More Related Content
Similar to บทที่ 8. ประเภทของระบบสารสนเทศ
Similar to บทที่ 8. ประเภทของระบบสารสนเทศ (20)
More from Pokypoky Leonardo
More from Pokypoky Leonardo (6)
บทที่ 8. ประเภทของระบบสารสนเทศ
- 1. Introduction to Information Technology
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ จำา แ น ก ต า ม โ ค ร ง ส ร้ า ง อ ง ค์ ก า ร
(Classification by Organizational Structure)
การจำาแนกประเภทนี้เป็นการจำาแนกตามโครงสร้างขององค์การ
ตั้ งแต่ระดับ หน่ วยงานย่อยระดับ องค์ก ารทั้ ง หมด และระดั บ ระหว่า ง
องค์การ
สารสนเทศของหน่วยงานย่อย (Departmental information
system)
หมายถึงระบบสารสนเทศที่ออกมาเพื่อใช้สำา หรับหน่วยงานใด
หน่ ว ยงานหนึ่ ง ขององค์ ก าร โดยแต่ ล ะหน่ ว ยงานอาจมี โ ปรแกรม
ประยุกต์ใช้งานใดงานหนึ่งของตนโดยเฉพาะ เช่น ฝ่ายบุคลากรอาจ
จะมีโปรแกรมสำา หรับการคัดเลือกบุคคลหรือติดตามผลการโยกย้าย
งานของเจ้ า หน้ า ที่ ใ นหน่ ว ยงาน โดยโปรแกรมทั้ ง หมดที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
ของฝ่ า ยบุ ค ลากรจะมี ชื่ อ ว่ า ระบบสารสนเทศด้ า นทรั พ ยากรมนุ ษ ย์
(Human resources information systems)
ระบบสารสนเทศของทั้ ง องค์ ก าร (Enterprise information
systems)
หมายถึ ง ระบบสารสนเทศของหน่ ว ยงานที่ มี ก ารเชื่ อ มโยงกั บ
หน่วยงานที่ทั้งหมดภายในองค์การ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือองค์การนั้นมี
ระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงทังองค์การ
้
ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ที่ เ ชื่ อ ม โ ย ง ร ะ ห ว่ า ง อ ง ค์ ก า ร
(Interorganizational information systems-IOS)
เป็ น ระบบสารสนเทศที่ เ ชื่ อ มโยงกั บ องค์ ก ารอื่ น ๆ ภายนอก
ตั้ ง แต่ ٢ องค์ ก ารขึ้ น ไป เพื่ อ ช่ ว ยให้ ก ารติ ด ต่ อ สื่ อ สาร หรื อ การ
ประสานงานร่วมมือมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการผ่านระบบ IOS จะ
ช่วยทำาให้การไหลของสารสนเทศระหว่างองค์การหรือทั้งซัพพลาย
เชน (Supply chain) เป็ น ไปโดยอั ต โนมั ติ เพื่ อ ใช้ ใ นการวางแผน
ออกแบบ การพัฒนา การผลิต และการส่งสินค้าและบริการ
1
- 2. Introduction to Information Technology
ก า ร จำา แ น ก ต า ม ห น้ า ที่ ข อ ง อ ง ค์ ก า ร (Classification by
Functional Area)
การจำา แนกระบบสารสนเทศประเภทนี้จะเป็นการสนับสนุนการ
ทำางานตาหน้าที่หรือการทำา กิจกรรมต่างๆ ขององค์การ (Turban et
al.,2001) โดยทั่ ว ไปองค์ ก าร มั ก ใ ช้ ร ะบบ สาร สน เท ศใ นงานที่
เกี่ยวข้องกับหน้าที่ต่างๆ เช่น
• ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ด้ า น บั ญ ชี (Accounting information
system)
• ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ด้ า น ก า ร เ งิ น (Finance information
system)
• ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ด้ า น ก า ร ผ ลิ ต (Manufacturing
information system)
• ระบบสารสนเทศด้ า นการตลาด (Marketing information
system)
• ระบบสารสนเทศด้ า นทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ (Human resource
management information system)
การจำา แนกตามการให้ ก ารสนั บ สนุ น ของระบบสารสนเทศ
(Classification by Support Provided)
การจำาแนกตามการให้การสนับสนุนของระบบสารสนเทศ แบ่ง
เป็ น ٣ ประเภทย่ อ ย คื อ ระบบสารสนเทศแบบประมวลรายการ
(Transaction Processing Systems) ระบบสารสนเทศแบบรายงาน
เพื่ อ การจั ด การ (Management Reporting Systems) และระบบ
ส า ร ส น เ ท ศ เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ก า ร ตั ด สิ น ใ จ (Decision Support
Systems)
ระบบสารสนเทศแบบรายงานเพื่อการจัดการ (Management
Reporting Systems)
เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการทำา รายงานตามระยะเวลาที่
กำาหนดไว้ และช่วยในการตัดสินใจที่มีลักษณะโครงสร้างชัดเจนและ
เป็นเรื่องที่ทราบล่วงหน้า
2
- 3. Introduction to Information Technology
ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ก า ร ตั ด สิ น ใ จ (Decision
Support Systems)
เป็ น ระบบสารสนเทศที่ ช่ ว ยผู้ บ ริ ห ารตั ด สิ น ใจเชิ ง กลยุ ท ธ์ มี
ความยืดหยุ่นสูง และมีลักษณะโต้ตอบได้ (interactive) โดยอาจมี
การใช้ โ มเดลการตั ดสิ น ใจ หรื อ การใช้ ฐ านข้ อ มู ล พิ เ ศษช่ ว ยในการ
ตัดสินใจ
ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ แ บ บ ป ร ะ ม ว ล ร า ย ก า ร (Transaction
Processing Systems -TPS)
เป็นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการบันทึกและประมวลข้อมูลที่
เกิ ด จากธุ ร กรรมหรื อ การปฏิ บั ติ ง านประจำา หรื อ งานขั้ น พื้ น ฐานของ
องค์การ เช่น การซื้อขายสินค้า การบันทึกจำานวนวัสดุคงคลัง เมื่อใด
ก็ตามที่มีการทำา ธุรกรรมหรือปฏิบัติงานในลักษณะดั งกล่าวข้อ มูลที่
เกี่ยวข้องจะเกิดขึ้นทันที เช่น ทุกครั้งที่มีการขายสินค้า ข้อมูลที่เกิด
ขึ้นก็คือ ชื่อลูกค้า ประเภทของลูกค้า จำา นวนและราคาของสินค้าที่
ขายไป รวมทั้งวิธีการชำาระเงินของลูกค้า
วัตถุประสงค์ของ TPS
١) มุ่งจัดหาสารสนเทศทั้งหมดที่หน่วยงานต้องการตาม
นโยบายของหน่วยงานหรือตามกฎหมาย เพื่อช่วยในการปฏิบัติ
งาน
٢) เพื่ อ เอื้ อ อำา นวยต่ อ การปฏิ บั ติ ง านประจำา ให้ มี ค วาม
รวดเร็ว
٣) เพื่อเป็นหลักประกันว่าข้อมูลและสารสนเทศของหน่วย
งานมีความถูกต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและรักษาความลับได้
٤) เพื่อเป็นสารสนเทศที่ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบสารสนเทศที่
ใช้ในการตัดสินใจอื่น เช่น MRS หรือ DSS
หน้าที่ของ TPS
หน้าที่ของ TPS มีดังนี้ (Haag et al.,2000:50)
١) การจัดกลุ่มของข้อมูล (Classification) คือ การจัดกลุ่ม
ข้อมูลลักษณะเหมือนกันไว้ด้วยกัน
3
- 4. Introduction to Information Technology
٢) การคิดคำา นวณ (Calculation) การคิ ดคำา นวณโดยใช้วิ ธี
การคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็น
ประโยชน์ เช่น การคำานวณภาษีขายทั้งหมดที่ต้องจ่ายในช่วง ٣ ปี
ที่ผานมา
่
٣) การเรี ย งลำา ดั บ ข้ อ มู ล (Sorting) การจั ดเรี ย งข้ อ มู ล เพื่ อ
ทำาให้การประมวลผลง่ายขึ้น เช่น การจัดเรียง invoices ตามรหัส
ไปรษณีย์เพื่อให้การจัดส่งเร็วยิ่งขึ้น
٤) การสรุ ป ข้ อ มู ล (Summarizing) เป็ น การลดขนาดของ
ข้ อ มู ล ให้ เ ล็ ก หรื อ กะทั ด รั ด ขึ้ น เช่ น การคำา นวณเกรดเฉลี่ ย ของ
นักศึกษาแต่ละคน
٥) การเก็ บ (Storage) การบันทึกเหตุก ารณ์ที่ มีผ ลต่ อการ
ปฏิบั ติงาน อาจจำา เป็ นต้ องเก็ บรั กษาข้ อมู ลไว้ โดยเฉพาะข้ อ มู ล
บางประเภทที่ จำา เป็ น ต้ อ งเก็ บ รั ก ษาไว้ ต ามกฎหมาย ที่ จ ริ ง แล้ ว
TPS เกี่ ยวข้ องกับ งานทุ กระดับ ในองค์ก าร แต่ ง านส่ ว นใหญ่ ข อง
TPS จะเกิดขึ้นในระดับปฏิบัติการมากกว่า แม้ว่า TPS จะจำาเป็นใน
การปฏิ บั ติ ง านในองค์ ก ารแต่ ร ะบบ TPS ก็ ไ ม่ เ พี ย งพอในการ
สนั บ สนุ น ในการตั ด สิ น ใจของผู้ บ ริ ห าร ดั ง นั้ น องค์ ก ารจึ ง จำา เป็ น
ต้องมีระบบอื่นสำาหรับช่วยผูบริหารด้วย ดังจะกล่าวต่อไป
้
ลักษณะสำาคัญของระบบสารสนเทศแบบ TPS
ลั ก ษ ณ ะ ที่ สำา คั ญ ข อ ง ร ะ บ บ TPS มี ดั ง นี้ (Turban et
al.,2001:277)
• มีการประมวลผลข้อมูลจำานวนมาก
• แหล่ ง ข้ อ มู ล ส่ ว นใหญ่ ม าจากภายในและผลที่ ไ ด้ เ พื่ อ ตอบ
สนองต่ อ ผู้ ใ ช้ ภ ายในองค์ ก ารเป็ น หลั ก อย่ า งไรก็ ต ามใน
ปั จ จุ บั น หุ้ น ส่ ว นทางการค้ า อาจจะมี ส่ ว นในการป้ อ นข้ อ มู ล
และอนุญาตให้หน่วยงานที่เป็นหุ้นส่วนใช้ผลที่ได้จาก TPS
โดยตรง
• กระบวนการประมวลผลข้ อ มู ล มี ก ารดำา เนิ น การเป็ น ประจำา
เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกสองสัปดาห์
• มีความสามารถในการเก็บฐานข้อมูลจำานวนมาก
• มี การประมวลผลข้ อมู ล ที่ร วดเร็ ว เนื่ องจากมีป ริ มาณข้ อ มู ล
จำานวนมาก
4
- 5. Introduction to Information Technology
• TPS จะคอยติดตามและรวบรวมข้อมูลภายหลังที่ผลิตข้อมูล
ออกมาแล้ว
• ข้อมูลที่ป้อนเข้าไปและที่ผลิตออกมามีลักษณะมีโครงสร้าง
ที่ชัดเจน (structured data)
• ความซับซ้อนในการคิดคำานวณมีน้อย
• มีความแม่นยำา ค่อนข้างสูง การรักษาความปลอดภัย ตลอด
จนการรั ก ษาข้ อ มู ล ส่ ว นบุ ค คลมี ค วามสำา คั ญ เกี่ ย วข้ อ ง
โดยตรงกับ TPS
• ต้องมีการประมวลผลที่มีความน่าเชื่อถือสูง
กระบวนการของ TPS
กระบวนการประมวลข้ อ มู ล ของ TPS มี ٣ วิ ธี คื อ (Stair &
Reynolds, 1999)
١) Batch processing การประมวลผลเป็ น ชุ ด โดยการ
รวบรวมข้ อมู ล ที่ เ กิ ดจากธุ ร กรรมที่ เ กิ ดขึ้ น และรวมไว้ เ ป็น กลุ่ ม
หรือเป็นชุด (batch) เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือจัดลำาดับ
ให้เรียบร้อยก่อนที่จะส่งไปประมวลผล โดยการประมวลผลนี้จะ
กระทำา เป็ น ระยะๆ (อาจจะทำา ทุ ก คื น ทุ ก ٣ -٢ วั น หรื อ ทุ ก
สัปดาห์)
٢) Online processing คือ ข้อมูลจะได้รับการประมวลผล
และทำาให้เป็นเอาท์พุททันทีที่มีการป้อนข้อมูลของธุรกรรมเกิด
ขึ้น เช่น การเบิกเงินจากตู้ ATM จะประมวลผลและดำา เนินการ
ทั น ที เมื่ อ มี ลู ก ค้ า ใส่ ร หั ส และป้ อ นข้ อ มู ล และคำา สั่ ง เข้ า ไปใน
เครื่อง
٣) Hybrid systems เป็ น วิ ธี ก ารผสมผสานแบบที่ ١)
และ٢) โดยอาจมี ก ารรวบรวมข้ อ มู ล ที่ เ กิ ด ขึ้ น ทั น ที แ ต่ ก าร
ประมวลผลจะทำาในช่วงกระยะเวลาที่กำา หนด เช่น แคชเชียร์ที่
ป้อนข้อมูล การซื้อขายจากลูกค้าเข้าคอมพิวเตอร์ ณ จุดขาย
ของ แต่ การประมวลผลข้ อ มู ล จากแคชเชี ย ร์ ทุ ก คนอาจจะทำา
หลังจากนั้น (เช่น หลังเลิกงาน)
Customer Integrated Systems (CIS)
5
- 6. Introduction to Information Technology
เป็นระบบสารสนเทศซึ่งพัฒนามาจาก TPS โดยลูกค้าสามารถ
ป้ อ น ข้ อ มู ล แ ล ะ ทำา ก า ร ป ร ะ ม ว ล ผ ล ด้ ว ย ต น เ อ ง ไ ด้ เ ช่ น ATM
(Automated teller machines) ซึ่งช่วยให้ลูกค้า สามารถติดต่อ กั บ
ธนาคารได้ ทุ กที่ แ ละทุ กเวลา ATM ทำา ให้ลู ก ค้ า มี ความคล่ อ งตั ว ใน
การเข้ า ถึ ง มากขึ้ น และทำา ให้ ธ นาคารไม่ จำา เป็ น ต้ อ งจ้ า งพนั ก งาน
จำานวนมากอีกต่อไป ซึ่งช่วยให้ธนาคารประหยัดเงินได้จำานวนหลาย
ล้ า นบาทต่ อ ปี ดั ง นั้ น บางธนาคารจึ ง ได้ ส่ ง เสริ ม ให้ ลู ก ค้ า ในการใช้
ATM โดยการคิ ดค่ า ธรรมเนี ย มหากลู ก ค้ า ติ ดต่ อ กั บ พนั ก งานในการ
เบิกถอนเงินในลักษณะที่สามารถเบิกถอนได้กับเครื่อง ATM (Haag
et al.,2000)
นอกจากงานของธนาคารแล้ว ในปัจ จุบัน มหาวิทยาลัย ต่ า งๆ
ได้นำาระบบ CIS มาใช้เพื่อให้นักศึกษาสามารถลงทะเบียน โดยผ่าน
เครื่ อ งโทรศั พ ท์ นอกจากนี้ CIS ยั ง ช่ ว ยให้ ป ระชาชนสามารถจ่ า ย
ค่านำ้าค่าไปจากคอมพิวเตอร์ที่บ้านก็ได้
หน้าที่ การทำางานของ TPS
งานเงินเดือน (Payroll) - การติดตามเวลาการทำา งานของ
พนักงาน
- การคิ ด เงิ น เดื อ น โดยมี ก ารหั ก ภาษี ค่ า
ประกัน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- การออกเช็คเงินเดือนหรือการโอนเงินเดือน
เข้าบัญชีให้กับลูกจ้าง
การสั่งซื้อสินค้า (Purchasing) - การสั่งซื้อหรือบริการต่างๆ
- การบันทึกข้อมูล การส่งสินค้าหรือบริการ
จากซัพพลายเออร์
การเงินและการบัญชี - การบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรายรับ
(Finance and Accounting) - การบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับภาษี
- การติดตามค่าใช้จ่ายต่างๆ
การขาย (Sales) - การบันทึกข้อมูลการขาย
- การออกใบเสร็จรับเงินหรือบิลส่งสินค้า
- การติดตามข้อมูลรายรับ
- การบันทึกการจ่ายหนี้
6
- 7. Introduction to Information Technology
- การเก็บข้อมูลการส่งสินค้าหรือบริการไปยัง
ลูกค้า
วัสดุคงคลัง - การติดตามการใช้วัสดุภายในหน่วย
งาน(Inventory Management)
- การติดตามระดับปริมาณของวัสดุคงเหลือ
- การสั่งซื้อวัสดุทจำาเป็น
ี่
ที่มา ปรับจาม Turban et al. (2001:43)
ระบบสารสนเทศแบบรายงานเพื่อการจัดการ (Management
Reporting Systems MRS)
ระบบสารสนเทศที่ ช่ ว ยในการทำา รายงานตามระยะเวลาที่
กำา หนดไว้ โดยการสรุปสารสนเทศที่มีอยู่ไว้ในฐานข้อมูล (Haag et
al., 2000:54) หรื อ ช่ ว ยในการตั ด สิ น ใจในลั ก ษณะที่ โ ครงสร้ า ง
ชัดเจนและเป็นเรื่องที่ทราบล่วงหน้า
หน้าที่ของแบบ MRS
١) ช่วยในการตัดสินใจงานประจำาของผู้บริหารระดับกลาง
٢) ช่วยในการทำารายงาน
٣) ช่วยในการตั ดสิ นใจที่ เป็ นเหตุ การณ์ ที่เ กิดขึ้ น บ่ อ ยๆ และมี
โครงสร้างแน่นอน เช่น การอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้า
ลักษณะของ MRS
١) ช่ ว ยในการจั ด ทำา รายงานซึ่ ง มี รู ป แบบที่ กำา หนดไว้ เ ป็ น
มาตรฐานตายตัว
٢) ใช้ข้อมูลภายในที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล
٣) ช่วยในการวางแผนงานประจำา และควบคุมการทำางาน
٤) ช่วยในการตัดสินใจที่เกิดขึ้นประจำาหรือเกิดขึ้นบ่อยๆ
٥) มีข้อมูลในอดีต ปัจจุบัน และวิเคราะห์แนวโน้มอนาคต
٦) ติดตามการดำาเนินงานภายในหน่วยงานเปรียบเทียบผลการ
ดำาเนินงานกับเป้าหมายและส่งสัญญาณหากมีจุดใดที่ต้องการ
การปรับปรุงแก้ไข
ประเภทของรายงาน MRS
7
- 8. Introduction to Information Technology
รายงานจาก MRS มีลักษณะต่างๆ ดังนี้
١) รายงานที่ จั ด ทำา เมื่ อ ต้ อ งการ (Demand reports) เพื่ อ ใช้
สนับ สนุ นการตั ดสิ นใจ เป็นรายงานที่ จั ดเตรี ย มรู ป แบบรายงานล่ วง
หน้าและจะจัดทำาเมื่อผู้บริหาร ต้องการเท่านั้น
٢) รายงานทีทำาตามระยะเวลากำาหนด (Periodic reports) โดย
่
กำา หนดเวลา และรูปแบบของรายงานไว้ ล่ว งหน้ า เช่ น มี ก ารจั ดทำา
รายงานทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี เช่น ตารางเวลาการผลิต
٣) รายงานสรุป (Summarized reports) เป็นการทำารายงานใน
ภาพรวม เช่น รายงานยอดขายของพนักงานขาย จำานวนนักศึกษาลง
ทะเบียนวิชา MIS
٤) รายงานเมื่ อ มี เ งื่ อ นไขเฉพาะเกิ ดขึ้ น (Exception reports)
เป็ น การจั ด ทำา รายงานเมื่ อ มี เ กณฑ์ เ งื่ อ นไขเฉพาะ เพื่ อ ตรวจสอบ
เงื่อนไขต่างๆ ว่าแตกต่างจากที่วางแผนไว้หรือไม่ เช่น การกำา หนด
ใ ห้ เ ศ ษ ข อ ง ที่ เ ห ลื อ (scrap) จ า ก ก า ร ผ ลิ ต ใ น โ ร ง ง า น เ ป็ น ١
เปอร์ เ ซ็ น ต์ แต่ ใ นการผลิ ต ช่ ว งหลั ง กลั บ มี เ ศษของที่ เ หลื อ ٥
เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นอาจมีการเขียนโปรแกรม ในการประมวลผลเพื่อหา
ว่าเศษของที่เหลือเกินจากที่กำาหนดไว้ได้อย่างไร
ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ก า ร ตั ด สิ น ใ จ (Decision
Support Systems-DSS)
ระบบสารสนเทศแบบ DSS เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการ
ตั ดสิ น ใจ ซึ่ ง มีลั กษณะมี โ ครงสร้ างไม่ ชัด เจน โดยนำา ข้ อ มู ล มาจาก
หลายแหล่ ง ช่ ว ยในการนำา เสนอและมี ลั ก ษณะยื ด หยุ่ น ตามความ
ต้องการ
ลักษณะของ DSS
١) ระบบสารสนเทศที่ ใ ช้ สำา หรั บ การสนั บ สนุ น ผู้ ตั ด สิ น ใจ
ทางการบริ หารทั้ ง ที่ เ ป็ น ตั วบุ คคลหรื อ กลุ่ ม โดยการตั ดสิ น ใจนั้ น จะ
เกี่ ย วข้ อ งกั บ สถานการณ์ ที่ มี ลั ก ษณะเป็ น แบบ ไม่ มี โ ครงสร้ า ง
(unstructured situations) โดยจะมีการนำา วิจารณญาณของมนุ ษย์
กับข้อมูล จากคอมพิวเตอร์มาใช้ประกอบในการตัดสินใจ
٢) ระบบ DSS ช่วยในการตอบสนองความต้องการที่ไม่ได้คาด
การณ์มาก่อนโดยผู้ใช้สามารถปรับข้อมูลใน DSS ได้ตลอดเวลาเพื่อ
8
- 9. Introduction to Information Technology
จั ด การกั บ เงื่ อ นไขต่ า งๆ ที่ เ ปลี่ ย นแปลงไป โดยใช้ ก ารวิ เ คราะห์ ที่
เรียกว่า Sensitivity Analysis
٣) ช่ ว ยในการตั ด สิ น ใจที่ ต้ อ งการความรวดเร็ ว สู ง เพื่ อ ใช้
ประกอบในการกำา หนดกลยุ ท ธ์ ใ นการแข่ ง ขั น ดั ง นั้ น DSS จึ ง มี
ลักษณะการโต้ตอบได้ (interactive)
٤) เสนอทางวิ เ คราะห์ ใ นทางเลื อ กต่ า งๆ ในสถานการณ์ ที่ มี
ความซับซ้อน
٥) จัดการเก็บ ข้อมูล ซึ่งมาจากหลายแหล่งได้ ทั้ง ภายในและ
ภายนอกหน่วยงาน
٦) นำาเสนอได้ทั้งรายงานที่เป็นข้อความและกราฟฟิค
9