More Related Content
Similar to Presentation final no.32,36 (20)
Presentation final no.32,36
- 2. สารบัญ
เรื่อง หน้า
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 1
วัตถุประสงค์ 2
ปัญหาโรคซึมเศร้า 3
ทาความรู้จักโรคซึมเศร้า 4-6
สาเหตุของโรคซึมเศร้า 7
ความผิดปกติของสารเคมีภายในสมอง 8-12
ชนิดของโรคซึมเศร้า 13-16
ประเภทของภาวะซึมเศร้าอื่นๆ ที่ได้การยอมรับทางการแพทย์ 17-21
อาการของโรคซึมเศร้า 22-38
วิธีรักษาอาการโรคซึมเศร้า 39-40
วิธีโอ 41
รายชื่อผู้จัดทาโครงงาน 42
- 3. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ในปัจจุบัน มีคนเป็นโรคซึมเศร้าจานวนมาก ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ต่างมีปัญหาทั้งหลายปัจจัย
ทั้ง สภาพแวดล้อม อดีตที่ฝังใจ ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ความไม่ลงตัวกับคนใกล้ชิด ทั้งหมดนี้
ต่างเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิด โรคซึมเศร้าได้และโรคซึมเศร้ายังนาไปสู่ปัญหาการฆ่าตัวตายอีกด้วย
การเป็นโรคซึมเศร้านั้น ต้องอยู่ในความดูแลของ แพทย์ด้วย โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตเวชที่พบ
บ่อยมาก ผู้ป่วยจะเสียทั้งด้วยการศึกษาและอาชีพการทางานในขณะที่ ป่วย อีกทั้งยังเป็นความ
เจ็บป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูงถึง 15-18% ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเท่านั้น ที่
รู้สึกทุกข์ทรมาน คนในครอบครัวก็ต้องพลอยได้รับทุกข์นั้นไปด้วย โรคซึมเศร้าเป็นความเจ็บปวด
ที่เกี่ยวข้องกับ อารมณ์ ความคิด และส่วนต่างๆของร่างกาย โดยมีผลต่อการนอนหลับ การ
รับประทานอาหาร ตลอดจนความรู้สึกที่มี ต่อตนเองและสิ่งต่างๆรอบตัว ถ้าไม่ได้รับการรักษา
อาการของโรคอาจอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนหรือเป็นปี การ รักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม
จะสามารถช่วยเหลือและการจัดอาการของโรคซึมเศร้าได้ รวมทั้งป้องกันภาวะแทรกซ้อน อื่นๆที่
จะเกิดขึ้นได้ผู้คนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้หาก
เราทาความ เข้าใจอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นดิฉันจึงเลือกเรื่องโรคซึมเศร้ามาท าโครงงานนี้
1/42
- 5. ปัญหาโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ อาการของโรค
อาจดูคล้ายกับอาการเศร้าหรือเสียใจทั่วๆไป แต่ผลกระทบนั้นรุนแรงและเกิดขึ้น
ยาวนานกว่ามาก ซึ่งทั้งตัวผู้ป่วยเองหรือคนรอบข้างอาจไม่ทันสังเกตเห็นด้วยซ้า
ปัญหาคือคนส่วนใหญ่ที่ป่วยเป็นซึมเศร้ามักจะไม่รู้ตัวว่ากาลังป่วยเป็นซึมเศร้า หรือ
อาจรู้ตัวอีกทีตอนที่อาการของโรคเข้าสู่ขั้นรุนแรงจนเกิดผลกระทบต่อการใช้
ชีวิตประจาวันไปแล้ว ทาให้โรคนี้กลายเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่พรากชีวิตของใครหลาย
ต่อหลายคนไปอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้น การทาความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดโรค
อาการ และวิธีรักษา จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ เพื่อช่วยเหลือตัวคุณเองและ
คนรอบข้างที่ป่วยเป็นโรคนี้
3/42
- 15. ชนิดของโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. Major Depression (โรคซึมเศร้าแบบรนแรง)โรคซึมเศร้าชนิดนี้เกิดขึ้น
เมื่อภาวะซึมเศร้า
2. Dysthymia หรือ Persistent Depressive Disorder
(โรคซึมเศร้าเรื้อรัง)
3. Bipolar หรือ Manic-depressive Illness (โรคซึมเศร้าอารมณ์สอง
ขั้ว)
13/42
- 16. 1. Major Depression (โรคซึมเศร้าแบบรนแรง)
โรคซึมเศร้าชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อภาวะซึมเศร้ารบกวนความสุขในชีวิต การ
ทางาน การเรียน การนอนหลับ นิสัยการกิน และอารมณ์
สุนทรีย์ ติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ บางคนอาจแสดงอาการของ
ภาวะซึมเศร้าเพียงแค่หนึ่งอย่างก็ได้ ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นเป็นครั้งๆ แล้ว
หายไป แต่ก็สามารถเกิดได้บ่อยครั้งเช่นกัน
14/42
- 17. 2. Dysthymia หรือ Persistent Depressive
Disorder (โรคซึมเศร้าเรื้อรัง)
เป็นโรคซึมเศร้าแบบเรื้อรังที่มีอาการทางอารมณ์ไม่รุนแรงนัก แต่จะ
เป็นไปอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปี และมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2
อาการร่วมด้วย
รับประทานอาหารได้น้อยลงหรือมากขึ้น
นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
รู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองต่า
ไม่มีสมาธิ หรือตัดสินใจอะไรได้ลาบาก
รู้สึกสิ้นหวัง ตามเกณฑ์การวินิจฉัยจากคู่มือการวินิจฉัยความผิดปกติ
ทางจิตที่จัดทาโดยสมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา (DSM-V)
15/42
- 18. 3. Bipolar หรือ Manic-depressive Illness (โรค
ซึมเศร้าอารมณ์สองขั้ว)
ผู้มีภาวะซึมเศร้าบางคนอาจมีอาการผิดปกติแบบอารมณ์สอง
ขั้ว (Bipolar disorder) ร่วมด้วย โรคซึมเศร้าชนิดนี้จะทาให้ผู้ป่วยมี
การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ โดยมีอารมณ์แปรปรวนรุนแรงสลับไปมา
ระหว่างอารมณ์ดีผิดปกติ (Mania) ที่เป็นช่วงอารมณ์สนุกคึกคักเกินเหตุ
พูดมากกว่าที่เคยเป็น กระฉับกระเฉงกว่าปกติ มีพลังงานในร่างกาย
เหลือเฟือ กับช่วงภาวะซึมเศร้า (Depression) ซึ่งโดยมากจะมีอาการ
อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ในบางคนก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่าง
รวดเร็ว ในช่วงอารมณ์ดีผิดปกตินั้น อาการที่เกิดขึ้นอาจมีผลกระทบต่อ
ความคิดและการตัดสินใจของผู้ป่วย รวมทั้งอาจทาให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรม
หลงผิด หากผู้ป่วยในภาวะนี้ไม่ได้รับการรักษาจะทาให้กลายเป็นโรคจิต
เภทได้
16/42
- 20. 1. Postpartum Depression (โรคซึมเศร้าหลังคลอด
บุตร) หลังคลอดบุตร คุณแม่บางคนอาจมีอาการซึมเศร้าที่รุนแรง
และใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติ ภาวะซึมเศร้าที่คุณแม่
มือใหม่มักเผชิญหลังคลอดนี้จะเรียกว่า "Baby blues"
18/42
- 21. 2. Seasonal Affective Disorder หรือ SAD (โรค
ซึมเศร้าตามฤดูกาล) เป็นภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูหนาว หรือบางครั้งก็
เกิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นโรคซึมเศร้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศที่มี
แสงแดดน้อยและหนาวเย็น พบได้มากในประเทศแถบหนาว จึงไม่ค่อย
เป็นที่คุ้นเคยในไทยนัก
19/42
- 22. 3. Premenstrual Dysphoric Disorder (โรค
ซึมเศร้าก่อนมีรอบเดือน) เป็นอาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นประมาณหนึ่ง
สัปดาห์ก่อนและหลังช่วงมีประจาเดือนของผู้หญิง
20/42
- 23. 4. Psychotic Depression (โรคซึมเศร้าโรคจิต) เป็น
ภาวะซึมเศร้ารุนแรงที่เกิดกับผู้ป่วยโรคจิตเวชอื่นๆ โดยมักเกิด
พร้อมอาการทางจิต เช่น เห็นภาพลวงตาและภาพหลอน ได้ยิน
เสียงที่ไม่มีอยู่จริง เป็นต้น
21/42
- 25. -รู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีค่า ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าจะทาอะไรต่อไปหรือทาไปเพื่ออะไร
-รู้สึกเศร้า หรือ ในเด็กและวัยรุ่นอาจรู้สึกหงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย หรือ
กระวนกระวายใจอยู่บ่อยๆ
-หมดความสนใจในกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่เคยชื่นชอบ เช่น รู้สึกเบื่อ
หน่ายอาหารโปรด
-น้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นเร็วมาก เนื่องมาจากนิสัยการกินที่เปลี่ยนไป
-นอนไม่หลับติดต่อเป็นเวลานาน หรือนอนนานผิดปกติ
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
-ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทาได้เลย บางครั้งก็แสดงอาการหลงๆ
ลืมๆ และใช้เวลานานในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ
คิด พูด และทางานเร็วขึ้นหรือช้าลง
-รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือทาร้ายตัวเอง
23/42
- 26. อาการเหล่านี้มีผลกระทบต่อการเข้าสังคม การทางาน หรือการใช้ชีวิต
ในด้านอื่นๆ หากปล่อยไว้นานจะทาให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง ซึ่ง
มีอาการรุนแรงกว่านี้มาก ทางที่ดีจึงควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการ
บาบัดทางร่างกายและจิตใจอย่างถูกต้อง ก่อนที่จะสายเกินไปบางครั้ง
ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าก็แสดงออกในลักษณะที่แปลกออกไป จนในบาง
อาจทาให้ผู้พบเห็นหรือเจ้าตัวไม่คิดว่าตนเองนั้นเป็น “โรคซึมเศร้า”
เรามาดูกันว่าสัญญาณแปลกๆ เหล่านั้นมีอะไรบ้าง
24/42
- 27. - ช้อปปิ้งอย่างบ้าคลั่ง: ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าบางคนจะมีพฤติกรรมซื้อ
ของอย่างควบคุมไม่ได้ เพื่อหวังเบี่ยงเบนความสนใจจาก
ความเครียดหรือเพื่อปลุกความมั่นใจในตนเอง พฤติกรรมนี้อาจพบ
ได้ในผู้ที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือโรคไบโพลาร์ได้เช่นกัน
- ดื่มอย่างหนัก: หากคุณรู้สึกว่าคุณต้องการดื่มเพื่อจัดการกับ
ความเครียดหรือความเศร้า คุณอาจกาลังเผชิญภาวะซึมเศร้าอยู่ก็
เป็นได้ ซึ่งแม้ว่าการดื่มจะช่วยให้คุณรู้สึกดีและลืมเรื่องแย่ๆ ใน
ชั่วขณะได้ แต่การดื่มแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้คุณยิ่งรู้สึกแย่
กว่าเดิม หรือนาไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
25/42
- 28. หลงลืม: โรคซึมเศร้าอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการหลงๆ ลืมๆ
ที่เกิดขึ้น โดยจากผลการศึกษาพบว่า โรคซึมเศร้าหรือภาวะ
เครียดที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานจะไปทาให้ระดับคอร์ติซอลหรือ
ฮอร์โมนความเครียดในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อสมอง
บางส่วนที่เชื่อมโยงกับความทรงจาและการเรียนรู้ โรคซึมเศร้า
จึงมีความเกี่ยวเนื่องกับการสูญเสียความทรงจา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่
ค่อยดีนักสาหรับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคซึมเศร้า
จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความจาได้
ใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไป: การเสพติดโลกออนไลน์มากกว่า
โลกความเป็นจริงอาจเป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกถึงโรคซึมเศร้าได้
ในทางกลับกัน การใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากเกินไปก็อาจทา
ให้มีอาการซึมเศร้าได้
26/42
- 29. กระหน่ากินอย่างบ้าคลั่ง: ผลการศึกษาเมื่อปี 2010 จาก
มหาวิทยาลัยอัลบามาเผยว่า วัยรุ่นที่เป็นโรคซึมเศร้ามีแนวโน้มมีน้าหนัก
เพิ่มขึ้น แถมยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย
ขโมยของ: พฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยอาจมีสาเหตุมาจากโรคซึมเศร้า
ได้ เพราะสาหรับผู้ป่วยบางคนที่รู้สึกไร้เรี่ยวแรงในการทาสิ่งต่างๆ และ
รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า การขโมยของเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉง
และรู้สึกว่าตนเองสาคัญขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่ขโมยมานั้นอาจไม่ได้มีมูลค่าหรือ
สาคัญเท่ากับความรู้สึกดีที่ได้รับหลังจากขโมยสาเร็จเลย
27/42
- 30. ปวดหลัง: 42% ของผู้คนที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังเคยเป็นโรคซึมเศร้า
มาแล้วทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี หลายคนมักเพิกเฉยต่อการเป็นโรคซึมเศร้า เพราะ
คิดว่าอาการเจ็บปวดต่างๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นโรคซึมเศร้าแต่อย่างใด
พฤติกรรมทางเพศ: ผู้ป่วยบางรายอาจรับมือกับปัญหาโรคซึมเศร้าด้วย
การทาพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย นอกใจ เสพ
ติดการมีเพศสัมพันธ์ และการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หรือบางรายก็มี
อาการหมดความต้องการทางเพศ ทั้งนี้อาการดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับการ
เป็นโรคไบโพลาร์ได้เช่นกัน
28/42
- 31. แสดงอารมณ์อย่างสดเหวี่ยง: หลายๆ คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะ
เผลอแสดงอารมณ์มากเกินปกติ บางครั้งก็ขี้โมโหหรือระเบิด
อารมณ์ออกมา บางครั้งก็เศร้าเสียใจ หมดหวัง วิตกกังวล และ
หวาดกลัว ซึ่งความผิดปกตินี้มักสังเกตได้ชัดเจนในผู้ที่เคยนิ่งขรึม
และไม่ค่อยพูด
เสพติดการพนัน: การพนันอาจทาให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและ
กระชุ่มกระชวย แต่หากคุณเสพติดการเล่นพนันจนเป็นนิสัย คุณ
อาจต้องทุกข์ทรมานใจภายหลังก็เป็นได้ โดยหลายคนที่เล่นการ
พนันบอกว่า ตนเองจะรู้สึกวิตกกังวลและซึมเศร้าก่อนเริ่มเล่นการ
พนัน และเมื่อเจอความผิดหวังก็อาจทาให้ยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก
29/42
- 33. 2. อาการของโรคซึมเศร้าตามเพศและอาย
อาการซึมเศร้าในผู้ชาย ผู้หญิง และวัยรุ่น อาจแตกต่างจากอาการ
ซึมเศร้าทั่วไปที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ดังนี้
อาการของโรคซึมเศร้าในผู้ชาย
แม้ว่าผู้ชายและผู้หญิงนั้นต่างมีอาการของโรคซึมเศร้าได้เหมือนกัน แต่ก็
มีอาการบางอย่างที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน จากรายงานใน
นิตยสารจิตเวช JAMA ปี 2013 กล่าวว่าอาการดังต่อไปนี้มักพบได้ใน
ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงที่เป็นโรคซึมเศร้า
โกรธ ก้าวร้าว เสพยาหรือใช้แอลกอฮอล์
พฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ขับรถโดยประมาท มีเพศสัมพันธ์แบบไม่
ป้องกัน มีพฤติกรรมสาส่อนทางเพศ เป็นต้น
31/42
- 36. อาการของโรคซึมเศร้าชนิด Major Depression
มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ซึมเศร้าหรือวิตกกังวลบ่อยๆ มีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว
โกรธง่าย อยู่ไม่สุข และมักกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลา
มีการเปลี่ยนแปลงทางความคิด รู้สึกสิ้นหวังในการใช้ชีวิต มักมองโลกในแง่ร้าย รู้สึก
ผิดหวังบ่อยๆ คิดว่าตัวเองไม่มีค่า มีความคิดทาร้ายตัวเอง คิดถึงแต่ความตาย และ
พยายามทาร้ายตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
มีการเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนรู้และการทางาน ไม่สนใจสังคมหรือสภาพสิ่งแวดล้อม
หมดความสนใจในเรื่องที่ทาให้เกิดความสนุกสนาน ไม่สนใจงานอดิเรก เพิกเฉยต่อ
กิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ประสิทธิภาพในการทางานลดลง ไม่
สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทา การตัดสินใจแย่ลง และมีอาการหลงๆ ลืมๆ
มีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม มีอาการนอนไม่หลับ ตื่นนอนเร็ว บางรายหลับนาน
เกินไป รู้สึกเบื่ออาหารจึงส่งผลให้น้าหนักลดลง แต่บางคนก็รับประทานอาหารมากเกินไป
จนทาให้น้าหนักเพิ่มขึ้น เมื่อเจ็บป่วยมักรักษาด้วยยาธรรมดาไม่หาย เช่น ปวดศีรษะ ปวด
ท้อง แน่นท้อง และปวดเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับบุคคลรอบตัวแย่ลงด้วย
34/42
- 38. อาการของโรคซึมเศร้าชนิด Bipolar หรือ Manic-
depressive illness
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าชนิดนี้จะมีอาการซึมเศร้าสลับกับร่าเริงเกินกว่าเหตุ มี
อาการหงุดหงิดง่าย นอนน้อยลงกว่าเดิม มักหลงผิดคิดว่าตัวเองเก่ง
ตัวเองใหญ่ พูดมาก คิดแต่จะแข่งขัน มีความต้องการทางเพศสูง มีพลัง
เยอะ แต่การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ บกพร่อง และมีพฤติกรรมหลาย
อย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน
36/42
- 40. อาการจากความเครียด (Stress)
ความเครียดหรือโรคเครียด โดยทั่วไปจะเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นใน
ระยะสั้นๆ เท่านั้น ภาวะความเครียดธรรมดาสามารถเกิดขึ้นได้กับ
ทุกคน ทุกเพศทุกวัย โดยความเครียดที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระตุ้น
ร่างกายทั้งในแง่ดีและแง่ลบ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถรับมือกับ
ความเครียดได้มากน้อยแค่ไหน อาการโดยทั่วไปของความเครียดคือ
นอนหลับยาก หรือนอนไม่หลับ
กระสับกระส่าย กังวล หงุดหงิด อารมณ์เสีย
รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ไร้พลัง
รู้สึกว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตนั้นยุ่งยากเกินกว่าจะรับมือได้
ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ความจาสั้น
38/42
- 42. 2. การรักษาโดยการทาจิตบาบัด
การรักษาวิธีนี้เป็นการเปลี่ยนความคิดเพื่อพิชิตความเศร้า รวมถึงเปลี่ยนพฤติกรรมไป
ในทางที่ดีขึ้น เพราะผู้ป่วยที่มีอารมณ์เศร้ามักมองโลกในแง่ร้าย ซึ่งจะเป็นวัฏจักรที่จะ
ทาให้ภาวะซึมเศร้านั้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเป็นเวลานาน แพทย์จะค่อยๆ พูดคุยและบอก
ผู้ป่วยให้หยุดเศร้าสักประเดี๋ยว แล้วให้ย้อนกลับไปคิดว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น มี
ความคิดอะไรแวบเข้ามาในหัวบ้าง จากนั้นให้ลองพิจารณาดูว่าความคิดนั้นถูกต้องแค่
ไหน หากคิดว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ อารมณ์จะดีขึ้นทันที อย่างน้อยก็จะทาให้
ผู้ป่วยมองโลกในแง่ดีจนกว่าจะเผลอไปคิดในแง่ร้ายอีกครั้งโรคซึมเศร้านั้นแตกต่างกัน
ไปในแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัยร่วมกัน การใช้จิตบาบัดหรือ
การบาบัดด้วยการพูดคุยถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้และรับมือกับปัจจัยด้าน
จิตใจ พฤติกรรม ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และปัจจัยภาวะแวดล้อมซึ่งเกี่ยวข้องกับโรค
ซึมเศร้า โดยโรคซึมเศร้าต่างรูปแบบกันก็มีเป้าหมายการรักษาและวิธีช่วยเหลือผู้ป่วย
ต่างกันไปด้วย
40/42