กิจกรรมที่ 5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. 1
ชื่อโครงงาน สมุนไพร
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1 . ธนกร อินทรารัตน์ เลขที่9 ม.6/13
2. ภาณุพิชญ์ มหาวันไชย เลขที่11 ม.6/13
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. ธนกร อินทรารัตน์ เลขที่9 2. ภาณุพิชญ์ มหาวันไชย เลขที่11 ม.6/13
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สมุนไพร
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
-Thai Herb
ประเภทโครงงาน สำรวจและรวบรวมข้อมูล
ชื่อผู้ทาโครงงาน1.ธนกร อินทรารัตน์
2.ภาณุพิชญ์ มหาวันไชย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
คนส่วนใหญ่ ให้ความสาคัญ กับการดูแลรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดกระแสการใช้ยา
เช่น การใช้ยาทาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งยาเหล่านี้
มีราคาค่อนข้างแพงและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายยต่อสุขภาพ
กลุ่มของข้าเจ้าจึงได้ศึกษา ค้นคว้าพืชสมุนไพรในท้องถิ่น
ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสามารถนา
มาผลิตเป็นลูกประคบได้ ซึ่งจากการค้นคว้าหาข้อมูลพบว่าลูกประคบ คือ การนาสมุนไพร หลายๆ
ชนิดมาห่อรวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่มีน้ามันหอมระเหย ซึ่งเมื่อถูกความร้อน
จะระเหยออกมา กลายเป็นกลิ่นเช่น ไพล ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ตะไคร้ มะกรูด การบูร
โดยเราสามารถนาเอา สมุนไพรเหล่านั้นมาหั่น ย่อยอย่างหยาบๆ จากนั้นห่อด้วยผ้าดิบ

3. 3
แล้วนาไปผ่านกระบวนการความร้อนด้วยวิธีการนึ่ง เพื่อให้สมุนไพรละลายออกมา
เป็นตัวยาซึมเข้าใต้ผิวหนัง ตามร่างกายเพื่อให้ผ่อนคลาย
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาสมุนไพรในท้องถิ่นมาเป็นลูกประคบเพื่อสุขภาพ
2. เพื่อความพึงพอใจในการใช้ลูกประคบสมุนไพรรักษาอาการปวดเมื่อย เมื่อยล้า
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
การศึกษาโครงงานในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพรในท้องถิ่นมาทาเป็นลูกประคบ
เพื่อความพึงพอใจในการใช้ลูกประคบสมุนไพรรักษาอาการปวดเมื่อย
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
โครงงานนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ
ศึกษาถึงสัณฐานและประโยชน์ของพืชสมุนไพร ณ ภูหินลาดช่อฟ้ า
ตาบลโนนทัน อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู
โดยรวบรวมพืชสมุนไพรจากสถานที่ดังกล่าว
ที่ชาวบ้านใช้รักษาโรคภัยต่างๆอยู่เป็ นประจา
มาศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะต่างๆของสมุนไพร
การนามาใช้ประโยชน์
และสรรพคุณทางยาจากการศึกษาพบว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณ
ภูหินลาดช่อฟ้ า นาพืชสมุนไพรมาใช้รักษากันอย่างแพร่หลายในหมู่บ้าน
ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน และ
พืชสมุนไพรตัวอย่าง มีลักษณะสัณฐานที่แตกต่างกันออกไป
และมีสรรพคุณทางยา การใช้ประโยชน์หลากหลาย เช่น กฤษณา
บารุงโลหิต แก้เสมหะ แก้วิงเวียน กลิ้งกลางดง ขับพยาธิ พอกแผลสด
แผลเรื้อรัง แก้โรคผิวหนัง ช่วยย่อยอาหาร บารุงกาลัง ขับเสมหะ ข่อยหิน
ถอนพิษเห็ดถอนพิษผิดสาแดง คามป่า แก้ปวดเมื่อย เครือหมาน้อย แก้ไข้
บารุงอวัยวะเพศให้แข็งแรง แก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ แก้โรคผิวหนัง
เครือไธสง ใช้ใส่แผลเปื่ อย แก้โรคผิวหนัง ช้างน้าว ช่วยให้เจริญอาหาร
โด่ไม่รู้ล้ม แก้โรคผิวหนัง ขับปัสสาวะ แก้ท้องร่วง
แก้โรคแผลในกระเพาะอาหาร แก้บิด แก้ปวดฟัน แก้อาเจียน เทพธาโร
ใช้ทาเครื่องขับลม บารุงธาตุ แก้ท้องอืดแน่นเฟ้ อ ประดงเลือด
เป็ นยาแก้กระษัย เปราะหอม แก้เด็กนอนสะดุ้งผวา ขับเลือดเน่าของสตรี
แก้โลหิต แก้หวัดคัดจมูก แก้เสมหะ เป้ า ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องเสีย

4. 4
บารุงโลหิต ขับเสมหะ แก้โรคผิวหนัง พญามือเหล็ก รักษาอาการฟกบวม
รักษาไข้จับสั่น รักษาอาการคัน รักษาโรคอหิวาตกโรค
รักษาโรคอัมพาตบางประเภท พังพอนงูเห่า แก้พิษสัตว์มีเขี้ยวกัด
พังพอนตะขาบ แก้พิษสัตว์มีเขี้ยวกัด และแก้ท้องร่วง มอญหอม
บารุงหัวใจรักษาลมและขับลม บารุงกาลัง ฝอยขัดหม้อ ลดไข้ และ วัวเถลิง
แก้ปวดเมื่อย บารุงกาลัง เป็ นต้น
ซึ่งสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
วิธีดาเนินงานแนวทางการดาเนินงาน
คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะ
1. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารแลแหล่งข้อมูล
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิและค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ต
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา มีรายละเอียดดังนี้
1. ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
2. วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา
3. ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์
4. กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน
ลงมือทาโครงงานและสรุปรายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลา อย่างกว้างๆ
5. ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น
ไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
6. เสนอเค้าโครงของโครงงานต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุงแก้ไข
เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการ ทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
4. การลงมือทาโครงงาน
เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา
ทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และเกิด ประสิทธิภาพสูงด้วย
5.ทาออกมาในรูปแบบโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้

5. 5
1.เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2.เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับความรู้มามใช้ในการประกอบของโครงงาน
3. เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อกสาเร็จรูป
4. เว็บไซต์ที่ใช้ติดต่อสื่อสาร
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ
บ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
17 ธนกร
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / ธนกร
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / ธนกร
3 จัดทาโครงร่างงาน / / / ธนกร
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / ภาณุพิชญ์
5 ปรับปรุงทดสอบ / / ภาณุพิชญ์
6 การทาเอกสารรายงาน / / ภาณุพิชญ์
7 ประเมินผลงาน / ภาณุพิชญ์
8 นาเสนอโครงงาน / ภาณุพิชญ์
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- เพื่อคลายเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ให้หายจากอาการเมื่อยล้า
- เพื่อให้โลหิตไหลเวียน ทั่วสรรพางค์กายได้สะดวกดีขึ้น
- บรรเทาและรักษาอาการเหน็บชา อัมพฤกษ์และอัมพาต
- ลดไขมันและละลายไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย
- เพื่อคลายเครียด สบายเนื้อสบายตัว
- เพื่อสร้างสมดุลให้แก่สุขภาพของตนเองแม้ว่าจะไม่เจ็บป่วย หรือมมีโรคภัยใดๆ ก็ตาม

6. 6
สถานที่ดาเนินการ
ร.ร. ยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.สังคมศึกษา
2.การงานอาชีพและเทคโนโลยี
-แหล่งอ้างอิง
http://fahsky01943.blogspot.com/