SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
ชือโครงงาน เตียงสองชันอเนกประสงค์
       วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

                 จัดทําโดย
       นายศิชล ชมภูรัตน์ เลขที 17
     นายเกียรติศกดิ บุญเขียว เลขที 23
                 ั
       นายธีรนัย จันทร์แก่น เลขที 38
            ชั%นมัธยมศึกษาปี ที 6/13



                   เสนอ
           ครู เขือนทอง มูลวรรณ




         ภาคเรียนที 2 ปี การศึกษา 2555
    โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม
1
                                               บทที 1 : บทนํา

ชื อโครงงาน : เตียงสองชั%นอเนกประสงค์

ครู ทปรึกษาโครงงาน : คุณครู เขือนทอง มูลวรรณ
     ี

ทีมาและความสํ าคัญของ “โครงงานเตียงสองชั นอเนกประสงค์ ”

           ในปั จจุบน สิ งของเครื องใช้มากมายได้ถูกมนุ ษย์พยายามคิดค้น และประดิษฐ์ข% ึนมาเพือตอบสนอง
                      ั
ความต้องการของมนุษย์ โดยดูเหมือนว่าความต้องการนั%นไม่สามารถจํากัดได้ เมือมีสิงหนึงแล้วก็อยากได้ที
ดีกว่า สวยกว่ากันทั%งนั%น ซึ งมันก็ถือเป็ นเรื องธรรมชาติของมนุ ษย์ในยุคนี%ไปเสี ยแล้ว จากความต้องการที
ไม่ มี ขี ดจํา กัดนี% การสร้ า งสิ งประดิ ษ ฐ์ที มี ป ระโยชน์ ใ ช้ส อยอย่า งหลากหลาย แถมยัง ต้องมี รูป ลัก ษณ์ ที
สวยงาม น่าใช้ จึงเป็ นสิ งสําคัญทีจะชักนํา หรื อหันเหความสนใจจากผูบริ โภค หรื อบุคคลทัวไป
                                                                             ้
           แต่ถึงอย่างไรนั%น สิ งประดิ ษฐ์ หรื อของใช้ทีถูกนําเสนอออกมาในยุคปั จจุบน ส่ วนมากจะเป็ นการ
                                                                                       ั
ตอบสนองความต้องการของกลุ่ มคนกลุ่มใหญ่ หรื อองค์กรใหญ่ๆ ทีมี งบประมาณสู ง แต่สําหรับสิ งของ
เครื องใช้ทีสามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลทัวไป ในการดําเนิ นชี วิตประจําวันดูเหมือนจะไม่
ค่อยได้รับความสนใจจากนักประดิษฐ์หรื อผูคิดค้นมากนัก ทําให้คนทัวไปมีความสะดวกสบายแต่ก็ไม่เต็มที
                                                    ้
มากนั ก ทางผู ้จ ัด ทํา ได้ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความสํ า คัญ ของการตอบสนองความต้อ งการของคนในการใช้
ชี วิตประจําวัน มีความสนใจและฉุ กคิดถึ งอุปกรณ์ หรื อสิ งของทีคนธรรมดา สามัญสามารถใช้ได้ และใช้
ประโยชน์อย่างมีประสิ ทธิ ภาพมากทีสุ ด
           จากการต้องการคิดค้นสิ งของทีจะทําประโยชน์แก่คนทัวไปได้ ผูจดทําได้สังเกตเห็นปั ญหาของคน
                                                                                ้ั
ใกล้ชิดรวมถึงปั ญหาของตัวผูจดทําเองว่าทีบ้านมีพ%ืนทีจํากัด สมาชิ กในบ้านอยู่ดวยกันหลายคนโดยเฉพาะ
                                    ้ั                                               ้
เด็กในวัยเรี ยนทีมักจะมีขาวของเครื องใช้อุปกรณ์การเรี ยนค่อนข้างมากจึงเป็ นปั ญหาในการจัดเก็บห้องนอน
                             ้



                                                   2
เตียงสองชั%นจึงถือเป็ นอีกทางเลือกหนึ งทีน่าสนใจสําหรับผูทีมีพ%ืนทีห้องนอนค่อนข้างจํากัด และประโยชน์
                                                         ้
ใช้สอยมากมายเช่นนี% บวกกับรู ปลักษณ์ทีสวยงามแล้วนั%นหากใครมีไว้ในครอบครองก็คงจะเป็ นทีน่ ายินดี
และน่าอิจฉา
จุดมุ่งหมายของโครงงานเตียงสองชั นอเนกประสงค์
เตียงสองชั%นถื อเป็ นสิ งอํานวยความสะดวกแก่คนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็ นวัยเด็ก วัยรุ่ น หรื อวัยทํางาน
เนื องจากมีรูปลักษณ์ ทีทันสมัย สี สันสดใส และมีความแปลกใหม่ สามารถใช้สิงประดิ ษฐ์น% ี ในบ้านหรื อ
ห้องนอนทีมีพ%ืนทีจํากัดได้ ซึ งถือว่าช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับดีเลยทีเดียว

นิยามศัพท์ เฉพาะ (Definition)

        โครงงาน “เตียงสองชั นอเนกประสงค์ ” ได้นิยามศัพท์ไว้ว่า เตียงสองชั นในโครงงานนี% ซึงมี
                                                                              ่ ั
ความหมายว่า เตียงนอนทีประกอบด้วยเตียง 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึ งอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึ ง
อยู่ดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียง
     ้
ทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาดเท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียง
                                                                       ั
ชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไป เตียงชนิ ดนี%จึงเหมาะสําหรับห้องทีมีพ%ืนทีจํากัด เช่ นในหอพัก หรื อ
                 ั
ห้องนอนทีมีขนาดแคบ

ประโยชน์ ทคาดว่ าจะได้ รับ
          ี

        1. เป็ นแนวทางสําหรับผูทีสนใจการใช้สิงของเครื องใช้ส่วนตัว ซึ งในทีนี% ได้นาเสนอในรู ปแบบ
                                   ้                                                 ํ
           เตียง ซึ งมีรูปลักษณ์อนสวยงาม และมีประโยชน์ใช้สอยทีมากกว่าเตียงธรรมดาทัวไป นันก็คือ
                                 ั
           สามารถนอนได้ 2 ชั%น ชั%นแรกมีโต๊ะเขียนหนังสื อ ตรงบันได้ข% ึนไปชั%นที 2 เป็ นลิ%นชักสามารถ
           เก็บของได้ ไม่เปลืองเนื%อที และไม่ซ% าใครอีกด้วย
                                                ํ
        2. ช่วยแก้ปัญหาสําหรับผูทีพื%นทีในบ้านหรื อในห้องนอนมีพ%นทีจํากัด
                                     ้                            ื
        3. ช่วยพัฒนากิจกรรมการเรี ยนการสอนทีเน้นทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิ ทธิ ภาพ
           มากยิงขึ%น
        4. เป็ นแนวทางในการริ เริ มด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์ สําหรับผูทีมีความสนใจ
                                                                          ้
        5. ส่ งเสริ มกระบวนการทํางานเป็ นทีม ซึ งต้องอาศัยทั%งความร่ วมมือ ร่ วมใจ การเสี ยสละ ยอมรับ
           ฟังความคิดเห็นผูอืน ซึ งสามารถนําไปปรับใช้โดยตรงในการใช้ชีวตประจําวันได้เป็ นอย่างดี
                              ้                                             ิ



                                                   3
                                    บทที 2 : การรวบรวมข้ อมูล

       ในการดําเนิ นงานโครงงานเทคโนโลยี “เตียงสองชั%นอเนกประสงค์” ผูจดทําได้รวบรวมข้อมูล
                                                                            ้ั
หลักการ แนวคิด ทฤษฎีทีเกียวข้องจากเอกสาร ตํารา บทความ สื บค้นผ่านอินเตอร์ เน็ต ซึ งประกอบด้วย
1.หลักสู ตรการศึกษาขึ%นพื%นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการงานอาชี พและเทคโนโลยี ช่วงชั%นที 4
   (ม.4-6) สาระการออกแบบและเทคโนโลยี
   2.หลักการออกแบบเตียงสองชั%น
   3.ความรู ้เกียวกับอุปกรณ์ในการทําเตียง
   4.ข้อมูลอืนๆทีเกียวข้อง

การรวบรวมข้ อมูลโครงงาน “เตียงสองชั นอเนกประสงค์ ”
     1. หลักสู ตรการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการงานอาชี พและเทคโนโลยี ช่ วงชั นที
          4 (ม.4-6) สาระการออกแบบและเทคโนโลยี
1.1 สาระการออกแบบและเทคโนโลยี
          มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ งของเครื องใช้
หรื อวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อ
ชีวต สังคม สิ งแวดล้อม และมีส่วนร่ วมในการจัดการเทคโนโลยีทียังยืน
   ิ
1.2 ตัวชี วัด
                                                             ั
     1. อธิ บายและเชือมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกบศาสตร์ อืนๆ
     2. วิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี
     3. สร้ า งและพัฒ นาสิ งของเครื องใช้หรื อ วิธี ก ารตามกระบวนการเทคโนโลยีอ ย่า งปลอดภัย โดย
          ถ่ายทอดความคิดเป็ นภายฉายและแบบจําลองเพือนําไปสู่ การสร้ างชิ% นงาน หรื อถ่ายทอดความคิด
          ของวิธีการเป็ นแบบจําลองความคิดและการรายงานผลโดยใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการออกแบบหรื อ
          นําเสนอผลงาน
     4. มีความคิ ดสร้ างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการในงานทีผลิ ตเอง หรื อการพัฒนา
          ผลิตภัณฑ์ทีผูอืนผลิต
                        ้
     5. วิเคราะห์และเลื อกใช้เทคโนโลยีทีเหมาะสมกับชี วิตประจําวันอย่างสร้างสรรค์ต่อชี วิต สังคม และ
          สิ งแวดล้อม และมีการจัดการเทคโนโลยีทียังยืนด้วยวิธีการของเทคโนโลยีสะอาด




                                                4
1.3 สาระการเรียนรู้ แกนกลาง
                                 ั
    1. เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กบศาสตร์ อืนๆโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์
    2. ระบบเทคโนโลยี ประกอบด้วย ตัวป้ อน (Input) กระบวนการ (Process) ผลลัพธ์ (Output) ทรัพยากร
        ทางเทคโนโลยี (Resources) ปั จจัยทีเอื%อหรื อขัดขวางต่อเทคโนโลยี (Consideration)
3. การวิเคราะห์ระบบเทคโนโลยีทาให้ทราบเกี ยวกับปั จจัยในด้านต่างๆทีมีผลต่อการแก้ปัญหาหรื อ
                                        ํ
        สนองความต้องการ
    4. การสร้ างสิ งของเครื องใช้หรื อวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี ทําให้ผูเ้ รี ยนทํางานอย่างเป็ น
        ระบบ สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้ง่าย
    5. การสร้างและพัฒนาสิ งของเครื องใช้หรื อวิธีการต้องอาศัยความรู ้ทีเกี ยวข้องอืนอีก เช่น กลไกและ
        การควบคุมไฟฟ้ า-อิเล็กทรอนิกส์
    6. การใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการออกแบบหรื อนําเสนอผลงาน มีประโยชน์ในการช่วยร่ างภาพ ทําภาพ 2
        มิติ และ 3 มิติ
    7. การพัฒนาสิ งของเครื องใช้ตองคํานึงถึง หลักการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เบื%องต้น
                                    ้
    8. หลักการวิเคราะห์ผลิ ตภัณฑ์เบื%องต้นเป็ นการวิเคราะห์จุดมุ่งหมายของการออกแบบ ประกอบด้วย
        ชิ%นงานนี% ใช้ทาอะไร ทําไมถึงต้องมีชิ%นงานนี% ใครเป็ นผูใช้ ใช้ทีไหน เมือไหร่ จึงใช้ วิธีการทีทําให้
                        ํ                                       ้
        ชิ%นงานนี%ทางานได้ ตามวัตถุประสงค์ทีกําหนดไว้
                    ํ
    9. ภาพฉาย เป็ นภาพแสดงรายละเอียดของชิ%นงาน ประกอบด้วย ภาพด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน แสดง
        ขนาดและหน่วยวัด เพือนําไปสร้างชิ%นงาน
    10. ความคิ ดสร้ างสรรค์ มี 4 ลักษณะ ประกอบด้วย ความคิดริ เริ ม ความคล่ องแคล่ วในการคิด ความ
               ่
        ยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ
    11. ความคิดริ เริ ม จะเป็ นลักษณะความคิดทีแปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดเดิม
    12. ความคิดแปลกใหม่ทีได้ ต้องไม่ละเมิดความคิดผูอืน  ้
    13. ความคิดแปลกใหม่เป็ นการสร้างนวัตกรรมทีเป็ นส่ วนหนึงของทรัพย์สินทางปั ญญา
    14. การวิเคราะห์ผลดี ผลเสี ย การประเมินและการตัดสิ นใจเพือเลือกใช้เทคโนโลยีทีเหมาะสม
    15. การเลือกใช้สิงของเครื องใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยการเลือกสิ งของเครื องใช้ทีเป็ นมิตรกับชี วิต สังคม
        และสิ งแวดล้อม
    16. เทคโนโลยีสะอาดเป็ นเครื องมือทีใช้ในการจัดการใช้เทคโนโลยีเพือมุ่งสู่ การพัฒนาอย่างยังยืนชนิ ด
        หนึง



                                                     5
2. หลักการออกแบบ เตียงสองชั นอเนกประสงค์

         เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ี นี%มีรูปร่ าง ลักษณะทีคล้ายกับเตียงสองชั%นธรรมดาทีประกอบด้วยเตียง
                                     ่ ั                          ่ ้
2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยูดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและ
ชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาด
เท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไปแต่
                                ั                                            ั
เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ทีผูจดทําออกแบบมานั%นจะมีความแตกต่างจากเตียงสองชั%นธรรมดาตรงทีบันได
                               ้ั
ขึ%นไปชั%น2นั%นจะดัดแปลงมาจากลิ%นชักจึงสามารถเก็บสิ งของเครื องใช้ได้และข้างๆเตียงชั%นแรกจะมีโต๊ะไว้
เขียนหนังสื อหรื ออ่านหนังสื อ

3.ความรู้ เกียวกับโปรแกรม Google sketch up




           Google SketchUp เป็ นซอฟท์แวร์ สร้างโมเดล 3มิติทีมีเครื องมือพื%นฐานต่างๆเพียงพอกับการใช้งาน
ของผูใช้ระดับพื%นๆทัวๆไป ทีต้องการจะสร้างแบบ 3มิติของโต๊ะ, เก้าอี%, ตู,้ เครื องใช้ในบ้านต่างๆ หรื อจะใช้
      ้
สร้างแบบในการต่อเติมบ้าน และงานไม้ต่างๆก็ได้ ซึ งก็จะมีรูปแบบของ texture แบบต่างๆให้เลือกใช้ได้
ครบ แต่ถาต้องการจะนําไปสร้างโมเดลการ์ ตูนเอนิเมชันต่างๆก็คงไม่พอ นอกจากจะใช้เริ มหัดพื%นฐานสร้าง
              ้
โมเดลต่างๆก็พอได้
Sketchup ถูกพัฒนาขึ%นโดยบริ ษท @Last ในปี ค.ศ.1999 ซึ งมีเป้ าหมายทีจะ
                                ั
- พัฒนาโปรแกรมออกแบบ Model 3 มิติ โดยมี Interface ทีเรี ยบง่ายและใช้งานสะดวก
- ให้ผใช้งานสนุกกับการสร้างและออกแบบ
        ู้
- ทําให้ผออกแบบมีลูกเล่นในส่ วนของงานออกแบบและนําเสนอ โดยทีโปรแกรมอืนๆ ไม่สามารถทําได้
           ู้
ต่อมา บริ ษท Google ได้เข้าซื%อบริ ษท @Last ตอนต้นปี 2006 ทําให้กลายเป็ นเวอร์ ชนใหม่คือ “Google
                ั                   ั                                              ั
Sketchup”

                                               6
ฟังก์ชนทีน่าสนใจของ Google SketchUp คือสามารถเข้าไปค้นหาโมเดล 3มิติจากฐานข้อมูลของ Google
      ั
หรื อจะโหลดไปเก็บไว้ดวยก็ได้ และถ้าใช้งานจนคล่องจะสร้างโมเดลของสถานทีสําคัญๆ แล้วเอาไปใส่ ใน
                        ้
Google Earth ด้วยก็ได้
จาก http://sketchup.google.com/
4. ข้ อมูลความรู้ เกียวกับเตียง

เรืองสํ าคัญเกียวกับรู ปทรงของเตียง
         เตียง คือทีสําหรับนอนหรื อตั%งสิ งของ มีขา 4 ขา รู ปสี เหลียมผืนผ้าหรื อคือเครื องเรื อนประเภทหนึ งซึ ง
นิยมนําไปไว้ในห้องนอน โดยประโยชน์ใช้สอยหลักคือเป็ นทีรองรับสรี ระของมนุ ษย์ขณะพักผ่อนหรื อนอน
หลับ ลักษณะโดยทัวไปจะเป็ นรู ปสี เหลียมผืนผ้ามีขนาดกว้างยาวแตกต่างกันไป หรื ออาจมีรูปทรงอืนๆ โดย
เตียงนั%นอาจประกอบด้วยส่ วนทีเป็ นฐานด้านล่างและส่ วนทีเป็ นฟูกด้านบนหรื ออาจไม่มีฟูกรองรับด้านบนก็
ได้ ซึ งเตียงบางประเภท อาจมีส่วนทีเป็ นหัวเตียงอยูดวย โดยหัวเตียงก็คือส่ วนทียืนสู งขึ%นไปด้านบนและมัก
                                                      ่ ้
    ่
อยูทางด้านแคบของเตียงด้านใดด้านหนึ ง มีท% งแบบเรี ยบง่ายไปจนกระทังมีทีสําหรับวางของ ตู ้ ลิ%นชัก และ
                                                ั
โคมไฟบนหัวเตียงด้วย หรื อเตี ยงบางประเภทอาจมีเสายืนขึ%นไปด้านบนทั%ง 4 มุ ม เพือใช้ประดับผ้าม่าน
                                                  ่ ้
นอกจากนี% เตียงบางประเภทยังมีตูหรื อลิ%นชักอยูดานล่างเตียงเพือใช้เก็บของได้อีกด้วย ซึ งลักษณะของเตียง
                                   ้
นั%นอาจแตกต่างกันไปตามการออกแบบโดยปกติแล้ว เตี ยงมักใช้ควบคู่กบเครื องนอนชนิ ดอืนเช่ นหมอน
                                                                              ั
หมอนข้าง ผ้าห่ ม ผ้าปูเตียง รวมทั%งผ้าคลุมเตียงซึ งใช้คลุมทับเครื องนอนอืนๆอีกทีหนึ ง สําหรับวัสดุทีใช้ทา      ํ
ส่ วนทีเป็ นฐานเตียงนั%นจะแตกต่างกันไปตามการออกแบบ เช่ น โลหะ ไม้ ไม้อด หรื ออาจนําฟูกมาวางเป็ น
                                                                                    ั
ฐานก็ได้นอกจากเตียง

ประเภทของเตียง
        ประเภทของเตียงนั%นจะถูกแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ๆก็คือ เตียงเดียวและเตียงคู่ ซึ งขนาดของเตียง
ทั%งสองประเภทนี% จะมีความแตกต่างกันตามความเหมาะสม โดยเตียงเดียวก็คือเตียงทีมีขนาดพอเหมาะ
สําหรับการนอนคนเดียวขนาดจึงแคบกว่าเตียงคู่ สําหรับเตียงคู่น% นสามารถนอนได้ประมาณ 2 คน จึงมีขนาด
                                                             ั
กว้างและยาวกว่าเตียงเดียว นอกจากนี%ยงมีเตียงอีกประเภทหนึงก็คือเตียง 2 ชั%น ซึ งมีลกษณะแตกต่างจาก
                                     ั                                            ั
เตียงทัวไปคือ จะประกอบด้วยเตียง 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยู่
                                                                       ่ ั
ด้านบน ระยะห่างระหว่างเตียงชั%นบนและชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมา
ประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาดเท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%น
                                                                   ั
บนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไป เตียงชนิดนี%จึงเหมาะสําหรับห้องทีมีพ%ืนทีจํากัด เช่นในหอพัก หรื อ
              ั
ห้องนอนทีมีขนาดแคบ
                                                       7
ส่ วนประกอบของเตียงนอน
        - ส่ วนทีเป็ นขดลวดหรื อสปริ งเป็ นส่ วนทีรองรับนํ%าหนักของร่ างกายโดยเฉพาะกระดูกสันหลัง ควรจะ
มีปริ มาณขดลวดให้มากพอทีจะรับนํ%าหนักของร่ างกาย หากขดลวดน้อยเกินไปจะทําให้เตียงยุบเมือเวลาเรา
                       ่
นอนทําให้กระดูกอยูในแนวทีไม่ถูกต้อง อันเป็ นสาเหตุของโรคปวดหลัง
- ส่ วนทีเป็ นเบาะนุ่มยิงหนายิงดี แต่บางครั%งหากส่ วนเบาะแข็งเกินไปอาจจะทําให้เกิดอาการปวด
บริ เวณทีกดทับโดยเฉพาะผูทีมีการอักเสบของข้อสะโพก หรื อข้อไหล่
                             ้




                                                  8
                                         บทที 3
                      การเลือกวิธีการ/กรอบแนวคิดในการดําเนินงาน
         ในการจัดทําโครงงาน “เตียงสองชั%นอเนกประสงค์” ผูจดทําได้มีกรอบแนวคิดหรื อขั%นตอนในการ
                                                        ้ั
ดําเนินงานดังนี%
1.กําหนดปั ญหาหรื อ              1.สํารวจปั ญหาหรื อความต้องการของ                      คิดงานเดียว
   ความต้องการ (การ                 ตนเองโดยสังเกตและศึกษาข้อมูลจาก                - โต๊ะเก้าอี%
   เลือกหัวข้อโครงงาน)              สถานการณ์รอบตัวหรื อชุมชน เพือ                 - ลําโพงขวดนํ%า
                                    ศึกษาปั ญหาหรื อ ศึกษาปั ญหาหรื อ              - ปลักชาร์ ตแบตอเนก
                                                                                         r
                                    ความต้องการทีน่าสนใจ                           ประสงค์


2.ตัดสิ นใจแล้วว่าจะแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการทีกลุ่มสนใจทีสุ ด                  คิดเป็ นงานกลุ่ม
                                                                                    “เตียงสองชั%นอเนก
                                                                                   ประสงค์”
  2. รวบรวมข้อมูล
                                    นําความรู ้ทีได้มาเป็ นข้อมูลสนับสนุนในการ
                                    ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาหรื อสนองความ
                                    ต้องการเพือเป็ นทาวเลือกในการออกแบบ


  3. เลือกวิธีการ                                                        ออกแบบด้วย Software1 : Photo scape
                                                                                     Software2 : Google sketch up
  นําข้อมูลทีสื บค้นได้มาทําการวิเคราะห์และ
  สรุ ปเป็ นองค์ความรู ้สาหรับการทําโครงงาน
                         ํ

  การนําเสนอหน้าชั%น

  คุณครู กระตุน ส่งเสริ ม และให้คาปรึ กษาในการพิจารณาเลือกวิธีการหรื อ
               ้                 ํ
  แนวทางแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการทีเหมาะสม และสามารถทําได้ใน
  ข้อจํากัดทีมีอยู่


  ออกแบบด้วย Software 3 : Photo scape
                Software 4 : Google sketch up


                                                         9

  4. การลงมือปฏิบติ
                 ั

  ลงมือสร้างตามแนวทางทีออกแบบไว้ โดยผลงานอาจเป็ นชิ%นหรื อวิธรการ ขณะลงมือ
  สร้างควรปรึ กษาหารื อกับเพือนในกลุ่มหรื อครู เป็ นระยะ เพือแลกเปลียนเรี ยนรู ้
ปฏิบติการสร้างแบบจําลอง
    ั

5. ทดสอบ / ปรับปรุ ง/ แก้ไข / ขั%นประเมินผล


นําชิ%นงานหรื อวิธีการไปทดสอบแก้ไขปั ญหาหรื อสนองความต้องการ ปรับปรุ งแก้ไขชิ%นงานหรื อวิธีการ
กรณี ชิ%นงานหรื อวิธีการดังกล่าว สามรถแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการได้ไม่ดีตามทีออกแบบไว้ และ
ประเมินผลการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการ

6. การนําเสนอผลงาน


    1. ศึกษาวิธีการทีหลากหลาย
    2. เลือกวิธีการนําเสนอทีเหมาะสม
    3. เตรี ยมการนําเสนอผลงาน




                                                      10
                                  บทที 4 ผลการปฏิบัตการโครงงาน
                                                    ิ
ผลการปฏิบติโครงงาน เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ผจดทําได้ดาเนิ นการตามกระบวนการเทคโนโลยี
                 ั                                 ู้ ั     ํ
7 ขั%นตอน ของ สสวท. ดังนี%

ขันที 1 การกําหนดปัญหา และความต้ องการ (Identification the problem, need or preference)
          เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ีออกแบบขึ%นมาสําหรับผูทีมีพ%ืนทีภายในบ้านหรื อพื%นทีภายในห้องนอน
                                                           ้
                            ่ ้                  ้ ่
จํากัดและสมาชิกในบ้านอยูดวยกันหลายคนหรื อผูทีอยูหอพัก ผูจดทําได้เห็นถึงปั ญหาดังกล่าวจึงได้
                                                             ้ั
ออกแบบโครงงานเตียงสองชั%นอเนกประสงค์ข% ึน
ขันที 2 รวบรวมข้ อมูลเพือแสวงหาวิธีการแก้ ปัญหาหรือสนองความต้ องการ (Information)
          เมือกําหนดปั ญหาหรื อความต้องการเรี ยบร้อยแล้ว ทางคณะผูจดทําได้ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลและ
                                                                   ้ั        ํ
ความรู ้ทุกด้านทีเกียวข้องกับปั ญหาหรื อความต้องการดังกล่าว เพือหาวิธีการทีเหมาะสมสําหรับแก้ปัญหา
หรื อสนองความต้องการทีกําหนดไว้ ได้แก่
          1. สื บค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ทีเกียวข้อง
          2. ทําการพิจารณาเลือกข้อมูลทีมีความน่าสนใจและเป็ นประโยชน์ต่อการจัดทําโครงงาน
ขันที 3 เลือกวิธีการแก้ ปัญหาหรือสนองความต้ องการ (Selection of the best possible solution)
          ในการตัดสิ นใจเลือกแนวคิดทีดีทีสุ ดสําหรับแก้ปัญหา ผูจดทําได้นาข้อมูล และความรู ้ทีรวบรวมได้ มา
                                                               ้ั       ํ
ประกอบกันจนได้ขอสรุ ปว่า จะเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรื อวิธีการสนองความต้องการคือ จัดทําเตียงสองชั%น ซึ งตั%ง
                    ้
จุดมุ่งหมาย ให้ผลิตภัณฑ์ทีได้สามารถตอบสนองความต้องการของผูใช้ได้หลายๆ ด้าน ได้แก่ สามารถนอนได้ 2
                                                                  ้
ชั%น ชั%นละ1 คน สามารถใช้ได้ในห้องทีมีพ%ืนทีจํากัดได้ สอดคล้องกับทรัพยากรทีหาได้ง่าย จึงเป็ นปั จจัยส่ งเสริ ม ใน
การตัดสิ นใจเลือกสิ งดังกล่าว
ขันที 4 ออกแบบและปฏิบัติการ (Design and making) โดยใช้ กระบวนการ PDCA ของ Deming ดังนี
         1. ออกแบบและวางแผนการทํา โดยแบ่งหน้าทีแก้สมาชิกในกลุ่มให้รับผิดชอบส่ วนต่างๆ ทีตนเอง
ถนัดและสามารถทําได้




                                                     11
        2. จัดเตรี ยมอุปกรณ์ทีจําเป็ นต้องใช้ให้ครบถ้วน
3. ร่ างแบบลงบนกระดาษทีจัดเตรี ยมเอาไว้ ให้เป็ นส่ วนต่างๆ ของเตียง




4. ตัดกระดาษตามแบบร่ าง




                                             12
5. ประกอบให้เป็ นชิ%นส่ วนต่างๆของเตียง
6. เช็คความเรี ยบร้อยของผลงาน




                                         ่
       7. ประเมินผลการใช้งานของผลิตภัณฑ์วาสามารถตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาตาม
จุดประสงค์ทีวางไว้หรื อไม่




                                             13
ขันที 5 ทดสอบ (Testing to see if it works)
เมือนําสิ งประดิษฐ์มาทดลองใช้ พบว่า สามารถใช้ได้จริ งตามเป้ ามายทีวางไว้ รวมถึงสามารถเก็บ
ของเล็กๆน้อยๆเพือไม่ให้เกะกะได้ แต่พบปั ญหาคือเตียงมีขนาดใหญ่ ทางผูจดทําจึงไม่สามารถทําให้เป็ น
                                                                          ้ั
ของจริ งได้จึงใช้วธีการทําเป็ นโมเดลแทน
                     ิ
ขันที 6 การปรับปรุ งแก้ ไข (Modification and improvement)
          หลังจากการทดสอบผลแล้วพบว่า สิ งประดิษฐ์ทีสร้างขึ%น มีขอบกพร่ อง คือ ไม่สามารถทําเป็ นของ
                                                                     ้
จริ งได้เนืองจากมีขนาดใหญ่เกินไป ดังนั%น จึงทําการปรับปรุ งแก้ไข โดยทําเป็ นโมเดลหรื อแบบจําลองแทน
แต่อย่างไรก็ตาม แบบจําลองเตียงสองชั%นทีสร้างขึ%นนี% ก็ยงเป็ น เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ ทีสามารถใช้งาน
                                                       ั
ได้สะดวกและประหยัดเนื%อที เหมือนดังเดิม
ขันที 7 ประเมินผล (Assessment)
       หลังจากปรับปรุ งแก้ไขจนใช้งานได้ดีตามวิธีการทีออกแบบแล้ว ผูจดทําได้นาผลงานมาประเมินผลโดย
                                                                  ้ั       ํ
พิจารณาดังนี%
        - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ สามารถแก้ปัญหาและสนองความต้องการตรงตามเป้ าหมายทีวาง
          ไว้ขางต้น
               ้
        - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ มีความสวยงาม และดึงดูดใจผูใช้เป็ นอย่างดี
                                                            ้
        - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ นั%นมีความทนทาน สะดวกต่อการใช้งาน
        - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ มีตนทุนทีไม่สูงมากนัก และให้ประโยชน์สูงสุ ดในการใช้ จึงถือว่า
                                      ้
          เป็ นผลิตภัณฑ์ทีเหมาะสมต่อการใช้งาน และตอบสนองความต้องการแก่ผใช้ได้เป็ นอย่างดี
                                                                            ู้




                                                 14
บทที 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ

สรุ ปผลการดําเนินการ

          จากการริ เริ มทํา โครงงานสิ งประดิ ษ ฐ์ คื อ เตี ย งสองชั%นอเนกประสงค์ ได้มี ก ารเริ มจากการคิ ด
โครงงานเดียวของสมาชิ กในกลุ่ม ซึ งสมาชิ กแต่ละคนก็ต่างแยกย้ายกันไปคิดโครงงานสิ งประดิษฐ์ของตน
ซึ งโครงงานสิ งประดิษฐ์ท% ง 3 เรื องประกอบด้วย โครงงานเรื อง โต๊ะเก้าอี% ทีชาร์ ตแบตเอนกประสงค์ และ
                              ั
ลําโพงขวดนํ%า จากนั%นก็นกรวมกลุ่มสมาชิ กเพือมาปรึ กษาเรื องการเลื อกทําโครงงาน โดยเลื อกโครงงาน
                                ั
สิ งประดิษฐ์จาก 3 เรื องดังกล่าว เมือได้ปรึ กษากันเกียวกับข้อดี ขอเสี ยของสิ งประดิษฐ์ของสมาชิ กแต่ก็ได้
                                                                      ้
ข้อสรุ ปว่า จะประดิษฐ์โครงงานสิ งประดิษฐ์เรื องอืนขึ%นใหม่ โดยช่วยกันระดมความคิดภายในกลุ่ม ซึ งต้อง
เริ มใหม่ ต% ง แต่ก ารกํา หนดปั ญหาและความต้องการ สื บ เนื องมาจากผูจดทํา ได้สังเกตเห็ นปั ญหาของคน
             ั                                                            ้ั
ใกล้ชิดรวมถึงปั ญหาของตัวผูจดทําเองว่าทีบ้านมีพ%ืนทีจํากัด สมาชิ กในบ้านอยู่ดวยกันหลายคนโดยเฉพาะ
                                  ้ั                                              ้
เด็กในวัยเรี ยนทีมักจะมีขาวของเครื องใช้อุปกรณ์การเรี ยนค่อนข้างมากจึงเป็ นปั ญหาในการจัดเก็บห้องนอน
                            ้
เตียงสองชั%นจึงถือเป็ นอีกทางเลือกหนึงทีน่าสนใจสําหรับผูทีมีพ%นทีห้องนอนค่อนข้างจํากัด
                                                              ้ ื
          เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ี นี%มีรูปร่ าง ลักษณะทีคล้ายกับเตียงสองชั%นธรรมดาทีประกอบด้วยเตียง
                                       ่ ั                          ่ ้
2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยูดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและ
ชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาด
เท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไปแต่
                                   ั                                                  ั
เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ทีผูจดทําออกแบบมานั%นจะมีความแตกต่างจากเตียงสองชั%นธรรมดาตรงทีบันได
                                  ้ั
ขึ%นไปชั%น2นั%นจะดัดแปลงมาจากลิ%นชักจึงสามารถเก็บสิ งของเครื องใช้ได้และข้างๆเตียงชั%นแรกจะมีโต๊ะไว้
เขียนหนังสื อหรื ออ่านหนังสื อ
           สเกต รู ปแบบของเตียงโดยใช้การวาดภาพด้วยดินสอแล้วจากนั%นก็นารู ปแบบของเตียงมาออกแบบ
                                                                             ํ
โดยใช้ซอฟต์แวร์ ในทีนี%สมาชิกกลุ่มเลือกทีจะออกแบบโดยใช้ โปรแกรมGoogle sketch up รวมถึงใช้
โปรแกรมเสริ ม คือ Photo scape มาใช้ในการตกแต่ง ซึ งรู ปแบบของเตียงทีจะนํามาทําโครงงานสิ งประดิษฐ์
คือ ลักษณะของเตียงสองชั%น ซึ งลักษณะของเตียงแบบนี%สามารถใช้ได้ในห้องทีมีพ%นทีจํากัด ซึ งเมือออกแบบ
                                                                                    ื
คร่ าวๆรวมถึงเขียน โครงงาน โดยใช้หลักการ 5W1H เสร็ จแล้ว ก็นาโครงงานไปนําเสนอหน้าชั%นเรี ยน และ
                                                                        ํ
ได้นาโครงงานมาปรับปรุ งแก้ไขเพิมเติม โดยการนําไปออกแบบด้วยซอฟต์แวร์ อีกครั%งเพือให้ชิ%นงานมีความ
      ํ
สมบูรณ์ข% ึนกว่าเดิม
          ขั%นตอนของการลงมือปฏิบติงาน โดยทําตามลักษณะทีได้ออกแบบไว้ เมือทําสิ งประดิษฐ์เสร็ จแล้ว
                                     ั
ได้นามา ทดสอบการทํางานซึ งพบว่า ถึงแม้เตียงสองชั%นนี%จะเป็ นแค่เพียงแบบจําลองไม่ใช่ของจริ งแต่ก็มี
        ํ
ความคงทน และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่นกัน
                                                        15
การประเมินผลโครงงานโดยการทําใบประเมินผลโดยให้ผปกครอง และเพือนๆเป็ นผูประเมิน แล้วนําผลที
                                                      ู้             ้
                                            ่
ได้มาทําเป็ นกราฟรู ปแท่ง ซึ งผลทีออกมาก็อยูในเกณฑ์ดี

อภิปรายผล
          จากการทําโครงงานชิ%นนี%ทาให้ผจดทําได้รับความรู ้มากมาย ซึ งเริ มตั%งแต่ข% นตอนแรกในการ
                                     ํ ู้ ั                                         ั
ออกแบบผลิตภัณฑ์ คือต้องอาศัยหลักการ 5W1H เพือวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทีจะออกแบบ ว่าในการออกแบบ
ผลิตภัณฑ์น% นสิ งแรกทีจะต้องคํานึงคือ ต้องการสนองความต้องการอะไร(What ), จะต้องสนองความ
             ั
ต้องการทีไหน(where), จะต้องสนองความต้องการเมือไร (when),ทําไมจึงต้องสนองความต้องการ(Why)
และต้องสนองความต้องการอย่างไร (How) หลักการทั%งหมดนี%ใช้เพือหาปั จจัยทีจะนํามาพิจารณาในการ
ออกแบบ ซึ งสิ งนี%คณะผูจดทําเห็นว่าจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น
                           ้ั
ซึ งในระหว่างการทําจัดทําโครงงานสิ งประดิษฐ์น% ี คณะผูจดทําได้รับความรู ้เกียว กระบวนการเทคโนโลยี7
                                                          ้ั
ขั%นตอน ของ สสวท.และได้นามาเป็ นแนวทางในการดําเนินงาน ซึ งทั%ง 7 ขั%นตอนนี%ประกอบไปด้วย ตั%งแต่
                               ํ
การกําหนดปั ญหาและความต้องการ(Identification the problem, need or preference),รวบรวมข้อมูลเพือ
แสวงหาวิธีการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการ (Information),เลือกวิธีการแก้ปัญหาหรื อสนองความ
ต้องการ (Selection of the best possible solution),ออกแบบและปฏิบติการ (Design and making) ,ทดสอบ
                                                                      ั
(Testing to see if it works),การปรับปรุ งแก้ไข (Modification and improvement)และขั%นตอนสุ ดท้ายคือการ
ปรับปรุ งแก้ไข (Modification and improvement) กระบวนการทั%ง 7 ขั%นตอนนี%การดําเนินงานเป็ นไปอย่างมี
ขั%นตอน เป็ นระเบียบแบบแผน
               ซึ งภายในกระบวนการ 7 ขั%นตอนนี% คณะผูจดทํายังได้รับความรู ้เกียวกับเรื อง ของ หลักการ
                                                       ้ั
PDCA ของDeming หลักการ PDCA คือ วงจรพัฒนาคุณภาพงาน เป็ นวงจรพัฒนาพื%นฐานหลักของการ
พัฒนาคุณภาพทั%งระบบ (Total Quality Management: TQM) ผูทีคิดค้นกระบวนการหรื อวงจรพัฒนาคุณภาพ
                                                                  ้
                                                  ั
PDCA คือ Shewhart นักวิทยาศาสตร์ ชาวอเมริ กน แต่ Deming ได้นาไปเผยแพร่ ทีประเทศญีปุ่ นจนประสบ
                                                                    ํ
ความสําเร็ จ จนผลักดันให้ญีปุ่ นเป็ นประเทศมหาอํานาจของโลก คนทัวไปจึงรู ้จกวงจร PDCA จากการ
                                                                               ั
เผยแพร่ ของ Deming จึงเรี ยกว่า “วงจร Deming” วงจร PDCA ประกอบด้วยขั%นตอนดังต่อไปนี%
                     1. วางแผน (Plan – P) คือ การทํางานใด ๆ ต้องมีข% นการวางแผน เพราะทําให้มีความ
                                                                        ั
มันใจว่าทํางานได้สาเร็ จ เช่น วางแผนการสอน วางแผนการวิจย หัวข้อทีใช้ในการวางแผน คือ วางแผนใน
                       ํ                                        ั
หัวข้อต่อไปนี% 1) ทําทําไม 2) ทําอะไร 3) ใครทํา ทํากับกลุ่มเป้ าหมายใด 4) ทําเวลาใด 5) ทําทีไหน 6) ทํา
อย่างไร 7) ใช้งบประมาณเท่าไร การวางแผนวิจยในชั%นเรี ยนเป็ นการวางแผนตามคําถามต่อไปนี% why what
                                                ั
และ how
                     2. การปฏิบติ (Do – D) เป็ นขั%นของการลงมือปฏิบติตามแผนทีวางไว้ การปฏิบติวจยใน
                                 ั                                        ั                      ั ิั
ชั%นเรี ยนตามแผนการวิจย คือ การลงมือเก็บรวบรวมข้อมูลเพือตอบปั ญหาการวิจยทีตั%งไว้ในแผน
                         ั                                                       ั
                                                             16
3. ตรวจสอบ (Check – C) เป็ นขั%นของการประเมินการทํางานว่าเป็ นไปตามแผนทีวางไว้
หรื อไม่ มีเรื องอะไรปฏิบติได้ตามแผน มีเรื องอะไรทีไม่สามารถปฏิบติได้ตามแผน หรื อปฏิบติแล้วไม่ได้ผล
                             ั                                        ั                    ั
การตรวจสอบนี%จะได้สิงทีสําเร็ จตามแผน และสิ งทีเป็ นข้อบกพร่ องทีต้องแก้ไข
                    4. การปรับปรุ งแก้ไข (Action – A) เป็ นขั%นของการนําข้อบกพร่ องมาวางแผนเพือการ
ปฏิบติการแก้ไขข้อบกพร่ อง แล้วลงมือแก้ไข ซึ งในขั%นนี%อาจพบว่าประสบความสําเร็ จ หรื ออาจพบว่ามี
       ั
ข้อบกพร่ องอีก ผูวจยหรื อผูทางานก็ตองตรวจสอบเนื%อหาเพือแก้ไข แล้วนําไปแก้ไขอีกต่อไป งานของการ
                    ้ิั           ้ ํ     ้
วิจยในชั%นเรี ยนจึงเป็ นการทําไปเรื อย ๆ ไม่มีวนหยุด การทําวิจยไปเรื อย ๆ เป็ นการพัฒนาให้ดีข% ึนเรื อย ๆ
    ั                                           ั              ั
เป็ นการพัฒนาอย่างยังยืน ซึ งได้นามาใช้ในการดําเนินการด้วยเช่นกัน
                                        ํ
                                              ่
            หลักการทําโครงงานทั%งหมดนี% ไม่วาจะเป็ น 5W1H, กระบวนการเทคโนโลยี 7 ขั%นตอน และ
กระบวนการ PDCA ของDeming ทําให้การทําโครงงานชิ%นเป็ นไปอย่างเป็ นขั%นตอน มีหลักการทํางานทีมี
ประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น โดยเฉพาะการได้รับความรู ้จากใบงานต่างๆในวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ทําให้
คณะผูจดทํามีแนวทางในการเขียน และจัดทําโครงงานทีถูกต้อง เป็ นแบบแผน และมีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น
         ้ั
            นอกจากนี%คณะผูจดทํายังได้รับองค์ความรู ้ใหม่ๆอีกหลายอย่าง เช่น การใช้โปรแกรม Google
                               ้ั
sketch up เพราะว่าสมาชิกในกลุ่มไม่เคยมีใครได้เคยใช้โปรแกรมดังกล่าวเลย ดังนั%นทุกคนจึงต้องช่วยกัน
ศึกษา ขั%นตอนวิธีการใช้โปรแกรม Google sketch up
            จนในทีสุ ดก็สามารถใช้โปรแกรมนี%มาออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการ ซึ งโปรแกรม Google
sketch up สามารถใช้งานได้มากกว่าการสเกตภาพธรรมดา คือสามารถเพิมเติมสี สันได้ตามทีต้องการ รวมถึง
การมองภาพในมุมมองต่างๆ ในรู ปแบบของภาพ 3 มิติ ทําให้ชิ%นงานทีออกแบบนี% มีลกษณะใกล้เคียงกับของ
                                                                                     ั
จริ งมากขึ%น และในระหว่างการค้นคว้าข้อมูลเพือนํามาประกอบในโครงงาน ทําให้คณะผูจดทําได้ทราบ
                                                                                        ้ั
ข้อมูลเกียวกับเซนเซอร์ มากขึ%น ว่ามีกีประเภท มีหลักการทํางานอย่างไร มีการต่อวงจรแบบใด ซึ งทําให้
ทราบว่าเซนเซอร์ แบบไหนจะเหมาะต่อการทํางานในสภาพไหนเป็ นต้น
ข้ อเสนอแนะ
      1. ช่วงเวลาทีใช้ในการทําโครงงาน เพราะสมาชิกในกลุ่มต่างมีภาระงานทีต้องรับผิดชอบมาก และการ
            ทีจะหาเวลาสมาชิกในกลุ่มว่าง ตรงกันก็เป็ นการยาก ดังนั%นจึงทําให้โครงงานนี%ได้มีการเริ มทํา
                                      ่
            ค่อนข้างล่าช้า ถึงแม้วาระยะเวลาทีให้ทาโครงงานมีมากก็ตาม
                                                  ํ
      2. การแบ่งงาน เนื องจากการแบ่งงานของสมาชิกในกลุ่ม อาจแบ่งงานไม่เหมาะกับความถนัดของ
            สมาชิกคนนั%นๆ ทําให้งานทีได้ ออกมาไม่ดีเท่าทีควร จึงอาจจะต้องเสี ยเวลามานังแก้งานใหม่
      3. การค้นคว้าข้อมูล ในการทําโครงงานสิ งประดิษฐ์ชิ%นนี% ในขั%นต้น สมาชิกในกลุ่มมีความเห็นพ้อง
กันว่าควรทําเป็ นของจริ งไปเลย แต่พอถึงขั%นปฏิบติงานกลับพบข้อบกพร่ องคือ ของจริ งมีขนาดใหญ่เกินไป
                                                    ั
ซึ งอาจเป็ นเพราะว่า ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งให้ดีเท่าทีควร จึงทําให้แนวคิดนี%ตองล้มเลิกไป
                                                                                                ้

                                                   17
บรรณานุกรม

- ความรู้ เกียวกับโปรแกรม Google sketch up (2552).[ออนไลน์ ].เข้ าถึงได้ จาก :http://sketchup.google.com/
(วันทีค้ นข้ อมูล : 2 พฤศจิกายน 2552 )
- เตียงสองชั น : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2092041
- ไอเดียเตียง : http://www.livingoops.com/featured/loft-bed
- เตียง : http://th.wikipedia.org/wiki/7

More Related Content

What's hot

การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา คำประชา
การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา  คำประชาการวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา  คำประชา
การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา คำประชาkkrunuch
 
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่แผนคอมฯ ม.3 ใหม่
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่Surapong Jakang
 
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตNuunamnoy Singkham
 
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์Nattapon
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาSuraphat Honark
 
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซการออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซCC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเล
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเลโครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเล
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเลThipwaree Tobangpa
 
Ecological Corridor in Thailand
Ecological Corridor in ThailandEcological Corridor in Thailand
Ecological Corridor in ThailandUNDP
 
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ตแผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ตRungdawan Rungrattanachai
 
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์Khunakon Thanatee
 
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลThanawut Rattanadon
 
การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01Apida Runvat
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คtumetr1
 
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานThitaree Permthongchuchai
 
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คtumetr1
 

What's hot (20)

การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา คำประชา
การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา  คำประชาการวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา  คำประชา
การวิจารย์งานศิลปะและศิลปะตะวันออก ครูรัตติยา คำประชา
 
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่แผนคอมฯ ม.3 ใหม่
แผนคอมฯ ม.3 ใหม่
 
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ใบงานหน่วยที่ 1.1 เรื่อง เริ่มต้นกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
 
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนา
 
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซการออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
 
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเล
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเลโครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเล
โครงร่างโครงงาน เรื่อง ขยะทางทะเล
 
1.1 สรุป โครงงานคอมพิวเตอร์
1.1 สรุป โครงงานคอมพิวเตอร์1.1 สรุป โครงงานคอมพิวเตอร์
1.1 สรุป โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Ecological Corridor in Thailand
Ecological Corridor in ThailandEcological Corridor in Thailand
Ecological Corridor in Thailand
 
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ตแผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ต
แผนการจัดการเรียนรู้อินเตอร์เน็ต
 
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูลใบงานที่  1.1  เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ประเภทแหล่งข้อมูล
 
South america
South americaSouth america
South america
 
การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
 
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว  (Motion Graphic)
การสร้างสื่อภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Motion Graphic)
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)
ความรู้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Computing Fundamental)
 
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
 

Similar to โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์

ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jeng
ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jengชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jeng
ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า JengAungkana Na Na
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานNuTty Quiz
 
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริโครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริNuttawat Sawangrat
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3juice1414
 
ใบงานที่+..
ใบงานที่+..ใบงานที่+..
ใบงานที่+..win_apitchaya
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องAriya Soparux
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมWannakan Kkap
 
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯ
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯมาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯ
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯWittawas Kaewpradis
 

Similar to โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์ (20)

คอมมิ้น
คอมมิ้นคอมมิ้น
คอมมิ้น
 
คอมมิ้น
คอมมิ้นคอมมิ้น
คอมมิ้น
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
Projectm6 2-2554 (1)
Projectm6 2-2554 (1)Projectm6 2-2554 (1)
Projectm6 2-2554 (1)
 
เก้าอี้หวงห้าม
เก้าอี้หวงห้ามเก้าอี้หวงห้าม
เก้าอี้หวงห้าม
 
ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jeng
ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jengชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jeng
ชื่อโครงงาน หมวกกระเป๋า Jeng
 
Pranpriya605
Pranpriya605Pranpriya605
Pranpriya605
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริโครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงานที่+..
ใบงานที่+..ใบงานที่+..
ใบงานที่+..
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
 
บทที่ 6new
บทที่ 6newบทที่ 6new
บทที่ 6new
 
บทท 8
บทท   8บทท   8
บทท 8
 
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯ
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯมาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯ
มาตรฐานตัวชี้วัดการงานฯ
 
03
0303
03
 
ใบงาน
ใบงานใบงาน
ใบงาน
 

More from Aungkana Na Na

ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋ง
ใบงาน   แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋งใบงาน   แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋ง
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋งAungkana Na Na
 
โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์Aungkana Na Na
 
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์Aungkana Na Na
 
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์Aungkana Na Na
 
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์Aungkana Na Na
 
โครงงานวิทย์ (งานคอม)
โครงงานวิทย์ (งานคอม)โครงงานวิทย์ (งานคอม)
โครงงานวิทย์ (งานคอม)Aungkana Na Na
 
โครงงานวิทย์ งานคอม
โครงงานวิทย์  งานคอม โครงงานวิทย์  งานคอม
โครงงานวิทย์ งานคอม Aungkana Na Na
 
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงาน
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงานใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงาน
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงานAungkana Na Na
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8Aungkana Na Na
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7Aungkana Na Na
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6Aungkana Na Na
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5Aungkana Na Na
 
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาAungkana Na Na
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3Aungkana Na Na
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2Aungkana Na Na
 
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้Aungkana Na Na
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8Aungkana Na Na
 

More from Aungkana Na Na (20)

ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋ง
ใบงาน   แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋งใบงาน   แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋ง
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ เจ๋ง
 
โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์
 
11
1111
11
 
10
1010
10
 
9
99
9
 
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
 
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์
 
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์
สร้างสรรค์ผลงานจากกระดาษหนังสือพิมพ์
 
โครงงานวิทย์ (งานคอม)
โครงงานวิทย์ (งานคอม)โครงงานวิทย์ (งานคอม)
โครงงานวิทย์ (งานคอม)
 
โครงงานวิทย์ งานคอม
โครงงานวิทย์  งานคอม โครงงานวิทย์  งานคอม
โครงงานวิทย์ งานคอม
 
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงาน
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงานใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงาน
ใบงานที่ 9 เรื่อง ปัญหาและความจำเป็นในการทำโครงงาน
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 7
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี6
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ5
 
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ใบงานที่ 4 พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 

โครงงานออกแบบ เตียงสองชั้นอเนกประสงค์

  • 1. ชือโครงงาน เตียงสองชันอเนกประสงค์ วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดทําโดย นายศิชล ชมภูรัตน์ เลขที 17 นายเกียรติศกดิ บุญเขียว เลขที 23 ั นายธีรนัย จันทร์แก่น เลขที 38 ชั%นมัธยมศึกษาปี ที 6/13 เสนอ ครู เขือนทอง มูลวรรณ ภาคเรียนที 2 ปี การศึกษา 2555 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม
  • 2. 1 บทที 1 : บทนํา ชื อโครงงาน : เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ ครู ทปรึกษาโครงงาน : คุณครู เขือนทอง มูลวรรณ ี ทีมาและความสํ าคัญของ “โครงงานเตียงสองชั นอเนกประสงค์ ” ในปั จจุบน สิ งของเครื องใช้มากมายได้ถูกมนุ ษย์พยายามคิดค้น และประดิษฐ์ข% ึนมาเพือตอบสนอง ั ความต้องการของมนุษย์ โดยดูเหมือนว่าความต้องการนั%นไม่สามารถจํากัดได้ เมือมีสิงหนึงแล้วก็อยากได้ที ดีกว่า สวยกว่ากันทั%งนั%น ซึ งมันก็ถือเป็ นเรื องธรรมชาติของมนุ ษย์ในยุคนี%ไปเสี ยแล้ว จากความต้องการที ไม่ มี ขี ดจํา กัดนี% การสร้ า งสิ งประดิ ษ ฐ์ที มี ป ระโยชน์ ใ ช้ส อยอย่า งหลากหลาย แถมยัง ต้องมี รูป ลัก ษณ์ ที สวยงาม น่าใช้ จึงเป็ นสิ งสําคัญทีจะชักนํา หรื อหันเหความสนใจจากผูบริ โภค หรื อบุคคลทัวไป ้ แต่ถึงอย่างไรนั%น สิ งประดิ ษฐ์ หรื อของใช้ทีถูกนําเสนอออกมาในยุคปั จจุบน ส่ วนมากจะเป็ นการ ั ตอบสนองความต้องการของกลุ่ มคนกลุ่มใหญ่ หรื อองค์กรใหญ่ๆ ทีมี งบประมาณสู ง แต่สําหรับสิ งของ เครื องใช้ทีสามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลทัวไป ในการดําเนิ นชี วิตประจําวันดูเหมือนจะไม่ ค่อยได้รับความสนใจจากนักประดิษฐ์หรื อผูคิดค้นมากนัก ทําให้คนทัวไปมีความสะดวกสบายแต่ก็ไม่เต็มที ้ มากนั ก ทางผู ้จ ัด ทํา ได้ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความสํ า คัญ ของการตอบสนองความต้อ งการของคนในการใช้ ชี วิตประจําวัน มีความสนใจและฉุ กคิดถึ งอุปกรณ์ หรื อสิ งของทีคนธรรมดา สามัญสามารถใช้ได้ และใช้ ประโยชน์อย่างมีประสิ ทธิ ภาพมากทีสุ ด จากการต้องการคิดค้นสิ งของทีจะทําประโยชน์แก่คนทัวไปได้ ผูจดทําได้สังเกตเห็นปั ญหาของคน ้ั ใกล้ชิดรวมถึงปั ญหาของตัวผูจดทําเองว่าทีบ้านมีพ%ืนทีจํากัด สมาชิ กในบ้านอยู่ดวยกันหลายคนโดยเฉพาะ ้ั ้ เด็กในวัยเรี ยนทีมักจะมีขาวของเครื องใช้อุปกรณ์การเรี ยนค่อนข้างมากจึงเป็ นปั ญหาในการจัดเก็บห้องนอน ้ 2 เตียงสองชั%นจึงถือเป็ นอีกทางเลือกหนึ งทีน่าสนใจสําหรับผูทีมีพ%ืนทีห้องนอนค่อนข้างจํากัด และประโยชน์ ้ ใช้สอยมากมายเช่นนี% บวกกับรู ปลักษณ์ทีสวยงามแล้วนั%นหากใครมีไว้ในครอบครองก็คงจะเป็ นทีน่ ายินดี และน่าอิจฉา จุดมุ่งหมายของโครงงานเตียงสองชั นอเนกประสงค์
  • 3. เตียงสองชั%นถื อเป็ นสิ งอํานวยความสะดวกแก่คนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็ นวัยเด็ก วัยรุ่ น หรื อวัยทํางาน เนื องจากมีรูปลักษณ์ ทีทันสมัย สี สันสดใส และมีความแปลกใหม่ สามารถใช้สิงประดิ ษฐ์น% ี ในบ้านหรื อ ห้องนอนทีมีพ%ืนทีจํากัดได้ ซึ งถือว่าช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับดีเลยทีเดียว นิยามศัพท์ เฉพาะ (Definition) โครงงาน “เตียงสองชั นอเนกประสงค์ ” ได้นิยามศัพท์ไว้ว่า เตียงสองชั นในโครงงานนี% ซึงมี ่ ั ความหมายว่า เตียงนอนทีประกอบด้วยเตียง 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึ งอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึ ง อยู่ดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียง ้ ทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาดเท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียง ั ชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไป เตียงชนิ ดนี%จึงเหมาะสําหรับห้องทีมีพ%ืนทีจํากัด เช่ นในหอพัก หรื อ ั ห้องนอนทีมีขนาดแคบ ประโยชน์ ทคาดว่ าจะได้ รับ ี 1. เป็ นแนวทางสําหรับผูทีสนใจการใช้สิงของเครื องใช้ส่วนตัว ซึ งในทีนี% ได้นาเสนอในรู ปแบบ ้ ํ เตียง ซึ งมีรูปลักษณ์อนสวยงาม และมีประโยชน์ใช้สอยทีมากกว่าเตียงธรรมดาทัวไป นันก็คือ ั สามารถนอนได้ 2 ชั%น ชั%นแรกมีโต๊ะเขียนหนังสื อ ตรงบันได้ข% ึนไปชั%นที 2 เป็ นลิ%นชักสามารถ เก็บของได้ ไม่เปลืองเนื%อที และไม่ซ% าใครอีกด้วย ํ 2. ช่วยแก้ปัญหาสําหรับผูทีพื%นทีในบ้านหรื อในห้องนอนมีพ%นทีจํากัด ้ ื 3. ช่วยพัฒนากิจกรรมการเรี ยนการสอนทีเน้นทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิ ทธิ ภาพ มากยิงขึ%น 4. เป็ นแนวทางในการริ เริ มด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์ สําหรับผูทีมีความสนใจ ้ 5. ส่ งเสริ มกระบวนการทํางานเป็ นทีม ซึ งต้องอาศัยทั%งความร่ วมมือ ร่ วมใจ การเสี ยสละ ยอมรับ ฟังความคิดเห็นผูอืน ซึ งสามารถนําไปปรับใช้โดยตรงในการใช้ชีวตประจําวันได้เป็ นอย่างดี ้ ิ 3 บทที 2 : การรวบรวมข้ อมูล ในการดําเนิ นงานโครงงานเทคโนโลยี “เตียงสองชั%นอเนกประสงค์” ผูจดทําได้รวบรวมข้อมูล ้ั หลักการ แนวคิด ทฤษฎีทีเกียวข้องจากเอกสาร ตํารา บทความ สื บค้นผ่านอินเตอร์ เน็ต ซึ งประกอบด้วย
  • 4. 1.หลักสู ตรการศึกษาขึ%นพื%นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการงานอาชี พและเทคโนโลยี ช่วงชั%นที 4 (ม.4-6) สาระการออกแบบและเทคโนโลยี 2.หลักการออกแบบเตียงสองชั%น 3.ความรู ้เกียวกับอุปกรณ์ในการทําเตียง 4.ข้อมูลอืนๆทีเกียวข้อง การรวบรวมข้ อมูลโครงงาน “เตียงสองชั นอเนกประสงค์ ” 1. หลักสู ตรการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการงานอาชี พและเทคโนโลยี ช่ วงชั นที 4 (ม.4-6) สาระการออกแบบและเทคโนโลยี 1.1 สาระการออกแบบและเทคโนโลยี มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ งของเครื องใช้ หรื อวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อ ชีวต สังคม สิ งแวดล้อม และมีส่วนร่ วมในการจัดการเทคโนโลยีทียังยืน ิ 1.2 ตัวชี วัด ั 1. อธิ บายและเชือมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกบศาสตร์ อืนๆ 2. วิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี 3. สร้ า งและพัฒ นาสิ งของเครื องใช้หรื อ วิธี ก ารตามกระบวนการเทคโนโลยีอ ย่า งปลอดภัย โดย ถ่ายทอดความคิดเป็ นภายฉายและแบบจําลองเพือนําไปสู่ การสร้ างชิ% นงาน หรื อถ่ายทอดความคิด ของวิธีการเป็ นแบบจําลองความคิดและการรายงานผลโดยใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการออกแบบหรื อ นําเสนอผลงาน 4. มีความคิ ดสร้ างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการในงานทีผลิ ตเอง หรื อการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ทีผูอืนผลิต ้ 5. วิเคราะห์และเลื อกใช้เทคโนโลยีทีเหมาะสมกับชี วิตประจําวันอย่างสร้างสรรค์ต่อชี วิต สังคม และ สิ งแวดล้อม และมีการจัดการเทคโนโลยีทียังยืนด้วยวิธีการของเทคโนโลยีสะอาด 4 1.3 สาระการเรียนรู้ แกนกลาง ั 1. เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กบศาสตร์ อืนๆโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ 2. ระบบเทคโนโลยี ประกอบด้วย ตัวป้ อน (Input) กระบวนการ (Process) ผลลัพธ์ (Output) ทรัพยากร ทางเทคโนโลยี (Resources) ปั จจัยทีเอื%อหรื อขัดขวางต่อเทคโนโลยี (Consideration)
  • 5. 3. การวิเคราะห์ระบบเทคโนโลยีทาให้ทราบเกี ยวกับปั จจัยในด้านต่างๆทีมีผลต่อการแก้ปัญหาหรื อ ํ สนองความต้องการ 4. การสร้ างสิ งของเครื องใช้หรื อวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี ทําให้ผูเ้ รี ยนทํางานอย่างเป็ น ระบบ สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้ง่าย 5. การสร้างและพัฒนาสิ งของเครื องใช้หรื อวิธีการต้องอาศัยความรู ้ทีเกี ยวข้องอืนอีก เช่น กลไกและ การควบคุมไฟฟ้ า-อิเล็กทรอนิกส์ 6. การใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการออกแบบหรื อนําเสนอผลงาน มีประโยชน์ในการช่วยร่ างภาพ ทําภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ 7. การพัฒนาสิ งของเครื องใช้ตองคํานึงถึง หลักการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เบื%องต้น ้ 8. หลักการวิเคราะห์ผลิ ตภัณฑ์เบื%องต้นเป็ นการวิเคราะห์จุดมุ่งหมายของการออกแบบ ประกอบด้วย ชิ%นงานนี% ใช้ทาอะไร ทําไมถึงต้องมีชิ%นงานนี% ใครเป็ นผูใช้ ใช้ทีไหน เมือไหร่ จึงใช้ วิธีการทีทําให้ ํ ้ ชิ%นงานนี%ทางานได้ ตามวัตถุประสงค์ทีกําหนดไว้ ํ 9. ภาพฉาย เป็ นภาพแสดงรายละเอียดของชิ%นงาน ประกอบด้วย ภาพด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน แสดง ขนาดและหน่วยวัด เพือนําไปสร้างชิ%นงาน 10. ความคิ ดสร้ างสรรค์ มี 4 ลักษณะ ประกอบด้วย ความคิดริ เริ ม ความคล่ องแคล่ วในการคิด ความ ่ ยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ 11. ความคิดริ เริ ม จะเป็ นลักษณะความคิดทีแปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดเดิม 12. ความคิดแปลกใหม่ทีได้ ต้องไม่ละเมิดความคิดผูอืน ้ 13. ความคิดแปลกใหม่เป็ นการสร้างนวัตกรรมทีเป็ นส่ วนหนึงของทรัพย์สินทางปั ญญา 14. การวิเคราะห์ผลดี ผลเสี ย การประเมินและการตัดสิ นใจเพือเลือกใช้เทคโนโลยีทีเหมาะสม 15. การเลือกใช้สิงของเครื องใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยการเลือกสิ งของเครื องใช้ทีเป็ นมิตรกับชี วิต สังคม และสิ งแวดล้อม 16. เทคโนโลยีสะอาดเป็ นเครื องมือทีใช้ในการจัดการใช้เทคโนโลยีเพือมุ่งสู่ การพัฒนาอย่างยังยืนชนิ ด หนึง 5 2. หลักการออกแบบ เตียงสองชั นอเนกประสงค์ เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ี นี%มีรูปร่ าง ลักษณะทีคล้ายกับเตียงสองชั%นธรรมดาทีประกอบด้วยเตียง ่ ั ่ ้ 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยูดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและ ชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาด
  • 6. เท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไปแต่ ั ั เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ทีผูจดทําออกแบบมานั%นจะมีความแตกต่างจากเตียงสองชั%นธรรมดาตรงทีบันได ้ั ขึ%นไปชั%น2นั%นจะดัดแปลงมาจากลิ%นชักจึงสามารถเก็บสิ งของเครื องใช้ได้และข้างๆเตียงชั%นแรกจะมีโต๊ะไว้ เขียนหนังสื อหรื ออ่านหนังสื อ 3.ความรู้ เกียวกับโปรแกรม Google sketch up Google SketchUp เป็ นซอฟท์แวร์ สร้างโมเดล 3มิติทีมีเครื องมือพื%นฐานต่างๆเพียงพอกับการใช้งาน ของผูใช้ระดับพื%นๆทัวๆไป ทีต้องการจะสร้างแบบ 3มิติของโต๊ะ, เก้าอี%, ตู,้ เครื องใช้ในบ้านต่างๆ หรื อจะใช้ ้ สร้างแบบในการต่อเติมบ้าน และงานไม้ต่างๆก็ได้ ซึ งก็จะมีรูปแบบของ texture แบบต่างๆให้เลือกใช้ได้ ครบ แต่ถาต้องการจะนําไปสร้างโมเดลการ์ ตูนเอนิเมชันต่างๆก็คงไม่พอ นอกจากจะใช้เริ มหัดพื%นฐานสร้าง ้ โมเดลต่างๆก็พอได้ Sketchup ถูกพัฒนาขึ%นโดยบริ ษท @Last ในปี ค.ศ.1999 ซึ งมีเป้ าหมายทีจะ ั - พัฒนาโปรแกรมออกแบบ Model 3 มิติ โดยมี Interface ทีเรี ยบง่ายและใช้งานสะดวก - ให้ผใช้งานสนุกกับการสร้างและออกแบบ ู้ - ทําให้ผออกแบบมีลูกเล่นในส่ วนของงานออกแบบและนําเสนอ โดยทีโปรแกรมอืนๆ ไม่สามารถทําได้ ู้ ต่อมา บริ ษท Google ได้เข้าซื%อบริ ษท @Last ตอนต้นปี 2006 ทําให้กลายเป็ นเวอร์ ชนใหม่คือ “Google ั ั ั Sketchup” 6 ฟังก์ชนทีน่าสนใจของ Google SketchUp คือสามารถเข้าไปค้นหาโมเดล 3มิติจากฐานข้อมูลของ Google ั หรื อจะโหลดไปเก็บไว้ดวยก็ได้ และถ้าใช้งานจนคล่องจะสร้างโมเดลของสถานทีสําคัญๆ แล้วเอาไปใส่ ใน ้ Google Earth ด้วยก็ได้ จาก http://sketchup.google.com/
  • 7. 4. ข้ อมูลความรู้ เกียวกับเตียง เรืองสํ าคัญเกียวกับรู ปทรงของเตียง เตียง คือทีสําหรับนอนหรื อตั%งสิ งของ มีขา 4 ขา รู ปสี เหลียมผืนผ้าหรื อคือเครื องเรื อนประเภทหนึ งซึ ง นิยมนําไปไว้ในห้องนอน โดยประโยชน์ใช้สอยหลักคือเป็ นทีรองรับสรี ระของมนุ ษย์ขณะพักผ่อนหรื อนอน หลับ ลักษณะโดยทัวไปจะเป็ นรู ปสี เหลียมผืนผ้ามีขนาดกว้างยาวแตกต่างกันไป หรื ออาจมีรูปทรงอืนๆ โดย เตียงนั%นอาจประกอบด้วยส่ วนทีเป็ นฐานด้านล่างและส่ วนทีเป็ นฟูกด้านบนหรื ออาจไม่มีฟูกรองรับด้านบนก็ ได้ ซึ งเตียงบางประเภท อาจมีส่วนทีเป็ นหัวเตียงอยูดวย โดยหัวเตียงก็คือส่ วนทียืนสู งขึ%นไปด้านบนและมัก ่ ้ ่ อยูทางด้านแคบของเตียงด้านใดด้านหนึ ง มีท% งแบบเรี ยบง่ายไปจนกระทังมีทีสําหรับวางของ ตู ้ ลิ%นชัก และ ั โคมไฟบนหัวเตียงด้วย หรื อเตี ยงบางประเภทอาจมีเสายืนขึ%นไปด้านบนทั%ง 4 มุ ม เพือใช้ประดับผ้าม่าน ่ ้ นอกจากนี% เตียงบางประเภทยังมีตูหรื อลิ%นชักอยูดานล่างเตียงเพือใช้เก็บของได้อีกด้วย ซึ งลักษณะของเตียง ้ นั%นอาจแตกต่างกันไปตามการออกแบบโดยปกติแล้ว เตี ยงมักใช้ควบคู่กบเครื องนอนชนิ ดอืนเช่ นหมอน ั หมอนข้าง ผ้าห่ ม ผ้าปูเตียง รวมทั%งผ้าคลุมเตียงซึ งใช้คลุมทับเครื องนอนอืนๆอีกทีหนึ ง สําหรับวัสดุทีใช้ทา ํ ส่ วนทีเป็ นฐานเตียงนั%นจะแตกต่างกันไปตามการออกแบบ เช่ น โลหะ ไม้ ไม้อด หรื ออาจนําฟูกมาวางเป็ น ั ฐานก็ได้นอกจากเตียง ประเภทของเตียง ประเภทของเตียงนั%นจะถูกแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ๆก็คือ เตียงเดียวและเตียงคู่ ซึ งขนาดของเตียง ทั%งสองประเภทนี% จะมีความแตกต่างกันตามความเหมาะสม โดยเตียงเดียวก็คือเตียงทีมีขนาดพอเหมาะ สําหรับการนอนคนเดียวขนาดจึงแคบกว่าเตียงคู่ สําหรับเตียงคู่น% นสามารถนอนได้ประมาณ 2 คน จึงมีขนาด ั กว้างและยาวกว่าเตียงเดียว นอกจากนี%ยงมีเตียงอีกประเภทหนึงก็คือเตียง 2 ชั%น ซึ งมีลกษณะแตกต่างจาก ั ั เตียงทัวไปคือ จะประกอบด้วยเตียง 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยู่ ่ ั ด้านบน ระยะห่างระหว่างเตียงชั%นบนและชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมา ประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาดเท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%น ั บนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไป เตียงชนิดนี%จึงเหมาะสําหรับห้องทีมีพ%ืนทีจํากัด เช่นในหอพัก หรื อ ั ห้องนอนทีมีขนาดแคบ 7 ส่ วนประกอบของเตียงนอน - ส่ วนทีเป็ นขดลวดหรื อสปริ งเป็ นส่ วนทีรองรับนํ%าหนักของร่ างกายโดยเฉพาะกระดูกสันหลัง ควรจะ มีปริ มาณขดลวดให้มากพอทีจะรับนํ%าหนักของร่ างกาย หากขดลวดน้อยเกินไปจะทําให้เตียงยุบเมือเวลาเรา ่ นอนทําให้กระดูกอยูในแนวทีไม่ถูกต้อง อันเป็ นสาเหตุของโรคปวดหลัง
  • 8. - ส่ วนทีเป็ นเบาะนุ่มยิงหนายิงดี แต่บางครั%งหากส่ วนเบาะแข็งเกินไปอาจจะทําให้เกิดอาการปวด บริ เวณทีกดทับโดยเฉพาะผูทีมีการอักเสบของข้อสะโพก หรื อข้อไหล่ ้ 8 บทที 3 การเลือกวิธีการ/กรอบแนวคิดในการดําเนินงาน ในการจัดทําโครงงาน “เตียงสองชั%นอเนกประสงค์” ผูจดทําได้มีกรอบแนวคิดหรื อขั%นตอนในการ ้ั ดําเนินงานดังนี%
  • 9. 1.กําหนดปั ญหาหรื อ 1.สํารวจปั ญหาหรื อความต้องการของ คิดงานเดียว ความต้องการ (การ ตนเองโดยสังเกตและศึกษาข้อมูลจาก - โต๊ะเก้าอี% เลือกหัวข้อโครงงาน) สถานการณ์รอบตัวหรื อชุมชน เพือ - ลําโพงขวดนํ%า ศึกษาปั ญหาหรื อ ศึกษาปั ญหาหรื อ - ปลักชาร์ ตแบตอเนก r ความต้องการทีน่าสนใจ ประสงค์ 2.ตัดสิ นใจแล้วว่าจะแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการทีกลุ่มสนใจทีสุ ด คิดเป็ นงานกลุ่ม “เตียงสองชั%นอเนก ประสงค์” 2. รวบรวมข้อมูล นําความรู ้ทีได้มาเป็ นข้อมูลสนับสนุนในการ ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาหรื อสนองความ ต้องการเพือเป็ นทาวเลือกในการออกแบบ 3. เลือกวิธีการ ออกแบบด้วย Software1 : Photo scape Software2 : Google sketch up นําข้อมูลทีสื บค้นได้มาทําการวิเคราะห์และ สรุ ปเป็ นองค์ความรู ้สาหรับการทําโครงงาน ํ การนําเสนอหน้าชั%น คุณครู กระตุน ส่งเสริ ม และให้คาปรึ กษาในการพิจารณาเลือกวิธีการหรื อ ้ ํ แนวทางแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการทีเหมาะสม และสามารถทําได้ใน ข้อจํากัดทีมีอยู่ ออกแบบด้วย Software 3 : Photo scape Software 4 : Google sketch up 9 4. การลงมือปฏิบติ ั ลงมือสร้างตามแนวทางทีออกแบบไว้ โดยผลงานอาจเป็ นชิ%นหรื อวิธรการ ขณะลงมือ สร้างควรปรึ กษาหารื อกับเพือนในกลุ่มหรื อครู เป็ นระยะ เพือแลกเปลียนเรี ยนรู ้
  • 10. ปฏิบติการสร้างแบบจําลอง ั 5. ทดสอบ / ปรับปรุ ง/ แก้ไข / ขั%นประเมินผล นําชิ%นงานหรื อวิธีการไปทดสอบแก้ไขปั ญหาหรื อสนองความต้องการ ปรับปรุ งแก้ไขชิ%นงานหรื อวิธีการ กรณี ชิ%นงานหรื อวิธีการดังกล่าว สามรถแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการได้ไม่ดีตามทีออกแบบไว้ และ ประเมินผลการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการ 6. การนําเสนอผลงาน 1. ศึกษาวิธีการทีหลากหลาย 2. เลือกวิธีการนําเสนอทีเหมาะสม 3. เตรี ยมการนําเสนอผลงาน 10 บทที 4 ผลการปฏิบัตการโครงงาน ิ
  • 11. ผลการปฏิบติโครงงาน เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ผจดทําได้ดาเนิ นการตามกระบวนการเทคโนโลยี ั ู้ ั ํ 7 ขั%นตอน ของ สสวท. ดังนี% ขันที 1 การกําหนดปัญหา และความต้ องการ (Identification the problem, need or preference) เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ีออกแบบขึ%นมาสําหรับผูทีมีพ%ืนทีภายในบ้านหรื อพื%นทีภายในห้องนอน ้ ่ ้ ้ ่ จํากัดและสมาชิกในบ้านอยูดวยกันหลายคนหรื อผูทีอยูหอพัก ผูจดทําได้เห็นถึงปั ญหาดังกล่าวจึงได้ ้ั ออกแบบโครงงานเตียงสองชั%นอเนกประสงค์ข% ึน ขันที 2 รวบรวมข้ อมูลเพือแสวงหาวิธีการแก้ ปัญหาหรือสนองความต้ องการ (Information) เมือกําหนดปั ญหาหรื อความต้องการเรี ยบร้อยแล้ว ทางคณะผูจดทําได้ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลและ ้ั ํ ความรู ้ทุกด้านทีเกียวข้องกับปั ญหาหรื อความต้องการดังกล่าว เพือหาวิธีการทีเหมาะสมสําหรับแก้ปัญหา หรื อสนองความต้องการทีกําหนดไว้ ได้แก่ 1. สื บค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ทีเกียวข้อง 2. ทําการพิจารณาเลือกข้อมูลทีมีความน่าสนใจและเป็ นประโยชน์ต่อการจัดทําโครงงาน ขันที 3 เลือกวิธีการแก้ ปัญหาหรือสนองความต้ องการ (Selection of the best possible solution) ในการตัดสิ นใจเลือกแนวคิดทีดีทีสุ ดสําหรับแก้ปัญหา ผูจดทําได้นาข้อมูล และความรู ้ทีรวบรวมได้ มา ้ั ํ ประกอบกันจนได้ขอสรุ ปว่า จะเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรื อวิธีการสนองความต้องการคือ จัดทําเตียงสองชั%น ซึ งตั%ง ้ จุดมุ่งหมาย ให้ผลิตภัณฑ์ทีได้สามารถตอบสนองความต้องการของผูใช้ได้หลายๆ ด้าน ได้แก่ สามารถนอนได้ 2 ้ ชั%น ชั%นละ1 คน สามารถใช้ได้ในห้องทีมีพ%ืนทีจํากัดได้ สอดคล้องกับทรัพยากรทีหาได้ง่าย จึงเป็ นปั จจัยส่ งเสริ ม ใน การตัดสิ นใจเลือกสิ งดังกล่าว ขันที 4 ออกแบบและปฏิบัติการ (Design and making) โดยใช้ กระบวนการ PDCA ของ Deming ดังนี 1. ออกแบบและวางแผนการทํา โดยแบ่งหน้าทีแก้สมาชิกในกลุ่มให้รับผิดชอบส่ วนต่างๆ ทีตนเอง ถนัดและสามารถทําได้ 11 2. จัดเตรี ยมอุปกรณ์ทีจําเป็ นต้องใช้ให้ครบถ้วน
  • 12. 3. ร่ างแบบลงบนกระดาษทีจัดเตรี ยมเอาไว้ ให้เป็ นส่ วนต่างๆ ของเตียง 4. ตัดกระดาษตามแบบร่ าง 12 5. ประกอบให้เป็ นชิ%นส่ วนต่างๆของเตียง
  • 13. 6. เช็คความเรี ยบร้อยของผลงาน ่ 7. ประเมินผลการใช้งานของผลิตภัณฑ์วาสามารถตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาตาม จุดประสงค์ทีวางไว้หรื อไม่ 13 ขันที 5 ทดสอบ (Testing to see if it works)
  • 14. เมือนําสิ งประดิษฐ์มาทดลองใช้ พบว่า สามารถใช้ได้จริ งตามเป้ ามายทีวางไว้ รวมถึงสามารถเก็บ ของเล็กๆน้อยๆเพือไม่ให้เกะกะได้ แต่พบปั ญหาคือเตียงมีขนาดใหญ่ ทางผูจดทําจึงไม่สามารถทําให้เป็ น ้ั ของจริ งได้จึงใช้วธีการทําเป็ นโมเดลแทน ิ ขันที 6 การปรับปรุ งแก้ ไข (Modification and improvement) หลังจากการทดสอบผลแล้วพบว่า สิ งประดิษฐ์ทีสร้างขึ%น มีขอบกพร่ อง คือ ไม่สามารถทําเป็ นของ ้ จริ งได้เนืองจากมีขนาดใหญ่เกินไป ดังนั%น จึงทําการปรับปรุ งแก้ไข โดยทําเป็ นโมเดลหรื อแบบจําลองแทน แต่อย่างไรก็ตาม แบบจําลองเตียงสองชั%นทีสร้างขึ%นนี% ก็ยงเป็ น เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ ทีสามารถใช้งาน ั ได้สะดวกและประหยัดเนื%อที เหมือนดังเดิม ขันที 7 ประเมินผล (Assessment) หลังจากปรับปรุ งแก้ไขจนใช้งานได้ดีตามวิธีการทีออกแบบแล้ว ผูจดทําได้นาผลงานมาประเมินผลโดย ้ั ํ พิจารณาดังนี% - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ สามารถแก้ปัญหาและสนองความต้องการตรงตามเป้ าหมายทีวาง ไว้ขางต้น ้ - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ มีความสวยงาม และดึงดูดใจผูใช้เป็ นอย่างดี ้ - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ นั%นมีความทนทาน สะดวกต่อการใช้งาน - เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ มีตนทุนทีไม่สูงมากนัก และให้ประโยชน์สูงสุ ดในการใช้ จึงถือว่า ้ เป็ นผลิตภัณฑ์ทีเหมาะสมต่อการใช้งาน และตอบสนองความต้องการแก่ผใช้ได้เป็ นอย่างดี ู้ 14
  • 15. บทที 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้ อเสนอแนะ สรุ ปผลการดําเนินการ จากการริ เริ มทํา โครงงานสิ งประดิ ษ ฐ์ คื อ เตี ย งสองชั%นอเนกประสงค์ ได้มี ก ารเริ มจากการคิ ด โครงงานเดียวของสมาชิ กในกลุ่ม ซึ งสมาชิ กแต่ละคนก็ต่างแยกย้ายกันไปคิดโครงงานสิ งประดิษฐ์ของตน ซึ งโครงงานสิ งประดิษฐ์ท% ง 3 เรื องประกอบด้วย โครงงานเรื อง โต๊ะเก้าอี% ทีชาร์ ตแบตเอนกประสงค์ และ ั ลําโพงขวดนํ%า จากนั%นก็นกรวมกลุ่มสมาชิ กเพือมาปรึ กษาเรื องการเลื อกทําโครงงาน โดยเลื อกโครงงาน ั สิ งประดิษฐ์จาก 3 เรื องดังกล่าว เมือได้ปรึ กษากันเกียวกับข้อดี ขอเสี ยของสิ งประดิษฐ์ของสมาชิ กแต่ก็ได้ ้ ข้อสรุ ปว่า จะประดิษฐ์โครงงานสิ งประดิษฐ์เรื องอืนขึ%นใหม่ โดยช่วยกันระดมความคิดภายในกลุ่ม ซึ งต้อง เริ มใหม่ ต% ง แต่ก ารกํา หนดปั ญหาและความต้องการ สื บ เนื องมาจากผูจดทํา ได้สังเกตเห็ นปั ญหาของคน ั ้ั ใกล้ชิดรวมถึงปั ญหาของตัวผูจดทําเองว่าทีบ้านมีพ%ืนทีจํากัด สมาชิ กในบ้านอยู่ดวยกันหลายคนโดยเฉพาะ ้ั ้ เด็กในวัยเรี ยนทีมักจะมีขาวของเครื องใช้อุปกรณ์การเรี ยนค่อนข้างมากจึงเป็ นปั ญหาในการจัดเก็บห้องนอน ้ เตียงสองชั%นจึงถือเป็ นอีกทางเลือกหนึงทีน่าสนใจสําหรับผูทีมีพ%นทีห้องนอนค่อนข้างจํากัด ้ ื เตียงสองชั%นอเนกประสงค์น% ี นี%มีรูปร่ าง ลักษณะทีคล้ายกับเตียงสองชั%นธรรมดาทีประกอบด้วยเตียง ่ ั ่ ้ 2 เตียงซ้อนกัน โดยมีเตียงเตียงหนึงอยูช% นล่าง และอีกเตียงหนึงอยูดานบน ระยะห่ างระหว่างเตียงชั%นบนและ ชั%นล่างจะมีความสู งในขนาดทีพอเหมาะ และขนาดของเตียงทีมาประกอบเป็ นเตียง 2 ชั%นนั%น จะมีขนาด เท่าๆกับเตียงเดียว คือนอนได้ช% นละ 1 คน เมือต้องการนอนเตียงชั%นบนจะต้องใช้บนไดในการปี นขึ%นไปแต่ ั ั เตียงสองชั%นอเนกประสงค์ทีผูจดทําออกแบบมานั%นจะมีความแตกต่างจากเตียงสองชั%นธรรมดาตรงทีบันได ้ั ขึ%นไปชั%น2นั%นจะดัดแปลงมาจากลิ%นชักจึงสามารถเก็บสิ งของเครื องใช้ได้และข้างๆเตียงชั%นแรกจะมีโต๊ะไว้ เขียนหนังสื อหรื ออ่านหนังสื อ สเกต รู ปแบบของเตียงโดยใช้การวาดภาพด้วยดินสอแล้วจากนั%นก็นารู ปแบบของเตียงมาออกแบบ ํ โดยใช้ซอฟต์แวร์ ในทีนี%สมาชิกกลุ่มเลือกทีจะออกแบบโดยใช้ โปรแกรมGoogle sketch up รวมถึงใช้ โปรแกรมเสริ ม คือ Photo scape มาใช้ในการตกแต่ง ซึ งรู ปแบบของเตียงทีจะนํามาทําโครงงานสิ งประดิษฐ์ คือ ลักษณะของเตียงสองชั%น ซึ งลักษณะของเตียงแบบนี%สามารถใช้ได้ในห้องทีมีพ%นทีจํากัด ซึ งเมือออกแบบ ื คร่ าวๆรวมถึงเขียน โครงงาน โดยใช้หลักการ 5W1H เสร็ จแล้ว ก็นาโครงงานไปนําเสนอหน้าชั%นเรี ยน และ ํ ได้นาโครงงานมาปรับปรุ งแก้ไขเพิมเติม โดยการนําไปออกแบบด้วยซอฟต์แวร์ อีกครั%งเพือให้ชิ%นงานมีความ ํ สมบูรณ์ข% ึนกว่าเดิม ขั%นตอนของการลงมือปฏิบติงาน โดยทําตามลักษณะทีได้ออกแบบไว้ เมือทําสิ งประดิษฐ์เสร็ จแล้ว ั ได้นามา ทดสอบการทํางานซึ งพบว่า ถึงแม้เตียงสองชั%นนี%จะเป็ นแค่เพียงแบบจําลองไม่ใช่ของจริ งแต่ก็มี ํ ความคงทน และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่นกัน 15
  • 16. การประเมินผลโครงงานโดยการทําใบประเมินผลโดยให้ผปกครอง และเพือนๆเป็ นผูประเมิน แล้วนําผลที ู้ ้ ่ ได้มาทําเป็ นกราฟรู ปแท่ง ซึ งผลทีออกมาก็อยูในเกณฑ์ดี อภิปรายผล จากการทําโครงงานชิ%นนี%ทาให้ผจดทําได้รับความรู ้มากมาย ซึ งเริ มตั%งแต่ข% นตอนแรกในการ ํ ู้ ั ั ออกแบบผลิตภัณฑ์ คือต้องอาศัยหลักการ 5W1H เพือวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทีจะออกแบบ ว่าในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์น% นสิ งแรกทีจะต้องคํานึงคือ ต้องการสนองความต้องการอะไร(What ), จะต้องสนองความ ั ต้องการทีไหน(where), จะต้องสนองความต้องการเมือไร (when),ทําไมจึงต้องสนองความต้องการ(Why) และต้องสนองความต้องการอย่างไร (How) หลักการทั%งหมดนี%ใช้เพือหาปั จจัยทีจะนํามาพิจารณาในการ ออกแบบ ซึ งสิ งนี%คณะผูจดทําเห็นว่าจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น ้ั ซึ งในระหว่างการทําจัดทําโครงงานสิ งประดิษฐ์น% ี คณะผูจดทําได้รับความรู ้เกียว กระบวนการเทคโนโลยี7 ้ั ขั%นตอน ของ สสวท.และได้นามาเป็ นแนวทางในการดําเนินงาน ซึ งทั%ง 7 ขั%นตอนนี%ประกอบไปด้วย ตั%งแต่ ํ การกําหนดปั ญหาและความต้องการ(Identification the problem, need or preference),รวบรวมข้อมูลเพือ แสวงหาวิธีการแก้ปัญหาหรื อสนองความต้องการ (Information),เลือกวิธีการแก้ปัญหาหรื อสนองความ ต้องการ (Selection of the best possible solution),ออกแบบและปฏิบติการ (Design and making) ,ทดสอบ ั (Testing to see if it works),การปรับปรุ งแก้ไข (Modification and improvement)และขั%นตอนสุ ดท้ายคือการ ปรับปรุ งแก้ไข (Modification and improvement) กระบวนการทั%ง 7 ขั%นตอนนี%การดําเนินงานเป็ นไปอย่างมี ขั%นตอน เป็ นระเบียบแบบแผน ซึ งภายในกระบวนการ 7 ขั%นตอนนี% คณะผูจดทํายังได้รับความรู ้เกียวกับเรื อง ของ หลักการ ้ั PDCA ของDeming หลักการ PDCA คือ วงจรพัฒนาคุณภาพงาน เป็ นวงจรพัฒนาพื%นฐานหลักของการ พัฒนาคุณภาพทั%งระบบ (Total Quality Management: TQM) ผูทีคิดค้นกระบวนการหรื อวงจรพัฒนาคุณภาพ ้ ั PDCA คือ Shewhart นักวิทยาศาสตร์ ชาวอเมริ กน แต่ Deming ได้นาไปเผยแพร่ ทีประเทศญีปุ่ นจนประสบ ํ ความสําเร็ จ จนผลักดันให้ญีปุ่ นเป็ นประเทศมหาอํานาจของโลก คนทัวไปจึงรู ้จกวงจร PDCA จากการ ั เผยแพร่ ของ Deming จึงเรี ยกว่า “วงจร Deming” วงจร PDCA ประกอบด้วยขั%นตอนดังต่อไปนี% 1. วางแผน (Plan – P) คือ การทํางานใด ๆ ต้องมีข% นการวางแผน เพราะทําให้มีความ ั มันใจว่าทํางานได้สาเร็ จ เช่น วางแผนการสอน วางแผนการวิจย หัวข้อทีใช้ในการวางแผน คือ วางแผนใน ํ ั หัวข้อต่อไปนี% 1) ทําทําไม 2) ทําอะไร 3) ใครทํา ทํากับกลุ่มเป้ าหมายใด 4) ทําเวลาใด 5) ทําทีไหน 6) ทํา อย่างไร 7) ใช้งบประมาณเท่าไร การวางแผนวิจยในชั%นเรี ยนเป็ นการวางแผนตามคําถามต่อไปนี% why what ั และ how 2. การปฏิบติ (Do – D) เป็ นขั%นของการลงมือปฏิบติตามแผนทีวางไว้ การปฏิบติวจยใน ั ั ั ิั ชั%นเรี ยนตามแผนการวิจย คือ การลงมือเก็บรวบรวมข้อมูลเพือตอบปั ญหาการวิจยทีตั%งไว้ในแผน ั ั 16
  • 17. 3. ตรวจสอบ (Check – C) เป็ นขั%นของการประเมินการทํางานว่าเป็ นไปตามแผนทีวางไว้ หรื อไม่ มีเรื องอะไรปฏิบติได้ตามแผน มีเรื องอะไรทีไม่สามารถปฏิบติได้ตามแผน หรื อปฏิบติแล้วไม่ได้ผล ั ั ั การตรวจสอบนี%จะได้สิงทีสําเร็ จตามแผน และสิ งทีเป็ นข้อบกพร่ องทีต้องแก้ไข 4. การปรับปรุ งแก้ไข (Action – A) เป็ นขั%นของการนําข้อบกพร่ องมาวางแผนเพือการ ปฏิบติการแก้ไขข้อบกพร่ อง แล้วลงมือแก้ไข ซึ งในขั%นนี%อาจพบว่าประสบความสําเร็ จ หรื ออาจพบว่ามี ั ข้อบกพร่ องอีก ผูวจยหรื อผูทางานก็ตองตรวจสอบเนื%อหาเพือแก้ไข แล้วนําไปแก้ไขอีกต่อไป งานของการ ้ิั ้ ํ ้ วิจยในชั%นเรี ยนจึงเป็ นการทําไปเรื อย ๆ ไม่มีวนหยุด การทําวิจยไปเรื อย ๆ เป็ นการพัฒนาให้ดีข% ึนเรื อย ๆ ั ั ั เป็ นการพัฒนาอย่างยังยืน ซึ งได้นามาใช้ในการดําเนินการด้วยเช่นกัน ํ ่ หลักการทําโครงงานทั%งหมดนี% ไม่วาจะเป็ น 5W1H, กระบวนการเทคโนโลยี 7 ขั%นตอน และ กระบวนการ PDCA ของDeming ทําให้การทําโครงงานชิ%นเป็ นไปอย่างเป็ นขั%นตอน มีหลักการทํางานทีมี ประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น โดยเฉพาะการได้รับความรู ้จากใบงานต่างๆในวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ทําให้ คณะผูจดทํามีแนวทางในการเขียน และจัดทําโครงงานทีถูกต้อง เป็ นแบบแผน และมีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ%น ้ั นอกจากนี%คณะผูจดทํายังได้รับองค์ความรู ้ใหม่ๆอีกหลายอย่าง เช่น การใช้โปรแกรม Google ้ั sketch up เพราะว่าสมาชิกในกลุ่มไม่เคยมีใครได้เคยใช้โปรแกรมดังกล่าวเลย ดังนั%นทุกคนจึงต้องช่วยกัน ศึกษา ขั%นตอนวิธีการใช้โปรแกรม Google sketch up จนในทีสุ ดก็สามารถใช้โปรแกรมนี%มาออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการ ซึ งโปรแกรม Google sketch up สามารถใช้งานได้มากกว่าการสเกตภาพธรรมดา คือสามารถเพิมเติมสี สันได้ตามทีต้องการ รวมถึง การมองภาพในมุมมองต่างๆ ในรู ปแบบของภาพ 3 มิติ ทําให้ชิ%นงานทีออกแบบนี% มีลกษณะใกล้เคียงกับของ ั จริ งมากขึ%น และในระหว่างการค้นคว้าข้อมูลเพือนํามาประกอบในโครงงาน ทําให้คณะผูจดทําได้ทราบ ้ั ข้อมูลเกียวกับเซนเซอร์ มากขึ%น ว่ามีกีประเภท มีหลักการทํางานอย่างไร มีการต่อวงจรแบบใด ซึ งทําให้ ทราบว่าเซนเซอร์ แบบไหนจะเหมาะต่อการทํางานในสภาพไหนเป็ นต้น ข้ อเสนอแนะ 1. ช่วงเวลาทีใช้ในการทําโครงงาน เพราะสมาชิกในกลุ่มต่างมีภาระงานทีต้องรับผิดชอบมาก และการ ทีจะหาเวลาสมาชิกในกลุ่มว่าง ตรงกันก็เป็ นการยาก ดังนั%นจึงทําให้โครงงานนี%ได้มีการเริ มทํา ่ ค่อนข้างล่าช้า ถึงแม้วาระยะเวลาทีให้ทาโครงงานมีมากก็ตาม ํ 2. การแบ่งงาน เนื องจากการแบ่งงานของสมาชิกในกลุ่ม อาจแบ่งงานไม่เหมาะกับความถนัดของ สมาชิกคนนั%นๆ ทําให้งานทีได้ ออกมาไม่ดีเท่าทีควร จึงอาจจะต้องเสี ยเวลามานังแก้งานใหม่ 3. การค้นคว้าข้อมูล ในการทําโครงงานสิ งประดิษฐ์ชิ%นนี% ในขั%นต้น สมาชิกในกลุ่มมีความเห็นพ้อง กันว่าควรทําเป็ นของจริ งไปเลย แต่พอถึงขั%นปฏิบติงานกลับพบข้อบกพร่ องคือ ของจริ งมีขนาดใหญ่เกินไป ั ซึ งอาจเป็ นเพราะว่า ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งให้ดีเท่าทีควร จึงทําให้แนวคิดนี%ตองล้มเลิกไป ้ 17
  • 18. บรรณานุกรม - ความรู้ เกียวกับโปรแกรม Google sketch up (2552).[ออนไลน์ ].เข้ าถึงได้ จาก :http://sketchup.google.com/ (วันทีค้ นข้ อมูล : 2 พฤศจิกายน 2552 ) - เตียงสองชั น : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2092041 - ไอเดียเตียง : http://www.livingoops.com/featured/loft-bed - เตียง : http://th.wikipedia.org/wiki/7