SlideShare a Scribd company logo
1 of 39
Download to read offline
โครงงาน
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่น (Traveling in KhonKaen)
คณะผู้จัดทา
นางสาวกนกพร ประทุมทิพย์ รหัสประจาตัว 583080050-1
นางสาวสุดาเจริญ บุญรุ่งเรืองภากร รหัสประจาตัว 583080077-1
นางสาวฉัตปีญาพักช์ ฤกษ์อภิสิทธิ์ รหัสประจาตัว 583080760-0
นางสาวพาณีพร เสียงสนั่น รหัสประจาตัว 583080770-7
นางสาวพรญาณี ชาญประเสริฐ รหัสประจาตัว 583080768-4
เสนอ
อาจารย์ศตพล ยศกรกุล
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ (WEB TECHNOLOGY)
สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ก
หัวข้อโครงงาน : การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่อง : สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น (Traveling in KhonKaen)
ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ผู้เสนอโครงงาน : คณะผู้จัดทา
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ศตพล ยศกรกุล
บทคัดย่อ
โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใน
จังหวัดขอนแก่นนี้ จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นให้
เกิดความสนใจต่อจังหวัดขอนแก่น และยังเป็นแหล่งค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับการนาเที่ยวต่างๆด้วยการ
สืบค้นจากเว็บบล็อก wordpress เป็นแหล่งเรียนรู้สมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย และได้นาความรู้ใน
การศึกษาพัฒนาเว็บบล็อกด้วย wordpress สร้างเว็บบล็อกที่มีชื่อว่า http://localhost/wp_travel/. เพื่อ
สร้างความสนใจให้กับกลุ่มเปูาหมายที่ต้องการศึกษารายละเอียดการเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์มากมายในการพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสต่อไป
ข
คานา
โครงงานเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น หัวข้อโครงงานการพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ด
เพรสฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ (Web Technology) สาขาวิชาสารสนเทศ
ศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีวัตถุประสงค์จัดทารายงานนี้ขึ้นเพื่อรู้
และเข้าใจถึงเนื้อหาและเข้าใจถึงหลักการในการค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และเพื่อพัฒนาเว็บบล็อก
เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นให้เกิดความสนใจต่อจังหวัดขอนแก่น และยังเป็นแหล่งค้นหา
รายละเอียดเกี่ยวกับการนาเที่ยวเดียวต่างๆด้วยการสืบค้นจากเว็บบล็อก Wordpress เป็นแหล่งเรียนรู้
สมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย และได้นาความรู้ในการศึกษาพัฒนาเว็บบล็อกด้วย Wordpress สร้าง
เว็บบล็อกที่มีชื่อว่า http://localhost/wp_travel/. เพื่อสร้างความสนใจให้กับกลุ่มเปูาหมายที่ต้องการศึกษา
รายละเอียดการเที่ยวจังหวัดขอนแก่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์มากมายให้การพัฒนา
เว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสต่อไป
คณะผู้จัดทา
ค
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ก
คานา ข
สารบัญ ค
บทที่ 1 บทนา 1
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ 2
วัตถุประสงค์ 2
ขอบเขตของโครงงาน 2
ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3
ที่มาและความสาคัญ 3
ข้อมูลเกี่ยวกับการทาเว็บบล็อก 4 - 12
ขั้นตอนการจัดระบบโครงสร้างข้อมูล (Information Architecture) 12 - 17
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน 18
การวางแผนการพัฒนาเว็บบล็อก 18 - 20
การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ 20
การออกแบบเว็บบล็อกโดยใช้ WordPress 20
การพัฒนาเว็บบล็อกโดยใช้ WordPress 20
การเผยแพร่เว็บบล็อก 20
การประเมินผลเว็บบล็อก 21
ง
บทที่ 4 ผลการดาเนินงานโครงงาน 22
ผลของการพัฒนาเว็บบล็อก 22
ผลของการพัฒนาเว็บบล็อก 22
ตัวอย่างการนาเสนอเว็บบล็อก 22 - 27
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ 28
การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 28
สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 28
ข้อเสนอแนะ 28 - 29
บรรณานุกรม 30
ภาคผนวก 31 - 34
1
บทที่ 1
บทนา
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
แนวคิดด้านการท่องเที่ยว
นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism)โดยสรุปว่าหมายถึงการเดินทางออกจากที่พัก
เป็นการชั่วคราวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเยี่ยมญาติหรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ใช่เพื่อการประกอบอาชีพหรือหารายได้เพื่อให้เกิด
ความสนุกสนานเพลิดเพลินและผ่อนคลายความเครียดในยามว่างหรือเมื่อเวลาที่ต้องการจะพักผ่อนซึ่งอาจเป็นการท่องเที่ยวที่
ให้ความรู้และประสบการณ์จากการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย(ไพฑูรย์และวิลาสวงศ์พงศะบุตร, 2536 ;นิคมจารุมณี, 2536 ; ส่ง
ศรีวงษ์เวช, 2545 ; ภูสวัสดิ์สุขเสียง, 2545)
ปัจจุบันถือได้ว่าการท่องเที่ยวมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับประเทศที่ไม่มีอุตสาหกรรม
หนักเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นประกอบด้วยธุรกิจโดยตรงและธุรกิจทางอ้อมหรือการสนับสนุนการบริการ
นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแก่ชาวต่างชาติถือได้ว่าเป็นสินค้าออกที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้(Invisible Export)เป็นการ
ซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยการขายสินค้าคือบริการต่างๆซึ่งผลประโยชน์จะตกอยู่ในประเทศเพราะก่อให้เกิดอาชีพหลาย
แขนงนอกจากนี้การท่องเที่ยวยังเป็นการพักผ่อนคลายความตึงเครียดและได้รับความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมและยังเป็นการนา
ทรัพยากรของประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางโดยความสาคัญของการท่องเที่ยว(เสรีวังส์ไพจิตร, 2534อ้างถึงใน
สุพัตรา วิชัยประเสริฐกุล, 2545)
ความสาคัญของการท่องเที่ยว
1. สร้างรายได้เงินตราเข้าประเทศ เป็นจานวนมาก
2. การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการหมุนเวียนและกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น
3. การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการนาเอาทรัพยากรมาใช้อย่างคุ้มค่า
4. การท่องเที่ยวช่วยลดปัญหาการว่างงาน
5. ทาให้เกิดความสัมพันธ์อันดีงามของมวลมนุษยชาติ
6. มีส่วนในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม
7. มีส่วนช่วยในการลดปัญหาสังคม เนื่องจากคนมีรายได้จากการทางาน
8. ช่วยฟื้นฟู อนุรักษ์วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม สร้างความภูมิใจของศิลปวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม
9. ทาให้คนในสังคมรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่นนาผลิตผลในท้องถิ่นมาขายเป็นสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก
10. ส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัย และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ
2
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาและเรียนรู้วิธีการทาและพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสอย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อศึกษาและเรียนรู้การใช้เวิร์ดเพรสในรูปแบบต่างๆ
3. เพื่อพัฒนาเว็บบล็อกเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดในขอนแก่นด้วยเวิร์ดเพรสให้น่าสนใจและดึงดูดได้
4. เพื่อนาความรู้หลังจากพัฒนาเว็บบล็อกนี้ไปต่อยอดความคิดในการพัฒนาเว็บและประยุกต์ใช้เวิร์ดเพรสได้ดียิ่งขึ้น
ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทาโครงงานการพัฒนาเว็บบล็อกด้วย Wordpress เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่น
2. อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
2.1 คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ
2.2 สัญญาณอินเทอร์เน็ต
2.3 โปรแกรม host ที่ใช้ในการติดตั้ง คือ XAMPP
2.4 เว็บที่ใช้บริการในการทาบล็อก www.wordpress.org
2.5 เว็บที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าข้อมูล www.google.com, www.wikipedia.co.th
2.6 โปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อภาพและสร้างสรรค์ผลงาน คือ Photoshop cs5
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้เรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกด้วยบริการของเวิร์ดเพรสและสามารถทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สามารถนาความรู้ที่ได้ศึกษาไปพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่นได้
3. สามารถนาความรู้ทั้งหมดไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเว็บบล็อกอื่นๆได้ต่อไป
4. สามารถสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้รูปแบบต่างๆในเวิร์ดเพรสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.1 ที่มาและความสาคัญ
ความสาคัญของการท่องเที่ยว
ความหมายและความสาคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
คาว่า “อุตสาหกรรม” ตามพจนานุกรม คือ “การกระทาสิ่งใด ๆ เพื่อให้เป็นสินค้า” แต่ปัจจุบันมีความหมาย
มากกว่านั้น คือ ” กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างมีระบบการพาณิชย์ หรือการผลิตสาขาใดสาขาหนึ่ง”
การท่องเที่ยว ก็คือ การดาเนินกิจกรรมบริการด้านการนาเที่ยว เช่น บริการด้านการเดินทาง บริการด้านอาหาร
และการพักแรม และบริการด้านการนาเที่ยว ซึ่งดาเนินการโดยหวังผลกาไร ที่ต้องอาศัยแรงงานและการลงทุนสูง โดยใช้
เทคนิควิชาการเฉพาะ มีการวางแผน การจัดองค์การ และการตลาด ครอบคลุมธุรกิจหลายประเภท ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการ
ท่องเที่ยวโดยตรงและโดยอ้อม
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Industry) ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจหลายประเภท ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรง และ
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทางอ้อม หรือธุรกิจสนับสนุนต่าง ๆ การซื้อบริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็น การส่ง
สินค้าออกที่มองไม่เห็นด้วยสายตา (Invisible Export) เพราะเป็นการซื้อด้วยเงินตราต่างประเทศ การผลิต สินค้า คือ บริการ
ต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวซื้อก็จะต้องมีการลงทุน ซึ่งผล ประโยชน์จะตกอยู่ในประเทศและจะช่วยให้เกิด งานอาชีพอีกหลายแขนง
เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ทางด้านสังคมการท่องเที่ยวเป็นการพักผ่อนคลาย ความตึงเครียด พร้อม กับการ
ได้รับความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่ผิดแผกแตกต่างออกไปอีกครั้ง อุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเป็นแหล่งที่มาของรายได้ในรูป
เงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับดุลการชาระเงินได้ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การท่องเที่ยวยังมี
บาทบาทช่วยกระตุ้นให้มีการนาเอาทรัพยากรของประเทศมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ที่ผู้อยู่ในท้องถิ่นได้เก็บมาประดิษฐ์
เป็นหัตถกรรมพื้นบ้าน ขายเป็นของที่ระลึกสาหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสรุปได้ว่าบทบาทและความสาคัญของอุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีดังต่อไปนี้ (ฉันทัช วรรณถนอม, 2552)
ด้านเศรษฐกิจ
ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสาคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นมาอย่างมากเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่
ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม บทบาทที่เด่นชัดบทบาทหนึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่าน
มาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็คือ บทบาทด้านเศรษฐกิจซึ่งอาจกล่าวได้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทา
รายได้ที่สาคัญให้ประเทศเป็นลาดับต้น โดยเฉพาะการนาเงินตราต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิของประเทศ
4
ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ปกติรูปแบบวิถีชีวิตของคนในสังคมในทุกๆ สังคม จะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับ
ปัจจัยจากทั้งภายนอกละภายในมาเป็นตัวกระตุ้น จะพัฒนาไปในทางที่ดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งสองนั้นตลอดจนสภาพ
สังคมนั้นประกอบด้วย เช่นเดียวกับการที่หากสังคมใดต้องการเปลี่ยนตัวเองจากสังคมเดิมตามปกติมาเป็นสังคมที่เปิดกว้าง
พร้อมรับการเข้ามาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สังคมนั้นก็จะยิ่งมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นหลายเท่าตัว
เนื่องจากการท่องเที่ยวต้องเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจหลายฝุาย ต้องเกี่ยวข้องกับคนหลายคน ต้องเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมความ
ต้องการของคนที่หลากหลาย
ผลของการท่องเที่ยวอาจไม่ได้ส่งผลต่อการทาให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด แต่อาจ
ค่อยๆ ซึมซับอย่างช้าๆ ธุรกิจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคต่างๆที่มีความล่อแหลมต่อความรับผิดชอบใน
วัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ จึงควรตระหนัก หมั่นสังเกตติดตาม พัฒนานาวัฒนธรรมในสิ่งที่ดี และวัฒนธรรมภายนอกที่
แตกต่างจากของตนมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแต่ต้องไม่ลืมคุณค่าวัฒนธรรมเดิมของตนด้วย
ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การท่องเที่ยวก่อให้เกิดประโยชน์ในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ เมื่อมีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น ย่อมทาให้ชุมชน
ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรการท่องเที่ยว เป็นเหตุให้มีการมีการช่วยกันรักษาสภาพภูมิ
ทัศน์ของสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น และสามารถอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวมา
สนับสนุนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ อันเป็นการนาทรัพยากรการท่องเที่ยวมาใช้ให้เกิดประโยชน์
อย่างคุ้มค่า (ฉันทัช วรรณถนอม, 2552)
ข้อมูลที่สาคัญของการท่องเที่ยว
ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism)
ในปี พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) องค์การสหประชาชาติได้จัดประชุมว่าด้วยการเดินทางและท่องเที่ยวระหว่าง
ประเทศขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี และได้ให้คาจากัดความของคาว่า “การท่องเที่ยว” ไว้ว่า “การเดินทางเพื่อความ
บันเทิงรื่นเริงใจ เยี่ยมญาติ หรือการไปร่วมประชุมแต่มิใช่เพื่อการประกอบอาชีพเป็นหลักฐานหรือไม่พานักอยู่เป็นการถาวร”
องค์การท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization : W.T.O) ได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยวดังนี้
“Tourism comprises the activities of the person traveling to and staying in places outside their usual
environment for not more than one consecutive year for leisure, business and other purpose.” จาก
ความหมายนี้สรุปได้ว่า การท่องเที่ยว หมายถึง การเดินทางของบุคคลจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นเป็นการชั่วคราว (ไม่
มากกว่า 1 ปี ติดต่อกัน) เดินทางด้วยความสมัครใจเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ติดต่อธุระและวัตถุประสงค์ใดๆก็ได้ แต่ไม่ใช่เพื่อ
การประกอบอาชีพ หรือหารายได้
5
สานักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (2546) การท่องเที่ยว หมายถึง การเดินทางเพื่อผ่อนคลายความเครียด แสวงหา
ประสบการณ์แปลกใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่า การเดินทางนั้น เป็นการเดินทางเพียงชั่วคราว ผู้เดินทางจะต้องไม่ถูกบังคับให้
เดินทาง
ไพฑูรย์ พงศะบุตร และวิลาสวงศ์ พงศะบุตร (2542) ได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism) หมายถึง การ
เดินทางไปเยือนสถานที่ต่างถิ่นซึ่งไม่ใช่เป็นที่พานักอาศัยประจาของบุคคลนั้น และเป็นการไปเยือนชั่วคราวโดยไม่ใช่เพื่อเป็น
การประกอบอาชีพหารายได้
จากคานิยามและความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism) ผู้เขียนหลายท่านได้ให้ความหมายไว้ข้างต้นสรุปได้ดังนี้
“การท่องเที่ยว” (Tourism) หมายถึง การเดินทางของมนุษย์จากสถานที่ใดสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง หรือการเดินทาง
จากถิ่นพานักที่อาศัยไปยังสถานที่อื่นเป็นการชั่วคราวด้วยความสมัครใจไป และเป็นการเดินทางด้วยเหตุผลของการท่องเที่ยว
มิใช่เพื่อการประกอบอาชีพ หรือหารายได้ เช่น การเดินทางเพื่อการพักผ่อน การเดินทางเพื่อไปชมการแข่งขันกีฬา (อาทิ การ
แข่งขันกีฬา ซีเกมส์ โอลิมปิก เป็นต้น) การเดินทางเพื่อการศึกษา การเดินทางเพื่อประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเยี่ยม
เยือนญาติพี่น้อง หรือเพื่อน การเดินทางเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เป็นต้น
จังหวัดขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีประชากรมาก
เป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
เมืองขอนแก่นตั้งอยู่ในจุดที่ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ถนนสาย
เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก) ตัดผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางสาคัญในการเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางเข้าไปสู่
ภาคเหนือตอนล่างที่อาเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และเดินทางเข้าสู่ประเทศลาวทางด้านทิศใต้ของลาว อาณาเขตทางทิศ
เหนือติดกับจังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลาภู และจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์
ทิศใต้ติดกับจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดนครราชสีมา ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์
สัญลักษณ์ประจาจังหวัด
คาขวัญประจาจังหวัด : พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่
ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเท่เหรียญทองแรกมวยโอลิมปิก
ตราประจาจังหวัด : รูปพระธาตุตั้งอยู่บนตอมะขาม ขนาบสองข้างด้วยต้นไม้
ต้นไม้ประจาจังหวัด : ต้นกัลปพฤกษ์ (Cassia bakeriana)
ดอกไม้ประจาจังหวัด : ดอกราชพฤกษ์หรือดอกคูน (Cassia fistula)
6
สัตว์น้าประจาจังหวัด : ปลาพรมหรือปลาตาแดง (Osteochilus melanopleurus)
วิสัยทัศน์จังหวัด : ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่มหานครแห่งอาเซียน
ลักษณะรูปร่างของจังหวัด : ลักษณะรูปร่างของจังหวัดขอนแก่นมีรูปร่างคล้ายกับไม้ตะขอที่ใช้คล้องช้าง
ประวัติศาสตร์
แม้ขอนแก่นจะเป็นบ้านเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีมานี้ก็ตาม แต่ในอดีตกาลยุคก่อนประวัติศาสตร์ ใน
บริเวณเขตจังหวัดขอนแก่นเคยมีชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ได้เข้ามาอาศัยก่อนแล้ว เช่น การค้นพบแหล่งโบราณคดีที่บ้านโนน
นกทา อาเภอภูเวียง พบว่ามีเครี่องปั้นดินเผาที่มีอายุยาวนาน ต่อมาชุมชนเหล่านี้กลายเป็นเมืองขึ้นในสมัยทวารวดี ก่อนที่ขอม
จะมามีอานาจในดินแดนส่วนนี้ เช่น พบแหล่งโบราณคดีที่วัดศรีเมืองแอม อาเภอเขาสวนกวาง ซึ่งปรากฏจารึกศรีเมืองแอมที่
ขอมได้เข้ามามีอานาจในดินแดนส่วนนี้หรือที่ปรากฏเป็นปรางค์กู่ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น
ประวัติศาสตร์ พื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจายกันตามพื้นที่ราบสูง ในปี พ.ศ. 2322 ขณะนั้นเมือง
เวียงจันทน์ได้เกิดเหตุพิพาทกับกลุ่มของเจ้าพระวอจนถึงกับยกทัพไปตีค่ายของเจ้าพระวอแตกที่บ้านดอนมดแดง (อุบลราชธานี
ปัจจุบัน) และจับเจ้าพระวอประหารชีวิต สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถือว่าฝุายเจ้าพระวอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทยจึง
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพขึ้นไปตีเวียงจันทน์ จากนั้นจึงได้ยกทัพ
กลับมายังกรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธปฏิมากร และพระบางกลับมาถวายแต่สมเด็จพระเจ้า
กรุงธนบุรีด้วย
เจ้าแก้วบุฮม (แก้วบรม) กับพระยาเมืองแพน (หรือเพี้ยเมืองแพน) สองพี่น้อง ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าแสนปัจจุทุม (ท้าว
แสนแก้วบุฮม) ได้ยกกองทัพจากบ้านเพี้ยปูุ เขตแขวงเมืองทุละคม (ธุระคม) ซึ่งขึ้นกับเมืองเวียงจันทน์ในทุกวันนี้ ข้ามแม่น้าโขง
มาตั้งถิ่นฐานที่อยู่บ้านโพธิ์ตาก (บ้านโพธิ์ตาก ตาบลบ้านกง อาเภอเมืองขอนแก่น) และบ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (บ้านโพธิ์ศรี
ตาบลบ้านโนน อาเภอกระนวน) บ้านโพธิ์ชัย (บ้านโพธิ์ชัย อาเภอมัญจาคีรี) เมืองมัญจาคีรีหรืออาเภอมัญจาคีรี ปรากฏอยู่ใน
ทาเนียบมณฑลอุดร กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองขึ้นชื่อเมือง
มัญจาคีรี โดยมีจางวางเอกพระยาพฤติคุณธนเชษ (สน สนธิสัมพันธ์) เป็นเจ้าเมืองคนแรกเมื่อ พ.ศ. 2433-2439 เจ้าเมืองคนที่
2 คือ พระเกษตรวัฒนา (โส สนธิสัมพันธ์) เมื่อ พ.ศ. 2439-2443 และมีปรากฏประวัติเมืองมัญจาคีรีในหนังสือประวัติจังหวัด
ในประเทศไทย ในห้องสมุดของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) บ้านสร้าง บ้านชีโหล่น (อยู่ในเขตเมืองสุวรรณภูมิ
อาเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดปัจจุบัน)
ในปัจจุบัน บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอเมืองขอนแก่น บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอน้าพอง บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอ
อาจสามารถ (จังหวัดร้อยเอ็ด) บางบ้านก็อยู่ในเขตจังหวัดยโสธร บางบ้านก็อยู่ที่อาเภอมัญจาคีรี และบางบ้านก็อยู่ที่อาเภอคา
เขื่อนแก้ว (จังหวัดยโสธร) เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองในสมัยหลัง ๆ ต่อมานั่นเอง
เจ้าแก้วบุฮมได้อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ชัย พระยาเมืองแพนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบ้านชี
โหล่น คุมไพร่พลคนละ 500 คน ขึ้นกับเมืองท่งหรือเมืองสุวรรณภูมิ ครั้นต่อมาอีกราว 9 ปี ในปี พ.ศ. 2331 เพี้ยเมืองแพนก็ได้
7
พาราษฎรและไพร่พลประมาณ 330 คน ขอแยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งบึงบอน ยกขึ้นเป็นเมืองที่
บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ย (ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเพีย ตาบลเมืองเพีย อาเภอบ้านไผ่)
บึงบอนหรือดอนพยอมในปัจจุบันได้ตื้นเขินเป็นที่นาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังปรากฏเป็นรูปของบึงซึ่งมีต้นบอนขึ้นอยู่
มากมาย ต่อมาก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น ดังปรากฏข้อความใน
พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสานของหม่อมอมรวงศ์วิจิตรว่า
เอกสารพงศาวดารอีสานฉบับพระยาขัติยวงศา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด) ได้กล่าวถึงการตั้งเมืองขอนแก่นว่า
“...ได้ทราบข่าวว่าเมืองแพน บ้านชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากเมือง
สุวรรณภูมิไปขอตั้งฝั่งบึงบอนเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ผู้ว่าราชการเมือง
ขอนแก่น...” ขอนแก่นจึงได้ที่มาว่าเป็นเมืองคู่กับมหาสารคามนั้นเอง
การย้ายถิ่นฐานเมืองขอนแก่น
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2339 ได้มีการย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่
บ้านหนองเหล็ก (ตาบลแพง อาเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบัน) โดยได้ขอขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานคร คือจะขอ
ส่งส่วยต่อกรุงเทพมหานครโดยตรง ไม่ผ่านเมืองสุวรรณภูมิ เพราะให้เหตุผลว่า บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ยอยู่ใกล้กับแขวงเมือง
นครราชสีมา ซึ่งก็เป็นจริง เพราะอยู่ใกล้กับเมืองชนบทอันเป็นแขวงเมืองนครราชสีมาอยู่ขณะนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว
เข้าใจว่าเจ้าเมืองในขณะนั้นอยากจะแยกตัวออกเป็นอิสระ คืออยากจะแยกออกมาเป็นเมืองใหญ่อีกต่างหาก การย้ายเมืองครั้ง
นี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคาบัง (บุตรเจ้าแก้วบุฮม) เป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นต่อมา
ในปี พ.ศ. 2352 ได้ย้ายเมืองจากบ้านหนองเหล็กไปตั้งเมืองอยู่ที่บ้านดอนพันชาด (เขตตาบลบ้านแพง อาเภอโกสุม
พิสัย จังหวัดมหาสารคาม) พระนครศรีบริรักษ์ (คาบ้ง) ได้ถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าราชบุตร (ท้าวคา
ยวง) น้องชายของพระนครศรีบริรักษ์ (คาบ้ง) ซึ่งมีความดีความชอบจากการไปราชการสงคราม ขับไล่กองทัพพม่าออกไปจาก
เมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น เป็นที่ “พระนครศรีบริรักษ์ บรมราชภักดี ศรีศุภสุนทร” เจ้าเมืองขอนแก่น
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2381 เมืองขอนแก่นก็ได้ย้ายจากบ้านดอนพันชาดไป
ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งบึงพระลับโนนทอง คือบ้านเมืองเก่า ตาบลในเมือง อาเภอเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า "บ้านโนน
ทอง" ต่อมาเมื่อย้ายเมืองไปอยู่ที่นั่น จึงเรียกว่าบ้านเมืองเก่า สาเหตุที่ย้ายเมืองนั้นเล่ากันว่า เกิดการแย่งราษฎรไพร่พลขึ้น และ
เกิดแผ่นดินแยกที่ถนนกลางเมือง มีโรคภัยไข้เจ็บผู้คนล้มปุวยกันมาก จึงถือว่าที่ตรงนั้นไม่เป็นมงคลต่อการอยู่อาศัย จึงย้าย
เมืองอีกครั้งหนึ่ง จากบึงพระลับโนนทองไปตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกที่บ้านโนนทัน (อยู่ในตาบลพระลับ อาเภอเมืองขอนแก่น
ปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2398 พอดีพระนครศรีบริรักษ์ (คายวง) ได้ถึงแก่อนิจกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอินธิวงษ์
บุตรคนเล็กของพระยานครศรีบริรักษ์ เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น เพราะมีวิชาความรู้ดีกว่าพี่ชายคนอื่น ๆ โดยได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็นพระยาในราชทินนามเดิมของบิดาสืบมา
8
ต่อมาในปี พ.ศ. 2407 ท้าวอินธิวงษ์เจ้าเมืองขอนแก่นได้ถึงแก่อนิจกรรมลงอีก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าว
คาบุ่ง (พี่ชายท้าวอินธิวงษ์) ผู้เป็นอุปฮาดแต่เดิมให้เป็นเจ้าเมืองขอนแก่นสืบแทนน้องชายต่อมาอีก 3 ปี เพราะชราภาพมาก
แล้ว
ในปี พ.ศ. 2410 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอุ (ราชบุตร) ซึ่งเป็นหลานท้าวอินธิวงษ์ (พระยานครศรี
บริรักษ์) ขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านโนนทันกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าอีก (บ้านโนนทอง
เดิม) พอถึงปี พ.ศ. 2413 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านเมืองเก่าไปตั้งอยู่ที่บ้านดอนบม (บ้านดอนบม ตาบลเมืองเก่า อาเภอ
เมืองขอนแก่น) แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวอุ (ราชบุตร) เจ้าเมืองขอนแก่นในขณะนั้น เป็น
พระนครศรีบริรักษ์ และให้ท้าวหนูหล้า บุตรคนเล็กของท้าวอินธิวงษ์ เป็นปลัดเมืองขอนแก่น (หรืออุปฮาด)
ในปี พ.ศ. 2439 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เปลี่ยนการปกครองหัวเมืองไกลใหม่ โดย
เปลี่ยนเป็นบริเวณหัวเมืองลาวฝุายเหนือ ให้เป็นหัวเมืองลาวพวน ดังนั้น เมืองขอนแก่นจึงอยู่ภายใต้การปกครองของเมือง
อุดรธานี หรือมณฑลอุดรธานี โดยมีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้ปกครองมณฑล ในสมัยนั้นได้มีสายโทรเลข ที่เดินจาก
เมืองนครราชสีมา ผ่านเมืองชนบท เข้าเขตเมืองขอนแก่นข้ามลาน้าชีที่ท่าหมากทัน ตรงไปท่าพระ บ้านทุ่ม โดยไม่เข้าเมือง
ขอนแก่น และตรงไปข้ามลาน้าพองไปบ้านหมากแข้งเมืองอุดรธานี ศูนย์กลางมณฑลอุดร กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
(ผู้ปกครองมณฑลอุดรธานีในขณะนั้น) ซึ่งเป็นข้าหลวงใหญ่ประจามณฑลอุดรธานีทรงดาริว่า ที่ว่าการเมืองขอนแก่นที่ตั้งอยู่ที่
บ้านดอนบม ไม่สะดวกแก่ราชการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่บ้านทุ่ม (อาเภอเมืองขอนแก่น
ในปัจจุบัน) ในปลาย พ.ศ. 2439 และเปลี่ยนนามตาแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมือง และตั้งชื่อเมืองว่า "ขอนแก่น" จนถึง
ปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2440 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวหนูหล้าปลัดเมืองขอนแก่นเป็นพระ
พิทักษ์สารนิคม และในปี พ.ศ. 2441 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านทุ่มกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าตามเดิม โดยตั้งศาลา
กลางขึ้นที่ริมบึงเมืองเก่าทางด้านเหนือ (หน้าสถานีโทรทัศน์ในปัจจุบัน) ด้วยเหตุผลที่ว่า บ้านทุ่มนั้นกันดารน้าในฤดูแล้ง
ในปี พ.ศ. 2444 ทางราชการได้เกณฑ์แรงงานของราษฎรที่เคยหลงผิดไปเชื่อผีบุญ-ผีบาป ที่เขตแขวงเมือง
อุบลราชธานีในตอนนั้น โดยให้พากันมาช่วยสร้างทานบกั้นน้าขึ้นเป็นถนนรอบบึงเมืองเก่า เพื่อกักน้าไว้ใช้สอยในฤดูแล้ง
เพราะบึงนี้เป็นแหล่งน้าที่สาคัญของชาวเมืองขอนแก่น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 พระนครบริรักษ์ (อุ นครศรี) เจ้าเมืองขอนแก่น ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ เหตุ
เพราะชราภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตาแหน่งพระพิทักษ์สารนิคม (หนูหล้า สุนทรพิทักษ์) ปลัดเมืองขอนแก่น
ขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และในปีนั้นเอง ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนนามตาแหน่งข้าหลวงประจาเมืองขอนแก่น
เป็นข้าหลวงประจาบริเวณพาชี ส่วนเมืองต่าง ๆ ที่ขึ้นต่อนั้น ก็ให้เปลี่ยนเป็นอาเภอ และผู้เป็นเจ้าเมืองนั้น ๆ ก็ให้เปลี่ยนเป็น
นายอาเภอ ตาแหน่งอุปฮาดก็เป็นปลัดอาเภอไป แต่ขึ้นตรงต่อเมืองอุดรธานี มณฑลอุดรธานีในขณะนั้น
9
ต่อมาในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกเลิกระบบมณฑลในประเทศ ให้เปลี่ยนคา
ว่าเมืองเป็นจังหวัดแทน ตาแหน่งผู้ว่าราชการเมืองจึงกลายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และศาลาว่าการเมืองก็เปลี่ยนมาเป็นศาลา
กลางจังหวัด นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาขอนแก่นจึงได้กาเนิดเป็น "จังหวัดขอนแก่น"
ที่มาของชื่อขอนแก่น
เหตุที่เมืองนี้มีนามว่า เมืองขอนแก่นนั้นได้มีตานานแต่โบราณเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ก่อนที่เพี้ยเมืองแพนจะอพยพ
ไพร่พลมาตั้งบ้านตั้งเมืองขึ้นนั้น ปรากฏว่าบ้านขาม หรือตาบลบ้านขาม อาเภอน้าพองปัจจุบัน ซึ่งเป็นเขตแขวงร่วมการ
ปกครองกับบ้านชีโล้น มีตอมะขามขนาดใหญ่ที่ตายไปหลายปีแล้ว กลับมีใบงอกงามเกิดขึ้นใหม่อีก และหากผู้ใดไปกระทามิดีมิ
ร้ายหรือดูถูกดูหมิ่น ไม่ให้ความเคารพยาเกรง ก็จะมีอันเป็นไปในทันทีทันใด เป็นที่น่าประหลาดและมหัศจรรย์ยิ่งนัก
ดังนั้น บรรดาชาวบ้านชาวเมืองในแถบถิ่นนั้นจึงได้พร้อมใจกันก่อเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นเอาไว้เสีย เพื่อให้เป็นที่
สักการะของคนทั่วไป พร้อมกับได้บรรจุพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้า 9 บทเข้าไว้ในเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นด้วย ซึ่ง
เรียกว่า พระเจ้า 9 พระองค์ แต่เจดีย์ที่สร้างในครั้งแรกเป็นรูปปรางค์ หลังจากได้ทาการบูรณะใหม่เมื่อราว 50 ปีที่ผ่านมานี้ จึง
ได้เปลี่ยนเป็นรูปทรงเจดีย์ และมีนามว่า พระธาตุขามแก่น ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตวัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตาบลบ้านขาม อาเภอน้า
พอง จังหวัดขอนแก่น พระเจดีย์ขามแก่นถือว่าเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะมีงานพิธีบวงสรวง
เคารพสักการะกันในวันเพ็ญเดือน 6 ทุกปี
ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์พระธาตุขามแก่นนั้น มีซากโบราณที่ปรักหักพังปรากฏอยู่ โดยอยู่ห่างจากเจดีย์
ราว 15 เส้น หรืออยู่คนละฟากทุ่งของบ้านขาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริเวณแถบนี้น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองมาก่อน แต่ได้ร้างไป
นาน ดังนั้น จึงได้ถือเอานิมิตนี้มาตั้งนามเมืองว่าขามแก่น แต่ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็นเมืองขอนแก่น จนกระทั่งทุกวันนี้
ภูมิประเทศ
จังหวัดขอนแก่นมีสภาพพื้นที่ลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกและทิศใต้ บริเวณที่สูงทางด้านตะวันตกมี
สภาพพื้นที่เป็นเขาหินปูนตะปุุมตะป่่าสลับกับพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีระดับความสูงประมาณ 200-250 เมตรจาก
ระดับน้าทะเล มีภูเขารูปแอ่งหรือภูเวียงวางตัวอยู่ติดอาเภอภูเวียง บริเวณที่สูงตอนกลางและด้านเหนือมีสภาพพื้นที่เป็น
เทือกเขา ได้แก่ ภูเก้า ภูเม็ง ภูพานคา เป็นแนวขวางมาจากด้านเหนือ แล้ววกลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ ไหล่เขาด้านนอกมี
ความสูงและลาดชันมาก สูงประมาณ 300-660 เมตร ไหล่เขาด้านในมีความลาดชันน้อย มีระดับความสูงประมาณ 220-250
เมตร
บริเวณแอ่งโคราช ครอบคลุมพื้นที่ทางด้านใต้จังหวัด สภาพพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีความสูงประมาณ
150-200 เมตร มีบางส่วนเป็นเนิน สูงประมาณ 170-250 เมตร และลาดต่าไปทางราบลุ่มที่ขนานกับลาน้าชี มีความสูง
ประมาณ 130-150 เมตร จากนั้น พื้นที่จะลาดชันไปทางตะวันออก มีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาดมีความสูงประมาณ 200-
250 เมตร และค่อนข้างราบ มีความสูงประมาณ 170 -180 เมตร
10
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลาภู และจังหวัดอุดรธานี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดมหาสารคาม
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์
แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ศาลหลักเมืองขอนแก่น (Khonkaen) : เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาสุขใจ ถนน
เทพารักษ์ หน้าสานักงานเทศบาลนครขอนแก่น ท่านเจ้าคุณปูุพระราชสารธรรมมุนีและหลวงธุรนัยพินิจ อดีตผู้ว่าราชการ
จังหวัดขอนแก่น ได้นาหลักศิลาจารึกมาจากโบราณสถานในท้องที่อาเภอชุมแพมาประกอบพิธีตามแนวทางพระพุทธศาสนาทา
เป็นหลักเมืองเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ต่อมาเมื่อ ปี 2549 เทศบาลนครขอนแก่น ได้ทาการบูรณะศาลหลักเมือง
ขอนแก่น ตามโครงการบูรณะพัฒนาปฏิสังขรณ์ศาลหลักเมืองและในวโรกาสมหามงคลสมัยเพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคลแด่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา โดยผลการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง
วิธีพิเศษ ได้ตกลงว่าจ้าง หจก.แก่นชาญกิจวิศวกรรม มาดาเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จและมีการฉลองสมโภชศาลหลักเมือง
ขอนแก่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 สิ้นค่าก่อสร้างกว่า 54
ล้านบาท ศาลหลักเมืองขอนแก่นที่ปรับปรุงใหม่นั้น อยู่ ณ บริเวณจุดเดิม ลักษณะตัวอาคารมีศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย
ประยุกต์ ทรวดทรงและส่วนประกอบงานศิลป์เป็นการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมที่สาคัญของ ท้องถิ่นอีสาน ขนาดและรูปทรง
เป็นเป็นอาคารโถงจัตุรมุข กว้างขวางโอ่โถงกว่าของเดิมมาก โดยมีขนาดตัวอาคาร 13 x 13 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริม
เหล็กมีพื้นที่ภายในเป็นห้องโถงรวม 73 ตารางเมตร ย่อมุมตัวอาคารโดยรอบมีระเบียงยื่นทั้ง 4 ด้าน ความสูงจากพื้นลานรอบ
อาคารถึงถึงยอดฉัตรทองคารวม 27.50 เมตร หลังคาเป็นทรงจั่วจัตุรมุขหลังคาซ้อน 3 ชั้น และชั้นเครื่องยอดเป็นรูปเจดีย์
ศิลปะพื้นเมืองอีสาน สัณฐานเป็นเจดีย์จาลองจากองค์พระธาตุขามแก่น
พระมหาธาตุแก่นนคร: ตั้งอยู่ภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง ถนนกลางเมือง เป็นศิลปะสมัยทวารวดีผสมผสาน
ศิลปะอินโดจีน รูปทรงแบบชาวอีสานตากแห มี 9 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีการตกแต่งด้วยลวดลาย
แกะสลัก และภาพเขียนอย่างงดงาม เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น และเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพเมืองขอนแก่น
อนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์: ตั้งอยู่ที่สวน เจ.ซี. ถนนรอบบึง พระนครศรีบริรักษ์หรือท้าวเพี้ยเมืองแพนเป็นขุนนาง
เชื้อพระวงศ์กษัตริย์เวียงจันทน์ มีธิดาชื่อนางคาแว่นเป็นสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช ในปี
พ.ศ. 2332 ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้พาสมัครพรรคพวกประมาณ 330 คน อพยพมาอยู่ที่บ้านบึงบอน ขึ้นตรงต่อพระยา
นครราชสีมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2340 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็น
11
"เมืองขอนแก่น" และยกฐานันดรศักดิ์ท้าวเพี้ยเมืองแพนขึ้นเป็น "พระนครศรีบริรักษ์" พ่อเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่น ใน
ปี พ.ศ. 2525 ประชาชนชาวขอนแก่น ได้ร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และเคารพสักการะ
ของชาวเมือง
น้าส่างสนามบิน: ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าศูนย์ราชการ ตรงข้ามโรงเรียนสนามบินด้านทิศเหนือ เป็นบ่อน้า
ประวัติศาสตร์ที่มีมาก่อนที่เมืองขอนแก่นจะมีน้าประปาบริโภค เป็นจุดรวมใจของชาวขอนแก่น เป็นแหล่งน้าที่หล่อเลี้ยงชีวิต
ของชาวขอนแก่นในอดีต และให้คุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่ประชาชนชาวขอนแก่นมาเป็นเวลายาวนาน
ศาลหลักเมือง (เมืองเก่า) : เป็นศาลหลักเมืองหรือบือบ้านที่ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้ตั้งไว้ ณ บริเวณใจกลางหมู่บ้าน
เป็นเสาหลักเมืองขอนแก่นหลักแรกก่อนจะมีการย้ายเมืองอีก 5 ครั้ง ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณซอยกลางเมือง 21 ด้านข้างศูนย์
กัลยาณมิตร
พระธาตุขามแก่น: พระธาตุขามแก่นตั้งอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 1 ตาบลบ้านขาม อาเภอน้าพอง เป็นปูชนีย
สถานของจังหวัดขอนแก่น บ้านขามเคยเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเวลาประมาณ 2000 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 500
บึงละเลิงหวาย อาเภอพล : เป็นบึงขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าละเลิงหวาย และเป็นที่กราบสักการะของคน
ไทยเชื้อสายจีน และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
ปราสาทเปือยน้อย ตั้งอยู่ที่ อ.เปือยน้อย เป็นปราสาทศิลปะขอมโบราณผสมระหว่างศิลปะเขมรแบบบาปวนและ
แบบนครวัด สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์ที่สุดใน
เขตภาคอีสานตอนบน
นาหลังหมู่บ้านทุ่งน้อย ( นาเช้าสุข ) : เป็นทุ่งนาบริเวณกว้าง อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านทุ่งน้อย ตาบลลอมคอม
อาเภอพล จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
แหล่งเรียนรู้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ถนนกสิกรทุ่งสร้าง เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ
และศิลปวัตถุที่เป็นของแถบอีสานตอนเหนือ โดยรอบอาคารพิพิธภัณฑ์จัดตั้งใบเสมาหินที่ได้จาก "เมืองฟูาแดดสงยาง" ไว้เป็น
จานวนมาก
หอศิลปวัฒนธรรมและอาคารศูนย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น: เป็นแหล่งแสดงศิลปะพื้นบ้านและเป็น
สถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ตั้งอยู่ที่ถนนมะลิวัลย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น: โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น ตั้งอยู่ ณ บริเวณชั้นล่างอาคารสวนสาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร
เทศบาลนครขอนแก่น ภายในโฮงมูนมันเมืองขอนแก่น ได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ในส่วนของนิทรรศการ และห้องจาหน่าย
ของที่ระลึก สาหรับการจัดนิทรรศการได้แบ่งออกเป็น 5 โซน โดยแบ่งตามเนื้อหาสาระในระบบการปกครอง วิถีชีวิต ภูมิ
12
ปัญญา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจของชาวขอนแก่น นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคสร้างบ้านแปงเมือง
จวบจนเป็นเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน
ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ประจาท้องถิ่น จังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 4 บ้านสามเหลี่ยม
ถนนศรีมารัตน์ เป็นแหล่งศึกษาความรู้สาหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมไปด้วยข้อมูลพื้นฐาน ความรู้ หลักการ
ทฤษฎีทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นแหล่งรวบรวมอุปกรณ์เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และการแสดงถึง
วิวัฒนาการในการนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง: ตั้งอยู่ในเขตตาบลในเมือง อาเภอเวียงเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จัดแสดงเรื่องราว
เกี่ยวกับการกาเนิดและวิวัฒนาการของโลก ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและกาเนิดและวิวัฒนาการของ
สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบในหุบเขาภูเวียง ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะกับสถานศึกษาและนักท่องเที่ยว
ทั่วไป เปิดให้บริการระหว่างเวลา 09.00 - 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทรศัพท์ 043
438-204
บึงทุ่งพึงพืด: ศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น อาเภอพล จังหวัดขอนแก่น เป็นสาขา
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทาหน้าที่รวบรวม พรรณไม้ประจาถิ่นและข้อมูลพืชของภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์ทดลอง สาธิตและวิจัยพืชเศรษฐกิจและพืชทนเค็มตลอดจนที่ข้องเกี่ยวโดยร่วมมือกับนักวิจัย
จากสถาบันในภูมิภาค ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่และภูมิทัศน์ ให้เป็นสถานที่ศึกษาฝึกอบรมของนักเรียน นักศึกษาจาก
สถาบันการศึกษาในภูมิภาคและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติตลอดจนแหล่งสันทนาการและท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
แก่ผู้เข้าเยี่ยมชม
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ติดถนนมิตรภาพ ทางไปจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ
กิโลเมตรที่ 44-45 ในเขตอาเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับการทาเว็บบล็อก
Blog คือ การบันทึกบทความของตนเอง (Personal Korunal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะ
ครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การมองโลกของเรา ความคิดเห็นของเราต่อเรื่องต่าง ๆ หรือเป็นบทความ
เฉพาะด้าน เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ
Blog มาจากคาว่า WeBlog บางคนอ่านว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งหมาดคือ Blog ซึ่งหมายถึง
การบันทึกบทความของตนเอง (อาจเป็นอักษร รูปภาพ มัลติมีเดีย) ลงบนเว็ปผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต เพื่อเผยแพร่ให้
ผู้อื่นได้รับทราบ Blog หรือ Web Blog เป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน โดยผู้อ่านสามารถโต้ตอบได้โดย
การ comment
13
Web blog
BlogGang คือ "Web log" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "blog" ชื่อดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1997 โดยผู้ที่คิดชื่อนี้คือ
Jorn Barger "weblog" (เว็บ Blog) หมายถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ที่ผู้สร้างหรือที่เรียกว่า blogger จัดทาขึ้นเพื่อเป็นที่บอกเล่า
เรื่องราว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอบทความใหม่ๆ วิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง
หรืออื่นๆ ที่ผู้ใช้เห็นว่าน่าสนใจ พร้อมกันนั้น ยังเปิดให้ผู้เยี่ยมชมได้สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ topic ต่างๆ ที่ได้ตั้งขึ้นอีก
ด้วย บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคาว่า blog ย่อมาจากคาว่า weblog หรือ
weblog โดยคาว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ
นั่นเองในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การ
เผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกาลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และ
เสียค่าใช้จ่าย สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลาดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่
บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็น
เรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จากัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่งBlog ส่วนใหญ่มักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว
แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่
เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้
เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน
Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดูBlog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน
สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความ
คิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของ
เรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบ
ของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก
โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนาข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือ
ประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่า
จะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทาตัวเป็น PR ให้กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก
สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย
WordPress
WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปที่มีไว้เพื่อสร้างและจัดการเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต ( Contents Management
System หรือ CMS) กล่าวคือ แทนที่เราจะดาวโหลดโปรแกรมมาทาการสร้างและออกแบบเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของ
เราอย่างเช่น Macromedia Dreamwaver, Microsoft Fontpage (มีใครทันรึเปล่า) เป็นต้น แต่ CMS นั้นถูกสร้างมาเพื่อใช้
งานบนอินเตอร์เน็ตโดยตรง หมายความว่าเมื่อคุณจะใช้งานโปรแกรมนี้ คุณก็สามารถใช้ได้ทันทีผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คุณ
ล็อกอินเข้าสู่ระบบจัดการของ CMS นั้นๆ บางคนอาจจะคุ้นหูกับ cms เจ้าอื่น เช่น joomla, simple machines, open
cart, magento เป็นต้น
14
WordPress
WordPress เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ Apache, MySQL และ PhpMyAdmin ในการรันเป็นเซิฟเวอร์ คุณ
สามารถลองใช้โปรแกรม DesktopServer เพื่อจาลองเซิฟเวอร์สาหรับติดตั้งและใช้งาน WordPress ได้ เพราะ WordPress
นั้นจะรันอยู่บนฝั่งเซิฟเวอร์ เราจึงต้องมีเครื่องมือจาลองเซิฟเวอร์
WordPress Core คือ ตัวขับเคลื่อนหลัก เปรียบเสมือนเครื่องยนต์หลักของรถทุกคัน โดยเราสามารถดาวน์โหลด WordPress
เวอร์ชั่นล่าสุดได้ที่ WordPress.org และ th.wordpress.org สาหรับเวอร์ชั่นภาษาไทย
Themes
เป็นส่วนแสดงผลภายนอก แล้วยังมีฟังชั่นเสริมต่างๆ มาด้วย เปรียบเสมือนดีไซน์ของรถซึ่งแต่ละบริษัทก็จะออกแบบ
มาแตกต่างกัน มีฟังชั่นพิเศษต่างกัน มีทั้งธีมฟรีและธีมแบบพรีเมี่ยม เราสามารถดาวน์โหลดธีมฟรีได้จาก
https://wordpress.org/themes/ ซึ่งเป็นแหล่งรวมธีมจากนักพัฒนาทั่วโลกส่งธีมของตัวเองขึ้นไปใ้เราสามารถติดตั้งใช้ได้ฟรี
จากหน้าควบคุมของ WordPress เลย หรือใช้ Google ในการเสริช WordPress Free Theme แล้วตามด้วยประเภทของธีม
ที่ต้องการ เช่น WordPress Free Fashion Theme เป็นต้น สาหรับเว็บที่ทาธีมแบบพรีเมี่ยมมาขายก็มีเยอะเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีตลาดธีมที่ใหญ่ที่สุด คือ Themeforest.net ที่มีธีมมากกว่า 6,000+ ธีม ให้เราเลือกซื้อและดาวน์โหลด ข้อ
แตกต่างระหว่างธีมฟรีและพรีเมี่ยมนั้น นอกจากในเรื่องของฟังชั่นเสริมแล้ว ยังมีในเรื่องของการซัพพอร์ตจากคนเขียนธีม การ
อัพเดต ที่ธีมแบบพรีเมี่ยมจะให้ได้มากกว่า
Plugins
คือ ส่วนเสริมของ WordPress ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเว็บ เปรียบเสมือนการอัพเกรดเครื่องยนต์ให้ทางานใน
แบบที่เราต้องการ หรือแม้แต่ดัดแปลงการสาหรับการใช้งานเฉพาะด้าน เช่น การใช้ปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อสร้าง
ร้านค้าขายสินค้าออนไลน์ ธีมพรีเมี่ยมมักจะมีฟังชั่นเสริมมากมายทาให้เราลดการติดตั้งปลั๊กอินลงไป เพราะการติดตั้งปลั๊กอิน
มากๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องดี เพราะเมื่อมีการอัพเกรดในบางครั้งก็อาจจะมีการกระทบกับการทางานกับส่วนอื่นๆ ทั้งกับธีมหรือปลั๊ก
อินด้วยกันเอง
Plugins ที่ใช้ในการพัฒนา : Google Map, Google Maps Easy, Hello Dolly, WP Google Maps, Akismet
Xampp
Xampp คือโปรแกรมสาหรับจาลองเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเรา ให้ทางานในลักษณะของ WebServer
นั่นคือเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะเป็นทั้งเครื่องแม่ และเครื่องลูกในเครื่องเดียวกัน ทาให้ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Internet คุณก็
สามารถทดสอบเว็บไซต์ที่คุณสร้างขึ้น ได้ทุกที่ทุกเวลา ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้ใช้ CMS ในการสร้างเว็บไซต์
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper
Project paper

More Related Content

What's hot

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Jom-Jam HulaHula
 
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพWinthai Booloo
 
โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติโคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติพัน พัน
 
เค้กมินิ
เค้กมินิ เค้กมินิ
เค้กมินิ BoomCNC
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกม
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกมโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกม
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกมRatchasin Poomchor
 
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัล
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัลบทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัล
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัลFURD_RSU
 
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2ITitle A'lohaa
 
1.3 กระบวนการกลุ่ม
1.3 กระบวนการกลุ่ม1.3 กระบวนการกลุ่ม
1.3 กระบวนการกลุ่มTaweep Saechin
 
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลาHeritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลาFURD_RSU
 
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทยม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทยทศวรรษ โตเสือ
 
รวมโครงงานหลัก 1 (1)
รวมโครงงานหลัก 1 (1)รวมโครงงานหลัก 1 (1)
รวมโครงงานหลัก 1 (1)Supanan Fom
 
แบบโครงการท่องเที่ยว
แบบโครงการท่องเที่ยวแบบโครงการท่องเที่ยว
แบบโครงการท่องเที่ยวZ'Jame Clup
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์paveenada
 
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงานChamp Wachwittayakhang
 
ตัวอย่างชุดกิจกรรม
ตัวอย่างชุดกิจกรรมตัวอย่างชุดกิจกรรม
ตัวอย่างชุดกิจกรรมbankfai1330
 
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม
แบบประเมินการทำงานกลุ่มแบบประเมินการทำงานกลุ่ม
แบบประเมินการทำงานกลุ่มKhemjira_P
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Araya Chiablaem
 
โครงงาน เรื่อง ขนมวง
โครงงาน เรื่อง ขนมวงโครงงาน เรื่อง ขนมวง
โครงงาน เรื่อง ขนมวงThanakorn Chanamai
 
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์นันทนา วงศ์สมิตกุล
 

What's hot (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
โครงงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
 
โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติโคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติ
 
เค้กมินิ
เค้กมินิ เค้กมินิ
เค้กมินิ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกม
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกมโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกม
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ปัญหาเด็กติดเกม
 
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัล
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัลบทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัล
บทบาทใหม่ของเมืองในยุคดิจิทัล
 
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2
Isโครงการหมาน้อยร้อยฝันแก้ไข2
 
1.3 กระบวนการกลุ่ม
1.3 กระบวนการกลุ่ม1.3 กระบวนการกลุ่ม
1.3 กระบวนการกลุ่ม
 
น 13 พฤติกรรมสารสนเทศ.2
น 13 พฤติกรรมสารสนเทศ.2น 13 พฤติกรรมสารสนเทศ.2
น 13 พฤติกรรมสารสนเทศ.2
 
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลาHeritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา
Heritage Trust กับการพัฒนาย่านเมืองเก่าสงขลา
 
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทยม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
 
รวมโครงงานหลัก 1 (1)
รวมโครงงานหลัก 1 (1)รวมโครงงานหลัก 1 (1)
รวมโครงงานหลัก 1 (1)
 
แบบโครงการท่องเที่ยว
แบบโครงการท่องเที่ยวแบบโครงการท่องเที่ยว
แบบโครงการท่องเที่ยว
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน
04 บทที่ 4-ผลการดำเนินโครงงาน
 
ตัวอย่างชุดกิจกรรม
ตัวอย่างชุดกิจกรรมตัวอย่างชุดกิจกรรม
ตัวอย่างชุดกิจกรรม
 
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม
แบบประเมินการทำงานกลุ่มแบบประเมินการทำงานกลุ่ม
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน เรื่อง ขนมวง
โครงงาน เรื่อง ขนมวงโครงงาน เรื่อง ขนมวง
โครงงาน เรื่อง ขนมวง
 
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์
วิเคราะห์ตัวชี้วัดสาระเศรษฐศาสตร์
 

Similar to Project paper

Traveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaenTraveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaenriikiki96
 
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโตmahaoath พระมหาโอ๊ท
 
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯmahaoath พระมหาโอ๊ท
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...WhiteMonkey Fha
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...WhiteMonkey Fha
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...WhiteMonkey Fha
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...WhiteMonkey Fha
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...WhiteMonkey Fha
 
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิตmahaoath พระมหาโอ๊ท
 
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโตmahaoath พระมหาโอ๊ท
 
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...สถาบันราชบุรีศึกษา
 
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้pooh_monkichi
 
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...Kobwit Piriyawat
 
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...Ramnarong Nilgumheang
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานAjBenny Pong
 
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคนบทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคนMaykin Likitboonyalit
 

Similar to Project paper (20)

Traveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaenTraveling In KhonKaen
Traveling In KhonKaen
 
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 โครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
 
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
2554 ค่ายสืบศิลป์ถิ่นบ้านเกิดฯ
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
 
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
โครงการออกแบบภาพประกอบหนังสือ ชุดแต่งกายประจำชาติภายใต้แนวคิด “ไปเที่ยวเอเชีย...
 
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
2553 โครงการค่ายเปิดแสงแต้มสี ม รังสิต
 
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
2554 ผลการดำเนินโครงการทำดีไร้ยางอายกับเด็กชายแว่นโต
 
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...
การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม ...
 
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้
โครงการส่งเสิมอการเรียนรู้
 
Information2012
Information2012Information2012
Information2012
 
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
 
Cyber Education(Pongsak)
Cyber Education(Pongsak)Cyber Education(Pongsak)
Cyber Education(Pongsak)
 
คุณลักษณะคนไทยที่พึงประสงค์
คุณลักษณะคนไทยที่พึงประสงค์คุณลักษณะคนไทยที่พึงประสงค์
คุณลักษณะคนไทยที่พึงประสงค์
 
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...
การรับรู้ทุนทางวัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา ผ่านมุมมองของนัก...
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
 
V 292
V 292V 292
V 292
 
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคนบทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน
บทบาทของห้องสมุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาคน
 

Project paper

  • 1. โครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่น (Traveling in KhonKaen) คณะผู้จัดทา นางสาวกนกพร ประทุมทิพย์ รหัสประจาตัว 583080050-1 นางสาวสุดาเจริญ บุญรุ่งเรืองภากร รหัสประจาตัว 583080077-1 นางสาวฉัตปีญาพักช์ ฤกษ์อภิสิทธิ์ รหัสประจาตัว 583080760-0 นางสาวพาณีพร เสียงสนั่น รหัสประจาตัว 583080770-7 นางสาวพรญาณี ชาญประเสริฐ รหัสประจาตัว 583080768-4 เสนอ อาจารย์ศตพล ยศกรกุล รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ (WEB TECHNOLOGY) สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • 2. ก หัวข้อโครงงาน : การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่อง : สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น (Traveling in KhonKaen) ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ผู้เสนอโครงงาน : คณะผู้จัดทา อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ศตพล ยศกรกุล บทคัดย่อ โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใน จังหวัดขอนแก่นนี้ จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นให้ เกิดความสนใจต่อจังหวัดขอนแก่น และยังเป็นแหล่งค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับการนาเที่ยวต่างๆด้วยการ สืบค้นจากเว็บบล็อก wordpress เป็นแหล่งเรียนรู้สมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย และได้นาความรู้ใน การศึกษาพัฒนาเว็บบล็อกด้วย wordpress สร้างเว็บบล็อกที่มีชื่อว่า http://localhost/wp_travel/. เพื่อ สร้างความสนใจให้กับกลุ่มเปูาหมายที่ต้องการศึกษารายละเอียดการเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์มากมายในการพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสต่อไป
  • 3. ข คานา โครงงานเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่น หัวข้อโครงงานการพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ด เพรสฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 412132 เทคโนโลยีเว็บ (Web Technology) สาขาวิชาสารสนเทศ ศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีวัตถุประสงค์จัดทารายงานนี้ขึ้นเพื่อรู้ และเข้าใจถึงเนื้อหาและเข้าใจถึงหลักการในการค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และเพื่อพัฒนาเว็บบล็อก เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นให้เกิดความสนใจต่อจังหวัดขอนแก่น และยังเป็นแหล่งค้นหา รายละเอียดเกี่ยวกับการนาเที่ยวเดียวต่างๆด้วยการสืบค้นจากเว็บบล็อก Wordpress เป็นแหล่งเรียนรู้ สมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย และได้นาความรู้ในการศึกษาพัฒนาเว็บบล็อกด้วย Wordpress สร้าง เว็บบล็อกที่มีชื่อว่า http://localhost/wp_travel/. เพื่อสร้างความสนใจให้กับกลุ่มเปูาหมายที่ต้องการศึกษา รายละเอียดการเที่ยวจังหวัดขอนแก่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์มากมายให้การพัฒนา เว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสต่อไป คณะผู้จัดทา
  • 4. ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก คานา ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนา 1 แนวคิด ที่มา และความสาคัญ 2 วัตถุประสงค์ 2 ขอบเขตของโครงงาน 2 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 ที่มาและความสาคัญ 3 ข้อมูลเกี่ยวกับการทาเว็บบล็อก 4 - 12 ขั้นตอนการจัดระบบโครงสร้างข้อมูล (Information Architecture) 12 - 17 บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน 18 การวางแผนการพัฒนาเว็บบล็อก 18 - 20 การวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ 20 การออกแบบเว็บบล็อกโดยใช้ WordPress 20 การพัฒนาเว็บบล็อกโดยใช้ WordPress 20 การเผยแพร่เว็บบล็อก 20 การประเมินผลเว็บบล็อก 21
  • 5. ง บทที่ 4 ผลการดาเนินงานโครงงาน 22 ผลของการพัฒนาเว็บบล็อก 22 ผลของการพัฒนาเว็บบล็อก 22 ตัวอย่างการนาเสนอเว็บบล็อก 22 - 27 บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ 28 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 28 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 28 ข้อเสนอแนะ 28 - 29 บรรณานุกรม 30 ภาคผนวก 31 - 34
  • 6. 1 บทที่ 1 บทนา แนวคิด ที่มา และความสาคัญ แนวคิดด้านการท่องเที่ยว นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism)โดยสรุปว่าหมายถึงการเดินทางออกจากที่พัก เป็นการชั่วคราวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเยี่ยมญาติหรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ใช่เพื่อการประกอบอาชีพหรือหารายได้เพื่อให้เกิด ความสนุกสนานเพลิดเพลินและผ่อนคลายความเครียดในยามว่างหรือเมื่อเวลาที่ต้องการจะพักผ่อนซึ่งอาจเป็นการท่องเที่ยวที่ ให้ความรู้และประสบการณ์จากการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย(ไพฑูรย์และวิลาสวงศ์พงศะบุตร, 2536 ;นิคมจารุมณี, 2536 ; ส่ง ศรีวงษ์เวช, 2545 ; ภูสวัสดิ์สุขเสียง, 2545) ปัจจุบันถือได้ว่าการท่องเที่ยวมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับประเทศที่ไม่มีอุตสาหกรรม หนักเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นประกอบด้วยธุรกิจโดยตรงและธุรกิจทางอ้อมหรือการสนับสนุนการบริการ นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแก่ชาวต่างชาติถือได้ว่าเป็นสินค้าออกที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้(Invisible Export)เป็นการ ซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยการขายสินค้าคือบริการต่างๆซึ่งผลประโยชน์จะตกอยู่ในประเทศเพราะก่อให้เกิดอาชีพหลาย แขนงนอกจากนี้การท่องเที่ยวยังเป็นการพักผ่อนคลายความตึงเครียดและได้รับความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมและยังเป็นการนา ทรัพยากรของประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางโดยความสาคัญของการท่องเที่ยว(เสรีวังส์ไพจิตร, 2534อ้างถึงใน สุพัตรา วิชัยประเสริฐกุล, 2545) ความสาคัญของการท่องเที่ยว 1. สร้างรายได้เงินตราเข้าประเทศ เป็นจานวนมาก 2. การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการหมุนเวียนและกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น 3. การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการนาเอาทรัพยากรมาใช้อย่างคุ้มค่า 4. การท่องเที่ยวช่วยลดปัญหาการว่างงาน 5. ทาให้เกิดความสัมพันธ์อันดีงามของมวลมนุษยชาติ 6. มีส่วนในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม 7. มีส่วนช่วยในการลดปัญหาสังคม เนื่องจากคนมีรายได้จากการทางาน 8. ช่วยฟื้นฟู อนุรักษ์วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม สร้างความภูมิใจของศิลปวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม 9. ทาให้คนในสังคมรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่นนาผลิตผลในท้องถิ่นมาขายเป็นสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก 10. ส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัย และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ
  • 7. 2 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาและเรียนรู้วิธีการทาและพัฒนาเว็บบล็อกด้วยเวิร์ดเพรสอย่างมีประสิทธิภาพ 2. เพื่อศึกษาและเรียนรู้การใช้เวิร์ดเพรสในรูปแบบต่างๆ 3. เพื่อพัฒนาเว็บบล็อกเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดในขอนแก่นด้วยเวิร์ดเพรสให้น่าสนใจและดึงดูดได้ 4. เพื่อนาความรู้หลังจากพัฒนาเว็บบล็อกนี้ไปต่อยอดความคิดในการพัฒนาเว็บและประยุกต์ใช้เวิร์ดเพรสได้ดียิ่งขึ้น ขอบเขตของโครงงาน 1. จัดทาโครงงานการพัฒนาเว็บบล็อกด้วย Wordpress เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่น 2. อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 2.1 คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ 2.2 สัญญาณอินเทอร์เน็ต 2.3 โปรแกรม host ที่ใช้ในการติดตั้ง คือ XAMPP 2.4 เว็บที่ใช้บริการในการทาบล็อก www.wordpress.org 2.5 เว็บที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าข้อมูล www.google.com, www.wikipedia.co.th 2.6 โปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อภาพและสร้างสรรค์ผลงาน คือ Photoshop cs5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ได้เรียนรู้การพัฒนาเว็บบล็อกด้วยบริการของเวิร์ดเพรสและสามารถทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. สามารถนาความรู้ที่ได้ศึกษาไปพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวในขอนแก่นได้ 3. สามารถนาความรู้ทั้งหมดไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเว็บบล็อกอื่นๆได้ต่อไป 4. สามารถสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้รูปแบบต่างๆในเวิร์ดเพรสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 8. 3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2.1 ที่มาและความสาคัญ ความสาคัญของการท่องเที่ยว ความหมายและความสาคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คาว่า “อุตสาหกรรม” ตามพจนานุกรม คือ “การกระทาสิ่งใด ๆ เพื่อให้เป็นสินค้า” แต่ปัจจุบันมีความหมาย มากกว่านั้น คือ ” กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างมีระบบการพาณิชย์ หรือการผลิตสาขาใดสาขาหนึ่ง” การท่องเที่ยว ก็คือ การดาเนินกิจกรรมบริการด้านการนาเที่ยว เช่น บริการด้านการเดินทาง บริการด้านอาหาร และการพักแรม และบริการด้านการนาเที่ยว ซึ่งดาเนินการโดยหวังผลกาไร ที่ต้องอาศัยแรงงานและการลงทุนสูง โดยใช้ เทคนิควิชาการเฉพาะ มีการวางแผน การจัดองค์การ และการตลาด ครอบคลุมธุรกิจหลายประเภท ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการ ท่องเที่ยวโดยตรงและโดยอ้อม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Industry) ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจหลายประเภท ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรง และ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทางอ้อม หรือธุรกิจสนับสนุนต่าง ๆ การซื้อบริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็น การส่ง สินค้าออกที่มองไม่เห็นด้วยสายตา (Invisible Export) เพราะเป็นการซื้อด้วยเงินตราต่างประเทศ การผลิต สินค้า คือ บริการ ต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวซื้อก็จะต้องมีการลงทุน ซึ่งผล ประโยชน์จะตกอยู่ในประเทศและจะช่วยให้เกิด งานอาชีพอีกหลายแขนง เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ทางด้านสังคมการท่องเที่ยวเป็นการพักผ่อนคลาย ความตึงเครียด พร้อม กับการ ได้รับความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่ผิดแผกแตกต่างออกไปอีกครั้ง อุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเป็นแหล่งที่มาของรายได้ในรูป เงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับดุลการชาระเงินได้ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การท่องเที่ยวยังมี บาทบาทช่วยกระตุ้นให้มีการนาเอาทรัพยากรของประเทศมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ที่ผู้อยู่ในท้องถิ่นได้เก็บมาประดิษฐ์ เป็นหัตถกรรมพื้นบ้าน ขายเป็นของที่ระลึกสาหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสรุปได้ว่าบทบาทและความสาคัญของอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีดังต่อไปนี้ (ฉันทัช วรรณถนอม, 2552) ด้านเศรษฐกิจ ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสาคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นมาอย่างมากเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม บทบาทที่เด่นชัดบทบาทหนึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่าน มาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็คือ บทบาทด้านเศรษฐกิจซึ่งอาจกล่าวได้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทา รายได้ที่สาคัญให้ประเทศเป็นลาดับต้น โดยเฉพาะการนาเงินตราต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิของประเทศ
  • 9. 4 ด้านสังคมและวัฒนธรรม ปกติรูปแบบวิถีชีวิตของคนในสังคมในทุกๆ สังคม จะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยจากทั้งภายนอกละภายในมาเป็นตัวกระตุ้น จะพัฒนาไปในทางที่ดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งสองนั้นตลอดจนสภาพ สังคมนั้นประกอบด้วย เช่นเดียวกับการที่หากสังคมใดต้องการเปลี่ยนตัวเองจากสังคมเดิมตามปกติมาเป็นสังคมที่เปิดกว้าง พร้อมรับการเข้ามาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สังคมนั้นก็จะยิ่งมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นหลายเท่าตัว เนื่องจากการท่องเที่ยวต้องเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจหลายฝุาย ต้องเกี่ยวข้องกับคนหลายคน ต้องเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมความ ต้องการของคนที่หลากหลาย ผลของการท่องเที่ยวอาจไม่ได้ส่งผลต่อการทาให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด แต่อาจ ค่อยๆ ซึมซับอย่างช้าๆ ธุรกิจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคต่างๆที่มีความล่อแหลมต่อความรับผิดชอบใน วัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ จึงควรตระหนัก หมั่นสังเกตติดตาม พัฒนานาวัฒนธรรมในสิ่งที่ดี และวัฒนธรรมภายนอกที่ แตกต่างจากของตนมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแต่ต้องไม่ลืมคุณค่าวัฒนธรรมเดิมของตนด้วย ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวก่อให้เกิดประโยชน์ในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ เมื่อมีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น ย่อมทาให้ชุมชน ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรการท่องเที่ยว เป็นเหตุให้มีการมีการช่วยกันรักษาสภาพภูมิ ทัศน์ของสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น และสามารถอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวมา สนับสนุนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ อันเป็นการนาทรัพยากรการท่องเที่ยวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างคุ้มค่า (ฉันทัช วรรณถนอม, 2552) ข้อมูลที่สาคัญของการท่องเที่ยว ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism) ในปี พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) องค์การสหประชาชาติได้จัดประชุมว่าด้วยการเดินทางและท่องเที่ยวระหว่าง ประเทศขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี และได้ให้คาจากัดความของคาว่า “การท่องเที่ยว” ไว้ว่า “การเดินทางเพื่อความ บันเทิงรื่นเริงใจ เยี่ยมญาติ หรือการไปร่วมประชุมแต่มิใช่เพื่อการประกอบอาชีพเป็นหลักฐานหรือไม่พานักอยู่เป็นการถาวร” องค์การท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization : W.T.O) ได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยวดังนี้ “Tourism comprises the activities of the person traveling to and staying in places outside their usual environment for not more than one consecutive year for leisure, business and other purpose.” จาก ความหมายนี้สรุปได้ว่า การท่องเที่ยว หมายถึง การเดินทางของบุคคลจากที่อยู่อาศัยปกติไปยังที่อื่นเป็นการชั่วคราว (ไม่ มากกว่า 1 ปี ติดต่อกัน) เดินทางด้วยความสมัครใจเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ติดต่อธุระและวัตถุประสงค์ใดๆก็ได้ แต่ไม่ใช่เพื่อ การประกอบอาชีพ หรือหารายได้
  • 10. 5 สานักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (2546) การท่องเที่ยว หมายถึง การเดินทางเพื่อผ่อนคลายความเครียด แสวงหา ประสบการณ์แปลกใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่า การเดินทางนั้น เป็นการเดินทางเพียงชั่วคราว ผู้เดินทางจะต้องไม่ถูกบังคับให้ เดินทาง ไพฑูรย์ พงศะบุตร และวิลาสวงศ์ พงศะบุตร (2542) ได้ให้ความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism) หมายถึง การ เดินทางไปเยือนสถานที่ต่างถิ่นซึ่งไม่ใช่เป็นที่พานักอาศัยประจาของบุคคลนั้น และเป็นการไปเยือนชั่วคราวโดยไม่ใช่เพื่อเป็น การประกอบอาชีพหารายได้ จากคานิยามและความหมายของการท่องเที่ยว (Tourism) ผู้เขียนหลายท่านได้ให้ความหมายไว้ข้างต้นสรุปได้ดังนี้ “การท่องเที่ยว” (Tourism) หมายถึง การเดินทางของมนุษย์จากสถานที่ใดสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง หรือการเดินทาง จากถิ่นพานักที่อาศัยไปยังสถานที่อื่นเป็นการชั่วคราวด้วยความสมัครใจไป และเป็นการเดินทางด้วยเหตุผลของการท่องเที่ยว มิใช่เพื่อการประกอบอาชีพ หรือหารายได้ เช่น การเดินทางเพื่อการพักผ่อน การเดินทางเพื่อไปชมการแข่งขันกีฬา (อาทิ การ แข่งขันกีฬา ซีเกมส์ โอลิมปิก เป็นต้น) การเดินทางเพื่อการศึกษา การเดินทางเพื่อประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเยี่ยม เยือนญาติพี่น้อง หรือเพื่อน การเดินทางเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เป็นต้น จังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีประชากรมาก เป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง เมืองขอนแก่นตั้งอยู่ในจุดที่ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ถนนสาย เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก) ตัดผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางสาคัญในการเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางเข้าไปสู่ ภาคเหนือตอนล่างที่อาเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และเดินทางเข้าสู่ประเทศลาวทางด้านทิศใต้ของลาว อาณาเขตทางทิศ เหนือติดกับจังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลาภู และจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์ ทิศใต้ติดกับจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดนครราชสีมา ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์ สัญลักษณ์ประจาจังหวัด คาขวัญประจาจังหวัด : พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเท่เหรียญทองแรกมวยโอลิมปิก ตราประจาจังหวัด : รูปพระธาตุตั้งอยู่บนตอมะขาม ขนาบสองข้างด้วยต้นไม้ ต้นไม้ประจาจังหวัด : ต้นกัลปพฤกษ์ (Cassia bakeriana) ดอกไม้ประจาจังหวัด : ดอกราชพฤกษ์หรือดอกคูน (Cassia fistula)
  • 11. 6 สัตว์น้าประจาจังหวัด : ปลาพรมหรือปลาตาแดง (Osteochilus melanopleurus) วิสัยทัศน์จังหวัด : ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่มหานครแห่งอาเซียน ลักษณะรูปร่างของจังหวัด : ลักษณะรูปร่างของจังหวัดขอนแก่นมีรูปร่างคล้ายกับไม้ตะขอที่ใช้คล้องช้าง ประวัติศาสตร์ แม้ขอนแก่นจะเป็นบ้านเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีมานี้ก็ตาม แต่ในอดีตกาลยุคก่อนประวัติศาสตร์ ใน บริเวณเขตจังหวัดขอนแก่นเคยมีชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ได้เข้ามาอาศัยก่อนแล้ว เช่น การค้นพบแหล่งโบราณคดีที่บ้านโนน นกทา อาเภอภูเวียง พบว่ามีเครี่องปั้นดินเผาที่มีอายุยาวนาน ต่อมาชุมชนเหล่านี้กลายเป็นเมืองขึ้นในสมัยทวารวดี ก่อนที่ขอม จะมามีอานาจในดินแดนส่วนนี้ เช่น พบแหล่งโบราณคดีที่วัดศรีเมืองแอม อาเภอเขาสวนกวาง ซึ่งปรากฏจารึกศรีเมืองแอมที่ ขอมได้เข้ามามีอานาจในดินแดนส่วนนี้หรือที่ปรากฏเป็นปรางค์กู่ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น ประวัติศาสตร์ พื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจายกันตามพื้นที่ราบสูง ในปี พ.ศ. 2322 ขณะนั้นเมือง เวียงจันทน์ได้เกิดเหตุพิพาทกับกลุ่มของเจ้าพระวอจนถึงกับยกทัพไปตีค่ายของเจ้าพระวอแตกที่บ้านดอนมดแดง (อุบลราชธานี ปัจจุบัน) และจับเจ้าพระวอประหารชีวิต สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถือว่าฝุายเจ้าพระวอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทยจึง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพขึ้นไปตีเวียงจันทน์ จากนั้นจึงได้ยกทัพ กลับมายังกรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธปฏิมากร และพระบางกลับมาถวายแต่สมเด็จพระเจ้า กรุงธนบุรีด้วย เจ้าแก้วบุฮม (แก้วบรม) กับพระยาเมืองแพน (หรือเพี้ยเมืองแพน) สองพี่น้อง ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าแสนปัจจุทุม (ท้าว แสนแก้วบุฮม) ได้ยกกองทัพจากบ้านเพี้ยปูุ เขตแขวงเมืองทุละคม (ธุระคม) ซึ่งขึ้นกับเมืองเวียงจันทน์ในทุกวันนี้ ข้ามแม่น้าโขง มาตั้งถิ่นฐานที่อยู่บ้านโพธิ์ตาก (บ้านโพธิ์ตาก ตาบลบ้านกง อาเภอเมืองขอนแก่น) และบ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (บ้านโพธิ์ศรี ตาบลบ้านโนน อาเภอกระนวน) บ้านโพธิ์ชัย (บ้านโพธิ์ชัย อาเภอมัญจาคีรี) เมืองมัญจาคีรีหรืออาเภอมัญจาคีรี ปรากฏอยู่ใน ทาเนียบมณฑลอุดร กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองขึ้นชื่อเมือง มัญจาคีรี โดยมีจางวางเอกพระยาพฤติคุณธนเชษ (สน สนธิสัมพันธ์) เป็นเจ้าเมืองคนแรกเมื่อ พ.ศ. 2433-2439 เจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระเกษตรวัฒนา (โส สนธิสัมพันธ์) เมื่อ พ.ศ. 2439-2443 และมีปรากฏประวัติเมืองมัญจาคีรีในหนังสือประวัติจังหวัด ในประเทศไทย ในห้องสมุดของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) บ้านสร้าง บ้านชีโหล่น (อยู่ในเขตเมืองสุวรรณภูมิ อาเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดปัจจุบัน) ในปัจจุบัน บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอเมืองขอนแก่น บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอน้าพอง บางบ้านก็อยู่ในเขตอาเภอ อาจสามารถ (จังหวัดร้อยเอ็ด) บางบ้านก็อยู่ในเขตจังหวัดยโสธร บางบ้านก็อยู่ที่อาเภอมัญจาคีรี และบางบ้านก็อยู่ที่อาเภอคา เขื่อนแก้ว (จังหวัดยโสธร) เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองในสมัยหลัง ๆ ต่อมานั่นเอง เจ้าแก้วบุฮมได้อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ชัย พระยาเมืองแพนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบ้านชี โหล่น คุมไพร่พลคนละ 500 คน ขึ้นกับเมืองท่งหรือเมืองสุวรรณภูมิ ครั้นต่อมาอีกราว 9 ปี ในปี พ.ศ. 2331 เพี้ยเมืองแพนก็ได้
  • 12. 7 พาราษฎรและไพร่พลประมาณ 330 คน ขอแยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งบึงบอน ยกขึ้นเป็นเมืองที่ บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ย (ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเพีย ตาบลเมืองเพีย อาเภอบ้านไผ่) บึงบอนหรือดอนพยอมในปัจจุบันได้ตื้นเขินเป็นที่นาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังปรากฏเป็นรูปของบึงซึ่งมีต้นบอนขึ้นอยู่ มากมาย ต่อมาก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น ดังปรากฏข้อความใน พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสานของหม่อมอมรวงศ์วิจิตรว่า เอกสารพงศาวดารอีสานฉบับพระยาขัติยวงศา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด) ได้กล่าวถึงการตั้งเมืองขอนแก่นว่า “...ได้ทราบข่าวว่าเมืองแพน บ้านชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากเมือง สุวรรณภูมิไปขอตั้งฝั่งบึงบอนเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ผู้ว่าราชการเมือง ขอนแก่น...” ขอนแก่นจึงได้ที่มาว่าเป็นเมืองคู่กับมหาสารคามนั้นเอง การย้ายถิ่นฐานเมืองขอนแก่น ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2339 ได้มีการย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่ บ้านหนองเหล็ก (ตาบลแพง อาเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบัน) โดยได้ขอขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานคร คือจะขอ ส่งส่วยต่อกรุงเทพมหานครโดยตรง ไม่ผ่านเมืองสุวรรณภูมิ เพราะให้เหตุผลว่า บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ยอยู่ใกล้กับแขวงเมือง นครราชสีมา ซึ่งก็เป็นจริง เพราะอยู่ใกล้กับเมืองชนบทอันเป็นแขวงเมืองนครราชสีมาอยู่ขณะนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เข้าใจว่าเจ้าเมืองในขณะนั้นอยากจะแยกตัวออกเป็นอิสระ คืออยากจะแยกออกมาเป็นเมืองใหญ่อีกต่างหาก การย้ายเมืองครั้ง นี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคาบัง (บุตรเจ้าแก้วบุฮม) เป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นต่อมา ในปี พ.ศ. 2352 ได้ย้ายเมืองจากบ้านหนองเหล็กไปตั้งเมืองอยู่ที่บ้านดอนพันชาด (เขตตาบลบ้านแพง อาเภอโกสุม พิสัย จังหวัดมหาสารคาม) พระนครศรีบริรักษ์ (คาบ้ง) ได้ถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าราชบุตร (ท้าวคา ยวง) น้องชายของพระนครศรีบริรักษ์ (คาบ้ง) ซึ่งมีความดีความชอบจากการไปราชการสงคราม ขับไล่กองทัพพม่าออกไปจาก เมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น เป็นที่ “พระนครศรีบริรักษ์ บรมราชภักดี ศรีศุภสุนทร” เจ้าเมืองขอนแก่น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2381 เมืองขอนแก่นก็ได้ย้ายจากบ้านดอนพันชาดไป ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งบึงพระลับโนนทอง คือบ้านเมืองเก่า ตาบลในเมือง อาเภอเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า "บ้านโนน ทอง" ต่อมาเมื่อย้ายเมืองไปอยู่ที่นั่น จึงเรียกว่าบ้านเมืองเก่า สาเหตุที่ย้ายเมืองนั้นเล่ากันว่า เกิดการแย่งราษฎรไพร่พลขึ้น และ เกิดแผ่นดินแยกที่ถนนกลางเมือง มีโรคภัยไข้เจ็บผู้คนล้มปุวยกันมาก จึงถือว่าที่ตรงนั้นไม่เป็นมงคลต่อการอยู่อาศัย จึงย้าย เมืองอีกครั้งหนึ่ง จากบึงพระลับโนนทองไปตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกที่บ้านโนนทัน (อยู่ในตาบลพระลับ อาเภอเมืองขอนแก่น ปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2398 พอดีพระนครศรีบริรักษ์ (คายวง) ได้ถึงแก่อนิจกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอินธิวงษ์ บุตรคนเล็กของพระยานครศรีบริรักษ์ เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น เพราะมีวิชาความรู้ดีกว่าพี่ชายคนอื่น ๆ โดยได้รับพระราชทาน บรรดาศักดิ์เป็นพระยาในราชทินนามเดิมของบิดาสืบมา
  • 13. 8 ต่อมาในปี พ.ศ. 2407 ท้าวอินธิวงษ์เจ้าเมืองขอนแก่นได้ถึงแก่อนิจกรรมลงอีก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าว คาบุ่ง (พี่ชายท้าวอินธิวงษ์) ผู้เป็นอุปฮาดแต่เดิมให้เป็นเจ้าเมืองขอนแก่นสืบแทนน้องชายต่อมาอีก 3 ปี เพราะชราภาพมาก แล้ว ในปี พ.ศ. 2410 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอุ (ราชบุตร) ซึ่งเป็นหลานท้าวอินธิวงษ์ (พระยานครศรี บริรักษ์) ขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านโนนทันกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าอีก (บ้านโนนทอง เดิม) พอถึงปี พ.ศ. 2413 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านเมืองเก่าไปตั้งอยู่ที่บ้านดอนบม (บ้านดอนบม ตาบลเมืองเก่า อาเภอ เมืองขอนแก่น) แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวอุ (ราชบุตร) เจ้าเมืองขอนแก่นในขณะนั้น เป็น พระนครศรีบริรักษ์ และให้ท้าวหนูหล้า บุตรคนเล็กของท้าวอินธิวงษ์ เป็นปลัดเมืองขอนแก่น (หรืออุปฮาด) ในปี พ.ศ. 2439 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เปลี่ยนการปกครองหัวเมืองไกลใหม่ โดย เปลี่ยนเป็นบริเวณหัวเมืองลาวฝุายเหนือ ให้เป็นหัวเมืองลาวพวน ดังนั้น เมืองขอนแก่นจึงอยู่ภายใต้การปกครองของเมือง อุดรธานี หรือมณฑลอุดรธานี โดยมีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้ปกครองมณฑล ในสมัยนั้นได้มีสายโทรเลข ที่เดินจาก เมืองนครราชสีมา ผ่านเมืองชนบท เข้าเขตเมืองขอนแก่นข้ามลาน้าชีที่ท่าหมากทัน ตรงไปท่าพระ บ้านทุ่ม โดยไม่เข้าเมือง ขอนแก่น และตรงไปข้ามลาน้าพองไปบ้านหมากแข้งเมืองอุดรธานี ศูนย์กลางมณฑลอุดร กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (ผู้ปกครองมณฑลอุดรธานีในขณะนั้น) ซึ่งเป็นข้าหลวงใหญ่ประจามณฑลอุดรธานีทรงดาริว่า ที่ว่าการเมืองขอนแก่นที่ตั้งอยู่ที่ บ้านดอนบม ไม่สะดวกแก่ราชการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ย้ายเมืองขอนแก่นไปตั้งอยู่ที่บ้านทุ่ม (อาเภอเมืองขอนแก่น ในปัจจุบัน) ในปลาย พ.ศ. 2439 และเปลี่ยนนามตาแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมือง และตั้งชื่อเมืองว่า "ขอนแก่น" จนถึง ปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2440 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานบรรดาศักดิ์ท้าวหนูหล้าปลัดเมืองขอนแก่นเป็นพระ พิทักษ์สารนิคม และในปี พ.ศ. 2441 ก็ได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านทุ่มกลับไปตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเก่าตามเดิม โดยตั้งศาลา กลางขึ้นที่ริมบึงเมืองเก่าทางด้านเหนือ (หน้าสถานีโทรทัศน์ในปัจจุบัน) ด้วยเหตุผลที่ว่า บ้านทุ่มนั้นกันดารน้าในฤดูแล้ง ในปี พ.ศ. 2444 ทางราชการได้เกณฑ์แรงงานของราษฎรที่เคยหลงผิดไปเชื่อผีบุญ-ผีบาป ที่เขตแขวงเมือง อุบลราชธานีในตอนนั้น โดยให้พากันมาช่วยสร้างทานบกั้นน้าขึ้นเป็นถนนรอบบึงเมืองเก่า เพื่อกักน้าไว้ใช้สอยในฤดูแล้ง เพราะบึงนี้เป็นแหล่งน้าที่สาคัญของชาวเมืองขอนแก่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 พระนครบริรักษ์ (อุ นครศรี) เจ้าเมืองขอนแก่น ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ เหตุ เพราะชราภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตาแหน่งพระพิทักษ์สารนิคม (หนูหล้า สุนทรพิทักษ์) ปลัดเมืองขอนแก่น ขึ้นเป็นเจ้าเมืองขอนแก่น และในปีนั้นเอง ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนนามตาแหน่งข้าหลวงประจาเมืองขอนแก่น เป็นข้าหลวงประจาบริเวณพาชี ส่วนเมืองต่าง ๆ ที่ขึ้นต่อนั้น ก็ให้เปลี่ยนเป็นอาเภอ และผู้เป็นเจ้าเมืองนั้น ๆ ก็ให้เปลี่ยนเป็น นายอาเภอ ตาแหน่งอุปฮาดก็เป็นปลัดอาเภอไป แต่ขึ้นตรงต่อเมืองอุดรธานี มณฑลอุดรธานีในขณะนั้น
  • 14. 9 ต่อมาในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกเลิกระบบมณฑลในประเทศ ให้เปลี่ยนคา ว่าเมืองเป็นจังหวัดแทน ตาแหน่งผู้ว่าราชการเมืองจึงกลายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และศาลาว่าการเมืองก็เปลี่ยนมาเป็นศาลา กลางจังหวัด นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาขอนแก่นจึงได้กาเนิดเป็น "จังหวัดขอนแก่น" ที่มาของชื่อขอนแก่น เหตุที่เมืองนี้มีนามว่า เมืองขอนแก่นนั้นได้มีตานานแต่โบราณเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ก่อนที่เพี้ยเมืองแพนจะอพยพ ไพร่พลมาตั้งบ้านตั้งเมืองขึ้นนั้น ปรากฏว่าบ้านขาม หรือตาบลบ้านขาม อาเภอน้าพองปัจจุบัน ซึ่งเป็นเขตแขวงร่วมการ ปกครองกับบ้านชีโล้น มีตอมะขามขนาดใหญ่ที่ตายไปหลายปีแล้ว กลับมีใบงอกงามเกิดขึ้นใหม่อีก และหากผู้ใดไปกระทามิดีมิ ร้ายหรือดูถูกดูหมิ่น ไม่ให้ความเคารพยาเกรง ก็จะมีอันเป็นไปในทันทีทันใด เป็นที่น่าประหลาดและมหัศจรรย์ยิ่งนัก ดังนั้น บรรดาชาวบ้านชาวเมืองในแถบถิ่นนั้นจึงได้พร้อมใจกันก่อเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นเอาไว้เสีย เพื่อให้เป็นที่ สักการะของคนทั่วไป พร้อมกับได้บรรจุพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้า 9 บทเข้าไว้ในเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นด้วย ซึ่ง เรียกว่า พระเจ้า 9 พระองค์ แต่เจดีย์ที่สร้างในครั้งแรกเป็นรูปปรางค์ หลังจากได้ทาการบูรณะใหม่เมื่อราว 50 ปีที่ผ่านมานี้ จึง ได้เปลี่ยนเป็นรูปทรงเจดีย์ และมีนามว่า พระธาตุขามแก่น ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตวัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตาบลบ้านขาม อาเภอน้า พอง จังหวัดขอนแก่น พระเจดีย์ขามแก่นถือว่าเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะมีงานพิธีบวงสรวง เคารพสักการะกันในวันเพ็ญเดือน 6 ทุกปี ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์พระธาตุขามแก่นนั้น มีซากโบราณที่ปรักหักพังปรากฏอยู่ โดยอยู่ห่างจากเจดีย์ ราว 15 เส้น หรืออยู่คนละฟากทุ่งของบ้านขาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริเวณแถบนี้น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองมาก่อน แต่ได้ร้างไป นาน ดังนั้น จึงได้ถือเอานิมิตนี้มาตั้งนามเมืองว่าขามแก่น แต่ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็นเมืองขอนแก่น จนกระทั่งทุกวันนี้ ภูมิประเทศ จังหวัดขอนแก่นมีสภาพพื้นที่ลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกและทิศใต้ บริเวณที่สูงทางด้านตะวันตกมี สภาพพื้นที่เป็นเขาหินปูนตะปุุมตะป่่าสลับกับพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีระดับความสูงประมาณ 200-250 เมตรจาก ระดับน้าทะเล มีภูเขารูปแอ่งหรือภูเวียงวางตัวอยู่ติดอาเภอภูเวียง บริเวณที่สูงตอนกลางและด้านเหนือมีสภาพพื้นที่เป็น เทือกเขา ได้แก่ ภูเก้า ภูเม็ง ภูพานคา เป็นแนวขวางมาจากด้านเหนือ แล้ววกลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ ไหล่เขาด้านนอกมี ความสูงและลาดชันมาก สูงประมาณ 300-660 เมตร ไหล่เขาด้านในมีความลาดชันน้อย มีระดับความสูงประมาณ 220-250 เมตร บริเวณแอ่งโคราช ครอบคลุมพื้นที่ทางด้านใต้จังหวัด สภาพพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีความสูงประมาณ 150-200 เมตร มีบางส่วนเป็นเนิน สูงประมาณ 170-250 เมตร และลาดต่าไปทางราบลุ่มที่ขนานกับลาน้าชี มีความสูง ประมาณ 130-150 เมตร จากนั้น พื้นที่จะลาดชันไปทางตะวันออก มีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาดมีความสูงประมาณ 200- 250 เมตร และค่อนข้างราบ มีความสูงประมาณ 170 -180 เมตร
  • 15. 10 อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลาภู และจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดมหาสารคาม ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์ แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี ศาลหลักเมืองขอนแก่น (Khonkaen) : เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาสุขใจ ถนน เทพารักษ์ หน้าสานักงานเทศบาลนครขอนแก่น ท่านเจ้าคุณปูุพระราชสารธรรมมุนีและหลวงธุรนัยพินิจ อดีตผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น ได้นาหลักศิลาจารึกมาจากโบราณสถานในท้องที่อาเภอชุมแพมาประกอบพิธีตามแนวทางพระพุทธศาสนาทา เป็นหลักเมืองเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ต่อมาเมื่อ ปี 2549 เทศบาลนครขอนแก่น ได้ทาการบูรณะศาลหลักเมือง ขอนแก่น ตามโครงการบูรณะพัฒนาปฏิสังขรณ์ศาลหลักเมืองและในวโรกาสมหามงคลสมัยเพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา โดยผลการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง วิธีพิเศษ ได้ตกลงว่าจ้าง หจก.แก่นชาญกิจวิศวกรรม มาดาเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จและมีการฉลองสมโภชศาลหลักเมือง ขอนแก่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 สิ้นค่าก่อสร้างกว่า 54 ล้านบาท ศาลหลักเมืองขอนแก่นที่ปรับปรุงใหม่นั้น อยู่ ณ บริเวณจุดเดิม ลักษณะตัวอาคารมีศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย ประยุกต์ ทรวดทรงและส่วนประกอบงานศิลป์เป็นการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมที่สาคัญของ ท้องถิ่นอีสาน ขนาดและรูปทรง เป็นเป็นอาคารโถงจัตุรมุข กว้างขวางโอ่โถงกว่าของเดิมมาก โดยมีขนาดตัวอาคาร 13 x 13 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริม เหล็กมีพื้นที่ภายในเป็นห้องโถงรวม 73 ตารางเมตร ย่อมุมตัวอาคารโดยรอบมีระเบียงยื่นทั้ง 4 ด้าน ความสูงจากพื้นลานรอบ อาคารถึงถึงยอดฉัตรทองคารวม 27.50 เมตร หลังคาเป็นทรงจั่วจัตุรมุขหลังคาซ้อน 3 ชั้น และชั้นเครื่องยอดเป็นรูปเจดีย์ ศิลปะพื้นเมืองอีสาน สัณฐานเป็นเจดีย์จาลองจากองค์พระธาตุขามแก่น พระมหาธาตุแก่นนคร: ตั้งอยู่ภายในวัดหนองแวงพระอารามหลวง ถนนกลางเมือง เป็นศิลปะสมัยทวารวดีผสมผสาน ศิลปะอินโดจีน รูปทรงแบบชาวอีสานตากแห มี 9 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีการตกแต่งด้วยลวดลาย แกะสลัก และภาพเขียนอย่างงดงาม เป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวขอนแก่น และเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพเมืองขอนแก่น อนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์: ตั้งอยู่ที่สวน เจ.ซี. ถนนรอบบึง พระนครศรีบริรักษ์หรือท้าวเพี้ยเมืองแพนเป็นขุนนาง เชื้อพระวงศ์กษัตริย์เวียงจันทน์ มีธิดาชื่อนางคาแว่นเป็นสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราช ในปี พ.ศ. 2332 ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้พาสมัครพรรคพวกประมาณ 330 คน อพยพมาอยู่ที่บ้านบึงบอน ขึ้นตรงต่อพระยา นครราชสีมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2340 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟูาจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็น
  • 16. 11 "เมืองขอนแก่น" และยกฐานันดรศักดิ์ท้าวเพี้ยเมืองแพนขึ้นเป็น "พระนครศรีบริรักษ์" พ่อเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่น ใน ปี พ.ศ. 2525 ประชาชนชาวขอนแก่น ได้ร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และเคารพสักการะ ของชาวเมือง น้าส่างสนามบิน: ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าศูนย์ราชการ ตรงข้ามโรงเรียนสนามบินด้านทิศเหนือ เป็นบ่อน้า ประวัติศาสตร์ที่มีมาก่อนที่เมืองขอนแก่นจะมีน้าประปาบริโภค เป็นจุดรวมใจของชาวขอนแก่น เป็นแหล่งน้าที่หล่อเลี้ยงชีวิต ของชาวขอนแก่นในอดีต และให้คุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่ประชาชนชาวขอนแก่นมาเป็นเวลายาวนาน ศาลหลักเมือง (เมืองเก่า) : เป็นศาลหลักเมืองหรือบือบ้านที่ท้าวเพี้ยเมืองแพนได้ตั้งไว้ ณ บริเวณใจกลางหมู่บ้าน เป็นเสาหลักเมืองขอนแก่นหลักแรกก่อนจะมีการย้ายเมืองอีก 5 ครั้ง ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณซอยกลางเมือง 21 ด้านข้างศูนย์ กัลยาณมิตร พระธาตุขามแก่น: พระธาตุขามแก่นตั้งอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 1 ตาบลบ้านขาม อาเภอน้าพอง เป็นปูชนีย สถานของจังหวัดขอนแก่น บ้านขามเคยเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเวลาประมาณ 2000 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 500 บึงละเลิงหวาย อาเภอพล : เป็นบึงขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าละเลิงหวาย และเป็นที่กราบสักการะของคน ไทยเชื้อสายจีน และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ปราสาทเปือยน้อย ตั้งอยู่ที่ อ.เปือยน้อย เป็นปราสาทศิลปะขอมโบราณผสมระหว่างศิลปะเขมรแบบบาปวนและ แบบนครวัด สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์ที่สุดใน เขตภาคอีสานตอนบน นาหลังหมู่บ้านทุ่งน้อย ( นาเช้าสุข ) : เป็นทุ่งนาบริเวณกว้าง อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านทุ่งน้อย ตาบลลอมคอม อาเภอพล จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ถนนกสิกรทุ่งสร้าง เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่เป็นของแถบอีสานตอนเหนือ โดยรอบอาคารพิพิธภัณฑ์จัดตั้งใบเสมาหินที่ได้จาก "เมืองฟูาแดดสงยาง" ไว้เป็น จานวนมาก หอศิลปวัฒนธรรมและอาคารศูนย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น: เป็นแหล่งแสดงศิลปะพื้นบ้านและเป็น สถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ตั้งอยู่ที่ถนนมะลิวัลย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น: โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น ตั้งอยู่ ณ บริเวณชั้นล่างอาคารสวนสาธารณะ 200 ปี บึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น ภายในโฮงมูนมันเมืองขอนแก่น ได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ในส่วนของนิทรรศการ และห้องจาหน่าย ของที่ระลึก สาหรับการจัดนิทรรศการได้แบ่งออกเป็น 5 โซน โดยแบ่งตามเนื้อหาสาระในระบบการปกครอง วิถีชีวิต ภูมิ
  • 17. 12 ปัญญา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจของชาวขอนแก่น นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคสร้างบ้านแปงเมือง จวบจนเป็นเมืองขอนแก่นในปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ประจาท้องถิ่น จังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 4 บ้านสามเหลี่ยม ถนนศรีมารัตน์ เป็นแหล่งศึกษาความรู้สาหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมไปด้วยข้อมูลพื้นฐาน ความรู้ หลักการ ทฤษฎีทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นแหล่งรวบรวมอุปกรณ์เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และการแสดงถึง วิวัฒนาการในการนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง: ตั้งอยู่ในเขตตาบลในเมือง อาเภอเวียงเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา จัดแสดงเรื่องราว เกี่ยวกับการกาเนิดและวิวัฒนาการของโลก ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและกาเนิดและวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบในหุบเขาภูเวียง ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะกับสถานศึกษาและนักท่องเที่ยว ทั่วไป เปิดให้บริการระหว่างเวลา 09.00 - 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทรศัพท์ 043 438-204 บึงทุ่งพึงพืด: ศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น อาเภอพล จังหวัดขอนแก่น เป็นสาขา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทาหน้าที่รวบรวม พรรณไม้ประจาถิ่นและข้อมูลพืชของภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์ทดลอง สาธิตและวิจัยพืชเศรษฐกิจและพืชทนเค็มตลอดจนที่ข้องเกี่ยวโดยร่วมมือกับนักวิจัย จากสถาบันในภูมิภาค ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่และภูมิทัศน์ ให้เป็นสถานที่ศึกษาฝึกอบรมของนักเรียน นักศึกษาจาก สถาบันการศึกษาในภูมิภาคและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติตลอดจนแหล่งสันทนาการและท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ แก่ผู้เข้าเยี่ยมชม ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น: ตั้งอยู่ติดถนนมิตรภาพ ทางไปจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ กิโลเมตรที่ 44-45 ในเขตอาเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับการทาเว็บบล็อก Blog คือ การบันทึกบทความของตนเอง (Personal Korunal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะ ครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การมองโลกของเรา ความคิดเห็นของเราต่อเรื่องต่าง ๆ หรือเป็นบทความ เฉพาะด้าน เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ Blog มาจากคาว่า WeBlog บางคนอ่านว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งหมาดคือ Blog ซึ่งหมายถึง การบันทึกบทความของตนเอง (อาจเป็นอักษร รูปภาพ มัลติมีเดีย) ลงบนเว็ปผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต เพื่อเผยแพร่ให้ ผู้อื่นได้รับทราบ Blog หรือ Web Blog เป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน โดยผู้อ่านสามารถโต้ตอบได้โดย การ comment
  • 18. 13 Web blog BlogGang คือ "Web log" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "blog" ชื่อดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1997 โดยผู้ที่คิดชื่อนี้คือ Jorn Barger "weblog" (เว็บ Blog) หมายถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ที่ผู้สร้างหรือที่เรียกว่า blogger จัดทาขึ้นเพื่อเป็นที่บอกเล่า เรื่องราว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอบทความใหม่ๆ วิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง หรืออื่นๆ ที่ผู้ใช้เห็นว่าน่าสนใจ พร้อมกันนั้น ยังเปิดให้ผู้เยี่ยมชมได้สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ topic ต่างๆ ที่ได้ตั้งขึ้นอีก ด้วย บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคาว่า blog ย่อมาจากคาว่า weblog หรือ weblog โดยคาว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเองในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การ เผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกาลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และ เสียค่าใช้จ่าย สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลาดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่ บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็น เรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จากัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่งBlog ส่วนใหญ่มักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้ เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดูBlog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความ คิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของ เรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบ ของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนาข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือ ประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่า จะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทาตัวเป็น PR ให้กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย WordPress WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปที่มีไว้เพื่อสร้างและจัดการเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต ( Contents Management System หรือ CMS) กล่าวคือ แทนที่เราจะดาวโหลดโปรแกรมมาทาการสร้างและออกแบบเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของ เราอย่างเช่น Macromedia Dreamwaver, Microsoft Fontpage (มีใครทันรึเปล่า) เป็นต้น แต่ CMS นั้นถูกสร้างมาเพื่อใช้ งานบนอินเตอร์เน็ตโดยตรง หมายความว่าเมื่อคุณจะใช้งานโปรแกรมนี้ คุณก็สามารถใช้ได้ทันทีผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คุณ ล็อกอินเข้าสู่ระบบจัดการของ CMS นั้นๆ บางคนอาจจะคุ้นหูกับ cms เจ้าอื่น เช่น joomla, simple machines, open cart, magento เป็นต้น
  • 19. 14 WordPress WordPress เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ Apache, MySQL และ PhpMyAdmin ในการรันเป็นเซิฟเวอร์ คุณ สามารถลองใช้โปรแกรม DesktopServer เพื่อจาลองเซิฟเวอร์สาหรับติดตั้งและใช้งาน WordPress ได้ เพราะ WordPress นั้นจะรันอยู่บนฝั่งเซิฟเวอร์ เราจึงต้องมีเครื่องมือจาลองเซิฟเวอร์ WordPress Core คือ ตัวขับเคลื่อนหลัก เปรียบเสมือนเครื่องยนต์หลักของรถทุกคัน โดยเราสามารถดาวน์โหลด WordPress เวอร์ชั่นล่าสุดได้ที่ WordPress.org และ th.wordpress.org สาหรับเวอร์ชั่นภาษาไทย Themes เป็นส่วนแสดงผลภายนอก แล้วยังมีฟังชั่นเสริมต่างๆ มาด้วย เปรียบเสมือนดีไซน์ของรถซึ่งแต่ละบริษัทก็จะออกแบบ มาแตกต่างกัน มีฟังชั่นพิเศษต่างกัน มีทั้งธีมฟรีและธีมแบบพรีเมี่ยม เราสามารถดาวน์โหลดธีมฟรีได้จาก https://wordpress.org/themes/ ซึ่งเป็นแหล่งรวมธีมจากนักพัฒนาทั่วโลกส่งธีมของตัวเองขึ้นไปใ้เราสามารถติดตั้งใช้ได้ฟรี จากหน้าควบคุมของ WordPress เลย หรือใช้ Google ในการเสริช WordPress Free Theme แล้วตามด้วยประเภทของธีม ที่ต้องการ เช่น WordPress Free Fashion Theme เป็นต้น สาหรับเว็บที่ทาธีมแบบพรีเมี่ยมมาขายก็มีเยอะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีตลาดธีมที่ใหญ่ที่สุด คือ Themeforest.net ที่มีธีมมากกว่า 6,000+ ธีม ให้เราเลือกซื้อและดาวน์โหลด ข้อ แตกต่างระหว่างธีมฟรีและพรีเมี่ยมนั้น นอกจากในเรื่องของฟังชั่นเสริมแล้ว ยังมีในเรื่องของการซัพพอร์ตจากคนเขียนธีม การ อัพเดต ที่ธีมแบบพรีเมี่ยมจะให้ได้มากกว่า Plugins คือ ส่วนเสริมของ WordPress ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเว็บ เปรียบเสมือนการอัพเกรดเครื่องยนต์ให้ทางานใน แบบที่เราต้องการ หรือแม้แต่ดัดแปลงการสาหรับการใช้งานเฉพาะด้าน เช่น การใช้ปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อสร้าง ร้านค้าขายสินค้าออนไลน์ ธีมพรีเมี่ยมมักจะมีฟังชั่นเสริมมากมายทาให้เราลดการติดตั้งปลั๊กอินลงไป เพราะการติดตั้งปลั๊กอิน มากๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องดี เพราะเมื่อมีการอัพเกรดในบางครั้งก็อาจจะมีการกระทบกับการทางานกับส่วนอื่นๆ ทั้งกับธีมหรือปลั๊ก อินด้วยกันเอง Plugins ที่ใช้ในการพัฒนา : Google Map, Google Maps Easy, Hello Dolly, WP Google Maps, Akismet Xampp Xampp คือโปรแกรมสาหรับจาลองเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเรา ให้ทางานในลักษณะของ WebServer นั่นคือเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะเป็นทั้งเครื่องแม่ และเครื่องลูกในเครื่องเดียวกัน ทาให้ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Internet คุณก็ สามารถทดสอบเว็บไซต์ที่คุณสร้างขึ้น ได้ทุกที่ทุกเวลา ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้ใช้ CMS ในการสร้างเว็บไซต์