สมรรถนะ
- 8. ประเภทของกฎหมาย ( หลักนิติสัมพันธ์และนิติวิธี ) กฎหมายเอกชน ( Private Law) : กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนในฐานะเท่าเทียมกัน หรือเสมอกัน ( สมัครใจหรือยินยอมเข้าผูกนิติสัมพันธ์ต่อกัน ) รัฐจะทำหน้าที่เพียงเป็นผู้รักษากติกาให้เป็นไปตามนิติสัมพันธ์ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เป็นต้น
- 9. ประเภทของกฎหมาย ( หลักนิติสัมพันธ์และนิติวิธี ) กฎหมายมหาชน ( Public Law) : กำหนดสถานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ หน่วยงานของรัฐกับเอกชนหรือองค์กรมหาชนอื่น โดยรัฐอยู่ในฐานะฝ่ายปกครองซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าเอกชน เช่น รัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง กฎหมายการคลัง เป็นต้น
- 14. ความสำคัญของกฎหมาย ๏ หนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว 89/2497 ลว .1 เม . ย .2497 มติ ค . ร . ม . เมื่อ 29 มี . ค .2497 ลงมติว่า “ข้าราชการผู้มีหน้าที่ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายหรือระเบียบแบบแผนข้อบังคับอันตนจำต้องปฏิบัติและอยู่ในหน้าที่ของตนมิได้ การที่ข้าราชการปฏิบัติงานไม่ชอบด้วยกฎหมายระเบียบแบบแผนก็ดีหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายและระเบียบแบบแผนกำหนดก็ดี ให้ถือเป็นความผิดวินัยหรือหย่อนสมรรถภาพแล้วแต่กรณีและให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษตามควรแก่กรณีต่อไป”
- 15. ความสำคัญของกฎหมาย ๏ พ . ร . บ . ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ . ศ .2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ม .85 “ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนและไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ การปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล ประมาทเลินเล่อ หรือ ขาดการเอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง”
- 20. กฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ของรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในเขตพัฒนาเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย ผอ . ทวีพล แพเรือง
- 21. กฎหมายว่าด้วยครอบครัวและมรดกตามหลักกฎหมาย อิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ . ร . บ . โรงเรียนเอกชน พ . ศ .2550 พ . ร . บ . การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ . ศ .2540 พ . ร . บ . กฎอัยการศึกษา พ . ศ .2547 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง พ . ร . บ . การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ . ศ .2548 ระเบียบ ศธ . ว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ พ . ศ .2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบ ศธ . ว่าด้วยศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด ( ตาดีกา ) ในจังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส พ . ศ .2548 กฎหมาย มติ ค . ร . ม . กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน
- 22. กฎหมายว่าด้วยครอบครัวและมรดก รู้และเข้าใจข้อเท็จจริงในบริบทสังคม ( เข้าใจ ) สื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับสังคมได้ ( เข้าถึง ) ใช้และดำเนินการด้วยความเป็นธรรมตามหลักศาสนา ( จำเป็น ) ใช้ควบคู่กับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- 23. การสมรส ( นิกาห์ ) โดยพิธีสมรส โดยการจดทะเบียนต่อหน้า นายทะเบียน เงื่อนไขตามหลักศาสนา เงื่อนไขตามกฎหมาย ไม่กำหนดอายุขั้นต่ำ ต้อง 17 ปีบริบูรณ์ ผู้ปกครองฝ่ายหญิงยินยอม ต้องได้รับความยินยอมตามกรณี บังคับให้มีพยานอย่างน้อย ไม่กำหนด 2 คน
- 24. การสิ้นสภาพสามีภรรยา สามีหรือภรรยาตาย สิ้นสุดลงด้วยความตาย หย่า ( เปล่งวาจาหรือ โมฆียะสมรส ( ศาลเพิกถอน ) เป็นหนังสือ ) 5 กรณี คำสั่งศาล การหย่า ( จดทะเบียนหย่า ) พิธีสาบาน คำสั่งศาล ขาดจากการสมรสโดยมิได้เจตนา
- 25. มรดกตามกฎหมายอิสลาม องค์ประกอบของการแบ่งมรดก เงื่อนไขการแบ่งมรดก สาเหตุในการรับมรดก สาเหตุที่ถูกตัดจากกองมรดก
- 27. พ . ร . บ . โรงเรียนเอกชน พ . ศ .2550
- 28. พ . ร . บ . การบริหารองค์กรอิสลาม มัสยิด ( สถานที่ซึ่งมุสลิมใช้ประกอบศาสนากิจ ) สัปบุรุษประจำมัสยิด ( มุสลิมที่คณะกรรมการ รับเข้ามา ) อิหม่าม ( ผู้นำศาสนาอิสลามประจำมัสยิด ) คอเต็บ ( ผู้แสดงธรรมประจำมัสยิด ) บิหลั่น ( ผู้ประกาศเชิญชวนให้ปฏิบัติศาสนกิจ )
- 29. คณะผู้บริหารองค์กรอิสลาม จุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามจังหวัด คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่ง ประเทศไทย
- 30. ระเบียบ ศธ . ว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ สถาบันปอเนาะ โต๊ะครู ผู้ช่วยโต้ะครู นายทะเบียน การสิ้นสภาพ จำนวนสถาบัน
- 32. เจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่งทางปกครอง 1. จะต้องเป็นผู้ทรงอำนาจในเรื่องนั้น ผู้ทรงอำนาจต้องใช้อำนาจด้วยตนเอง จะมอบหมาย ผู้อื่นกระทำแทนมิได้ ผู้ทรงอำนาจอาจมอบอำนาจตามกฎหมายเฉพาะหรือ กฎหมายกลาง โดยการมอบให้ปฏิบัติราชการแทน / รักษาราชการแทนให้มีอำนาจเช่นเดียวกับผู้ทรงอำนาจ 2. จะต้องมีความดำรงอยู่ในทางกฎหมายในเวลาที่ออกคำสั่งนั้น และจะต้องออกคำสั่งทางปกครองโดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการดำเนินงานตามที่กำหนดไว้ในทางกฎหมาย
- 33. 3. ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ออกคำสั่ง ต้องได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ออกคำสั่งเรื่องนั้น การดำรงตำแหน่งขึ้นอยู่กับเวลา พื้นที่ ต้องเป็นกลางในเรื่องที่จะออกคำสั่งคือไม่เป็นคู่กรณีเอง 4. คณะกรรมการเป็นผู้ออกคำสั่ง ต้องครบองค์ประกอบ ต้องครบองค์ประชุม ต้องมีการประชุม ต้องเป็นกลางคือไม่เป็นคู่กรณีหรือผู้มีส่วนได้เสีย 5. การรับฟังคู่กรณี 6. กรณีแจ้งหรือไม่ต้องแจ้งให้คู่กรณีทราบ
- 34. รูปแบบคำสั่งทางปกครอง คำสั่งด้วยวาจา - ถ้าผู้รับคำสั่งร้องขอและการร้องขอมีเหตุผลอันควร ภายใน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง เจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่งต้องยืนยันคำสั่งเป็นหนังสือ - การยืนยันคำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลด้วย คำสั่งเป็นหนังสือ : อย่างน้อยต้องระบุสิ่งต่อไปนี้ - วันเดือนปีที่ออกคำสั่ง - ชื่อและตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่ง - ลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่ง - ต้องจัดให้มีเหตุผล ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนการใช้ดุลพินิจ
- 35. 1. มีผลตรงตามคำขอและไม่กระทบสิทธิและหน้าที่บุคคลอื่น 2. เหตุผลนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้อง ระบุอีก 3. กรณีต้องรักษาความลับ 4. การออกคำสั่งทางปกครองด้วยวาจาหรือเป็นกรณีเร่งด่วน แต่ต้องให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรในเวลาอันควร หากผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งร้องขอ 1. การปฏิเสธการก่อตั้งสิทธิของคู่กรณี เช่น ไม่รับคำขอไม่อนุญาต ไม่อนุมัติ ไม่รับรอง ไม่รับอุทธรณ์ ฯลฯ 2. การเพิกถอนสิทธิ์ เช่น เบิกค่าเช่าบ้าน เพิกถอนใบอนุญาต 3. การกำหนดให้กระทำหรือละเว้นการกระทำการ 4. เป็นคำรับวินัยอุทธรณ์ 5. คำสั่งยกเลิกการสอบราคา ประกวดราคาหรือประมูลราคาที่มีผู้ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการที่มีอำนาจหน้าที่แล้ว คำสั่งทางปกครองที่ไม่ต้องจัดให้มีเหตุผล คำสั่งทางปกครองที่ต้องจัดให้มีเหตุผล
- 38. 1. กรณีมีกฎหมายกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาการอุทธรณ์ หรือโต้แย้งไว้โดยเฉพาะให้ทำตามกฎหมายนั้น เช่น คำสั่ง ลงโทษทางวินัย ต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้ รับแจ้งหรือกรณีใช้สิทธิร้องทุกข์ตามกฎหมายก็เช่นกัน 2. กรณีไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เฉพาะให้อุทธรณ์ต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ทำคำสั่งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เช่น อุทธรณ์ คำสั่ง ไม่อนุมัติให้เบิกค่าเช่าบ้าน การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง
- 42. 1. แจ้งด้วยวาจา 2. แจ้งเป็นหนังสือ แจ้งต่อผู้นั้น ส่งไปยังภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ได้ให้ไว้กับ เจ้าหน้าที่ไว้แล้ว ให้บุคคลไปส่ง ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน การแจ้งคำสั่งทางปกครอง
- 43. 3. แจ้งโดยประกาศหนังสือพิมพ์ 4. แจ้งโดยวิธีปิดประกาศในกรณีผู้รับเกิน 50 คน 5. แจ้งโดยเครื่องโทรสารกรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน การแจ้งคำสั่งทางปกครอง
- 44. 1. เป็นคู่กรณีเอง 2. เป็นคู่หมั้นหรือคู่สมรสของคู่กรณี 3. เป็นญาติของคู่กรณีหรือเป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานไม่ว่าชั้นใดๆ หรือเป็นพี่น้องหรือลูกพี่ลูกน้องนับได้เพียง 3 ชั้นหรือญาติที่ เกี่ยวพันทางแต่งงานนับได้ 2 ชั้น 4. เป็นหรือเคยเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้พิทักษ์หรือผู้แทนหรือ ตัวแทนของคู่กรณี 5. เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้หรือเป็นนายจ้างของคู่กรณี 6. กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เจ้าหน้าที่ต่อไปนี้จะทำการ พิจารณาทางปกครองไม่ได้
- 47. “ กฎหมายมิใช่ตัวความยุติธรรม หากเป็นเพียงบทบัญญัติหรือปัจจัยที่ตราไว้เพื่อความยุติธรรม ผู้ใดก็ตามแม้ไม่รู้กฎหมาย แต่ถ้าประพฤติด้วยความสุจริตแล้ว ควรได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายเต็มที่ ตรงกันข้าม คนที่รู้กฎหมายแต่ใช้กฎหมายไปในทางทุจริตแล้ว ควรต้องถือว่าทุจริต และกฎหมายไม่ควรคุ้มครองจนเกินเลยไป เพราะฉะนั้นจึงไม่สมควรจะถือว่า การรักษาความยุติธรรมในแผ่นดินมีวงกว้างอยู่เพียงแค่ขอบเขตของกฎหมาย จำเป็นต้องขยายออกไปให้ถึงศีลธรรม - จรรยา ตลอดจนเหตุและผลตามความเป็นจริงด้วย ....” พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน