SlideShare a Scribd company logo
1 of 27
Download to read offline
รายงาน
           หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต

                       จัดทาโดย
          นางสาวชญานิศ จีนาภักดิ์ เลขที่ 3
         นางสาวประภัสสร แก้วนวล เลขที่ 5
        นางสาวนัฐฐินันท์ คาลือปลูก เลขที่ 20
         นางสาวอรทัย เนียมตระกูล เลขที่ 23
                       ชั้น ม.5/4
              คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
                         เสนอ
  รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
            ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
คานา
         รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศได้จัดทาขึ้นในหัวข้อของหน่วยกาสร
เรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทต่อการศึกษา ธุรกิจ
และการสื่อสารของมนุษย์ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
การค้นหาข้อมูล ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์ และการ
ขนถ่ายไฟล์ เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูล
และโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ โดยภาษา HTML ซึ่ง
กลุ่มข้าพเจ้าก็ได้ตังใจทาเป็นอย่างยิง หวังว่าผู้ศึกษาคงได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้
รายงานผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
สารบัญ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต

-ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต                       1

-เว็บเบราว์เซอร์                                           2-3

-ความรู้เกี่ยวกับ IE                                       4-5

-ส่วนประกอบ ต่างๆของ Internet Explorer                     6-7

-การใช้งาน IE                                              7-10

-การใช้งานอินเทอร์เน็ต                                     10

         -การค้นหาข้อมูล                                   10-11

         -ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์                           11-13

         -พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์                            13-16

         -การสนทนาออนไลน์                                  16-17

         -การขนถ่ายไฟล์(file transfer protocol)            18-19

-คาถาม                                                     20-22
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
        อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จานวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol) เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์
ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถ
สืบค้นข้อมูลข่ายสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว การใช้งานอินเทอร์เน็ตผู้เชื่อมต่อ
จะต้องมีฮาร์ดแวร์ส่งเสริมการทางานด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ สายนาสัญญาณ (UTP Cable) การ์ดแลน
(LAN:Local Area Network) และโมเด็ม (Modem) ติดตั้งเพิ่มเติมที่คอมพิวเตอร์ นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว
คอมพิวเตอร์ยังต้องติดตั้งซอฟแวร์สาหรับเปิดเว็บไซต์ต่างๆเรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์

ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
         เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกาเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ              (สหรัฐอเมริกา )
กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ต้องการ
ทาให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทางานได้
ด้วยตัวเอง โดยไม่จาเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล           หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุ ธ
นิวเคลียร เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง            อาจทาให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วน
ถูกทาลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้            ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย
และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น            เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency)
และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต ” (Internet)ใน
ปัจจุบัน
เว็บเบราว์เซอร์
         เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้
สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษา
เอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดย
โปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า
เวิลด์ไวด์เว็บ
ประโยชน์ของ Web Browser
         สามารถดูเอกสารภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ อย่างสวยงามมีการแสดงข้อมูลในรูปของ ข้อความ
ภาพ และระบบมัลติมีเดียต่างๆ ทาให้การดูเอกสารบนเว็บมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้อินเตอร์เน็ต
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นในปัจจุบัน ปัจจุบัน web browser ส่วนใหญ่จะรองรับ html 5 และ อ่าน
css เพื่อความสวยงามของหน้า web page ปัจจุบันมีเว็บเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น
Safari,Netscape,Firefok,Google Chromeเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ที่เป็นที่นิยมอย่า งแพร่หลาย
ได้แก่

   Internet Explorer
   Mozilla Firefox
   Google Chrome
   Safari
เวิลด์ไวด์เว็บ เว็บเบราว์เซอร์ตัวแรกของโลก




         ตัวอย่าง เว็บเบราว์เซอร์
IE หรือ Microsoft Internet Explorer
     Microsoft Internet Explorer หรือ IE คือ โปรแกรมเบราเซอร์ โปรแกรมหนึ่ง (ซึ่งสาหรับคนที่ใช้
ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นรู้จักกันดี เพราะเป็นเบราเซอร์ที่มาจากค่ายเดียวกั บ windows นั้นเอง) ใช้ใน
การท่องInternet เป็น Application Software ที่ผลิตโดยบริษัท Microsoft และพัฒนามาต่อเนื่องจนถึงเวอร์ชั่น
ล่าสุด นั้นคือ IE8 สามารถหาดาวน์โหลดได้ที่                 http://windows.microsoft.com/th-TH/internet-
explorer/products/ie/home




                            ตัวอย่าง IE หรือ Microsoft Internet Explorer
ความรู้เกี่ยวกับ IE
       IE เป็นโปรแกรมเบราว์เซอร์ที่ใช้งานง่าย รูปแบบและหน้าต่งคล้ายกับซอฟแวร์อื่นๆของบริษัท
ไมโครซอฟท์ และผู้ใช้ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ด้านภาษาคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการใช้งานดังนี้

   วิธีเปิดโปรแกรม Internet Explorer และเว็บไซต์ที่ต้องการ

           1.    คลิกที่ปุ่ม Start
           2.    เลือกเมนู Program
           3.    คลิกเลือกโปรแกรม Internet Explorer
           4.    ปรากฏหน้าเว็บไซต์ที่เป็นหน้าแรก
           5.    พิมพ์ URL หรือเว็บไซต์ที่ต้องการในช่อง Address




                      ตัวอย่างวิธีเปิดโปรแกรม Internet Explorer และเว็บไซต์ที่ต้องการ
หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ เลือกที่ไอคอน ที่หน้า Desktop ก็จะปรากฏหน้าเว็บเช่นกัน จากนั้นก็สามารถระบุ
URL หรือชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการลงในช่อง Address ได้เลย ทั้งนี้ไม่จาเป็นต้องพิมพ์ http:// นาหน้า เพราะ
โปรแกรมจะจัดเตรียมและตั้งค่าไว้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนประกอบ ต่างๆของ Internet Explorer




                                ภาพส่วนประกอบของ Internet Explorer
            หลังจากที่เปิด Internet Explorer เรามาทาความรู้จักส่วนประกอบดังนี้
    หมายเลข 1 เมนู ใช้เรียกคาสั่งการทางาน
    หมายเลข 2 แถบเครื่องมือ ใช้งานแทนคาสั่งที่ใช้บ่อย ๆ
    หมายเลข 3 ช่อง Address เป็นส่วนที่แสดงตาแหน่งที่อยู่ของเว็บเพจ หรือ ที่เรียกว่าเวบไซต์ เข้าสู่
    โฮมเพจต่าง ๆ
    หมายเลข 4 พื้นที่แสดงเอกสาร เป็นพื้นที่แสดงเอกสาร
หมายเลข 5 แถบเลื่อน ใช้เลื่อนอ่านข้อความของเอกสารซึ่งเอกสารไม่ สามารถแสดงได้หมดในหน้า
        เดียว
        หมายเลข 6 แถบแสดงสถานะ แสดงการรับข้อมูล (Load) จากเว็บไซต์เข้ามา

        หมายเลข 7 แถบไตเติ้ลบาร์ บอกให้เราทราบว่ากาลังทางานอยู่ ณ โปรแกรมใด
        หมายเลข 8 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับปิดโปรแกรม
        หมายเลข 9 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับขยาย/ย่อโปรแกรม
        หมายเลข 10 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับย่อโปรแกรมเก็บไว้ที่ TASKBAR

แถบเครื่องมือ




                การใช้งาน IE

        IE หรือ Internet Explorer เป็นซอฟต์แวร์ สาหรับใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต หรือมักจะนิยมเรียกว่า

Browser ที่มีมาพร้อมกับ Windows ทุกรุ่น โดยที่หากเป็น Windows98 Thai ก็จะมี IE4.0 แถมมาด้วย หากเป็น

Windows98 SE ก็จะเป็น IE5.0 และถ้าเป็น WindowsMe ก็จะมี IE5.5 แถมมาให้ ดังนั้น หากคิดจะเล่น
อินเตอร์เน็ตด้วย IE แล้วละก็ มาดูเทคนิค พื้นฐานเบื้องต้น ที่ควรจะรู้ไว้ ในการใช้ IE ให้เต็มความสามารถ
เมนู ปุ่ม และคาสั่งในเบื้องต้น
      การใช้งาน IE ในเบื้องต้นก็คงจะไม่มีอะไรมากนัก คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะพอรู้กันอยู่บ้างแล้ว เอาเป็นว่า
ผมจะทบทวนหลัก ๆ อีกครั้ง จากหน้าตาของ IE ที่คุ้นเคยกันดังนี้




หน้าที่ของปุ่มต่าง ๆ

                 ปุ่ม Back ใช้สาหรับย้อนกลับไปหน้าที่ผ่านมาแล้ว


                 ปุ่ม Forward ใช้สาหรับเปลี่ยนไปหน้าต่อไป (หลังจากที่ย้อนกลับมา)


                 ปุ่ม Stop ใช้สาหรับหยุดการโหลดข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้น
ปุ่ม Refresh ใช้สาหรับการเรียกโหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจใหม่อีกครั้ง


                  ปุ่ม Home ใช้สาหรับกลับไปหน้าแรกหรือกลับไปที่ URL ที่ตั้งไว้ให้เป็นหน้าแรก


                  ปุ่ม Search ใช้สาหรับค้นหาเว็บไซต์


                  ปุ่ม Favorites ใช้สาหรับเลือกเว็บไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark


                  ปุ่ม History ใช้สาหรับการย้อนกลับไปดูเว็บไซต์ที่เคยเข้าไปดูมาแล้ว


                  ปุ่ม Mail ใช้สาหรับการ รับ-ส่ง อีเมล์


                  ปุ่ม Print ใช้สาหรับการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์


                  ปุ่ม Edit ใช้สาหรับการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น ๆ

เทคนิคการใช้งาน IE ที่ควรทราบ
         1. การกดปุ่ม เมาส์ขวา เพื่อเรียกเมนูใช้งานอย่างรวดเร็วได้ เช่นการเก็บรูปภาพ การเปิดหน้าต่างใหม่
หรืออื่น ๆ

        2. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้ก่อนใช้เมาส์กดลิงค์ จะเป็นการบังคับให้เปิดลิงค์ในหน้าต่างใหม่ไปในตัว

       3. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้พร้อมกับการกดที่ปุ่ม Refresh จะเป็นการเรียกข้อมูลโ ดยตรงไม่เรียกจาก
Proxy Server

        4. การกดปุ่ม ALT + ปุ่มลูกศร ซ้าย หรือ ขวา จะเป็นการเรียกใช้เมนู Back หรือ Forward ได้เช่นกัน
5. การกดปุ่ม Ctrl + N เป็นการเปิดหน้าต่างใหม่เพิ่มขึ้นมา

        6. หากพบภาพที่ถูกใจ สามารถตั้งให้เป็น         Wall Paper ได้ทันทีโดยกดปุ่มเมาส์ขวา          เลือกที่
Set as wallpaper

         7. เราสามารถส่งหน้าเว็บเพจที่กาลังดูผ่านทางอีเมล์ ได้โดยการเลือกที่ File >> Send โดยจะส่งเป็นลิงค์
หรือทั้งหน้าก็ได้

        8. ก่อนการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์ ควรจะเลือกที่ Print Preview เพื่อดูรูปแบบต่าง ๆ เสียก่อน

        9. การค้นหาข้อความในหน้าเว็บเพจ สามารถใช้เมนู Edit และ Find (on This Page) หรือกด Ctrl + F ได้

       10. การกาหนดขนาดของหน้าต่างที่เปิดใหม่ ทาโดยขยายขนาดของหน้าต่างที่เพิ่งเปิด ให้มีขนาดตาม
ต้องการและกดปิด

         11. ควรจะทาการอัพเกรด IE ให้เป็นเวอร์ชัน 5.50 built 4134.0600 หรือสูงกว่านี้เพื่อการใช้งานที่เสถียร
ขึ้น (มาก ๆ)

                การใช้งานอินเทอร์เน็ต
        อินเทอร์เน็ต (Internet)เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทต่อการศึกษา ธุรกิจ และการสื่อสารของ
มนุษย์ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่    การค้นหาข้อมูล ไปรษณีย์
อิเลบ็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์ และการขนถ่ายไฟล์

                การค้นหาข้อมูล
         การค้นหาข้อมูล (Search)เป็นการใช้งานขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องปฎิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากข้อมูลในรูปแบบของข้อความ ภาพ เสียง
หรือสื่อมัลติมีเดียแล้วยังรวมถึงการค้นหาเว็บไซต์หรือ เว็บเพจต่างๆที่อยู่บนอินเทอร์เน็ ต เพราะผุ้ใช้งาน
อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่สามารถจาที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ตนเอ งต้องการเชื่อมโยงได้ ปัจจุบันการค้นหาข้อมูลใน
อินเทอร์เน็ตสามารถทาได้ด้วยการใช้บริการของเซิร์ชเอนจิ้น(Search Engine)ต่างๆเช่น http://www.google.com
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูล

                ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
          ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail:Electronic Mail)เป็นบริการในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สาคัญที่
มีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบเครือข่า ย
คอมพิวเตอร์ไปยังผู้รับ อาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคนโดยทั้งที่ผู้ส่ งและผู้รับเป็นผู้ใช้ที่อยู่ในระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์เดียวกัน                                    ช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสาร
ระหว่างกันได้ทั่วโลก มีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องคานึงถึงว่าผู้รับ
จะอยู่ที่ไหน จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะเก็บข้อความเหล่านั้นไว้

          เมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบเครือข่าย ก็จะเห็นข้อความนั้นรออยู่แล้วความสะดวกเหล่านี้ ทาให้นักวิชาการ
สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารถึงกันและกัน นักศึกษาสามารถปรึกษา หรือฝึกฝนทักษะกับอาจารย์ หรือ
เพื่อนนักศึกษาด้วยกันเอง โดยไม่ต้องคานึงถึงเวลา และระยะทาง โดยผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไม่ว่าจะ
อยู่ตรงส่วนใดของมุมโลก
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่เหมาะสมในการเรียนรู้ และช่วยขจัด ปัญหาในเรื่อง
ของเวลา และระยะทาง ผู้เรียนจะรู้สึกอิสระและกล้าแสดงออกมากกว่าปกติ ตลอดจนสามารถเข้าถึงผู้เรียนเป็น
รายบุคคลได้เป็นอย่างดี ในยุคสารสนเทศดังเช่นปัจจุบัน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะมีบทบาทสาคัญ
ในการพัฒนาสังคมให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นรูปแบ บการสื่อสารที่
ทันสมัย รูปแบบหนึ่งที่มีความ สาคัญ คือ

   1. ทาให้การให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วทันที ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค สาหรับ
      ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ในทุกแห่งทั่วโลกที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อถึงกันได้ ไปรษณีย์
      อิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถเข้ าไปสถานที่เหล่านั้นได้ทุกที่ ทาให้ผู้คนทั่วโลกติดต่อถึงกันได้ทันที ผู้รับ
      สามารถจะรับข่าวสารจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ได้แทบจะทันทีที่ผู้ส่งจดหมายส่งข้อมูลผ่านทาง
      คอมพิวเตอร์เสร็จสิ้น
   2. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับที่ต้องการได้ทุกเวลา แม้ผู้รั บจะไม่ได้อยู่ที่ หน้าจอ
      คอมพิวเตอร์ก็ตาม จดหมายจะถูกเก็บไว้ในตู้จดหมายของคอมพิวเตอร์และเป็นส่วนตัว จนกว่าเจ้าของ
      จดหมายที่มีรหัสผ่านจะเปิดตู้จดหมายของตนเอง
   3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลา
      ส่งให้ทละคน กรณีนี้จะใช้กับจดหมายที่เป็นข้อความเดียวกัน เช่น หนังสือเวียน แจ้งข่าวให้สมาชิกใน
              ี
      กลุ่มทราบหรือเป็นการนัดหมายระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เป็นต้น
   4. การส่งจดหมายทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่ง จดหมายถึงตู้
      ไปรษณีย์ หรือที่ทาการไปรษณีย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง เนื่องจากไม่ต้องคานึงถึงปริมาณน้าหนัก
      และระยะทางของจดหมายเหมือนกับไปรษณีย์ธรรมดา
   5. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น ผู้รับจดหมายสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก โปรแกรม
      ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะแสดงให้ทราบว่าในตู้จดหมายของผู้รับมี จดหมายกี่ฉบับ มีจดหมายที่
      อ่านแล้ว และยังไม่ได้เรียกอ่านกี่ฉบับ เมื่ออ่านจดหมายฉบับใดแล้ว หากต้องการลบทิ้ง ก็สามารถเก็บ
      ข้อความไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลได้ หรือจะพิมพ์ออกมาลงกระดาษก็ได้เช่นกัน หรืออาจแก้ไข้ข้อความ
      บางอย่างในจดหมายนั้น จากจอภาพแล้วส่งต่อไปยังผู้อื่นได้ด้วย
   6. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล (Transferring Files) แนบไปกับจดหมายถึงผู้รับ
      ได้ทาให้การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปได้โดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์
จากความสาคัญของไปรษณีย์อิเล็กทรอ นิกส์ ที่สามารถอานวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่านี้
ทาให้ในปัจจุบันไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสานักงานทุกแห่งทั่วโลก และในที่สุด
เมื่อทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ใช้ สมาชิกในชุมชนโลกก็จะสามารถติดต่อกันผ่านทางคอมพิวเตอร์ การทางานตาม
สานักงานหรือสถานที่ต่างๆ จะถูกเปลี่ยนไปสู่การทางานที่บ้านมากขึ้นโดยการรับส่งงานทางคอมพิวเตอร์




                                ตัวอย่างเว็บไซต์ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

               พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
         พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce: Electronic Commerce)พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทาง
การค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทาง
อินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทาธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้
มากมายหลายประการ ได้แก่
1. ทาการค้า ได้ตลอด 24 ชั่งโมง และขายสินค้าได้ทั่วโลก นักท่องอินเตอร์เน็ตจากทั่วทุกมุมโลก
สามารถเข้ามาในเว็บไซต์ของบริษัทได้ตลอดเวลาผู้ขายสามารถนาเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ
ได้อย่างรวดเร็ว โดยคาสั่งซื้ออาจเกิดขึ้นตลอด                24     ชั่วโมงและมาจากที่ต่างๆกัน
        2. ข้อมูลทันสมัยอยู่เสมอ และประหยัดค่าใช้จ่าย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นั้นมีประโยชน์ที่สาคัญ
มากอีกประการหนึ่ง คือสามารถ เสนอข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าได้ทันทีซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ในการจัดพิมพ์เอกสาร และประหยัดเวลาในการประชาสัมพันธ์

         3. ทางานแทนพนักงานขาย และเพิ่มประสิทธิภาพการขาย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถทางาน
แทนพนักงานขายของคุณได้ โดยสามารถทาการค้าในรูปแบบอัตโนมัติ และดาเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็น
การเพิ่มประสิทธิภาพในการดาเนินการทางธุรกิจภายในองค์กรนั้นๆ

        4. แทนหน้าร้าน หรือบู ทแสดงสินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงสินค้าที่มีอยู่ให้กับลูกค้า
ทั่วโลกได้มองเห็นสินค้าของคุณ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตกแต่งหน้าร้าน หรือในการเดินทางออกไปใน
บูทแสดงสินค้าในที่ต่างๆ

 5. เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น      ปัจจุบันมีเทคโ นโลยีใหม่ๆมาช่วยในการ
ทาให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น     การแสดงสินค้าโดยผู้ชมสามารถดูสินค้าได้    180 องศา
หรือลูกค้าสามารถอ่านหัวข้อของหนังสือที่ต้องการซื้อก่อนได้

         6. ง่ายต่อการชาระเงิน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถชาระเงินได้อย่างสะดวกสบายโดยวิธีการตั ด
ผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงินเข้าบัญชีซึ่งจะเป็นระบบอัตโนมัติ
       7. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ในโลกพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บริษัทขนาดเล็กสามารถมีโอกาสทางธุรกิจ
เทียบได้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง         เป็นต้นว่า ชื่อ URL ของบริษัท
ควรจะจาง่าย การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามและปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ การสั่งซื้อและการชาระเงิน
มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เป็นต้น

         8. สร้างความประทับใจและพึงพอใจได้มากกว่าปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตทาได้
อย่างง่ายดาย สินค้าและบริการมีให้เลือกมากมายทาให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง และเสียเวลาไปกับ
การค้นหาสินค้าและบริการที่ต้องการ       ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วที่สุด      เช่น
ถ้าลูกค้าต้องการซื้อของตกแต่งบ้านจากเว็บไซต์       Bangpa-in.com ลูกค้าสามารถจะค้นหาสิน ค้าจาก
ประเภทของสินค้า หรือค้นหาตามรูปแบบที่ต้องการได้         ในกรณีที่ลูกค้าสั่งสินค้าและได้ให้รายละเอียด
ส่วนตัวไว้ ร้านค้าสามารถ บันทึก รายละเอียดของลูกค้าไว้ในฐานข้อมูลของเราเพื่อความสะดวกของลูกค้า
ในการสั่งซื้อสินค้าครั้งต่อไป (Member System)

            9. รู้และแก้ปัญ หาต่างๆได้ทันท่วงที พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถให้บริการหลังการขายได้เช่นกัน
โดยใช้ประโยชน์จากอีเมล์ในการติดต่อลูกค้า            การสร้างแบบสอบถามลูกค้าเพื่อสอบถามความพึงพอใจ
ต่อสินค้าและบริการทาให้ร้านค้าสามารถนาข้อมูลเหล่านี้มาแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ได้ดียิ่งขึ้นและทันท่วงที


พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 2 รูปแบบคือ 1.เว็บไซต์ที่ผู้ขายสร้างเอง 2.เว็บไซต์ที่ให้บริการฝากขายสินค้า




                     ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ผู้ขายสร้างเอง

                การสนทนาออนไลน์
        การสนทนาออนไลน์(Chat)การสนทนาออนไลน์ เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ
คุยโต้ตอบกับผู้ใช้คน อื่น ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน (real-time) การสนทนาหรือ chat (Internet Relay Chat หรือ
IRC)ได้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการสนทนาระหว่างบุคคลหรือ             กลุ่มบุคคลสามารถใช้
ภาพกราฟิก ภาพการ์ตูนหรือภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ แทนตัวผู้สนทนาได้ นอกจากการสนทนาแล้ว ผู้ใช้ยัง
สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและไฟล์ได้อีกด้วย

      การใช้งาน IRC ผู้ใช้จะต้องติดต่อไปยังเครื่องที่เป็นไออาร์ซีเซิร์ฟเวอร์ (IRC server) ที่มีการแบ่งห้อง
สนทนาเป็นกลุ่ม ๆ ที่เรียกว่า แชนแนล (channel) โดยผู้ใช้จะต้องมีโปรแกรมเพื่อใช้สาหรับการสนทนา (ซึ่ง
สามารถดาวน์โหลดฟรีจากอินเทอร์เน็ต) เมื่อผู้ใช้ติดต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้แล้ว ก็จะเลือกกลุ่มสนทนาหรือ
หัวข้อสนทนาที่สนใจ และเริ่มสนทนาได้ตามความต้องการ ตัวอย่าง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่นิยมใช้กัน
ในปัจจุบัน เช่น ICQ(I Seek You) และ mIRC
การสนทนาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันผู้ใช้สามารถใช้สื่อประสม
(multimedia) ประกอบด้วย เสียงพูด และภาพเคลื่อนไหว โดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไมโครโฟน ลาโพง กล้อง
วีดีโอ และอื่น ๆ เพื่ออานวยความสะดวกและเพื่อประสิทธิภาพของการสนทนา ให้ดียิ่ งขึ้น ในส่วนของ
โปรแกรม ได้มีการพัฒนาโปรแกรมเพื่อการสนทนาออนไลน์ที่มีคุณภาพ เช่น โปรแกรม Microsoft NetMeeting
ที่สามารถสนทนากันไปพร้อม ๆ กับมองเห็นภาพของคู่สนทนาได้ด้วย

ประโยชน์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ผู้เกิดปัญหาสามารถปรึกษากลุ่มเพื่อน เมื่อมีผู้เข้ามาพบ
มาอ่านและอยากใส่ข้อความโต้ตอบก็สามารถพิมพ์ลงไปได้ โดยจะมีการเก็บเอาไว้ภายใต้หัวข้อเดีย วกันบน
เซิร์ฟเวอร์ในระยะเวลาหนึ่                     โทษ ของเว็บบอร์ดจะเป็นข้อความที่ให้ร้าย ใส่ร้าย ประสงค์ร้ายกับ
ผู้อื่น หรือสิ่งนั้น ๆ ผู้อ่านจะต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความที่ผู้อื่นโพสท์มา




                               ตัวอย่างซอฟแวร์ที่ใช้สาหรับสนทนาออนไลน์
การขนถ่ายไฟล์(file transfer protocol)
          การขนถ่ายไฟล์ FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol เป็นบริการรับส่งไฟล์ (file) ระหว่างเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ftp server เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทาหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ ftp บริการของ ftp มีอยู่สองอย่างด้วยกันคือ
download เป็นบริการรับไฟล์หรือก๊อปปี้ไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น ftp server มายังเครื่องคอมพิวเตอร์
ของท่าน upload เป็นบริการส่งไฟล์หรือก๊อปปี้ไฟล์จากเครื่องคอมพิวเ ตอร์ของท่านไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่
เป็น ftp server บริการ ftp มักนามาใช้ประโยชน์ในเรื่องของ Freeware และ Shareware Freeware
หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิตแจกให้ใช้ฟรี ส่วน Shareware หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิตแจกให้ลองไปใช้ดูก่อน
และเมื่อใช้แล้วพอใจจะนาไปใช้จริงก็ค่อยส่งเงินมาชาระทีหลัง ถ้าไม่นาไปใช้จริงก็ไม่ต้องส่งเงินมาชาระ ผู้ผลิต
Freeware และ ผู้ผลิต Shareware จะทาการส่งซอฟต์แวร์ของตนเองที่ต้องการแจกจ่ายไปไว้ที่คอมพิวเตอร์ที่เป็น
ftp server และใครก็ตามที่สนใจจะลองนาไปซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตไปใช้ดูก็ให้ไปทากา ร download จาก
คอมพิวเตอร์ที่เป็น ftp server เครื่องนั้นมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ในบางกรณีถ้าท่านมีข้อมูลที่
น่าสนใจและต้องการเผยแพร่ ท่านก็สามารถส่งข้อมูลนั้นไปไว้ที่ ftp server ได้ ตัวอย่าง ftp server เช่น
ftp.chula.ac.th เอฟทีพีเป็นโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งปกติแล้วผู้ที่เข้ามาขนถ่ายไฟล์ได้จะต้องมีชื่อ
เป็นผู้ใช้อยู่บนเครื่องนั้น ๆ แต่ก็มีเครือข่ายหลายแห่งที่ให้บริการขนถ่ายไฟล์ได้โดยไม่จาเป็นต้องมีชื่อผู้ใช้อยู่บน
เครื่องนั้น คือให้บริการสาธารณะแก่ผู้ใช้ทั่วไปเข้ามาขนถ่ายไฟล์ได้โดยการติดต่อ กับโฮสต์ด้วยชื่อ anonymous
ข้อมูลที่ให้บริการถ่ายโอนไฟล์ได้มีหลายรูปแบบ เช่น ข่าวประจาวัน บทความ ข้อมูลทางสถิติ หรืออาจจะเป็น
ซอฟต์แวร์ที่ทางานบนระบบวินโดว์ ดอส ยูนิกส์ หรือแม้แต่แมกอินทอช โดยที่ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะมีทั้งที่เป็น
ฟรีแวร์ และแชร์แวร์ ที่ให้ทดลองใช้งานก่อน หากพอใจจึงลงทะเบียนกับทางเจ้าของแชร์แวร์เพื่อรับบริการ
เพิ่มเติมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมากศูนย์บริการต่าง ๆ จะมีไฟล์ชื่อ หรือ หรือไฟล์ที่มีชื่อในทานองเดียวกันนี้ ซึ่งจะ
ให้รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการขนถ่ายไฟล์ ผู้ใช้ควรอ่านไฟล์เหล่านี้ก่ อนเพื่อให้สามารถขนถ่ายไฟล์ที่
ต้องการได้ถูกต้อง การบริการขนถ่ายไฟล์เป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในปัจจุบันมีศูนย์ขนถ่ายไฟล์
เกิดขึ้นจานวนมาก ศูนย์บางแห่งก็มีผู้เข้ามาใช้บริการจานวนมากจนไม่สามารถรองรับผู้ขอเข้าใช้ได้ทั้งหมด
จนกระทั่งมีการกระจายเป็นศูนย์กระจกเงา ไปยังหลาย ๆ จุด หรือหลาย ๆ ประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกใช้บริการ
จากศูนย์ที่อยู่ใกล้ตนเองที่สุด อันจะเป็นการลดภาระการขนถ่ายไฟล์ระยะไกลของเครือข่ายโดยรวมลง
ตัวอย่างซอฟแวร์ที่ใช้ขนถ่ายไฟล์
คาถาม
1.เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกาเนิดขึ้นในยุคใด

        ก.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(ญี่ปุ่น) กับรัสเซีย

        ข.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(จีน) กับรัสเซีย

        ค.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(อาหรับ) กับรัสเซีย

        ง.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(สหรัฐอเมริกา) กับรัสเซีย

2.เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เรียกว่าอะไร

        ก.เวิลด์ไวด์เว็บ

        ข.เซิร์ฟเวอร์

        ค.เว็บเพจ

        ง.คลังข้อมูล

3. Internet Explorer เป็นซอฟต์แวร์ สาหรับใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต หรือมักจะนิยมเรียกว่า

        ก. Forward

        ข. Browser

        ค. Refresh

        ง. History
4.ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด

       ก.เครือข่ายคอมพิวเตอร์

       ข.กลุ่มของคอมพิวเตอร์

       ค. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง

       ง.การค้นหาข้อมูลต่างๆ

5.โมเด็มคืออะไร

       ก.เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต

       ข.เครื่องมือในการส่งข้อมูล

       ค.อุปกรณ์แปลงสัญญาณ ภาพ เสียง ตัวอักษร

       ง.อุปกรณ์เชื่อมต่อชนิดหนึ่ง

6.การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่า

       ก.การสืบค้นข้อมูล

       ข.อีเมล์

       ค.การโอนถ่ายข้อมูล

       ง.การแลกเปลี่ยนข่าวสาร

7. E-Commerce หมายถึง

       ก.การส่งข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต

       ข.การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ค.การพูดคุยหรือสนทนา

         ง.การทาธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต

8. E-mail ย่อมาจากอะไร

         ก. Electric mail

         ข. Electro mail

         ค.Electronic Mail

         ง. Eletronic Mail

9.FTP คืออะไร

         ก. freeware transfer protocol

         ข. File tranfer protocol

         ค. File transfer protoco

ง. File transfer protocol

         10.ข้อควรระวังในการสนทนาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

         ก.ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว

         ข.ไม่เผยแพร่ข้อมูลของบุคคลอื่น

         ค.ไม่ใช้คาหยาบ

         ง.ถูกทุกข้อ
เฉลยคาตอบ

1.ตอบ ง.

2.ตอบ ก.

3.ตอบ ข.

4.ตอบ ก.

5.ตอบ ค.

6.ตอบ ข.

7.ตอบ ง.

8.ตอบ ค.

9.ตอบ ง.

10.ตอบ ง.
บรรณานุกรม
      สืบค้นจาก

http://www.skn.ac.th/a_cd/internet/email.html
http://202.28.94.55/web/322161/2551/001/g18/E-commerce%20web/page/index10.html
http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=6085.0;wap2
http://pirun.ku.ac.th/~g5166301/ftp.htm
http://school.obec.go.th/kudhuachang/les01.htm

http://www.mindphp.com

และ หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.5

More Related Content

What's hot

งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)Jame Natdanai
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1puangtong
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตPp'dan Phuengkun
 
งานนำเสนอ อินทรอเน็ต
งานนำเสนอ อินทรอเน็ตงานนำเสนอ อินทรอเน็ต
งานนำเสนอ อินทรอเน็ตYongyut Nintakan
 
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ต
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ตงานนำเสนอ อินเตอร์เน็ต
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ตKunnawut Rueangsom
 
Introduction to On-line Documemt Lec02
Introduction to On-line Documemt  Lec02Introduction to On-line Documemt  Lec02
Introduction to On-line Documemt Lec02Jenchoke Tachagomain
 
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูล
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูลสรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูล
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูลHappy Sara
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตSarocha Makranit
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตnatlove220
 
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการอินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการPrapaporn Boonplord
 

What's hot (18)

Ict
IctIct
Ict
 
Lernning 05
Lernning 05Lernning 05
Lernning 05
 
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ตบทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
 
งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
Computer & Interner for CIO
Computer & Interner for CIOComputer & Interner for CIO
Computer & Interner for CIO
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internetความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
 
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
 
งานนำเสนอ อินทรอเน็ต
งานนำเสนอ อินทรอเน็ตงานนำเสนอ อินทรอเน็ต
งานนำเสนอ อินทรอเน็ต
 
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ต
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ตงานนำเสนอ อินเตอร์เน็ต
งานนำเสนอ อินเตอร์เน็ต
 
Introduction to On-line Documemt Lec02
Introduction to On-line Documemt  Lec02Introduction to On-line Documemt  Lec02
Introduction to On-line Documemt Lec02
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูล
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูลสรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูล
สรุปอินเตอร์เน็ตและการสืบค้นข้อมูล
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ต
 
รายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ตรายงานอินเทอร์เน็ต
รายงานอินเทอร์เน็ต
 
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการอินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ
 
Powerpoint
PowerpointPowerpoint
Powerpoint
 
ทดลอง
ทดลองทดลอง
ทดลอง
 

Viewers also liked

การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตการกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตปิยะดนัย วิเคียน
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มSutin Yotyavilai
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5Thanawut Rattanadon
 
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3Nataya Younyee
 
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2Por Oraya
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศครู อินดี้
 
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตปิยะดนัย วิเคียน
 
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศNekk ♡
 
ประวัติศาสตร์ ม.2
ประวัติศาสตร์ ม.2ประวัติศาสตร์ ม.2
ประวัติศาสตร์ ม.2Arom Chumchoengkarn
 
เรื่องที่ 5 งานและพลังงาน
เรื่องที่ 5 งานและพลังงานเรื่องที่ 5 งานและพลังงาน
เรื่องที่ 5 งานและพลังงานthanakit553
 
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1cookie47
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมปยล วชย.
 

Viewers also liked (12)

การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตการกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็มความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ม
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
 
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
บทที่4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3
 
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2
บทที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ผลกระทบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
 
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ประวัติศาสตร์ ม.2
ประวัติศาสตร์ ม.2ประวัติศาสตร์ ม.2
ประวัติศาสตร์ ม.2
 
เรื่องที่ 5 งานและพลังงาน
เรื่องที่ 5 งานและพลังงานเรื่องที่ 5 งานและพลังงาน
เรื่องที่ 5 งานและพลังงาน
 
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอม
 

Similar to หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตSutin Yotyavilai
 
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บ
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บหน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บ
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บtanongsak
 
Internet2
Internet2Internet2
Internet2mod2may
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตเขมิกา กุลาศรี
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChalita Vitamilkz
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2fulk123
 
งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)Jame Natdanai
 
รายงานโครงงานคอมพิว
รายงานโครงงานคอมพิวรายงานโครงงานคอมพิว
รายงานโครงงานคอมพิวAi Promsopha
 
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ต
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ตงานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ต
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ตPapichaya Chengtong
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์NeNo Srimueagbun
 
อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตFon Kittiya
 

Similar to หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว) (20)

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
 
้html
้html้html
้html
 
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บ
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บหน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บ
หน่วยที่ 1 การทำงานกับระบบเว็บ
 
Unit1new
Unit1newUnit1new
Unit1new
 
Unit1new (1)
Unit1new (1)Unit1new (1)
Unit1new (1)
 
Internet2
Internet2Internet2
Internet2
 
1บทนำคอม11
1บทนำคอม111บทนำคอม11
1บทนำคอม11
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ตบทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
บทเรียน เรื่องอินเตอร์เน็ต
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์2
 
งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)งานคอมหน วยท _4 (1)
งานคอมหน วยท _4 (1)
 
รายงานโครงงานคอมพิว
รายงานโครงงานคอมพิวรายงานโครงงานคอมพิว
รายงานโครงงานคอมพิว
 
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ต
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ตงานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ต
งานคอมหน่วยที่4 อินเตอร์เน็ต
 
11111111111
1111111111111111111111
11111111111
 
11111111111
1111111111111111111111
11111111111
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
อินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต
 

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)

  • 1. รายงาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต จัดทาโดย นางสาวชญานิศ จีนาภักดิ์ เลขที่ 3 นางสาวประภัสสร แก้วนวล เลขที่ 5 นางสาวนัฐฐินันท์ คาลือปลูก เลขที่ 20 นางสาวอรทัย เนียมตระกูล เลขที่ 23 ชั้น ม.5/4 คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม เสนอ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
  • 2. คานา รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศได้จัดทาขึ้นในหัวข้อของหน่วยกาสร เรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทต่อการศึกษา ธุรกิจ และการสื่อสารของมนุษย์ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การค้นหาข้อมูล ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์ และการ ขนถ่ายไฟล์ เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูล และโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ โดยภาษา HTML ซึ่ง กลุ่มข้าพเจ้าก็ได้ตังใจทาเป็นอย่างยิง หวังว่าผู้ศึกษาคงได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ รายงานผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
  • 3. สารบัญ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต -ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต 1 -เว็บเบราว์เซอร์ 2-3 -ความรู้เกี่ยวกับ IE 4-5 -ส่วนประกอบ ต่างๆของ Internet Explorer 6-7 -การใช้งาน IE 7-10 -การใช้งานอินเทอร์เน็ต 10 -การค้นหาข้อมูล 10-11 -ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 11-13 -พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 13-16 -การสนทนาออนไลน์ 16-17 -การขนถ่ายไฟล์(file transfer protocol) 18-19 -คาถาม 20-22
  • 4. หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ กลุ่มเครือข่ายย่อย ๆ ของคอมพิวเตอร์จานวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ภายใต้มาตรฐานการสื่อสาร (Protocol) เดียวกัน จนเป็นสังคมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ในเครือข่ายแต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง รวมทั้งสามารถ สืบค้นข้อมูลข่ายสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว การใช้งานอินเทอร์เน็ตผู้เชื่อมต่อ จะต้องมีฮาร์ดแวร์ส่งเสริมการทางานด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ สายนาสัญญาณ (UTP Cable) การ์ดแลน (LAN:Local Area Network) และโมเด็ม (Modem) ติดตั้งเพิ่มเติมที่คอมพิวเตอร์ นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว คอมพิวเตอร์ยังต้องติดตั้งซอฟแวร์สาหรับเปิดเว็บไซต์ต่างๆเรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกาเนิดในยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ (สหรัฐอเมริกา ) กับรัสเซียเนื่องจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้เกิดแนวคิดที่ต้องการ ทาให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยคอมพิวเตอร์สามารถสั่งการและทางานได้ ด้วยตัวเอง โดยไม่จาเป็นต้องมีผู้คอยควบคุมดูแล หากมีการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูหรือขีปนาวุ ธ นิวเคลียร เข้ามาถล่มจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใดเมืองหนึ่ง อาจทาให้ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วน ถูกทาลายไปแต่ส่วนที่เหลือจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดโครงการวิจัย และพัฒนาระบบ เครือข่ายดังกล่าวขึ้น เรียกว่า ARPA(Advanced Research Projects Agency) และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดได้กลายมาเป็นเครือข่ายที่มีชื่อว่า “อินเทอร์เน็ต ” (Internet)ใน ปัจจุบัน
  • 5. เว็บเบราว์เซอร์ เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้ สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษา เอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดย โปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ ประโยชน์ของ Web Browser สามารถดูเอกสารภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ อย่างสวยงามมีการแสดงข้อมูลในรูปของ ข้อความ ภาพ และระบบมัลติมีเดียต่างๆ ทาให้การดูเอกสารบนเว็บมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้อินเตอร์เน็ต ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นในปัจจุบัน ปัจจุบัน web browser ส่วนใหญ่จะรองรับ html 5 และ อ่าน css เพื่อความสวยงามของหน้า web page ปัจจุบันมีเว็บเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น Safari,Netscape,Firefok,Google Chromeเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ที่เป็นที่นิยมอย่า งแพร่หลาย ได้แก่  Internet Explorer  Mozilla Firefox  Google Chrome  Safari
  • 7. IE หรือ Microsoft Internet Explorer Microsoft Internet Explorer หรือ IE คือ โปรแกรมเบราเซอร์ โปรแกรมหนึ่ง (ซึ่งสาหรับคนที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นรู้จักกันดี เพราะเป็นเบราเซอร์ที่มาจากค่ายเดียวกั บ windows นั้นเอง) ใช้ใน การท่องInternet เป็น Application Software ที่ผลิตโดยบริษัท Microsoft และพัฒนามาต่อเนื่องจนถึงเวอร์ชั่น ล่าสุด นั้นคือ IE8 สามารถหาดาวน์โหลดได้ที่ http://windows.microsoft.com/th-TH/internet- explorer/products/ie/home ตัวอย่าง IE หรือ Microsoft Internet Explorer
  • 8. ความรู้เกี่ยวกับ IE IE เป็นโปรแกรมเบราว์เซอร์ที่ใช้งานง่าย รูปแบบและหน้าต่งคล้ายกับซอฟแวร์อื่นๆของบริษัท ไมโครซอฟท์ และผู้ใช้ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ด้านภาษาคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการใช้งานดังนี้ วิธีเปิดโปรแกรม Internet Explorer และเว็บไซต์ที่ต้องการ 1. คลิกที่ปุ่ม Start 2. เลือกเมนู Program 3. คลิกเลือกโปรแกรม Internet Explorer 4. ปรากฏหน้าเว็บไซต์ที่เป็นหน้าแรก 5. พิมพ์ URL หรือเว็บไซต์ที่ต้องการในช่อง Address ตัวอย่างวิธีเปิดโปรแกรม Internet Explorer และเว็บไซต์ที่ต้องการ
  • 9. หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ เลือกที่ไอคอน ที่หน้า Desktop ก็จะปรากฏหน้าเว็บเช่นกัน จากนั้นก็สามารถระบุ URL หรือชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการลงในช่อง Address ได้เลย ทั้งนี้ไม่จาเป็นต้องพิมพ์ http:// นาหน้า เพราะ โปรแกรมจะจัดเตรียมและตั้งค่าไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนประกอบ ต่างๆของ Internet Explorer ภาพส่วนประกอบของ Internet Explorer หลังจากที่เปิด Internet Explorer เรามาทาความรู้จักส่วนประกอบดังนี้ หมายเลข 1 เมนู ใช้เรียกคาสั่งการทางาน หมายเลข 2 แถบเครื่องมือ ใช้งานแทนคาสั่งที่ใช้บ่อย ๆ หมายเลข 3 ช่อง Address เป็นส่วนที่แสดงตาแหน่งที่อยู่ของเว็บเพจ หรือ ที่เรียกว่าเวบไซต์ เข้าสู่ โฮมเพจต่าง ๆ หมายเลข 4 พื้นที่แสดงเอกสาร เป็นพื้นที่แสดงเอกสาร
  • 10. หมายเลข 5 แถบเลื่อน ใช้เลื่อนอ่านข้อความของเอกสารซึ่งเอกสารไม่ สามารถแสดงได้หมดในหน้า เดียว หมายเลข 6 แถบแสดงสถานะ แสดงการรับข้อมูล (Load) จากเว็บไซต์เข้ามา หมายเลข 7 แถบไตเติ้ลบาร์ บอกให้เราทราบว่ากาลังทางานอยู่ ณ โปรแกรมใด หมายเลข 8 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับปิดโปรแกรม หมายเลข 9 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับขยาย/ย่อโปรแกรม หมายเลข 10 แถบควบคุมหน้าต่างโปรแกรม สาหรับย่อโปรแกรมเก็บไว้ที่ TASKBAR แถบเครื่องมือ การใช้งาน IE IE หรือ Internet Explorer เป็นซอฟต์แวร์ สาหรับใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต หรือมักจะนิยมเรียกว่า Browser ที่มีมาพร้อมกับ Windows ทุกรุ่น โดยที่หากเป็น Windows98 Thai ก็จะมี IE4.0 แถมมาด้วย หากเป็น Windows98 SE ก็จะเป็น IE5.0 และถ้าเป็น WindowsMe ก็จะมี IE5.5 แถมมาให้ ดังนั้น หากคิดจะเล่น อินเตอร์เน็ตด้วย IE แล้วละก็ มาดูเทคนิค พื้นฐานเบื้องต้น ที่ควรจะรู้ไว้ ในการใช้ IE ให้เต็มความสามารถ
  • 11. เมนู ปุ่ม และคาสั่งในเบื้องต้น การใช้งาน IE ในเบื้องต้นก็คงจะไม่มีอะไรมากนัก คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะพอรู้กันอยู่บ้างแล้ว เอาเป็นว่า ผมจะทบทวนหลัก ๆ อีกครั้ง จากหน้าตาของ IE ที่คุ้นเคยกันดังนี้ หน้าที่ของปุ่มต่าง ๆ ปุ่ม Back ใช้สาหรับย้อนกลับไปหน้าที่ผ่านมาแล้ว ปุ่ม Forward ใช้สาหรับเปลี่ยนไปหน้าต่อไป (หลังจากที่ย้อนกลับมา) ปุ่ม Stop ใช้สาหรับหยุดการโหลดข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้น
  • 12. ปุ่ม Refresh ใช้สาหรับการเรียกโหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจใหม่อีกครั้ง ปุ่ม Home ใช้สาหรับกลับไปหน้าแรกหรือกลับไปที่ URL ที่ตั้งไว้ให้เป็นหน้าแรก ปุ่ม Search ใช้สาหรับค้นหาเว็บไซต์ ปุ่ม Favorites ใช้สาหรับเลือกเว็บไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark ปุ่ม History ใช้สาหรับการย้อนกลับไปดูเว็บไซต์ที่เคยเข้าไปดูมาแล้ว ปุ่ม Mail ใช้สาหรับการ รับ-ส่ง อีเมล์ ปุ่ม Print ใช้สาหรับการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์ ปุ่ม Edit ใช้สาหรับการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น ๆ เทคนิคการใช้งาน IE ที่ควรทราบ 1. การกดปุ่ม เมาส์ขวา เพื่อเรียกเมนูใช้งานอย่างรวดเร็วได้ เช่นการเก็บรูปภาพ การเปิดหน้าต่างใหม่ หรืออื่น ๆ 2. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้ก่อนใช้เมาส์กดลิงค์ จะเป็นการบังคับให้เปิดลิงค์ในหน้าต่างใหม่ไปในตัว 3. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้พร้อมกับการกดที่ปุ่ม Refresh จะเป็นการเรียกข้อมูลโ ดยตรงไม่เรียกจาก Proxy Server 4. การกดปุ่ม ALT + ปุ่มลูกศร ซ้าย หรือ ขวา จะเป็นการเรียกใช้เมนู Back หรือ Forward ได้เช่นกัน
  • 13. 5. การกดปุ่ม Ctrl + N เป็นการเปิดหน้าต่างใหม่เพิ่มขึ้นมา 6. หากพบภาพที่ถูกใจ สามารถตั้งให้เป็น Wall Paper ได้ทันทีโดยกดปุ่มเมาส์ขวา เลือกที่ Set as wallpaper 7. เราสามารถส่งหน้าเว็บเพจที่กาลังดูผ่านทางอีเมล์ ได้โดยการเลือกที่ File >> Send โดยจะส่งเป็นลิงค์ หรือทั้งหน้าก็ได้ 8. ก่อนการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์ ควรจะเลือกที่ Print Preview เพื่อดูรูปแบบต่าง ๆ เสียก่อน 9. การค้นหาข้อความในหน้าเว็บเพจ สามารถใช้เมนู Edit และ Find (on This Page) หรือกด Ctrl + F ได้ 10. การกาหนดขนาดของหน้าต่างที่เปิดใหม่ ทาโดยขยายขนาดของหน้าต่างที่เพิ่งเปิด ให้มีขนาดตาม ต้องการและกดปิด 11. ควรจะทาการอัพเกรด IE ให้เป็นเวอร์ชัน 5.50 built 4134.0600 หรือสูงกว่านี้เพื่อการใช้งานที่เสถียร ขึ้น (มาก ๆ) การใช้งานอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet)เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทต่อการศึกษา ธุรกิจ และการสื่อสารของ มนุษย์ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ การค้นหาข้อมูล ไปรษณีย์ อิเลบ็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การสนทนาออนไลน์ และการขนถ่ายไฟล์ การค้นหาข้อมูล การค้นหาข้อมูล (Search)เป็นการใช้งานขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องปฎิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากข้อมูลในรูปแบบของข้อความ ภาพ เสียง หรือสื่อมัลติมีเดียแล้วยังรวมถึงการค้นหาเว็บไซต์หรือ เว็บเพจต่างๆที่อยู่บนอินเทอร์เน็ ต เพราะผุ้ใช้งาน อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่สามารถจาที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ตนเอ งต้องการเชื่อมโยงได้ ปัจจุบันการค้นหาข้อมูลใน อินเทอร์เน็ตสามารถทาได้ด้วยการใช้บริการของเซิร์ชเอนจิ้น(Search Engine)ต่างๆเช่น http://www.google.com
  • 14. ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูล ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail:Electronic Mail)เป็นบริการในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สาคัญที่ มีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบเครือข่า ย คอมพิวเตอร์ไปยังผู้รับ อาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคนโดยทั้งที่ผู้ส่ งและผู้รับเป็นผู้ใช้ที่อยู่ในระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันได้ทั่วโลก มีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องคานึงถึงว่าผู้รับ จะอยู่ที่ไหน จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะเก็บข้อความเหล่านั้นไว้ เมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบเครือข่าย ก็จะเห็นข้อความนั้นรออยู่แล้วความสะดวกเหล่านี้ ทาให้นักวิชาการ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารถึงกันและกัน นักศึกษาสามารถปรึกษา หรือฝึกฝนทักษะกับอาจารย์ หรือ เพื่อนนักศึกษาด้วยกันเอง โดยไม่ต้องคานึงถึงเวลา และระยะทาง โดยผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไม่ว่าจะ อยู่ตรงส่วนใดของมุมโลก
  • 15. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่เหมาะสมในการเรียนรู้ และช่วยขจัด ปัญหาในเรื่อง ของเวลา และระยะทาง ผู้เรียนจะรู้สึกอิสระและกล้าแสดงออกมากกว่าปกติ ตลอดจนสามารถเข้าถึงผู้เรียนเป็น รายบุคคลได้เป็นอย่างดี ในยุคสารสนเทศดังเช่นปัจจุบัน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะมีบทบาทสาคัญ ในการพัฒนาสังคมให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นรูปแบ บการสื่อสารที่ ทันสมัย รูปแบบหนึ่งที่มีความ สาคัญ คือ 1. ทาให้การให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วทันที ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค สาหรับ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ในทุกแห่งทั่วโลกที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อถึงกันได้ ไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถเข้ าไปสถานที่เหล่านั้นได้ทุกที่ ทาให้ผู้คนทั่วโลกติดต่อถึงกันได้ทันที ผู้รับ สามารถจะรับข่าวสารจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ได้แทบจะทันทีที่ผู้ส่งจดหมายส่งข้อมูลผ่านทาง คอมพิวเตอร์เสร็จสิ้น 2. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับที่ต้องการได้ทุกเวลา แม้ผู้รั บจะไม่ได้อยู่ที่ หน้าจอ คอมพิวเตอร์ก็ตาม จดหมายจะถูกเก็บไว้ในตู้จดหมายของคอมพิวเตอร์และเป็นส่วนตัว จนกว่าเจ้าของ จดหมายที่มีรหัสผ่านจะเปิดตู้จดหมายของตนเอง 3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลา ส่งให้ทละคน กรณีนี้จะใช้กับจดหมายที่เป็นข้อความเดียวกัน เช่น หนังสือเวียน แจ้งข่าวให้สมาชิกใน ี กลุ่มทราบหรือเป็นการนัดหมายระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เป็นต้น 4. การส่งจดหมายทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่ง จดหมายถึงตู้ ไปรษณีย์ หรือที่ทาการไปรษณีย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง เนื่องจากไม่ต้องคานึงถึงปริมาณน้าหนัก และระยะทางของจดหมายเหมือนกับไปรษณีย์ธรรมดา 5. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น ผู้รับจดหมายสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก โปรแกรม ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะแสดงให้ทราบว่าในตู้จดหมายของผู้รับมี จดหมายกี่ฉบับ มีจดหมายที่ อ่านแล้ว และยังไม่ได้เรียกอ่านกี่ฉบับ เมื่ออ่านจดหมายฉบับใดแล้ว หากต้องการลบทิ้ง ก็สามารถเก็บ ข้อความไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลได้ หรือจะพิมพ์ออกมาลงกระดาษก็ได้เช่นกัน หรืออาจแก้ไข้ข้อความ บางอย่างในจดหมายนั้น จากจอภาพแล้วส่งต่อไปยังผู้อื่นได้ด้วย 6. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล (Transferring Files) แนบไปกับจดหมายถึงผู้รับ ได้ทาให้การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปได้โดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์
  • 16. จากความสาคัญของไปรษณีย์อิเล็กทรอ นิกส์ ที่สามารถอานวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่านี้ ทาให้ในปัจจุบันไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสานักงานทุกแห่งทั่วโลก และในที่สุด เมื่อทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ใช้ สมาชิกในชุมชนโลกก็จะสามารถติดต่อกันผ่านทางคอมพิวเตอร์ การทางานตาม สานักงานหรือสถานที่ต่างๆ จะถูกเปลี่ยนไปสู่การทางานที่บ้านมากขึ้นโดยการรับส่งงานทางคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเว็บไซต์ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce: Electronic Commerce)พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทาง การค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทาง อินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทาธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้ มากมายหลายประการ ได้แก่
  • 17. 1. ทาการค้า ได้ตลอด 24 ชั่งโมง และขายสินค้าได้ทั่วโลก นักท่องอินเตอร์เน็ตจากทั่วทุกมุมโลก สามารถเข้ามาในเว็บไซต์ของบริษัทได้ตลอดเวลาผู้ขายสามารถนาเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยคาสั่งซื้ออาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงและมาจากที่ต่างๆกัน 2. ข้อมูลทันสมัยอยู่เสมอ และประหยัดค่าใช้จ่าย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นั้นมีประโยชน์ที่สาคัญ มากอีกประการหนึ่ง คือสามารถ เสนอข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าได้ทันทีซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในการจัดพิมพ์เอกสาร และประหยัดเวลาในการประชาสัมพันธ์ 3. ทางานแทนพนักงานขาย และเพิ่มประสิทธิภาพการขาย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถทางาน แทนพนักงานขายของคุณได้ โดยสามารถทาการค้าในรูปแบบอัตโนมัติ และดาเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพในการดาเนินการทางธุรกิจภายในองค์กรนั้นๆ 4. แทนหน้าร้าน หรือบู ทแสดงสินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงสินค้าที่มีอยู่ให้กับลูกค้า ทั่วโลกได้มองเห็นสินค้าของคุณ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตกแต่งหน้าร้าน หรือในการเดินทางออกไปใน บูทแสดงสินค้าในที่ต่างๆ 5. เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคโ นโลยีใหม่ๆมาช่วยในการ ทาให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การแสดงสินค้าโดยผู้ชมสามารถดูสินค้าได้ 180 องศา หรือลูกค้าสามารถอ่านหัวข้อของหนังสือที่ต้องการซื้อก่อนได้ 6. ง่ายต่อการชาระเงิน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถชาระเงินได้อย่างสะดวกสบายโดยวิธีการตั ด ผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงินเข้าบัญชีซึ่งจะเป็นระบบอัตโนมัติ 7. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ในโลกพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บริษัทขนาดเล็กสามารถมีโอกาสทางธุรกิจ เทียบได้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง เป็นต้นว่า ชื่อ URL ของบริษัท ควรจะจาง่าย การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามและปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ การสั่งซื้อและการชาระเงิน มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เป็นต้น 8. สร้างความประทับใจและพึงพอใจได้มากกว่าปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตทาได้ อย่างง่ายดาย สินค้าและบริการมีให้เลือกมากมายทาให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง และเสียเวลาไปกับ การค้นหาสินค้าและบริการที่ต้องการ ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วที่สุด เช่น ถ้าลูกค้าต้องการซื้อของตกแต่งบ้านจากเว็บไซต์ Bangpa-in.com ลูกค้าสามารถจะค้นหาสิน ค้าจาก ประเภทของสินค้า หรือค้นหาตามรูปแบบที่ต้องการได้ ในกรณีที่ลูกค้าสั่งสินค้าและได้ให้รายละเอียด
  • 18. ส่วนตัวไว้ ร้านค้าสามารถ บันทึก รายละเอียดของลูกค้าไว้ในฐานข้อมูลของเราเพื่อความสะดวกของลูกค้า ในการสั่งซื้อสินค้าครั้งต่อไป (Member System) 9. รู้และแก้ปัญ หาต่างๆได้ทันท่วงที พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถให้บริการหลังการขายได้เช่นกัน โดยใช้ประโยชน์จากอีเมล์ในการติดต่อลูกค้า การสร้างแบบสอบถามลูกค้าเพื่อสอบถามความพึงพอใจ ต่อสินค้าและบริการทาให้ร้านค้าสามารถนาข้อมูลเหล่านี้มาแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้ดียิ่งขึ้นและทันท่วงที พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 2 รูปแบบคือ 1.เว็บไซต์ที่ผู้ขายสร้างเอง 2.เว็บไซต์ที่ให้บริการฝากขายสินค้า ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
  • 19. ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ผู้ขายสร้างเอง การสนทนาออนไลน์ การสนทนาออนไลน์(Chat)การสนทนาออนไลน์ เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ คุยโต้ตอบกับผู้ใช้คน อื่น ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน (real-time) การสนทนาหรือ chat (Internet Relay Chat หรือ IRC)ได้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการสนทนาระหว่างบุคคลหรือ กลุ่มบุคคลสามารถใช้ ภาพกราฟิก ภาพการ์ตูนหรือภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ แทนตัวผู้สนทนาได้ นอกจากการสนทนาแล้ว ผู้ใช้ยัง สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและไฟล์ได้อีกด้วย การใช้งาน IRC ผู้ใช้จะต้องติดต่อไปยังเครื่องที่เป็นไออาร์ซีเซิร์ฟเวอร์ (IRC server) ที่มีการแบ่งห้อง สนทนาเป็นกลุ่ม ๆ ที่เรียกว่า แชนแนล (channel) โดยผู้ใช้จะต้องมีโปรแกรมเพื่อใช้สาหรับการสนทนา (ซึ่ง สามารถดาวน์โหลดฟรีจากอินเทอร์เน็ต) เมื่อผู้ใช้ติดต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้แล้ว ก็จะเลือกกลุ่มสนทนาหรือ หัวข้อสนทนาที่สนใจ และเริ่มสนทนาได้ตามความต้องการ ตัวอย่าง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่นิยมใช้กัน ในปัจจุบัน เช่น ICQ(I Seek You) และ mIRC
  • 20. การสนทนาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันผู้ใช้สามารถใช้สื่อประสม (multimedia) ประกอบด้วย เสียงพูด และภาพเคลื่อนไหว โดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไมโครโฟน ลาโพง กล้อง วีดีโอ และอื่น ๆ เพื่ออานวยความสะดวกและเพื่อประสิทธิภาพของการสนทนา ให้ดียิ่ งขึ้น ในส่วนของ โปรแกรม ได้มีการพัฒนาโปรแกรมเพื่อการสนทนาออนไลน์ที่มีคุณภาพ เช่น โปรแกรม Microsoft NetMeeting ที่สามารถสนทนากันไปพร้อม ๆ กับมองเห็นภาพของคู่สนทนาได้ด้วย ประโยชน์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ผู้เกิดปัญหาสามารถปรึกษากลุ่มเพื่อน เมื่อมีผู้เข้ามาพบ มาอ่านและอยากใส่ข้อความโต้ตอบก็สามารถพิมพ์ลงไปได้ โดยจะมีการเก็บเอาไว้ภายใต้หัวข้อเดีย วกันบน เซิร์ฟเวอร์ในระยะเวลาหนึ่ โทษ ของเว็บบอร์ดจะเป็นข้อความที่ให้ร้าย ใส่ร้าย ประสงค์ร้ายกับ ผู้อื่น หรือสิ่งนั้น ๆ ผู้อ่านจะต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความที่ผู้อื่นโพสท์มา ตัวอย่างซอฟแวร์ที่ใช้สาหรับสนทนาออนไลน์
  • 21. การขนถ่ายไฟล์(file transfer protocol) การขนถ่ายไฟล์ FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol เป็นบริการรับส่งไฟล์ (file) ระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์ ftp server เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทาหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ ftp บริการของ ftp มีอยู่สองอย่างด้วยกันคือ download เป็นบริการรับไฟล์หรือก๊อปปี้ไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น ftp server มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ ของท่าน upload เป็นบริการส่งไฟล์หรือก๊อปปี้ไฟล์จากเครื่องคอมพิวเ ตอร์ของท่านไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ เป็น ftp server บริการ ftp มักนามาใช้ประโยชน์ในเรื่องของ Freeware และ Shareware Freeware หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิตแจกให้ใช้ฟรี ส่วน Shareware หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิตแจกให้ลองไปใช้ดูก่อน และเมื่อใช้แล้วพอใจจะนาไปใช้จริงก็ค่อยส่งเงินมาชาระทีหลัง ถ้าไม่นาไปใช้จริงก็ไม่ต้องส่งเงินมาชาระ ผู้ผลิต Freeware และ ผู้ผลิต Shareware จะทาการส่งซอฟต์แวร์ของตนเองที่ต้องการแจกจ่ายไปไว้ที่คอมพิวเตอร์ที่เป็น ftp server และใครก็ตามที่สนใจจะลองนาไปซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตไปใช้ดูก็ให้ไปทากา ร download จาก คอมพิวเตอร์ที่เป็น ftp server เครื่องนั้นมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ในบางกรณีถ้าท่านมีข้อมูลที่ น่าสนใจและต้องการเผยแพร่ ท่านก็สามารถส่งข้อมูลนั้นไปไว้ที่ ftp server ได้ ตัวอย่าง ftp server เช่น ftp.chula.ac.th เอฟทีพีเป็นโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งปกติแล้วผู้ที่เข้ามาขนถ่ายไฟล์ได้จะต้องมีชื่อ เป็นผู้ใช้อยู่บนเครื่องนั้น ๆ แต่ก็มีเครือข่ายหลายแห่งที่ให้บริการขนถ่ายไฟล์ได้โดยไม่จาเป็นต้องมีชื่อผู้ใช้อยู่บน เครื่องนั้น คือให้บริการสาธารณะแก่ผู้ใช้ทั่วไปเข้ามาขนถ่ายไฟล์ได้โดยการติดต่อ กับโฮสต์ด้วยชื่อ anonymous ข้อมูลที่ให้บริการถ่ายโอนไฟล์ได้มีหลายรูปแบบ เช่น ข่าวประจาวัน บทความ ข้อมูลทางสถิติ หรืออาจจะเป็น ซอฟต์แวร์ที่ทางานบนระบบวินโดว์ ดอส ยูนิกส์ หรือแม้แต่แมกอินทอช โดยที่ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะมีทั้งที่เป็น ฟรีแวร์ และแชร์แวร์ ที่ให้ทดลองใช้งานก่อน หากพอใจจึงลงทะเบียนกับทางเจ้าของแชร์แวร์เพื่อรับบริการ เพิ่มเติมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมากศูนย์บริการต่าง ๆ จะมีไฟล์ชื่อ หรือ หรือไฟล์ที่มีชื่อในทานองเดียวกันนี้ ซึ่งจะ ให้รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการขนถ่ายไฟล์ ผู้ใช้ควรอ่านไฟล์เหล่านี้ก่ อนเพื่อให้สามารถขนถ่ายไฟล์ที่ ต้องการได้ถูกต้อง การบริการขนถ่ายไฟล์เป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในปัจจุบันมีศูนย์ขนถ่ายไฟล์ เกิดขึ้นจานวนมาก ศูนย์บางแห่งก็มีผู้เข้ามาใช้บริการจานวนมากจนไม่สามารถรองรับผู้ขอเข้าใช้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งมีการกระจายเป็นศูนย์กระจกเงา ไปยังหลาย ๆ จุด หรือหลาย ๆ ประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกใช้บริการ จากศูนย์ที่อยู่ใกล้ตนเองที่สุด อันจะเป็นการลดภาระการขนถ่ายไฟล์ระยะไกลของเครือข่ายโดยรวมลง
  • 23. คาถาม 1.เครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือกาเนิดขึ้นในยุคใด ก.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(ญี่ปุ่น) กับรัสเซีย ข.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(จีน) กับรัสเซีย ค.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(อาหรับ) กับรัสเซีย ง.ยุคของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ(สหรัฐอเมริกา) กับรัสเซีย 2.เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เรียกว่าอะไร ก.เวิลด์ไวด์เว็บ ข.เซิร์ฟเวอร์ ค.เว็บเพจ ง.คลังข้อมูล 3. Internet Explorer เป็นซอฟต์แวร์ สาหรับใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต หรือมักจะนิยมเรียกว่า ก. Forward ข. Browser ค. Refresh ง. History
  • 24. 4.ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด ก.เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ข.กลุ่มของคอมพิวเตอร์ ค. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ง.การค้นหาข้อมูลต่างๆ 5.โมเด็มคืออะไร ก.เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต ข.เครื่องมือในการส่งข้อมูล ค.อุปกรณ์แปลงสัญญาณ ภาพ เสียง ตัวอักษร ง.อุปกรณ์เชื่อมต่อชนิดหนึ่ง 6.การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่า ก.การสืบค้นข้อมูล ข.อีเมล์ ค.การโอนถ่ายข้อมูล ง.การแลกเปลี่ยนข่าวสาร 7. E-Commerce หมายถึง ก.การส่งข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต ข.การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
  • 25. ค.การพูดคุยหรือสนทนา ง.การทาธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต 8. E-mail ย่อมาจากอะไร ก. Electric mail ข. Electro mail ค.Electronic Mail ง. Eletronic Mail 9.FTP คืออะไร ก. freeware transfer protocol ข. File tranfer protocol ค. File transfer protoco ง. File transfer protocol 10.ข้อควรระวังในการสนทนาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือข้อใด ก.ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว ข.ไม่เผยแพร่ข้อมูลของบุคคลอื่น ค.ไม่ใช้คาหยาบ ง.ถูกทุกข้อ
  • 26. เฉลยคาตอบ 1.ตอบ ง. 2.ตอบ ก. 3.ตอบ ข. 4.ตอบ ก. 5.ตอบ ค. 6.ตอบ ข. 7.ตอบ ง. 8.ตอบ ค. 9.ตอบ ง. 10.ตอบ ง.
  • 27. บรรณานุกรม สืบค้นจาก http://www.skn.ac.th/a_cd/internet/email.html http://202.28.94.55/web/322161/2551/001/g18/E-commerce%20web/page/index10.html http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=6085.0;wap2 http://pirun.ku.ac.th/~g5166301/ftp.htm http://school.obec.go.th/kudhuachang/les01.htm http://www.mindphp.com และ หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.5