SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
Stock Trading Management
วัตถุประสงค์
เพื่อ “ซื้อ” แล้ว “ขาย” ได้ที่ราคาสูงกว่าเท่านั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงทุนแต่อย่างใด
สาหรับลูกค้าหรือนักลงทุนที่อยากจะเก็งกาไร แต่
สังเกตจากการกระทาแล้วสุ่มเสี่ยงที่จะเก็งกาไร
แบบหน้ามืด
การ
วางแผน
ทางหนีทีไล่
จิตวิทยา
จิตวิทยา
1. เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะไม่รู้ว่ามันถูกหรือแพงจนกว่าคุณจะขายมัน
 เมื่อคุณมองอดีตของราคาหุ้นแล้วคุณไปเสียแล้วว่า “มันแพง” โดย
ที่คุณเองก็ไม่รู้ว่า “แพงหรือถูก” ประเมินจากอะไร ก็ยังไปตีตรามัน
เพราะมันจะปิ ดกันโอกาสการเก็งกาไรของคุณ
2. คุณต้องมองไปข้างหน้าเท่านั้น
 เมื่อคิดจะเก็งกาไรต้องมองโอกาสที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ไม่มีเวลา
เสียใจหรือเสียดาย หรือบ่นอะไร เพราะคุณเลือกเองที่จะเก็งกาไร ไม่
มีใครเอาปื นมาจี้ หัวคุณให้เก็งกาไร
 คุณล้มแต่ ได้ต้องรีบลุก
จิตวิทยา
3. ใช้เครื่องมือให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะดึงศักยภาพในการตัดสินใจให้ดีที่สุด (Power
of the less)
 เครื่องมือที่น้อยลงทาให้คุณต้องดึงศักยภาพในการตัดสินใจของคุณออกมาให้
ได้มากที่สุด
 ในทางตรงข้ามเมื่อคุณมีตัวเลือกหรือตัวช่วยมากเกินไป คุณจะลังเลจนไม่กล้า
ตัดสินใจ
4. คุณควรคิดอยู่เสมอว่าคุณมีเงินจานวนจากัด
 หลังคนคิดเสมอว่า “ไม่เป็ นไร ติดหุ้น ชั้นมีเงินมาเติม” เมื่อพฤติกรรมแบบนี้
สะสมไปเรื่อยๆ ความสามารถในการตัดสินใจของคุณจะลดลง เพราะ คุณเอา
เงินมาจมกับการเก็งกาไรมากเกินไป
 หากจะเก็งกาไร แนะนา ประเภทบัญชี Cash Balance ดีที่สุด เพราะ
เสมือนคุณมีเงินจากัด คุณจะต้องตัดสินใจให้ดีที่สุดเท่าที่ความรู้คุณจะมี ณ
เวลานั้น
เมื่อคุณมีตัวช่วยน้อย คุณต้องตั้งใจกับมันมากขึ้น
จิตวิทยาทางกายภาพ
 อายุประมาณ 20-40 ปี  สั้นๆ ไม้อ่อนดัดง่าย
 เพราะสิ่งที่จาเป็ นต่อการเก็งกาไรคือ ต้องฝึกฝนและวางแผนอยู่เป็ นประจา ดังนั้น อายุ
ประมาณนี้ที่มีเป้ าหมายทางการเงินอย่างชัดเจน จะสร้างแรงจูงใจโดยอัติโนมัติที่จะปรับวิธี
คิดและวิธีการลงทุนหรือเก็งกาไร เพราะต้องการให้ตนเองมีความมั่งคั่งในชีวิตให้เร็วที่สุด
 มีเวลาที่จะศึกษาหาความรู้ และปรับแนวทางการเงินเก็งกาไรมากมาย
 อายุประมาณ 40 ปี ขึ้นไป  สั้นๆ ไม้แก่ดัดยาก
 มีครอบครัว มีลูก มีภาระ แล้วจะให้มาฝึกฝนเก็งกาไร หรือปรับเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน
หรือเก็งกาไร ทาได้ยาก เพราะ อายุมาถึงขนาดนี้ อุปสรรคที่สาคัญของคนช่วงอายุนี้ก็คือ
คุณมีประสบการณ์มาอยู่ก่อนแล้ว หากคุณจะปรับความคิดมันจึงใช้เวลามาก และคาถามก็
คือคุณมีเวลาให้ตลาดหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ก็ทางานกัน
 แรงจูงใจของคนวัยนี้มีน้อย เพราะ ส่วนใหญ่ประสบความสาเร็จในหน้าที่การงานมาแล้วมี
ความมั่งคั่งแล้ว จึงไม่มีความจาเป็ นต้องไปทุ่มเทกับการเก็งกาไร จึงออกมาในรูปแบบที่ว่า
“เอาเงินมาเล่นเอามันส์ หรือ ฝึกสมอง” ซึ่งท้ายที่สุด มันก็ไม่มันส์ ไม่สนุก เครียดด้วยซ้า
และคุณก็ต้องไปเรียนเทคนิค ไปเรียนอะไรเยอะแยะ ซึ่งมันไม่ใช่วัยของคุณ
 แค่คุณเอาเงินมาซื้อ AIS INTUCh แล้วถือไว้เฉยๆ คุณก็ได้รับปันผล 6-7% ต่อปี ก็พอแล้ว
แต่ก็อย่างว่า “มันไม่มีความสนุกในชีวิต” แต่ขอย้าว่า “ตลาดหุ้นมันไม่สนุกหรอกครับ”
การวางแผน
1. ศึกษาหุ้นเหมือนศึกษาคนต้องดูพฤติกรรมการเล่น ไม่ใช่
จินตนาการทางเทคนิค
 หลายครั้งที่นักลงทุนที่เรียนเทคนิคมา เอาทฤษฎีการวัด
ราคามาใช้กับหุ้นทุกๆประเภท ทาให้นักลงทุนหลงไปกับ
“เป้ าหมายราคา” มากกว่าจะดูพฤติกรรมของหุ้น
2. เปรียบเทียบ % ของความเป็ นไปได้ในการ rally
 การตั้งเป้ าหมายการเก็งกาไร
หุ้นเก็งกาไร มีพฤติกรรมที่ซ้าซาก ตัวอย่าง CIG ไล่ราคา 15 -
20% ก็จะหยุด พักฐานราคา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ technical
เลย และช่วงหลัง ไล่ราคาแรงๆ เพียง 3-4 วันก็ เลิกเล่น
เรียนเทคนิคกันมา ก็ลากเส้น แล้วมโนไปเองว่าราคาต้องไปตาม
ทฤษฎี ถ้าโลกใบนี้เป็ นไปตามทฤษฎีทั้งหมด นักศึกษา ป.ตรี คง
ประสบความสาเร็จกันทั้งโลกแล้วกระมัง
 เป้ าหมายการเก็งกาไรมีความสาคัญอย่าง
มาก เพราะเป็ นเหมือน stage ที่คุณต้อง
ผ่านไปทีละด่าน สิ่งที่คุณจะได้คือ การผ่านที
ละ stage ทาให้คุณแข็งแรงมากขึ้น
 คุณจะหวัง 100% เลยก็ได้นะ แต่เชื่อเถอะ
ว่า ยาก
 จึงมีสองประการคือ
1. หุ้นที่คุณเลือก คุณรู้ inside จริงๆ
2. หุ้นที่คุณซื้อไปแล้ว คุณไม่สนใจมัน ไม่ว่ามันจะ
เป็ นยังไงก็ตาม
แต่มีจุดอ่อนก็คือ แล้วคุณจะรู้ไหมว่าแต่ละวันตลาด
มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้น การตั้งเป้ าหมาย
การทากาไรไว้เป็ นเรื่องที่ดี
อย่าลืมว่า 10% ต่อการเก็งกาไร 1 ครั้ง มันได้มากกว่าฝาก
ธนาคาร ทั้งปี อย่าดูถูกตัวเลข 10% เพราะ Soros และ
Buffet มีผลตอบแทนเฉลี่ย 20-25% ต่อปี
การวางแผน
3. เลือกหุ้น 3-4 ตัว
 เป็ นหุ้นที่ได้รับความนิยม “ในขณะนั้น”
 หากกราฟหุ้นกับกราฟตลาดไปด้วยกัน ก็ OK!!!
 แล้วถ้าตัวหุ้นมีทิศทางกาไรที่ดีต่อเนื่อง ก็จะยิ่งดี
 หุ้นที่ไล่ราคา คุณต้องยอมรับว่า มัน discount
มูลค่าในอนาคตมาไว้ ณ ปัจจุบันหมดแล้ว
 เลือกมา 4 ตัว สมมติว่าได้ 4 ตัวนี้มา
 ทดลองสมมติฐานไปก่อน โดยมีหุ้น 70 เงินสด
30
 หุ้น 70% แบ่งเป็ น 35% 35% หรือ
แล้วแต่ความชอบ แหย่ซื้อ ไปบางส่วนก่อน แล้ว
รอติดตามผลงาน
 กรณีที่คุณทาการบ้านมาอย่างดีแล้ว โอกาสถูก
มันมีอยู่แล้ว
 ตัวไหนที่ใช่ ซื้อเพิ่ม ตัวไหนที่ไม่ใช่ หรือหลุด
เพราะอะไรก็ไม่รู้ ไม่จาเป็ นต้องไปซื้อเฉลี่ย เน้น
ตัวที่ rally ก่อน
 ตัวอย่าง ใน 4 ตัวนี้ PERM กับ LIT ก็มี
โอกาส ที่จะขยับราคาได้
 ตัวไหนที่ใช่ ก็ซื้อเพิ่ม และตั้งเป้ าหมายการทา
กาไรเอาไว้ ตามนิสัยของตัวหุ้นแต่ละตัว ดังนั้น
กว่าจะได้หุ้นมา ต้องอ่านข่าวสาร และ ติดตาม
พฤติกรรมราคา ไม่ใช่อยู่มาลากเส้น ลากกราฟ
แล้วเก็งกาไร แบบนั้นมันง่ายเกินไป
 ขนาดคุณเลือกที่จะคบใครสักคน คุณต้องศึกษา
หรือ แอบถามเพื่อนๆ ว่าในอดีตเค้าเป็ นยังไง
บ้าง ประสาอะไรกับตัวหุ้น
นากราฟหุ้นมาเทียบกับตลาด ไม่ว่าโปรแกรมอะไรก็ตาม คุณแยกหน้าจอก็ได้ แล้วกดกราฟทีละตัวเทียบกับตลาด ถ้าไปด้วยกัน ก็มี
โอกาสที่จะเก็งกาไรถูก เพราะ ตลาดขึ้นหุ้นท่านขึ้นก็ OK คุณลองดูหุ้น BMCL กับ VTE สิ พฤติกรรมมันแตกต่างกันโดย
สิ้นเชิงแม้ว่าจะเก็งกาไรแรงเหมือนกัน
การวางแผน
4. ต้องมีเงินสดเสมอ
 ที่แนะนา 70/30 เพราะ หากคุณกระจายตัวไปเรียบร้อยแล้ว 3-4 ตัว เต็ม 70%
แล้วมันมี 1 ใน 4 ตัวที่ แข็งแรงจริงๆ คุณก็พร้อมจะซื้อเพิ่มได้ทันที แล้วรอทากาไร
ตามแผนที่วางไว้ (จังหวะลากราคาคุณจะเห็น volume เพียบเลย)
 ในแต่ละวัน หุ้นที่จะเล่นกันแรงๆ มันมีไม่กี่ตัวหรอก คุณจะเห็น ticker มันทั้งวัน
 ส่วนตัวอื่นที่ไม่ลากราคา ก็รอต่อไป เพราะ เมื่อคุณทากาไรไป 1 ตัวแล้ว ตัวอื่นๆ
อาจจะลากราคาตามมาก็ได้ (กรณีที่คุณทาการบ้านมาอย่างดีแล้วระดับหนึ่ง โอกาส
ถูกก็จะมี แต่หุ้นอาจจะมาไม่พร้อมกัน)
 บางครั้ง คุณตามไม่ทัน ก็ไม่ต้องไปตามต่อ ซื้อหุ้นได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น อย่าลืม
target การทากาไรในภาพรวม และอย่าหลงไปกับการลากราคาเพราะทาให้เราโลภ
 ถ้าคุณมีความชานาญมากขึ้น คุณอาจจะขยับ จาก 10 เป็ น 15 เป็ น 20 ก็ได้ ตาม
ความสามารถ
 ต้องค่อยๆ ฝึกไป เรื่องแบบนี้มันสอนกันไม่ได้ สอนได้แค่แนวคิด
การวางแผน
5. คุณไม่ควรซื้อหุ้น ณ จุดต่าสุด เพราะ คุณไม่รู้ว่ามันต่าสุดแล้ว
หรือยัง
6. จะเลือกหุ้นที่พร้อมทา new high เพราะมีโอกาสไปต่อ
มากกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่ต้องมารอการฟื้ นตัว นี่เป็ น
เหตุผลว่าทาไมจึงไม่ซื้อหุ้น ณ จุดต่าสุด เพราะ หลังจากผ่าน
จุดต่าสุด ต้องใช้เวลาการฟื้ นตัว จะฟื้ นจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ตัว
ที่จะ new high มีความเป็ นไปได้มากกว่า
 จึงย้อนกลับไปที่ว่า อย่าไปตีตราว่าหุ้นมันแพง
 เพราะ ถ้าคุณมีเป้ าหมาย 10% คุณเล่นตัวไหนก็ได้ที่มัน
จะขึ้นไป 10% ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ
ถ้าคุณซื้อ AKR ที่คุณคิดว่าต่าสุด กว่ามันจะเริ่มฟื้ นตัว
และ rally มันต้องใช้เวลา ระหว่างที่คุณรอ หุ้นตัวอื่นที่
พร้อม new high อาจจะขยับตัวไปแล้วก็ได้ ดังนั้น
สาหรับการเก็งกาไร มันเสียเวลา นี่จึงเป็ นเหตุผลว่าทาไม
ต้องมี 3-4 ตัว
เรื่องนี้ ต้องใช้ เส้นค่าเฉลี่ยเป็ นตัวช่วย
เพราะ หลังจกาฟื้ นตัวมาแล้ว หุ้นต้องพักตัว
เสียก่อนแล้วไปต่อ
ทางหนีทีไล่
1. เมื่อถึงคราวที่ต้องขายหมดทุกตัว ควรดูภาพรวมพอร์ตว่า OK หรือไม่ หรือ
รักษาเงินต้นหรือไม่
 เมื่อถึงคราวที่เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ กับตลาด ต้องตัดสินใจขายในคราวเดียว
 แต่หลายครั้งที่นักลงทุน “ชั้นรอรีบาวด์ดีกว่า” หรือ “ค่อยขายตอนหลุดแนวรับ”
ดังนั้น คุณรักษาเงินต้น ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะอย่าลืมว่า คุณก็ประเมินไม่ได้
ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้คุณจะอิงจากทฤษฎีก็ตาม
 เมื่อคุณเริ่มทดลองสมมติฐานของคุณ โดยการซื้อไปบางส่วน แต่ทิศทางราคา
ผิดจากที่คาดไว้ คุณก็ stop loss ทันที เพราะเสียเงินน้อย คุณทาใจได้ง่าย
2. สภาพจิตใจที่เข้มแข็งสาคัญกว่ากาไรหรือขาดทุน
 บางครั้ง เราไม่มีกาไร แต่เงินต้นอยู่ครบถ้วน ก็ง่ายกว่าที่จะต้องไปเอาคืนเมื่อ
ขาดทุนไปจานวนมากๆ เพราะ % ในการเอาคืนก็ต้องมากขึ้นด้วย
 ในตลาดหุ้นมีพรุ่งนี้เสมอ วันนี้ไม่ได้เป็ นสุดท้ายในตลาดหุ้นซะหน่อย
สาระสาคัญของการเก็งกาไร
 อย่าเรียกกว่ากล้าได้ กล้าเสีย ขอใช้คาว่า กล้าตัดสินใจจะดีกว่า และ ต้อง
กล้าที่จะยอมรับความผิดจากการตัดสินใจของตนเอง
 มีหลายครั้งที่ นักลงทุนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวความผิดพลาด ก็
ควรต้องตั้งคาถามกับตัวเองว่า “ในชีวิตเรา เราตัดสินใจผิดพลาด
มาแล้วกี่ครั้ง” ก็คิดว่า นับไม่ถ้วน แล้วจะกลัวอะไรกับความผิดพลาด
ทุกคนผิดพลาดกันได้เสมอไม่ว่าจะเป็ นใคร เก่งแค่ไหนก็ตาม ทุกคน
เคยผิดพลาดมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ความผิดพลาดนั้นไม่ได้
นามาซึ่งความสูญเสียที่คอขาดบาดตายอะไร เราจึงไม่ได้สนใจมากนัก
ตัวอย่างเช่น คุณตัดสินใจว่าจะตื่นนอนหรือจะนอนต่อ ดังนั้น ใน 24
ชม. คุณตัดสินใจทุกวินาที ถูกไหม???
สาระสาคัญของการเก็งกาไร
 ความเสี่ยงที่คุณบอกว่า “รับได้” คุณรับได้จริงๆหรือ
ป่ าว???
เพราะ เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อจากการทางานอย่างหนัก
กว่าจะได้มาแต่ละบาทมันลาบาก แล้วเมื่อคุณเห็นเงินสูญ
หายอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วัน คุณรับได้จริงๆหรือ เพราะ
หลายครั้งที่นักเก็งกาไร(จาเป็ น) บอกว่ารับความเสี่ยงได้
สุดท้ายคนคนนั้นก็รับไม่ได้เลย
เมื่อคุณรับไม่ได้ คุณก็ทอดทิ้งพอร์ตการลงทุนโดยที่คุณไม่
คิดจะแก้ไขอะไรมันเลย ถ้าเป็ นแบบนี้คุณไม่มีสิทธิจะมา
บ่นว่า “เล่นหุ้นแล้วขาดทุน” เพราะคุณพลาดเอง และคุณ
คนก็เคยพลาดกันมาทั้งนั้น
จังหวะในการ rally
ตอนนี้ RSI รอ อยู่ระหว่าง
67%
แต่ลองกลับไปดูว่า จังหวะการ
overbought ของ AKR
มันกินเวลาประมาณกี่วัน นั่น
แหละคือ Rally Zone
ทฤษฎีสอนว่า RSI > 70
มัน overbought ใช่ไหม
แล้วไม่คิดบ้างหรอว่า หุ้นมัน
overbought กี่วัน
ดังนั้น จังหวะลากราคา ก็ต้อง
ใส่ volume มาเยอะๆ กราฟราคาหุ้น ตามตลาด และมีทิศทางกาไรที่ดี ที่ผ่านมา
โอเคว่าขึ้นมานานแล้ว แต่ ก็มีโอกาสไปต่อ เราจึงเพียง
ประเมินแค่ว่าเป็ นไปได้หรือไม่ที่ราคาจะ rally

More Related Content

Viewers also liked

Course Manual-2014-15-PGEP
Course Manual-2014-15-PGEPCourse Manual-2014-15-PGEP
Course Manual-2014-15-PGEPvarun jhanjee
 
Millionaire thailand คังเก้นไทย
Millionaire thailand คังเก้นไทยMillionaire thailand คังเก้นไทย
Millionaire thailand คังเก้นไทยRangsiman Thianhirun
 
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3topcat3708
 
Metastock formula primer
Metastock formula primerMetastock formula primer
Metastock formula primernsramm
 
โครงสร้างราคา
โครงสร้างราคาโครงสร้างราคา
โครงสร้างราคาtopcat3708
 
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้าย
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้ายตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้าย
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้ายex_aim
 
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50ex_aim
 
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่องตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่องex_aim
 
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2ex_aim
 
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไง
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไงหุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไง
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไงex_aim
 
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่งตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่งex_aim
 
TradeZilla - Trading system Design
TradeZilla - Trading system DesignTradeZilla - Trading system Design
TradeZilla - Trading system DesignMarketcalls
 
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen INTEGRATE 2016 - Joe Cohen
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen IMCWVU
 
障害発生時に抑えておきたい基礎知識
障害発生時に抑えておきたい基礎知識障害発生時に抑えておきたい基礎知識
障害発生時に抑えておきたい基礎知識Kei IWASAKI
 
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.7  myths about  weight loss tips that most people never knew.
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.Satyamrut Uttarkabat
 
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-finalifa2012_2
 
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.LWandWs
 
Econ drought conflict presentation
Econ drought conflict presentationEcon drought conflict presentation
Econ drought conflict presentationTim_Maher
 
Strategies to Fuel the Energy Workforce
Strategies to Fuel the Energy WorkforceStrategies to Fuel the Energy Workforce
Strategies to Fuel the Energy WorkforceEric Wilkinson
 

Viewers also liked (20)

Course Manual-2014-15-PGEP
Course Manual-2014-15-PGEPCourse Manual-2014-15-PGEP
Course Manual-2014-15-PGEP
 
Momentum
MomentumMomentum
Momentum
 
Millionaire thailand คังเก้นไทย
Millionaire thailand คังเก้นไทยMillionaire thailand คังเก้นไทย
Millionaire thailand คังเก้นไทย
 
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3
เล่นหุ้นตามระบบ กำไรตามระเบียบ3
 
Metastock formula primer
Metastock formula primerMetastock formula primer
Metastock formula primer
 
โครงสร้างราคา
โครงสร้างราคาโครงสร้างราคา
โครงสร้างราคา
 
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้าย
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้ายตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้าย
ตอนที่ 6 : เรื่องการบริหารจัดการดี + ส่งท้าย
 
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50
ตอนที่ 5: ตัวอย่างหุ้นใน SET 50
 
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่องตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง
ตอนที่3 : ตัวอย่างหุ้นที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง
 
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2
พื้นฐานดี...มีงบการเงินเป็นยังไง ตอนที่ 2
 
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไง
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไงหุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไง
หุ้นพื้นฐานดีมีงบการเงินเป็นยังไง
 
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่งตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ตอนที่ 4 : ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
 
TradeZilla - Trading system Design
TradeZilla - Trading system DesignTradeZilla - Trading system Design
TradeZilla - Trading system Design
 
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen INTEGRATE 2016 - Joe Cohen
INTEGRATE 2016 - Joe Cohen
 
障害発生時に抑えておきたい基礎知識
障害発生時に抑えておきたい基礎知識障害発生時に抑えておきたい基礎知識
障害発生時に抑えておきたい基礎知識
 
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.7  myths about  weight loss tips that most people never knew.
7  myths about  weight loss tips that most people never knew.
 
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final
2 carmel- assisted living - prague may 20 2012-final
 
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.
Визардфорум - сервис вебинаров и видеоконференций.
 
Econ drought conflict presentation
Econ drought conflict presentationEcon drought conflict presentation
Econ drought conflict presentation
 
Strategies to Fuel the Energy Workforce
Strategies to Fuel the Energy WorkforceStrategies to Fuel the Energy Workforce
Strategies to Fuel the Energy Workforce
 

More from Bhundit Vongumpaiprasert

More from Bhundit Vongumpaiprasert (10)

20151219
2015121920151219
20151219
 
The wisdom of finance 3rd - Moving average
The wisdom of finance 3rd - Moving averageThe wisdom of finance 3rd - Moving average
The wisdom of finance 3rd - Moving average
 
ให้ความเข้าใจต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ 20150821
ให้ความเข้าใจต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ 20150821ให้ความเข้าใจต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ 20150821
ให้ความเข้าใจต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ 20150821
 
The wisdom of finance 3rd - เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
The wisdom of finance 3rd - เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่The wisdom of finance 3rd - เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
The wisdom of finance 3rd - เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
 
The wisdom of finance by SICA 2nd - Price and volume
The wisdom of finance by SICA 2nd - Price and volumeThe wisdom of finance by SICA 2nd - Price and volume
The wisdom of finance by SICA 2nd - Price and volume
 
เก็งกำไร
เก็งกำไรเก็งกำไร
เก็งกำไร
 
Technical 20150228
Technical 20150228Technical 20150228
Technical 20150228
 
Technical part3
Technical part3Technical part3
Technical part3
 
Technical part2
Technical part2Technical part2
Technical part2
 
Technical part1
Technical part1Technical part1
Technical part1
 

การบริหารจัดการสำหรับนักเก็งกำไร

  • 2. วัตถุประสงค์ เพื่อ “ซื้อ” แล้ว “ขาย” ได้ที่ราคาสูงกว่าเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงทุนแต่อย่างใด สาหรับลูกค้าหรือนักลงทุนที่อยากจะเก็งกาไร แต่ สังเกตจากการกระทาแล้วสุ่มเสี่ยงที่จะเก็งกาไร แบบหน้ามืด
  • 4. จิตวิทยา 1. เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะไม่รู้ว่ามันถูกหรือแพงจนกว่าคุณจะขายมัน  เมื่อคุณมองอดีตของราคาหุ้นแล้วคุณไปเสียแล้วว่า “มันแพง” โดย ที่คุณเองก็ไม่รู้ว่า “แพงหรือถูก” ประเมินจากอะไร ก็ยังไปตีตรามัน เพราะมันจะปิ ดกันโอกาสการเก็งกาไรของคุณ 2. คุณต้องมองไปข้างหน้าเท่านั้น  เมื่อคิดจะเก็งกาไรต้องมองโอกาสที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ไม่มีเวลา เสียใจหรือเสียดาย หรือบ่นอะไร เพราะคุณเลือกเองที่จะเก็งกาไร ไม่ มีใครเอาปื นมาจี้ หัวคุณให้เก็งกาไร  คุณล้มแต่ ได้ต้องรีบลุก
  • 5. จิตวิทยา 3. ใช้เครื่องมือให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะดึงศักยภาพในการตัดสินใจให้ดีที่สุด (Power of the less)  เครื่องมือที่น้อยลงทาให้คุณต้องดึงศักยภาพในการตัดสินใจของคุณออกมาให้ ได้มากที่สุด  ในทางตรงข้ามเมื่อคุณมีตัวเลือกหรือตัวช่วยมากเกินไป คุณจะลังเลจนไม่กล้า ตัดสินใจ 4. คุณควรคิดอยู่เสมอว่าคุณมีเงินจานวนจากัด  หลังคนคิดเสมอว่า “ไม่เป็ นไร ติดหุ้น ชั้นมีเงินมาเติม” เมื่อพฤติกรรมแบบนี้ สะสมไปเรื่อยๆ ความสามารถในการตัดสินใจของคุณจะลดลง เพราะ คุณเอา เงินมาจมกับการเก็งกาไรมากเกินไป  หากจะเก็งกาไร แนะนา ประเภทบัญชี Cash Balance ดีที่สุด เพราะ เสมือนคุณมีเงินจากัด คุณจะต้องตัดสินใจให้ดีที่สุดเท่าที่ความรู้คุณจะมี ณ เวลานั้น
  • 7. จิตวิทยาทางกายภาพ  อายุประมาณ 20-40 ปี  สั้นๆ ไม้อ่อนดัดง่าย  เพราะสิ่งที่จาเป็ นต่อการเก็งกาไรคือ ต้องฝึกฝนและวางแผนอยู่เป็ นประจา ดังนั้น อายุ ประมาณนี้ที่มีเป้ าหมายทางการเงินอย่างชัดเจน จะสร้างแรงจูงใจโดยอัติโนมัติที่จะปรับวิธี คิดและวิธีการลงทุนหรือเก็งกาไร เพราะต้องการให้ตนเองมีความมั่งคั่งในชีวิตให้เร็วที่สุด  มีเวลาที่จะศึกษาหาความรู้ และปรับแนวทางการเงินเก็งกาไรมากมาย  อายุประมาณ 40 ปี ขึ้นไป  สั้นๆ ไม้แก่ดัดยาก  มีครอบครัว มีลูก มีภาระ แล้วจะให้มาฝึกฝนเก็งกาไร หรือปรับเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน หรือเก็งกาไร ทาได้ยาก เพราะ อายุมาถึงขนาดนี้ อุปสรรคที่สาคัญของคนช่วงอายุนี้ก็คือ คุณมีประสบการณ์มาอยู่ก่อนแล้ว หากคุณจะปรับความคิดมันจึงใช้เวลามาก และคาถามก็ คือคุณมีเวลาให้ตลาดหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ก็ทางานกัน  แรงจูงใจของคนวัยนี้มีน้อย เพราะ ส่วนใหญ่ประสบความสาเร็จในหน้าที่การงานมาแล้วมี ความมั่งคั่งแล้ว จึงไม่มีความจาเป็ นต้องไปทุ่มเทกับการเก็งกาไร จึงออกมาในรูปแบบที่ว่า “เอาเงินมาเล่นเอามันส์ หรือ ฝึกสมอง” ซึ่งท้ายที่สุด มันก็ไม่มันส์ ไม่สนุก เครียดด้วยซ้า และคุณก็ต้องไปเรียนเทคนิค ไปเรียนอะไรเยอะแยะ ซึ่งมันไม่ใช่วัยของคุณ  แค่คุณเอาเงินมาซื้อ AIS INTUCh แล้วถือไว้เฉยๆ คุณก็ได้รับปันผล 6-7% ต่อปี ก็พอแล้ว แต่ก็อย่างว่า “มันไม่มีความสนุกในชีวิต” แต่ขอย้าว่า “ตลาดหุ้นมันไม่สนุกหรอกครับ”
  • 8. การวางแผน 1. ศึกษาหุ้นเหมือนศึกษาคนต้องดูพฤติกรรมการเล่น ไม่ใช่ จินตนาการทางเทคนิค  หลายครั้งที่นักลงทุนที่เรียนเทคนิคมา เอาทฤษฎีการวัด ราคามาใช้กับหุ้นทุกๆประเภท ทาให้นักลงทุนหลงไปกับ “เป้ าหมายราคา” มากกว่าจะดูพฤติกรรมของหุ้น 2. เปรียบเทียบ % ของความเป็ นไปได้ในการ rally  การตั้งเป้ าหมายการเก็งกาไร
  • 9. หุ้นเก็งกาไร มีพฤติกรรมที่ซ้าซาก ตัวอย่าง CIG ไล่ราคา 15 - 20% ก็จะหยุด พักฐานราคา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ technical เลย และช่วงหลัง ไล่ราคาแรงๆ เพียง 3-4 วันก็ เลิกเล่น เรียนเทคนิคกันมา ก็ลากเส้น แล้วมโนไปเองว่าราคาต้องไปตาม ทฤษฎี ถ้าโลกใบนี้เป็ นไปตามทฤษฎีทั้งหมด นักศึกษา ป.ตรี คง ประสบความสาเร็จกันทั้งโลกแล้วกระมัง
  • 10.  เป้ าหมายการเก็งกาไรมีความสาคัญอย่าง มาก เพราะเป็ นเหมือน stage ที่คุณต้อง ผ่านไปทีละด่าน สิ่งที่คุณจะได้คือ การผ่านที ละ stage ทาให้คุณแข็งแรงมากขึ้น  คุณจะหวัง 100% เลยก็ได้นะ แต่เชื่อเถอะ ว่า ยาก  จึงมีสองประการคือ 1. หุ้นที่คุณเลือก คุณรู้ inside จริงๆ 2. หุ้นที่คุณซื้อไปแล้ว คุณไม่สนใจมัน ไม่ว่ามันจะ เป็ นยังไงก็ตาม แต่มีจุดอ่อนก็คือ แล้วคุณจะรู้ไหมว่าแต่ละวันตลาด มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้น การตั้งเป้ าหมาย การทากาไรไว้เป็ นเรื่องที่ดี อย่าลืมว่า 10% ต่อการเก็งกาไร 1 ครั้ง มันได้มากกว่าฝาก ธนาคาร ทั้งปี อย่าดูถูกตัวเลข 10% เพราะ Soros และ Buffet มีผลตอบแทนเฉลี่ย 20-25% ต่อปี
  • 11. การวางแผน 3. เลือกหุ้น 3-4 ตัว  เป็ นหุ้นที่ได้รับความนิยม “ในขณะนั้น”  หากกราฟหุ้นกับกราฟตลาดไปด้วยกัน ก็ OK!!!  แล้วถ้าตัวหุ้นมีทิศทางกาไรที่ดีต่อเนื่อง ก็จะยิ่งดี  หุ้นที่ไล่ราคา คุณต้องยอมรับว่า มัน discount มูลค่าในอนาคตมาไว้ ณ ปัจจุบันหมดแล้ว
  • 12.  เลือกมา 4 ตัว สมมติว่าได้ 4 ตัวนี้มา  ทดลองสมมติฐานไปก่อน โดยมีหุ้น 70 เงินสด 30  หุ้น 70% แบ่งเป็ น 35% 35% หรือ แล้วแต่ความชอบ แหย่ซื้อ ไปบางส่วนก่อน แล้ว รอติดตามผลงาน  กรณีที่คุณทาการบ้านมาอย่างดีแล้ว โอกาสถูก มันมีอยู่แล้ว  ตัวไหนที่ใช่ ซื้อเพิ่ม ตัวไหนที่ไม่ใช่ หรือหลุด เพราะอะไรก็ไม่รู้ ไม่จาเป็ นต้องไปซื้อเฉลี่ย เน้น ตัวที่ rally ก่อน  ตัวอย่าง ใน 4 ตัวนี้ PERM กับ LIT ก็มี โอกาส ที่จะขยับราคาได้  ตัวไหนที่ใช่ ก็ซื้อเพิ่ม และตั้งเป้ าหมายการทา กาไรเอาไว้ ตามนิสัยของตัวหุ้นแต่ละตัว ดังนั้น กว่าจะได้หุ้นมา ต้องอ่านข่าวสาร และ ติดตาม พฤติกรรมราคา ไม่ใช่อยู่มาลากเส้น ลากกราฟ แล้วเก็งกาไร แบบนั้นมันง่ายเกินไป  ขนาดคุณเลือกที่จะคบใครสักคน คุณต้องศึกษา หรือ แอบถามเพื่อนๆ ว่าในอดีตเค้าเป็ นยังไง บ้าง ประสาอะไรกับตัวหุ้น
  • 13. นากราฟหุ้นมาเทียบกับตลาด ไม่ว่าโปรแกรมอะไรก็ตาม คุณแยกหน้าจอก็ได้ แล้วกดกราฟทีละตัวเทียบกับตลาด ถ้าไปด้วยกัน ก็มี โอกาสที่จะเก็งกาไรถูก เพราะ ตลาดขึ้นหุ้นท่านขึ้นก็ OK คุณลองดูหุ้น BMCL กับ VTE สิ พฤติกรรมมันแตกต่างกันโดย สิ้นเชิงแม้ว่าจะเก็งกาไรแรงเหมือนกัน
  • 14. การวางแผน 4. ต้องมีเงินสดเสมอ  ที่แนะนา 70/30 เพราะ หากคุณกระจายตัวไปเรียบร้อยแล้ว 3-4 ตัว เต็ม 70% แล้วมันมี 1 ใน 4 ตัวที่ แข็งแรงจริงๆ คุณก็พร้อมจะซื้อเพิ่มได้ทันที แล้วรอทากาไร ตามแผนที่วางไว้ (จังหวะลากราคาคุณจะเห็น volume เพียบเลย)  ในแต่ละวัน หุ้นที่จะเล่นกันแรงๆ มันมีไม่กี่ตัวหรอก คุณจะเห็น ticker มันทั้งวัน  ส่วนตัวอื่นที่ไม่ลากราคา ก็รอต่อไป เพราะ เมื่อคุณทากาไรไป 1 ตัวแล้ว ตัวอื่นๆ อาจจะลากราคาตามมาก็ได้ (กรณีที่คุณทาการบ้านมาอย่างดีแล้วระดับหนึ่ง โอกาส ถูกก็จะมี แต่หุ้นอาจจะมาไม่พร้อมกัน)  บางครั้ง คุณตามไม่ทัน ก็ไม่ต้องไปตามต่อ ซื้อหุ้นได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น อย่าลืม target การทากาไรในภาพรวม และอย่าหลงไปกับการลากราคาเพราะทาให้เราโลภ  ถ้าคุณมีความชานาญมากขึ้น คุณอาจจะขยับ จาก 10 เป็ น 15 เป็ น 20 ก็ได้ ตาม ความสามารถ  ต้องค่อยๆ ฝึกไป เรื่องแบบนี้มันสอนกันไม่ได้ สอนได้แค่แนวคิด
  • 15. การวางแผน 5. คุณไม่ควรซื้อหุ้น ณ จุดต่าสุด เพราะ คุณไม่รู้ว่ามันต่าสุดแล้ว หรือยัง 6. จะเลือกหุ้นที่พร้อมทา new high เพราะมีโอกาสไปต่อ มากกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่ต้องมารอการฟื้ นตัว นี่เป็ น เหตุผลว่าทาไมจึงไม่ซื้อหุ้น ณ จุดต่าสุด เพราะ หลังจากผ่าน จุดต่าสุด ต้องใช้เวลาการฟื้ นตัว จะฟื้ นจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ตัว ที่จะ new high มีความเป็ นไปได้มากกว่า  จึงย้อนกลับไปที่ว่า อย่าไปตีตราว่าหุ้นมันแพง  เพราะ ถ้าคุณมีเป้ าหมาย 10% คุณเล่นตัวไหนก็ได้ที่มัน จะขึ้นไป 10% ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ
  • 16. ถ้าคุณซื้อ AKR ที่คุณคิดว่าต่าสุด กว่ามันจะเริ่มฟื้ นตัว และ rally มันต้องใช้เวลา ระหว่างที่คุณรอ หุ้นตัวอื่นที่ พร้อม new high อาจจะขยับตัวไปแล้วก็ได้ ดังนั้น สาหรับการเก็งกาไร มันเสียเวลา นี่จึงเป็ นเหตุผลว่าทาไม ต้องมี 3-4 ตัว เรื่องนี้ ต้องใช้ เส้นค่าเฉลี่ยเป็ นตัวช่วย เพราะ หลังจกาฟื้ นตัวมาแล้ว หุ้นต้องพักตัว เสียก่อนแล้วไปต่อ
  • 17. ทางหนีทีไล่ 1. เมื่อถึงคราวที่ต้องขายหมดทุกตัว ควรดูภาพรวมพอร์ตว่า OK หรือไม่ หรือ รักษาเงินต้นหรือไม่  เมื่อถึงคราวที่เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ กับตลาด ต้องตัดสินใจขายในคราวเดียว  แต่หลายครั้งที่นักลงทุน “ชั้นรอรีบาวด์ดีกว่า” หรือ “ค่อยขายตอนหลุดแนวรับ” ดังนั้น คุณรักษาเงินต้น ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะอย่าลืมว่า คุณก็ประเมินไม่ได้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้คุณจะอิงจากทฤษฎีก็ตาม  เมื่อคุณเริ่มทดลองสมมติฐานของคุณ โดยการซื้อไปบางส่วน แต่ทิศทางราคา ผิดจากที่คาดไว้ คุณก็ stop loss ทันที เพราะเสียเงินน้อย คุณทาใจได้ง่าย 2. สภาพจิตใจที่เข้มแข็งสาคัญกว่ากาไรหรือขาดทุน  บางครั้ง เราไม่มีกาไร แต่เงินต้นอยู่ครบถ้วน ก็ง่ายกว่าที่จะต้องไปเอาคืนเมื่อ ขาดทุนไปจานวนมากๆ เพราะ % ในการเอาคืนก็ต้องมากขึ้นด้วย  ในตลาดหุ้นมีพรุ่งนี้เสมอ วันนี้ไม่ได้เป็ นสุดท้ายในตลาดหุ้นซะหน่อย
  • 18. สาระสาคัญของการเก็งกาไร  อย่าเรียกกว่ากล้าได้ กล้าเสีย ขอใช้คาว่า กล้าตัดสินใจจะดีกว่า และ ต้อง กล้าที่จะยอมรับความผิดจากการตัดสินใจของตนเอง  มีหลายครั้งที่ นักลงทุนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวความผิดพลาด ก็ ควรต้องตั้งคาถามกับตัวเองว่า “ในชีวิตเรา เราตัดสินใจผิดพลาด มาแล้วกี่ครั้ง” ก็คิดว่า นับไม่ถ้วน แล้วจะกลัวอะไรกับความผิดพลาด ทุกคนผิดพลาดกันได้เสมอไม่ว่าจะเป็ นใคร เก่งแค่ไหนก็ตาม ทุกคน เคยผิดพลาดมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ความผิดพลาดนั้นไม่ได้ นามาซึ่งความสูญเสียที่คอขาดบาดตายอะไร เราจึงไม่ได้สนใจมากนัก ตัวอย่างเช่น คุณตัดสินใจว่าจะตื่นนอนหรือจะนอนต่อ ดังนั้น ใน 24 ชม. คุณตัดสินใจทุกวินาที ถูกไหม???
  • 19. สาระสาคัญของการเก็งกาไร  ความเสี่ยงที่คุณบอกว่า “รับได้” คุณรับได้จริงๆหรือ ป่ าว??? เพราะ เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อจากการทางานอย่างหนัก กว่าจะได้มาแต่ละบาทมันลาบาก แล้วเมื่อคุณเห็นเงินสูญ หายอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วัน คุณรับได้จริงๆหรือ เพราะ หลายครั้งที่นักเก็งกาไร(จาเป็ น) บอกว่ารับความเสี่ยงได้ สุดท้ายคนคนนั้นก็รับไม่ได้เลย เมื่อคุณรับไม่ได้ คุณก็ทอดทิ้งพอร์ตการลงทุนโดยที่คุณไม่ คิดจะแก้ไขอะไรมันเลย ถ้าเป็ นแบบนี้คุณไม่มีสิทธิจะมา บ่นว่า “เล่นหุ้นแล้วขาดทุน” เพราะคุณพลาดเอง และคุณ คนก็เคยพลาดกันมาทั้งนั้น
  • 20. จังหวะในการ rally ตอนนี้ RSI รอ อยู่ระหว่าง 67% แต่ลองกลับไปดูว่า จังหวะการ overbought ของ AKR มันกินเวลาประมาณกี่วัน นั่น แหละคือ Rally Zone ทฤษฎีสอนว่า RSI > 70 มัน overbought ใช่ไหม แล้วไม่คิดบ้างหรอว่า หุ้นมัน overbought กี่วัน ดังนั้น จังหวะลากราคา ก็ต้อง ใส่ volume มาเยอะๆ กราฟราคาหุ้น ตามตลาด และมีทิศทางกาไรที่ดี ที่ผ่านมา โอเคว่าขึ้นมานานแล้ว แต่ ก็มีโอกาสไปต่อ เราจึงเพียง ประเมินแค่ว่าเป็ นไปได้หรือไม่ที่ราคาจะ rally