SlideShare a Scribd company logo
1 of 156
Download to read offline
หลักสูตรการใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
การประยุกต์ใช้โปรแกรมแกรม MS-Word
• การสร้างเอกสารทางราชการ
• การสร้างข้อสอบ
การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Office Word 2003

1. คลิกปุ่ม
2. ไปที่ All Programs  Microsoft Office 
   Microsoft Office Word 2003
3. เมื่อคลิกที่เมนูแล้วก็จะเข้าสู่โปรแกรม


                       ดังรูป
1   2
ส่วนประกอบของโปรแกรม
                                    Restore down
                              Minimize        Close
   Title Bar
  Menu Bar
  Toolbar

  Ruler Bar




View Button

  Status Bar
                 Scroll Bar       Task Pane
จัดรูปแบบตัวอักษรจาก Tools Bar
• เลือกข้อความที่จะจัด
• กาหนดจากแถบเครื่องมือ Formatting
                                                              Justify
                                Underline                     ชิดขอบ
    Font
                                ตัวขีดเส้นใต้
 แบบตัวอักษร          Italic                    Align Right
                     ตัวเอียง                      ชิดขวา




    Font Size
   ขนาดตัวอักษร                                   Center Distributed
                   Bold         Align Left
                  ตัวหนา                          กึ่งกลาง กระจายชิดขอบ
                                 ชิดซ้าย
จัดรูปแบบตัวอักษรจาก Menu Bar
• คลิกเมนู Format  Font
 Font :
 กาหนดลักษณะตัวอักษร
 Character Spacing : กาหนดระยะห่างของ
 ตัวอักษร
 Text Effects :
 กาหนดตัวอักษรเคลื่อนไหว
 Effects : ข้อความแบบพิเศษ เช่น
 -Shadow แรเงา
 -Outline ตัวโปร่ง
 -Superscript ตัวยก
 -Subscript ตัวห้อย
การจัดระยะห่างย่อหน้า-ระยะห่างบรรทัด
• คลิกเมนู Format  Paragraph
Spacing : ระยะห่างของย่อหน้า
Before หน้าย่อหน้า
After หลังย่อหน้า
Line Spacing : ระยะห่างบรรทัด
Single ปกติ
1.5 Line เว้นไป 1.5 บรรทัด
Double เว้นไป 2 บรรทัด
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
• คลิกเมนู File  Page Setup
• แท็บ Margin กาหนดขอบกระดาษ
  จะใช้กาหนดค่าระยะห่างจาก
  ข้อความกับขอบกระดาษของ
  หน้ากระดาษทั้ง 4 ด้าน
    Top ขอบบน            Bottom ขอบล่าง
    Left ขอบซ้าย         Right ขอบขวา
    Gutter เว้นขอบเย็บเล่ม
    Gutter position ตาแหน่งเว้นขอบ
Bullets and Numbering
                       การจัดสัญลักษณ์หัวข้อย่อย และเลขลาดับ

         Bullets List คือ สัญสักษณ์กากับหัวข้อรายการย่อย

         Numbering คือ ตัวเลขกากับลาดับของรายการย่อย
การกาหนด Bullets and Numbering พื้นฐาน
1. เลือกรายการข้อความ
2. คลิกที่ปุ่มเครื่องมือ        หรือ       ตามต้องการ
**ถ้าต้องการยกเลิกคลิกซ้าที่ปุ่มเครื่องมือ**
กาหนดสัญลักษณ์เพิ่มเติม

1. คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering…
2. คลิกแท็บ Bulleted
3. เลือกแบบสัญลักษณ์ตามต้องการ




   คลิกปุ่ม customize
    เพื่อกาหนดเอง
กาหนดตัวเลขเพิ่มเติม
1. คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering…
2. คลิกแท็บ Numbered
3. เลือกแบบตัวเลขตามต้องการ




   คลิกปุ่ม customize
    เพื่อกาหนดเอง
การจัดเอกสารแบบคอลัมน์ (Column)
1. คลิกปุ่ม Column
   แล้วคลิกลากเลือกจานวนคอลัมน์
   หรือ คลิกเมนู Format  Column…
2. กาหนดจานวนและรูปแบบของ
   คอลัมน์
3. คลิกปุ่ม
Header and Footer…
• คลิกเมนู View  Header and Footer…
                        Switch Between Header and Footer
                      Show/Hide Document Text
                             Page Setup                    Show Next
           Format Page Number




 แทรกข้อความอัตโนมัติ                 Insert Time
      Insert Page Number
                              Insert Date
         Insert Number of Page                          Close
                                 Link to Previous
                                               Show Previous
การกาหนดระยะแท็บ (Tab)
1.   คลิกที่ปุ่ม ตั้งแท็บ – ด้านซ้ายมือของไม้บรรทัด
     (คลิกเปลี่ยน)
2.   คลิกที่ตาแหน่งที่ต้องการบนไม้บรรทัด
               แท็บชิดซ้าย (Left)
               แท็บกึ่งกลาง (Center)
               แท็บชิดขวา (Right)
               แท็บตัวเลขแบบทศนิยม(Decimal)
               แท็บแบบเส้นบาร์ (Bar)
กาหนดระยะแท็บ-เส้นนาแท็บ-ยกเลิกแท็บ
คลิกเมนู Format  Tab
•   Default Tab Stop ค่าของแท็บอัตโนมัติ
•   Tab Stop Position หนดตาแหน่งแท็บใหม่/แก้ไขแท็บเดิม
•   Alignment การจัดข้อความในแท็บ
•   Leader      เส้นนาแท็บ
•   Set         กาหนดค่า
•   Clear       ยกเลิกแท็บที่เลือก
•   Clear all ยกเลิกแท็บทั้งหมด
การแทรกรูปภาพ (Insert Clip Art)
1. คลิกเมนู Insert  Picture  Clip Art…
   หรือ คลิกปุ่ม Insert Clip Art ที่ทูลบาร์ Drawing
   จะปรากฏ Clip Art ที่ Task Pane
2. พิมพ์ชื่อรูปที่ต้องการค้นหา
3. คลิกปุ่ม
4. คลิกเลือกรูปที่ต้องการ

 ตัวอย่างนามสกุลรูป :
 *.jpg , *.gif , *.wmf , *.bmp
การแทรกไฟล์รูปภาพ (Insert picture)
1. คลิกเมนู Insert  Picture  From File…
   หรือ คลิกปุ่ม Insert Picture ที่ทูลบาร์ Drawing
   จะปรากฏไดอะล๊อกบ็อกซ์
2. เลือกรูปภาพที่ต้องการ
3. คลิกปุ่ม
เครื่องมือในการจัดการรูปภาพ
                                 บีบอัดรูปให้มีขนาดเล็ก              Reset ค่า
     ปรับความคมชัด
                               ตัดรูป                 จัดรูปแบบรูป




                     ปรับแสง
                                    หมุนรูป                  ทาพื้นโปร่งใส
สีของรูปภาพ                             เส้นขอบรูป
                                                จัดข้อความรอบๆรูป
การจัดการกับข้อความรอบ ๆ รูป

คลิกที่เครื่องมือรูปภาพ ปุ่ม        Text Wrapping
                           รูปภาพเหมือนตัวอักษร
                           จัดเป็นสีเ่ หลี่ยมรอบ ๆ รูป
                           จัดตามรูปทรงของรูปภาพ
                           ส่งรูปไปไว้หลังข้อความ
                           ส่งรูปมาหน้าข้อความ
                           จัดข้อความให้อยู่ บน-ล่างรูป
                           จัดตามรูปทรงของรูป
                           ปรับทีละจุด ตามต้องการ
การประยุกต์ใช้โปรแกรม MS-Excel
• การสร้างแบบฟอร์มบันทึกคะแนนนักเรียน
การเข้าสู่โปรแกรม
                            Microsoft Office Excel 2003
1. คลิกปุ่ม
2. ไปที่ Programs  Microsoft Office 
   Microsoft Office Excel 2003
3. เมื่อคลิกที่เมนูแล้วก็จะเข้าสู่โปรแกรม



                        ดังรูป
1   2
ส่วนประกอบของโปรแกรม
                                             Restore down
   Formula Bar   Column                Minimize        Close
 Title Bar
Menu Bar

   Toolbar


     Cell
  Name Box
    Row

Worksheet




Status Bar                Scroll Bar       Task Pane
ชนิดของข้อมูลใน Excel
•   Text       ข้อความ
•   Number     ตัวเลข(Value)
•   Date       วันที/่ เวลา
•   Formula    สูตรคานวณ
•   Function   สูตรคานวณจากโปรแกรม
การป้อนข้อมูล

• คลิกใน cell ที่ต้องการ
• พิมพ์ข้อความ
• กด Enter หรือลูกศร
                               

                                     

                               
การป้อนข้อมูลแบบ AutoFill

January Qtr1    Monday     Week1     1-Jan-00
February Qtr2   Tuesday    Week2     2-Jan-00
March    Qtr3   Wednesday Week3      3-Jan-00
April    Qtr4   Thursday Week4       4-Jan-00
May             Friday     Week5     5-Jan-00
June            Saturday   Week6     6-Jan-00
เลือกช่วงข้อมูลในการพิมพ์

                                           การกาหนดช่วงเซลล์ (Cell Range)
                                          ใช้แป้นพิมพ์ช่วยในการเลือก
                                          CTRL เลือกพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง
                                          SHIFT เลือกพื้นทีต่อเนื่อง
                                                            ่


                                        คลิกที่ cell แรก กด Shif ค้างไว้ และคลิกที่ cell สุดท้าย




กด Ctrl ค้างไว้และคลิกเลือกตามต้องการ
การแทรก Row,Column

• คลิกที่ Row Heading หรือ
  Column Heading                    แทรก Column

• คลิกเมาส์ขวา เลือกคาสั่ง
  Insert แทรก
  Delete ลบ
• หรือใช้เมนู Insert
                         แทรก Row
การแทรก Cell
เลือก Cell หรือ Row /Column ที่จะแทรก
เลือกเมนู Insert-Cell หรือ คลิกขวา
เลือกการแทรกจากกรอบโต้ตอบ

     แทรกและขยับ cell ที่เลือกไปทางขวา
     แทรกและขยับ cell ที่เลือกลงข้างล่าง
     แทรกทั้งแถว row
     แทรกทั้งคอลัมน์ column
การลบ Cell
เลือก Cell หรือ Row / Column ที่จะลบ
เลือกเมนู Edit  Delete หรือ คลิกขวา
เลือกการลบจากกรอบโต้ตอบ

     ลบและขยับ cell ทางขวามาแทนที่
     ลบและขยับ cell ข้างล่างขึ้นมาแทนที่
     ลบทั้งแถว row
     ลบทั้งคอลัมน์ column
การจัดรูปแบบ Cells

• Font       จัดแบบอักษร
• Alignment จัดตาแหน่งข้อความ
• Number รูปแบบตัวเลข,รูปแบบวันที่
• Border กาหนดเส้นขอบ
• Pattern ใส่สี,ลวดลายพื้นเซลล์
Format  Cells  Font

แบบอักษร   ขนาด     ตัวหนา


            ตัวเอียง ขีดเส้นใต้


Size ขนาดตัวอักษร
72 Point= 1 นิ้ว
Format  Cells  Alignment
จัดชิดซ้าย จัดชิดขวา


     จัดกึ่งกลาง
      รวมเซลล์ จัดกึ่งกลาง
Format  Cells  Number/Date
Currency
       เปอร์เซ็นต์   เพิ่มทศนิยม



           ใส่คอมม่า ลบทศนิยม


Date
Format  Cells  Border
            Toolbar




None ไม่เอาเส้น
Outsize ตีเส้นล้อมพื้นที่ ที่เลือก
Inside ตีเส้นด้านในพื้นที่ ที่เลือกมา
Border แนวเส้นขอบ
Line ลักษณะเส้น
Format  Cells  Patterns
       Fill Color




            ใส่ลวดลาย
Color สีพื้น
Pattern ลวดลาย ตาราง,จุด
การคานวณใน Worksheet
เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์

เครื่องหมาย         ความหมาย
    +                  บวก
    -                   ลบ
    *                   คูณ
    /                  หาร
    ^                 ยกกาลัง
เครื่องหมายในการเปรียบเทียบ(Operator)
=    เท่ากับ               ตัวอย่างเช่น
>=   มากกว่าหรือเท่ากับ    สูตร =B2>5000 จะให้ค่าเป็นจริง
>    มากกว่า                  (TRUE ) เมื่อค่าในเซลล์ B2
                              มากกว่า 5000จะให้ค่าเป็นเท็จ
<=   น้อยกว่าหรือเท่ากับ
                              (FALSE )เมื่อค่าในเซลล์ B2 น้อย
<    น้อยกว่า                 กว่าหรือเท่ากับ 5000
<>   ไม่เท่ากับ
เครื่องหมายในการอ้างอิง
: (โคล่อน) บอกช่วงข้อมูล (Range)
               เช่น A1:A5 หมายถึง จากเซลล์ A1 ถึง A5
การคานวณใน Worksheet

การสร้างสูตร (Formula)
1.   คลิกเซลล์ที่คุณต้องการป้อนสูตร
2.   พิมพ์ = (เครื่องหมายเท่ากับ)
3.   ป้อนสูตร
4.   กดแป้น ENTER
               =Cell [+ - * / ] Cell/Constant
                             เช่น
                 =A1+B1 หรือ =A1*5%
การสาเนาสูตร(copy สูตร)

1. คลิกในเซลล์สูตรต้นฉบับ
2. เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่มุมล่างขวาเซลล์ (Fill Handle)
3. ลากเมาส์ที่ + เพื่อก๊อปปี้สูตร ตามทิศทาง
   ผลลัพธ์ที่ต้องการ
เทคนิคการคานวณแบบรวดเร็ว

1. เลือกพื้นที่ แสดงผลลัพธ์ทั้งหมด
2. ใส่สูตรคานวณ
3. กด CTRL +ENTER
    เท่ากับใส่สูตร และ
    copy สูตรไปในตัว
การหาผลรวมอัตโนมัติ (AutoSum)
1.   คลิกในตาแหน่งผลลัพธ์ที่จะหาผลรวม
2.   คลิกที่ปุ่ม AutoSum
     โปรแกรมจะหาผลรวมให้อัตโนมัติ ในกรณีที่มีข้อมูล 2 ด้านคือ…
     ทางซ้าย และ ด้านบนโปรแกรม
     จะมองความสาคัญจากด้านบนมาก่อนเป็นลาดับแรก
การอ้างอิงตาแหน่ง cell
การอ้างอิงตาแหน่งเซลล์ในการคานวณมีผลกับการสาเนา
สูตรถ้าต้องการ สาเนาสูตรไปยังที่อื่น
1. อ้างอิง แบบ สัมพันธ์ (Relative)
    การอ้างอิงแบบนี้ ถ้ามีการสาเนาสูตร สูตรที่สาเนาไปจะมีการปรับ
    ตาแหน่ง cell ให้อัตโนมัติตามแนวข้อมูล
    เช่น =A1+B1 ถ้าสาเนาลง 1 แถวจะได้ =A2+B2
2. อ้างอิง แบบ สัมบูรณ์ (Absolute)
    การอ้างอิง แบบ Absolute ตาแหน่งเซลล์ที่อ้างอิงที่จะถูกล๊อค ด้วย
    เครื่องหมาย $ ค่าจะไม่เปลี่ยนแปลง
    =$A$1+$B$1 ถ้าสาเนาสูตรไปที่ไหนจะได้ค่าเดิม
การอ้างอิงแบบ สัมพัทธ์ (Relative)
• เมื่อเราทาสาเนาสูตร =A2+B3 ไปไว้ยังเซลล์ C5 ,
  Excel ก็ยังคงแปลสูตรเป็นเช่นเดิม โดย เทียบกับเซลล์
  C5 ดังนั้นที่เซลล์ C5 สูตรก็จะเป็น =C3+D4 ….ดังรูป
  …
การอ้างอิงแบบ สัมบูรณ์ (Absolute)
• เป็นการบอกให้ Excel ไปหาเซลล์ๆหนึ่งที่ระบุโดยไปยังตาแหน่งจริงๆของเซลล์นั้น
  ดังนั้นเมื่อมีการทาสาเนาสูตรไปยังเซลล์อื่น เซลล์ที่ระบุก็ยังเป็นตาแหน่งเซลล์เดิมอยู่
  การอ้างอิงแบบนี้ จะใช้ เครื่องหมาย $ กากับไว้หน้าชื่อคอลัมน์และเลขที่แถว ของ
  ตาแหน่งนั้น เช่น $A$4
  ตัวอย่างเช่น กาหนดสูตรไว้ใน A4 เป็น =$A$2+$B$3 เมื่อมีการทาสาเนาไปไว้ ที่
  เซลล์ C5 สูตรก็ยังคงตาแหน่งเดิม….ดังรูป…..
การใช้ Function
Function ที่ใช้งานบ่อยๆ

• Sum       หาผลรวมข้อมูล            =Sum(A1:A15,C20)
• Max       หาค่าสูงสุดของข้อมูล     =Max(C1:C10)
• Min       หาค่าต่าสุดของข้อมูล     =Min(C1:C10)
• Average   หาค่าเฉลี่ยของข้อมูล     =Average(C1:C10)
• Count     นับจานวนรายการข้อมูล     =Count(A1:D20)
• Round     ปัดเศษทศนิยม             =Round(D10,2)
• TODAY     แสดงวันที่ปัจจุบัน       =TODAY( )
• Date      หาค่าวันที่              =Date(year,month,day)
• Now( )    แสดงวันที่ปัจจุบันพร้อมเวลา =Now()
การวาง Function
• การเรียกใช้ Function จาก Paste Function




       คลิกไปใช้เมาส์เลือกพื้นที่      คลิกกลับมาที่คาสั่ง
การใช้ Formula Palette อีกวิธีหนึ่ง
1. คลิกที่เครื่องหมาย = ที่แถบสูตร
2. ทางด้านซ้ายมือแถบสูตรจะปรากฏ ชื่อของ Function ขึ้นมา
3. คลิกเลือก function ที่ต้องการ
4. ใส่ค่าสมการของสูตรลงไ (พิมพ์ หรือเมาส์ลากได้)
ฟังก์ชั่นนับจานวนข้อมูล
นับจานวนข้อมูลในเซลล์ ทั้งหมด
=COUNTA เช่น =COUNTA(K4:K8)
นับจานวนข้อมูลที่เป็นตัวเลข
=COUNT เช่น =COUNT(K4:K8)
นับจานวนข้อมูลตามเงื่อนไขที่กาหนด
=COUNT(Range,”Criteria”)
=COUNTIF(K4:K9,">20000")
=COUNTIF(D4:H16,"lisa")
การตรวจสอบเงื่อนไขการทางาน
=IF(เงื่อนไข,ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงทา...,ไม่จริงทา)

 ตัวอย่าง
=IF(B3>C3,"Over Budget","OK")
=IF(A10=100,SUM(B5:B15),"")
=IF(A2>10000,B2*10%,B2*5%)
=IF(A2<=5000,B2*2%,IF(A2<=10000,B2*3%,B2*4%))
การใช้ IF ซ้อน IF
     ยอดขาย 1000-5000          ค่าคอมฯ 2%
               5001-10000      ค่าคอมฯ 3%
               10001-20000     ค่าคอมฯ 4%
               มากกว่า 20000   ขึ้นไปค่าคอมฯ 5%
=IF(And(ยอดขาย>1000,ยอดขาย<=5000),ยอดขาย*2%,
 IF(ยอดขาย<=10000,ยอดขาย*3%,
 IF(ยอดขาย<=20000,ยอดขาย*4%,ยอดขาย*5%)))
                                           AND เงื่อนไขและ
                                           OR เงื่อนไขหรือ
                                           NOT เงื่อนไขไม่จริง
VLOOKUP Function
• ค้นหาค่าในคอลัมน์ซ้ายสุดของตาราง แล้วส่งกลับค่าในแถวเดียวกันจากคอลัมน์ที่ระบุ
  ไว้ในตาราง เมื่อมีการระบุตาแหน่งของค่าการเปรียบเทียบในคอลัมน์ไปที่ด้านซ้ายของ
  ข้อมูลที่ต้องการค้นหา
VLOOKUP(lookup_value,table_array,col_index_num,range_lookup)
• lookup_value คือค่าที่จะหาในคอลัมน์แรกของ อาร์เรย์ ซึ่งอาจจะเป็นค่า การอ้างอิง
• table_array คือตารางของข้อมูลในที่ซึ่งข้อมูลถูกค้นหา ให้ใช้การอ้างอิงไปยังช่วงหรือ
  ชื่อของช่วง เช่น ฐานข้อมูลหรือรายการ
• ถ้า range_lookup เป็น TRUE ค่าในคอลัมน์แรกของ table_array จะต้องเรียงลาดับ
  จากน้อยไปหามาก ถ้า range_lookup เป็น FALSE โดยไม่ต้องจาเป็นต้องจัดเรียง
  table_array
• col_index_num คือหมายเลขคอลัมน์ใน table_array ซึ่งค่าภายในทีต้องการจะถูก
                                                                   ่
  ส่งกลับมา
• range_lookup คือคือค่าตรรกะ ที่ระบุว่าคุณต้องการให้ VLOOKUP ค่าตรรกะที่ระบุ
  ว่าคุณต้องการให้ HLOOKUP ค้นหาค่าที่ตรงกันอย่างแท้จริง False ค่าที่ตรงกัน True
  ค่าที่ใกล้เคียง
HLOOKUP Function
• ค้นหาค่าในแถวบนของตาราง หรือค้นหา อาร์เรย์ ของค่า แล้วส่งกลับค่าที่อยู่
  ในคอลัมน์เดียวกันจากแถวที่ระบุในตารางหรือในอาร์เรย์
HLOOKUP(lookup_value,table_array,row_index_num,range_lookup)
• Table_array คือตารางของข้อมูลที่ถูกค้นหา ให้ใช้การอ้างอิงไปยังช่วง
• Lookup_value คือค่าที่ต้องการค้นหาในแถวแรกของตาราง Lookup_value
  สามารถเป็นได้ทั้งค่า การอ้างอิง
• row_index_num คือหมายเลขแถวใน table_array ซึ่งมีการส่งค่าที่ตรงกัน
  กลับ row_index_num ของ 1 จะส่งกลับค่าแถวแรกใน table_array
• Range_lookup คือค่าตรรกะที่ระบุว่าคุณต้องการให้ HLOOKUP ค้นหาค่าที่
  ตรงกันอย่างแท้จริง False ค่าที่ตรงกัน True ค่าที่ใกล้เคียง
การทางานแบบ Multiple Area
• การป้อนข้อมูลแบบ Multiple Cell
  1. คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการป้อนข้อมูลพร้อมๆกัน
  2. พิมพ์ข้อความ
  3. กดแป้น CTRL+ ENTER
• การทา Group Worksheet
  1. คลิกที่ชื่อ sheet ที่ต้องการทางาน
  2. กดแป้น Shift หรือ Ctrl เลือกคลิกที่ sheet ที่ต้องการ
  3. พิมพ์ข้อความ
  4. กดแป้น CTRL+ ENTER
      กด SHIFT                                        กด CTRL
สร้างสูตรคานวณ ระหว่าง Worksheet

                             =ชื่อชีท!ชื่อเซลล์
                             =Sheet!Cell
ตัวอย่าง
=Payment!C2-Income!B5


 Tips: ควรใช้เมาส์ในการเลือกตาแหน่งเซลล์ที่จะนามาใช้งาน
 จะขึ้นแสดงการอ้างอิงเซลล์ ชื่อชีทและตาแหน่งให้อัตโนมัติ
การคานวณระหว่าง Workbook(File)

• ต้องระบุชื่อไฟล์ ชื่อชีท และตาแหน่งเซลล์ให้ครบ
          =[ชื่อไฟล์.XLS]ชื่อชีท!เซลล์
          =[File Name]sheet Name!Cell
ตัวอย่าง
=[Sales1.xls]Jan!$B$6+[Sales2.xls]Feb!$A$5

 Tips: ควรใช้เมาส์ในการเลือกตาแหน่งเซลล์ที่จะนามาใช้งาน
 จะขึ้นแสดงการอ้างอิงเซลล์ ชื่อไฟล์ ชื่อชีทและตาแหน่งให้อัตโนมัติ
การประยุกต์ใช้โปรแกรม MS-PowerPoint
• การสร้างสื่อการสอน
ส่วนประกอบของโปรแกรม
                                            Control Button
                  Title Bar
  Menu Bar
    Tools Bar
   Outline &
Slide Thumbnail




   Slide Area




  View Bar
                                           Task Pane
          Status Bar
การสร้างงานนาเสนอใหม่ (New Presentation)
1. คลิกที่เมนู File  New
2. เลือกการสร้าง จากคาสั่ง Task Pane
      Blank presentation
       สร้างงานพรีเซนว่างๆ
      From design template
       สร้างงานพรีเซนจากแม่แบบ
      From AutoContent Wizard
       สร้างงานพรีเซนจากแม่แบบที่เตรียมไว้
      From existing presentation
       สร้างงานจากพรีเซนที่มีอยู่แล้ว
      Photo album
Slide Layout

 เลือก Layout ในการแสดงผล
  ของสไลด์ในรูปแบบต่างๆ
• คลิกเมนู
   Format  Slide Layout

               คลิกเลือก Layout ที่ต้องการ
Slide View (มุมมองสไลด์)
1. Normal View         มุมมองปกติ(Tri Pane)
2. Slide Sorter View   มุมมองสไลด์รวมทั้งหมด
3. Slide Show          แสดงสไลด์โชว์ในแผ่นปัจจุบัน
                  1      2       3
การเพิ่มสไลด์ (New Slide)
วิธีที่ 1
•           คลิกเลือกเมนู Insert  New Slide
•           หรือกด CTRL+M
    (จะได้สไลด์ในรูปแบบ Bullets List)

วิธีที่ 2
•           คลิกที่ปุ่ม
•           คลิกเปลี่ยนแบบสไลด์ Slide Layout
การออกแบบสไลด์ด้วย Template

1. คลิกที่เมนู Format  Slide Design
   หรือคลิกเลือกคาสั่ง Slide Design
2. ในหน้าต่างTask Paneคลิกเลือกแบบสไลด์แม่แบบ
   (เปลี่ยนรูปแบบให้กับสไลด์ทุกแผ่น)
3. คลิกเมาส์ขวาที่แบบ รูปแบบ Slide Design
      •Apply to All Slides : ใช้กับสไลด์ทุกแผ่น
      •Apply to Selected Slides : ใช้กับแผ่นที่เลือกแผ่นเดียว
      •Show Large Previews : แสดงแม่แบบที่เลือกให้ใหญ่ขึ้น
การจัดรูปแบบพื้นหลังสไลด์ (Background)
1. คลิกเมนู Format  Background
    หรือคลิกเมาส์ขวาที่ว่าง ๆ บนพื้นสไลด์ แล้วเลือก Background
2. เลือกสีที่ต้องการ
   หรือเลือกสีอื่นๆ More Colors
   และสีแบบพิเศษ Fill Effect


    คลิกเพื่อซ่อนกราฟิกจากมาสเตอร์
การใช้สี Fill Effect

Gradient      Textures        Pattern          Picture




   ไล่โทนสี       สีพื้นผิว       สีลวดลาย          รูปภาพ
การทางานกับข้อความ (Text)
 1. เลือกข้อความ
     1.1 ทาแถบสีเฉพาะข้อความ  เลือกบางส่วน
     1.2 คลิกที่ขอบข้อความ  เลือกทั้งหมด
 2. เลือกการจัดรูปแบบกับข้อความ
                      ตัวเอียง                              เพิ่มขนาด
              ตัวหนา/เข้ม        แรเงา      กระจายข้อความ
                                                                   จัดตาแหน่ง




แบบตัวอักษร                 ขีดเส้นใต้                          ลดขนาด
              ขนาดตัวอักษร         ชิดซ้าย จัดชิดขวา
                                                                          สีอักษร
                                         จัดกึ่งกลาง
การใส่สัญลักษณ์และเลขลาดับ

• Bullets and Numbering
1. เลือกข้อความ
2. คลิกที่ปุ่มแสดง Bullets
    หรือปุ่ม Numbering
3. เลือกรูปแบบของสัญลักษณ์เพิ่มเติม
    คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering...
เลือกสัญลักษณ์เพิ่มเติม

 • คลิกเมนู Format Bullets and numbering
 • คลิกที่ปุ่ม
 • คลิกที่ปุ่ม




จากฟอนต์สัญลักษณ์ชื่อ windings,Wingding1,2.3
กาหนดระยะห่างของบรรทัด

  • เลือกกรอบข้อความ
  • เลือกเมนู Format  Line Spacing
                                      ใช้เครื่องมือจัด
ระยะห่างบรรทัด                        เพิ่มระยะห่างบรรทัด
  ก่อนย่อหน้า

  หลังย่อหน้า
                                       ลดระยะห่างบรรทัด
แทรกรูป Insert Clip Art
• จากเมนู InsertPictureClip Art
  หรือเลือกคาสั่งจากหน้าต่างงาน Task Pane
         ค้นหาจากข้อความ-ชื่อรูปภาพ-
         ประเภทรูปภาพเช่น. *.jpg ,*.gif ,
         *.wmf ฯลฯ

   เลือกแหล่งที่เก็บรูปภาพ
   ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์


             เลือกประเภทรูปภาพ-เสียง-ภาพเคลื่อนไหว
             วีดิโอ Clip Art,Movies,Sound
การใส่รูป

1. เห็นรูปภาพปรากฎ           ขยายหน้าต่างรูป

2. กดเมาส์ค้างที่รูปภาพ
3. ลากรูป ออกมาวางที่สไลด์
การรวบรวมรูปภาพ Clip Organize
• คลิกที่คาสั่ง
                           รูปภาพที่มีในโฟล์เดอร์ต่างๆ


                                                         Clip onlineค้นหารูป
  Search ค้นหารูป                                        จากเว็บ


รูปภาพที่แสดงอยู่
ปัจจุบันจากโฟล์เดอร์
ต่างๆภายในเครื่อง
แทรกไฟล์รูปภาพ
1.จากเมนู InsertPictureFrom File
2. เลือกตาแหน่งที่เก็บรูป
3. เลือกการแสดงรูป แบบ Thumbnails
   จากปุ่ม View
4. คลิกเลือกรูป ที่ต้องการ
5. คลิกที่ปุ่ม Insert
การวาดรูป (Drawing Picture)

• เปิดเครื่องมือวาดรูปขึ้นมา
• จากเมนู ViewToolbarsDrawing
AutoShape รูปทรงสาเร็จรูป
                                     ลูกศรทรงต่างๆ

    รูปทรงทั่วไป




รูปดาวและ                           ผังลาดับ
ป้ายประกาศ                          การทางาน




  กล่องข้อความ                      ปุ่มกดเก็บคาสั่ง
                                    พวก Hyperlink
การหมุนรูปทรงต่าง ๆ (Rotate)

1.   คลิกที่ รูปทรง/รูปภาพ ที่จะหมุน
2.   เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ จุดที่จะหมุน (สีเขียว)
3.   กดเมาส์ค้างไว้
4.   ลากหมุนตามทิศทาง ที่ต้องการ
การจัดลาดับวัตถุ
• ในกรณีมีวัตถุซ้อนกัน หลายชั้นต้องจัดลาดับ ก่อน-หลัง
• คลิกเมาส์ขวาที่รูปภาพ/ข้อความเลือกคาสั่ง Order

  ดึงมาออกมาหน้าสุด
  ส่งไปอยู่หลังสุด
  ดึงมาข้างหน้า 1 ระดับ
  ส่งไปข้างหลัง 1 ระดับ
การทากลุ่มวัตถุ (Group)
1. เลือกวัตถุ ที่จะทากรุ๊ป (กด Shift+Click เลือกมากกว่า 1ชิ้น)
2. คลิกเมาส์ขวา เลือกคาสั่ง Grouping




การยกเลิกการรวมกลุ่ม                การรวมกลุ่มใหม่
1. คลิกเมาส์ขวา ที่รูปภาพ           1. คลิกเมาส์ขวา ที่รูปภาพ
2. เลือกคาสั่ง Grouping             2. เลือกคาสั่ง Grouping
3. เลือก                            3. เลือก
การแทรก Diagram
1.คลิกที่ปุ่มแทรก ไดอะแกรม
2. เลือกรูปแบบ ไดอะแกรม ที่ต้องการ
3. คลิก-ใส่เนื้อความลงในบ๊อกซ์ต่างๆ ตามลาดับ และตกแต่ง
การตกแต่ง Diagram
• จากเครื่องมือ Diagram
 แทรกไดอะแกรมเพิ่ม                      เปลี่ยนแบบ
                     เลื่อนไดอะแกรมลง




    เลื่อนไดอะแกรมขึ้น
                           จัดรูปแบบ AutoFormat เปลี่ยนรูปแบบไดอะแกรม

               กลับไดอะแกรม
การใส่อักษรศิลป์ (WorkArt)

1.   คลิกที่ปุ่ม Insert WordArt
2.   เลือกแบบของเวิร์ดอาร์ตOk
3.   พิมพ์ข้อความ
4.   เลือกแบบอักษรOk
การตกแต่ง WordArt

• คลิกที่ข้อความของ WordArt จะปรากฏเครื่องมือขึ้นมา


  แก้ไขข้อความ                                 รูปแบบ สีพื้น-สีเส้น
                        เปลี่ยนแบบ




                 เปลี่ยนรูปทรง                           จัดช่องไฟตัวอักษร
                                                จัดตาแหน่งข้อความ
                                          เปลี่ยนแนวข้อความ ตั้ง-นอน
                                     จัดตัวอักษรเท่ากัน พิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก
การแทรกเสียง
•    เลือกเมนู Insert  Movies and Sound
•    เลือก Sound From Clip Organizer ไฟล์เสียงจากคลิป
•    เลือก Sound From File ไฟล์เสียงภายในเครื่อง
     .wav หรือ mp3
1.   เลือก Sound From File
2.   เลือกชื่อไฟล์เสียง Ok
3.   ตอบ Yes ถ้าถามว่าต้องการจะเล่นอัตโนมัตหรือไม่
                                           ิ
4.   จะปรากฎไอคอนเสียงรูปลาโพง
การแทรกภาพยนตร์-ภาพวิดีโอ

• เลือกเมนู Insert  Movies and Sound
• เลือก Movie From Clip Organizer ไฟล์ภาพยนตร์จากคลิป
• เลือก Movie From File ไฟล์ภาพยนตร์ภายในเครื่อง
  ไฟล์ .AVI ,.Dat
1. เลือก Movie From File
2. เลือกชื่อไฟล์ภาพยนตร์  Ok
3. ตอบ Yes ถ้าถามว่าต้องการจะเล่น
   อัตโนมัติมั้ย
4. จะปรากฎกรอบภาพยนตร์ขึ้นมา
การสร้างกราฟ (Chart)
•    จากเมนู Insert Chart หรือคลิกไอคอน
•    หรือ Insert  New Slide แบบทีมี Chart
                                  ่
1.   เลือกการสร้างกราฟ
2.   พิมพ์ข้อมูล ลงไปในชีท Datasheet
     (ลบข้อมูลตัวอย่างทิ้ง)
3.   ปิดหน้าต่างชีทข้อมูล  ตกแต่งกราฟตามต้องการ
ส่วนประกอบของกราฟ
                             Chart Title
                             อธิบายภาพรวมกราฟ                                                    Data Labels
                                                                                                 ค่าชุดข้อมูล
                                                   1st QTR Sales
       Scale unit            100
       ค่าของข้อมูล                                                          90                       Gridline
                              80                                                                      เส้นกริด

Value Axis Title              60
                   Million



คาอธิบายแกน Y                                                         46.9                            Legends
                                                 45.9                                    45
                              40                               38.6                             Jan   อธิบายชุด
                                                                                  34.6
                                          30.6          27.4
                                                                                                Feb
                                                                                                      ข้อมูล
                                   20.4                                                         Mar
                              20
    Value Y Axis
    ชุดข้อมูล แกน Y            0
                                      2000                 2001                   2002        Category X Axis
                                                                                              ชุดข้อมูลแกน X
                             Category Axis TitleYear
                             คาอธิบาย แกน X
การใช้เครื่องมือ Chart

                                พล๊อตข้อมูลแนว column

                        แสดงชีทข้อมูล           แสดงเส้นกริดแนวตั้ง
ชื่อส่วนประกอบในกราฟ                                  แสดงเส้นกริดแนวนอน




      จัดรูปแบบส่วนที่เลือก
                         พล๊อตข้อมูลแนว Row       แสดงคาอธิบายชุดข้อมูล

                                    เลือกประเภทของกราฟ


                                                กาหนดสีให้ส่วนประกอบที่เลือก
เปลี่ยนประเภทของกราฟ
• จากเมนู ChartChart Type
                                                             1st QTR Sales
                                       100
                                                                                       90
                                        80
                                        60




                             Million
                                                           45.9                 46.9                45   Jan
                                        40                               38.6
                                                                                            34.6         Feb
                                                    30.6          27.4
                                             20.4                                                        Mar
                                        20
                                         0
                                                2000                 2001                   2002

                                                                    Year

                                                                    1st QTR Sales


                                                                                             20.4



                                                                                                         27.4
                                                                                                           2000
                                                                                                           2001
                                                                                                           2002


                                        90
กาหนดรายละเอียดให้กับกราฟ

• จากเมนู Chart  Chart Options

Titles ใส่คาอธิบายกราฟ

Axes ชุดข้อมูล

Gridlines แสดงเส้นกริด

Data Labels แสดงข้อมูลกากับกราฟ

Data Table แสดงตารางข้อมูลประกอบ
การกาหนด Effect การแสดงของกราฟ
1.   คลิกเมาส์ขวา ที่กราฟ
2.   เลือก Custom Animation
3.   เลือก Add Effect
4.   คลิกเมาส์ขวา ที่ชื่อของกราฟ ที่ใส่ Effect
5.   เลือกคาสั่ง Effect Options

                              As one object        แสดงรวดเดียวทั้งหมด
                              By series            แสดงทีละชุดข้อมูลแกน Y
                              By category          แสดงทีละชุดข้อมูลแกน X
                              By element in series แสดงทีละหน่วยแกน Y
                              By element in category แสดงทีละหน่วยแกน X
การสร้างตาราง (Table)

         Column
                            ส่วนประกอบของตาราง
        คอลัมน์
                            •คอลัมน์ (Column)
Row
แถว
                            •แถว (Row)
 Cell                       •เซลล์ (Cell)
เซลล์
การแก้ไข-ปรับแต่งตาราง
   No.        Product Name             Price
                                                     เครื่องมือชุด
   1          Sony                     5900          Table and Border
   2          Panasonic                6000

ดินสอ ขีดตารางเพิ่ม   ลักษณะส้น      ขนาดของเส้น    สีของเส้น   แสดงเส้นขอบ


                                                                       สีพื้นตาราง



                                                                    ปรับคอลัมน์ให้เท่ากัน



            รวม-แยกเซลล์   จัดตาแหน่งข้อความ   ปรับแถว/คอลัมน์ให้เท่ากัน
การเพิ่ม - ลบ ตาราง
การเพิ่ม แถว-คอลัมน์
                                  เลือกคาสั่ง แทรก-Insert ,ลบ
1. คลิกที่เครื่องมือ                 Deleteจากคาสั่ง Table
2. ขีดเส้น ในตาแหน่งที่ต้องการ

การลบ เส้น แถว-คอลัมน์                            แทรกคอลัมน์ซ้าย
                                                  แทรกคอลัมน์ขวา
1.   คลิกที่เครื่องมือ                        แทรกแถวบน
                                              แทรกแถวล่าง
2.   ลบเส้น ในตาแหน่งที่ต้องการ
                                            ลบคอลัมน์
                                            ลบแถว
การใส่ Effect เปลี่ยนสไลด์
ใส่ลูกเล่นให้กับการเปลี่ยนสไลด์ในเวลาสั่งโชว์
1. อยู่ที่สไลด์แผ่นที่ต้องการใส่ Effect
2. เลือกเมนู Slide show  Slide Transition
   หรือคลิกเลือกจากหน้าต่าง Task Pane
3. คลิกเลือกชื่อ Effect
4. เลือกความเร็ว Speed และใส่เสียง Sound
5. คลิก Apply to All Slides
   กาหนดให้เหมือนกันทุกสไลด์
6. คลิก Play เพื่อขอดู Effect
   หรือคลิก Slide Show
การใส่ Effect การเคลื่อนไหวให้กับข้อความ
จะมีผลกับข้อความไตเติ้ลและข้อความที่เป็น Bullets เท่านั้น

1.อยู่ในสไลด์แผ่นที่จะใส่ Effect

2.คลิกเลือกคาสั่ง Slide Design- Animation Schemes

จากTask Pane

1.คลิกเลือกชื่อของ Effect ที่ต้องการ
ดูตัวอย่าง กาหนดให้กับ 1 แผ่น

2.คลิก Apply to All Slide

กาหนดให้สไลด์ทุกแผ่นใช้ Effect เดียวกัน
ประเภทของ Animation Schemes

• No Animation   ยกเลิกไม่ใช้เอฟเฟ็กซ์

• Subtle         แบบเรียบๆไม่หวือหวามาก

• Moderate       เอฟเฟ็กซ์แบบปานกลาง

• Exciting       เอฟเฟ็กซ์แบบที่หวือหวามากทาให้น่าสนใจ
การกาหนด Effect ต่าง ๆ เอง

• Custom Animation คือ ผู้ใช้สามารถกาหนด Effect
  ให้กับวัตถุในสไลด์เองได้ทั้ง ข้อความ - รูปภาพ และ
  สามารถจัดลาดับการแสดงได้ตามลาดับที่ต้องการ
ขั้นตอนการสร้าง Custom Animation
1. อยู่ในสไลด์แผ่นที่จะใส่ Effect
2. คลิกที่วัตถุที่จะใส่ Effect (กาหนดทีละวัตถุ)
3. เลือกคาสั่ง Custom Animation จากการคลิกเมาส์ขวา หรือจากหน้าต่าง Task Pane
4. คลิกที่ปุ่ม Add Effect
5. เลือกประเภทของ Effect
   Entrance เข้ามาครั้งแรก
   Emphasis เน้นเมื่อมาถึง
   Exit เคลื่อนไหวออกไป
   Motion Path เคลื่อนไหวตามเส้นทางที่กาหนด
Add Effect
Entrance              Emphasis




                  Motions Paths
           Exit
More Effect ของ Entrance

•   Basic      เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา
•   Subtle     เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ
•   Moderate   เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง
•   Exciting   เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
More Effect ของ Emphasis

•   Basic      เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา
•   Subtle     เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ
•   Moderate   เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง
•   Exciting   เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
More Effect ของ Exit

•   Basic      เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา
•   Subtle     เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ
•   Moderate   เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง
•   Exciting   เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
More Effect ของ Motion Paths
• Basic เคลื่อนไหวตามเส้นทางธรรมดา
• Line &Curves เคลื่อนไหวตามลักษณะเส้น
• Special เคลื่อนไหวตามเส้นทางพิเศษ


                             เริ่มต้น(เขียว)




                          สิ้นสุด(แดง)

  เคลื่อนไหวเตามรูปทรง
กาหนดความเร็วและการแสดงของวัตถุ
• Start ให้เริ่มแสดงเมื่อ            • Speed ความเร็ว




                                     Slow           ช้า
                                     Very slow      ช้ามาก
• On Click เมื่อมีคลิกเมาส์          Fast           เร็ว
• With Previous พร้อมวัตถุก่อนหน้า   Very Fast      เร็วมาก
• After Previous หลังวัตถุก่อนหน้า   Medium         ปานกลาง
การจัดลาดับการแสดง (Order)
•    กรณีที่มีวัตถุในสไลด์หลายชิ้น และมีการใส่ Effect แล้วต้องการให้วัตถุชิ้นแสดง

     ก่อนหรือหลัง สามารถจัดลาดับได้

1.   คลิกที่ชื่อวัตถุ

2.   คลิกที่ลูกศร ขึ้น-ลง เพื่อจัดลาดับใหม่
การกาหนดตัวเลือกของ Effect เพิ่มเติม
  •    การตั้งเวลา
  •    การแสดงของข้อความ Text Animation
  1.   คลิกที่ชื่อวัตถุ ที่ใส่ Effect แล้ว
  2.   คลิกเมาส์ขวาเลือกคาสั่ง Effect Options
Animate Text      Timing เกี่ยวกับเวลา Text Animation เกี่ยวกับข้อความ
การแก้ไข และยกเลิก Effect
อยู่ที่คาสั่ง Custom Animation
• คลิกที่หมายเลขของ ลาดับวัตถุ (ที่มีการใส่เอฟเฟ็กซ์ไว้)
• คลิกที่ปุ่ม Change เปลี่ยนแบบ Effect
• คลิกที่ปุ่ม Remove ยกเลิก Effect
การใช้คาสั่งขณะนาเสนอ
คลิกเมาส์ขวาที่พื้นสไลด์
• Next เลื่อนขึ้น 1 แผ่น
• Previous เลื่อนถอยกลับ 1 แผ่น
• Last Viewed ไปยังสไลด์ที่แสดงหลังสุด
• Go to Slide ไปยังสไลด์ที่ต้องการ
• Custom Show แสดงสไลด์ที่กาหนดเอง
• Screen ทาหน้าจอว่างและเคลียร์จอภาพจากการใช้ Pen
• Pointer Option เลือกประเภทของเมาส์พอยเตอร์
• Help ตัวช่วย
• Pause หยุดการนาเสนอชั่วคราว
• End Show จบการแสดง
สร้างสื่อมัลติมีเดียด้วยโปรแกรม
            Microsoft Producer
ความสามารถของโปรแกรม Microsoft Producer
          โปรแกรม Microsoft Producer เป็นโปรแกรม
เสริมของ PowerPoint ซึ่งเพิ่มความสามารถในการจับภาพ
และเสียง การเชื่อมต่อ และการจัดส่งการนาเสนอ video,
เสียง, ภาพ, สไลด์ และเว็บเพจต่างๆ เพื่อให้การนาเสนอ
นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การนาเข้าไฟล์ Slide
• ในแถบของ Project File เลือก Slides
• ดับเบิลคลิกที่ปุ่ม Import Slides เพื่อทาการนาเข้าไฟล์งาน
  นาเสนอที่ได้สร้างไว้แล้ว
การนาเข้าไฟล์ Slide
•   เลือกไฟล์ Slide ที่ต้องการ จากไดอะล็อกซ์บ็อก Import Slides
•   คลิกปุ่ม
การนาเข้าไฟล์ Slide
•   โปรแกรมจะทาการ Import Slides
การนาเข้าไฟล์ Slide
•   เลือกหน้า Slides หน้าที่ต้องการ แล้วลากไปไว้ใน Timeline ในส่วน
    ของ Slide
การเพิ่มคาบรรยายในงานนาเสนอ
•   คลิกที่แท็บ Table of Contents
การเพิ่มคาบรรยายในงานนาเสนอ
• จะปรากฏหน้าต่างแสดงส่วนของหัวข้อหรือ Title
และส่วนของหน้าแรกงานนาเสนอ สามารถปรับแต่ง
เพิ่มเติมได้
การแสดงผลงาน
•   คลิกที่แท็บ Preview Presentation
การแสดงผลงาน
•   จะปรากฏหน้าต่างของการแสดงผลงานที่สร้างขึ้นตาม
    รูปแบบที่กาหนดไว้ สามารถคลิกเพื่อดู Slide , Video หรือ
    สื่ออื่นๆ ได้ตามต้องการ
•   คาสั่งในการใช้งานการแสดงผล Video จะแสดงผลทาง
    ด้านบน ของปุ่มคาสั่ง
•   หัวข้อของ Slide แต่ละแผ่น คลิกเลือกหัวข้อที่ต้องการจะ
    แสดงผลทางด้านขวา
การแสดงผลงาน
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

• บนแถบ Menu Bar คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Capture
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)
จะปรากฏหน้าต่างให้เลือกเพื่อที่จะทาการบันทึกคาบรรยายลงไปพร้อมกับภาพที่
Capture จากกล้อง Web Cam หรือ ไมโครโฟน
• Narrate Slides with Video and audio        Capture ทั้งสไลด์ ภาพจากกล้อง และ
  เสียงจากไมโครโฟน
• Narrate Slides with audio         Capture ทั้งสไลด์ และเสียงจากไมโครโฟน
• Video with audio          Capture เฉพาะภาพจากกล้องและเสียงจากไมโครโฟน
• Audio only       Capture เฉพาะเสียงจากไมโครโฟนอย่างเดียว
• Still image from video Capture เป็นภาพนิ่งอย่างเดียวจากกล้อง
• Still images from screen Capture เป็นภาพนิ่งอย่างเดียวจากหน้าจอ
• Video screen capture with audio Capture เสียงที่มีผลการแสดงภาพจากกล้อง
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

• คาสั่งบางคาสั่งไม่สามารถใช้งาน
  ได้เนื่องจากไม่ได้ต่ออุปกรณ์ชนิด
  นั้นไว้ เช่น
  Narrate slides with video and
  audio ใช้ไม่ได้เพราะไม่ได้ต่อ
  กล้อง web cam ไว้สาหรับจับ
  ภาพ
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

•   ที่ Target audience connection : เลือกความเร็วของ
    การเชื่อมต่อ Modem หรือความเร็วในการเชื่อมต่อ
    อินเทอร์เน็ต
•   ที่ Windows Media technology: ให้เลือกการเข้ารหัส
    codes ของการนาเสนอภาพ
•   คลิกที่ปุ่ม
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

•   ที่ Audio device : เลือกการบรรยายเสียงลงไปใน
    สไลด์จากไหน
•   ที่ Input source : เลือกสื่อที่ต้องการ เช่น ไมโครโฟน
    หรือ Line in (จากเครื่องเล่น CD)
•   ที่ Input level : ปรับระดับเสียงไมโครโฟนตาม
    ต้องการ
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

•   คลิกที่ปุ่ม     จะปรากฏหน้าต่าง โดยที่รูปด้าน
    ซ้ายมือจะเป็นหน้าการแสดงผลของสไลด์หรือวีดีโอ
    ส่วนรูปขวามือ (Capture Wizard) จะเป็นฟังก์ชั่นใน
    การควบคุมการเปลี่ยนสไลด์ หรือการเพิ่มเสียงลดเสียง
    การบรรยาย
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

•   คลิกที่ปุ่ม Capture เมื่อพร้อมที่จะทาการบรรยายเสียง
    ประกอบลงไปในสไลด์ (เมื่อคลิกที่ปุ่ม Capture จะ
    เปลี่ยนเป็นปุ่ม Stop)
•   คลิกที่ปุ่ม Next Slides เมื่อต้องการเปลี่ยนภาพสไลด์
    (จะเห็นว่าจะมีช่องแสดงบอกว่าตอนนี้อยู่ สไลด์ที่
    เท่าไหร่ จากทั้งหมดกี่สไลด์)
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)
การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ)

• เมื่อบรรยายประกอบสไลด์เสร็จ ให้กดปุ่ม Stop จากนั้น
  โปรแกรม Microsoft Producer จะให้บันทึกไฟล์เสียงที่
  บันทึกเสียงไปใหม่ เมื่อบันทึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาที่
  หน้อจอก่อนทาการบันทึกคาบรรยาย
• คลิกที่ปุ่ม           จะกลับมาแสดงผลในหน้าต่างของ
  Preview Presentation
• คลิกปุ่ม Play เพื่อทาการชมภาพการนาเสนองานพร้อมกับคา
  บรรยายที่ได้บรรยายลงไปในสไลด์
การ Pack and Go
• การ Pack and Go เป็นคาสั่งในการรวมไฟล์ต่างๆ ที่เรา
  นามาใช้ในงานนาเสนอ เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์วีดีโอ หรือไฟล์
  เสียง ให้มาอยู่ด้วยกันเป็นไฟล์เดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการ
  นาไปใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ที่ได้ติดตั้ง
  โปรแกรม Microsoft Producer 2003 ไว้ แต่ยังไม่สามารถ
  ใช้งานได้จริงทาง CD-ROM หรือทางเว็บไซต์ เพราะเป็น
  เพียงการรวมไฟล์เท่านั้น
การ Pack and Go
• คลิกที่เมนู Files  Pack and Go…
• จะปรากฏหน้าต่าง Pack and Go Wizard ให้คลิกที่ปุ่ม
ตั้งชื่อไฟล์ที่เราจะ Pack หรือจัดเก็บพร้อมทั้งตั้งชื่อโฟลเดอร์และ
กาหนดโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์
• ในกรณีที่ต้องการจัดเก็บในโฟลเดอร์อน ให้คลิกทีปุ่ม
                                             ื่           ่
เพื่อทาการเลือกโฟลเดอร์
• คลิกที่ปุ่ม              จะปรากฏ Project Archive Setting
• เลือกที่ One file เพื่อให้ Pack เป็นไฟล์เดียว
• คลิกที่ปุ่ม
การ Pack and Go

        1




                2




6


            3



                        4

    7               5
การ Pack and Go
• คลิกที่ปุ่ม Done เพื่อเสร็จสิ้นการทางาน




                                       8
การ Publish Presentation
• การ Publish Presentation เป็นการนาเสนองานผ่านสื่อ
  ต่างๆ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยให้ทาการเปิดไฟล์
  นาเสนอที่สร้างไว้แล้วขึ้นมา ในกรณีที่ไม่ได้ทาการ Pack
  and Go ไฟล์นาเสนอตามขั้นตอนที่ผ่านมา เมื่อเปิดไฟล์
  นาเสนอโปรแกรม Microsoft Producer จะถามหาไฟล์
  วีดีโอ หรือไฟล์เสียงที่ใช้ในงานนาเสนอ จะต้องไปเลือก
  ไฟล์ที่นามาใช้งานซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ที่ทาการบันทึกไว้
การ Publish Presentation
• คลิกเมนู File  Publish Presentation
• จะปรากฏหน้าต่าง Publish Wizard ขึ้นมาจากนั้นเลือก
  ออปชั่น My Computer เพื่อเลือกสร้างงานสาหรับเปิดใน
  เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือจะนาไปบันทึกลงแผ่นซีดี
  รวมทั้งสามารถนาเสนอผ่านเว็ปไซต์ได้อีกด้วย
• คลิกที่ปุ่ม
การ Publish Presentation

        2




1




                  3
การ Publish Presentation
•   พิมพ์ชื่อไฟล์ตามต้องการ
•   คลิกที่ปุ่ม       เมื่อต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์ที่จะใช้
    สาหรับบันทึกงาน
•   เลือกโฟลเดอร์เพื่อใช้สาหรับบันทึก และคลิกที่ปุ่ม
•   คลิกที่ปุ่ม
การ Publish Presentation


4

        5




                             6
    7
การ Publish Presentation
กรอกข้อมูล ดังนี้
• Title: คือส่วนที่ให้กาหนดชื่อเรื่องของงานาเสนอนี้
• Presenter (optional): คือส่วนที่ให้กาหนดชือผูบรรยาย (ซึ่งจะ
                                            ่ ้
  ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• Introduction Page image (optional): คือส่วนที่ให้ใส่รูปภาพ
  ในหน้าแรก
• Description(Optional): คือส่วนที่ใส่คาอธิบาย
• คลิกปุ่ม
การ Publish Presentation


8




    9
การ Publish Presentation
• คลิกเลือกที่ออปชั่น Choose publish settings for different
  audiences
• คลิกที่ปุ่ม
• ที่หัวข้อ Windows Media technology ควรเลือก Both
  Windows Media 8 and 9 codes เพื่อให้ใช้ได้กบ codes ทั้ง 8 และ
                                                 ั
  9 สาหรับเครื่องที่อาจใช้ codes เวอร์ชันเก่าๆ ได้ด้วย
• ที่หัวข้อ Target audience connection จะให้กาหนดคุณลักษณะ
  ของสื่อที่จะนาเสนอ ให้เลือกออปชั่น Local Playback or from
  a CD at 800 kbps ซึ่งจะมีความคมชัดมากที่สุด
• คลิกที่ปุ่ม
การ Publish Presentation


          12

10


          13




     11                     14
การ Publish Presentation
• ในกรณีที่ต้องการดูว่าไฟล์ใดบ้างที่จะถูกนามาใช้งาน ให้คลิกที่
  ปุ่ม List Files to be Published จะปรากฏหน้าต่างแสดง
  รายละเอียดของไฟล์ต่างๆ ขึ้นมา เมื่อดูเรียบร้อยแล้วคลิกที่ปุ่ม
  OK
• คลิกที่ปุ่ม
• โปรแกรม Microsoft Producer จะทาการ Publish ซึ่งจะมีแถบ
  แสดงความคืบหน้าการทางานและเวลาที่เหลือซึ่งจะมากหรือน้อย
  ขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์นาเสนอที่นามา Publish
การ Publish Presentation
การ Publish Presentation
•   เลือกเบราวเซอร์ที่ใช้งานอยู่เมื่อต้องการแสดงผลลัพธ์
    หรือคลิกที่ปุ่ม        เพื่อจบขั้นตอนการ Publish
•   คลิกที่ Play เพื่อดูผลที่ได้จากการ Publish
การ Publish Presentation
การ Publish Presentation
การ Publish Presentation
•   หลังจากที่ได้ทาการ Publish แล้ว เมื่อต้องการดูไฟล์
    ต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นงานนาเสนอ ให้ไปที่
    โฟลเดอร์ที่ทาการบันทึกไว้
การ Publish Presentation
Basiccom

More Related Content

What's hot

1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015
1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 20151.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015
1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015วิชา อาคม
 
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้นการใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้นgemini_17
 
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format)
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format) การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format)
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format) พัน พัน
 
การสร้างแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิการสร้างแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิMeaw Sukee
 
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 20151.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015วิชา อาคม
 
Original microsoft office word 2010 full
Original microsoft office word 2010 fullOriginal microsoft office word 2010 full
Original microsoft office word 2010 fullsomdetpittayakom school
 
Powerpoint2007
Powerpoint2007Powerpoint2007
Powerpoint2007supapud
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลchaiwat vichianchai
 
Lesson 5 การสร้าง form
Lesson 5 การสร้าง formLesson 5 การสร้าง form
Lesson 5 การสร้าง formErrorrrrr
 
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิ
ใบความรู้ที่  5 การสร้างแผนภูมิใบความรู้ที่  5 การสร้างแผนภูมิ
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิMeaw Sukee
 

What's hot (15)

1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015
1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 20151.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015
1.2 ส่วนต่างๆของหน้าจอของโปรแกรม sketch up 2015
 
Adobe Indesign
Adobe IndesignAdobe Indesign
Adobe Indesign
 
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้นการใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม InDesign เบื้องต้น
 
Lesson4
Lesson4Lesson4
Lesson4
 
Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format)
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format) การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format)
การจัดรูปแบบตัวเลขด้วยการกำหนดเอง (Custom format)
 
การสร้างแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิการสร้างแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิ
 
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 20151.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015
1.3 การทำงานด้านต่างๆของโปรแกรม sketch up 2015
 
Original microsoft office word 2010 full
Original microsoft office word 2010 fullOriginal microsoft office word 2010 full
Original microsoft office word 2010 full
 
Powerpoint2007
Powerpoint2007Powerpoint2007
Powerpoint2007
 
Slide sketchup
Slide sketchupSlide sketchup
Slide sketchup
 
Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใส่ข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลวิชา การจัดการฐานข้อมูล
 
Lesson 5 การสร้าง form
Lesson 5 การสร้าง formLesson 5 การสร้าง form
Lesson 5 การสร้าง form
 
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิ
ใบความรู้ที่  5 การสร้างแผนภูมิใบความรู้ที่  5 การสร้างแผนภูมิ
ใบความรู้ที่ 5 การสร้างแผนภูมิ
 

Viewers also liked

Nederland ict def
Nederland ict defNederland ict def
Nederland ict defschermerbw
 
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406painapat005
 
latihan produktif tkj
latihan  produktif tkjlatihan  produktif tkj
latihan produktif tkjFarida Ayuni
 
Profiling 04062013def
Profiling 04062013defProfiling 04062013def
Profiling 04062013defschermerbw
 
Wbp euroforum masterclass_bws_def
Wbp euroforum masterclass_bws_defWbp euroforum masterclass_bws_def
Wbp euroforum masterclass_bws_defschermerbw
 
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)schermerbw
 
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406painapat005
 
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...FLSmidth & Co. A/S.
 
Irisan Kerucut - Parabola
Irisan Kerucut - ParabolaIrisan Kerucut - Parabola
Irisan Kerucut - ParabolaFarida Ayuni
 

Viewers also liked (16)

Nederland ict def
Nederland ict defNederland ict def
Nederland ict def
 
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
 
latihan produktif tkj
latihan  produktif tkjlatihan  produktif tkj
latihan produktif tkj
 
Iir big data
Iir big dataIir big data
Iir big data
 
Profiling 04062013def
Profiling 04062013defProfiling 04062013def
Profiling 04062013def
 
Sistem Koloid
Sistem KoloidSistem Koloid
Sistem Koloid
 
Wbp euroforum masterclass_bws_def
Wbp euroforum masterclass_bws_defWbp euroforum masterclass_bws_def
Wbp euroforum masterclass_bws_def
 
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)
Introduction privacy and drones130902.pptx (alleen lezen)
 
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
คลื่นวิทยุ(ณภัทร+ณัช)406
 
latihann tkj
latihann tkjlatihann tkj
latihann tkj
 
MILITER INDONESIA
MILITER INDONESIAMILITER INDONESIA
MILITER INDONESIA
 
Basiccom
BasiccomBasiccom
Basiccom
 
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...
Cutting edge fabric filer design the fl smidth duo clean technology further e...
 
Irisan Kerucut - Parabola
Irisan Kerucut - ParabolaIrisan Kerucut - Parabola
Irisan Kerucut - Parabola
 
tkj
tkjtkj
tkj
 
Metode ilmiah
Metode ilmiahMetode ilmiah
Metode ilmiah
 

Similar to Basiccom

ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007
ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007
ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007tanongsak
 
คู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งานคู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน0882324871
 
ตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานKriangx Ch
 
การใช้งาน Ms word
การใช้งาน Ms wordการใช้งาน Ms word
การใช้งาน Ms wordMatee Witawasiri
 
การใช้งาน Visio
การใช้งาน Visioการใช้งาน Visio
การใช้งาน VisioMatee Witawasiri
 
ms word เบื้องต้น
ms word เบื้องต้นms word เบื้องต้น
ms word เบื้องต้นNawamin Intipeek
 
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003karnpitcha jeerasiri
 
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3Thanawat Boontan
 
คู่มือ Microsoft Word 2007
คู่มือ Microsoft Word 2007คู่มือ Microsoft Word 2007
คู่มือ Microsoft Word 2007lemonleafgreen
 
แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3wattaree
 
คู่มือ SketchUp
คู่มือ SketchUpคู่มือ SketchUp
คู่มือ SketchUpPiyaboon Nilkaew
 
การตกแต่งเอกสาร2010
การตกแต่งเอกสาร2010การตกแต่งเอกสาร2010
การตกแต่งเอกสาร2010พัน พัน
 

Similar to Basiccom (20)

Word2
Word2Word2
Word2
 
How to use WORD
How to use WORDHow to use WORD
How to use WORD
 
ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007
ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007
ใช้งานโปรแกรม Microsoft word2007
 
คู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งานคู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน
 
Word2007
Word2007Word2007
Word2007
 
ตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงานตอนที่4 การชิ้นงาน
ตอนที่4 การชิ้นงาน
 
การใช้งาน Ms word
การใช้งาน Ms wordการใช้งาน Ms word
การใช้งาน Ms word
 
การใช้งาน Visio
การใช้งาน Visioการใช้งาน Visio
การใช้งาน Visio
 
ms word เบื้องต้น
ms word เบื้องต้นms word เบื้องต้น
ms word เบื้องต้น
 
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003
C:\Users\Karnpitcha\Ms Power Point2003\Teach Power Point2003
 
Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3
พื้นฐาน Adobe Flash CS3 ตอนที่3
 
5
55
5
 
คู่มือ Microsoft Word 2007
คู่มือ Microsoft Word 2007คู่มือ Microsoft Word 2007
คู่มือ Microsoft Word 2007
 
E book
E bookE book
E book
 
แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3แบบสอน Program dreamweaver cs3
แบบสอน Program dreamweaver cs3
 
Word1
Word1Word1
Word1
 
4
44
4
 
คู่มือ SketchUp
คู่มือ SketchUpคู่มือ SketchUp
คู่มือ SketchUp
 
การตกแต่งเอกสาร2010
การตกแต่งเอกสาร2010การตกแต่งเอกสาร2010
การตกแต่งเอกสาร2010
 

Basiccom

  • 3. การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Office Word 2003 1. คลิกปุ่ม 2. ไปที่ All Programs  Microsoft Office  Microsoft Office Word 2003 3. เมื่อคลิกที่เมนูแล้วก็จะเข้าสู่โปรแกรม ดังรูป
  • 4. 1 2
  • 5. ส่วนประกอบของโปรแกรม Restore down Minimize Close Title Bar Menu Bar Toolbar Ruler Bar View Button Status Bar Scroll Bar Task Pane
  • 6. จัดรูปแบบตัวอักษรจาก Tools Bar • เลือกข้อความที่จะจัด • กาหนดจากแถบเครื่องมือ Formatting Justify Underline ชิดขอบ Font ตัวขีดเส้นใต้ แบบตัวอักษร Italic Align Right ตัวเอียง ชิดขวา Font Size ขนาดตัวอักษร Center Distributed Bold Align Left ตัวหนา กึ่งกลาง กระจายชิดขอบ ชิดซ้าย
  • 7. จัดรูปแบบตัวอักษรจาก Menu Bar • คลิกเมนู Format  Font Font : กาหนดลักษณะตัวอักษร Character Spacing : กาหนดระยะห่างของ ตัวอักษร Text Effects : กาหนดตัวอักษรเคลื่อนไหว Effects : ข้อความแบบพิเศษ เช่น -Shadow แรเงา -Outline ตัวโปร่ง -Superscript ตัวยก -Subscript ตัวห้อย
  • 8. การจัดระยะห่างย่อหน้า-ระยะห่างบรรทัด • คลิกเมนู Format  Paragraph Spacing : ระยะห่างของย่อหน้า Before หน้าย่อหน้า After หลังย่อหน้า Line Spacing : ระยะห่างบรรทัด Single ปกติ 1.5 Line เว้นไป 1.5 บรรทัด Double เว้นไป 2 บรรทัด
  • 9. การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup) • คลิกเมนู File  Page Setup • แท็บ Margin กาหนดขอบกระดาษ จะใช้กาหนดค่าระยะห่างจาก ข้อความกับขอบกระดาษของ หน้ากระดาษทั้ง 4 ด้าน Top ขอบบน Bottom ขอบล่าง Left ขอบซ้าย Right ขอบขวา Gutter เว้นขอบเย็บเล่ม Gutter position ตาแหน่งเว้นขอบ
  • 10. Bullets and Numbering การจัดสัญลักษณ์หัวข้อย่อย และเลขลาดับ Bullets List คือ สัญสักษณ์กากับหัวข้อรายการย่อย Numbering คือ ตัวเลขกากับลาดับของรายการย่อย การกาหนด Bullets and Numbering พื้นฐาน 1. เลือกรายการข้อความ 2. คลิกที่ปุ่มเครื่องมือ หรือ ตามต้องการ **ถ้าต้องการยกเลิกคลิกซ้าที่ปุ่มเครื่องมือ**
  • 11. กาหนดสัญลักษณ์เพิ่มเติม 1. คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering… 2. คลิกแท็บ Bulleted 3. เลือกแบบสัญลักษณ์ตามต้องการ คลิกปุ่ม customize เพื่อกาหนดเอง
  • 12. กาหนดตัวเลขเพิ่มเติม 1. คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering… 2. คลิกแท็บ Numbered 3. เลือกแบบตัวเลขตามต้องการ คลิกปุ่ม customize เพื่อกาหนดเอง
  • 13. การจัดเอกสารแบบคอลัมน์ (Column) 1. คลิกปุ่ม Column แล้วคลิกลากเลือกจานวนคอลัมน์ หรือ คลิกเมนู Format  Column… 2. กาหนดจานวนและรูปแบบของ คอลัมน์ 3. คลิกปุ่ม
  • 14. Header and Footer… • คลิกเมนู View  Header and Footer… Switch Between Header and Footer Show/Hide Document Text Page Setup Show Next Format Page Number แทรกข้อความอัตโนมัติ Insert Time Insert Page Number Insert Date Insert Number of Page Close Link to Previous Show Previous
  • 15. การกาหนดระยะแท็บ (Tab) 1. คลิกที่ปุ่ม ตั้งแท็บ – ด้านซ้ายมือของไม้บรรทัด (คลิกเปลี่ยน) 2. คลิกที่ตาแหน่งที่ต้องการบนไม้บรรทัด แท็บชิดซ้าย (Left) แท็บกึ่งกลาง (Center) แท็บชิดขวา (Right) แท็บตัวเลขแบบทศนิยม(Decimal) แท็บแบบเส้นบาร์ (Bar)
  • 16. กาหนดระยะแท็บ-เส้นนาแท็บ-ยกเลิกแท็บ คลิกเมนู Format  Tab • Default Tab Stop ค่าของแท็บอัตโนมัติ • Tab Stop Position หนดตาแหน่งแท็บใหม่/แก้ไขแท็บเดิม • Alignment การจัดข้อความในแท็บ • Leader เส้นนาแท็บ • Set กาหนดค่า • Clear ยกเลิกแท็บที่เลือก • Clear all ยกเลิกแท็บทั้งหมด
  • 17. การแทรกรูปภาพ (Insert Clip Art) 1. คลิกเมนู Insert  Picture  Clip Art… หรือ คลิกปุ่ม Insert Clip Art ที่ทูลบาร์ Drawing จะปรากฏ Clip Art ที่ Task Pane 2. พิมพ์ชื่อรูปที่ต้องการค้นหา 3. คลิกปุ่ม 4. คลิกเลือกรูปที่ต้องการ ตัวอย่างนามสกุลรูป : *.jpg , *.gif , *.wmf , *.bmp
  • 18. การแทรกไฟล์รูปภาพ (Insert picture) 1. คลิกเมนู Insert  Picture  From File… หรือ คลิกปุ่ม Insert Picture ที่ทูลบาร์ Drawing จะปรากฏไดอะล๊อกบ็อกซ์ 2. เลือกรูปภาพที่ต้องการ 3. คลิกปุ่ม
  • 19. เครื่องมือในการจัดการรูปภาพ บีบอัดรูปให้มีขนาดเล็ก Reset ค่า ปรับความคมชัด ตัดรูป จัดรูปแบบรูป ปรับแสง หมุนรูป ทาพื้นโปร่งใส สีของรูปภาพ เส้นขอบรูป จัดข้อความรอบๆรูป
  • 20. การจัดการกับข้อความรอบ ๆ รูป คลิกที่เครื่องมือรูปภาพ ปุ่ม Text Wrapping รูปภาพเหมือนตัวอักษร จัดเป็นสีเ่ หลี่ยมรอบ ๆ รูป จัดตามรูปทรงของรูปภาพ ส่งรูปไปไว้หลังข้อความ ส่งรูปมาหน้าข้อความ จัดข้อความให้อยู่ บน-ล่างรูป จัดตามรูปทรงของรูป ปรับทีละจุด ตามต้องการ
  • 22. การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Office Excel 2003 1. คลิกปุ่ม 2. ไปที่ Programs  Microsoft Office  Microsoft Office Excel 2003 3. เมื่อคลิกที่เมนูแล้วก็จะเข้าสู่โปรแกรม ดังรูป
  • 23. 1 2
  • 24. ส่วนประกอบของโปรแกรม Restore down Formula Bar Column Minimize Close Title Bar Menu Bar Toolbar Cell Name Box Row Worksheet Status Bar Scroll Bar Task Pane
  • 25. ชนิดของข้อมูลใน Excel • Text ข้อความ • Number ตัวเลข(Value) • Date วันที/่ เวลา • Formula สูตรคานวณ • Function สูตรคานวณจากโปรแกรม
  • 26. การป้อนข้อมูล • คลิกใน cell ที่ต้องการ • พิมพ์ข้อความ • กด Enter หรือลูกศร    
  • 27. การป้อนข้อมูลแบบ AutoFill January Qtr1 Monday Week1 1-Jan-00 February Qtr2 Tuesday Week2 2-Jan-00 March Qtr3 Wednesday Week3 3-Jan-00 April Qtr4 Thursday Week4 4-Jan-00 May Friday Week5 5-Jan-00 June Saturday Week6 6-Jan-00
  • 28. เลือกช่วงข้อมูลในการพิมพ์ การกาหนดช่วงเซลล์ (Cell Range) ใช้แป้นพิมพ์ช่วยในการเลือก CTRL เลือกพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง SHIFT เลือกพื้นทีต่อเนื่อง ่ คลิกที่ cell แรก กด Shif ค้างไว้ และคลิกที่ cell สุดท้าย กด Ctrl ค้างไว้และคลิกเลือกตามต้องการ
  • 29. การแทรก Row,Column • คลิกที่ Row Heading หรือ Column Heading แทรก Column • คลิกเมาส์ขวา เลือกคาสั่ง Insert แทรก Delete ลบ • หรือใช้เมนู Insert แทรก Row
  • 30. การแทรก Cell เลือก Cell หรือ Row /Column ที่จะแทรก เลือกเมนู Insert-Cell หรือ คลิกขวา เลือกการแทรกจากกรอบโต้ตอบ แทรกและขยับ cell ที่เลือกไปทางขวา แทรกและขยับ cell ที่เลือกลงข้างล่าง แทรกทั้งแถว row แทรกทั้งคอลัมน์ column
  • 31. การลบ Cell เลือก Cell หรือ Row / Column ที่จะลบ เลือกเมนู Edit  Delete หรือ คลิกขวา เลือกการลบจากกรอบโต้ตอบ ลบและขยับ cell ทางขวามาแทนที่ ลบและขยับ cell ข้างล่างขึ้นมาแทนที่ ลบทั้งแถว row ลบทั้งคอลัมน์ column
  • 32. การจัดรูปแบบ Cells • Font จัดแบบอักษร • Alignment จัดตาแหน่งข้อความ • Number รูปแบบตัวเลข,รูปแบบวันที่ • Border กาหนดเส้นขอบ • Pattern ใส่สี,ลวดลายพื้นเซลล์
  • 33. Format  Cells  Font แบบอักษร ขนาด ตัวหนา ตัวเอียง ขีดเส้นใต้ Size ขนาดตัวอักษร 72 Point= 1 นิ้ว
  • 34. Format  Cells  Alignment จัดชิดซ้าย จัดชิดขวา จัดกึ่งกลาง รวมเซลล์ จัดกึ่งกลาง
  • 35. Format  Cells  Number/Date Currency เปอร์เซ็นต์ เพิ่มทศนิยม ใส่คอมม่า ลบทศนิยม Date
  • 36. Format  Cells  Border Toolbar None ไม่เอาเส้น Outsize ตีเส้นล้อมพื้นที่ ที่เลือก Inside ตีเส้นด้านในพื้นที่ ที่เลือกมา Border แนวเส้นขอบ Line ลักษณะเส้น
  • 37. Format  Cells  Patterns Fill Color ใส่ลวดลาย Color สีพื้น Pattern ลวดลาย ตาราง,จุด
  • 39. เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เครื่องหมาย ความหมาย + บวก - ลบ * คูณ / หาร ^ ยกกาลัง
  • 40. เครื่องหมายในการเปรียบเทียบ(Operator) = เท่ากับ ตัวอย่างเช่น >= มากกว่าหรือเท่ากับ สูตร =B2>5000 จะให้ค่าเป็นจริง > มากกว่า (TRUE ) เมื่อค่าในเซลล์ B2 มากกว่า 5000จะให้ค่าเป็นเท็จ <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ (FALSE )เมื่อค่าในเซลล์ B2 น้อย < น้อยกว่า กว่าหรือเท่ากับ 5000 <> ไม่เท่ากับ
  • 41. เครื่องหมายในการอ้างอิง : (โคล่อน) บอกช่วงข้อมูล (Range) เช่น A1:A5 หมายถึง จากเซลล์ A1 ถึง A5
  • 42. การคานวณใน Worksheet การสร้างสูตร (Formula) 1. คลิกเซลล์ที่คุณต้องการป้อนสูตร 2. พิมพ์ = (เครื่องหมายเท่ากับ) 3. ป้อนสูตร 4. กดแป้น ENTER =Cell [+ - * / ] Cell/Constant เช่น =A1+B1 หรือ =A1*5%
  • 43. การสาเนาสูตร(copy สูตร) 1. คลิกในเซลล์สูตรต้นฉบับ 2. เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่มุมล่างขวาเซลล์ (Fill Handle) 3. ลากเมาส์ที่ + เพื่อก๊อปปี้สูตร ตามทิศทาง ผลลัพธ์ที่ต้องการ
  • 44. เทคนิคการคานวณแบบรวดเร็ว 1. เลือกพื้นที่ แสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 2. ใส่สูตรคานวณ 3. กด CTRL +ENTER เท่ากับใส่สูตร และ copy สูตรไปในตัว
  • 45. การหาผลรวมอัตโนมัติ (AutoSum) 1. คลิกในตาแหน่งผลลัพธ์ที่จะหาผลรวม 2. คลิกที่ปุ่ม AutoSum โปรแกรมจะหาผลรวมให้อัตโนมัติ ในกรณีที่มีข้อมูล 2 ด้านคือ… ทางซ้าย และ ด้านบนโปรแกรม จะมองความสาคัญจากด้านบนมาก่อนเป็นลาดับแรก
  • 46. การอ้างอิงตาแหน่ง cell การอ้างอิงตาแหน่งเซลล์ในการคานวณมีผลกับการสาเนา สูตรถ้าต้องการ สาเนาสูตรไปยังที่อื่น 1. อ้างอิง แบบ สัมพันธ์ (Relative) การอ้างอิงแบบนี้ ถ้ามีการสาเนาสูตร สูตรที่สาเนาไปจะมีการปรับ ตาแหน่ง cell ให้อัตโนมัติตามแนวข้อมูล เช่น =A1+B1 ถ้าสาเนาลง 1 แถวจะได้ =A2+B2 2. อ้างอิง แบบ สัมบูรณ์ (Absolute) การอ้างอิง แบบ Absolute ตาแหน่งเซลล์ที่อ้างอิงที่จะถูกล๊อค ด้วย เครื่องหมาย $ ค่าจะไม่เปลี่ยนแปลง =$A$1+$B$1 ถ้าสาเนาสูตรไปที่ไหนจะได้ค่าเดิม
  • 47. การอ้างอิงแบบ สัมพัทธ์ (Relative) • เมื่อเราทาสาเนาสูตร =A2+B3 ไปไว้ยังเซลล์ C5 , Excel ก็ยังคงแปลสูตรเป็นเช่นเดิม โดย เทียบกับเซลล์ C5 ดังนั้นที่เซลล์ C5 สูตรก็จะเป็น =C3+D4 ….ดังรูป …
  • 48. การอ้างอิงแบบ สัมบูรณ์ (Absolute) • เป็นการบอกให้ Excel ไปหาเซลล์ๆหนึ่งที่ระบุโดยไปยังตาแหน่งจริงๆของเซลล์นั้น ดังนั้นเมื่อมีการทาสาเนาสูตรไปยังเซลล์อื่น เซลล์ที่ระบุก็ยังเป็นตาแหน่งเซลล์เดิมอยู่ การอ้างอิงแบบนี้ จะใช้ เครื่องหมาย $ กากับไว้หน้าชื่อคอลัมน์และเลขที่แถว ของ ตาแหน่งนั้น เช่น $A$4 ตัวอย่างเช่น กาหนดสูตรไว้ใน A4 เป็น =$A$2+$B$3 เมื่อมีการทาสาเนาไปไว้ ที่ เซลล์ C5 สูตรก็ยังคงตาแหน่งเดิม….ดังรูป…..
  • 50. Function ที่ใช้งานบ่อยๆ • Sum หาผลรวมข้อมูล =Sum(A1:A15,C20) • Max หาค่าสูงสุดของข้อมูล =Max(C1:C10) • Min หาค่าต่าสุดของข้อมูล =Min(C1:C10) • Average หาค่าเฉลี่ยของข้อมูล =Average(C1:C10) • Count นับจานวนรายการข้อมูล =Count(A1:D20) • Round ปัดเศษทศนิยม =Round(D10,2) • TODAY แสดงวันที่ปัจจุบัน =TODAY( ) • Date หาค่าวันที่ =Date(year,month,day) • Now( ) แสดงวันที่ปัจจุบันพร้อมเวลา =Now()
  • 51. การวาง Function • การเรียกใช้ Function จาก Paste Function คลิกไปใช้เมาส์เลือกพื้นที่ คลิกกลับมาที่คาสั่ง
  • 52. การใช้ Formula Palette อีกวิธีหนึ่ง 1. คลิกที่เครื่องหมาย = ที่แถบสูตร 2. ทางด้านซ้ายมือแถบสูตรจะปรากฏ ชื่อของ Function ขึ้นมา 3. คลิกเลือก function ที่ต้องการ 4. ใส่ค่าสมการของสูตรลงไ (พิมพ์ หรือเมาส์ลากได้)
  • 53. ฟังก์ชั่นนับจานวนข้อมูล นับจานวนข้อมูลในเซลล์ ทั้งหมด =COUNTA เช่น =COUNTA(K4:K8) นับจานวนข้อมูลที่เป็นตัวเลข =COUNT เช่น =COUNT(K4:K8) นับจานวนข้อมูลตามเงื่อนไขที่กาหนด =COUNT(Range,”Criteria”) =COUNTIF(K4:K9,">20000") =COUNTIF(D4:H16,"lisa")
  • 55. การใช้ IF ซ้อน IF ยอดขาย 1000-5000 ค่าคอมฯ 2% 5001-10000 ค่าคอมฯ 3% 10001-20000 ค่าคอมฯ 4% มากกว่า 20000 ขึ้นไปค่าคอมฯ 5% =IF(And(ยอดขาย>1000,ยอดขาย<=5000),ยอดขาย*2%, IF(ยอดขาย<=10000,ยอดขาย*3%, IF(ยอดขาย<=20000,ยอดขาย*4%,ยอดขาย*5%))) AND เงื่อนไขและ OR เงื่อนไขหรือ NOT เงื่อนไขไม่จริง
  • 56. VLOOKUP Function • ค้นหาค่าในคอลัมน์ซ้ายสุดของตาราง แล้วส่งกลับค่าในแถวเดียวกันจากคอลัมน์ที่ระบุ ไว้ในตาราง เมื่อมีการระบุตาแหน่งของค่าการเปรียบเทียบในคอลัมน์ไปที่ด้านซ้ายของ ข้อมูลที่ต้องการค้นหา VLOOKUP(lookup_value,table_array,col_index_num,range_lookup) • lookup_value คือค่าที่จะหาในคอลัมน์แรกของ อาร์เรย์ ซึ่งอาจจะเป็นค่า การอ้างอิง • table_array คือตารางของข้อมูลในที่ซึ่งข้อมูลถูกค้นหา ให้ใช้การอ้างอิงไปยังช่วงหรือ ชื่อของช่วง เช่น ฐานข้อมูลหรือรายการ • ถ้า range_lookup เป็น TRUE ค่าในคอลัมน์แรกของ table_array จะต้องเรียงลาดับ จากน้อยไปหามาก ถ้า range_lookup เป็น FALSE โดยไม่ต้องจาเป็นต้องจัดเรียง table_array • col_index_num คือหมายเลขคอลัมน์ใน table_array ซึ่งค่าภายในทีต้องการจะถูก ่ ส่งกลับมา • range_lookup คือคือค่าตรรกะ ที่ระบุว่าคุณต้องการให้ VLOOKUP ค่าตรรกะที่ระบุ ว่าคุณต้องการให้ HLOOKUP ค้นหาค่าที่ตรงกันอย่างแท้จริง False ค่าที่ตรงกัน True ค่าที่ใกล้เคียง
  • 57. HLOOKUP Function • ค้นหาค่าในแถวบนของตาราง หรือค้นหา อาร์เรย์ ของค่า แล้วส่งกลับค่าที่อยู่ ในคอลัมน์เดียวกันจากแถวที่ระบุในตารางหรือในอาร์เรย์ HLOOKUP(lookup_value,table_array,row_index_num,range_lookup) • Table_array คือตารางของข้อมูลที่ถูกค้นหา ให้ใช้การอ้างอิงไปยังช่วง • Lookup_value คือค่าที่ต้องการค้นหาในแถวแรกของตาราง Lookup_value สามารถเป็นได้ทั้งค่า การอ้างอิง • row_index_num คือหมายเลขแถวใน table_array ซึ่งมีการส่งค่าที่ตรงกัน กลับ row_index_num ของ 1 จะส่งกลับค่าแถวแรกใน table_array • Range_lookup คือค่าตรรกะที่ระบุว่าคุณต้องการให้ HLOOKUP ค้นหาค่าที่ ตรงกันอย่างแท้จริง False ค่าที่ตรงกัน True ค่าที่ใกล้เคียง
  • 58. การทางานแบบ Multiple Area • การป้อนข้อมูลแบบ Multiple Cell 1. คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการป้อนข้อมูลพร้อมๆกัน 2. พิมพ์ข้อความ 3. กดแป้น CTRL+ ENTER • การทา Group Worksheet 1. คลิกที่ชื่อ sheet ที่ต้องการทางาน 2. กดแป้น Shift หรือ Ctrl เลือกคลิกที่ sheet ที่ต้องการ 3. พิมพ์ข้อความ 4. กดแป้น CTRL+ ENTER กด SHIFT กด CTRL
  • 59. สร้างสูตรคานวณ ระหว่าง Worksheet =ชื่อชีท!ชื่อเซลล์ =Sheet!Cell ตัวอย่าง =Payment!C2-Income!B5 Tips: ควรใช้เมาส์ในการเลือกตาแหน่งเซลล์ที่จะนามาใช้งาน จะขึ้นแสดงการอ้างอิงเซลล์ ชื่อชีทและตาแหน่งให้อัตโนมัติ
  • 60. การคานวณระหว่าง Workbook(File) • ต้องระบุชื่อไฟล์ ชื่อชีท และตาแหน่งเซลล์ให้ครบ =[ชื่อไฟล์.XLS]ชื่อชีท!เซลล์ =[File Name]sheet Name!Cell ตัวอย่าง =[Sales1.xls]Jan!$B$6+[Sales2.xls]Feb!$A$5 Tips: ควรใช้เมาส์ในการเลือกตาแหน่งเซลล์ที่จะนามาใช้งาน จะขึ้นแสดงการอ้างอิงเซลล์ ชื่อไฟล์ ชื่อชีทและตาแหน่งให้อัตโนมัติ
  • 62. ส่วนประกอบของโปรแกรม Control Button Title Bar Menu Bar Tools Bar Outline & Slide Thumbnail Slide Area View Bar Task Pane Status Bar
  • 63. การสร้างงานนาเสนอใหม่ (New Presentation) 1. คลิกที่เมนู File  New 2. เลือกการสร้าง จากคาสั่ง Task Pane  Blank presentation สร้างงานพรีเซนว่างๆ  From design template สร้างงานพรีเซนจากแม่แบบ  From AutoContent Wizard สร้างงานพรีเซนจากแม่แบบที่เตรียมไว้  From existing presentation สร้างงานจากพรีเซนที่มีอยู่แล้ว  Photo album
  • 64. Slide Layout เลือก Layout ในการแสดงผล ของสไลด์ในรูปแบบต่างๆ • คลิกเมนู Format  Slide Layout คลิกเลือก Layout ที่ต้องการ
  • 65. Slide View (มุมมองสไลด์) 1. Normal View มุมมองปกติ(Tri Pane) 2. Slide Sorter View มุมมองสไลด์รวมทั้งหมด 3. Slide Show แสดงสไลด์โชว์ในแผ่นปัจจุบัน 1 2 3
  • 66. การเพิ่มสไลด์ (New Slide) วิธีที่ 1 • คลิกเลือกเมนู Insert  New Slide • หรือกด CTRL+M (จะได้สไลด์ในรูปแบบ Bullets List) วิธีที่ 2 • คลิกที่ปุ่ม • คลิกเปลี่ยนแบบสไลด์ Slide Layout
  • 67. การออกแบบสไลด์ด้วย Template 1. คลิกที่เมนู Format  Slide Design หรือคลิกเลือกคาสั่ง Slide Design 2. ในหน้าต่างTask Paneคลิกเลือกแบบสไลด์แม่แบบ (เปลี่ยนรูปแบบให้กับสไลด์ทุกแผ่น) 3. คลิกเมาส์ขวาที่แบบ รูปแบบ Slide Design •Apply to All Slides : ใช้กับสไลด์ทุกแผ่น •Apply to Selected Slides : ใช้กับแผ่นที่เลือกแผ่นเดียว •Show Large Previews : แสดงแม่แบบที่เลือกให้ใหญ่ขึ้น
  • 68. การจัดรูปแบบพื้นหลังสไลด์ (Background) 1. คลิกเมนู Format  Background หรือคลิกเมาส์ขวาที่ว่าง ๆ บนพื้นสไลด์ แล้วเลือก Background 2. เลือกสีที่ต้องการ หรือเลือกสีอื่นๆ More Colors และสีแบบพิเศษ Fill Effect คลิกเพื่อซ่อนกราฟิกจากมาสเตอร์
  • 69. การใช้สี Fill Effect Gradient Textures Pattern Picture ไล่โทนสี สีพื้นผิว สีลวดลาย รูปภาพ
  • 70. การทางานกับข้อความ (Text) 1. เลือกข้อความ 1.1 ทาแถบสีเฉพาะข้อความ  เลือกบางส่วน 1.2 คลิกที่ขอบข้อความ  เลือกทั้งหมด 2. เลือกการจัดรูปแบบกับข้อความ ตัวเอียง เพิ่มขนาด ตัวหนา/เข้ม แรเงา กระจายข้อความ จัดตาแหน่ง แบบตัวอักษร ขีดเส้นใต้ ลดขนาด ขนาดตัวอักษร ชิดซ้าย จัดชิดขวา สีอักษร จัดกึ่งกลาง
  • 71. การใส่สัญลักษณ์และเลขลาดับ • Bullets and Numbering 1. เลือกข้อความ 2. คลิกที่ปุ่มแสดง Bullets หรือปุ่ม Numbering 3. เลือกรูปแบบของสัญลักษณ์เพิ่มเติม คลิกเมนู Format  Bullets and Numbering...
  • 72. เลือกสัญลักษณ์เพิ่มเติม • คลิกเมนู Format Bullets and numbering • คลิกที่ปุ่ม • คลิกที่ปุ่ม จากฟอนต์สัญลักษณ์ชื่อ windings,Wingding1,2.3
  • 73. กาหนดระยะห่างของบรรทัด • เลือกกรอบข้อความ • เลือกเมนู Format  Line Spacing ใช้เครื่องมือจัด ระยะห่างบรรทัด เพิ่มระยะห่างบรรทัด ก่อนย่อหน้า หลังย่อหน้า ลดระยะห่างบรรทัด
  • 74. แทรกรูป Insert Clip Art • จากเมนู InsertPictureClip Art หรือเลือกคาสั่งจากหน้าต่างงาน Task Pane ค้นหาจากข้อความ-ชื่อรูปภาพ- ประเภทรูปภาพเช่น. *.jpg ,*.gif , *.wmf ฯลฯ เลือกแหล่งที่เก็บรูปภาพ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เลือกประเภทรูปภาพ-เสียง-ภาพเคลื่อนไหว วีดิโอ Clip Art,Movies,Sound
  • 75. การใส่รูป 1. เห็นรูปภาพปรากฎ ขยายหน้าต่างรูป 2. กดเมาส์ค้างที่รูปภาพ 3. ลากรูป ออกมาวางที่สไลด์
  • 76. การรวบรวมรูปภาพ Clip Organize • คลิกที่คาสั่ง รูปภาพที่มีในโฟล์เดอร์ต่างๆ Clip onlineค้นหารูป Search ค้นหารูป จากเว็บ รูปภาพที่แสดงอยู่ ปัจจุบันจากโฟล์เดอร์ ต่างๆภายในเครื่อง
  • 77. แทรกไฟล์รูปภาพ 1.จากเมนู InsertPictureFrom File 2. เลือกตาแหน่งที่เก็บรูป 3. เลือกการแสดงรูป แบบ Thumbnails จากปุ่ม View 4. คลิกเลือกรูป ที่ต้องการ 5. คลิกที่ปุ่ม Insert
  • 78. การวาดรูป (Drawing Picture) • เปิดเครื่องมือวาดรูปขึ้นมา • จากเมนู ViewToolbarsDrawing
  • 79. AutoShape รูปทรงสาเร็จรูป ลูกศรทรงต่างๆ รูปทรงทั่วไป รูปดาวและ ผังลาดับ ป้ายประกาศ การทางาน กล่องข้อความ ปุ่มกดเก็บคาสั่ง พวก Hyperlink
  • 80. การหมุนรูปทรงต่าง ๆ (Rotate) 1. คลิกที่ รูปทรง/รูปภาพ ที่จะหมุน 2. เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ จุดที่จะหมุน (สีเขียว) 3. กดเมาส์ค้างไว้ 4. ลากหมุนตามทิศทาง ที่ต้องการ
  • 81. การจัดลาดับวัตถุ • ในกรณีมีวัตถุซ้อนกัน หลายชั้นต้องจัดลาดับ ก่อน-หลัง • คลิกเมาส์ขวาที่รูปภาพ/ข้อความเลือกคาสั่ง Order ดึงมาออกมาหน้าสุด ส่งไปอยู่หลังสุด ดึงมาข้างหน้า 1 ระดับ ส่งไปข้างหลัง 1 ระดับ
  • 82. การทากลุ่มวัตถุ (Group) 1. เลือกวัตถุ ที่จะทากรุ๊ป (กด Shift+Click เลือกมากกว่า 1ชิ้น) 2. คลิกเมาส์ขวา เลือกคาสั่ง Grouping การยกเลิกการรวมกลุ่ม การรวมกลุ่มใหม่ 1. คลิกเมาส์ขวา ที่รูปภาพ 1. คลิกเมาส์ขวา ที่รูปภาพ 2. เลือกคาสั่ง Grouping 2. เลือกคาสั่ง Grouping 3. เลือก 3. เลือก
  • 83. การแทรก Diagram 1.คลิกที่ปุ่มแทรก ไดอะแกรม 2. เลือกรูปแบบ ไดอะแกรม ที่ต้องการ 3. คลิก-ใส่เนื้อความลงในบ๊อกซ์ต่างๆ ตามลาดับ และตกแต่ง
  • 84. การตกแต่ง Diagram • จากเครื่องมือ Diagram แทรกไดอะแกรมเพิ่ม เปลี่ยนแบบ เลื่อนไดอะแกรมลง เลื่อนไดอะแกรมขึ้น จัดรูปแบบ AutoFormat เปลี่ยนรูปแบบไดอะแกรม กลับไดอะแกรม
  • 85. การใส่อักษรศิลป์ (WorkArt) 1. คลิกที่ปุ่ม Insert WordArt 2. เลือกแบบของเวิร์ดอาร์ตOk 3. พิมพ์ข้อความ 4. เลือกแบบอักษรOk
  • 86. การตกแต่ง WordArt • คลิกที่ข้อความของ WordArt จะปรากฏเครื่องมือขึ้นมา แก้ไขข้อความ รูปแบบ สีพื้น-สีเส้น เปลี่ยนแบบ เปลี่ยนรูปทรง จัดช่องไฟตัวอักษร จัดตาแหน่งข้อความ เปลี่ยนแนวข้อความ ตั้ง-นอน จัดตัวอักษรเท่ากัน พิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก
  • 87. การแทรกเสียง • เลือกเมนู Insert  Movies and Sound • เลือก Sound From Clip Organizer ไฟล์เสียงจากคลิป • เลือก Sound From File ไฟล์เสียงภายในเครื่อง .wav หรือ mp3 1. เลือก Sound From File 2. เลือกชื่อไฟล์เสียง Ok 3. ตอบ Yes ถ้าถามว่าต้องการจะเล่นอัตโนมัตหรือไม่ ิ 4. จะปรากฎไอคอนเสียงรูปลาโพง
  • 88. การแทรกภาพยนตร์-ภาพวิดีโอ • เลือกเมนู Insert  Movies and Sound • เลือก Movie From Clip Organizer ไฟล์ภาพยนตร์จากคลิป • เลือก Movie From File ไฟล์ภาพยนตร์ภายในเครื่อง ไฟล์ .AVI ,.Dat 1. เลือก Movie From File 2. เลือกชื่อไฟล์ภาพยนตร์  Ok 3. ตอบ Yes ถ้าถามว่าต้องการจะเล่น อัตโนมัติมั้ย 4. จะปรากฎกรอบภาพยนตร์ขึ้นมา
  • 89. การสร้างกราฟ (Chart) • จากเมนู Insert Chart หรือคลิกไอคอน • หรือ Insert  New Slide แบบทีมี Chart ่ 1. เลือกการสร้างกราฟ 2. พิมพ์ข้อมูล ลงไปในชีท Datasheet (ลบข้อมูลตัวอย่างทิ้ง) 3. ปิดหน้าต่างชีทข้อมูล  ตกแต่งกราฟตามต้องการ
  • 90. ส่วนประกอบของกราฟ Chart Title อธิบายภาพรวมกราฟ Data Labels ค่าชุดข้อมูล 1st QTR Sales Scale unit 100 ค่าของข้อมูล 90 Gridline 80 เส้นกริด Value Axis Title 60 Million คาอธิบายแกน Y 46.9 Legends 45.9 45 40 38.6 Jan อธิบายชุด 34.6 30.6 27.4 Feb ข้อมูล 20.4 Mar 20 Value Y Axis ชุดข้อมูล แกน Y 0 2000 2001 2002 Category X Axis ชุดข้อมูลแกน X Category Axis TitleYear คาอธิบาย แกน X
  • 91. การใช้เครื่องมือ Chart พล๊อตข้อมูลแนว column แสดงชีทข้อมูล แสดงเส้นกริดแนวตั้ง ชื่อส่วนประกอบในกราฟ แสดงเส้นกริดแนวนอน จัดรูปแบบส่วนที่เลือก พล๊อตข้อมูลแนว Row แสดงคาอธิบายชุดข้อมูล เลือกประเภทของกราฟ กาหนดสีให้ส่วนประกอบที่เลือก
  • 92. เปลี่ยนประเภทของกราฟ • จากเมนู ChartChart Type 1st QTR Sales 100 90 80 60 Million 45.9 46.9 45 Jan 40 38.6 34.6 Feb 30.6 27.4 20.4 Mar 20 0 2000 2001 2002 Year 1st QTR Sales 20.4 27.4 2000 2001 2002 90
  • 93. กาหนดรายละเอียดให้กับกราฟ • จากเมนู Chart  Chart Options Titles ใส่คาอธิบายกราฟ Axes ชุดข้อมูล Gridlines แสดงเส้นกริด Data Labels แสดงข้อมูลกากับกราฟ Data Table แสดงตารางข้อมูลประกอบ
  • 94. การกาหนด Effect การแสดงของกราฟ 1. คลิกเมาส์ขวา ที่กราฟ 2. เลือก Custom Animation 3. เลือก Add Effect 4. คลิกเมาส์ขวา ที่ชื่อของกราฟ ที่ใส่ Effect 5. เลือกคาสั่ง Effect Options As one object แสดงรวดเดียวทั้งหมด By series แสดงทีละชุดข้อมูลแกน Y By category แสดงทีละชุดข้อมูลแกน X By element in series แสดงทีละหน่วยแกน Y By element in category แสดงทีละหน่วยแกน X
  • 95. การสร้างตาราง (Table) Column ส่วนประกอบของตาราง คอลัมน์ •คอลัมน์ (Column) Row แถว •แถว (Row) Cell •เซลล์ (Cell) เซลล์
  • 96. การแก้ไข-ปรับแต่งตาราง No. Product Name Price เครื่องมือชุด 1 Sony 5900 Table and Border 2 Panasonic 6000 ดินสอ ขีดตารางเพิ่ม ลักษณะส้น ขนาดของเส้น สีของเส้น แสดงเส้นขอบ สีพื้นตาราง ปรับคอลัมน์ให้เท่ากัน รวม-แยกเซลล์ จัดตาแหน่งข้อความ ปรับแถว/คอลัมน์ให้เท่ากัน
  • 97. การเพิ่ม - ลบ ตาราง การเพิ่ม แถว-คอลัมน์ เลือกคาสั่ง แทรก-Insert ,ลบ 1. คลิกที่เครื่องมือ Deleteจากคาสั่ง Table 2. ขีดเส้น ในตาแหน่งที่ต้องการ การลบ เส้น แถว-คอลัมน์ แทรกคอลัมน์ซ้าย แทรกคอลัมน์ขวา 1. คลิกที่เครื่องมือ แทรกแถวบน แทรกแถวล่าง 2. ลบเส้น ในตาแหน่งที่ต้องการ ลบคอลัมน์ ลบแถว
  • 98. การใส่ Effect เปลี่ยนสไลด์ ใส่ลูกเล่นให้กับการเปลี่ยนสไลด์ในเวลาสั่งโชว์ 1. อยู่ที่สไลด์แผ่นที่ต้องการใส่ Effect 2. เลือกเมนู Slide show  Slide Transition หรือคลิกเลือกจากหน้าต่าง Task Pane 3. คลิกเลือกชื่อ Effect 4. เลือกความเร็ว Speed และใส่เสียง Sound 5. คลิก Apply to All Slides กาหนดให้เหมือนกันทุกสไลด์ 6. คลิก Play เพื่อขอดู Effect หรือคลิก Slide Show
  • 99. การใส่ Effect การเคลื่อนไหวให้กับข้อความ จะมีผลกับข้อความไตเติ้ลและข้อความที่เป็น Bullets เท่านั้น 1.อยู่ในสไลด์แผ่นที่จะใส่ Effect 2.คลิกเลือกคาสั่ง Slide Design- Animation Schemes จากTask Pane 1.คลิกเลือกชื่อของ Effect ที่ต้องการ ดูตัวอย่าง กาหนดให้กับ 1 แผ่น 2.คลิก Apply to All Slide กาหนดให้สไลด์ทุกแผ่นใช้ Effect เดียวกัน
  • 100. ประเภทของ Animation Schemes • No Animation ยกเลิกไม่ใช้เอฟเฟ็กซ์ • Subtle แบบเรียบๆไม่หวือหวามาก • Moderate เอฟเฟ็กซ์แบบปานกลาง • Exciting เอฟเฟ็กซ์แบบที่หวือหวามากทาให้น่าสนใจ
  • 101. การกาหนด Effect ต่าง ๆ เอง • Custom Animation คือ ผู้ใช้สามารถกาหนด Effect ให้กับวัตถุในสไลด์เองได้ทั้ง ข้อความ - รูปภาพ และ สามารถจัดลาดับการแสดงได้ตามลาดับที่ต้องการ
  • 102. ขั้นตอนการสร้าง Custom Animation 1. อยู่ในสไลด์แผ่นที่จะใส่ Effect 2. คลิกที่วัตถุที่จะใส่ Effect (กาหนดทีละวัตถุ) 3. เลือกคาสั่ง Custom Animation จากการคลิกเมาส์ขวา หรือจากหน้าต่าง Task Pane 4. คลิกที่ปุ่ม Add Effect 5. เลือกประเภทของ Effect Entrance เข้ามาครั้งแรก Emphasis เน้นเมื่อมาถึง Exit เคลื่อนไหวออกไป Motion Path เคลื่อนไหวตามเส้นทางที่กาหนด
  • 103. Add Effect Entrance Emphasis Motions Paths Exit
  • 104. More Effect ของ Entrance • Basic เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา • Subtle เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ • Moderate เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง • Exciting เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
  • 105. More Effect ของ Emphasis • Basic เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา • Subtle เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ • Moderate เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง • Exciting เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
  • 106. More Effect ของ Exit • Basic เอฟเฟ็กซ์ธรรมดา • Subtle เอฟเฟ็กซ์เรียบๆ • Moderate เอฟเฟ็กซ์ในระดับกลาง • Exciting เอฟเฟ็กซ์ที่หวือหวามาก
  • 107. More Effect ของ Motion Paths • Basic เคลื่อนไหวตามเส้นทางธรรมดา • Line &Curves เคลื่อนไหวตามลักษณะเส้น • Special เคลื่อนไหวตามเส้นทางพิเศษ เริ่มต้น(เขียว) สิ้นสุด(แดง) เคลื่อนไหวเตามรูปทรง
  • 108. กาหนดความเร็วและการแสดงของวัตถุ • Start ให้เริ่มแสดงเมื่อ • Speed ความเร็ว Slow ช้า Very slow ช้ามาก • On Click เมื่อมีคลิกเมาส์ Fast เร็ว • With Previous พร้อมวัตถุก่อนหน้า Very Fast เร็วมาก • After Previous หลังวัตถุก่อนหน้า Medium ปานกลาง
  • 109. การจัดลาดับการแสดง (Order) • กรณีที่มีวัตถุในสไลด์หลายชิ้น และมีการใส่ Effect แล้วต้องการให้วัตถุชิ้นแสดง ก่อนหรือหลัง สามารถจัดลาดับได้ 1. คลิกที่ชื่อวัตถุ 2. คลิกที่ลูกศร ขึ้น-ลง เพื่อจัดลาดับใหม่
  • 110. การกาหนดตัวเลือกของ Effect เพิ่มเติม • การตั้งเวลา • การแสดงของข้อความ Text Animation 1. คลิกที่ชื่อวัตถุ ที่ใส่ Effect แล้ว 2. คลิกเมาส์ขวาเลือกคาสั่ง Effect Options Animate Text Timing เกี่ยวกับเวลา Text Animation เกี่ยวกับข้อความ
  • 111. การแก้ไข และยกเลิก Effect อยู่ที่คาสั่ง Custom Animation • คลิกที่หมายเลขของ ลาดับวัตถุ (ที่มีการใส่เอฟเฟ็กซ์ไว้) • คลิกที่ปุ่ม Change เปลี่ยนแบบ Effect • คลิกที่ปุ่ม Remove ยกเลิก Effect
  • 112. การใช้คาสั่งขณะนาเสนอ คลิกเมาส์ขวาที่พื้นสไลด์ • Next เลื่อนขึ้น 1 แผ่น • Previous เลื่อนถอยกลับ 1 แผ่น • Last Viewed ไปยังสไลด์ที่แสดงหลังสุด • Go to Slide ไปยังสไลด์ที่ต้องการ • Custom Show แสดงสไลด์ที่กาหนดเอง • Screen ทาหน้าจอว่างและเคลียร์จอภาพจากการใช้ Pen • Pointer Option เลือกประเภทของเมาส์พอยเตอร์ • Help ตัวช่วย • Pause หยุดการนาเสนอชั่วคราว • End Show จบการแสดง
  • 114. ความสามารถของโปรแกรม Microsoft Producer โปรแกรม Microsoft Producer เป็นโปรแกรม เสริมของ PowerPoint ซึ่งเพิ่มความสามารถในการจับภาพ และเสียง การเชื่อมต่อ และการจัดส่งการนาเสนอ video, เสียง, ภาพ, สไลด์ และเว็บเพจต่างๆ เพื่อให้การนาเสนอ นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 115. การนาเข้าไฟล์ Slide • ในแถบของ Project File เลือก Slides • ดับเบิลคลิกที่ปุ่ม Import Slides เพื่อทาการนาเข้าไฟล์งาน นาเสนอที่ได้สร้างไว้แล้ว
  • 116. การนาเข้าไฟล์ Slide • เลือกไฟล์ Slide ที่ต้องการ จากไดอะล็อกซ์บ็อก Import Slides • คลิกปุ่ม
  • 117. การนาเข้าไฟล์ Slide • โปรแกรมจะทาการ Import Slides
  • 118. การนาเข้าไฟล์ Slide • เลือกหน้า Slides หน้าที่ต้องการ แล้วลากไปไว้ใน Timeline ในส่วน ของ Slide
  • 121. การแสดงผลงาน • คลิกที่แท็บ Preview Presentation
  • 122. การแสดงผลงาน • จะปรากฏหน้าต่างของการแสดงผลงานที่สร้างขึ้นตาม รูปแบบที่กาหนดไว้ สามารถคลิกเพื่อดู Slide , Video หรือ สื่ออื่นๆ ได้ตามต้องการ • คาสั่งในการใช้งานการแสดงผล Video จะแสดงผลทาง ด้านบน ของปุ่มคาสั่ง • หัวข้อของ Slide แต่ละแผ่น คลิกเลือกหัวข้อที่ต้องการจะ แสดงผลทางด้านขวา
  • 124. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • บนแถบ Menu Bar คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Capture
  • 125. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) จะปรากฏหน้าต่างให้เลือกเพื่อที่จะทาการบันทึกคาบรรยายลงไปพร้อมกับภาพที่ Capture จากกล้อง Web Cam หรือ ไมโครโฟน • Narrate Slides with Video and audio Capture ทั้งสไลด์ ภาพจากกล้อง และ เสียงจากไมโครโฟน • Narrate Slides with audio Capture ทั้งสไลด์ และเสียงจากไมโครโฟน • Video with audio Capture เฉพาะภาพจากกล้องและเสียงจากไมโครโฟน • Audio only Capture เฉพาะเสียงจากไมโครโฟนอย่างเดียว • Still image from video Capture เป็นภาพนิ่งอย่างเดียวจากกล้อง • Still images from screen Capture เป็นภาพนิ่งอย่างเดียวจากหน้าจอ • Video screen capture with audio Capture เสียงที่มีผลการแสดงภาพจากกล้อง
  • 126. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • คาสั่งบางคาสั่งไม่สามารถใช้งาน ได้เนื่องจากไม่ได้ต่ออุปกรณ์ชนิด นั้นไว้ เช่น Narrate slides with video and audio ใช้ไม่ได้เพราะไม่ได้ต่อ กล้อง web cam ไว้สาหรับจับ ภาพ
  • 127. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • ที่ Target audience connection : เลือกความเร็วของ การเชื่อมต่อ Modem หรือความเร็วในการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต • ที่ Windows Media technology: ให้เลือกการเข้ารหัส codes ของการนาเสนอภาพ • คลิกที่ปุ่ม
  • 129. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • ที่ Audio device : เลือกการบรรยายเสียงลงไปใน สไลด์จากไหน • ที่ Input source : เลือกสื่อที่ต้องการ เช่น ไมโครโฟน หรือ Line in (จากเครื่องเล่น CD) • ที่ Input level : ปรับระดับเสียงไมโครโฟนตาม ต้องการ
  • 131. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • คลิกที่ปุ่ม จะปรากฏหน้าต่าง โดยที่รูปด้าน ซ้ายมือจะเป็นหน้าการแสดงผลของสไลด์หรือวีดีโอ ส่วนรูปขวามือ (Capture Wizard) จะเป็นฟังก์ชั่นใน การควบคุมการเปลี่ยนสไลด์ หรือการเพิ่มเสียงลดเสียง การบรรยาย
  • 133. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • คลิกที่ปุ่ม Capture เมื่อพร้อมที่จะทาการบรรยายเสียง ประกอบลงไปในสไลด์ (เมื่อคลิกที่ปุ่ม Capture จะ เปลี่ยนเป็นปุ่ม Stop) • คลิกที่ปุ่ม Next Slides เมื่อต้องการเปลี่ยนภาพสไลด์ (จะเห็นว่าจะมีช่องแสดงบอกว่าตอนนี้อยู่ สไลด์ที่ เท่าไหร่ จากทั้งหมดกี่สไลด์)
  • 135. การ Capture (การบันทึกคาบรรยายลงไปในงานนาเสนอ) • เมื่อบรรยายประกอบสไลด์เสร็จ ให้กดปุ่ม Stop จากนั้น โปรแกรม Microsoft Producer จะให้บันทึกไฟล์เสียงที่ บันทึกเสียงไปใหม่ เมื่อบันทึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาที่ หน้อจอก่อนทาการบันทึกคาบรรยาย • คลิกที่ปุ่ม จะกลับมาแสดงผลในหน้าต่างของ Preview Presentation • คลิกปุ่ม Play เพื่อทาการชมภาพการนาเสนองานพร้อมกับคา บรรยายที่ได้บรรยายลงไปในสไลด์
  • 136. การ Pack and Go • การ Pack and Go เป็นคาสั่งในการรวมไฟล์ต่างๆ ที่เรา นามาใช้ในงานนาเสนอ เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์วีดีโอ หรือไฟล์ เสียง ให้มาอยู่ด้วยกันเป็นไฟล์เดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการ นาไปใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ที่ได้ติดตั้ง โปรแกรม Microsoft Producer 2003 ไว้ แต่ยังไม่สามารถ ใช้งานได้จริงทาง CD-ROM หรือทางเว็บไซต์ เพราะเป็น เพียงการรวมไฟล์เท่านั้น
  • 137. การ Pack and Go • คลิกที่เมนู Files  Pack and Go… • จะปรากฏหน้าต่าง Pack and Go Wizard ให้คลิกที่ปุ่ม ตั้งชื่อไฟล์ที่เราจะ Pack หรือจัดเก็บพร้อมทั้งตั้งชื่อโฟลเดอร์และ กาหนดโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ • ในกรณีที่ต้องการจัดเก็บในโฟลเดอร์อน ให้คลิกทีปุ่ม ื่ ่ เพื่อทาการเลือกโฟลเดอร์ • คลิกที่ปุ่ม จะปรากฏ Project Archive Setting • เลือกที่ One file เพื่อให้ Pack เป็นไฟล์เดียว • คลิกที่ปุ่ม
  • 138. การ Pack and Go 1 2 6 3 4 7 5
  • 139. การ Pack and Go • คลิกที่ปุ่ม Done เพื่อเสร็จสิ้นการทางาน 8
  • 140. การ Publish Presentation • การ Publish Presentation เป็นการนาเสนองานผ่านสื่อ ต่างๆ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยให้ทาการเปิดไฟล์ นาเสนอที่สร้างไว้แล้วขึ้นมา ในกรณีที่ไม่ได้ทาการ Pack and Go ไฟล์นาเสนอตามขั้นตอนที่ผ่านมา เมื่อเปิดไฟล์ นาเสนอโปรแกรม Microsoft Producer จะถามหาไฟล์ วีดีโอ หรือไฟล์เสียงที่ใช้ในงานนาเสนอ จะต้องไปเลือก ไฟล์ที่นามาใช้งานซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ที่ทาการบันทึกไว้
  • 141. การ Publish Presentation • คลิกเมนู File  Publish Presentation • จะปรากฏหน้าต่าง Publish Wizard ขึ้นมาจากนั้นเลือก ออปชั่น My Computer เพื่อเลือกสร้างงานสาหรับเปิดใน เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือจะนาไปบันทึกลงแผ่นซีดี รวมทั้งสามารถนาเสนอผ่านเว็ปไซต์ได้อีกด้วย • คลิกที่ปุ่ม
  • 143. การ Publish Presentation • พิมพ์ชื่อไฟล์ตามต้องการ • คลิกที่ปุ่ม เมื่อต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์ที่จะใช้ สาหรับบันทึกงาน • เลือกโฟลเดอร์เพื่อใช้สาหรับบันทึก และคลิกที่ปุ่ม • คลิกที่ปุ่ม
  • 145. การ Publish Presentation กรอกข้อมูล ดังนี้ • Title: คือส่วนที่ให้กาหนดชื่อเรื่องของงานาเสนอนี้ • Presenter (optional): คือส่วนที่ให้กาหนดชือผูบรรยาย (ซึ่งจะ ่ ้ ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) • Introduction Page image (optional): คือส่วนที่ให้ใส่รูปภาพ ในหน้าแรก • Description(Optional): คือส่วนที่ใส่คาอธิบาย • คลิกปุ่ม
  • 147. การ Publish Presentation • คลิกเลือกที่ออปชั่น Choose publish settings for different audiences • คลิกที่ปุ่ม • ที่หัวข้อ Windows Media technology ควรเลือก Both Windows Media 8 and 9 codes เพื่อให้ใช้ได้กบ codes ทั้ง 8 และ ั 9 สาหรับเครื่องที่อาจใช้ codes เวอร์ชันเก่าๆ ได้ด้วย • ที่หัวข้อ Target audience connection จะให้กาหนดคุณลักษณะ ของสื่อที่จะนาเสนอ ให้เลือกออปชั่น Local Playback or from a CD at 800 kbps ซึ่งจะมีความคมชัดมากที่สุด • คลิกที่ปุ่ม
  • 149. การ Publish Presentation • ในกรณีที่ต้องการดูว่าไฟล์ใดบ้างที่จะถูกนามาใช้งาน ให้คลิกที่ ปุ่ม List Files to be Published จะปรากฏหน้าต่างแสดง รายละเอียดของไฟล์ต่างๆ ขึ้นมา เมื่อดูเรียบร้อยแล้วคลิกที่ปุ่ม OK • คลิกที่ปุ่ม • โปรแกรม Microsoft Producer จะทาการ Publish ซึ่งจะมีแถบ แสดงความคืบหน้าการทางานและเวลาที่เหลือซึ่งจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์นาเสนอที่นามา Publish
  • 151. การ Publish Presentation • เลือกเบราวเซอร์ที่ใช้งานอยู่เมื่อต้องการแสดงผลลัพธ์ หรือคลิกที่ปุ่ม เพื่อจบขั้นตอนการ Publish • คลิกที่ Play เพื่อดูผลที่ได้จากการ Publish
  • 154. การ Publish Presentation • หลังจากที่ได้ทาการ Publish แล้ว เมื่อต้องการดูไฟล์ ต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นงานนาเสนอ ให้ไปที่ โฟลเดอร์ที่ทาการบันทึกไว้