SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
โครงงานคอมพิวเตอร์
          เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์

                       จัดทาโดย
             นางสาวสุ ทธิดา ขอดศิริ เลขที่ 17
            นางสาวปรางทิพย์ อุดมผล เลขที่ 25

                           นาเสนอ
                  ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์

     รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ นีเ้ ป็ นส่ วนหนึ่งของวิชา
                         คอมพิวเตอร์
                ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์ )
บทคัดย่ อ

           โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภทของ
คอมพิวเตอร์ นี้ จัดทาขึ้นโดยมีวตถุประสงค์เพื่อนาเอารู ปแบบการเรี ยนรู ้ยคใหม่ที่ใช้สื่อสังคม
                                     ั                                       ุ
หรื อ Social Media ซึ่งเป็ นสื่ อที่ได้รับความสนใจและเป็ นที่นิยมในปัจจุบน มาประยุกต์เข้ากับ
                                                                           ั
การเรี ยนรู ้ โดยได้ศึกษารู ปแบบและพัฒนาการเรี ยนรู ้ในการจัดสร้างเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์
สาเร็จรู ปชื่อว่า Wordpressทั้ งนี้ได้ทาการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู ้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่ องประเภท
ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเภขของคอมพิวเตอร์ โดยผูจดทาโครงงานสามารถ
                                                                       ้ั
พัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ดวยตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ
                                                  ้
เรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น และนาได้นาเสนอบทเรี ยนผ่านเว็บบล็อก ที่
                        ่
http://nuttapongko.wordpress.comทั้ งนี้ ทาให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและ
ผูสนใจทัวไปได้เป็ นอย่างดี
  ้         ่
บทที่ 1 บทนา
แนวคิด ทีมา และความสาคัญ
             ่
ปัจจุบนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิงใหญ่ต่อ
       ั                                                                                   ่
ทุกวงการทัวโลก รวมทั้งวงการศึกษาไทยด้วย และผลพวงที่ติดตามมาในแง่เทคนิควิธีการ
                 ่
เกี่ยวกับ
กระบวนการเรี ยนรู ้คือแนวโน้มในการเรี ยนรู ้แบบโต้ตอบสองทาง (Interactive) ที่กาลังก้าว
เข้ามา
แทนที่กระบวนการเรี ยนรู ้แบบเดิม ที่ผรับได้แต่ “รับเอา” โดยไม่อาจ “เลือก” แต่อย่างใด จาก
                                            ู้
แนวคิดดังกล่าว ประเทศต่าง ๆ ทัวโลกต่างหันมาให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยี
                                      ่
สารสนเทศ
เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุ ดแก่ผเู ้ รี ยนในทุกระดับ มีการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์และสื่ อ
อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ผูเ้ รี ยนรุ่ นใหม่จะเป็ นผูเ้ รี ยนที่มีความคิดรักการเรี ยนรู ้ มีหลักในการศึกษา
ค้นคว้าอย่างเป็ นระบบมีความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีความรู ้ทกษะที่จาเป็ นในการ
                                                                             ั
แสวงหา
ความรู ้ดวยตนเองมากขึ้น (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ , 2539 : 122) จึงเป็ นที่ยอมรับว่า เทคโนโลยี
           ้
สารสนเทศ ได้กลายเป็ นปัจจัยที่สาคัญในการพัฒนาประเทศการจัดการศึกษาจึงต้องมีการ
ปรับตัวใน
การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิง ด้านการจัดการ         ่
เรี ยน
การสอนนั้น ได้มีขอกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ว่า รัฐต้อง
                     ้
ส่ งเสริ ม
และสนับสนุนให้มีการผลิตสื่ อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านการ
ผลิตและผูใช้ให้มีความรู ้ความสามารถ มีทกษะตลอดจนผูเ้ รี ยนให้มีสิทธิ ที่จะได้รับการพัฒนา
               ้                               ั
เพื่อให้มีความรู ้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในการแสวงหาความรู ้ดวย             ้
ตนเอง
ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ได้ประกาศชัดให้ประชากรทุกคน
สามารถเข้าถึงการศึกษาเพื่อการเรี ยนรู ้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และสาระทั้งปวงใน
กฎหมาย
ต้องการให้คนไทยมี “ชีวตแห่งการเรี ยนรู ้” ทาแผ่นดินไทยให้เป็ น “สังคมแห่งภูมิปัญญา”
                          ิ
อย่าง
แท้จริ ง (ปัญญาพล, 2542 : 100)
เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้เกิดสังคมยุคสารสนเทศที่มีสรรพสิ่ งมากมายให้ได้เรี ยนรู ้ไม่
รู ้จกหมดสิ้ น การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศด้วยระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์สร้างการเรี ยนรู ้ให้
     ั
เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางและกระจายไปทุกระดับ ทั้งในระบบนอกระบบและตามอัธยาศัย
(บุปผชาติ
                                   ่
ทัฬหิกรณ์, 2544 : 7) จะเห็นได้วาการจัดการศึกษาในยุคของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
สามารถ
เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรี ยนรู ้และความต้องการของการศึกษาในอนาคต สื่ อและอุปกรณ์
การศึกษารู ปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่สื่อแบบเก่า มีแหล่งทรัพยากรการเรี ยนรู ้ที่หลากหลาย
นับเป็ น
สิ่ งที่ช่วยสนับสนุนการเรี ยนรู ้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบใหม่ (รุ่ ง แก้วแดง, 2543)
ทาให้
การเรี ยนการสอนไม่จากัดอยูเ่ ฉพาะในห้องเรี ยนและอยูภายใต้การควบคุมของผูสอนเท่านั้น แต่
                                                            ่                       ้
ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนรู ้ได้จากแหล่งความรู ้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งโลก
ใน
ปัจจุบนข้อมูลข่าวสารจะเป็ นปัจจัยหลักในการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ผูที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล
          ั                                                                 ้
ข่าวสารได้เร็วจะได้เปรี ยบกว่าผูที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ชา อินเทอร์เน็ตซึ่ งเป็ นแหล่งรวบรวม
                                   ้                          ้
สารสนเทศต่างๆจากทัวโลกจะเป็ นเสมือนขุมทรัพย์ ข้อมูลข่าวสารที่คนส่ วนใหญ่ในปัจจุบนหัน
                           ่                                                                   ั
มา
ให้ความสนใจ (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2539 : 7) และกระบวนการเรี ยนรู ้ของผูเ้ รี ยนจัดว่า
สาคัญ
อย่างยิงในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผเู ้ รี ยนเป็ นศูนย์กลางการเรี ยนรู ้ โดยแนวคิดมุ่งเน้นใน
            ่
เรื่ อง
การคิดและแก้ปัญหาเป็ น และผูเ้ รี ยนสามารถถ่ายโยงความรู ้ที่เรี ยนไปใช้ในชีวตจริ ง ซึ่งแนวคิด
                                                                                  ิ
นี้
จะต้องอาศัยเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงเป็ นเครื อข่ายที่มีทวโลกมาพัฒนาศักยภาพของผูเ้ รี ยน
                                                                ั่
มา
ปรับเปลี่ยนแนวทางการเรี ยนรู ้ใหม่จากแนวทางและวิธีการสั่งสอน มาเป็ นการเรี ยนรู ้ที่
สอดคล้องกับ
แหล่งการเรี ยนรู ้ใหม่ทางสารสนเทศ ซึ่งเป็ นการจัดสภาพแวดล้อมใหม่ในการเรี ยนรู ้ที่เน้นให้
ผูเ้ รี ยน
มีส่วนร่ วมคิดแก้ปัญหาและนาความรู ้ที่ได้มานั้นไปถ่ายโยงใช้จริ งในชีวตประจาวันที่ทนยุค
                                                                              ิ             ั
ทันสมัย
ต่อเหตุการณ์ (ปรัชนันนท์ นิลสุ ข, 2545:19)
เรี ยนการสอน เพื่อให้เป็ นบทเรี ยนที่เป็ นแนวทางในการจัดการเรี ยนการสอนที่มุ่งเน้นผูเ้ รี ยนเป็ น
สาคัญ ขณะเดียวกันผูเ้ รี ยนจะได้รับการพัฒนาทักษะการเรี ยนรู ้แบบทีมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อ
การ
เรี ยนรู ้ และยังสามารถเป็ นแนวทางในการสร้างบทเรี ยนผ่านเครื อข่ายอินเทอร์เน็ตในเรื่ องอื่นๆ
ต่อไปได้
วัตถุประสงค์
1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpressเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2
เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่ องที่สนใจเกี่ยวกับเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ 3เพื่อให้ผเู ้ รี ยนสามารถ
พัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ดวยตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ
                                                    ้
เรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น 4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจ
                         ่                                                                 ้
ทัวไป
   ่
ขอบเขตของโครงงาน
1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภ
ขของคอมพิวเตอร์ 2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่ องมือหรื อโปรแกรมหรื อที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ 2.1
เครื่ องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต
2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริ การเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการ
ติดต่อสื่ อสารเช่น www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.com 2.4 โปรแกรมตัดต่อ
และตกแต่งรู ปภาพเช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0
ผลทีคาดว่ าจะได้ รับ
       ่
1 ได้รับความรู ้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภทของ
คอมพิวเตอร์ 2 ได้รับความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องที่นามาเป็ นบทเรี ยนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่ อง
ประเภทของคอมพิวเตอร์ 3ผูเ้ รี ยนสามารถพัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจาก Wordpressได้ดวย             ้
ตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น 4 สามารถติดต่อสื่ อสาร
                                                                  ่
                              ้       ่                                       ่
กันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจทัวไป เพื่อสร้างเป็ นเครื อข่ายการเรี ยนรู ้ผานเว็บบล็อกได้ 5
ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
บทที่ 2 เอกสารที่เกียวข้ อง
                      ่
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง
ประเภทของคอมพิวเตอร์น้ ี ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
                                ้ั
ดังต่อไปนี้
2.1 ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับของคอมพิวเตอร์ 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.1 ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ ปั จจุบนคอมพิวเตอร์ ได้ ถกพัฒนาให้ มีความก้ าวหน้ าอย่าง
                                          ั                ู
รวดเร็ว ขนาดเล็กลง ราคาถูกลงแต่ประสิทธิภาพหรื อความสามารถในการทางานสูงขึ ้น ทาให้
หน่วยงาน องค์กร ตลอดจนบุคลได้ นาคอมพิวเตอร์ มาใช้ งานกันอย่างกว้ างขวาง เช่น การพิมพ์
เอกสารต่าง ๆ การออกแบบงานด้ านศิลปะ การสร้ างภาพกราฟิ ก การเล่นเกม การดูหนังฟั ง
เพลง การสร้ างเว็บส่วนตัว การนาคอมพิวเตอร์ มาใช้ งานในลักษณะเครื อข่าย เช่น เครื อข่าย
อินเทอร์ เน็ต การติดต่อสื่อสาร การเลือกซื ้อสินค้ า การสืบค้ นข้ อมูล ด้ านการศึกษา เป็ นต้ น
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2.2.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์คืออุปกรณ์ทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device)ที่มนุษย์ใช้เป็ นเครื่ องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูล
ที่อาจเป็ นได้ท้ งตัวเลข ตัวอักษร หรื อสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่ งต่าง ๆโดยคุณสมบัติ
                 ั
ที่สาคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกาหนดชุดคาสั่งล่วงหน้าหรื อโปรแกรมได้
(programmable) นันคือคอมพิวเตอร์สามารถทางานได้หลากหลายรู ปแบบขึ้นอยูกบ
                              ่                                                             ่ ั
ชุดคาสังที่เลือกมาใช้งานทาให้สามารถนาคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง
         ่
เช่นใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก -ถอนเงินในธนาคารการตรวจสอบสภาพ
เครื่ องยนต์ เป็ นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือเครื่ องคอมพิวเตอร์สามารถทางาน
่
ได้อย่างมีประสิ ทธภาพ มีความถูกต้องและมีความรวดเร็วอย่างไรก็ดี ไม่วาจะเป็ นงานชนิดใดก็
ตามเครื่ องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทางานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ
1. รับข้ อมูล (Input)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input
unit) เช่น คีบอร์ดหรื อ เมาส์
2. ประมวลผล (Processing)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการประมวลผลกับข้อมูลเพื่อแปลง
       ่
ให้อยูในรู ปอื่นตามที่ตองการ
                       ้
3. แสดงผล (Output)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วย
แสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่ องพิมพ์ หรื อจอภาพ
4. เก็บข้ อมูล (Storage)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ใน
หน่วยเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถนามาใช้ใหม่ได้ในอนาคต

2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของคอมพิวเตอร์
    [ ประมาณ 2,600 ปี ก่อนคริ สตกาล ]ชาวจีนได้ประดิษฐ์เครื่ องมือเพื่อใช้ในการคานวณ
ขึ้นมาชนิดหนึ่ง เรี ยกว่า ลูกคิด ( Abacus)

ลูกคิด ( Abacus)

    [ พ.ศ. 2158 ] นักคณิ ตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John Napier ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่
ใช้ช่วยในการคานวณขึ้นมาเรี ยกว่า Napier’s Bones เป็ นอุปกรณ์ที่มีลกษณะคล้ายกับ
                                                                  ั
ตารางสู ตรคูณในปัจจุบน  ั
    [ พ.ศ.2173 ] วิลเลียมออตเทรต( William Oughtred) นักคณิ ตศาสตร์ชาวอังกฤษได้

More Related Content

What's hot

รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์น.หนู ว.แหวน
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องTheeraWat JanWan
 
รายงานโครงงานคอม
รายงานโครงงานคอมรายงานโครงงานคอม
รายงานโครงงานคอมpiyaphon502
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์paveenada
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Kawinna2538
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องKittichai Pinlert
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานShe's Mammai
 
โครงงานอินเตอร์เน็ต
โครงงานอินเตอร์เน็ตโครงงานอินเตอร์เน็ต
โครงงานอินเตอร์เน็ตPloyko Stawbery
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมปยล วชย.
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5kruwaeo
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คtumetr1
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องAdsurdity Master
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมpaponteein
 
โครงงานฟิสิกส์
โครงงานฟิสิกส์โครงงานฟิสิกส์
โครงงานฟิสิกส์Phiromporn Norachan
 

What's hot (20)

รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
รายงานโครงงานคอม
รายงานโครงงานคอมรายงานโครงงานคอม
รายงานโครงงานคอม
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคอม1
งานคอม1งานคอม1
งานคอม1
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
แบบร่างเค้าโครงงาน
แบบร่างเค้าโครงงานแบบร่างเค้าโครงงาน
แบบร่างเค้าโครงงาน
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
โครงงานอินเตอร์เน็ต
โครงงานอินเตอร์เน็ตโครงงานอินเตอร์เน็ต
โครงงานอินเตอร์เน็ต
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอม
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5รายงานวิจัยบทที่ 1 5
รายงานวิจัยบทที่ 1 5
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
โครงงานฟิสิกส์
โครงงานฟิสิกส์โครงงานฟิสิกส์
โครงงานฟิสิกส์
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์

โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานNuchy Geez
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำChi Cha Pui Fai
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำAugusts Programmer
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำTangkwa Tom
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรM'suKanya MinHyuk
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานPop Cholthicha
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำWilaiporn Seehawong
 
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1Rattana Wongphu-nga
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานstoptop
 
01 บทที่ 1-บทนำ1
01 บทที่ 1-บทนำ101 บทที่ 1-บทนำ1
01 บทที่ 1-บทนำ1M'suKanya MinHyuk
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์chompoonana
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานPop Cholthicha
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2Nontt' Panich
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)

โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
6 บทที่ 1 บทนำ
6 บทที่  1  บทนำ6 บทที่  1  บทนำ
6 บทที่ 1 บทนำ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
01 บทที่ 1-บทนำ1
01 บทที่ 1-บทนำ101 บทที่ 1-บทนำ1
01 บทที่ 1-บทนำ1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Phongbun
PhongbunPhongbun
Phongbun
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 

โครงงานคอมพิวเตอร์

  • 1. โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ประเภทของคอมพิวเตอร์ จัดทาโดย นางสาวสุ ทธิดา ขอดศิริ เลขที่ 17 นางสาวปรางทิพย์ อุดมผล เลขที่ 25 นาเสนอ ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์ รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ นีเ้ ป็ นส่ วนหนึ่งของวิชา คอมพิวเตอร์ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2555 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์ )
  • 2. บทคัดย่ อ โครงงานการพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภทของ คอมพิวเตอร์ นี้ จัดทาขึ้นโดยมีวตถุประสงค์เพื่อนาเอารู ปแบบการเรี ยนรู ้ยคใหม่ที่ใช้สื่อสังคม ั ุ หรื อ Social Media ซึ่งเป็ นสื่ อที่ได้รับความสนใจและเป็ นที่นิยมในปัจจุบน มาประยุกต์เข้ากับ ั การเรี ยนรู ้ โดยได้ศึกษารู ปแบบและพัฒนาการเรี ยนรู ้ในการจัดสร้างเว็บบล็อกด้วยเว็บไซต์ สาเร็จรู ปชื่อว่า Wordpressทั้ งนี้ได้ทาการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู ้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่ องประเภท ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเภขของคอมพิวเตอร์ โดยผูจดทาโครงงานสามารถ ้ั พัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ดวยตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ ้ เรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น และนาได้นาเสนอบทเรี ยนผ่านเว็บบล็อก ที่ ่ http://nuttapongko.wordpress.comทั้ งนี้ ทาให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและ ผูสนใจทัวไปได้เป็ นอย่างดี ้ ่
  • 3. บทที่ 1 บทนา แนวคิด ทีมา และความสาคัญ ่ ปัจจุบนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิงใหญ่ต่อ ั ่ ทุกวงการทัวโลก รวมทั้งวงการศึกษาไทยด้วย และผลพวงที่ติดตามมาในแง่เทคนิควิธีการ ่ เกี่ยวกับ กระบวนการเรี ยนรู ้คือแนวโน้มในการเรี ยนรู ้แบบโต้ตอบสองทาง (Interactive) ที่กาลังก้าว เข้ามา แทนที่กระบวนการเรี ยนรู ้แบบเดิม ที่ผรับได้แต่ “รับเอา” โดยไม่อาจ “เลือก” แต่อย่างใด จาก ู้ แนวคิดดังกล่าว ประเทศต่าง ๆ ทัวโลกต่างหันมาให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยี ่ สารสนเทศ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุ ดแก่ผเู ้ รี ยนในทุกระดับ มีการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์และสื่ อ อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ผูเ้ รี ยนรุ่ นใหม่จะเป็ นผูเ้ รี ยนที่มีความคิดรักการเรี ยนรู ้ มีหลักในการศึกษา ค้นคว้าอย่างเป็ นระบบมีความคิดริ เริ่ มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มีความรู ้ทกษะที่จาเป็ นในการ ั แสวงหา ความรู ้ดวยตนเองมากขึ้น (ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ , 2539 : 122) จึงเป็ นที่ยอมรับว่า เทคโนโลยี ้ สารสนเทศ ได้กลายเป็ นปัจจัยที่สาคัญในการพัฒนาประเทศการจัดการศึกษาจึงต้องมีการ ปรับตัวใน การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิง ด้านการจัดการ ่ เรี ยน การสอนนั้น ได้มีขอกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ว่า รัฐต้อง ้ ส่ งเสริ ม และสนับสนุนให้มีการผลิตสื่ อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านการ ผลิตและผูใช้ให้มีความรู ้ความสามารถ มีทกษะตลอดจนผูเ้ รี ยนให้มีสิทธิ ที่จะได้รับการพัฒนา ้ ั เพื่อให้มีความรู ้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในการแสวงหาความรู ้ดวย ้ ตนเอง ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ได้ประกาศชัดให้ประชากรทุกคน สามารถเข้าถึงการศึกษาเพื่อการเรี ยนรู ้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และสาระทั้งปวงใน กฎหมาย
  • 4. ต้องการให้คนไทยมี “ชีวตแห่งการเรี ยนรู ้” ทาแผ่นดินไทยให้เป็ น “สังคมแห่งภูมิปัญญา” ิ อย่าง แท้จริ ง (ปัญญาพล, 2542 : 100) เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้เกิดสังคมยุคสารสนเทศที่มีสรรพสิ่ งมากมายให้ได้เรี ยนรู ้ไม่ รู ้จกหมดสิ้ น การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศด้วยระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์สร้างการเรี ยนรู ้ให้ ั เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางและกระจายไปทุกระดับ ทั้งในระบบนอกระบบและตามอัธยาศัย (บุปผชาติ ่ ทัฬหิกรณ์, 2544 : 7) จะเห็นได้วาการจัดการศึกษาในยุคของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถ เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรี ยนรู ้และความต้องการของการศึกษาในอนาคต สื่ อและอุปกรณ์ การศึกษารู ปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่สื่อแบบเก่า มีแหล่งทรัพยากรการเรี ยนรู ้ที่หลากหลาย นับเป็ น
  • 5. สิ่ งที่ช่วยสนับสนุนการเรี ยนรู ้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบใหม่ (รุ่ ง แก้วแดง, 2543) ทาให้ การเรี ยนการสอนไม่จากัดอยูเ่ ฉพาะในห้องเรี ยนและอยูภายใต้การควบคุมของผูสอนเท่านั้น แต่ ่ ้ ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนรู ้ได้จากแหล่งความรู ้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งโลก ใน ปัจจุบนข้อมูลข่าวสารจะเป็ นปัจจัยหลักในการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ผูที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล ั ้ ข่าวสารได้เร็วจะได้เปรี ยบกว่าผูที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ชา อินเทอร์เน็ตซึ่ งเป็ นแหล่งรวบรวม ้ ้ สารสนเทศต่างๆจากทัวโลกจะเป็ นเสมือนขุมทรัพย์ ข้อมูลข่าวสารที่คนส่ วนใหญ่ในปัจจุบนหัน ่ ั มา ให้ความสนใจ (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2539 : 7) และกระบวนการเรี ยนรู ้ของผูเ้ รี ยนจัดว่า สาคัญ อย่างยิงในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผเู ้ รี ยนเป็ นศูนย์กลางการเรี ยนรู ้ โดยแนวคิดมุ่งเน้นใน ่ เรื่ อง การคิดและแก้ปัญหาเป็ น และผูเ้ รี ยนสามารถถ่ายโยงความรู ้ที่เรี ยนไปใช้ในชีวตจริ ง ซึ่งแนวคิด ิ นี้ จะต้องอาศัยเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงเป็ นเครื อข่ายที่มีทวโลกมาพัฒนาศักยภาพของผูเ้ รี ยน ั่ มา ปรับเปลี่ยนแนวทางการเรี ยนรู ้ใหม่จากแนวทางและวิธีการสั่งสอน มาเป็ นการเรี ยนรู ้ที่ สอดคล้องกับ แหล่งการเรี ยนรู ้ใหม่ทางสารสนเทศ ซึ่งเป็ นการจัดสภาพแวดล้อมใหม่ในการเรี ยนรู ้ที่เน้นให้ ผูเ้ รี ยน มีส่วนร่ วมคิดแก้ปัญหาและนาความรู ้ที่ได้มานั้นไปถ่ายโยงใช้จริ งในชีวตประจาวันที่ทนยุค ิ ั ทันสมัย ต่อเหตุการณ์ (ปรัชนันนท์ นิลสุ ข, 2545:19) เรี ยนการสอน เพื่อให้เป็ นบทเรี ยนที่เป็ นแนวทางในการจัดการเรี ยนการสอนที่มุ่งเน้นผูเ้ รี ยนเป็ น สาคัญ ขณะเดียวกันผูเ้ รี ยนจะได้รับการพัฒนาทักษะการเรี ยนรู ้แบบทีมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อ การ เรี ยนรู ้ และยังสามารถเป็ นแนวทางในการสร้างบทเรี ยนผ่านเครื อข่ายอินเทอร์เน็ตในเรื่ องอื่นๆ
  • 6. ต่อไปได้ วัตถุประสงค์ 1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วยWordpressเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่ องที่สนใจเกี่ยวกับเรื่ องประเภทของคอมพิวเตอร์ 3เพื่อให้ผเู ้ รี ยนสามารถ พัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจากWordpressได้ดวยตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ ้ เรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น 4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจ ่ ้ ทัวไป ่
  • 7. ขอบเขตของโครงงาน 1. จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภ ขของคอมพิวเตอร์ 2. วัสดุ อุปกรณ์ เครื่ องมือหรื อโปรแกรมหรื อที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ 2.1 เครื่ องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต 2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริ การเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการ ติดต่อสื่ อสารเช่น www.facebook.comwww.hotmail.comwww.google.com 2.4 โปรแกรมตัดต่อ และตกแต่งรู ปภาพเช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0 ผลทีคาดว่ าจะได้ รับ ่ 1 ได้รับความรู ้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpressเรื่ องประเภทของ คอมพิวเตอร์ 2 ได้รับความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องที่นามาเป็ นบทเรี ยนในการสร้างเว็บบล็อกคือเรื่ อง ประเภทของคอมพิวเตอร์ 3ผูเ้ รี ยนสามารถพัฒนารู ปแบบของเว็บบล็อกจาก Wordpressได้ดวย ้ ตนเองและนามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรี ยนรู ้ของตนเองมากยิงขึ้น 4 สามารถติดต่อสื่ อสาร ่ ้ ่ ่ กันได้ระหว่างครู เพื่อนและผูสนใจทัวไป เพื่อสร้างเป็ นเครื อข่ายการเรี ยนรู ้ผานเว็บบล็อกได้ 5 ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
  • 8. บทที่ 2 เอกสารที่เกียวข้ อง ่ ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ อง ประเภทของคอมพิวเตอร์น้ ี ผูจดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ้ั ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับของคอมพิวเตอร์ 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ ปั จจุบนคอมพิวเตอร์ ได้ ถกพัฒนาให้ มีความก้ าวหน้ าอย่าง ั ู รวดเร็ว ขนาดเล็กลง ราคาถูกลงแต่ประสิทธิภาพหรื อความสามารถในการทางานสูงขึ ้น ทาให้ หน่วยงาน องค์กร ตลอดจนบุคลได้ นาคอมพิวเตอร์ มาใช้ งานกันอย่างกว้ างขวาง เช่น การพิมพ์ เอกสารต่าง ๆ การออกแบบงานด้ านศิลปะ การสร้ างภาพกราฟิ ก การเล่นเกม การดูหนังฟั ง เพลง การสร้ างเว็บส่วนตัว การนาคอมพิวเตอร์ มาใช้ งานในลักษณะเครื อข่าย เช่น เครื อข่าย อินเทอร์ เน็ต การติดต่อสื่อสาร การเลือกซื ้อสินค้ า การสืบค้ นข้ อมูล ด้ านการศึกษา เป็ นต้ น 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2.2.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์คืออุปกรณ์ทาง อิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device)ที่มนุษย์ใช้เป็ นเครื่ องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูล ที่อาจเป็ นได้ท้ งตัวเลข ตัวอักษร หรื อสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่ งต่าง ๆโดยคุณสมบัติ ั ที่สาคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกาหนดชุดคาสั่งล่วงหน้าหรื อโปรแกรมได้ (programmable) นันคือคอมพิวเตอร์สามารถทางานได้หลากหลายรู ปแบบขึ้นอยูกบ ่ ่ ั ชุดคาสังที่เลือกมาใช้งานทาให้สามารถนาคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ่ เช่นใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก -ถอนเงินในธนาคารการตรวจสอบสภาพ เครื่ องยนต์ เป็ นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือเครื่ องคอมพิวเตอร์สามารถทางาน
  • 9. ่ ได้อย่างมีประสิ ทธภาพ มีความถูกต้องและมีความรวดเร็วอย่างไรก็ดี ไม่วาจะเป็ นงานชนิดใดก็ ตามเครื่ องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทางานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ 1. รับข้ อมูล (Input)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ดหรื อ เมาส์ 2. ประมวลผล (Processing)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการประมวลผลกับข้อมูลเพื่อแปลง ่ ให้อยูในรู ปอื่นตามที่ตองการ ้ 3. แสดงผล (Output)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วย แสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่ องพิมพ์ หรื อจอภาพ 4. เก็บข้ อมูล (Storage)เครื่ องคอมพิวเตอร์จะทาการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ใน หน่วยเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถนามาใช้ใหม่ได้ในอนาคต 2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของคอมพิวเตอร์ [ ประมาณ 2,600 ปี ก่อนคริ สตกาล ]ชาวจีนได้ประดิษฐ์เครื่ องมือเพื่อใช้ในการคานวณ ขึ้นมาชนิดหนึ่ง เรี ยกว่า ลูกคิด ( Abacus) ลูกคิด ( Abacus) [ พ.ศ. 2158 ] นักคณิ ตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อ John Napier ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ ใช้ช่วยในการคานวณขึ้นมาเรี ยกว่า Napier’s Bones เป็ นอุปกรณ์ที่มีลกษณะคล้ายกับ ั ตารางสู ตรคูณในปัจจุบน ั [ พ.ศ.2173 ] วิลเลียมออตเทรต( William Oughtred) นักคณิ ตศาสตร์ชาวอังกฤษได้