More Related Content
Similar to Com project (20)
Com project
- 3. 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้
คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
2. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็น
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจาวัน
3. โครงงานพัฒนาเกม โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์
เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่
ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ
4. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนา
เครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูป
ซอฟต์แวร์
5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่
ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้
- 5. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร ์มักจะได้มำจำกปัญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่อง
ต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร ์หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปัญหำที่จะนำมำพัฒนำโครงงำน
1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์หรือวำรสำรต่ำงๆ
2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ
3. กำรฟังบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น
ระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
5. งำนอดิเรกของนักเรียน
6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร ์
ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร ์ควรพิจำรณำองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ
2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร ์ซอฟต์แวร ์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ
4. มีเวลำเพียงพอ
5. มีงบประมำณเพียงพอ
6. มีควำมปลอดภัย
- 6. 2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน
กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล รวมถึงกำรขอคำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิด
ศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ควำมรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษำ จนสำมำรถใช ้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำ
3. จัดทาข้อเสนอโครงงานที่จะทา ดังนี้
1. ศึกษำค้นคว้ำเอกสำรอ้ำงอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จำกผู้ทรงคุณวุฒิ
2. วิเครำะห์ข้อมูล เพื่อกำหนดขอบเขตและลักษณะของโครงกำรที่จะพัฒนำ
3. ออกแบบกำรพัฒนำ มีกำรกำหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร ์ซอฟต์แวร ์และตัวแปลภำษำ โปรแกรม และ
4. กำหนดตำรำงกำรปฏิบัติงำนของกำรจัดทำเค้ำโครงของโครงงำน ลงมือทำโครงงำนและสรุปรำยงำนโครงงำน โดย
5. ทำกำรพัฒนำโครงงำนขั้นต้น เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอำจจะทำกำรพัฒนำส่วนย่อย ๆ บำงส่วน
กำรศึกษำในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนกำรทดลองที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมำะสมมำกยิ่งขึ้น
6. เสนอเค้ำโครงของโครงงำนคอมพิวเตอร ์ต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กำร
อย่ำงเหมำะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
- 7. 4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้ำโครงของโครงงำนได้รับควำมเห็นชอบจำกอำจำรย์ที่ปรึกษำแล้ว ก็เสมือนว่ำกำรจัดทำ
โครงงำนได้ผ่ำนพ้นไปแล้วมำกกว่ำครึ่ง ขั้นตอนต่อไปเป็นกำรลงมือพัฒนำตำมขั้นตอนที่ได้วำงแผนไว้เช่น จัดเตรียมวัสดุ
รับผิดชอบของสมำชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึงดำเนินกำรทำโครงงำน ขณะเดียวกันต้องมีกำรทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุง
แน่ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้น ทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำรที่ระบุไว้ในเป้ำหมำย และเกิดประสิทธิภำพตำมขั้นตอน
1. กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร ์ซอฟต์แวร ์และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช ้ในกำรพัฒนำให้พร ้อมและควร
ข้อควำมไว้ในระบบคอมพิวเตอร ์สำหรับบันทึกกำรทำกิจกรรมต่ำง ๆ ระหว่ำงกำรทำโครงงำน ได้แก่ กำรดำเนินกำรอย่ำงไร
อย่ำงไร รวมทั้งข้อสังเกตต่ำง ๆ ที่พบ
2. กำรลงมือพัฒนำ เป็นกำรปฏิบัติตำมแผนงำนที่ได้วำงไว้ในเค้ำโครง ซึ่งสำมำรถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ หำก
จัดระบบกำรทำงำน ทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญให้เสร็จก่อน จึงค่อยทำส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงำนมี
ทำ ให้มีกำรตกลงรำยละเอียดในกำรเชื่อมต่อชิ้นงำนที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ
- 8. 3. การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุ
ไว้ในเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพ
4. การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัด ครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้
เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและอภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กับ หลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้
แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลได้
5. แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถ
เขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- 10. ส่วนแรกของรายงานจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน โดยส่วนใหญ่ได้เขียนไว้ในข้อเสนอโครงงานบ้างแล้ว ยกเว้น กิตติกรรมประกาศ ซึ่งเป็นคากล่าว
ขอบคุณบุคลากรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยให้การทาโครงงานสาเร็จ อีกส่วนหนึ่งคือ บทคัดย่อ ซึ่งเป็นการอธิบายโดยสรุปให้เห็นถึงผลการศึกษาที่ได้จากการ
ทาโครงงาน โดยเขียนเป็นความเรียง
บทที่ 1 บทนา เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานโดยได้เขียนไว้แล้วในข้อเสนอโครงงานซึ่งประกอบด้วย ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
วัตถุประสงค์ ขอบเขตของโครงงาน
บทที่ 2 หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูล หลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึง
การระบุผลงานของผู้อื่น ที่ผู้จัดทาโครงงานนามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
บทที่ 3 วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทา
โครงงาน
บทที่ 4 ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นรูปภาพ ตาราง กราฟ ข้อความ ทั้งนี้ต้องการสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ง่าย
- 11. บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ กำรสรุปผลกำรดำเนินงำน เป็นกำรอธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำโครงงำน ถ้ำมีกำร
ตั้งสมมุติฐำนควรระบุถึงข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้ำนสมมุตติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้กำรนำผลกำรทดลองหรือ
โครงงำนหรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำโครงงำนนี้ และควรมีข้อเสนอแนะในกำร
ศึกษำค้นคว้ำต่อไปในอนำคต นอกจำกนี้ควรกล่ำวถึงประโยชน์ที่ผู้จัดทำและผู้ใช ้จะได้ประโยชน์จำกกำรทำโครงงำนด้วย
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำรเอกสำรและ /หรือเว็บไซต์ที่ผู้จัดทำโครงงำนใช ้ศึกษำ ค้นคว้ำ
โครงงำน ทั้งนี้เขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
คู่มือกำรใช ้งำน เป็นคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช ้งำนผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ชื่อผลงำน คุณลักษณะของ
ได้ (ถ้ำมี) รำยละเอียดของคอมพิวเตอร ์ ต้องมีรำยชื่อซอฟต์แวร ์ ผลงำนนั้นทำหน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็ นข้อมูลเข้ำ และ
ควรอธิบำยขั้นตอนตำมลำดับกำรทำงำน ที่สำมำรถเข้ำใจได้ง่ำย ข้อแนะนำกำรใช ้งำน สำมำรถแยกออกจำกรำยงำนหรือ
ดุลยพินิจของผู้จัดทำ
- 12. 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน โดยทั่วไปเมื่อโครงงานเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีการนาเสนอโครงงานให้กับผู้ที่ต้องการใช้งานหรือครูที่ปรึกษาโครงงาน
ดังนั้นควรเตรียมเอกสารนาเสนอให้สมบูรณ์ โดยอาจปรับย่อข้อความที่สาคัญมาจากการรายงานก็ได้ การนาเสนอในรูปแบบใดนั้นต้องเลือกให้เหมาะสมโดย
พิจารณาวัตถุประสงค์ของงานนาเสนอ ชื่อ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ป้ายนิทรรศการ เอกสารรายงาน แผ่นพับ นอกจากนี้ยังต้องวางแผนในการนาเสนอและสาธิตโครงงาน
และควรฝึกตอบคาถามที่เกี่ยวข้องไว้ด้วย
- 13. 6.1 ชื่อโครงงาน
6.2 ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
6.3 ชื่อที่ปรึกษา
6.4 คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
6.5 วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6.6 การสาธิตผลงาน
6.7 ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้
1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างมีระบบ และนาเสนออย่างตรงไปตรงมา
ด้วยภาษาที่ชัดเจนเข้าใจง่าย
2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบาย รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลที่อาจจะต้องใช้ใน
การตอบคาถาม
3) หลีกเลี่ยงการอ่านรายงาน
4) ควรมองไปยังผู้ฟังรายงาน
5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา
6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด
7) ควรใช้สื่อ เช่น สไลด์ แผ่นใส ประกอบการรายงาน
8) ความเหมาะสมของเนื้อหาต่อผู้ฟัง
9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนั้นควรอยู่ในสภาพที่ทางานได้เป็นอย่างดี
การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่
ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นาความรู้ทางคอมพิวเตอร์มาใช้แก้ปัญหา พัฒนา
คิดค้นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความ
สนใจที่จะทางานวิจัย และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้นด้วย
ดังนั้นจึงน่าที่จะจัดให้การทาโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมในทุก
ระดับชั้น เพื่อนาไปสู่การพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต