Recommended
Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (18)
Viewers also liked
Viewers also liked (14)
Similar to 5.2พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ2546
Similar to 5.2พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ2546 (20)
5.2พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ2546
- 1. พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ให้ใช้บังคับตั้งแต่ วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- 2. พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พกระทรวงศึกษาธิการ พ..ศศ.. 25462546เป็น พรบ.ที่กำาหนดขอบเขต อำานาจ หน้าที่ ของส่วนราชการ ของกระทรวงศึกษาธิการให้ชัดเจน เพื่อ มิให้การปฏิบัติงานทับซ้อนกัน รวมทั้ง การจัดระบบราชการในระดับต่าง ๆ และ การมอบอำานาจให้ปฏิบัติราชการแทน การรักษาราชการแทน
- 4. สพฐสพฐ..เป็นส่วนราชการในเป็นส่วนราชการใน สังกัดสังกัด กก.. ส่วนกลางส่วนกลาง ขข.. ส่วนภูมิภาคส่วนภูมิภาค คค.. ส่วนท้องถิ่นส่วนท้องถิ่น งง.. สำานักนายกรัฐมนตรีสำานักนายกรัฐมนตรี
- 5. พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พกระทรวงศึกษาธิการ พ..ศศ.. 25462546 มีมี 55 หมวดหมวด 8282 มาตรามาตรา หมวด 1 การจัดระเบียบบริหารราชการ ในส่วนกลาง หมวด 2 การจัดระเบียบบริหารราชการ เขตพื้นที่การศึกษา หมวด 3 การจัดระเบียบบริหารราชการ ในสถานศึกษาของรัฐ
- 6. มาตรา 1 ชื่อ พรบ. (พระราชบัญญัตินี้ เรียกว่า..........) มาตรา 2 การใช้บังคับ มาตรา 3 ให้ยกเลิก พรบ.มหาวิทยาลัย พรบ.สปช. มาตรา 4 ให้นำากฎหมายว่าด้วย พรบ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และพรบ.การศึกษาแห่งชาติ มา ใช้บังคับแก่กระทรวงโดย อนุโลม มาตรา 5 กระทรวงศึกษาธิการ มีอำานาจ หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่ง
- 8. อำานาจหน้าที่ตามพรบอำานาจหน้าที่ตามพรบ..ปรับปรุงปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรมกระทรวง ทบวง กรม กระทรวงศึกษาธิการ : มีอำานาจหน้าที่ เกี่ยวกับ 1. การส่งเสริมและกำากับดูแลการศึกษา ทุกระดับ ทุกประเภท 2. หน้าที่กำาหนดหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา 3. สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา 4. ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม
- 9. มาตรา 6 การจัดระเบียบบริหารราชการการจัดระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการกระทรวงศึกษาธิการ1. ระเบียบบริหารราชการใน ส่วนกลาง 2. ระเบียบบริหารราชการเขต พื้นที่ 3. ระเบียบบริหารราชการใน สถานศึกษา ที่จัดการศึกษาระดับปริญญา ที่เป็นนิติบุคคล
- 11. มาตรา 9 ให้จัดระเบียบ บริหารส่วนกลาง ดังนี้ 1. สำานักงานปลัดกระทรวง 2. ส่วนราชการที่มีหัวหน้า ส่วนราชการขึ้นตรง ต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ
- 12. 1. สำานักงานรัฐมนตรี (ไม่เป็นกรม) มาตรามาตรา 1010 การแบ่งส่วนราชการในส่วน กลาง โดยให้มี หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อ รัฐมนตรี ศธ. ดังนี้ 2. สำานักงานปลัด กระทรวง (กรม) 3. สำานักงานเลขาธิการสภา การศึกษา (กรม)4. สำานักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน (กรม)5. สำานักงานคณะกรรมการ อุดมศึกษา (กรม)66. สำานักงานคณะกรรมการ อาชีวศึกษา (กรม)
- 13. 1. สำานั ก งาน รัฐม นตรี (ไม่ เป็น กรม ) หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง ต่อรัฐมนตรี ศธ. มี 5 องค์กร 2. สำานั ก งาน ปลัด กระ ทรวง ศึกษ า ธิการ 3. สำานั ก งาน เลขา ธิ การ สภา การ ศึกษ า 4. สำานัก งาน คณะ กรรม การ การ ศึกษา ขั้นพื้น ฐาน (กรม ) 5. สำานั ก งาน คณะ กรรม การ อาชีว ศึกษ า (กรม ) 6. สำานั ก งาน คณะ กรรม การ อุดม ศึกษ า (กรมส่วนราชการทั้ง 5 องค์กร เป็นนิติบุคคล และ
- 14. 1. ส่วนราชการในข้อใดไม่มี ฐานะเป็นนิติบุคคล ก. สำานักงานรัฐมนตรี ข. สำานักงานปลัดกระทรวง ค. สำานักงานเลขาธิการสภา การศึกษา ง. สำานักงานคณะกรรมการ อุดมศึกษาออกสอบครู สพฐ.10 ตค.47 อบต
- 15. 2. ส่วนราชการในข้อใดมีฐานะ เป็นนิติบุคคล ก. สำานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ข. สำานักงานเลขาธิการสภา การศึกษา ค. สำานักงานคณะกรรมการ อุดมศึกษา ง. สำานักงานปลัดกระทรวง จ. ทุกข้อที่กล่าวมา ออกสอบครู สพฐ.10 ตค.47 อบต.47
- 16. มาตรามาตรา 1111 :: การแบ่งส่วนราชการภายใน ส่วนราชการตาม มาตรา 10 ให้ ออกเป็นกฎกระทรวง และให้ระบุ อำานาจหน้าที่ของแต่ละส่วน ราชการไว้ในกฎกระทรวงว่า ด้วยการแบ่งส่วนราชการดัง กล่าวด้วย ตัวอย่างกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำานักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน
- 17. มีรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวง ศึกษาธิการเป็นผู้ช่วยสั่ง และปฏิบัติราชการ นายศักดา คงเพชร มาตรา 12 กระทรวง ศึกษาธิการมีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวง ศึกษาธิการเป็นผู้บังคับบัญชา ศ.ดร.สุชาติ ธาดา ธำารงเวช
- 18. มาตรา 14 ให้มีสภาการศึกษา มีหน้าที่ 1. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่ง ชาติที่บูรณาการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และกีฬากับการศึกษาทุกระดับ 2. พิจารณาเสนอนโยบาย แผน และ มาตรฐานการศึกษา เพื่อดำาเนินการให้เป็นไปตามแผนตาม ข้อ 1. 3. พิจารณาเสนอนโยบาย และแผน ในการสนับสนุน
- 19. 4. ประเมินผลการจัดการศึกษา 5. ให้ความเห็นหรือคำาแนะนำาใน เรื่องกฎหมายและ กฎกระทรวงที่เกี่ยวกับการ ศึกษา การเสนอนโยบาย แผนการ ศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการศึกษาให้ เสนอต่อ “ ”คณะรัฐมนตรี
- 20. คณะกรรมการสภาการศึกษา มีกรรมการ จำานวน 59 คน ประกอบ ด้วย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา เป็นประธาน 2. กรรมการโดยตำาแหน่ง 16 คน 3. ผู้แทนเอกชน 2 คน 4. ผู้แทน อปท. 2 คน 5. ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ 2 คน 6. ผู้แทนพระภิกษุ 2 รูป อิสลาม 1 คน ศาสนาอื่น 2 คน 7. ผู้ทรงคุณวุฒิ 30 คน
- 21. 1. พิจารณาเสนอ นโยบาย+แผน+มาตรฐาน+ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน 2. การสนับสนุนทรัพยากรการ ศึกษา 3. การติดตามตรวจสอบและ ประเมินผลการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐาน มาตรามาตรา 1515 คณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน มีหน้าที่มีหน้าที่
- 23. 1. ประธานกรรมการ (ประธานมาจากการสรรหา และเลือก) 2. กรรมการโดยตำาแหน่ง 9 คน ได้แก่ 2.1 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 2.2 ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.3 เลขาธิการสภาการศึกษา 2.4 เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา 2.5 เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา 2.6 เลขาธิการคุรุสภา 2.7 ผู้อำานวยการสำานักงบประมาณ 2.8 ผู้อำานวยการสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.9 ผอ. สนง.รับรองมาตรฐานและประเมิน
- 24. 3. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน 4. ผู้แทนองค์กรเอกชน 1 คน 5. ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ 1 คน 6. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำานวน 13 คน 7. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เป็นกรรมการและเลขานุการ
- 25. มาตรา 16 คณะกรรมการ อุดมศึกษา (27คน) ประธานกรรมการมาจากการ สรรหา มีหน้าที่ เสนอนโยบาย แผนพัฒนาและ มาตรฐานการอุดมศึกษา เน้น ความเป็นอิสระและความเป็น
- 26. มาตรา 17 คณะกรรมการ อาชีวศึกษา (31คน) ประธานกรรมการมาจากการสรรหา และการเลือก จากผู้ได้รับเลือกเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ มีหน้าทีีี่ พิจารณานโยบาย แผนพัฒนา มาตรฐาน หลักสูตร การศึกษาอาชีวศึกษาทุกระดับ
- 27. มาตรา 19 สำานักงานรัฐมนตรี มีอำานาจหน้าที่เกี่ยวกับ ราชการทางการเมือง มีเลขานุการรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ข้าราชการการเมืองเป็นผู้ บังคับบัญชาข้าราชการ และ รับผิดชอบการปฏิบัติราชการ ของสำานักงานรัฐมนตรี
- 28. ส่วนที่ 2 การจัดระเบียบบริหารราชการใน สำานักงานปลัดกระทรวงมาตรา 23 กระทรวงการศึกษาธิการ มีปลัดกระทรวงคนหนึ่ง มีอำานาจหน้าที่ ดังนี้ 1. รับผิดชอบควบคุมราชการ ประจำาในกระทรวง 2.แปลง นโยบายเป็นแนวทางและแผนปฏิบัติ ราชการ 3.กำากับการทำางานของ ส่วนราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์
- 29. 2. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการใน สำานักงานปลัดกระทรวง รองจาก รัฐมนตรี และรับผิดชอบในการปฏิบัติ ราชการของสำานักงานปลัดกระทรวง มีรองปลัดกระทรวง เป็นผู้ช่วยสั่ง และปฏิบัติราชการ มีผู้ช่วยปลัดกระทรวงเป็นผู้ช่วย สั่งและปฏิบัติราชการ รองปลัดกระทรวงหรือผู้ช่วยปลัด กระทรวง เป็นผู้บังคับบัญชา รับผิดชอบ ในการปฏิบัติราชการรองจากปลัด กระทรวง
- 30. ส่วนที่ 3 การจัดระเบียบใน สำานักงานการจัดระเบียบในสำานักงาน มี หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อ รัฐมนตรี มีรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับ บัญชา และรับผิดชอบการ ปฏิบัติราชการของสำานักงานมาตรา 29 ให้ส่วนราชการที่มี หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อ รัฐมนตรี คือเลขาธิการซึ่งมี ฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวง
- 31. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานขั้นพื้นฐาน (เลขา สพฐ.)มีหน้าที่ 1. รับผิดชอบควบคุมราชการ ประจำาในสำานักงาน แปลงนโยบายเป็นแนวทาง และแผนปฏิบัติการ กำากับการปฏิบัติงานของส่วน ราชการในสำานักงาน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เร่งรัดติดตามและประเมินผล
- 32. 2. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ ในสำานักงานรองจากรัฐมนตรี และ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ ของข้าราชการในสำานักงาน ตลอดจนการจัดทำาแผนพัฒนาของ หน่วยงานเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (เลขา สพฐ.) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการใน สพท.+สถานศึกษา
- 33. สำำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้น พื้นฐำน มีดังนี้ (๑) สำำนักอำำนวยกำร (๒) สำำนักกำรคลังและสินทรัพย์ (๓) สำำนักติดตำมและประเมินผลกำร จัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน (๔) สำำนักทดสอบทำงกำรศึกษำ (๕) สำำนักเทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนกำร สอน (๖) สำำนักนโยบำยและแผนกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน
- 35. มำตรำ 33 กำรบริหำรและกำร จัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ให้ยึดเขตพื้นที่ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง ศึกษำธิกำรโดย คำำแนะนำำของสภำกำรศึกษำ มีอำำนำจประกำศในรำชกิจจำ นุเบกษำกำำหนดเขตพื้นที่กำร ศึกษำมำตรำ 34 ระเบียบบริหำรรำชกำรของเขต พื้นที่กำรศึกษำ ดังนี้ 1. สำำนักงำนเขตพื้นที่กำร ศึกษำ 2. สถำนศึกษำ
- 37. กำรแบ่งส่วนรำชกำรในสถำน ศึกษำขั้นพื้นฐำน ให้เป็นไปตำม ระเบียบคณะกรรมกำรเขตพื้นที่ กำรศึกษำกำำหนดมำตรำ 35 สถำนศึกษำขั้นพื้น มี ฐำนะเป็นนิติบุคล เมื่อมีกำรยุบสถำนศึกษำให้ควำม เป็นนิติบุคลสิ้นสุดลง มำตรำ 36 เขตพื้นที่กำรศึกษำ มีคณะกรรมกำรและสำำนักงำนเขต พื้นที่ทำำหน้ำที่ดูแล จัดตั้ง ยุบ รวม หรือเลิกสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนใน เขตพื้นที่
- 38. 1. บริหำรและกำรจัดกำรศึกษำและ พัฒนำสำระของหลักสูตรกำรศึกษำ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกน กลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของ สำำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน 2. กำรพัฒนำด้ำนวิชำกำรและจัดให้มี ระบบประกันคุณภำพภำยในสถำน ศึกษำร่วมกับสถำนศึกษำ 3. รับผิดชอบในกำรแบ่งส่วนรำชกำร ภำยในสถำนศึกษำของสถำนศึกษำ มำตรำ 37 สำำนักงำนเขตพื้นที่กำร ศึกษำทำำหน้ำที่ ดังนี้
- 39. สำำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ (สพท.) มีผู้อำำนวยกำรเป็นผู้บังคับบัญชำ ข้ำรำชกำรและรับผิดชอบในกำร ปฏิบัติรำชกำรของสำำนักงำน ให้เป็น ไปตำมนโยบำย แนวทำง และ แผนกำรปฏิบัติรำชกำรของกระทรวง มีรองผู้อำำนวยกำรเป็นผู้บังคับ บัญชำรองจำกผู้อำำนวยกำรเพื่อช่วย ปฏิบัติรำชกำร
- 40. 1. สอดคล้องกับภำรกิจหลักและรองรับ กำรกกระจำยอำำนำจ 2. มีควำมเป็นเอกภำพในกำรบริหำร จัดกำร ควำมยืดหยุ่น 3. มุ่งผลสัมฤทธิ์ตำมภำรกิจ ควำมคุ้มค่ำ ลดขั้นตอน กำรบริหำร 4. คำำนึงถึงระดับ ประเภท ปริมำณ คุณภำพของ สถำนศึกษำ และผู้รับบริกำร กำรแบ่งส่วนรำชกำรภำยในสำำนัก เขตพื้นที่กำรศึกษำ ในแต่ละเขต ให้กำำหนดตำม แนวทำง ดังนี้
- 41. สำำนักเขตพื้นที่กำรศึกษำ มีส่วน รำชกำร ดังต่อไปนี้ ส่วนรำชกำร สพม.10 •กลุ่มอำำนวยกำร •กลุ่มกำรเงินและสินทรัพย์ •กลุ่มบริหำรงำนบุคคล •กลุ่มนโยบำยและแผน •กลุ่มส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำ •กลุ่มนิเทศ ติดตำม และประเมินผลกำร จัดกำรศึกษำ •หน่วยตรวจสอบภำยใน
- 42. สำำนักเขตพื้นที่กำรศึกษำ มีส่วน รำชกำร ดังต่อไปนี้ ส่วนรำชกำร สพป.1 สุรินทร์ •กลุ่มอำำนวยกำร •กลุ่มบริหำรงำนบุคคล •กลุ่มนโยบำยและแผน •กลุ่มส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำ •กลุ่มส่งเสริมสถำนศึกษำ •กลุ่มนิเทศ ติดตำม และประเมินผลกำร จัดกำรศึกษำ •หน่วยตรวจสอบภำยใน
- 43. 1. จัดทำำนโยบำย แผนพัฒนำ และ มำตรฐำนกำรศึกษำ 2. จัดตั้งงบประมำณ เงินอุดหนุนทั่วไป ของสถำนศึกษำ 3.ประสำน ส่งเสริม สนับสนุน และ พัฒนำหลักสูตร ร่วมกับสถำนศึกษำ 4. กำำกับ ดูแล ติดตำมและประเมินผล สถำนศึกษำ 5. ศึกษำ วิเครำะห์ วิจัย และรวบรวม ข้อมูลสำรสนเทศ อำำนำจหน้ำที่ของสำำนักเขตอำำนำจหน้ำที่ของสำำนักเขต พื้นที่กำรศึกษำพื้นที่กำรศึกษำ
- 44. 6. ระดมทรัพยำกร เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำ 7. จัดระบบกำรประกันคุณภำพกำร ศึกษำ และประเมินผล สถำนศึกษำ 8. ประสำน ส่งเสริม สนับสนุน สถำน ศึกษำเอกชน 9. ดำำเนินกำรประสำนส่งเสริมสนับสนุน กำรดำำเนินกำร ของคณะอนุกรรมกำร คณะทำำงำน ด้ำนกำรศึกษำ
- 45. 1.1. คณะกรรมกำรสถำนศึกษำคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ขนำดเล็กขนำดเล็ก นักเรียนไม่เกินนักเรียนไม่เกิน 300300 คนคน กรรมกำรกรรมกำร 99 คนคน มำตรำมำตรำ 3838 คณะกรรมกำรสถำนคณะกรรมกำรสถำน ศึกษำขั้นพื้นฐำนศึกษำขั้นพื้นฐำน 2.2. คณะกรรมกำรสถำนคณะกรรมกำรสถำน ศึกษำขนำดใหญ่ศึกษำขนำดใหญ่ นักเรียนเกินกว่ำนักเรียนเกินกว่ำ 300300 คนคน กรรมกำรกรรมกำร 1515 คนคน
- 46. 1.คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขนำดเล็ก กรรมกำรกรรมกำร 99 คนคน1. ผู้แทนผู้ปกครอง 1 คน 2. ผู้แทนองค์กรชุมชน 1 คน 3. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น 1 คน 4. ผู้แทนครุ 1 คน 5. ผู้แทนศิษย์เก่ำ 1 คน 6. ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์หรือศำสนำ อื่น 1 รูป/คน 7. ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน 8. ผอ.สถำนศึกษำ เป็นกรรมกำร
- 47. 1.คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขนำด ใหญ่ กรรมกำรกรรมกำร 1515 คนคน1. ผู้แทนผู้ปกครอง 1 คน 2. ผู้แทนองค์กรชุมชน 1 คน 3. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน 4. ผู้แทนครู 1 คน 5. ผู้แทนศิษย์เก่ำ 1 คน 6. ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์หรือศำสนำอื่น 2 รูป/คน 7. ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน 8. ผอ.สถำนศึกษำ เป็นกรรมกำรและ
- 48. หมวด 4 กำรปฏิบัติ รำชกำรแทน มำตรำ 44 : ให้ปลัดกระทรวง เลขำธิกำร (สภำ, เลขำ สพฐ.เลขำ สกอ. เลขำธิ อชว.กระจำยอำำนำจ ด้ำน วิชำกำร งบประมำณ กำรบริหำร งำนบุคคล กำรบริหำรงำนทั่วไป ไปยังคณะกรรมกำรเขตพื้นที่กำร ศึกษำ สำำนักงำนเขตพื้นที่กำร
- 49. มาตรา 45 อำานาจการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการมอบให้ผู้ดำารงตำาแหน่ง อื่นปฏิบัติราชการแทนได้ ดังนี้ 1. รัฐมนตรี มอบอำานาจให้รัฐมนตรี ช่วย ปลัดระทรวง เลขาธิการ หรือผู้ว่า ราชการจังหวัด 2. ปลัดระทรวง มอบอำานาจให้รอง ปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัด หรือเลขาธิการ อธิการบดี หรือ ผอ.สพท.หรือผู้ว่าราชการ จังหวัด 3. เลขาธิการ มอบอำานาจให้ ผู้ช่วย
- 51. มาตรา 54 การรักษาราชการแทน กรณีต่อไปนี้ 1. ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง เช่น ตาย ย้าย 2. หรือมีผู้ดำารงตำาแหน่งแต่ไม่ อาจปฏิบัติ หมวด 5 การรักษาราชการ แทน
- 53. มาตรา 48 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง รัฐมนตรี ให้ รมช.เป็นผู้รักษา ราชการแทน มาตรา 49 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี ให้ ผู้ช่วยเลขานุ การรมช.เป็นผู้รักษาราชการแทน มาตรา 50 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง ปลัด ศธ. ให้ รองปลัด เป็นผู้รักษาราชการ แทน มาตรา 51 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง เลขา
- 54. มาตรา 52 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง ผอ.สำานัก ให้ รอง ผอ.สำานักเป็นผู้รักษาราชการ แทน มาตรา 53 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง ผอ.สพท. ให้ รอง ผอ.สพท.เป็นผู้รักษาราชการแทน มาตรา 54 ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง ผอ.สถาน ศึกษา ให้ รอง ผอ.สถานศึกษา เป็นผู้ รักษาราชการแทน มาตรา 55 ให้ผู้รักษาราชการแทน มอำา นาจหน้าที่ เช่นเดียวกับผู็็ซึ่งตนแทน
- 55. การรักษาราชการแทน เป็นถ้อยคำาที่ใช้ในพระราช บัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หมวด 5 ตั้งแต่มาตรา 48-54 กรณี ไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่ง หรือมีแต่ ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยกฎหมายกำาหนดให้ ตำาแหน่งตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการ
- 56. การรักษาการในตำาแหน่ง เป็นถ้อยคำาที่ใช้ใน มาตรา 68 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ได้กล่าวถึงกรณีที่ตำาแหน่ง ข้าราชการครูว่างลง หรือผู้ดำารง ตำาแหน่งไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ก็ให้ผู้มีอำานาจตามมาตรา 53 สั่ง
- 57. แล้วเมื่อไรจะใช้ รักษาราชการ แทน หรือ รักษาการในตำาแหน่ง ถ้าดูตามบทบัญญัติ มาตราถ้าดูตามบทบัญญัติ มาตรา 6868 แห่ง พรบแห่ง พรบ..ระเบียบระเบียบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ..ศศ.. 25472547 ใช้ใช้ ถ้อยคำาข้อความตอนต้นว่าถ้อยคำาข้อความตอนต้นว่า “...ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ...” โดยนัยดังกล่าวก็คือโดยนัยดังกล่าวก็คือ ต้องไปดูระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการก่อนต้องไปดูระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการก่อน ว่าว่า ตำาแหน่งใดบ้างที่กฎหมายกำาหนดให้ตำาแหน่งใดบ้างที่กฎหมายกำาหนดให้ “รักษาราชการแทน” ได้ เช่นได้ เช่น กรณีตำาแหน่งผู้อำานวยกรณีตำาแหน่งผู้อำานวย การสถานศึกษา ถ้าไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่งผู้อำานวยการสถานการสถานศึกษา ถ้าไม่มีผู้ดำารงตำาแหน่งผู้อำานวยการสถาน ศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการแทนได้ศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการแทนได้ กฎหมาย กำาหนดให้รองผู้อำานวยการสถานศึกษา เป็นรองผู้อำานวยการสถานศึกษา เป็น ““ผู้รักษาราชการแทน”
- 58. แต่แต่.......... ถ้าไม่มีตำาแหน่งใดที่กฎหมายระเบียบบริหารราชการถ้าไม่มีตำาแหน่งใดที่กฎหมายระเบียบบริหารราชการ กระทรวงกระทรวง ศึกษาธิการ กำาหนดไว้ เช่น กรณีตำาแหน่งผู้ช่วยผู้อำานวยศึกษาธิการ กำาหนดไว้ เช่น กรณีตำาแหน่งผู้ช่วยผู้อำานวย การสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่การสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ราชการได้ ซึ่งกรณีที่กฎหมายระเบียบบริหารราชกระทรวงราชการได้ ซึ่งกรณีที่กฎหมายระเบียบบริหารราชกระทรวง ศึกษาธิการ มิได้กำาหนดให้มีการรักษาราชการในตำาแหน่งศึกษาธิการ มิได้กำาหนดให้มีการรักษาราชการในตำาแหน่ง นี้ไว้ กรณีนี้ก็ต้องใช้นี้ไว้ กรณีนี้ก็ต้องใช้ “รักษาการในตำาแหน่ง” ตามตาม มาตรามาตรา 6868 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พบุคลากรทางการศึกษา พ..ศศ.. 25472547 ที่มา : เอกศักดิ์ คงตระกูล รักษาการในตำาแหน่งผู้ เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย นสพ.มติชน รายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 16พค. 2548 หน้า 30 คอลัมน์ สถานี
- 59. ข้าราชการการเมืองข้าราชการการเมือง 1. เลขานุการรัฐมนตรี 2. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี 3. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อง ถิ่น 4. กรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือ เจ้าหน้าที่ในพรรค
- 60. ข้าราชการประจำาข้าราชการประจำา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษาเลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษาเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาบุคลากรทางการศึกษา อธิบดีอธิบดี
- 62. 1. สำานักอำานวยการ 2. สำานักการคลังและทรัพย์สิน 3. สำานักติดตามและประเมินผลการจัดการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. สำานักทดสอบทางการศึกษา 5. สำาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน 6. สำานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7. สำานักบริหารการศึกษาพิเศษ 8. สำานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา 9. สำานักพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลและ นิติการ สพฐ. มีส่วนราชการ 10 สำานัก ดังต่อไปนี้