SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
NEXT
นาย รัตนพงษ์ บุญทะวงศ์ ชั้น ม.6/15 เลขที่ 29
นาย ทัดธนา นิมาแสง ชั้น ม.6/15 เลขที่ 38
BACKMANU
ผีกระสือ
ผีตะเคียน
ผีนางตานี ผีปอป
กระหัง
กองกอยกุมารทอง
โขมด
ควายธนู
เปรต จะกละ
ผีฉมบ
ผีตายทั้งกลม
ผีตาโบ๋
ผีตายโหง
ผีทะเล
ผีบ้านผีเรือน
ผีพราย
ผีโพง ผีหลังกลวง
แมงสี่หูห้าตา
ผีหัวขาด
BACK
 กระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบ
รับประทานของสดคาว มักออกหากินกลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้ง
ไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีเขียวเรืองวาม ๆ
 ใครคลอดลูกใหม่ กลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนาให้ผีกระสือมาและเข้าสิงกินตับไตไส้พุงของ
หญิงที่คลอดลูกหรือของทารกที่คลอดนั้น เหตุนี้ชาวบ้านจึงมักเอาหนามพุทราสะไว้ที่ใต้ถุน
เรือนตรงที่มีร่องมีรู เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามา เชื่อกันว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้
MANU
 นางตะเคียน เป็นผีตามตานานพื้นบ้านของไทย เป็นผีผู้หญิง สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนบริเวณ
ผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คง
เหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
 ผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องนี้ มักเชื่อว่าต้นตะเคียนมักมีผีนางตะเคียนสิงอยู่ การจะนาเอาต้น
ตะเคียนมาขุดเป็น
 เรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนาไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จาเป็นจะต้อง
ทาพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ เมื่อต้นตะเคียนที่ถูกนามาแปรสภาพ
เป็นยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างแล้ว นางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนนั้นก็จะ
เปลี่ยนแปลงสถานะตามไปด้วย เช่น ถ้าเป็นเรือ นางตะเคียนก็จะกลายเป็นแม่ย่านางเรือ เป็น
ต้น
MANU
 นางตานี เป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานี และ
ต้องเป็นกล้วยตานีตายพราย (ต้นกล้วยตานีที่ออกปลีแล้วตาย)
 นางตานีจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสด หมดจด งดงาม ห่มสไบสีเขียว และนุ่งโจงกระเบนแบบ
หญิงโบราณชอบล่อชายไปลวนลาม เเละนางตานียังมีเเรงหึงหวงที่น่ากลัวอีกด้วย เพราะถ้า
ชายที่มีอะไรกับนางเเล้ว เมื่อไปมีผู้หญิงคนอื่นนางตานีก็จะตามไปหักคอชายผู้นั้นทันที ด้วย
เเรงหึงหวงนั้นเอง
MANU
 ปอบ เป็นผีจาพวกหนึ่ง ที่อยู่ในความเชื่อพื้นบ้านของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน โดยเชื่อกัน
ว่าเป็นผีที่กินของดิบ ๆ สด ๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม โดยมีความเชื่อว่า ผู้ที่จะกลายเป็นปอบนั้น
มักจะเป็นผู้เล่นคาถาอาคม หรือคุณไสย พอรักษาคาถาอาคมที่มีอยู่กับตัวไม่ได้ หรือกระทาผิด
ข้อห้าม ซึ่งในภาษาอีสานจะเรียกว่า "คะลา" ซึ่งผู้ที่เป็นปอบจะเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
MANU
 กระหัง หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า กระหาง เป็นผีตามความเชื่อของคนไทย เป็นผีผู้ชาย คู่กับผี
กระสือ ซึ่งเป็นผู้หญิง เชื่อกันว่าผู้ที่เป็นผีกระหังนั้น จะเป็นผู้ที่เล่นไสยศาสตร์ เมื่ออาคมแกร่ง
กล้าไม่สามารถควบคุมได้ก็จะเข้าตัว กลายเป็นผีกระหังไป
 ผีกระหัง จะบินได้ในเวลากลางคืน จะใช้กระด้งฝัดข้าวติดกับแขนแทนปีก และใช้สากตาข้าว
หรือสากกระเบือผูกติดกับขา แทนหาง หรือขา ออกหากินของโสโครก เช่นเดียวกับ ผีกระสือ
หรือผีโพง
MANU
 กองกอย เป็นผีป่าชนิดหนึ่ง ลักษณะรูปร่างจะเป็นผีที่มีขาข้างเดียว บ้างก็ว่ามีปากเป็น
ท่อเหมือนแมลงวัน เคลื่อนที่โดยการกระโดดไปด้วยขาเดียว และส่งเสียงร้องว่า
"กองกอย ๆ" อันเป็นที่มาของชื่อ[1] เชื่อว่ามีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง บ้างเรียก ผี
โป่ง หรือผีโป่งค่าง สันนิษฐานว่า ความเชื่อเรื่องผีโป่งคือ ค่างแก่หน้าตาน่าเกลียดที่ไม่
สามารถขึ้นต้นไม้ได้ มีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า ถ้าได้ดื่มเลือดค่างจะทาให้ร่างกาย
คงกระพันเป็นอมตะ
 เชื่อว่า ผีกองกอยจะดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนค้างแรมในป่า วิธีการป้องกันคือ ให้
นอนไขว้ขาหรือชิดเท้ากันทั้งสองข้างและอย่านอนเอาขาหรือเท้าออกนอกเต็นท์นอน
MANU
 กุมารทองนั้นแรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่าตายทั้งกลม
ผู้มีวิชาอาคมจะไปนาพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสาร
โบราณระบุถึงการทากุมารทองสรุปว่า ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอา
ศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึง
เรียกว่ากุมารทอง
MANU
 เป็นผีชนิดหนึ่ง มาจากภาษาเขมร "โขฺมจ" แปลว่าผีทั่วไป พจนานุกรม ฉบับ
ราชบัณฑิตยสถาน อธิบายว่าผีโขมดจัดอยู่ในพวกผีกระสือหรือผีโพง เห็นเป็นดวงไฟลอยวูบ
วาบไปมาในเวลากลางคืน (เช่นจากนิยาย เพชรพระอุมา) พอเข้าไปใกล้ก็หายไป วิทยาศาสตร์
อธิบายว่าเป็นแก๊สมีเทนที่เกิดจากซากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพัง
MANU
 ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ สะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสย
ศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม อันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานใน
ด้านการเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นการทาหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทาได้ทั้งรูปคน
และสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วย
ดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,
เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น
MANU
 คาว่า เปรต แปลว่า ผู้ล่วงลับ ในทางศาสนาพุทธหมายถึง อมนุษย์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตวิสัย
ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ อบายภูมิ เปรตมีหลายประเภท เช่นประเภทหนึ่งเรียกว่า ปรทัตตูปชีวิ
เปรต คือเปรตที่ดารงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทาอุทิศให้ หากไม่มีส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ก็
มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร โบราณมีความเชื่อที่ว่า ถ้าใครทาร้ายพ่อแม่
ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นผีเปรต
 การทาพลีกรรมแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือการทาบุญอุทิศไปให้ผู้ตายว่า เปตพลี หรือ บุพเปตพลี
MANU
 ผีชนิดนี้ได้รับการสันนิษฐานว่าเกิดจากผู้มีคาถาอาคมปล่อยของ แล้วของนั้นก็จะกลายเป็นผี
ล้วงเรียกว่า หินพับวัม คือหินชนิดหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากผู้มีอาคมแก่กล้า มักจะอยู่ในปล้องไม่ไผ่
หรือเกิดจากแมวที่ชอบกินสัตว์อื่นและเลือดสด ๆ เป็นอาหาร จนเป็นสื่อนาของผู้มีอาคมปล่อย
มาแฝงร่างเพื่อกินของคาวสด กลัวคน เมื่อเห็นคนหรือคนเห็นมัน มันจะวิ่งหนีลงรู ซึ่งมันจะขุด
รูเป็นที่อยู่มักจะออกหากินตอนกลางคืน มีฤทธิ์เดชเมื่อมนุษย์เพียงแค่เห็นหรือสัมผัสมัน ก็
สามารถตายได้
MANU
 ผีฉมบ คือ ผีของผู้หญิงที่ตายในป่า มักปรากฏตัวเป็นแสงหรือเงาวูบวาบให้เห็น แต่ไม่ปรากฏ
เป็นตัวตน และไม่ทาอันตรายต่อผู้คน
MANU
 เป็นผีไทยลักษณะหนึ่ง โดยผู้หญิงที่ตายขณะที่กาลังตั้งครรภ์ลูกในท้องหรือขณะที่กาลังคลอด
ลูก ถ้าในขณะที่กาลังจะคลอดลูกนั้นแล้วเกิดตายขึ้นมาทั้งแม่และลูกถือว่าเป็นการตายโหงอีก
รูปแบบหนึ่ง นางนาค หรือแม่นาคพระโขนงก็เป็นผีตายทั้งกลมเช่นกัน ผีตายทั้งกลมจะสาแดง
อาการหลอกหลอนคนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถ้าใครเดินผ่านบ้านที่มีหญิงตายทั้งกลมในยามค่า
คืน จะได้ยินเสียงกล่อมเด็กดังวังเวงมาจากในบ้านที่มีหญิงตายทั้งกลมนั้น หรือหนักหน่อย
อาจจะมีคนเห็นเปลเด็กผูกอยู่บนคบไม้สูง โดยมีผีตายทั้งกลมนั่งกล่อมลูกอยู่ข้างล่าง ส่วนมือ
ยืดยาวขึ้นไปบนคบไม้ ไกวเปลให้ลูก
MANU
 ผีตาโบ๋ คือ ผีที่มีลักษณะเป็นหัวกะโหลก ไม่มีลูกตา หรือผลุบหายเข้าไปในเบ้าตา เคยนามา
สร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อน ซึ่งในขณะนั้น นาแสดงโดยพอเจตน์ แก่นเพชร และเนาวรัตน์ ยุก
ตะนันท์กากับการแสดงโดยเสน่ห์ โกมารชุน
MANU
 ผีตายโหง คือ คนที่เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน แบบไม่ธรรมดาตามธรรมชาติ เช่น ถูกยิง
จมน้า รถชน ฆ่าตัวตาย เป็นต้น สาหรับการตายทั้งกลมก็ถือว่าเป็นการตายแบบตายโหง
เช่นกัน
 ผีตายโหงจะเป็นผีที่จิตตก เนื่องจากจิตสุดท้ายก่อนตายอารมณ์ยังติดอยู่กับความหวาดกลัว
ความตกใจ ความอาฆาตแค้น ความอาลัยอาวรณ์ ตายทั้งที่ยังทาใจไม่ได้ วิญญาณจึงติดอยู่ใน
บ่วงแห่งอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้น ไม่สงบสุข เป็นวิญญาณทรมาน ไม่ยอมรับสภาพปัจจุบันของ
ตัวเอง เลยยังคงเที่ยวปรากฏกายให้คนได้พบได้เห็น ยิ่งถ้าเป็นผีตายโหงที่ตายขณะยังมีความ
อาฆาตพยาบาทจะมีความดุร้ายเป็นพิเศษ
MANU
 ผีทะเล เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของคนที่ตายในทะเล ผีทะเลปรากฏให้เห็นในหลายลักษณะ
อาจจะมาเป็นรูปลักษณ์ของคนเดินลากปลาตัวใหญ่ขึ้นมาจากทะเลในตอนกลางคืนบ้าง (ถูก
ปลากินตาย) หรือขึ้นมาบนเรือในยามกลางคืนขณะที่ชาวประมงออกเรือหาปลาบ้าง ผีทะเลที่
ขึ้นบนเรือนี้ มักจะมาในลักษณะเป็นดวงไฟสว่างอยู่บนเสากระโดงเรือ และชาวประมงเชื่อกัน
ว่าถ้าผีทะเลได้ไต่ขึ้นเกาะบนเสากระโดงเรือแล้ว จะทาให้เรือลานั้นอัปปางลง
MANU
 ผีบ้านผีเรือน มีลักษณะต่างจากผีทั่วไป คือจะอยู่ในรูปของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าบ้านเคารพ
กราบไหว้ จะคอยคุ้มครองผู้อยู่อาศัยในบ้าน ในสังคมไทยเมื่อถึงเทศกาลเช่นปีใหม่หรือวันเกิด
เจ้าบ้านที่มีความเชื่อจะทาการเซ่นไหว้ เชื่อว่ามีลักษณะรูปร่างจะเหมือนคนปกติ ใส่ชุดไทย
บ้างก็ว่าผีบ้านคือผีประจาหมู่บ้าน ส่วนผีเรือนก็คือผีประจาเหย้าเรือน และเรียกรวมกันว่าผี
บ้านผีเรือน
MANU
 ผีพราย ส่วนใหญ่มีถิ่นที่อยู่อยู่ในน้ามากกว่าบนบก เชื่อกันว่าเป็นจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่มี
ขนาดเล็กสุดตามลาดับของดวงจิตวิญญาณที่สามารถปรากฏให้รับรู้ได้ คือ พราย
ภูติ ผี ปีศาจ ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากการหมักหมมของซากพืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ ดวง
จิตวิญญาณนี้มักแสดงตนมีลักษณะเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว เป็นดวงไฟเรืองแสง มักปรากฏตัว
ตอนเวลาหกโมงเช้า เที่ยงวัน หกโมงเย็น และเที่ยงคืน มักอยู่ในคลองหรือแม่น้าที่มีผู้เสียชีวิต
มากที่สุด เมื่อจับเหยื่อได้จะเอาร่างเหยื่อที่ไร้วิญญาณเป็นร่างของตน
MANU
 โดยปกติแล้ว ผีโพงจะไม่ทาร้ายมนุษย์ แต่ถ้าหากถูกคุกคามก็จะจู่โจมทาร้ายได้เช่นกัน หากมี
ผู้ใดไปทาอะไรให้ผีโพงไม่พอใจ ผีโพงจะใช้ก้านกล้วยที่ตัดใบออกหมดแล้วพุ้งข้ามหลังคาบ้าน
ผู้นั้น ซึ่งครอบครัวของผู้ที่โดนขว้างจะพบกับภัยพิบัติต่าง ๆ นานา
 ผีโพงจะตายได้ เมื่อมีผู้ไปพบปะกับผีโพงเข้าอย่างจัง และทักว่าผีโพงแท้จริงแล้วคือใคร หาก
ผ่านพ้นมาได้หนึ่งวันแล้ว ผู้ที่เป็นผีโพงจะตาย
 ผีโพงสามารถถ่ายทอดให้แก่กันได้ ด้วยพ่นน้าลายใส่หน้าหรือมีใครไปกินน้าลายของผีโพงเข้า
MANU
 ผีหลังกลวง เป็นผีตามความเชื่อของชาวไทยภาคใต้ เชื่อว่ามีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนทั่วไป
แต่ที่หลังมีลักษณะกลวงโบ๋ อาศัยอยู่เป็นฝูง ๆ มักปรากฏเข้ามาพูดคุยหรือขอพักค้างแรมด้วย
กับคนที่เข้ามาในป่า
 มีนิทานเล่าว่า มีผู้ชายคนหนึ่งได้เข้าไปพักค้างแรมในป่า และเจอกับผีหลังกลวงมาขอปลา
วิธีการไล่คือ เอาก้อนเส้า (หินที่ใช้ก่อกองไฟ) ใส่เข้าไปในหลังที่กลวง
MANU
 แมงสี่หูห้าตา เป็นชื่อสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตานานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควาย
แก้ว อาเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย มีลักษณะเหมือนหมีสีดาตัวอ้วน มีหูสองคู่และตา
ห้าดวง รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และถ่ายมูลเป็นทองคา
 ตานานของแมงสี่หูห้าตานั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้วของจังหวัด
เชียงราย และเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ทาให้ผู้ชายหลงรักอนุภรรยามากกว่าเอกภรรยาด้วย
MANU
 ผีหัวขาด คือคนที่ตายโดยที่ส่วนของศีรษะหลุดออกมาจากร่างกายเพราะส่วนของศีรษะนั้น
ประกอบไปด้วยอวัยวะสาคัญก็คือสมองซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางานของร่างกาย สาเหตุของ
การเป็นผีหัวขาดก็คือถูกฟันคอด้วยดาบ ในสมัยโบราณจะมีการประหารนักโทษโดยการใช้
ดาบตัดคอ หรือเกิดจากการสู้รบระหว่างสงครามถูกศัตรูตัดคอจึงกลายเป็นผีหัวขาด หรืออาจ
เกิดจากการประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ถูกรถชน ถูกกระจกบาดคอขาด หรือด้วยสาเหตุอื่น
ๆ ซึ่งจัดเป็นผีตายโหงประเภทหนึ่ง
MANU

More Related Content

What's hot

ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงNew Oil
 
ประวัติผีกระสือ
ประวัติผีกระสือประวัติผีกระสือ
ประวัติผีกระสือPraery Zkss
 
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)Kornfern Chayaboon
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงSirintip Denduang
 
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรก
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรกไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรก
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรกRose Banioki
 
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)Om Muktar
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Jariya Huangjing
 
040 buddhataspoetry
040 buddhataspoetry040 buddhataspoetry
040 buddhataspoetryniralai
 
ไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdfไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ PdfMameaw Pawa
 
งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)Chutima Tongnork
 
เมตตาของหลวงปู่
เมตตาของหลวงปู่เมตตาของหลวงปู่
เมตตาของหลวงปู่Samthor Dee
 
งานนำเสนอตัวละคร
งานนำเสนอตัวละครงานนำเสนอตัวละคร
งานนำเสนอตัวละครbambookruble
 
สามก๊ก
สามก๊กสามก๊ก
สามก๊กkanchana13
 

What's hot (16)

สรุปเรื่อง สามก๊ก
สรุปเรื่อง สามก๊กสรุปเรื่อง สามก๊ก
สรุปเรื่อง สามก๊ก
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
 
ประวัติผีกระสือ
ประวัติผีกระสือประวัติผีกระสือ
ประวัติผีกระสือ
 
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)
พินิจวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ(part 1)
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
 
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรก
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรกไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรก
ไฟไหนจะร้อนเท่าไฟนรก
 
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)
จระเข้ หะลาลบริโภคหรือไม่? (ภาษาไทย)
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
Bali 2-10
Bali 2-10Bali 2-10
Bali 2-10
 
040 buddhataspoetry
040 buddhataspoetry040 buddhataspoetry
040 buddhataspoetry
 
Ton
TonTon
Ton
 
ไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdfไตรภูมิ Pdf
ไตรภูมิ Pdf
 
งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)
 
เมตตาของหลวงปู่
เมตตาของหลวงปู่เมตตาของหลวงปู่
เมตตาของหลวงปู่
 
งานนำเสนอตัวละคร
งานนำเสนอตัวละครงานนำเสนอตัวละคร
งานนำเสนอตัวละคร
 
สามก๊ก
สามก๊กสามก๊ก
สามก๊ก
 

Similar to ผีไทย

โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อโครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อKey Heart
 
โครงงานผีเปรต
โครงงานผีเปรตโครงงานผีเปรต
โครงงานผีเปรตKey Heart
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1krubuatoom
 
พลังแห่งบุญฤทธิ์
พลังแห่งบุญฤทธิ์พลังแห่งบุญฤทธิ์
พลังแห่งบุญฤทธิ์Panda Jing
 
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อโครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อKey Heart
 
ตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนPanda Jing
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Chutima Tongnork
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nid Noy Kaowkong
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Chutima Tongnork
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nid Noy Kaowkong
 
แหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างแหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างTongsamut vorasan
 
ธาตุเจ้าเรือน.pdf
ธาตุเจ้าเรือน.pdfธาตุเจ้าเรือน.pdf
ธาตุเจ้าเรือน.pdfTu Artee
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมTongsamut vorasan
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1Sirisak Promtip
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญาTongsamut vorasan
 

Similar to ผีไทย (20)

โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อโครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
 
โครงงานผีเปรต
โครงงานผีเปรตโครงงานผีเปรต
โครงงานผีเปรต
 
มุตโตทัย
มุตโตทัยมุตโตทัย
มุตโตทัย
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
 
กลอน
กลอนกลอน
กลอน
 
พลังแห่งบุญฤทธิ์
พลังแห่งบุญฤทธิ์พลังแห่งบุญฤทธิ์
พลังแห่งบุญฤทธิ์
 
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อโครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
โครงงานรื่องผีเปรตและตำนานความเชื่อ
 
ตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหน
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
Learn good
Learn goodLearn good
Learn good
 
Learn good
Learn goodLearn good
Learn good
 
มนุษย์กับการสร้างสรรค์
มนุษย์กับการสร้างสรรค์มนุษย์กับการสร้างสรรค์
มนุษย์กับการสร้างสรรค์
 
แหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างแหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้าง
 
ธาตุเจ้าเรือน.pdf
ธาตุเจ้าเรือน.pdfธาตุเจ้าเรือน.pdf
ธาตุเจ้าเรือน.pdf
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
 

More from Kyle Nimasang

ชีววิทยา
ชีววิทยาชีววิทยา
ชีววิทยาKyle Nimasang
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogKyle Nimasang
 
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38Kyle Nimasang
 
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38Kyle Nimasang
 

More from Kyle Nimasang (11)

Chem
ChemChem
Chem
 
ชีววิทยา
ชีววิทยาชีววิทยา
ชีววิทยา
 
Phy2
Phy2Phy2
Phy2
 
Phy
PhyPhy
Phy
 
Thai
ThaiThai
Thai
 
Soc
SocSoc
Soc
 
Eng
EngEng
Eng
 
Math
MathMath
Math
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
 
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38นาย ทัดธนา  นิมาแสง เลขที่ 38
นาย ทัดธนา นิมาแสง เลขที่ 38
 

ผีไทย

  • 2. นาย รัตนพงษ์ บุญทะวงศ์ ชั้น ม.6/15 เลขที่ 29 นาย ทัดธนา นิมาแสง ชั้น ม.6/15 เลขที่ 38 BACKMANU
  • 4.  กระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบ รับประทานของสดคาว มักออกหากินกลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้ง ไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีเขียวเรืองวาม ๆ  ใครคลอดลูกใหม่ กลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนาให้ผีกระสือมาและเข้าสิงกินตับไตไส้พุงของ หญิงที่คลอดลูกหรือของทารกที่คลอดนั้น เหตุนี้ชาวบ้านจึงมักเอาหนามพุทราสะไว้ที่ใต้ถุน เรือนตรงที่มีร่องมีรู เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามา เชื่อกันว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้ MANU
  • 5.  นางตะเคียน เป็นผีตามตานานพื้นบ้านของไทย เป็นผีผู้หญิง สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนบริเวณ ผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คง เหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง  ผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องนี้ มักเชื่อว่าต้นตะเคียนมักมีผีนางตะเคียนสิงอยู่ การจะนาเอาต้น ตะเคียนมาขุดเป็น  เรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนาไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จาเป็นจะต้อง ทาพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ เมื่อต้นตะเคียนที่ถูกนามาแปรสภาพ เป็นยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างแล้ว นางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนนั้นก็จะ เปลี่ยนแปลงสถานะตามไปด้วย เช่น ถ้าเป็นเรือ นางตะเคียนก็จะกลายเป็นแม่ย่านางเรือ เป็น ต้น MANU
  • 6.  นางตานี เป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานี และ ต้องเป็นกล้วยตานีตายพราย (ต้นกล้วยตานีที่ออกปลีแล้วตาย)  นางตานีจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสด หมดจด งดงาม ห่มสไบสีเขียว และนุ่งโจงกระเบนแบบ หญิงโบราณชอบล่อชายไปลวนลาม เเละนางตานียังมีเเรงหึงหวงที่น่ากลัวอีกด้วย เพราะถ้า ชายที่มีอะไรกับนางเเล้ว เมื่อไปมีผู้หญิงคนอื่นนางตานีก็จะตามไปหักคอชายผู้นั้นทันที ด้วย เเรงหึงหวงนั้นเอง MANU
  • 7.  ปอบ เป็นผีจาพวกหนึ่ง ที่อยู่ในความเชื่อพื้นบ้านของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน โดยเชื่อกัน ว่าเป็นผีที่กินของดิบ ๆ สด ๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม โดยมีความเชื่อว่า ผู้ที่จะกลายเป็นปอบนั้น มักจะเป็นผู้เล่นคาถาอาคม หรือคุณไสย พอรักษาคาถาอาคมที่มีอยู่กับตัวไม่ได้ หรือกระทาผิด ข้อห้าม ซึ่งในภาษาอีสานจะเรียกว่า "คะลา" ซึ่งผู้ที่เป็นปอบจะเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย MANU
  • 8.  กระหัง หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า กระหาง เป็นผีตามความเชื่อของคนไทย เป็นผีผู้ชาย คู่กับผี กระสือ ซึ่งเป็นผู้หญิง เชื่อกันว่าผู้ที่เป็นผีกระหังนั้น จะเป็นผู้ที่เล่นไสยศาสตร์ เมื่ออาคมแกร่ง กล้าไม่สามารถควบคุมได้ก็จะเข้าตัว กลายเป็นผีกระหังไป  ผีกระหัง จะบินได้ในเวลากลางคืน จะใช้กระด้งฝัดข้าวติดกับแขนแทนปีก และใช้สากตาข้าว หรือสากกระเบือผูกติดกับขา แทนหาง หรือขา ออกหากินของโสโครก เช่นเดียวกับ ผีกระสือ หรือผีโพง MANU
  • 9.  กองกอย เป็นผีป่าชนิดหนึ่ง ลักษณะรูปร่างจะเป็นผีที่มีขาข้างเดียว บ้างก็ว่ามีปากเป็น ท่อเหมือนแมลงวัน เคลื่อนที่โดยการกระโดดไปด้วยขาเดียว และส่งเสียงร้องว่า "กองกอย ๆ" อันเป็นที่มาของชื่อ[1] เชื่อว่ามีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง บ้างเรียก ผี โป่ง หรือผีโป่งค่าง สันนิษฐานว่า ความเชื่อเรื่องผีโป่งคือ ค่างแก่หน้าตาน่าเกลียดที่ไม่ สามารถขึ้นต้นไม้ได้ มีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า ถ้าได้ดื่มเลือดค่างจะทาให้ร่างกาย คงกระพันเป็นอมตะ  เชื่อว่า ผีกองกอยจะดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนค้างแรมในป่า วิธีการป้องกันคือ ให้ นอนไขว้ขาหรือชิดเท้ากันทั้งสองข้างและอย่านอนเอาขาหรือเท้าออกนอกเต็นท์นอน MANU
  • 10.  กุมารทองนั้นแรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่าตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนาพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสาร โบราณระบุถึงการทากุมารทองสรุปว่า ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอา ศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึง เรียกว่ากุมารทอง MANU
  • 11.  เป็นผีชนิดหนึ่ง มาจากภาษาเขมร "โขฺมจ" แปลว่าผีทั่วไป พจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน อธิบายว่าผีโขมดจัดอยู่ในพวกผีกระสือหรือผีโพง เห็นเป็นดวงไฟลอยวูบ วาบไปมาในเวลากลางคืน (เช่นจากนิยาย เพชรพระอุมา) พอเข้าไปใกล้ก็หายไป วิทยาศาสตร์ อธิบายว่าเป็นแก๊สมีเทนที่เกิดจากซากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพัง MANU
  • 12.  ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ สะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสย ศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม อันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานใน ด้านการเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นการทาหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทาได้ทั้งรูปคน และสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วย ดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า , เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น MANU
  • 13.  คาว่า เปรต แปลว่า ผู้ล่วงลับ ในทางศาสนาพุทธหมายถึง อมนุษย์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตวิสัย ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ อบายภูมิ เปรตมีหลายประเภท เช่นประเภทหนึ่งเรียกว่า ปรทัตตูปชีวิ เปรต คือเปรตที่ดารงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้ทาอุทิศให้ หากไม่มีส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ก็ มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร โบราณมีความเชื่อที่ว่า ถ้าใครทาร้ายพ่อแม่ ชาติหน้าจะไปเกิดเป็นผีเปรต  การทาพลีกรรมแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือการทาบุญอุทิศไปให้ผู้ตายว่า เปตพลี หรือ บุพเปตพลี MANU
  • 14.  ผีชนิดนี้ได้รับการสันนิษฐานว่าเกิดจากผู้มีคาถาอาคมปล่อยของ แล้วของนั้นก็จะกลายเป็นผี ล้วงเรียกว่า หินพับวัม คือหินชนิดหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากผู้มีอาคมแก่กล้า มักจะอยู่ในปล้องไม่ไผ่ หรือเกิดจากแมวที่ชอบกินสัตว์อื่นและเลือดสด ๆ เป็นอาหาร จนเป็นสื่อนาของผู้มีอาคมปล่อย มาแฝงร่างเพื่อกินของคาวสด กลัวคน เมื่อเห็นคนหรือคนเห็นมัน มันจะวิ่งหนีลงรู ซึ่งมันจะขุด รูเป็นที่อยู่มักจะออกหากินตอนกลางคืน มีฤทธิ์เดชเมื่อมนุษย์เพียงแค่เห็นหรือสัมผัสมัน ก็ สามารถตายได้ MANU
  • 15.  ผีฉมบ คือ ผีของผู้หญิงที่ตายในป่า มักปรากฏตัวเป็นแสงหรือเงาวูบวาบให้เห็น แต่ไม่ปรากฏ เป็นตัวตน และไม่ทาอันตรายต่อผู้คน MANU
  • 16.  เป็นผีไทยลักษณะหนึ่ง โดยผู้หญิงที่ตายขณะที่กาลังตั้งครรภ์ลูกในท้องหรือขณะที่กาลังคลอด ลูก ถ้าในขณะที่กาลังจะคลอดลูกนั้นแล้วเกิดตายขึ้นมาทั้งแม่และลูกถือว่าเป็นการตายโหงอีก รูปแบบหนึ่ง นางนาค หรือแม่นาคพระโขนงก็เป็นผีตายทั้งกลมเช่นกัน ผีตายทั้งกลมจะสาแดง อาการหลอกหลอนคนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถ้าใครเดินผ่านบ้านที่มีหญิงตายทั้งกลมในยามค่า คืน จะได้ยินเสียงกล่อมเด็กดังวังเวงมาจากในบ้านที่มีหญิงตายทั้งกลมนั้น หรือหนักหน่อย อาจจะมีคนเห็นเปลเด็กผูกอยู่บนคบไม้สูง โดยมีผีตายทั้งกลมนั่งกล่อมลูกอยู่ข้างล่าง ส่วนมือ ยืดยาวขึ้นไปบนคบไม้ ไกวเปลให้ลูก MANU
  • 17.  ผีตาโบ๋ คือ ผีที่มีลักษณะเป็นหัวกะโหลก ไม่มีลูกตา หรือผลุบหายเข้าไปในเบ้าตา เคยนามา สร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อน ซึ่งในขณะนั้น นาแสดงโดยพอเจตน์ แก่นเพชร และเนาวรัตน์ ยุก ตะนันท์กากับการแสดงโดยเสน่ห์ โกมารชุน MANU
  • 18.  ผีตายโหง คือ คนที่เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน แบบไม่ธรรมดาตามธรรมชาติ เช่น ถูกยิง จมน้า รถชน ฆ่าตัวตาย เป็นต้น สาหรับการตายทั้งกลมก็ถือว่าเป็นการตายแบบตายโหง เช่นกัน  ผีตายโหงจะเป็นผีที่จิตตก เนื่องจากจิตสุดท้ายก่อนตายอารมณ์ยังติดอยู่กับความหวาดกลัว ความตกใจ ความอาฆาตแค้น ความอาลัยอาวรณ์ ตายทั้งที่ยังทาใจไม่ได้ วิญญาณจึงติดอยู่ใน บ่วงแห่งอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้น ไม่สงบสุข เป็นวิญญาณทรมาน ไม่ยอมรับสภาพปัจจุบันของ ตัวเอง เลยยังคงเที่ยวปรากฏกายให้คนได้พบได้เห็น ยิ่งถ้าเป็นผีตายโหงที่ตายขณะยังมีความ อาฆาตพยาบาทจะมีความดุร้ายเป็นพิเศษ MANU
  • 19.  ผีทะเล เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของคนที่ตายในทะเล ผีทะเลปรากฏให้เห็นในหลายลักษณะ อาจจะมาเป็นรูปลักษณ์ของคนเดินลากปลาตัวใหญ่ขึ้นมาจากทะเลในตอนกลางคืนบ้าง (ถูก ปลากินตาย) หรือขึ้นมาบนเรือในยามกลางคืนขณะที่ชาวประมงออกเรือหาปลาบ้าง ผีทะเลที่ ขึ้นบนเรือนี้ มักจะมาในลักษณะเป็นดวงไฟสว่างอยู่บนเสากระโดงเรือ และชาวประมงเชื่อกัน ว่าถ้าผีทะเลได้ไต่ขึ้นเกาะบนเสากระโดงเรือแล้ว จะทาให้เรือลานั้นอัปปางลง MANU
  • 20.  ผีบ้านผีเรือน มีลักษณะต่างจากผีทั่วไป คือจะอยู่ในรูปของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าบ้านเคารพ กราบไหว้ จะคอยคุ้มครองผู้อยู่อาศัยในบ้าน ในสังคมไทยเมื่อถึงเทศกาลเช่นปีใหม่หรือวันเกิด เจ้าบ้านที่มีความเชื่อจะทาการเซ่นไหว้ เชื่อว่ามีลักษณะรูปร่างจะเหมือนคนปกติ ใส่ชุดไทย บ้างก็ว่าผีบ้านคือผีประจาหมู่บ้าน ส่วนผีเรือนก็คือผีประจาเหย้าเรือน และเรียกรวมกันว่าผี บ้านผีเรือน MANU
  • 21.  ผีพราย ส่วนใหญ่มีถิ่นที่อยู่อยู่ในน้ามากกว่าบนบก เชื่อกันว่าเป็นจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่มี ขนาดเล็กสุดตามลาดับของดวงจิตวิญญาณที่สามารถปรากฏให้รับรู้ได้ คือ พราย ภูติ ผี ปีศาจ ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากการหมักหมมของซากพืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ ดวง จิตวิญญาณนี้มักแสดงตนมีลักษณะเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว เป็นดวงไฟเรืองแสง มักปรากฏตัว ตอนเวลาหกโมงเช้า เที่ยงวัน หกโมงเย็น และเที่ยงคืน มักอยู่ในคลองหรือแม่น้าที่มีผู้เสียชีวิต มากที่สุด เมื่อจับเหยื่อได้จะเอาร่างเหยื่อที่ไร้วิญญาณเป็นร่างของตน MANU
  • 22.  โดยปกติแล้ว ผีโพงจะไม่ทาร้ายมนุษย์ แต่ถ้าหากถูกคุกคามก็จะจู่โจมทาร้ายได้เช่นกัน หากมี ผู้ใดไปทาอะไรให้ผีโพงไม่พอใจ ผีโพงจะใช้ก้านกล้วยที่ตัดใบออกหมดแล้วพุ้งข้ามหลังคาบ้าน ผู้นั้น ซึ่งครอบครัวของผู้ที่โดนขว้างจะพบกับภัยพิบัติต่าง ๆ นานา  ผีโพงจะตายได้ เมื่อมีผู้ไปพบปะกับผีโพงเข้าอย่างจัง และทักว่าผีโพงแท้จริงแล้วคือใคร หาก ผ่านพ้นมาได้หนึ่งวันแล้ว ผู้ที่เป็นผีโพงจะตาย  ผีโพงสามารถถ่ายทอดให้แก่กันได้ ด้วยพ่นน้าลายใส่หน้าหรือมีใครไปกินน้าลายของผีโพงเข้า MANU
  • 23.  ผีหลังกลวง เป็นผีตามความเชื่อของชาวไทยภาคใต้ เชื่อว่ามีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนทั่วไป แต่ที่หลังมีลักษณะกลวงโบ๋ อาศัยอยู่เป็นฝูง ๆ มักปรากฏเข้ามาพูดคุยหรือขอพักค้างแรมด้วย กับคนที่เข้ามาในป่า  มีนิทานเล่าว่า มีผู้ชายคนหนึ่งได้เข้าไปพักค้างแรมในป่า และเจอกับผีหลังกลวงมาขอปลา วิธีการไล่คือ เอาก้อนเส้า (หินที่ใช้ก่อกองไฟ) ใส่เข้าไปในหลังที่กลวง MANU
  • 24.  แมงสี่หูห้าตา เป็นชื่อสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตานานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควาย แก้ว อาเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย มีลักษณะเหมือนหมีสีดาตัวอ้วน มีหูสองคู่และตา ห้าดวง รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และถ่ายมูลเป็นทองคา  ตานานของแมงสี่หูห้าตานั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้วของจังหวัด เชียงราย และเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ทาให้ผู้ชายหลงรักอนุภรรยามากกว่าเอกภรรยาด้วย MANU
  • 25.  ผีหัวขาด คือคนที่ตายโดยที่ส่วนของศีรษะหลุดออกมาจากร่างกายเพราะส่วนของศีรษะนั้น ประกอบไปด้วยอวัยวะสาคัญก็คือสมองซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางานของร่างกาย สาเหตุของ การเป็นผีหัวขาดก็คือถูกฟันคอด้วยดาบ ในสมัยโบราณจะมีการประหารนักโทษโดยการใช้ ดาบตัดคอ หรือเกิดจากการสู้รบระหว่างสงครามถูกศัตรูตัดคอจึงกลายเป็นผีหัวขาด หรืออาจ เกิดจากการประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ถูกรถชน ถูกกระจกบาดคอขาด หรือด้วยสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งจัดเป็นผีตายโหงประเภทหนึ่ง MANU