More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 โครงการพระราชดำริ
Similar to งานนำเสนอ1 โครงการพระราชดำริ (20)
งานนำเสนอ1 โครงการพระราชดำริ
- 2. โครงการพัฒนาลุ่มน้้าป่าสักอันเนืองมาจากพระราชด้าริ
่
ที่ตั้ง บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และบ้านคาพราน ต.คาพราน อ.วังม่วง
จ.สระบุรี
วัตถุประสงค์
- เป็นแหล่งน้าสาหรับอุปโภค – บริโภค ในเขตจังหวัดลพบุรี – สระบุรี ตลอดจน กรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล เป็นแหล่งน้าสาหรับพื้นที่ชลประทานเปิดใหม่ รวมทั้งแหล่งน้าเสริมสาหรับพื้นที่
ชลประทานเดิมในทุงเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง
่
- ช่วยป้องกันอุทกภัยในเขตจังหวัดลพบุรี – สระบุรี และพื้นที่ตอนล่างของแม่น้าเจ้าพระยา
รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และเป็นแหล่งประมงน้าจืดขนาดใหญ่
- ช่วยการคมนาคมทางน้าในแม่น้าป่าสักตอนล่าง และแก้ไขปัญหาน้าเสีย
- 3. สภาพทั่วไป
ลุ่มน้าป่าสักตั้งอยู่ในเขตภาคกลางของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ และมีพื้นทีบางส่วนตอนบนของลุ่ม
่
น้าอยู่ในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ
จังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ลักษณะลุ่มน้าวางตัวในแนวเหนือ-ใต้
พื้นที่ลุ่มน้าทั้งสิ้น 16,292 ตารางกิโลเมตร
บริเวณตอนบนของลุ่มน้ามีเทือกเขาเพชรบูรณ์ล้อมรอบ พื้นที่โดยทั่ว ๆ ไป มีลักษณะเป็นเนิน
เขาและมีที่ราบเพียงเล็กน้อย ส่วนตอนกลางในเขตจังหวัดลพบุรีและสระบุรีเป็นที่ราบสลับกับเนิน
เขา ตอนล่างของลุ่มน้าบริเวณจุดบรรจบกับแม่น้าเจ้าพระยาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นที่ราบลุ่ม
ลักษณะโดยรวมทั้งลุ่มน้าจะถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 2 ด้าน และมีแม่น้าป่าสักไหลอยู่ตรงกลางจาก
ทิศเหนือลงทิศใต้ โดยมีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ในเขตอาเภอด่านซ้าย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้
ของจังหวัดเลย จากนั้นไหลผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี และสระบุรี จนมาบรรจบกับแม่น้า
เจ้าพระยา
- 4. ล้าน้้าสาขาของลุ่มน้้าป่าสัก จะมีลักษณะเป็นล้าน้้าสายสั้น ๆ แยกมาจากทางตะวันตกและตะวันออก ล้าน้้า
สาขาทางต้นน้้า ได้แก่
ห้วยน้าพุง มีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ทางตอนใต้สุดจังหวัดเลย ไหลขนานมากับแม่
น้าป่าสักและมาบรรจบกันที่อาเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ห้วยขอนแก่น มีต้นกาเนิดที่เทือกเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาเภอหล่มสัก
ลากง มีต้นกาเนิดจากเทือกเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือในเขตอาเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์
ลาน้าสาขาทางตอนล่างของลุ่มน้า ได้แก่
ห้วยเกาะแก้ว มีต้นกาเนิดอยู่ที่เทือกเขาเตี้ย ๆ บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดเพชรบูรณ์กับจังหวัด
ลพบุรี ไหลมาบรรจบกับแม่น้าป่าสักทางตอนใต้ของอาเภอศรีเทพ
ลาสนรี เป็นลาน้าสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแม่น้าป่าสัก มีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขาบริเวณรอยต่อ
ระหว่างจังหวัดเพชรบูรณ์กับจังหวัดชัยภูมิ มีลาน้าสาขาคือ ลาพยากลาง ลาสนรีไหลมาบรรจบกับแม่
น้าป่าสักที่อาเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
ห้วยมวกเหล็ก มีต้นกาเนิดจากเทือกเขาบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดลพบุรีกับจังหวัดนครราชสีมา
ไหลมาบรรจบกับแม่น้าป่าสักที่อาเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
- 5. เนื่องจากลักษณะลุ่มน้้าแห่งนี้มีความลาดชันสูง จึงท้าให้ในฤดูฝน กระแสน้้าจะไหลจากด้านบนลงมาอย่าง
รวดเร็ว บ่าล้นตลิ่ง ท่วมและท้าความเสียหายให้กับเรือกสวนไร่นา ตลอดจนบ้านเรือนและทรัพย์สินของ
ราษฎร ปัญหาอุทกภัยในเขตลุ่มน้้าป่าสักส่งผลกระทบถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เกิดขึ้นเป็น
ประจ้า ในทางกลับกันในฤดูแล้งมักประสบปัญหาขาดแคลนน้้าใช้เพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค ซึ่งแม้
จะได้รับน้้าจากแม่น้าเจ้าพระยามาช่วยเสริมแต่ก็ยังไม่เพียงพอ การพัฒนาแหล่งน้้าลุ่มน้้าป่าสัก ได้เริ่มมา
ตั้งแต่การก่อสร้างเขื่อนพระราม 6 เมื่อปี พ.ศ.2458 แต่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้้าในระดับหนึ่ง
ในขณะที่ประเทศเวลานั้น ยังมีการพัฒนาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมไม่มากนัก แต่เมื่อ
จ้านวนประชากรเพิ่มมากขึ้น มีการขยายพื้นที่เกษตรกรรมและการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ อย่าง
กว้างขวาง เป็นผลให้เกิดการขาดแคลนน้้า แม้รัฐบาลในยุคสมัยต่อมา จะได้ศึกษาวางแผนที่จะพัฒนา
แหล่งน้้าด้วยการสร้างอ่างเก็บน้้าขนาดกลางและขนาดเล็กกระจายโดยทั่วไปในลุ่มน้้าป่าสักอย่างเป็นระบบ
และต่อเนื่องบนล้าน้้าสาขาต่าง ๆ ของลุ่มน้้าป่าสักที่มีความยาวไม่มากและมีพื้นที่เก็บน้้าน้อย โดยได้เริ่ม
ด้าเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 ซึ่งหากสามารถก่อสร้างได้ครบตามแผนที่ก้าหนดไว้ จะสามารถเก็บกักน้้า
ได้รวมกันกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร
- 6. ความแห้งแล้งเพราะขาดแคลนน้้า และการเกิดอุทกภัยที่เกิดขึ้นเกือบจะเป็นประจ้าทุกปี ในตลอด
ระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมาสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ
กระทบกระเทือนฐานะความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ส่วนนี้ที่ประกอบด้วยโรงงานอุตสาหกรรม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทราบด้วยพระเนตรพระกรรณด้วยทรงห่วงใยยิ่ง ได้พระราชทาน
พระราชด้าริ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 ให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบ
สิ่งแวดล้อมของโครงการเขื่อนเก็บกักน้้าแม่น้าป่าสัก เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้้า และบรรเทา
อุทกภัยในเขตพื้นที่ลุ่มน้้าป่าสัก พื้นที่ลุ่มน้้าเจ้าพระยาตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ต่อจากนั้นได้มีพระราชด้ารัสอีกรวม 2 ครั้ง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 4 ธันวาคม
พ.ศ.2536 และวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2537 สรุปความว่า ปัญหาการขาดแคลนน้้า และปัญหาอุทกภัย จะ
ได้รับการบรรเทาให้น้อยลง เมื่อได้ก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้้าแม่น้าป่าสัก
- 7. กรมชลประทานได้สนองพระราชด้าริโดยว่าจ้างบริษัทที่
ปรึกษา ศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ฯ เห็นสมควรให้
สร้างเขื่อนเก็บกักน้้าแม่น้าป่าสัก ที่บ้านหนองบัว ต้าบล
หนองบัว อ้าเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และที่บ้านค้า
พราน อ้าเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี และผลการศึกษาความ
เหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผ่านความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) เมื่อวันที่ 23
กุมภาพันธ์ พ.ศ.2537 และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เปิด
โครงการก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้้าแม่น้าป่าสัก เมื่อวันที่ 3
พฤษภาคม พ.ศ.2537
- 8. เขื่อนเก็บกักน้้าแม่น้าป่าสักได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2537 ถึงวันที่ 30 กันยายน
พ.ศ.2542 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี มีกรมชลประทานเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้าเนินการก่อสร้าง
โดยได้รับการสนับสนุนทั้งก้าลังพล และเครื่องจักรเครื่องมือจากกรมทหารช่าง กองทัพบก เป็นผลท้า
ให้การก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ด้าเนินการได้ตามแผนและบรรลุผลเป้าหมายที่ก้าหนด เมื่อวันที่ 15
มิถุนายน พ.ศ.2541 ซึ่งในโอกาสนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระ
ราชด้าเนินเป็นองค์ประธานทรงประกอบพิธี เริ่มการเก็บกักน้้าเป็นปฐมฤกษ์ และในวันที่ 7 ตุลาคม
พ.ศ.2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า
" เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ " อันหมายถึง " เขื่อนแม่น้าป่าสักที่เก็บกักน้้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ "
โครงการพัฒนาลุ่มน้้าป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชด้าริ เป็นโครงการชลประทานขนาดใหญ่
ประเภทอ่างเก็บน้้าที่จะช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง และบรรเทาอุทกภัย ตลอดจนเป็นแหล่งน้้าส้าหรับการ
ประมง และการอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดลพบุรี สระบุรี และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ส้าคัญอีกแห่ง
หนึ่งของประเทศไทย
ระยะเวลาด้าเนินการ 14 ปี (ปี พ.ศ.2538 – 2551) รวมระบบส่งน้้า
- 9. ประโยชน์ของโครงการ
1.เป็นแหล่งส้าหรับอุปโภค-บริโภคของชุมชนต่างๆ ในเขตจังหวัดลพบุรี (อ้าเภอล้านารายณ์ และอ้าเภอ
พัฒนานิคม) และจังหวัดสระบุรี (อ้าเภอวังม่วง และอ้าเภอแก่งคอย ) และชุมชนขนาดย่อมใกล้เคียง
2.เป็นแหล่งน้้าส้าหรับการเกษตร ส้าหรับพื้นที่ชลประทานที่จะเกิดขึ้นใหม่ ในเขตจังหวัดลพบุรี และ
สระบุรี 174,500 ไร่ ได้แก่ แก่งคอย – บ้านหมอ 86,700 ไร่ พัฒนานิคม 29,300 ไร่ พัฒนานิคม-แก่งคอย
28,500 ไร่ จัดหาน้้าเพื่อการเกษตร จังหวัดลพบุรี 30,000 ไร่
3.เป็นแหล่งน้้าเสริมส้าหรับพื้นที่ชลประทานเดิมในทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง เนื้อที่ประมาณ
2,200,000 ไร่ (ลดการใช้น้าจากแม่น้าเจ้าพระยา โดยน้าน้้าจากแม่น้าป่าสักไปใช้ในแถบจังหวัดลพบุรี
และสระบุรีโดยตรง)
4.ช่วยป้องกันอุทกภัยพื้นที่ริมฝั่งแม่น้าป่าสัก ในเขตจังหวัดลพบุรีและสระบุรี และยังมีผลช่วยบรรเทา
อุทกภัยในพื้นที่ตอนล่างของแม่น้าเจ้าพระยา รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล