More Related Content
Similar to งานคอมเกด (20)
งานคอมเกด
- 1. กลุ่ม ที่ 5
บทที่ 1 เทคโนโลยีส ารสนเทศและการสื่อ สาร
จัด ทำา โดย
นางสาว กาญจนา แจ่ม ใจหาญ เลขที่ 5
นางสาว สโรชา พลปัญ กาศ เลขที่ 8
นางสาว กานต์ท ต า หอมสุว รรณ์ เลขที่ 9
ิ
นางสาว ญาติก า ผอบทอง เลขที่ 18
นางสาว มณฑกาญจน์ พัฒ นจัน ทร์ เลขที่ 31
ชั้น มัธ ยมศึก ษาปีท ี่ 4/10
เสนอ
อาจารย์ อารีย ์ บุญ รัก ษา
โรงเรีย นจอมสุร างค์อ ุป ถัม ภ์
- 2. บทที่ 1
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
1.1ความหมายของเทคโนโลยีส ารสนเทศและการสื่อ สาร
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทยาทมาก เช่น มีการ
ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำางาน ใช้อินเตอร์เน็ตเพือสืบค้นข้อมูล หรือ
่
รับขส่งข้อมูลระหว่างกัน ตลอดใช่โทรศัพท์เครื่องที่(mobile phone)
หรือโทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสารองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
ได้นำาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเข้ามาใช้งานในทุกระดับ
ชั้นขององค์กร
- 3. เทคโนโลยีส ารสนเทศ ( Information Technology: IT )เรียกย่อ
ว่า"ไอที"ประกอบด้วยคำาว่า"เทคโนโลยี" และคำาว่า"สารสนเทศ" นำามา
ร่วนกันเป็น"เทคโนโลยีสารสนเทศ" และคำาว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร ( Information and Communication Technology: ICT ) หรือ
เรียกย่อว่า"ไอซีที"ประกอบด้วยคำาทีมีความหมายดังนี้
่
เทคโนโลยี่( Technology ) หมายถึง การนำาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
มาประยุกต์ในการพัฒนาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ วิธีการและ
กระบวนการ
สารสนเทศ( Information ) หมายถึง ผลลัพธ์ที่เกดจาก
การนำาข้อมูลมาผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างมีระบบ
เทคโนโลยีส ารสนเทศ หมายถึง การนำาความรู้ทางด้าน
วิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างหรือจัดการสารสนเทศอย่างเป็น
ระบบและรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามแผ่นแม่บท เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารประเทศไทย พ.ศ. 2545-2549 หมายถึง
เทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูล และการสื่อสารนับตั้งแต่การ
สร้าง การนำามาวิเคราะห์หรือการประมวลผล
- 5. 1.2.1 ฮาร์ด แวร์ ( hardware ) หมายถึง ตัวเครื่อง
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น คียบอร์ด
์
( keyboand ) เมาส์ ( mouse ) จอภาพ ( monitor ) เป็นต้น รวม
ทังอุปกรณ์สอสารสำาหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือ
้ ื่
ข่าย เช่น โมเ็็ด็ม ( modem ) และ สายสัญญาณ
- 6. 1.2.2 ชอฟต์แ วร์ ( soflware ) หมายถึง โปรแกรมหรือ
ชุดคำาสั่ง ( instruction ) ทีใช่ควบคุมการทำางานของเครื่อง
่
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ชุดคำาสั่งจะถูกแบ่งออก
เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- 7. ซอฟต์แ วร์ร ะบบ ( system software ) หมายถึงชุดคำาสั่งทีทำา
่
หน้าทีควบคุมการทำางานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
่
ต่อพ่วงต่างๆ และทำาหน้าทีเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับ
่
1) ระบบปฏิบ ัต ิก ารแวร์ระบบแบ่งออกเป็น OS ) เป็น
คอมพิวเตอร์ ซอฟต์ ( Operating System:
ซอฟต์แวร์ททำาหน้าที่ควบคุมการทำางานของอุปกรณ์และ
ี่
ซอฟต์แวร์ทงหมดภายในคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างระบบปฏิบัติ
ั้
การ เช่น วินโดวส์( Windowns ) ลินุกซ์ ( Linux ) และ แมค
โอเอส ( Mac OS )
2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ ( utilities program ) เป็น
โปรแกรมทีช่วยเสริมการทำางานของคอมพิวเตอร์ หรือช่วย
่
เสริมการทำางานอื่นๆให้มความสามารถใช่วานได้สะดวกและ
ี
รวดเร็วยิ่งขึ้น
- 9. 3)โปรแกรมขับ อุป กรณ์ หรือ ดีไ วซ์ไ ดร์ฟ เวอร์ ( device
driver ) เป็นโปรแกรมทีช่วยในการติดตั้งระบบเพื่อให้คอมพิว
่
เตอรืสามารถติดต่อหรือใช่งานอุปกรณ์ต่างๆ
- 10. 4) โปรแกรมแปลภาษา เป็นโปรแกรมทีทำาหน้าทีแปล
่ ่
โปรแกรมทีเขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็น
่
รหัสทีอยู่ในรูปแบบทีเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำางานได้
่ ่
ดังรูปที่ 1.9 ตัวอย่างตัวแปลภาษา เช่น ตัวแปลภาษาจาวา
ตัวแปลภาษาซี
- 11. ซอฟต์แ วร์ป ระยุก ต์ (application software) หมายถึง
ชุดคำาสั่งทีเขียนขึ้นเพือให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำางานตาม
่ ่
วัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง ซอฟต์แวร์ประยุกต์อาจเขียน
ขึ้นโดยใช้โปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น เบสิก
(Basic) ปาสคาล (Pascal) โคบอล (Cobol) ซี (C) ซีพลัส
พลัส (C++) และจาวา (Java) ซอฟต์แวร์ประยุกต์แบ่งตาม
กลุ่มการใช้งานได้ดังตารางที่ 1.1
- 12. 1.2.3 ข้อ มูล (data) ข้อมูลจะถูกรวบรวมและป้อนเข้าสู่เครื่อง
คอมพิวเตอร์โดยผ่านอุปกรณ์ของหน่วยรับเข้า เช่น คีย์บอร์ด
เมาส์ และสแกนเนอร์ (scanner) ข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการ
จัดเก็บทีเป็นระบบเพือการสืบค้นทีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
่ ่ ่
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยูในหน่วยความจำา (memory unit)
่
- 13. 1.2.4 บุค ลากร (people)บุคลากรเป็นองค์ประกอบทีสำาคัญ
่
ทีสุดของระบบสารสนเทศ ในที่นหมายถึงบุคลากรที่เป็นผู้ใช้
่ ี้
ระบบสารสนเทศ ดังรูปที่ 1.11 บุคลากรทีเป็นผู้พฒนาระบบ
่ ั
สารสนเทศ จะต้องมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศให้มประสิทธิภาพให้สามารถทำางานได้ตามความ
ี
ต้องการของผู้ใช้ใช้ง่ายและสะดวก ส่วนผู้ใช้ต้องมีความรู้
ความเข้าใจ และมีความสามารถในการใช้งานระบบสารสนเทศ
และการสื่อสารต่างๆ ได้อย่างถูกต้องจึงจะเกิดสารสนเทศทีเป็น
่
ประโยชน์
- 14. 1.2.5 ขั้น ตอนการปฏิบ ัต ิง าน (procedure) ระบบสารสนเทศ
ต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานทีเป็นลำาดับขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้
่
สามารถเข้าใจได้ง่าย และดำาเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทังในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ขั้นตอน
้
การบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการทำาสำาเนาข้อมูล ขั้นตอนการ
ปฏิบัติเมือข้อมูลได้รับความเสียหาย หรือเมือเครื่อง
่ ่
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชำารุดเสียหาย ขั้นตอน
ต่างๆ เหล่านีควรได้รับการรวบรวมและจัดทำาให้เป็นรูปเล่ม
้
- 15. 1.3 ประโยชน์แ ละตัว อย่า งของการใช้เ ทคโนโลยี
สารสนเทศและการสือ สาร ่
1.3.1 ด้า นการศึก ษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารถูกนำามาใช้เพื่ออำานวยความสะดวกในการบริหารด้าน
การบริหารด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน และระบบ
การจัดตารางสอน นอกจากนียงใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่ม
้ ั
โอกาสทางด้านการศึกษาและเพิมประสิทธิภาพการเรียนการ
่
สอน
- 16. 1.3.2 ด้า นการแพทย์แ ละสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารถูกนำามาใช้เริ่มตั้งแต่การทำาทะเบียนคนไข้ การ
รักษาพยาบาลทัวไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆได้
่
อย่างรวดเร็วและแม่นยำางานศึกษาโมเลกุลสารเคมี สามารถ
การวิจยทางการแพทย์ นอกจากนียงใช้ในห้องทดลอง การ
ั ้ ั
ศึกษาและ-มูลทางการแพทย์ รักษาคนไข้ด้วยระบบการรักษา
ค้นคว้าข้อ
ทางไกลตลอดเวลาผ่านเครือข่ายการสื่อสาร เครื่องเอกซเรย์
คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ (EMI scanner) ถูก
นำามาถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง
- 17. 1.3.3 ด้า นการเกษตรและอุต สาหกรรม เทตโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารถูกนำามาใช้ประโยชน์ในด้าน
เกษตรกรรม เช่น การจัดทำาระบบข้อมูลเพือการเกษตรและ
่
พยากรณ์ผลผลิตด้านการเกษตร นอกจากนียังช่วยพัฒนา
้
ความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม การประดิษฐ์หุ่นยนต์
เพือใช้ทำางานบ้าน และหุนยนต์เพืองานอุตสาหกรรมทีต้อง
่ ่ ่ ่
เสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เฃ่น โรงงานสารเคมี
โรงผลิตและการจ่ายไฟฟ้า รวมถึงงานทีต้องทำาซำ้าๆ
่
- 18. 1.3.4 ด้า นการเงิน ธนาคาร เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารถูกนำามาใช้ในด้านการเงินและการธนาคาร
โดยใช้ช่วยด้านการบัญชี การฝากถอนเงิน โอนเงิน
บริการสินเชื่อ และเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าวสารธนาคาร
การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารทีรู้จักและ
่
นิยมใช้กันทั่วไป เช่น บริการฝากถอนเงิน การโอนเงิน
แบบอิเล็กทรอนิกส์
- 19.
1.3.5 ด้า นความมัน คง มีการใช้เทคโนโลยี
่
สารสนเทศและการสือสารกันอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้ใน
่
การควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับ
ในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวเทียมและการ
คำานวณวิถีโคจรของจรวดไปสูอวกาศ สำานักงานตำารวจ
่
แห่งชาติของประเทศไทยมีศนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบจัด
ู
ทำาทะเบียนปืน ทะเบียนประวัติอาชญากร ทำาให้เกิดความ
สะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการสืบสวนคดี
ต่างๆ
- 21. 1.3.7 ด้า นวิศ วกรรมและสถาปัต ยกรรม มี
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการ
ออกแบบ หรือจำาลองสภาววการณ์ต่างๆ เช่น การรับ
แรงสั่นสะเทือนของอาคารเมือเกิดแผ่นดิวไหว โดยการ
่
คำานวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง
- 23. 1.4 แนวโน้ม การใช้ง านเทคโนโลยีส ารสนเทศและการ
สือ สาร
่
1.4.1 ด้า นอุป กรณ์เ ทคโนโลยีส ารสนเทศและ
การสื่อ สาร เมือพิจารณาเครือข่ายการสื่อสารทัวไปจากอดีต
่ ่
จนถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่ามนุษย์ใช้อุปกรณ์การสื่อสารแบบ
พกพามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากวิทยุเรียกตัว (pager) ซึ่งเป็น
เครื่องรับข้อความ มาเป็นถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์สื่สาร
ชนิดนีได้ถูกพัฒนาจนสามารถใช้งานด้านอื่นๆได้ นอกจาก
้
การพูดคุยธรรมดา โทรศัพท์เคลื่อนทีรุ่นใหม่สามารถใช้ถ่าย
่
รูป ฟังเพลง ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ บันทึกข้อมูงสั้นๆ บางรุ่นมี
ลักษณะเป็นเครื่องช่วยงานส่วนบุคคล (Personal Digital
Assistant : PDA) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้ง
ยังมีหน้าจอแบบสัมผัส ทำาให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น บาง
รุ่นมีอุปกรณ์สไตลัส (stylus)
- 24. 1.4.2 ด้า นระบบเครือ ข่า ยคอมพิว เตอร์ ระบบ
เครื่องข่ายคอมพิวเตอร์ในอดีตมังเป็นระบบทีใช้คอมพิวเตอร์
่
และอุปกรณ์เชือมต่อตรงโดยจุดเดียว (stand alone) ต่อมามี
่
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันภายในองค์กร เพื่อทำาให้
สามารถใช้ข้อมูลร่วมกัน หรือใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน จนเกิด
เป็นระบบรับและให้บริการ หรือทีเรียกว่าระบบรับ-ให้บริการ
่
(client-server system) โดยมีเครื่องให้บริการ (server) และ
เครื่องรับบริการ (client) การให้บริการบนเว็บก็นำาหลักการ
ของระบบรับ-ให้บริการมาใช้ช่วยให้การทำางานง่ายขึ้น
สะดวก รวดเร็ว เพราะสามารถทำางานจากที่ใดก็ได้โดยผ่าน
ระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีเว็บเซอร์เวอร์ (web server) เป็น
เครื่องให้บริการ
- 25. 1.4.3 ด้า นเทคโนโลยี ระบบทำางานอัตโนมัติทสามารถ
ี่
ตัดสินใจได้เองจะเข้ามาแทนที่มากขึ้น เช่น ระบบแนว
นำาเส้นทางจราจร ระบบจอดรถ ระบบตรวจหาตำาแหน่ง
ของวัตถุ ระบบควบคุมความปลอดภัยภายในอาคาร
ระบบทีทำางานอัตโนมัติเช่นนี้ อาจกลายเป็นระบบหลัก
่
ในการดำาเนินการของหน่วยงานต่่่างๆ โดยเข้ามา
แทนที่การทำางานของมนุษย์ มีการเชื่อมต่ออย่างกว้าง
ขวางไปยังหน่วยงานที่เกียวข้องมากกว่าทีเป็นอยู่ใน
่ ่
ปัจจุบัน
- 26.
1.5 ความเปลี่ย นแปลงจากการใช้เ ทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อ สาร
ความก้าวหน้าของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสรเทศและ
การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพือนสนองความต้องการด้าน
่
ต่างๆ ของผู้ใช้ปัจจุบันซึ่งมีจำานวนผู้ใช้งานเทคโนโลยีสารสร
เทศและการสื่อสารทัวโลกประมาณพันล้านคน และเพิมขึ้น
่ ่
เรื่อยๆ ทุกปี ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวได้ทกที่ ทุก
ุ
เวลา จึงทำาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆทังที่้เกิด
้ ่
ประโยชน์และโทษ เช่น
- 27. 1. ด้า นสัง คม สภาพเสมือนจริง การใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อม
โยงการทำางานต่างๆ จนเกิดเป็นสังคมทีติดต่อผ่านทาง
่
อินเตอร์เน็ต หรือทีรู้จักกีนว่า ไซเบอรฺ่์สเปช (cyber space)
่
ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ เช่นการพูด การชื้อสินค้า และบริการ
การทำางานผ่านเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ทำาให้เกิดสภาพที่
เสมือนจริง (virtual) เช่น เกมส์เสมือนจริง ห้องเรียนเสมือน
จริง ซึ่งทำาให้ลดเวลาในการเดินทางและสามารถใช้งานได้
ทุกทีทกเวลา
่ ุ
- 29. 3. ด้า นสิ่ง แวดล้อ ม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มีประโยชน์ในด้านธรรมชาติและและสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบ
ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม หรือ
ภาพถ่ายทางอากาศ ร่วมกับการจัดเก็บรักษาข้อมูลระดับนำ้า
ทะเล ความสูงของคลื่นจากระบบเรดาร์ เป็นการศึกษาเพือ่
หาสาเหตุ และนำาข้อมูลมาวางแผนและสร้างระบบเพือ ่
ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแต่ละแห่งได้อย่างเหมาะสม
- 30. 1.6 ตัว อย่า งอาชีพ ทางด้า นเทคโนโลยีส ารสนเทศ
และการสื่อ สาร
ตลาดแรงงานต้องการผู้ทมความรู้ความเข้าใจงาน
ี่ ี
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างแท้จริง ซึ่งงาน
ด้านนีจะรวมถึง งานด้านการออกแบบโปรแกรมต่างๆ
้
โปรแกรมใช้งานบนเว็บ งานด้านการเขียนโปรแกรมภาษา
คอมพิวเตอร์ งานด้านฐานข้อมูล งานด้านระบบเครือข่ายทัง้
ในและนอกองค์กร รวมถึงการรักษาความมันคงปลอดภัยใน
่
ระบบคอมพิวเตอร์บนเครือข่าย ดังนันองค์กรจึงมีความ
้
ต้องการบุคลากรที่มความรู้ ความสามารถในการบริหาร
ี
จัดการ และพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อใช้งานด้านต่างๆของ
องค์กร ตัวอย่างอาชีพด้านเทคโลโลยีสารสนเทศและการ
สือสาร เช่น
่
- 31. 1. นัก เขีย นโปรมแกรมหรือ โปรแกรมเมอร์
(programmer)
ทำำหน้ำที่ในกำรเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพือใช้ในงำน
่
ด้ำนต่ำงๆ เช่น โปรมแกรมเกี่ยวกับกำรซื้อขำยสินค้ำ
โปรแกรมทีใช้กับงำนด้ำนบัญชี หรือโปรแกรมทีใช้กับระบบ
่ ่
งำนขนำดใหญ่ขององค์กร
- 32. 2. นัก วิเ ครำะห์ร ะบบ (system analyst)
ทำำหน้ำทีในกำรศึกษำวิเครำะห์และพัฒนำระบบ
่
สำรสนเทศ นักวิเครำะห์ระบบจะทำำกำรวิเครำะห์ระบบ
งำนและออกแบบระบบสำรสนเทศให้ตรงกับควำม
ต้องกำรของผู้ใช้งำน ซึ่งอำจรวมถึงงำนด้ำนกำร
ออกแบบฐำนข้อมูลด้วย
- 33. 3. ผู้ด ูแ ลและบริห ำรฐำนข้อ มูล (database
administrator)
ทำำหน้ำทีบริหำรและจัดกำรฐำนข้อมูล (database) รวมถึง
่
กำรออกแบบ บำำรุงรักษำข้อมูล และกำรดูแลระบบควำม
ปลอดภัยของฐำนข้อมูล เช่น กำรกำำหนดบัญชีผู้ใช้ กำร
กำำหนดสิทธิ์ผู้ใช้
- 34. 4. ผู้ด แ ลและบริห ำรระบบ(system administrator)
ู
ทำำหน้ำที่บริหำรและจัดกำรระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กร โดย
ดูแลกำรติดตั้งและบำำรุงรักษำระบบปฎิบัติกำร กำรติดตั้ง
ฮำร์ดแวร์ สร้ำง ออกแบบและบำำรุงรักษำบัญชีผู้ใช้ สำำหรับ
องค์กรขนำดเล็กเจ้ำหน้ำทีควำมคุมระบบอำจต้องดูแลและ
่
บริหำรระบบเครือข่ำยด้วย
- 35.
5. ผู้ด แ ลและบริห ำรระบบเครือ ข่ำ ย (network
ู
administrator)
ทำำหน้ำทีบริหำรและจัดกำรออกแบบระบบเครือข่ำยคอมพิวเตอร์
่
และดูแลรักษำควำมปลอดภัยของระบบเครือข่ำยขององค์กร
เช่น ตรวจสอบกำรใช้งำนเครือข่ำยของพนักงำนและติดตั้ง
โปรแกรมป้องกันผู้บุกรุกเครือข่ำย
- 36. 6. ผู้พ ฒ นำและบริห ำรระบบเว็บ ไซต์
ั
(webmaster)
ทำำหน้ำที่ออกแบบพัฒนำ ปรับปรุงและบำำรุงรักษำเว็บไซต์
ให้มควำมทันสมัย โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งต้องมีกำรปรับปรุง
ี
ข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยูเสมอ ่
- 37. 7. เจ้ำ หน้ำ ทีเ ทคนิค (technician)
่
ทำำหน้ำที่ซอมบำำรุงรักษำเครื่องคอมพิวเตอร์ ติดตั้ง
่
โปรแกรม หรือติดตั้งฮำร์ดแวร์ต่ำงๆและแก้ไขปัญหำที่
อำจเกิดจำกกำรใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในองค์กร
- 38. 8. นัก เขีย นเกม (game maker)
ทำำหน้ำที่เขียนหรือพัฒนำโปรแกรมเกมคอมพิวเตอร์ใน
ปัจจุบันนี้กำรเขียนโปรมแกรมคอมพิวเตอร์เป็นอำชีพ
ได้รับควำมนิยมอย่ำงสูงในประเทศไทย