SlideShare a Scribd company logo
1 of 58
บทที่บทที่ 22
ำนวนจริงและเซตำนวนจริงและเซต
อำจำรย์อรนุช เขตสูงเนินอำจำรย์อรนุช เขตสูงเนิน
ณะวิทยำศำสตร์กำรแพทย์ณะวิทยำศำสตร์กำรแพทย์
จำำนวนเชิงซ้อน
จำำนวนจริง
จำำนวนจินตภำพ
จำำนวนอตรรกยะ จำำนวนตรรกยะ
เศษส่วน
จำำนวนเต็ม
จำำนวนเต็มลบ ศูนย
จำำนวนเต็มบวก
1.11.1 จำำนวนจริงจำำนวนจริง
สมบัติ กำรบวก กำรคูณ
ปิด 1. a+b R 6. a.b R
สลับที่ 2. a+b = b+a 7. ab = ba
เปลี่ยน
กลุ่ม
3. (a+b)+c = a+
(b+c)
8. (ab)c =
a(bc)
เอกลัก
ษณ์
4. a+0 = 0+a = a 9. ax1 = 1xa =
a
ตัว
ผกผัน
5. a+(-a) = (-a)+a
= 0
10. a.a-1
= a-1
.a
= 1
∈ ∈
เมื่อ a , b , c เป็นจำำนวนจริง
1.2 สมบัติของระบบจำำนวนจริง
ทฤษฎีบทที่ทฤษฎีบทที่ 11 ((กฏกำรตัดออกสำำหรับกำรบวกกฏกำรตัดออกสำำหรับกำรบวก))
เมื่อ a , b และ c เป็นจำำนวนจริงใดๆ ถ้ำ a+c =
b+c แล้ว a = b
พิสูจน์ 1. a+c = b+c
( กำำหนดให้ )
2. (a+c)+(-c) = (b+c)+(-c) (บวก
ด้วยจำำนวนเดียวกัน)
3. a+(c+(-c)) = b+(c+(-c)) (เปลี่ยน
กลุ่มกำรบวก)
4. a+0 = b+0 (ตัว
ผกผันของกำรบวก)
5. a = b
ทฤษฎีบทที่ทฤษฎีบทที่ 22 ((กฏกำรตัดออกสำำหรับกำรคูณกฏกำรตัดออกสำำหรับกำรคูณ))
เมื่อ a , b และ c เป็นจำำนวนจริงใดๆ ถ้ำ a.c =
b.c และ c แล้ว
a = b
0≠
ทฤษฎีบทที่ 3 เมื่อ a เป็นจำำนวนจริงใดๆ a.0 = 0
ทฤษฎีบทที่ 4 เมื่อ a เป็นจำำนวนจริงใดๆ (-1)a =
-a
ทฤษฎีบทที่ 5 เมื่อ a และ b เป็นจำำนวนจริงใดๆ
ถ้ำ ab = 0 แล้ว a = 0 หรือ b = 0
ทฤษฎีบทที่ 6 เมื่อ a , b เป็นจำำนวนจริงใดๆ
1. a(-b) = -ab
2. (-a)b = -ab
3. (-a)(-b) = ab
พิสูจน์ 1. a(-b) = a[(-1)b]
1.31.3 กำรลบและกำรหำรจำำนวนจริงกำรลบและกำรหำรจำำนวนจริง
บทนิยำมบทนิยำม เมื่อเมื่อ aa และและ bb เป็นจำำนวนจริงใดๆเป็นจำำนวนจริงใดๆ a – ba – b
= a + (-b)= a + (-b)
บทนิยำมบทนิยำม เมื่อเมื่อ aa และและ bb เป็นจำำนวนจริงใดๆ ที่เป็นจำำนวนจริงใดๆ ที่
,,
0≠b )( 1−
= ba
b
a
ทฤษฎีบทที่ทฤษฎีบทที่ 11 ถ้ำถ้ำ a , ba , b และและ cc เป็นจำำนวนจริง แล้วเป็นจำำนวนจริง แล้ว
1.1. a(b-c) = ab – aca(b-c) = ab – ac
2. (a-b)c = ac – bc2. (a-b)c = ac – bc
3. (-a)(b-c) = -ab + ac3. (-a)(b-c) = -ab + ac
ทฤษฎีบทที่ทฤษฎีบทที่ 22 ถ้ำถ้ำ จะได้จะได้0≠a 01
≠−
a
ทฤษฎีบทที่ 3 1. เมื่อbc
a
c
b
a
=
)(
2. เมื่อbc
ac
b
a
=
0, ≠cb
0, ≠cb
3. เมื่อbd
bcad
d
c
b
a +
=+ 0, ≠db
4. เมื่อbd
ac
d
c
b
a
=))(( 0, ≠db
5. เมื่อ
b
c
c
b
=−1
)( 0, ≠cb
6. เมื่อ
b
aca
c
b
=
)(
0, ≠cb
7. เมื่อ
bc
ad
d
c
b
a
=
)(
)( 0,, ≠dcb
1.4 สมบัติของกำรไม่เท่ำกัน
สมบัติไตรวิภำค (trichotomy property)
ถ้ำ a และ b เป็นจำำนวนจริง แล้ว a = b , a < b
และ a > b จะเป็นจริงเพียงอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง
บทนิยำม
หมำยถึง น้อยกว่ำหรือ
เท่ำกับ
หมำยถึง มำกกว่ำหรือ
เท่ำกับ
หมำยถึง และ
หมำยถึง และ
cba
cba
cba
cba
ba
ba
<≤
≤<
≤≤
<<
≥
≤
ba
ba
ba
ba
≤
<
≤
<
cb
cb
cb
cb
<
≤
≤
<
a
a
b
b
1.5 ช่วงและกำรแก้อสมกำร
บทนิยำม เมื่อเอกภพสัมพัทธ์เป็นเซตของ
จำำนวนจริง และ a < b
1. ช่วงเปิด (a,b) หมำยถึง {x / a < x <
b}
2. ช่วงปิด [a,b] หมำยถึง
}/{ bxax ≤≤
3. ช่วงครึ่งเปิด (a,b] หมำยถึง}/{ bxax ≤<
4. ช่วงครึ่งเปิด [a,b) หมำยถึง}/{ bxax <≤
5. ช่วง (a, ) หมำยถึง {x / x > a}α
6. ช่วง [a, ) หมำยถึงα }/{ axx ≥
7. ช่วง (- ,a) หมำยถึง {x / x < a}α
8. ช่วง (- ,a] หมำยถึงα }/{ axx ≤
9. ช่วง (- , ) หมำยถึง เซตของ
จำำนวนจริง หรือ R
α α
อสมกำร
อสมกำรใน x เป็นประโยคเปิดที่มี x เป็น
ตัวแปร และกล่ำวถึงกำรไม่เท่ำกัน เช่น≠
เซตคำำตอบของอสมกำรใน x หมำยถึง เซตของ
จำำนวนจริง โดยที่จำำนวนจริง เหล่ำนี้
2 x < 5 , x2
+2 > 0 , 3x-4 0
เมื่อนำำมำแทน x แล้วทำำให้อสมกำรเป็นจริง
กำรแก้อสมกำร คือ กำรหำเซตคำำตอบของ
อสมกำร โดยใช้สมบัติของกำร
ไม่เท่ำกัน
ตัวอย่ำง จงแก้อสมกำร 3x+5 < 5x-9
วิธีทำำ จำก 3x+5 < 5x-9
-5 บวก 3x < 5x-1
ดังนั้น เซตคำำ
ตอบของอสมกำร
คือ {x / x > 7 }
หรือ
ดังนั้น เซตคำำ
ตอบของอสมกำร
คือ {x / x > 7 }
หรือ
-5x บวก -2x <
-14คูณ x > 7
1
2
−
ตัวอย่ำง จงแก้อสมกำร x2
-5x-6 > 0
วิธีทำำ จำก x2
-5x-6 > 0
จะได้ (x+1)(x-6) > 0
กรณีที่ 1 x+1 > 0 และ x-6 > 0
นั่นคือ x > -1 และ x > 6
-1 6
คำำตอบ คือ x > 6
กรณีที่ 2 x+1 < 0 และ x-6 < 0
นั่นคือ x < -1 และ x < 6
คำำตอบ คือ x < -1),6()1,( αα ∪−−
ตัวอย่ำง จงหำคำำตอบของอสมกำร x2
-5x-6 > 0
วิธีทำำ จำก x2
-5x-6 > 0
จะได้ (x+1)(x-6) > 0
ถ้ำ (x+1)(x-6) = 0
x = -1 , 6
+ -1 - 6 +
เนื่องจำก ผลคูณมีค่ำมำกกว่ำศูนย์
ดังนั้น เซตคำำตอบของอสมกำรคือ),6()1,( αα ∪−−
ตัวอย่ำง จงแก้อสมกำร1
1
8 −
≤
+ xx
x
กำรแก้สมกำรและอสมกำรในรูปค่ำสัมบูรณ์
ทฤษฎีบท เมื่อ a เป็นจำำนวนจริงบวก
ถ้ำ = a แล้ว x = a หรือ x = -ax
ตัวอย่ำง จงหำเซตคำำตอบของสมกำร932 =−x
วิธีทำำ จำก 932 =−x
จะได้ 2x-3 = 9 หรือ 2x-3 = -9
2x = 12 หรือ 2x = -6
x = 6 หรือ x = -3
ดังนั้น เซตคำำตอบของอสมกำร คือ {-3 , 6}
ตัวอย่ำง จงหำเซตคำำตอบของสมกำร713 +=+ xx
วิธีทำำ 1) จำก 713 +=+ xx
จะได้ 3x+1 = x+7 หรือ 3x+1 = -(x+7)
2) จำก 713 +=+ xx
ยกกำำลังสอง (3x+1 )2
= (x+7)2
2x = 6 หรือ 4x = -8
x = 3 หรือ x = -2
9x2
+6x+1 = x2
+14x+49
8x2
-8x-48 = 0
x2
-x-6 = 0
(x-3)(x+2) = 0
x = 3 , -2
ตรวจคำำตอบ แทน x ด้วย 3 และ –2 ได้สมกำรเป็น
จริง ดังนั้น เซตคำำตอบของสมกำร คือ {-2 , 3}
ตัวอย่าง จงหาเซตคำาตอบของสมการ2372 +=− xx
วิธีทำา จาก
จะได้ 2x-7 = 3x+2 หรือ 2x-7 = -(3x+2)
-x = 9 หรือ 5x = 5
x = -9 หรือ x = 1
ตรวจคำาตอบ แทน x ด้วย –9 ทำาให้สมการเป็น
เท็จ
ดังนั้น เซตคำาตอบของสมการ คือ {1}
2372 +=− xx
การแก้อสมการในรูปค่าสัมบูรณ์
ทฤษฎีบท ให้ a เป็นจำานวนจริงบวก
1. หมายถึงax < axa <<−
2. หมายถึงax ≤ axa ≤≤−
3. หมายถึง หรือax > ax −< ax >
4. หมายถึง หรือax ≥ ax −≤ ax ≥
ตัวอย่าง จงหาเซตคำาตอบของอสมการ952 <−x
วิธีทำา จาก 952 <−x
จะได้ -9 < 2x-5 < 9
5 บวก , -4 < 2x < 14
2 หาร , -2 < x < 7
ดังนั้น เซตคำาตอบของอสมการ คือ {x / -2 < x < 7}
ตัวอย่าง จงหาเซตคำาตอบของอสมการ512 +≥+ xx
วิธีทำา จาก 512 +≥+ xx
จะได้ หรือ)5(12 +−≤+ xx 512 +≥+ xx
63 −≤x 4≥x
2−≤x
ดังนั้น เซตคำาตอบของอสมการ คือ),4[]2,( αα ∪−−
ตัวอย่าง จงหาเซตคำาตอบของอสมการ2312 +<− xx
วิธีทำา จาก 2312 +<− xx
ยกกำาลังสอง 4x2
-4x+1 < 9(x2
+4x+4)
4x2
-4x+1 < 9x2
+36x+36
-5x2
-40x-35 < 0
x2
+8x+7 > 0
),1()7,( ∞−∪−−∞
• ประวัติย่อของวิชาเซตประวัติย่อของวิชาเซต
• ความหมายของเซตความหมายของเซต
• การเขียนแทนเซตการเขียนแทนเซต
• เซตที่เท่ากันเซตที่เท่ากัน
• ชนิดของเซตชนิดของเซต
• เซตจำากัดเซตจำากัด
• เซตอนันต์เซตอนันต์
• เซตว่างเซตว่าง
• สับเซต และ เพาเวอร์เซตสับเซต และ เพาเวอร์เซต
• เอกภพสัมพัทธ์เอกภพสัมพัทธ์
• แผนภาพเวนน์แผนภาพเวนน์ -- ออยเลอร์ออยเลอร์
• การดำาเนินการของเซตการดำาเนินการของเซต
• ยูเนียนยูเนียน
• อินเตอร์เซกชันอินเตอร์เซกชัน
• ผลต่างผลต่าง
• คอมพลีเมนต์คอมพลีเมนต์
• การหาจำานวนสมาชิกของเซตการหาจำานวนสมาชิกของเซต
• การแก้ปัญหาเกี่ยวกับเซตการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเซต
ประวัติย่อของวิชาเซตประวัติย่อของวิชาเซต
“ ” “ ”นทางคณิตศาสตร์ จะถือว่า เซต เป็น มูลฐาน (fundam
าะว่าทฤษฎีบทต่าง ๆ ของคณิตศาสตร์ ล้วนมีเซตเข้ามาเก
ฐานแทบทั้งสิ้น
ตเริ่มมีที่มามาจากนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ชื่อ เกอร์ก
Cantor) ค.ศ. 1845 - 1918 เป็นผู้ริเริ่มใช้คำาว่าเซต ต่อจา
สตร์จึงใช้คำานี้อย่างแพร่หลาย
ความหมายของเซตความหมายของเซต
” “ ”ซต เป็นคำา อนิยาม (undefined term) หมายถึง คำาที่ต
บื้องต้นว่าไม่สามารถให้ความหมายที่รัดกุมได้
ntor “เคยอธิบายอย่างง่าย ๆ เพื่อความเข้าใจเบื้องต้นว่า
งสิ่งของหรือจินตนาการ ซึ่งมีสมบัติบางประการคล้ายกัน แ
วนั้นเรียกว่า สมาชิกของเซต
ในภาษาไทย มีคำาที่ใช้เรียกกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ หลายคำา เร
”าม (คำานามรวมหมู่) เช่น กลุ่ม ชุด ฝูง พวก
ดังนั้น คำาว่าเซตในทางคณิตศาสตร์ จึงหมายถึง กลุ่มของส
อกล่าวถึงกลุ่มใดแล้วจะสามารถทราบได้แน่นอนว่าสิ่งใดอย
ใดอยู่นอกกลุ่ม
ทางคณิตศาสตร์ เราจะใช้คำาว่า เซต (SET) เพียงคำาเดียวเท
ราเรียกสิ่งที่อยู่ในเซตว่า สมาชิก (Elements / Members)
สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในเซต ต้องเป็นสิ่งที่สามารถระบุได้อย่างแ
Defined) เพื่อที่เราสามารถระบุได้ว่า สิ่งนั้นเป็นสมาชิกใน
ตัวอย่างของเซตตัวอย่างของเซต
 เซตของวันในหนึ่งสัปดาห์ หมายถึง กลุ่มของ
วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ
วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์
ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก หมายถึง กลุ่มของรูปสี่เหลี่ยมซึ่งปร
วย สี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า
 เซตของพยัญชนะไทย
ตของนักเรียนหญิงที่เรียนในโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
 เซตของจำานวนนับทั้งหมด
ตัวอย่างของเซตตัวอย่างของเซต
 เซตของคน
เก่ง ? เซตของคนสวย ?
เซตของจำานวนที่เป็นตัวประกอบของ 3
 เซตของจำานวนคู่
 เซตของจำานวนคี่
 เซตของเดือนที่มี 30 วัน
ของอักษรภาษาอังกฤษ ที่ปรากฏในคำา “ MATHEMATI
องจำานวนเฉพาะที่น้อยกว่า 100 และลงท้ายด้วย 3
เซตของจำานวนจริงที่สอดคล้องกับสมการ
2
4 0x + =
การเขียนแทนเซตการเขียนแทนเซต
นการเขียนเซต เราสามารถเขียนเซตได้ถึง 3 รูปแบบ คือ
การเขียนเป็นข้อความการเขียนเป็นข้อความ (Statement Form)(Statement Form)
ตัวอย่างตัวอย่าง
เซตของนักเรียนห้อง ม.4/2
เซตของจำานวนเฉพาะที่ไม่เกิน 50
เซตของจำานวนเต็มบวกที่คูณกับ 5 แลัวได้ไม่เกิน
การเขียนแจกแจงสมาชิการเขียนแจกแจงสมาชิก (Tabular Form / Roaster Me(Tabular Form / Roaster Me
เป็นการเขียนแจกแจงสมาชิกทุกตัวลงในเครื่องหมายวงเล
ษณะ { } และใช้เครื่องหมายจุลภาค ( , ) คั่นสมาชิกแต่ละต
ตัวอย่างตัวอย่าง
 เซตของจำานวนนับที่น้อยกว่า 5 เขียนแทนด้วย {1, 2,
 กำาหนดให้ A แทนเซตของพยัญชนะ 3 ตัวแรกในภาษา
A = {a, b, c} อ่านว่า A เป็นเซตที่มี a, b และ c เป็นสม
 กำาหนดให้ B แทนเซตของจำานวนเต็มบวกที่เป็นคู่
B = {2, 4, 6, 8, …}
“...” บอกว่า มีจำานวนอื่น ๆ อยู่ในเซตด้วย เช่น
{มกราคม, กุมภาพันธ์, ..., ธันวาคม}
“...” บอกว่า มีเดือนอื่น ๆ อยู่ในเซตนี้ด้วย
ึงระวัง : “จะใช้ ...” ในกรณีที่ทราบแน่ชัดว่าสมาชิกที่ตาม
รเท่านั้น เช่นไม่เขียน
1
0, , 3,7,...
2
 
 
 
1 2 3 4 5 1 2 4
, , , , ,..., , , ,...
2 2 2 2 2 3 3 3
 
 
 
จงเขียนเซตต่อไปนี้ ในรูปของการแจกแจงสมาชิกจงเขียนเซตต่อไปนี้ ในรูปของการแจกแจงสมาชิก
1. เซตของวันใน 1 สัปดาห์
2. “ ”เซตของเดือนที่ลงท้ายด้วย ยน
3. เซตของสระในภาษาอังกฤษ
4. –เซตของจำานวนเต็มลบที่มากกว่า 20
. เซตของจำานวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า 100
6. เซตของจำานวนเต็มบวก
7. เซตของจำานวนเต็มลบ
8. เซตของจำานวนเต็ม
. เซตของจำานวนจริงที่สอดคล้องกับสมการ
2
5 0x x- =
. เซตของจำานวนเต็มบวกที่สอดคล้องกับสมการ
2
3 0x x- =
ารแจกแจงเงื่อนไขารแจกแจงเงื่อนไข (Set Builder Form/ Rule Method)(Set Builder Form/ Rule Method)
เป็นการใช้ตัวแปรเขียนแทนสมาชิกแล้วทำาการบรรยาย
สมาชิกที่อยู่ในรูปตัวแปร เช่น
A = { x | x เป็นพยัญชนะสามตัวแรกในภาษาอังกฤ
ว่า A เป็นเซตซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก x โดยที่ x เป็นพย
“ตัวแรกในภาษาอังกฤษ เครื่องหมาย |” แทนคำาว่า โดยท
มารถเขียนรูปแบบการแจกแจงเงื่อนไขให้อยู่ในรูปแจกแจง
แต่ในบางเซตเราไม่สามารถเขียนรูปแบบการแจกแจงสม
งื่อนไข
จงเขียนเซตต่อไปนี้ ในรูปของการแจกแจงสมาชิกจงเขียนเซตต่อไปนี้ ในรูปของการแจกแจงสมาชิก
1. { | and 3 8}A x x I x= 룣
2. { | and 100}B x x I x+
= Σ
3. { | is positive prime numbers and 100}C x x x= £
4. { | and 3 | }D x x N x= Î
5. { | such that 100 and }E x x N x x N= ΣÎ
6.
2
and 0
1
x
F x x R
x
ì üï ï-ï ï= =Îí ý
ï ï-ï ïî þ
จงเขียนเซตในรูปแบบบอกเงื่อนไขจงเขียนเซตในรูปแบบบอกเงื่อนไข
1. A = { ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัสบดี,
ดาวศุกร์, ดาวเสาร์,
ดาวยูเรนัส, ดาวเนปจูน, ดาว
พลูโต,}
2. B = {1, 2, 3, 4, ..., 10}
3. C = {-10, -9, -8, -7, ..., -1}
4. D = {b, c, d, f, ..., z}
5. E = {1, 3, 5, 7, ..., 99}
6. F = {5, 10, 15}
7. G = {4, 9, 25, 49, 121, 169}
8. H = {-2, -5}
9. I = {...,-2, -1, 0, 1, 2 , ... }
10. J = {1, 4, 9, 16, ..., 100}
เซตต่าง ๆ ที่ควรทราบเซตต่าง ๆ ที่ควรทราบ
การเป็นสมาชิกของเซตการเป็นสมาชิกของเซต
หนดให้ A = {1, 2, 3}
ป็นสมาชิกของ A
ยนแทนได้ว่า 1 A (อ่านว่า 1 เป็นสมาชิกของ A)
ม่เป็นสมาชิกของ A
ยนแทนได้ว่า 4 A (อ่านว่า 4 ไม่เป็นสมาชิกของ A)
Î
Ï
เซตที่เท่ากันเซตที่เท่ากัน
ต A จะเท่ากับเซต B ก็ต่อเมื่อสมาชิกทุกตัวขอ
นสมาชิกของเซต B และสมาชิกทุกตัวของเซต
าชิกของเซต A
เช่น ถ้า A = { 1 , 2 , 3 } และ
B = { x เป็นจำานวนนับที่น้อยกว่า 4 }
จะได้ A = B
สับเซต (Subsets)สับเซต (Subsets)
บท
นิยาม
เซต A เป็นสับเซตของ B ก็ต่อเมื่อ สมาชิกทุกตัวข
เป็นสมาชิกของเซต B
A เป็นสับเซตของ B เขียนแทนด้วย A B⊂
เช่นA = { 1 , 2 , 3 },B = { 1 ,2 , 3, 4 }
A B⊂ แต่ B A⊄( B ไม่เป็นสับเซต A )
จากนิยามจะได้
1. เซตทุกเซตเป็นสับเซตของตัวเองเช่น A A⊂
2. เซตว่างเป็นสับเซตของทุกเซต A⊂φเช่น
เพาเวอร์เซตเพาเวอร์เซต
เพาเวอร์เซตของเซต Aคือ เซตของสับเซตทั้งหมดของ A เม
เป็นเซตจำากัด เขียนแทนด้วย P(A
เช่น ถ้า A = {a ,b, c}สับเซตทั้งหมดของ A คือ
φ , {a},{b} ,{c} , {a,
b}
{a,c
}
{b,c
}
{a,b,
c}
, , ,
ดังนั้น P(A)
=
φ{ , {a},{b}, {a,
b}
,{a,c
}
{b,c
}
,{c}, , {a,b
,c}
}
ข้อสังเกต
ถ้า A เป็นเซตจำากัดที่มีจำานวนสมาชิก n ตัว แ
P(A) มีสมาชิก 2n
ตัว
» Universal Set (เอกภพสัมพัทธ์)
นิยาม : เซตที่รวมสมาชิกทั้งหมดที่อยู่ในขอบข่ายในการ
พิจารณาของเรา
สัญลักษณ์:
» Empty Set /Null Set (เซตว่าง)
นิยาม : เซตที่ไม่มีสมาชิกใดๆอยู่เลย
สัญลักษณ์:
Ω
,A A∀ ⊆Ω
,{}∅
,A A∀ ∅⊆
ผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ (Venn-Euler Diagrผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ (Venn-Euler Diagr
U
A
B
C
A
B
U
รูป 1 รูป 2
รูป 1 แสดงเซต A , B และ
C
ไม่มีสมาชิกร่วมกัน
และต่างเป็นสับเซตของ U
รูป 2 แสดงว่า B A⊂
าง กำาหนดให้ A = { a,b,c,d } และ B = { c,d,e
จงเขียนแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์แทนเซตทั้งสองน
วิธีทำา
U
A B
c
d
a
b
e
f
าง กำาหนดให้ A = { a,b,c } และ B = { a,b,c,d
จงเขียนแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์แทนเซตทั้งสองน
วิธีทำา
U
A
B
c
da
b e
ยูเนียน (union)ยูเนียน (union)
บทนิยามยูเนียนของเซต A และเซต B คือเซตที่ประกอบด
ป็นสมาชิกของเซต A หรือของเซต B หรือของทั้ง
ยูเนียนของเซต A และ B
เขียนแทนด้วย
BA ∪
ตัวอย่างถ้า A = { 1, 3 ,5 }, B = { 1, 2, 3, 4 }
จะได้ BA ∪ = { 1, 2, 3 ,4 ,5 }
ขียน แบบบอกเงื่อนได้BA ∪
U | x A หรือ x B หรือ x เป็นสมาชิกของ∈ ∈ ∈
บริเวณที่แรเงาในแผนภาพต่อไปนี้คือBA ∪
A B
U
A B
AB BA
A และ B มีสมาชิกบางตัวเหมือนกันA และ B ไม่มีสมาชิกที่เหมือนกัน
A เป็นสับเซตของ B B เป็นสับเซตของ A
U U
U
อินเตอร์เซกชัน (intersection)อินเตอร์เซกชัน (intersection)
าม อินเตอร์เซกชันของเซต A และ B คือเซตที่ป
สมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกของทั้งเซต A และ เซต B
เตอร์เซกชันของเซต A และ เซต B เขียนแทนด้วยBA ∩
เขียน BA ∩แบบบอกเงื่อนไขได้
{ x U | x A และ x B }∈ ∈ ∈
ย่าง ถ้า A = { 1 ,2 ,3 ,4 } และ B = {
จะได้ BA ∩ = { 2 ,4 }
บริเวณที่แรเงาในแผนภาพต่อไปนี้คือ
A B
U
A B
AB BA
A และ B มีสมาชิกบางตัวเหมือนกันA และ B ไม่มีสมาชิกที่เหมือนกัน
A เป็นสับเซตของ B B เป็นสับเซตของ A
U U
U
BA ∩
คอมพลีเมนต์ (complement)คอมพลีเมนต์ (complement)
บทนิยาม คอมพลีเมนต์ของเซต A ซึ่งเป็น
สับเซตของเอกภพสัมพัทธ์ U
คอมพลีเมนต์ของ A เขียนแทนด้วยA′
เขียน แบบบอกเงื่อนไขได้A′ { x U | x A }∈ ∉
ตัวอย่างถ้า U = { 0 ,1 ,2 ,3 ,4 ,5 } และ A = { 0 ,2 ,
จะได้ A′= { 1 ,3 ,5 }
คือ เซตที่ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกของ U
แต่ไม่เป็นสมาชิกของ A
บริเวณที่แรเงาใน
แผนภาพ คือคอมพลีเมนต์
U
A A B
U
)( ′∪ BAA′
U
A
)( ′′A
ผลต่างผลต่าง
ยาม ผลต่างระหว่างเซต A และเซต B คือเซตที่ปร
มาชิกของเซต A ซึ่งไม่เป็นสมาชิกของเซต B
ลต่างระหว่างเซต A และเซต B เขียนแทนด้วย A
เขียน A - B แบบเงื่อนไขได้{ x U | x A และ x B∈ ∈ ∉
ตัวอย่างถ้า A = { 0 ,1 ,2 ,3 ,4 } และ B = {
3 ,4 ,5 ,6 ,7 }
จะได้ A - B ={ 0 ,1 ,2 }
B - A ={ 5 ,6 ,7 }
บริเวณที่แรเงาในแผนภาพคือ A -
B
A B
U
A
U
B
U
A
B
U
A
B
ชื่อเซตแต่ละส่วนของแผนภาพ
U
A B
C
CBA −∩ )()( CBA ∪−
BCA −∩ )(
CBA ∩∩ )( BAC ∪−
ACB −∩ )(
)( CAB ∪−
สมบัติการเท่ากันของเซตสมบัติการเท่ากันของเซต
AA ∪.1 = A
AA ∩.2 = A
)(.3 CBA ∩∪ = )()( CABA ∪∩∪
φ∪A.4 = A
UA ∪.5 = U
φ′.6 = U
U ′.7 = φ
สมบัติการเท่ากันของเซตสมบัติการเท่ากันของเซต
φ∩A.8 =
UA ∩.9 = U
)(.10 ′′A =
BA −.11 =
A
)(.12 ′∪ BA =
)(.13 ′∩ BA =
φ
BA ′∩
BA ′∩′
BA ′∪′
)(.14 CBA ∪− = )()( CABA −∩−
CBA −∪ )(.15 = )()( CBCA −∪−
ควรจำา...
เป็นพิเศษ
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเซตจำากัดโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเซตจำากัด
สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ 2 วิธี
1. โดยการใช้แผนภาพเวนน์ - ออยเลอร์
2. โดยการใช้สูตร
2.1 )( BAn ∪ = )()()( BAnBnAn ∩−+
2.2 )( CBAn ∪∪ =
)()()()()()()( CBAnCBnCAnBAnCnBnAn ∩∩+∩−∩−∩−++
ตัวอย่างจากการสำารวจผู้ฟังเพลงไทยทางวิทยุจำานวน 180 คน พบว่า
งเพลงไทยสากลมี 100 คน ผู้ชอบฟังเพลงไทยเดิมมี 92 คนผู้ที่ชอ
15 คน ผู้ที่ชอบฟังทั้งเพลงไทยสากลและเพลงไทยเดิมมี 52 คน ผ
ทยเดิมและเพลงลูกทุ่งมี 57 คน ผู้ที่ชอบฟังเพลงไทยสากลและเพล
นที่ชอบฟังเพลงทั้งสามประเภท ข. มีกี่คนที่ชอบฟังเพลงไทยเดิม
วิธีทำา
ไทยสากล ไทยเดิม
ลูกทุ่ง
52- x
x43 -x 57 -x
ผู้ที่ชอบฟังเพลงไทยสากลอย่างเดียวมี
100 - (52-x) - (43-x) - x =x + 5
ผู้ที่ชอบฟังเพลงไทยเดิมอย่างเดียวมี
92 -(52- x) -(57 - x) - x =x - 17
ผู้ที่ชอบฟังเพลงลูกทุ่งอย่างเดียวมี
115 - (43 - x) - (57 - x)= x +
15ดังนั้นมีผู้ฟังเพลงไทยทางวิทยุ =
(x+5) + (x-17) + (x+15) + (52 -x ) + (43 - x) + (57 -180
x + 155 =180
นั่นคือ ผู้ที่ชอบฟังเพลงทั้งสามประเภทมี
x =25
25 คน
ผู้ที่ชอบฟังเพลงไทยเดิมเพียงอย่างเดียวมี25 - 17 =8 คน
ข้อนี้อาจใช้สูตร
)()()()()()()( CBAnCBnCAnBAnCnBnAn ∩∩+∩−∩−∩−++
)( CBAn ∪∪ =
ในการสอบถามนักเรียน 100 คน ปรากฏผลดังนี้
41 คน ชอบวิชาคณิตศาสตร์
26 คน ชอบวิชาภาษาอังกฤษ
8 คน ชอบทั้งวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาภาษาอังกฤษ
19 คน ชอบทั้งวิชาคณิตศาสตร์และวิชาภาษาอังกฤษ
5 คน ชอบทั้งสามวิชา
29 คน ชอบวิชาวิทยาศาสตร์
15 คน ชอบทั้งวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ยากทราบว่า มีกี่คนที่ไม่ชอบวิชาใดเลยใน 3 วิชานี้
มีกี่คนที่ชอบเพียงวิชาเดียวและมีกี่คนที่ชอบเพียงสองวิชา
การบ้าน
2. จงเขียนเซตต่อไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก
การบ้าน
A ={x: X < 10, x เป็นจำานวนธรรมชาติ
B ={x: = 16, x จำานวนจริง
C = {x: 4 < x <11, x เป็นจำานวนเต็ม
D = {x: 0 < x < 28, x เป็นจำานวนเต็มที่ 4 หารลงตัว
∈2
x
3. จงหาเซตย่อยของเซตต่อไปนี้
3.1 C = {แดง, ดำา, เขียว
3.2 A = {1, 3, 5, 7}
3.3 B = {r, s, t, u, v}

More Related Content

What's hot

คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001Thidarat Termphon
 
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวแบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวsontayath
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงDestiny Nooppynuchy
 
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อนแบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อนchatchai
 
จำนนวนเชิงซ้อน
จำนนวนเชิงซ้อนจำนนวนเชิงซ้อน
จำนนวนเชิงซ้อนFern Monwalee
 
Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)Thanuphong Ngoapm
 
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014Nattakarn Namsawad
 
จำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อนจำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อนBeer Aksornsart
 

What's hot (19)

คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
คณิตศาสตร์ ม.ปลาย พค31001
 
จำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อนจำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อน
 
Math9
Math9Math9
Math9
 
Function1
Function1Function1
Function1
 
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวแบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
แบบทดสอบสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
 
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อนแบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
แบบฝึกทักษะเรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
 
Expo
ExpoExpo
Expo
 
P2a
P2aP2a
P2a
 
Math3
Math3Math3
Math3
 
Math1
Math1Math1
Math1
 
จำนนวนเชิงซ้อน
จำนนวนเชิงซ้อนจำนนวนเชิงซ้อน
จำนนวนเชิงซ้อน
 
Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)Real Number(ระบบจำนวนจริง)
Real Number(ระบบจำนวนจริง)
 
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
 
Real
RealReal
Real
 
Trigonometry1
Trigonometry1Trigonometry1
Trigonometry1
 
Linear1
Linear1Linear1
Linear1
 
จำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อนจำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อน
 
แบบทดสอบ เรื่อง จำนวนจริง
แบบทดสอบ เรื่อง จำนวนจริงแบบทดสอบ เรื่อง จำนวนจริง
แบบทดสอบ เรื่อง จำนวนจริง
 

Viewers also liked

สรุปสูตรเรื่อง เซต
สรุปสูตรเรื่อง เซตสรุปสูตรเรื่อง เซต
สรุปสูตรเรื่อง เซตK'Keng Hale's
 
12 1-2012
12 1-201212 1-2012
12 1-2012nuntt
 
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นแบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นทับทิม เจริญตา
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาAon Narinchoti
 

Viewers also liked (9)

สรุปสูตรเรื่อง เซต
สรุปสูตรเรื่อง เซตสรุปสูตรเรื่อง เซต
สรุปสูตรเรื่อง เซต
 
14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง
14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง
14 จำนวนจริง ตอนที่1_สมบัติของจำนวนจริง
 
12 1-2012
12 1-201212 1-2012
12 1-2012
 
26 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น บทนำ
26 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น บทนำ26 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น บทนำ
26 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น บทนำ
 
Math Kit EBook : สรุปคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
Math Kit EBook : สรุปคณิตศาสตร์ ม.ปลายMath Kit EBook : สรุปคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
Math Kit EBook : สรุปคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
 
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นแบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
แบบทดสอบ เรื่องทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
 
28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย
28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย
28 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่2_ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย
 
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
27 ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตอนที่1_การหารลงตัวและจำนวนเฉพาะ
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหา
 

Similar to บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต

อสมการ
อสมการอสมการ
อสมการkrusongkran
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว Somporn Amornwech
 
Factoring of polynomials
Factoring of polynomialsFactoring of polynomials
Factoring of polynomialsAon Narinchoti
 
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์Pasit Suwanichkul
 
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์peterpanz19
 
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์Pepan Pan
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3krutew Sudarat
 
สื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟสื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟKanchanid Kanmungmee
 

Similar to บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต (20)

อสมการ
อสมการอสมการ
อสมการ
 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 
 
Realnumbers
RealnumbersRealnumbers
Realnumbers
 
Satit tue134008
Satit tue134008Satit tue134008
Satit tue134008
 
Pat1
Pat1Pat1
Pat1
 
Pat1
Pat1Pat1
Pat1
 
Factoring of polynomials
Factoring of polynomialsFactoring of polynomials
Factoring of polynomials
 
Add m2-2-chapter2
Add m2-2-chapter2Add m2-2-chapter2
Add m2-2-chapter2
 
Sk7 ma
Sk7 maSk7 ma
Sk7 ma
 
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์
สรุปเข้มฯ#7 คณิตศาสตร์
 
Sk7 ma
Sk7 maSk7 ma
Sk7 ma
 
Conc mat กสพท54
Conc mat กสพท54Conc mat กสพท54
Conc mat กสพท54
 
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
 
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
ตัวอย่างวิชาคณิตศาสตร์
 
การแก้อสมการเชิงเส้น1
การแก้อสมการเชิงเส้น1การแก้อสมการเชิงเส้น1
การแก้อสมการเชิงเส้น1
 
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
 
Real (1)
Real (1)Real (1)
Real (1)
 
สื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟสื่อเรื่องกราฟ
สื่อเรื่องกราฟ
 
Integer
IntegerInteger
Integer
 
Integer
IntegerInteger
Integer
 

More from PumPui Oranuch

Chapter 3 แรง และสมดุลของแรง
Chapter 3 แรง และสมดุลของแรงChapter 3 แรง และสมดุลของแรง
Chapter 3 แรง และสมดุลของแรงPumPui Oranuch
 
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์PumPui Oranuch
 
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์PumPui Oranuch
 
Chapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับChapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับPumPui Oranuch
 
Chapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมChapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมPumPui Oranuch
 
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันChapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันPumPui Oranuch
 

More from PumPui Oranuch (6)

Chapter 3 แรง และสมดุลของแรง
Chapter 3 แรง และสมดุลของแรงChapter 3 แรง และสมดุลของแรง
Chapter 3 แรง และสมดุลของแรง
 
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่1 introductions ปริมาณทางฟิสิกส์
 
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
 
Chapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับChapter2 ลำดับ
Chapter2 ลำดับ
 
Chapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมChapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรม
 
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชันChapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
Chapter 4 ลิมิตของฟังก์ชัน
 

บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต