SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
โครงงานพัฒนาสือเพือการศึกษา(Educational Media)

                   เป็ นโครงงานทีใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสือเพือการศึกษา โดยการ
สร้ างโปรแกรมบทเรี ยน หรื อหน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บท
ทบทวนและคําถามคําตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุม      ่
การสอนโดยใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยนี 0 ถือว่าเครื องคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์การสอน
ไม่ใช่เป็ นครูผ้ สอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบ Online ให้ นกเรี ยนเข้ ามา
                 ู                                                      ั
ศึกษาด้ วยตนเองก็ได้
        โครงงานประเภทนี 0สามารถพัฒนาขึ 0นเพือใช้ ประกอบการ สอนในวิชาต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็ นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพ
อืน ๆ ฯลฯ โดยนักเรี ยนอาจคัดเลือกหัวข้ อทีนักเรี ยนทัวไปทีทําความเข้ าใจยาก มา
เป็ นหัวข้ อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรี ยน ตัวอย่างเช่น
1. โปรแกรม ดนตรี ไทยแสนสนุก
2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิงมีชีวิต
3. โปรแกรมฝึ กอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
4. โปรแกรมสํานวนไทยพาสนุก
5. โปรแกรมเรี ยนรู้คณิตศาสตร์
โครงงานพัฒนาสือเพือการศึกษา (Educational Media
Development) “หนุ่ มน้ อยเจ้ าปั ญญา”
บทที 1บทนํา ทีมาและความสําคัญของโครงงาน
                ปั จจุบน “สือ” มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนืองและจริ งจัง ทําให้
                       ั
นักเรี ยน นักศึกษาในแต่ละลสาขาวิชา โรงรี ยนจึงมีแนวคิดส่งเสริ มให้ นกศึกษารุ่นใหม่
                                                                      ั
ทีมีความชืนชอบในการทําภาพยนตร์ และพัฒนาให้ เป็ นขุมพลังในอนาคตของวงการ
ภาพยนต์ไทย โดยเปิ ดเวทีสําหรับการสร้ างหนังสั 0นขึ 0นมาในหัวข้ อ “สร้ างสรรค์เพือ
สังคม” คือการนําแรงบันดาลใจทีได้ รับจากการศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาทีเข้ าสู้
รัวของโรงเรี ยน และมีการเปลียนแปลงพฤติกรรมต่าง ๆ มาสร้ างเป็ นหนังนั 0นเอง โดย
   0
โครงการ “สร้ างสรรค์เพือสังคม” เป็ นการประกวดหนังสั 0นสําหรับนักศึกษา ซึงผู้
ส่งผลงานเข้ าประกวดต้ องสร้ างหนังซึงมีทีมาหรื อได้ แรงบันดาลใจจากพฤติกรรมที
ประสบพบเห็นของตัวเองหรื อเพือน ๆ ก็ได้ ไม่จํากัดประเภท ไม่จํากัดแนว ไม่จํากัด
ความคิดสร้ างสรรค์และมุมมองในการนําเสนอเรื องราว ไม่จํากัดประเภทสือ
บันทึกภาพ (กล้ องวิดีโอ กล้ องจากโทรศัพท์มอถือฯ) ซึงเชือว่าหากถ่ายทอดความคิด
                                              ื
ออกมาได้ โดนใจ หนังฟอร์ มเล็กก็มีโอกาสจะกลายเป็ นหนังฟอร์ มใหญ่ได้ ในอนาคต
อีกทั 0งทางโรงเรี ยนยังมีการจัดกิจกรรม "อบรมการทําหนังสั 0น" โดยวิทยากรและทีม
ผู้เชียวชาญในวงการภาพยนตร์ ซึงเป็ นการเสริ มสร้ างทักษะการสร้ างภาพยนตร์ ให้ กบ   ั
ผู้เข้ าร่ วมประกวดอีกด้ วยในอนาคต ซึงเนื 0อหาของการอบรมนั 0นจะครอบคลุมตั 0งแต่
วิธีการทําการ์ ตน การเขียนบท การตัดต่อ ไปจนถึงเทคนิคการทําหนังตัวอย่าง
                  ู
(Trailer)
วัตถุประสงค์
(1)      สร้ างสือการเรี ยนรู้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
(2)      ศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทีใช้ สร้ างสือการเรี ยนรู้
(3)       ศึกษาการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์
(4)       เพือเป็ นการประชาสัมพันธ์
ขอบเขตของโครงงาน
              การจัดทําโครงงานการ์ ตน “หนุ่มน้ อยเจ้ าปั ญญา” เป็ นการสร้ างสือ
                                    ู
เพือสะท้ อนสังคมในสถานศึกษาและพฤติกรรมของนักศึกษาเมือเข้ าสูรัวของ ่0
สถานศึกษา ให้ บคคลภายนอกหรื อศึกษาได้ ดสือการ์ ตนทีสร้ างขึ 0นมา และในการ
                      ุ                     ู         ู
สร้ างการ์ ตนได้ ใช้ เพือน ๆ
            ู
ประโยชน์ทีได้ รับจากโครงงาน
1. สร้ างแนวคิดใหม่ ๆ
2. สือให้ สงคมได้ มองเห็นพฤติกรรมของนักศึกษา
           ั
3. ประยุกต์ใช้ โปรแกรมได้ หลากหลาย
4. เพิมทักษะในการใช้ โปรแกรมให้ กบตัวเอง
                                 ั

วิธีดําเนินงาน
เขียนเป็ นลําดับขั 0นตอนในการปฏิบติงาน พร้ อมตาราง Gantt chart
                                 ั
ขั 0นตอนการดําเนินงาน
1.เตรี ยมเรื องทีต้ องการทํา
2.หาเนื 0อเรื อง
3.นําภาพมาเรี ยงในสไลด์
4.พากเสียง
5.นําเสียงมาใส่ในสไลด์
แผนปฏิบติงาน
       ั
       ตารางที 1-1 ระยะเวลาในการดําเนินงาน
ลําดับ         กิจกรรม            สิงหาคม54 กันยายน54
ที




                                 1 2 3 4 1 2 3 4
  1      นําเสนอหัวข้ อต่ อ
         อาจารย์ ทีปรึ กษา
  2      วิเคราะห์ และ
         ออกแบบ
         ระบบ กําหนด
         สถานที
  3      จัดเตรี ยมอุปกรณ์
  4      ถ่ ายทําหนังสัน+
  5      ตัดต่ อหนังสัน
                      +
  6      นําเสนอผลงานต่ อ
         คณะกรรมการ
บทที 2 เอกสารและโครงงานทีเกียวข้ อง
              ในการจัดทําโครงงานการสร้ างสือการเรี ยนรู้การ์ ตน ผู้จดทําโครงงานได้
                                                              ู ั
รวบรวมแนวคิดทฤษฏีและหลักการต่าง ๆ จากเอกสาร และงานวิจยทีเกียวข้ อง โดย
                                                                   ั
สร้ างพื 0นฐานมาจากการนําเอาบทนิทาน หรื อนิยาย มาสร้ างเป็ นการ์ ตน ประมาณ
                                                                     ู
13 นาที ซึงสามารถพัฒนาโดยใช้ โปรแกรมต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น Adobe
Premiere , Movie Maker, Adobe Photoshop หรื อโปรแกรมอืน
ๆ โดยการนําโปรแกรมมาประยุกต์ใช้ ประกอบด้ วยภาพ เสียง และการแปลง File
ให้ เป็ น File Video เพือนําไปเสนอต่อไป

การ์ ตน
      ู
          การ์ ตนก็มีจดกําเนิดพร้ อมกันกับภาพยนตร์ ทีเราดูกนเป็ นปรกติทกวันนี 0
                ู       ุ                                     ั             ุ
ภาพยนตร์ เรื องแรกของโลก เมือคนยุคสมัย 100 กว่าปี ก่อนได้ เข้ าไปในสถานทีแห่ง
หนึง และได้ เห็นภาพทีตัวเองทีไม่เคยเห็นมาก่อน นันคือรถไฟค่อยๆ จอดเทียบชาน
ชาลา พวกเขาเชือว่าตนเองเกือบจะโดนรถไฟชน นันคือจุดเริ มต้ นของคําว่า
“ภาพยนตร์ ” หนึงในมหรสพทีคนทุกผู้ทกนามไม่อาจจะปฎิเสธได้ แต่ในวันนี 0คงจะหา
                                           ุ
ดูได้ ยากสักหน่อย
           การ์ ตนจะมีเหตุการณ์เกิดขึ 0น ดําเนินและจบลงอย่างรวดเร็ว หนังสั 0น
                  ู
ทั 0งหมดมักจะมีเรื องราวหลักเพียงเรื องเดียว ถ้ าเป็ นไปในนิยามมักจะกําหนดให้ หนัง
สั 0นยาวไม่เกิน 30 หรื อ 40 นาที เพราะถือว่าเป็ นความยาวทีพอเหมาะ คําถาม
ต่อมาก็คือ แล้ วจะดูร้ ูเรื องไหมนัน?ไม่มีกติกาตายตัวว่าหนังสั 0นจะต้ องดูแล้ วรู้เรื อง
หรื อเปล่า เพราะ เล่าเรื องในลักษณะใดก็ได้ ทําได้ แม้ กระทังเป็ นเพียง Concept
หรื อบอกอะไรบางอย่างให้ แก่คนดูโดยทีคนดูก็ไปคิดไปตีความกันเอาเอง

หลักการ การทําการ์ ตน    ู
1.รู้ วิธีและหลักการ การเรี ยนstoryboardทีถูกต้ อง ทําให้ ร้ ูวาการจะทําหนังสั 0น
                                                                   ่
ต้ องมีstoryboardก่อน
2.รู้ วิธีคดเรื องราวทีจะนําเอามาทําเป็ นหนังสั 0น ว่าหลักการมีอย่างไร
           ิ
3.ได้ ความรักความสามัคคี ในการทํางานเป็ นกลุม เพราะการทํางานเป็ นกลุมล้ วนมี
                                                     ่                   ่
อุปสรรค์แต่ทกคนก็ผ่านมาได้
                 ุ
4.รู้ วิธีการ ตัดต่อ ใส่เพลง ลําดับเรื องราว และมุมกล้ อง ทําอย่างไรจึงจะน่าสนใจ
และไม่น่าเบือ
1. การค้ นคว้ าหาข้ อมูล (research) เป็ นขั 0นตอนการเขียนบทภาพยนตร์ อนดับ      ั
แรกทีต้ องทําถือเป็ นสิงสําคัญหลังจากเราพบประเด็นของเรื องแล้ ว จึงลงมือค้ นคว้ า
หาข้ อมูลเพือเสริ มรายละเอียดเรื องราวทีถูกต้ อง จริ ง ชัดเจน และมีมติมากขึ 0น
                                                                      ิ
คุณภาพของภาพยนตร์ จะดีหรื อไม่จงอยู่ทีการค้ นคว้ าหาข้ อมูล ไม่วาภาพยนตร์ นั 0นจะ
                                        ึ                           ่
มีเนื 0อหาใดก็ตาม
2. การกําหนดประโยคหลักสําคัญ (premise) หมายถึงความคิดหรื อ
แนวความคิดทีง่าย ๆ ธรรมดา ส่วนใหญ่มกใช้ ตั 0งคําถามว่า “เกิดอะไรขึ 0นถ้ า…”
                                             ั
(what if) ตัวอย่างของ premiseตามรูปแบบหนังฮอลลีว้ ด เช่น เกิดอะไรขึ 0นถ้ า
                                                                 ู
เรื องโรเมโอ & จูเลียตเกิดขึ 0นในนิวยอร์ ค คือ เรื อง West Side Story, เกิด
อะไรขึ 0นถ้ ามนุษย์ดาวอังคารบุกโลก คือเรื อง The Invasion of Mars, เกิด
อะไรขึ 0นถ้ าก็อตซิลาบุกนิวยอร์ ค คือเรื อง Godzilla, เกิดอะไรขึ 0นถ้ ามนุษย์ต่างดาว
                     ่
บุกโลก คือเรื อง The Independence Day, เกิดอะไรขึ 0นถ้ าเรื องโรเมโอ &
จูเลียตเกิดขึ 0นบนเรื อไททานิค คือเรื อง Titanic เป็ นต้ น
3. การเขียนเรื องย่อ (synopsis) คือเรื องย่อขนาดสั 0น ทีสามารถจบลงได้ 3-4
บรรทัด หรื อหนึงย่อหน้ า หรื ออาจเขียนเป็ น story outline เป็ นร่ างหลังจากที
เราค้ นคว้ าหาข้ อมูลแล้ วก่อนเขียนเป็ นโครงเรื องขยาย (treatment)
4. การเขียนโครงเรื องขยาย (treatment) เป็ นการเขียนคําอธิบายของโครงเรื อง
(plot) ในรูปแบบของเรื องสั 0น โครงเรื องขยายอาจใช้ สําหรับเป็ นแนวทางในการ
เขียนบทภาพยนตร์ ทีสมบูรณ์ บางครังอาจใช้ สําหรับยืนของบประมาณได้ ด้วย และ
                                          0
การเขียนโครงเรื องขยายทีดีต้องมีประโยคหลักสําหคัญ (premise) ทีง่าย ๆ
น่าสนใจ
5. บทภาพ (storyboard) คือ บทภาพยนตร์ ประเภทหนึงทีอธิบายด้ วยภาพ
คล้ ายหนังสือการ์ ตน ให้ เห็นความต่อเนืองของช็อตตลอดทั 0งซีเควนส์หรื อทั 0งเรื องมี
                     ู
คําอธิบายภาพประกอบ เสียงต่าง ๆ เช่น เสียงดนตรี เสียงประกอบฉาก และเสียงพูด
เป็ นต้ น ใช้ เป็ นแนวทางสําหรับการถ่ายทํา หรื อใช้ เป็ นวิธีการคาดคะเนภาพล่วงหน้ า
(pre-visualizing)ก่อนการถ่ายทําว่า เมือถ่ายทําสําเร็ จแล้ ว หนังจะมีรูปร่ าง
หน้ าตาเป็ นอย่างไร โดยเขียนภาพ เหตุการณ์ของแอ็คชันเรี ยงติดต่อกันบนบอร์ ด
เพือให้ คนดูเข้ าใจและมองเห็นเรื องราวล่วงหน้ าได้ ก่อนลงมือเขียนภาพ ส่วนใหญ่บท
ภาพจะมีเลขทีลําดับช็อตกํากับไว้ คําบรรยายเหตุการณ์ มุมกล้ อง และอาจมีเสียง
ประกอบด้ วย

บทที 3 ขั 0นตอนการดําเนินงาน
ในการจัดทําโครงงานครังนี 0คณะผู้จดทําได้ ใช้ เครื องมือ ดังนี 0
                        0          ั
เทคโนโลยีทีใช้ โปรแกรมนี 0จะมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
- คอมพิวเตอร์ 1 ชุด
- ไมค์โครโฟน
เครื องมือทีใช้ ในการพัฒนา
      - Adobe Premiere Cs3
      - Adobe Photoshop CS3
      - Macromedia Flash MX
     - สเปคเครื องคอมพิวเตอร์ ทีสามารถใช้ งานได้ สเปคเครื องมีผลต่อการแปลงไฟล์
สเปคสูงการแปลงไฟล์ก็จะเร็ วไปด้ วย ถ้ าสเปคตํา การแปลงไฟล์จะคุณภาพตํา
                - P3 800 Mz ,ram 384 M, HDD 20 G สเปคเครื องตัวนี 0
จะทําให้ คณภาพทีออกมาตํา และใช้ เวลาแปลงไฟล์นาน
          ุ
            - Dual core 1.6 GHz , RAM 1 GB สเปคตัวนี 0ถือว่าปกติ จะ
ใช้ เวลาแปลงไฟล์ 20-45 นาที
- AMD Turon 64x2 2.00 Ghz, Ram 2 GB, เฉลียใช้ เวลา
ประมาณ 30กว่านาที
- โปรแกรม Nero 9
บทที 4 ผลการศึกษา
             จากการศึกษาการสร้ างสือการเรี ยนรู้การทําการ์ ตนในการจัดทําโครงงาน
                                                                ู
คอมพิวเตอร์ นี 0 ผู้จดทําโครงงานได้ ทําการ์ ตน เรื อง “หนุ่มน้ อยเจ้ าปั ญญา” เป็ น
                     ั                        ู
การสร้ างสือสะท้ อนสังคมของนักศึกษาในสถานศึกษา โดยการใช้ โปรแกรม
Adobe Premiere, Adobe Photoshop, Nero 9 เมือเริ ม
ดําเนินการได้ การเสนอหัวข้ อ ชือเรื องการ์ ตน บท ถ่ายทําตัดต่อ และบันทึกลงแผ่น
                                            ู
เพือนําเสนอ โครงการนี 0มีผ้ รับประโยชน์ คือ นักศึกษา ผู้ปกครอง หรื อบุคคลทัวไป
                             ู
และเข้ าใจถึงชีวตของนักศึกษาทีเข้ าสูรัวสถานศึกษา สิงทีสําคัญคือสังคมในปั จจุบน
                 ิ                      ่0                                           ั
นั 0นทุกคนต้ องช่วยกันปกปองดูแล เพือให้ เกิดความหลากหลายเป็ นสิงชักจูงใจให้
                           ้
นักศึกษาหรื อเพือน ๆ ทีมาเรี ยนรู้จกปองกันตัวเอง และเชือฟั งผู้ปกครองมากยิงขึ 0น
                                    ั ้
อันจะส่งผลต่อการเรี ยนรู้ของผู้เข้ ามาเยียมชม และเป็ นแหล่งเรี ยนรู้ทีเป็ นประโยชน์ต่อ
ผู้สนใจต่อไป

บทที 5 สรุปผลและข้ อเสนอแนะ
                จากการดําเนินงานจัดทําโครงงานการทําการ์ ตน “หนุ่มน้ อยเจ้ า
                                                           ู
ปั ญญา” ซึงเป็ นส่วนหนึงของการเรี ยนวิชาชีพชมรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ ความคิดริเริ มของโครงงานเพือให้ มีการใช้ โปรแกรมทีได้
ศึกษาผ่านมา และได้ นํามาประยุกต์ใช้ ในด้ านงานต่าง ๆ ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และ
สามารถสร้ างสือสะท้ อนชีวิตนักศึกษาทีเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทีสังคมในปั จจุบน  ั
นี 0มีให้ พบเห็น โครงงานนี 0ได้ รับคําแนะนําจากอาจารย์ท่านต่าง ๆ การใช้ เทคนิคการ
ถ่ายทํา บทแสดง การตัดต่อ และรับความอนุเคราะห์ด้านสถานที โครงงานนี 0
ประสบผลสําเร็ จออกมาเพือนําเสนอให้ นกศึกษาได้ ดเู ป็ นตัวอย่าง ซึงมีหลากหลาย
                                    ั
มุมมองของหนังการ์ ตนเรื องนี 0
                   ู

สรุปผล
        โครงงานนี 0ได้ ดําเนินการสําเร็จตามเปาหมาย และประความสําเร็ จได้ ตาม
                                                  ้
วัตถุประสงค์ทีตั 0งไว้ หนังสั 0นทีได้ ผลิตขึ 0นมาได้ ฉาย หรื อนําเสนอในงานวันวิชาการ ณ
บริ เวณ สะพานหิน จังหวัดภูเก็ตและนักศึกษา ประชาชน ได้ ดเู ป็ นตัวอย่าง และ
ในอนาคตจะมีการจัดทําสือหนังสั 0นเพือเพิมสือออกมามากขึ 0น
ข้ อเสนอแนะ
             ในการจัดทําโครงงานการทําหนังสั 0นควรได้ รับความร่วมมือ หรื อได้ รับ
การสนับสนุนด้ าน เครื องมือในการถ่ายทําหนังสั 0นให้ มีคณภาพ   ุ

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.montfort.ac.th/mcs/dept/computer/computer/02139/02139.html
http://www.nbw.ac.th/std/index.php
http://0503306msu.blogspot.com/2011/02/blog-post.html
http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=87505

More Related Content

Similar to ใบงานที่ 4

ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาAungkana Na Na
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4Nuchy Geez
 
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภทประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภทสุชาติ องค์มิ้น
 
ขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานKtmaneewan
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3Intangible Mz
 
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Thanawut Rattanadon
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานNet'Net Zii
 
โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3wipawanmmiiww
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานMind Kyn
 

Similar to ใบงานที่ 4 (20)

ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ใบงานที่4
 
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภทประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภท
ประเภทของโครงงาน แบ งได เป_น 5 ประเภท
 
ขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงานขอบข่ายของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
03
0303
03
 
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
2. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
03
0303
03
 
03
0303
03
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
K3
K3K3
K3
 
โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3โครงงานคอม 3
โครงงานคอม 3
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
K311
K311K311
K311
 
K311
K311K311
K311
 

More from JoyCe Zii Zii

นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้
นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้ นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้
นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้ JoyCe Zii Zii
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7JoyCe Zii Zii
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8JoyCe Zii Zii
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6JoyCe Zii Zii
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5JoyCe Zii Zii
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7JoyCe Zii Zii
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6JoyCe Zii Zii
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5JoyCe Zii Zii
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 6)
(ใบงานที่ 6)(ใบงานที่ 6)
(ใบงานที่ 6)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 4)
(ใบงานที่ 4)(ใบงานที่ 4)
(ใบงานที่ 4)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 2)
(ใบงานที่ 2)(ใบงานที่ 2)
(ใบงานที่ 2)JoyCe Zii Zii
 
ใบงานที่ ๑ แบบสำรวจและประวัติของ
ใบงานที่ ๑  แบบสำรวจและประวัติของใบงานที่ ๑  แบบสำรวจและประวัติของ
ใบงานที่ ๑ แบบสำรวจและประวัติของJoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)JoyCe Zii Zii
 

More from JoyCe Zii Zii (20)

นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้
นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้ นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้
นิทรรศการPlay&Learn เพลินเรียนรู้
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
Document1
Document1Document1
Document1
 
(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)
 
(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)
 
(ใบงานที่ 6)
(ใบงานที่ 6)(ใบงานที่ 6)
(ใบงานที่ 6)
 
(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)(ใบงานที่ 5)
(ใบงานที่ 5)
 
(ใบงานที่ 4)
(ใบงานที่ 4)(ใบงานที่ 4)
(ใบงานที่ 4)
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
 
(ใบงานที่ 2)
(ใบงานที่ 2)(ใบงานที่ 2)
(ใบงานที่ 2)
 
ใบงานที่ ๑ แบบสำรวจและประวัติของ
ใบงานที่ ๑  แบบสำรวจและประวัติของใบงานที่ ๑  แบบสำรวจและประวัติของ
ใบงานที่ ๑ แบบสำรวจและประวัติของ
 
(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)(ใบงานที่ 8)
(ใบงานที่ 8)
 
(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)(ใบงานที่ 7)
(ใบงานที่ 7)
 

ใบงานที่ 4

  • 1. โครงงานพัฒนาสือเพือการศึกษา(Educational Media) เป็ นโครงงานทีใช้ คอมพิวเตอร์ ในการผลิตสือเพือการศึกษา โดยการ สร้ างโปรแกรมบทเรี ยน หรื อหน่วยการเรี ยน ซึงอาจจะต้ องมีภาคแบบฝึ กหัด บท ทบทวนและคําถามคําตอบไว้ พร้ อม ผู้เรี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุม ่ การสอนโดยใช้ คอมพิวเตอร์ ช่วยนี 0 ถือว่าเครื องคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็ นครูผ้ สอน ซึงอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบ Online ให้ นกเรี ยนเข้ ามา ู ั ศึกษาด้ วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี 0สามารถพัฒนาขึ 0นเพือใช้ ประกอบการ สอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็ นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพ อืน ๆ ฯลฯ โดยนักเรี ยนอาจคัดเลือกหัวข้ อทีนักเรี ยนทัวไปทีทําความเข้ าใจยาก มา เป็ นหัวข้ อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรี ยน ตัวอย่างเช่น 1. โปรแกรม ดนตรี ไทยแสนสนุก 2. โปรแกรม ความหลากหลายของสิงมีชีวิต 3. โปรแกรมฝึ กอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ 4. โปรแกรมสํานวนไทยพาสนุก 5. โปรแกรมเรี ยนรู้คณิตศาสตร์
  • 2. โครงงานพัฒนาสือเพือการศึกษา (Educational Media Development) “หนุ่ มน้ อยเจ้ าปั ญญา” บทที 1บทนํา ทีมาและความสําคัญของโครงงาน ปั จจุบน “สือ” มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนืองและจริ งจัง ทําให้ ั นักเรี ยน นักศึกษาในแต่ละลสาขาวิชา โรงรี ยนจึงมีแนวคิดส่งเสริ มให้ นกศึกษารุ่นใหม่ ั ทีมีความชืนชอบในการทําภาพยนตร์ และพัฒนาให้ เป็ นขุมพลังในอนาคตของวงการ ภาพยนต์ไทย โดยเปิ ดเวทีสําหรับการสร้ างหนังสั 0นขึ 0นมาในหัวข้ อ “สร้ างสรรค์เพือ สังคม” คือการนําแรงบันดาลใจทีได้ รับจากการศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาทีเข้ าสู้ รัวของโรงเรี ยน และมีการเปลียนแปลงพฤติกรรมต่าง ๆ มาสร้ างเป็ นหนังนั 0นเอง โดย 0 โครงการ “สร้ างสรรค์เพือสังคม” เป็ นการประกวดหนังสั 0นสําหรับนักศึกษา ซึงผู้ ส่งผลงานเข้ าประกวดต้ องสร้ างหนังซึงมีทีมาหรื อได้ แรงบันดาลใจจากพฤติกรรมที ประสบพบเห็นของตัวเองหรื อเพือน ๆ ก็ได้ ไม่จํากัดประเภท ไม่จํากัดแนว ไม่จํากัด ความคิดสร้ างสรรค์และมุมมองในการนําเสนอเรื องราว ไม่จํากัดประเภทสือ บันทึกภาพ (กล้ องวิดีโอ กล้ องจากโทรศัพท์มอถือฯ) ซึงเชือว่าหากถ่ายทอดความคิด ื ออกมาได้ โดนใจ หนังฟอร์ มเล็กก็มีโอกาสจะกลายเป็ นหนังฟอร์ มใหญ่ได้ ในอนาคต อีกทั 0งทางโรงเรี ยนยังมีการจัดกิจกรรม "อบรมการทําหนังสั 0น" โดยวิทยากรและทีม ผู้เชียวชาญในวงการภาพยนตร์ ซึงเป็ นการเสริ มสร้ างทักษะการสร้ างภาพยนตร์ ให้ กบ ั ผู้เข้ าร่ วมประกวดอีกด้ วยในอนาคต ซึงเนื 0อหาของการอบรมนั 0นจะครอบคลุมตั 0งแต่ วิธีการทําการ์ ตน การเขียนบท การตัดต่อ ไปจนถึงเทคนิคการทําหนังตัวอย่าง ู (Trailer) วัตถุประสงค์ (1) สร้ างสือการเรี ยนรู้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (2) ศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทีใช้ สร้ างสือการเรี ยนรู้ (3) ศึกษาการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 3. (4) เพือเป็ นการประชาสัมพันธ์ ขอบเขตของโครงงาน การจัดทําโครงงานการ์ ตน “หนุ่มน้ อยเจ้ าปั ญญา” เป็ นการสร้ างสือ ู เพือสะท้ อนสังคมในสถานศึกษาและพฤติกรรมของนักศึกษาเมือเข้ าสูรัวของ ่0 สถานศึกษา ให้ บคคลภายนอกหรื อศึกษาได้ ดสือการ์ ตนทีสร้ างขึ 0นมา และในการ ุ ู ู สร้ างการ์ ตนได้ ใช้ เพือน ๆ ู ประโยชน์ทีได้ รับจากโครงงาน 1. สร้ างแนวคิดใหม่ ๆ 2. สือให้ สงคมได้ มองเห็นพฤติกรรมของนักศึกษา ั 3. ประยุกต์ใช้ โปรแกรมได้ หลากหลาย 4. เพิมทักษะในการใช้ โปรแกรมให้ กบตัวเอง ั วิธีดําเนินงาน เขียนเป็ นลําดับขั 0นตอนในการปฏิบติงาน พร้ อมตาราง Gantt chart ั ขั 0นตอนการดําเนินงาน 1.เตรี ยมเรื องทีต้ องการทํา 2.หาเนื 0อเรื อง 3.นําภาพมาเรี ยงในสไลด์ 4.พากเสียง 5.นําเสียงมาใส่ในสไลด์ แผนปฏิบติงาน ั ตารางที 1-1 ระยะเวลาในการดําเนินงาน
  • 4. ลําดับ กิจกรรม สิงหาคม54 กันยายน54 ที 1 2 3 4 1 2 3 4 1 นําเสนอหัวข้ อต่ อ อาจารย์ ทีปรึ กษา 2 วิเคราะห์ และ ออกแบบ ระบบ กําหนด สถานที 3 จัดเตรี ยมอุปกรณ์ 4 ถ่ ายทําหนังสัน+ 5 ตัดต่ อหนังสัน + 6 นําเสนอผลงานต่ อ คณะกรรมการ บทที 2 เอกสารและโครงงานทีเกียวข้ อง ในการจัดทําโครงงานการสร้ างสือการเรี ยนรู้การ์ ตน ผู้จดทําโครงงานได้ ู ั รวบรวมแนวคิดทฤษฏีและหลักการต่าง ๆ จากเอกสาร และงานวิจยทีเกียวข้ อง โดย ั สร้ างพื 0นฐานมาจากการนําเอาบทนิทาน หรื อนิยาย มาสร้ างเป็ นการ์ ตน ประมาณ ู 13 นาที ซึงสามารถพัฒนาโดยใช้ โปรแกรมต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น Adobe Premiere , Movie Maker, Adobe Photoshop หรื อโปรแกรมอืน
  • 5. ๆ โดยการนําโปรแกรมมาประยุกต์ใช้ ประกอบด้ วยภาพ เสียง และการแปลง File ให้ เป็ น File Video เพือนําไปเสนอต่อไป การ์ ตน ู การ์ ตนก็มีจดกําเนิดพร้ อมกันกับภาพยนตร์ ทีเราดูกนเป็ นปรกติทกวันนี 0 ู ุ ั ุ ภาพยนตร์ เรื องแรกของโลก เมือคนยุคสมัย 100 กว่าปี ก่อนได้ เข้ าไปในสถานทีแห่ง หนึง และได้ เห็นภาพทีตัวเองทีไม่เคยเห็นมาก่อน นันคือรถไฟค่อยๆ จอดเทียบชาน ชาลา พวกเขาเชือว่าตนเองเกือบจะโดนรถไฟชน นันคือจุดเริ มต้ นของคําว่า “ภาพยนตร์ ” หนึงในมหรสพทีคนทุกผู้ทกนามไม่อาจจะปฎิเสธได้ แต่ในวันนี 0คงจะหา ุ ดูได้ ยากสักหน่อย การ์ ตนจะมีเหตุการณ์เกิดขึ 0น ดําเนินและจบลงอย่างรวดเร็ว หนังสั 0น ู ทั 0งหมดมักจะมีเรื องราวหลักเพียงเรื องเดียว ถ้ าเป็ นไปในนิยามมักจะกําหนดให้ หนัง สั 0นยาวไม่เกิน 30 หรื อ 40 นาที เพราะถือว่าเป็ นความยาวทีพอเหมาะ คําถาม ต่อมาก็คือ แล้ วจะดูร้ ูเรื องไหมนัน?ไม่มีกติกาตายตัวว่าหนังสั 0นจะต้ องดูแล้ วรู้เรื อง หรื อเปล่า เพราะ เล่าเรื องในลักษณะใดก็ได้ ทําได้ แม้ กระทังเป็ นเพียง Concept หรื อบอกอะไรบางอย่างให้ แก่คนดูโดยทีคนดูก็ไปคิดไปตีความกันเอาเอง หลักการ การทําการ์ ตน ู 1.รู้ วิธีและหลักการ การเรี ยนstoryboardทีถูกต้ อง ทําให้ ร้ ูวาการจะทําหนังสั 0น ่ ต้ องมีstoryboardก่อน 2.รู้ วิธีคดเรื องราวทีจะนําเอามาทําเป็ นหนังสั 0น ว่าหลักการมีอย่างไร ิ 3.ได้ ความรักความสามัคคี ในการทํางานเป็ นกลุม เพราะการทํางานเป็ นกลุมล้ วนมี ่ ่ อุปสรรค์แต่ทกคนก็ผ่านมาได้ ุ
  • 6. 4.รู้ วิธีการ ตัดต่อ ใส่เพลง ลําดับเรื องราว และมุมกล้ อง ทําอย่างไรจึงจะน่าสนใจ และไม่น่าเบือ 1. การค้ นคว้ าหาข้ อมูล (research) เป็ นขั 0นตอนการเขียนบทภาพยนตร์ อนดับ ั แรกทีต้ องทําถือเป็ นสิงสําคัญหลังจากเราพบประเด็นของเรื องแล้ ว จึงลงมือค้ นคว้ า หาข้ อมูลเพือเสริ มรายละเอียดเรื องราวทีถูกต้ อง จริ ง ชัดเจน และมีมติมากขึ 0น ิ คุณภาพของภาพยนตร์ จะดีหรื อไม่จงอยู่ทีการค้ นคว้ าหาข้ อมูล ไม่วาภาพยนตร์ นั 0นจะ ึ ่ มีเนื 0อหาใดก็ตาม 2. การกําหนดประโยคหลักสําคัญ (premise) หมายถึงความคิดหรื อ แนวความคิดทีง่าย ๆ ธรรมดา ส่วนใหญ่มกใช้ ตั 0งคําถามว่า “เกิดอะไรขึ 0นถ้ า…” ั (what if) ตัวอย่างของ premiseตามรูปแบบหนังฮอลลีว้ ด เช่น เกิดอะไรขึ 0นถ้ า ู เรื องโรเมโอ & จูเลียตเกิดขึ 0นในนิวยอร์ ค คือ เรื อง West Side Story, เกิด อะไรขึ 0นถ้ ามนุษย์ดาวอังคารบุกโลก คือเรื อง The Invasion of Mars, เกิด อะไรขึ 0นถ้ าก็อตซิลาบุกนิวยอร์ ค คือเรื อง Godzilla, เกิดอะไรขึ 0นถ้ ามนุษย์ต่างดาว ่ บุกโลก คือเรื อง The Independence Day, เกิดอะไรขึ 0นถ้ าเรื องโรเมโอ & จูเลียตเกิดขึ 0นบนเรื อไททานิค คือเรื อง Titanic เป็ นต้ น 3. การเขียนเรื องย่อ (synopsis) คือเรื องย่อขนาดสั 0น ทีสามารถจบลงได้ 3-4 บรรทัด หรื อหนึงย่อหน้ า หรื ออาจเขียนเป็ น story outline เป็ นร่ างหลังจากที เราค้ นคว้ าหาข้ อมูลแล้ วก่อนเขียนเป็ นโครงเรื องขยาย (treatment) 4. การเขียนโครงเรื องขยาย (treatment) เป็ นการเขียนคําอธิบายของโครงเรื อง (plot) ในรูปแบบของเรื องสั 0น โครงเรื องขยายอาจใช้ สําหรับเป็ นแนวทางในการ เขียนบทภาพยนตร์ ทีสมบูรณ์ บางครังอาจใช้ สําหรับยืนของบประมาณได้ ด้วย และ 0 การเขียนโครงเรื องขยายทีดีต้องมีประโยคหลักสําหคัญ (premise) ทีง่าย ๆ น่าสนใจ
  • 7. 5. บทภาพ (storyboard) คือ บทภาพยนตร์ ประเภทหนึงทีอธิบายด้ วยภาพ คล้ ายหนังสือการ์ ตน ให้ เห็นความต่อเนืองของช็อตตลอดทั 0งซีเควนส์หรื อทั 0งเรื องมี ู คําอธิบายภาพประกอบ เสียงต่าง ๆ เช่น เสียงดนตรี เสียงประกอบฉาก และเสียงพูด เป็ นต้ น ใช้ เป็ นแนวทางสําหรับการถ่ายทํา หรื อใช้ เป็ นวิธีการคาดคะเนภาพล่วงหน้ า (pre-visualizing)ก่อนการถ่ายทําว่า เมือถ่ายทําสําเร็ จแล้ ว หนังจะมีรูปร่ าง หน้ าตาเป็ นอย่างไร โดยเขียนภาพ เหตุการณ์ของแอ็คชันเรี ยงติดต่อกันบนบอร์ ด เพือให้ คนดูเข้ าใจและมองเห็นเรื องราวล่วงหน้ าได้ ก่อนลงมือเขียนภาพ ส่วนใหญ่บท ภาพจะมีเลขทีลําดับช็อตกํากับไว้ คําบรรยายเหตุการณ์ มุมกล้ อง และอาจมีเสียง ประกอบด้ วย บทที 3 ขั 0นตอนการดําเนินงาน ในการจัดทําโครงงานครังนี 0คณะผู้จดทําได้ ใช้ เครื องมือ ดังนี 0 0 ั เทคโนโลยีทีใช้ โปรแกรมนี 0จะมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ - คอมพิวเตอร์ 1 ชุด - ไมค์โครโฟน เครื องมือทีใช้ ในการพัฒนา - Adobe Premiere Cs3 - Adobe Photoshop CS3 - Macromedia Flash MX - สเปคเครื องคอมพิวเตอร์ ทีสามารถใช้ งานได้ สเปคเครื องมีผลต่อการแปลงไฟล์ สเปคสูงการแปลงไฟล์ก็จะเร็ วไปด้ วย ถ้ าสเปคตํา การแปลงไฟล์จะคุณภาพตํา - P3 800 Mz ,ram 384 M, HDD 20 G สเปคเครื องตัวนี 0 จะทําให้ คณภาพทีออกมาตํา และใช้ เวลาแปลงไฟล์นาน ุ - Dual core 1.6 GHz , RAM 1 GB สเปคตัวนี 0ถือว่าปกติ จะ ใช้ เวลาแปลงไฟล์ 20-45 นาที
  • 8. - AMD Turon 64x2 2.00 Ghz, Ram 2 GB, เฉลียใช้ เวลา ประมาณ 30กว่านาที - โปรแกรม Nero 9 บทที 4 ผลการศึกษา จากการศึกษาการสร้ างสือการเรี ยนรู้การทําการ์ ตนในการจัดทําโครงงาน ู คอมพิวเตอร์ นี 0 ผู้จดทําโครงงานได้ ทําการ์ ตน เรื อง “หนุ่มน้ อยเจ้ าปั ญญา” เป็ น ั ู การสร้ างสือสะท้ อนสังคมของนักศึกษาในสถานศึกษา โดยการใช้ โปรแกรม Adobe Premiere, Adobe Photoshop, Nero 9 เมือเริ ม ดําเนินการได้ การเสนอหัวข้ อ ชือเรื องการ์ ตน บท ถ่ายทําตัดต่อ และบันทึกลงแผ่น ู เพือนําเสนอ โครงการนี 0มีผ้ รับประโยชน์ คือ นักศึกษา ผู้ปกครอง หรื อบุคคลทัวไป ู และเข้ าใจถึงชีวตของนักศึกษาทีเข้ าสูรัวสถานศึกษา สิงทีสําคัญคือสังคมในปั จจุบน ิ ่0 ั นั 0นทุกคนต้ องช่วยกันปกปองดูแล เพือให้ เกิดความหลากหลายเป็ นสิงชักจูงใจให้ ้ นักศึกษาหรื อเพือน ๆ ทีมาเรี ยนรู้จกปองกันตัวเอง และเชือฟั งผู้ปกครองมากยิงขึ 0น ั ้ อันจะส่งผลต่อการเรี ยนรู้ของผู้เข้ ามาเยียมชม และเป็ นแหล่งเรี ยนรู้ทีเป็ นประโยชน์ต่อ ผู้สนใจต่อไป บทที 5 สรุปผลและข้ อเสนอแนะ จากการดําเนินงานจัดทําโครงงานการทําการ์ ตน “หนุ่มน้ อยเจ้ า ู ปั ญญา” ซึงเป็ นส่วนหนึงของการเรี ยนวิชาชีพชมรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ ความคิดริเริ มของโครงงานเพือให้ มีการใช้ โปรแกรมทีได้ ศึกษาผ่านมา และได้ นํามาประยุกต์ใช้ ในด้ านงานต่าง ๆ ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และ สามารถสร้ างสือสะท้ อนชีวิตนักศึกษาทีเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทีสังคมในปั จจุบน ั นี 0มีให้ พบเห็น โครงงานนี 0ได้ รับคําแนะนําจากอาจารย์ท่านต่าง ๆ การใช้ เทคนิคการ ถ่ายทํา บทแสดง การตัดต่อ และรับความอนุเคราะห์ด้านสถานที โครงงานนี 0
  • 9. ประสบผลสําเร็ จออกมาเพือนําเสนอให้ นกศึกษาได้ ดเู ป็ นตัวอย่าง ซึงมีหลากหลาย ั มุมมองของหนังการ์ ตนเรื องนี 0 ู สรุปผล โครงงานนี 0ได้ ดําเนินการสําเร็จตามเปาหมาย และประความสําเร็ จได้ ตาม ้ วัตถุประสงค์ทีตั 0งไว้ หนังสั 0นทีได้ ผลิตขึ 0นมาได้ ฉาย หรื อนําเสนอในงานวันวิชาการ ณ บริ เวณ สะพานหิน จังหวัดภูเก็ตและนักศึกษา ประชาชน ได้ ดเู ป็ นตัวอย่าง และ ในอนาคตจะมีการจัดทําสือหนังสั 0นเพือเพิมสือออกมามากขึ 0น ข้ อเสนอแนะ ในการจัดทําโครงงานการทําหนังสั 0นควรได้ รับความร่วมมือ หรื อได้ รับ การสนับสนุนด้ าน เครื องมือในการถ่ายทําหนังสั 0นให้ มีคณภาพ ุ ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.montfort.ac.th/mcs/dept/computer/computer/02139/02139.html http://www.nbw.ac.th/std/index.php http://0503306msu.blogspot.com/2011/02/blog-post.html http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=87505