1. หญ้าปักกิ่ง
หญ้าปักกิ่งนั้นถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณครอบจักรวาลเลยก็ว่า
ได้ โดยในประเทศจีนนั้นได้มีการนำาหญ้าปักกิ่งมาใช้ประโยชน์มาเป็นเวลา
หลายพันปีแล้ว โดยจะใช้บำารุงปราณในร่างกายปรับสมดุลธาตุต่างๆให้เข้า
ที่ แต่สรรพคุณเด่นของหญ้าปักกิ่งนั่นก็คือการรักษามะเร็งได้ในระดับหนึ่ง
นั่นเองครับ ดังนั้นต่อไปนี้จะเป็นข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกันหญ้าปักกิ่ง
หญ้าปักกิ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Murdannia loriformis (Hassk.) Rao et
Kammathy วงศ์ Commelinaceae เป็นพืชที่มีถิ่นกำาเนิดจากมณฑลยูนนาน
แคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน หญ้าปักกิ่งเป็นไม้ล้มลุก มีความสูงประมาณ
10 – 30 เซนติเมตร ลำาต้นกลม มีสีเขียว ลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว หน้าเรียว
คล้ายใบไผ่ มีใบประดับย่อยลักษณะกลม มีสีเขียวอ่อน ดอกสีฟ้า หรือม่วง
อ่อน กลีบดอกบาง มี 4 กลีบ โคนกลีบเรียว ผล เป็นผลแห้งแตกออกได้ ขยาย
พันธุ์ได้โดยการแยกหน่อหรือเมล็ด หากจะนำาไปทำาการเพาะปลูก ควรที่จะ
ปลูกหญ้าปักกิ่งกับดินที่มีลักษณะร่วนปนทราย ไม่ชอบแสงแดดมาก
สรรพคุณของหญ้าปักกิ่งใช้บำารุงพลังปราณ สามารถปรับสมดุลธาตุต่างๆใน
ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถรักษามะเร็งในระยะเริ่มต้น
ได้ในระดับหนึ่ง เช่น ในกระเพาะอาหาร ลำาไส้ ลำาคอ มดลูก ตับ ต่อมนำ้า
เหลือง เม็ดโลหิต แถมยังสามารถรักษาไทรอยด์ เบาหวาน ไตอักเสบ โรค
หัวใจ ความดันโลหิต แก้ปวด แก้ไข ไมเกรน ภูมิแพ้ ทำาให้นำ้าเหลืองแห้ง
และยังสามารถนำาหญ้าปักกิ่งมาตำาให้ละเอียด จากนั้นนำามาพอกแผลชนิด
ต่างๆ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่านี่คือพืชอีกชนิด
หนึ่งที่แทบจะรักษาได้ทุกโรค ทำาให้หญ้าปักกิ่งเป็นที่นิยมมากทีเดียว โดย
ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำาหญ้าปักกิ่งมาใช้ประโยชน์ใน 2 ประเภทใหญ่ๆก็คือ
1. การใช้หญ้าปักกิ่งกับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง โดยมีวัตถุประสงค์ที่ว่า
ต้องการให้ชีวิตของผู้ป่วยนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดอาการเจ็บปวดต่างๆ
ทำาให้ทุกข์ทรมาณน้อยลง และในบางรายอาจมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกด้วย และ
ยังเป็นการลดผลข้างเคียงของการใช้ยาเคมีบำาบัดและรังสีบำาบัด
2. การใช้หญ้าปักกิ่งกับผู้ป่วยที่ไม่เป็นมะเร็ง โดยมีกรณีศึกษาใหญ่ๆ 2
ประเภท คือ ผู้ป่วยที่มีเม็ดเลือดขาวตำ่า ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย นำ้าหนัก
ในร่างกายลดลง จากนั้นจะใช้หญ้าปักกิ่งพบว่าจะทำาให้เม็ดเลือดขาวสูงขึ้น
ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้น และผู้ป่วยที่มรแผลเรื้อรัง ประเภทแผล
อักเสบมีหนองหรือมีนำ้าเหลืองไหล จากนั้นเมื่อมีการใช้หญ้าปักกิ่งจะทำาให้
แผลแห้ง
โดยจากงานวิจัยได้บ่งบอกสารในหญ้าปักกิ่งในทางเภสัชวิทยาดังนี้
สารจี 1 บี จะทำาหน้าที่ปรับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น
สารสกัดโคสฟิงโกไลปิดส์ จะทำาหน้าที่ยับยั้งต่อเซลล์มะเร็งเต้านมและ
ลำาไส้ใหญ่ โดยจะมีค่า ED50 16 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร
สารสกัดแอลกอฮอล์ของหญ้าปักกิ่งไม่ได้ช่วยยืดอายุ แต่จะช่วยลดความ
รุนแรงของการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในหนูได้ จึงทำาให้มีการคาด
การกันว่าสามารถต่อต้านเซลล์มะเร็งได้
สารสกัดหญ้าปักกิ่งมีฤทธิ์เหนี่ยวนำาเอนไซม์ DT-diaphorase จะทำาหน้าที่
ทำาลายสารพิษที่จะก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง

2. สารสกัดหญ้าปักกิ่ง มีฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ของยีนที่เกิดจากสารก่อกลาย
พันธุ์ชนิดต่างๆ เช่น AFB1
ความเป็นพิษ หญ้าปักกิ่งนั้นถึงแม้จะมีสรรพคุณที่ดีมากมายหลายประการ
แต่ก็ยังมีความเป็นพิษอยู่ในตัวเองดังนั้นควรมีการใช้งานในปริมาณที่ไม่
เยอะจนเกินไป เพราะความเป็นพิษจากนำ้าคั้นของหญ้าปักกิ่ง จะไม่ทำาให้
เกิดความผิดปกติในทันทีทันใด โดยจากงานวิจัยพบว่าปริมาณพิษเรื้อรัง
ของหญ้าปักกิ่งจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือนติดต่อกัน ดังนั้นหากมีการใช้งาน
ติดต่อกันจนถึง 3 เดือนควรหยุดพักและเว้นระยะการใช้หญ้าปักกิ่งเพื่อ
เป็นการป้องกันการสะสมของปริมาณพิษนั่นเอง
วิธีการใช้งานหญ้าปักกิ่ง โดยหญ้าปักกิ่งจะมีหลากหลายสูตรที่จะนำามาใช้
งาน แต่โดยรวมแล้วก็จะคล้ายๆกัน โดยสูตรที่มีการใช้งานโดยทั่วๆไปมีดังนี้
สูตรแบบดั้งเดิม จะนำาหญ้าปักกิ่งมา 3 ต้นรวมรากด้วย จากนั้นนำาไปแช่และ
ล้างนำ้าให้สะอาด จะมียางเหนียวๆออกมา จากนั้นนำาไปตำาให้ละเอียดทำาการ
ผสมนำ้าต้มสุกที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นทำาการกรอง
ด้วยผ้าขาว นำานำ้าที่ได้มาดื่ม ก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมงและก่อนนอนอีก 1
ครั้ง โดยจะเริ่มเห็นผลในระยะเวลาประมาณ 1 อาทิตย์
สูตรมหิดล นำาหญ้าปักกิ่งมา 6 ต้นรวมรากเช่นกัน จากนั้นนำาไปแช่และล้าง
นำ้าให้สะอาดจากนั้นผสมนำ้า 4 ช้อนโต๊ะ นำาไปปั่นด้วยเครื่องปั่นผลไม้ จาก
นั้นคั้นและกรองนำ้าแบ่งรับประทานทั้ง 2 มื้อ ก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมงและ
ก่อนนอนอีก 1 ครั้ง
สูตรมยุรี สูตรนี้จะเป็นสูตรที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันครับ โดยจะ
ทำาการชั่งหญ้าปักกิ่งจำานวน 1 กิโลกรัม รวมทั้งต้น ราก ใบ ดอก จากนั้นล้าง
ให้สะอาดนำานำ้าต้มสุกที่ทิ้งไว้เย็นแล้วประมาณ 3 ลิตร ทำาการปั่นด้วยเครื่อง
ปั่น คั้นหญ้าปักกิ่งด้วยผ้าขาวสะอาด จะได้นำ้าหญ้าปักกิ่ง กรอกใส่ขวดผนึก
ฝา นำาเก็บเข้าตู้เย็นในอุณหภูมิระดับเดียวกับแช่ผลไม้
แบ่งรับประทาน
ทั้ง 2 มื้อ ก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมงและก่อนนอนอีก 1 ครั้ง
สูตรยาอายุวัฒนะ นำาต้นหญ้าปักกิ่งที่ถอนมาสดๆ รวมรากด้วย จากนั้นล้าง
นำ้าให้สะอาด นำาไปต้มกับนำ้า ต้มให้นำ้าเดือดหลังจากนั้นนำานำ้าผึ้งเติมลงไป
พอประมาณ ดื่มวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เชื่อกันว่าจะทำาให้มีสุขภาพ
ที่แข็งแรงมีอายุยืนยาว
หรือจะนำาหญ้าปักกิ่งสดๆ นำาไปล้างนำ้าให้สะอาดแล้วจิ้มนำ้าพริกกินทันทีก็ได้
หรือหากมีน้อยแนะนำาให้ใช้วิธีลอกใบมารับประทานวันละ 14 ใบ
ปฏิกิริยาและข้อควรระวังหลังรับประทานหญ้าปักกิ่ง การรับประทานหญ้า
ปักกิ่งนั้นไม่ควรรับประทานพร้อมของแสลง ซึ่งจะเป็นการนำาให้
ประสิทธิภาพของหญ้าปักกิ่งด้อยลง เช่น ฟังแพง แตงกวา หัวไชเท้า มะระ
และหลังรับประทานหญ้าปักกิ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ อาจจะ
ทำาให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงต่างๆดังนี้ มีอาการหงุดหงิด เป็นไข้ โมโห
ง่าย นอนไม่หลับ ปวดเมื่อย หรืออาจทำาให้ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นอีกด้วย แต่นี่
คืออาการที่อาจจะเกิดนะครับ อาจจะเกิดดังนั้นมันจะไม่เกิดกับทุกคน เช่น
เดียวกันสิ่งของต่างๆครับ อาการข้างเคียงจะไม่เหมือนกันดังนั้นควรมีการ
เช็คสภาพร่างกายตลอดช่วงระยะเวลาในการรับประทานหญ้าปักกิ่งด้วย
นั่นเองครับ หญ้าปักกิ่งนั้นเป็นสมุนไพรคลุมดิน ทำาให้อาจมีการปนเปื้อน

3. ของเชื้อจุลินทรีย์จากดิน ดังนั้นการนำาหญ้าปักกิ่งมารับประทานสดๆต้อง
แน่ใจในทุกครั้งว่า มีการนำาไปล้างที่สะอาดเรียบร้อยแล้ว เพราะหากมีการ
ล้างที่ไม่สะอาดก็จะทำาให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายจากการดื่มด้วย หญ้า
ปักกิ่งที่จะสามารถนำามาใช้ประโยชน์ได้นั้นต้องมีอายุที่เหมาะสม คือควร
มีอายุ 3 เดือนขึ้นไปจากการชำากิ่ง และ 5 เดือนขึ้นไปจากการเพาะปลูกเมล็ด
จากการศึกษาพบว่าหากมีอายุไม่ได้มาตรฐาน จะไม่มีการสร้างสาร จี 1 บี
ซึ่งเป็นสารที่จำาเป็นในหญ้าปักกิ่ง และสุดท้ายเนื่องจากหญ้าปักกิ่งมีราคาที่
แพงมากทำาให้มีการนำาหญ้าชนิดต่างๆที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาหลอก
ขายอีกด้วย
สถานการณ์ปัจจุบันของการพัฒนาการบริโภคหญ้าปักกิ่งที่ใช้เป็นยา
ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรม ได้มีการนำาเอาหญ้าปักกิ่งมาพัฒนาเป็นยาเม็ด
โดยยา 2 เม็ดจะเท่ากับหญ้าปักกิ่ง 3 ต้น โดยกำาหนดขนาดรับประทาน ครั้ง
ละ 1-2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ตามนำ้าหนักตัวของผู้ป่วย โดยมีระยะเวลาการรับ
ประทานขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้ยาดังนี้ คือ
1. ใช้เพื่อลดผลข้างเคียงจากรังสีบำาบัดหรือยาเคมีบำาบัดผู้ป่วยมะเร็ง
จะรับประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน
2. ใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและการกลับเป็นซำ้าอีก หลังจากการ
รักษาแล้ว โดยรับประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน เช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 1 ปี และ
ตรวจมะเร็งปีละ 2 ครั้ง
3. ใช้เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นโรคมะเร็ง รับ
ประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน เช่นนี้ติดต่อกัน เป็นเวลานานไม่เกิน 6-8 สัปดาห์
โดยใช้เพาะช่วงที่มีภูมิคุ้มกันตำ่าเช่น ขณะติดเชื้อไวรัส
ดังนั้นสุดท้ายการนำาหญ้าปักกิ่งมาทำาการบริโภค จะต้องมีความมั่นใจ
จริงๆว่า นี่คือหญ้าปักกิ่งอย่างแท้จริง มีอายุที่เหมาะสมสำาหรับการนำามาใช้
ประโยชน์ และถึงแม้หญ้าปักกิ่งจะมีคุณสมบัติที่หลากหลายในการนำามาใช้
ประโยชน์ผู้บริโภคก็ต้องคำานึงถึงปริมาณสารพิษเรื้อรัง ที่จะมีการสะสมหลัง
จากมีการบริโภคหญ้าปักกิ่งติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยครับ