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรทดลองทฤษฎี” 1.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์ 2.การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์ 3.การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา 4.การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ 5.ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน 6.ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน 7.การเปรียบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้ มข้อมูล 8.โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น 9.โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลฃ
  • 11. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ใช้งาน” เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิต ประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สา หรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้ จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะ สร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ ทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มี ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธี ทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
  • 12. ตัวอย่ำง โครงงำนประเภท “กำรประยุกต์ใช้งำน” ชื่อโครงงำน ซียูเท็กซ์ไทล์: ซอฟต์แวร์ออกแบบลำยผ้ำ สำมมิติ CU Textile Design ชื่อผู้ทำโครงงำน นำงสำวอัจฉริยำ วิเศษเกษม , นำยณัฐ ศรีกฤษณพล , นำย อำชว์ สรรพอำษำ ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร. พิษณุ คนองชัยยศ สถำบันกำรศึกษำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ระดับชั้น ปริญญาตรี หมวดวิชำ คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทำโครงงำน 1/1/2541
  • 13. บทคัดย่อ อุตสาหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง และอุตสาหกรรมอัญมณี และ เครื่องประดับ ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงงานแฟชัน ไม่ต่ากว่า 10,207 โรงงาน คนงาน ประมาณ 1.58 ล้านคน และมี มูลค่าการส่งออกในปี 2545 ประมาณ 346,822.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.2 ของ GDP ปัญหาที่ประสบของอุตสาหกรรมแฟชันในปัจจุบัน คือ ปัญหาแนวโน้ม การส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 โดยปัจจัยของการ ถดถอย ได้แก่ ผู้ประกอบการของไทยส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับจ้างผลิต หรือ โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM) ผลิตสินค้าคุณภาพระดับล่าง และไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งมีการแข่งขัน สูงขึ้นจากประเทศที่มีต้นทุนและค่าจ้างแรงงานต่า เช่น จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีตระหนักถึงความสาคัญของการ ส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติเห็นชอบในกิจกรรมการเปิดตัว โครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชัน โดยคาสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อ สร้างธุรกิจ จากการที่ประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นด้านแฟชัน และ เพื่อให้ตราสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งออก งบประมาณและรายได้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางแฟชันอย่างแท้จริง
  • 14. หนึ่งในกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าว คือการวิจัย และพัฒนา ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น การเพิ่ม ศักยภาพของขั้นตอนการออกแบบลายผ้าสามารถเพิ่มมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มได้อย่างสูง จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนา เครื่องมือในลักษณะโปรแกรมจาลองลายผ้าสามมิติขึ้น เพื่อช่วย พัฒนาขีดความสามารถในการออกแบบลายผ้าสาหรับนักออกแบบ หรือดีไซเนอร์ ให้ผลิตสินค้าที่มีรูปแบบและคุณภาพระดับสากล อีกทั้ง ยังลดระยะเวลา ค้นทุน และความผิดพลาดในการผลิต การออกแบบลายผ้า (Textile design) เป็นการผสมผสานกัน ระหว่างเทคนิค การผลิต และความคิดสร้างสรรค์ ให้ตรงกับ ความ ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งลวดลายผ้าในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ลวดลายที่เกิดจากสี และลวดลายที่เกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย หากลวดลายที่เกิดจากสีนั้นหลุดไป ผ้าก็ยังคงเป็นผืนผ้าและใช้ ประโยชน์ได้ เรียกลวดลายประเภทนี้ว่า ลวดลายตกแต่ง (Decorative design) เกิดจากการย้อม และพิมพ์พลิกแพลง แบบต่างๆ ส่วนลวดลายที่เกิดจากการขัดกันของเส้นด้าย หากดึงเอา เส้นด้าย ที่เป็นลวดลายออก ลายผ้าบริเวณนั้นจะเสื่อมสภาพไป ไม่ สามารถใช้ประโยชน์ได้ เรียกว่าลวดลายโครงสร้าง (Structural) ซึ่งเกิดจากการทอ
  • 15. การออกแบบสิ่งทอนี้เริ่มต้นจากการพิจารณาวัตถุดิบ อันได้แก่ เส้นใย เส้นด้าย ผ้า และการตกแต่ง แล้วจึงเริ่มออกแบบลวดลายผ้าซึ่งถือเป็น ขั้นตอนที่สาคัญที่สุด เพราะเป็นขั้นตอนที่จะตัดสินว่า ผ้าจะสวยงาม และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ การปฏิบัติงานแต่ละ ขั้นตอน จึงต้องอาศัยผู้ชานาญเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่ง โปรแกรมจาลองลายผ้าสามมิติ จะช่วยให้ผู้ผลิตเห็นโครงร่างของลาย ผ้าที่ออกแบบไว้ ในลักษณะเสมือนจริง เป็น สามมิติ เพื่อให้เห็น จุดบกพร่องของการออกแบบนั้นๆ อย่างชัดเจน และสามารถแก้ไขได้ โดยสะดวก ก่อนนาเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายของ ผู้ประกอบการ และยังสนับสนุนการเชื่อมโยงวงจรการผลิตให้มี ศักยภาพในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมากขึ้น ในปัจจุบัน มีซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถใช้งานในการออกแบบลายผ้าได้ เช่น Photoshop หรือการจาลองสามมิติโดยโปรแกรมมายา (Maya) หรือ ทรีดีสตูดิโอแม๊กซ์ (3D Studio Max) รวมทั้ง อราห์วีฟ แคด แคม (Aearah Weave CAD CAM) ซึ่งเป็นโปรแกรมจาลอง ลายผ้าโดยเฉพาะ แต่โปรแกรมดังกล่าวอาจทาให้ผู้ผลิตต้องใช้ต้นทุน ทางด้านเวลาสูงยิ่งขึ้น เพื่อจัดการศึกษาและอบรบโปรแกรมหลาย โปรแกรมประกอบกัน รวมทั้งต้องอาศัยความชานาญมากกว่า เนื่องจาก ไม่มีเครื่องมือ ที่อานวยความสะดวก ในการออกแบบลายผ้าโดยเฉพาะ อีกทั้งมีปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ (license) ทาให้มีต้นทุนในการผลิต สูงขึ้น จะเห็นได้ว่า โปรแกรมออกแบบลายผ้าสามมิติ สามารถ แก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน และนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริม วงการอุตสาหกรรมแฟชันของประเทศไทยซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สาคัญ ของเมืองไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นอีกด้วย
  • 16. ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์” โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อ ความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมอง เพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะ และกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้ สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ