More Related Content
Similar to การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
Similar to การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ (20)
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
- 5. บทคัดย่อ
โครงงานนี้ทาขึ้นเพื่อศึกษาเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ 4 ชนิดได้แก่ ข้าวคั่ว
ป่น เกลือเม็ด แกลบป่นและถ่านป่น กับผ้าต่างชนิดกัน 3 ชนิด คือ ผ้าฝ้าย ผ้าไนลอนและผ้าลินิน ว่า
วัสดุไหนมีประสิทธิภาพในการลดความชื้นมากกว่ากัน โดยการศึกษาเรานาผ้าที่มีความชื้นเท่ากัน
มาไว้ในกล่องแล้วใส่วัสดุลดความชื้นโดยปิดกล่องจับเวลาเป็นช่วงๆ ช่วงละเท่ากันแล้วนาผ้าที่ทา
การทดลองไปชั่งน้าหนักและหาค่าความชื้นที่หายไปโดยการคานวณจากสูตรเพื่อนามาเปรียบเทียบ
กัน
ผลการทดลองพบว่าในผ้าไนลอนวัสดุที่ลดความชื้นได้ดีที่สุดคือ ข้าวคั่วและเกลือโดยลดจาก
น้าหนักเดิม 25.5 กรัมเป็น 24.5 กรัม รองลงมาคือ แกลบป่นโดยลดจากน้าหนักเดิม 25.5 กรัมเป็น
24.8 กรัม วัสดุที่ลดความชื้นได้น้อยที่สุดคือถ่านป่น ในผ้าฝ้ายวัสดุที่ลดความชื้นได้ดีที่สุดคือ เกลือ
โดยลดจากน้าหนักเดิม 40 กรัมเป็น 38.8 กรัม รองลงมาคือ แกลบและข้าวคั่วโดยลดจากน้าหนัก
เดิม 40 กรัมเป็น 39 กรัม วัสดุที่ลดความชื้นได้น้อยที่สุดคือถ่านป่น ในผ้าลินินวัสดุที่ลดความชื้นได้
ดีที่สุดคือ แกลบโดยลดจากน้าหนักเดิม 35 กรัมเป็น 33.3 กรัม ต่อมาคือ ข้าวคั่วโดยลดจากน้าหนัก
เดิม 35 กรัมเป็น 34 กรัม รองลงมาคือเกลือลดจากน้าหนักเดิม 35 กรัมเป็น 34.4 กรัม
- 6. บทที่1: บทนา
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ประเทศไทยอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศแบบAmหรือแบบร้อน
ชื้นมรสุมทาให้มีความชื้นค่อนข้างมาก ในปัจจุบนเราประสบปัญหากับผ้าอับชื้นในช่วงที่อากาศ
ั
มีความชื้นจนเป็นสาเหตุทาให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับ หากเรานาเสื้อผ้าที่มีความชื้นมาสวมใส่อาจ
เกิดโรคผิวหนังจนเป็นผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ ข้าพเจ้าและกลุมของข้าพเจ้าจึงได้
่
ต้องการวัสดุจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการช่วยลดความชื้น ที่มีราคาไม่แพง ความสามารถใน
การลดความชื้นสูง และไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดที่จะศึกษาวัสดุจากธรรมชาติที่จะช่วยลดความชื้น โดยที่ตัววัสดุนั้น
มีราคาไม่แพง หาได้ง่ายตามท้องตลาด หากสามารถลดความชื้นได้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สวมใส่
เพราะจะทาให้สวมใส่ได้อย่างดี โดยมีข้อเท็จจริงคือทาให้ไม่เกิดปัญหาเชื้อราและกลิ่นอับ ที่เป็น
สาเหตุของโรคผิวหนัง ซึงทาให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต จนอาจต้องสูญเสีย
่
ทรัพย์สินจานวนมากได้
- 9. บทที่ 2: เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การหาปริมาณความชื้น (Measurement of Moisture Content)
การหาปริมาณความชื้น โดยหลักการแล้วสามารถทาโดยนาวัตถุดิบที่ต้องการหาความชื้น มาชั่ง
น้าหนักแล้วบันทึกค่าไว้เป็น มวลวัตถุเริ่มต้น จากนั้นจึงนามาอบในตู้อบที่อุณหภูมิ 80-100 ๐C
จนกระทังน้าหนักไม่เปลี่ยนแปลงจากนั้นบันทึกค่าไว้เป็น มวลวัตถุที่แห้ง แล้วนามาคานวณตาม
่
สูตร
% ความชื้น(ต่อน้าหนักเปียก) = ( มวลวัตถุเริ่มต้น - มวลวัตถุที่แห้ง)x100/ มวลวัตถุเริ่มต้น
% ความชื้น(ต่อน้าหนักแห้ง) = ( มวลวัตถุเริ่มต้น - มวลวัตถุที่แห้ง)x100 /มวลวัตถุที่แห้ง
- 10. ตัวอย่างการคานวณหา % ความชื้น (Percentage Moisture)
สมมิติว่ามีตัวอย่างดิน 100.0 กรัม หลังจากอบแห้งที่ 100 ๐C จนน้าหนักคงที่ ชั่งน้าหนักได้ 87.0
กรัม เปอร์เซ็นต์ความชื้น มีค่า เท่าไร (ให้ขึ้นกับน้าหนักเริ่มต้น)
น้าหนักของความชื้น = 100.0 - 87.0 = 13.0 กรัม
% ความชื้น (เปียก) =(100.0 - 87.0)*100/100 = 13%
% ความชื้นขึ้นกับน้าหนักแห้ง =(100.0 - 87.0)*87/100= 14.94%
- 11. แกลบ
• แกลบ (
Rice Husk) คือ เปลือกแข็งของเมล็ด ที่ได้จาก
เป็นส่วนที่เหลือใช้จาก
การผลิต
เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปทรงรี เม็ดยาวสีเหลืองอมน้าตาล หรือเหลืองนวลแล้วแต่ภูมิ
ประเทศที่มีการปลูกข้าว แกลบประกอบด้วย
และเถ้า และมีซิลกาใน
ิ
เถ้ามาก แกลบไม่ละลายในน้า มีความคงตัวทางเคมี ทนทานต่อแรงกระทา จึงเป็นตัวดูดซับที่ดีใน
การบาบัดน้าเสียที่มีโลหะหนัก การกาจัดโลหะหนักด้วยแกลบมีรายงานว่าสามารถใช้ได้นอกจาก
การนาแกลบข้าวไปใช้เป็นเชื้อเพลิงต่างๆแล้ว ยังสามารถนาไปผสมกับวัสดุอื่นๆทาเป็นวัสดุ
ก่อสร้างแล้ว แกลบข้าวยังถูกนาไปผลิตเป็นขี้เถ้าแกลบ (Rice Husk Ash) เพื่อนาไปใช้ประโยชน์
ส่วนประกอบหลักของขี้เถ้าแกลบ คือ
(SiO2) สามารถนาไปทาให้บริสุทธิ์ด้วยกระบวนการ
ทางเคมี และการเผาที่อุณหภูมิสูง ซิลกาในขี้เถ้าแกลบมีทงที่เป็น ซิลิกาผลึก (Crystalline Silica) ซิลิ
ิ
ั้
กาผลึกสามารถแบ่งย่อยเป็นหลายชนิดตามความแตกต่างของรูปร่าง ลักษณะผลึกและความ
หนาแน่นของซิลิกา รูปร่างของผลึกมีหลายแบบ เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
ลูกบาศก์และเส้นยาว และซิลิกาอสัณฐาน (Amorphous Silica) ซึ่งเป็นซิลกาที่มีรูปร่างไม่เป็นผลึก
ิ
(Non-crystalline Silica)
- 13. ข้าวคั่ว
ชื่อภาษาอังกฤษ Roasted uncooked rice
ลักษณะทั่วไป ต้องเป็นผงละเอียดหรือหยาบแห้ง ไม่จับตัวเป็นก้อน
สี : ต้องมีสีที่ดีตามธรรมชาติของข้าวคั่ว อาจมีสีคล้าได้บ้างแต่ต้องไม่ไหม้เกรียม
กลินรส : ต้องมีกลิ่นรสที่ดีตามธรรมชาติของข้าวคั่ว ปราศจากกลิ่นรสอื่นที่ไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่น
่
อับ กลิ่นหืนรสขม
สิงแปลกปลอม : ต้องไม่พบสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่ส่วนประกอบที่ใช้ เช่น เส้นผม ดิน ทราย กรวด
่
ชิ้นส่วนหรือสิ่งปฏิกูลจากสัตว์
ความชื้น : ต้องไม่เกินร้อยละ 6 โดยน้าหนัก
- 14. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนาข้าวสารเจ้าหรือข้าวสารเหนียว หรือข้าวกล้องเจ้าหรือข้าวกล้อง
เหนียวที่แห้งและอยู่ในสภาพดี นาไปคั่วจนสุกกรอบ นาไปบด เมล็ดพืชทุกชนิดมีความสามารถ
ในการดูดและคายความชื้นในสภาพปกติเมล็ดที่มีความชื้นสูงจะคายน้าหรือความชื้นออกสู่
บรรยากาศ ส่วนเมล็ดที่มีความชื้นต่าหรือแห้งจัดจะดูดความชื้นจากอากาศได้ ถ้าหากเราอบเมล็ด
ให้แห้งมากเมล็ดนั้น ๆ ก็จะสามารถดูดความชื้นได้มาก เมื่อนามาอบหรือคั่วด้วยไฟ จะมี
ความชื้นเหลืออยู่น้อยมาก และเมื่อเย็นลงก็พร้อมที่จะดูดความชื้นได้อีก ข้าวสารที่คั่วเสร็จใหม่ ๆ
จึงถือว่าเป็นสารดูดความชื้นที่ดีเทียบเคียงได้กับซิลกาเจลและปูนเผาหากนาข้าวคั่วที่มีความชื้น
ิ
ต่าไปเก็บรวมกับเมล็ดพันธุ์ภายในภาชนะที่ปิดสนิท ข้าวคั่วจะดูดความชื้นจากอากาศภายใน
ภาชนะทาให้ความชื้นสัมพัทธ์ในภาชนะดังกล่าวลดลงหรืออากาศนั้นแห้งลง
- 15. เกลือ
เกลือ เป็นแร่ธาตุทางโภชนาการชนิดหนึ่ง โดยหลักแล้วคือโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) ซึ่ง
สามารถสกัดได้จากสัตว์และพืช แต่เกลือจากพืชบางครั้งอาจเป็นพิษ เกลือบริโภคสามารถผลิตได้จาก
น้าทะเลหรือดินเค็ม เป็นเครื่องปรุงอาหารที่ให้รสเค็มที่มีมาตั้งแต่โบราณ สามารถใช้ถนอมอาหาร
ลักษณะของเกลือโซเดียมคลอไรด์แบ่งเป็น 2 ชนิด
1.เกลือเม็ด ผลิตโดยชาวนาเกลือทะเลและผู้ผลิตเกลือสินเธาว์ด้วยวิธีตาก นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
เช่น การดองผักผลไม้ และไอศกรีม
2.เกลือป่น ผลิตโดยโรงงานเกลือป่นที่ซื้อเกลือเม็ดจากชาวนาเกลือมาแปรรูปเป็นเกลือป่น และผู้ผลิต
เกลือสินเธาว์ด้วยวิธีการต้ม เกลือป่นที่ไม่ต้องผ่านการแปรรูปนิยมทาเป็นเกลือบริโภคตามบ้านเรือน
- 16. ถ่าน
การใช้ประโยชน์
คุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและความชื้นของถ่าน เป็นที่รับรู้กันดีแล้วสาหรับผู้อ่าน แต่ใน
ต่างประเทศ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องประดับจากถ่านเพื่อใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้รับความ
นิยมมาก คนญี่ปุ่น เป็นตัวอย่างของผู้ทมองเห็นคุณประโยชน์ของถ่านอย่างชัดเจน
ี่
การใช้ถ่านเพื่อทาหน้าที่ลดกลิ่นในห้องปรับอากาศ มีประสิทธิภาพที่ดีมาก ในห้องแอร์ ที่
ทางานหรือในรถ โดยเฉพาะที่ที่มีผู้สูบบุหรี่ หรืออาจจะมีเชื่อจุลินทรีย์ ควรนาถ่านไม้ไปวางดัก
ไว้ที่ช่องดูดอากาศกลับของเครื่องดูดอากาศ รูพรุนและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในถ่านไม้จะดูด
ซับกลิ่นและเชื้อโรคต่าง ๆ เอาไว้ ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างดี หรือจะใช้ถ่านเพื่อการ
บาบัดน้าเสียจากครัวเรือน ก่อนปล่อยสู่ท่อระบายสาธารณะก็ยังเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ใช้ดูดกลิ่นและความชื้นในบ้าน ในห้องปรับอากาศ ในรถยนต์ ใส่ในถังข้าวสารเพื่อดูดความชื้น
จากข้าว ใช้ดูดความชื้นใต้ถุนบ้าน
- 18. การทดลองที่ 2 ศึกษาการลดลงของความชื้นผ้า
ฝ้าย
1.ผ้าฝ้าย ขนาด 40x40 เซนติเมตร 4 ผืน
2.ถุงผ้าขาวบาง
4 ถุง
3.ข้าวคั่วป่น
50 กรัม
4.เกลือเม็ด
50 กรัม
5.แกลบป่น
50 กรัม
6.ถ่านป่น
50 กรัม
7.เครื่องชังน้าหนัก
่
1 เครื่อง
8.กล่องมีฝาปิด
4 กล่อง
การทดลองที่ 3 ศึกษาการลดลงของความชื้นผ้า
ลินิน
1.ผ้าลินิน ขนาด 40x40 เซนติเมตร
4 ผืน
2.ถุงผ้าขาวบาง
4 ถุง
3.ข้าวคั่วป่น
50 กรัม
4.เกลือเม็ด
50 กรัม
5.แกลบป่น
50 กรัม
6.ถ่านป่น
50 กรัม
7.เครื่องชังน้าหนัก
่
1 เครื่อง
8.กล่องมีฝาปิด
4 กล่อง
- 19. วิธีการทดลอง
การศึกษาทดลองที่ 1 ศึกษาการลดลงของความชื้นไนลอน
1.นาผ้าไนลอนที่มีความชื้น น้าหนักเท่ากัน มาวางไว้ในกล่องที่เตรียมไว้
2.นาข้าวคั่วป่น ข้าวคั่วป่น แกลบป่น ถ่านป่น ใส่ในถุงผ้าขาวบาง โดยน้าหนักเท่ากันจากนั้นนาไปใส่
กับผ้าไนลอนที่เตรียมไว้ในกล่อง แล้วปิดฝา
3.จับเวลาการทดลอง 1 ชั่วโมง
4.นาไปชั่งน้าหนักเพื่อหาน้าหนักที่เปลี่ยนไป สังเกตและบันทึกผล
การศึกษาทดลองที่ 2 ศึกษาการลดลงของความชื้นผ้าฝ้าย
1.นาผ้าผ้าฝ้ายที่มีความชื้นน้าหนักเท่ากันมาวางไว้ในกล่องที่เตรียมไว้
2.นาข้าวคั่วป่น ข้าวคั่วป่น แกลบป่น ถ่านป่น ใส่ในถุงผ้าขาวบาง โดยน้าหนักเท่ากันจากนั้นนาไปใส่
กับผ้าไนลอนที่เตรียมไว้ในกล่อง แล้วปิดฝา
3.จับเวลาการทดลอง 1 ชั่วโมง
4.นาไปชั่งน้าหนักเพื่อหาน้าหนักที่เปลี่ยนไป สังเกตและบันทึกผล
- 22. บทที่ 5: อภิปรายและสรุปผลการทดลอง
อภิปรายผลการทดลอง
ในปัจจุบันเราประสบปัญหากับผ้าอับชื้นในช่วงที่อากาศมีความชื้นจนเป็นสาเหตุทาให้
เกิดเชื้อราและกลิ่นอับ หากเรานาเสื้อผ้าที่มีความชื้นมาสวมใส่อาจเกิดโรคผิวหนังจนเป็นผลเสีย
ต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต กลุ่มของข้าพเจ้าจึงเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
4 ชนิดได้แก่ ข้าวคั่วป่น เกลือเม็ด แกลบป่นและถ่านป่น จากการทดลองข้างต้นจะเห็นว่า ในผ้า
ฝ้ายใช้เกลือเม็ดลดความชื้นได้ดีที่สุด ผ้าไนลอนใช้ข้าคั่วและเกลือลดความชื้นได้ดี และในผ้า
ลินินใช้แกลบลดความชื้นได้ดีที่สุด
• สรุปผลการทดลอง
• จากการทดลองผ้าที่ไม่ใช้วัสดุดูดความชื้นจะทาให้ความชื้นลดลงน้อยกว่าผ้าที่ใช้วัสดุลด
ความชื้น ซึ่งผ้าต่างชนิดมีผลต่อการดูดความชื้นของสารต่างชนิดกัน โดยในผ้าไนลอนผลการ
ทดลองข้าวคั่วและเกลือสามารถลดความชื้นได้มากที่สุด ในผ้าผ้าย เกลือเม็ดสามารถลดความชื้น
ได้มากที่สุด และในผ้าลินิน แกลบสมารถลดความชื้นได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นการจะใช้วัสดุที่
ลดความชื้นควรเลือกให้เหมาะสมตามเนื้อผ้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน