More Related Content
Similar to แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย
Similar to แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย (20)
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย
- 4. ภูทับเบิก จ.เพรชบูรณ์
ภูทับเบิก อาเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับน้าทะเล
ประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเพชรบูรณ์ ยังคงเป็นแหล่งชมทะเลหมอกยอดนิยมไม่
เปลี่ยนแปลง ด้วยภูมิประเทศมีความงดงามอย่างมาก เต็มไปด้วยทะเลภูเขา ป่าไม้และ
ธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่ม
เมฆ มองเห็นเป็นทะเลหมอกตัดกับยอดภูสีเขียว และยังเป็นเป็นแหล่งปลูกกะหล่าปลีที่ใหญ่
ที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย
2
- 6. ไร่ชาสิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย
ไร่สิงห์ปาร์ค แห่งนี้หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีไร่ชาด้วย เพราะ
ปกติแล้วจุดขายของที่นี่ คือ สวนดอกไม้และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ นั่นเอง แต่จริงๆ แล้วไร่
สิงห์ปาร์คแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ปลูกชาออกมาได้ผลผลิตงดงาม ประกอบกับทัศนียภาพ
รอบๆ ไร่ชาที่เป็นแบล็คกราวด์อย่างดีช่วยชูให้ไร่ชาของที่นี่นั้นสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยทีเดียว
4
- 9. สามพันโบก จังหวัด
อุบลราชธานี
สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี สถานที่ที่ถูกเรียกว่า "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย"
ด้วย มีลักษณะของความงามของแก่งหินขนาดใหญ่ในลาน้าโขง และวิถีชีวิตริมคลองสองฝั่งโขง
นั้นงดงามจนน่ามหัศจรรย์ไม่แพ้แกรนด์แคนยอน รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
โดยสามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลาน้าโขง เนื่องจากในช่วงฤดูน้าหลากแก่งหินแห่งนี้จะจมอยู่
ใต้บาดาล
7
- 10. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหิน
ในกลุ่มราชมรรคา เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บน เขาพนมรุ้งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตาบลตาเป๊ ก อาเภอ
เฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย
โบราณสถานสาคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ
(ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้าทะเลปานกลาง) คาว่า พนมรุ้งนั้น มาจากภาษาเขมร คาว่า
วนํรุง แปลว่าภูเขาใหญ่
8
- 12. เสาชิงช้า จ.กรุงเทพมหานคร
เสาชิงช้า เป็น สถาปัตยกรรม ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ใน พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย ของ ศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู โดยทั่วไปหมายถึงเสาชิงช้าที่ตั้งอยู่หน้า วัดสุทัศน์เทพวราราม และลานหน้า ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ลานคน
เมือง) ใกล้กับ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ในพื้นที่แขวงเสาชิงช้าและแขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็น
สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ กรุงเทพมหานคร แม้พิธีโล้ชิงช้าได้เลิกไปแล้วตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
7 ก็ตาม
นอกจากนี้ ใน ประเทศไทย ยังมีเสาชิงช้าอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ หน้าหอพระอิศวร เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการประกอบพิธี
โล้ชิงช้ามาแต่โบราณเช่นกัน แต่ได้เลิกไปก่อนที่จะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง โดยจาลองแบบมาจากเสาชิงช้าที่
กรุงเทพมหานคร
เสาชิงช้าที่ กรุงเทพมหานคร แห่งนี้ มีลักษณะเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่ สูง 21.15 ม. เส้น ผ่าน
ศูนย์กลาง ฐานกลมประมาณ 10.50 ม. ฐานกลมก่อเป็นฐานปัทม์ทาด้วยหินล้างสีขาว พื้นบนปูกระเบื้องดินเผาสีแดง มีบันได 2 ขั้น
ทั้ง 2 ด้าน ตามแนวโค้งของฐานติดแผ่นจารึกประวัติเสาชิงช้า เสาไม้แกนกลางคู่และเสาตะเกียบ 2 คู่ เป็นเสาหัวเม็ด ล้วนทาด้วยไม้
สักกลึงกลม โครงยึดหัวเสาทั้งคู่แกะสลักอย่างสวยงามกระจังและหูช้างไม้เป็นลวดลายไทย ทั้งหมดทา สีแดงชาด ติด สายล่อฟ้า
จากลวดลายกระจังด้านบนลงดิน
10
กลับไปสารบัญ
- 13. พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์มังกร จ.สุพรรณบุรี
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร หรือ อุทยานมังกรสวรรค์ สร้างขึ้นตามความต้องการของ นายบรรหาร ศิลป
อาชา ขณะดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้เริ่มออกแบบและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรขึ้นภายใน
บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้าสุพรรณบุรี ห่างจากฝั่งแม่น้าไปตามถนนมาลัยแมน
ตาบลรั้วใหญ่
อาเภอเมืองสุพรรณบุรี ก่อตั้งขึ้นเพื่อนาเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ตลอดจน
ประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน เพื่อเป็นอนุสรณ์สัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 20 ปีใน พ.ศ. 2539พิพิธภัณฑ์
ลูกหลานพันธุ์มังกรเป็นหนึ่งในสถานที่มหัศจรรย์เมืองไทย ในโครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย[1] ลักษณะอาคาร[แก้]
ลาตัวมังกรภายนอก ออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะความเชื่อ หน้าต้องเป็นอูฐ ตาเหมือนกระต่าย มีเขา
ของกวาง หูของวัว ตัวของงู เกล็ดของปลา ขาของเสือ อุ้งเท้าของเหยี่ยว สีของลาตัวเลียนแบบเครื่องกังไสโบราณ
พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 29 ห้อง
11
กลับไปสารบัญ
- 14. น้าตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี
ตามตานานเล่าขานกันมาว่า มีหญิงสาวเจ็ดคนมาเล่นน้าที่น้าตกแห่งนี้แล้วจมน้าเสียชีวิตพร้อมกัน เป็นที่มาของชื่อน้าตก
มีการตั้งศาลเพียงตาขึ้นที่น้าตกชั้นที่ 4 เรียกว่าศาลเจ้าแม่ทรายทอง บ้างก็ว่าเดิมทางเหนือของน้าตกมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งชื่อบ้านเสาน้อย
ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนเป็นสาวน้อย อุทยานน้าตกเจ็ดสาวน้อยมีเนื้อที่ 540 ไร่ น้าตกเจ็ดสาวน้อยตั้งอยู่ในเขตตาบลมวกเหล็ก อาเภอ
มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีอุทยานน้าตกเจ็ดสาวน้อยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสลับกับที่ราบ ลักษณะพื้นที่ค่อนข้างแห้ง
แล้งมีหน้าดินตื้น อุทยานแห่งชาติน้าตกเจ็ดสาวน้อยมีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางอยู่ระหว่าง 180-402 เมตร จุดสูงสุดของ
พื้นที่อยู่บริเวณโชคชัยพัฒนา มีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง 402 เมตร บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือของ
พื้นที่ติดคลองมวกเหล็กซึ่งมีน้าไหลผ่านตลอดปี และไหลลงสู่แม่น้าป่าสักที่อาเภอวังม่วง
12
กลับไปสารบัญ
- 16. 1. แหลมกระทิง ภูเก็ต
จุดชมวิวแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต มองเห็นทะเลอันดามันเกือบ 360 องศา สาหรับ
ใครที่อยากเดินทางมายังจุดชมวิวแห่งนี้อาจต้องเดินทางมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ เพราะหากมา
หลังพระอาทิตย์ตกจะมืดมาก และเดินลาบาก แนะนาให้ใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะคุณจะต้อง
เดินผ่านโขดหิน ซึ่งอาจเผลอลื่นและเป็นอันตรายได้ ตลอดทางคุณจะมองเห็นวิว
ที่ทาให้คุณต้องร้องว้าว
14
- 18. 2. เกาะกระดาน
เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและ
เกาะลิบง เกาะกระดานมีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้าทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง ซึ่ง
เป็นปะการังน้าตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ สาหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะ
กระดาน สามารถทาได้ทั้งเหมาเรือไปเอง หรือไปกับทัวร์แบบ One Day Trip
(4 เกาะ ได้แก่ เกาะเชือก เกาะม้า ถ้ามรกต (เกาะมุก) และเกาะกระดาน)
16