Woot
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน..................................สิ่งที่คุณยังไม่รู้ผลของการอดนอน................................................
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นายเสฐียรวุฒิ สุกิจสุขสวัสดิ์ เลขที่ 3 ม.6/13
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
- 2. 2
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1…...นายเสถียรวุฒิ สุกิจสุขสวัสดิ์................................... เลขที่...3.....
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สิ่งที่คุณยังไม่รู้ผลของการอดนอน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
What you don't know about the effects of sleep deprivation
ประเภทโครงงาน
การดูแลรัษาสุขภาพของตนเอง
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายเสฐียรวุฒิ สุกิจสุขสวัสดิ์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน(อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
การนอนหลับเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่มีความสาคัญและจาเป็นต่อร่างกายอย่างมาก
การนอนหลับไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาเพื่อการพักผ่อนของร่างกายภายหลังจากความเมื่อยล้าจากการทางาน เท่านั้น
แต่จากการวิจัยทางด้านประสาทชีววิทยาได้ค้นพบว่า มีกระบวนการและกิจกรรมที่มีความสาคัญต่อ ชีวิตและ
สุขภาพหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งเสริมการเจริญเติบโต มีความสาคัญ ในกระบวนการ
เรียนรู้และความจา และปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้สมดุลกับความตึงเครียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการ
ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนหลายอย่างที่สาคัญในกระบวนการทางสรีรวิทยาของร่างกาย เพื่อรักษาความสมดุลในการ
- 3. 3
ดารงชีวิตระหว่างการนอนหลับ การที่นักกีฬาจะประสบความสาเร็จในการแข่งขันได้นอกจากการวางแผนและ
จัดเตรียมโปรแกรม การฝึกซ้อมให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้มีสมรรถภาพทางกายที่ดีแล้ว การนอนหลับ
พักผ่อนอย่าง เพียงพอก็เป็นสิ่งจาเป็นมากอย่างหนึ่งสาหรับนักกีฬา ว่า การนอนหลับเป็นรูปแบบการพักอย่าง
สมบูรณ์ (Passive rest) ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ในการที่จะสร้างความสามารถในการท
างานของร่างกายให้ฟื้นสภาพกลับคืนมา ดังนั้น หากร่างกายไม่ได้รับ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะไม่
สามารถฟื้นสภาพจากความเมื่อยล้าและปรับสภาพสู่ความสมบูรณ์ได้ อย่างเต็มที่ ผลที่ได้รับจากการฝึกจะด้อย
ประสิทธิภาพไปหรือไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ ปกติร่างกายของคนเรามีความต้องการการนอนหลับ
โดยเฉลี่ยประมาณ 8 ชั่วโมงต่อคืน แต่จานวนชั่วโมงของการนอนหลับอาจจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล วารสาร
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ปีที่ 11 ฉบับที่ 2, ธันวาคม 2554 50 ตามอายุและสภาพการท างานของ
ร่างกาย ถึงแม้ว่าการนอนหลับจะมีความสาคัญต่อร่างกาย แต่ในบางครั้ง การอดนอนก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้ง
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องการดาเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน การศึกษาเล่า เรียน โดยกิจกรรมต่างๆจะไปแย่งเวลาของการนอน
หลับ ทาให้นอนหลับน้อยกว่าที่ควรจะเป็น บางคนนอน ไม่หลับเพราะมีสิ่งแปลกใหม่ที่ทาให้รู้สึกตื่นเต้นหรือเกิด
ความวิตกกังวลเช่น มีการสอบ มีงานที่ต้องทาให้ เรียบร้อยตามกาหนดเวลา หรือในนักกีฬาที่ต้องแข่งขันกีฬา
รายการสาคัญ หรือบางครั้งต้องเดินทางไป แข่งขันที่อาจเป็นลักษณะเดินทางข้ามวันข้ามคืน รวมทั้งการไม่เคยชิน
กับสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ ก็ อาจทาให้เกิดการขัดขวางการนอนหลับได้แม้จะเป็นที่ยอมรับว่า การอด
นอนจะมีผลในทางลบต่อ ความสามารถทางด้านจิตใจ ซึ่งเชื่อกันว่ามักจะส่งผลไปถึงการท างานของร่างกายด้วย
แต่ในผลกระทบ ทางด้านร่างกายนั้นยังไม่ชัดเจน จากการศึกษาการอดนอนทั้งคืน (Total sleep loss)
พบว่า หลังจากการอด นอนจะทาให้เวลาปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น แรงสูงสุดในการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลง และปริมาณ
การใช้ออกซิเจนสูงสุด ลดลง แต่ในชีวิตความเป็นจริงของคนเราทั่วไปจะไม่อดนอนมากถึงขนาดนั้น อาจเป็นเพียง
การลดจานวน ชั่วโมงของการนอนหลับลงเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งการศึกษาการอดนอนเป็นบางช่วง (Partial
sleep loss) ยังไม่ค่อยมีการศึกษากันอย่างกว้างขวางในประเทศของเรา แต่จากการศึกษาของ
สุพจน์ ตุลารันพงษ์ (2533) พบว่า การอดนอน 2, 3, 4, 5 และ 6 ชม. ในคืนก่อนการทดสอบนั้นไม่ทาให้
ความแข็งแรงและความ อดทนของร่างกายลดลง ทาให้น่าสนใจว่าถ้าต้องอดนอนในลักษณะนี้ติดต่อกันหลายๆคืน
จะมีผลต่อการ ท างานของร่างกายอย่างไรโดยเฉพาะเมื่อนักกีฬาต้องได้รับการฝึกซ้อมด้วยความหนักสูงร่วมด้วย
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
-เพื่อศึกษาผลดีและผลเสียของการอดนอน
-เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน
ขอบเขตโครงงาน(คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
-การอดนอนพบเจอได้กับบุคลคลทั่วไปและคนใกล้ตัว
- 4. 4
หลักการและทฤษฎี(ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
เมื่อความมืดมาเยือนเซลล์ที่จอภาพ[retina] จะส่งข ้อมูลไปยังเซลล์ประสาทที่
อยู่ใน hypothalamus ซึ่งจะเป็นที่สร ้างสาร melatonin สาร melatonin สร ้างจาก
tryptophan ทาให ้อุณหภูมิลดลงและเกิดอาการง่วง การนอนของคนปกติแบ่งออกได ้ดังนี้
การนอนช่วง Non-rapid eye movement {non- (REM) sleep} การนอนในช่วงนี้มี
ความสาคัญมาก เพราะมีส่วนสาคัญในการทาให ้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เกี่ยวข ้องกับระบบย่อย
อาการ และมีการหลั่งของฮอร์โมนที่เร่งการเติบโต growth hormone การนอนช่วงนี้แบ่ง
ออกเป็น 4 ระยะได ้แก่โดยการหลับจะเริ่มจากระยะที่1ไปจน REMและกลับมาระยะ1ใหม่
Stage 1 (light sleep) ระยะนี้ยังหลับไม่สนิทครึ่งหลับครึ่งตื่น ปลุกง่าย ช่วงนี้อาจจะมี
อาการกระตุกของกล ้ามเนื้อที่เรียกว่า hypnic myoclonia มักจะตามหลังอาการเหมือนตก
ที่สูง ระยะนี้ตาจะเคลื่อนไหวช ้า
Stage 2 (so-called true sleep).ระยะนี้ตาจะหยุดเคลื่อนไหวคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ
rapid waves เรียก sleep spindles
Stage 3 คลื่นไฟฟ้าสมองจะมีลักษณะ delta waves และ Stage 4ระยะนี้เป็นระยะที่หลับ
สนิทที่สุดคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ delta waves ทั้งหมด ระยะ3-4 จะปลุกตื่นยากที่สุดตา
จะไม่เคลื่อนไหวร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว เมื่อปลุกตื่นจะงัวเงีย
การนอนช่วง Rapid eye movement (REM) sleep จะเกิดภายใน 90 นาที หลังจากนอน
ช่วงนี้เมื่อทดสอบคลื่นสมองจะเหมือนคนตื่น ผู้ป่ วยจะหายใจเร็ว ชีพขจรเร็ว กล ้ามเนื้อไม่
ขยับ อวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อคนตื่นช่วงนี้จะจาความฝันได ้
เราจะใช ้เวลานอนร ้อยละ50ใน Stage 2 ร ้อยละ 20ในระยะ REM ร ้อยละ30 ในระยะอื่นๆ
การนอนหลับครบหนึ่งรอบใช ้เวลา 90-110นาที คนปกติต ้องการนอนวันละ 8 ชั่วโมงโดย
หลับตั้งค่าจนตื่นในตอนเช ้า คนสูงอายุการหลับจะเปลี่ยนไปโดยหลับกลางวันเพิ่มและตื่น
กลางคืน จานวนชั่วโมงในการนอนหลับแต่ละคนจะไม่เหมือนกันบางคนนอนแค่วันละ 5-6
ชั่วโมงโดยที่ไม่มีอาการง่วงนอน
อาการนอนไม่หลับ
อาการนอนไม่หลับไม่ใช่โรคแต่เป็นภาวะหลับไม่พอทาให ้ตื่นขึ้นมาแล ้วไม่สดชื่น บางคน
อาจจะหลับยากใช ้เวลามากว่า 30นาทียังไม่หลับ บางคนตื่นบ่อยหลังจากตื่นแล ้วหลับยาก
บางคนตื่นเช ้าเกินไป ทาให ้ตื่นแล ้วไม่สดชื่น ง่วงเมื่อเวลาทางาน อาการนอนไม่หลับมักจะ
เป็นชั่วคราวเมื่อภาวะกระตุ้นหายก็จะกลับเป็นปกติแต่ถ ้าหากมีอาการเกิน 1 เดือนให ้ถือว่า
เป็นอาการเรื้อรัง
การวินิจฉัย
แพทย์จะถามคาถาม 4คาถามได ้แก่
ให ้อธิบายว่ามีปัญหานอนไม่หลับเป็นอย่างไร
นอนไม่หลับเป็นมานานเท่าใด
เป็นทุกทุกคืนหรือไม่
สามารถทางานตอนกลางวันได ้หรือไม่
แพทย์จะค ้นหาว่าอาหารนอนไม่หลับนั้นเกิดจากโรค จากยา หรือจากจิตใจ
- 5. 5
คนเราต ้องการนอนวันละเท่าใด
ความต ้องการการนอนไม่เท่ากันในแต่ละคนขึ้นกับอายุ ทารกต ้องการนอนวันละ 16 ชั่วโมง
วัยรุ่นต ้องการวันละ 9 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ต ้องการวันละ 7-8 ชั่วโมง แต่คนบางคนก็อาจจะ
ต ้องการนอนน้อยเหลือเพียงวันละ 5 ชั่วโมง หากนอนไม่พอร่างกายต ้องการการนอนเพิ่ม
ในวันรุ่งขึ้น
เราอาจจะทราบว่านอนไม่พอโดยดูจาก
เวลาทางานคุณมีอาการง่วงหรือซึมตลอดวัน
อารมณ์แกว่งโกรธง่ายโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอกับครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน
หลับภายใน 5 นาทีหลังจากนอน
บางคนอาจจะหลับขณะตื่นโดยที่ไม่รู้ตัว
ทั้งหมดเป็นการแสดงว่าคุณนอนไม่พอคุณต ้องเพิ่มเวลานอนหรือเพิ่มคุณภาพของการนอน
การนอนหลับจาเป็นอย่างไรต่อร่างกาย
ร่างกายเราเหมือนเครื่องจักรทางานตลอดเวลาการนอนเหมือนให ้เครื่องจักรได ้หยุด
ทางาน สะสมพลังงานและขับของเสียออก การนอนจึงจาเป็นสาหรับร่างกายมีสุขภาพกาย
และสุขภาพจิตที่ดี มีการศึกษาว่าการนอนไม่พอจะมีอันตรายการประสานระหว่างมือและตา
จะเหมือนกับผู้ที่ได ้รับสารพิษ ผู้ที่นอนไม่พอหากดื่มสุราจะทาให ้ความสามารถลดลง
อ่อนเพลียมาก การดื่มกาแฟก็ไม่สามารถทาให ้หายง่วง
มีการทดลองในหนูพบว่าหากนอนไม่พอหนูจะมีอายุสั้น ภูมิคุ้มกันต่าลง สาหรับคนหาก
นอนไม่พอจะมีอาการง่วงและไม่มีสมาธิ ความจาไม่ดี ความสามารถในการคานวณด ้อยลง
หากยังนอนไม่พอจะมีอาการภาพหลอน อารมณ์จะแกว่ง การนอนไม่พอเป็นสาเหตุของ
อุบัติต่างๆ เชื่อว่าเซลล์สมองหากไม่ได ้นอนจะขาดพลังงานและมีของเสียคั่ง นอกจากนั้น
การนอนหลับสนิทจะทาให ้มีการหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (growth hormone)
จะปรึกษาแพทย์เมื่อไร
ถ ้าหากอาการนอนไม่หลับเป็นมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือทาให ้ไม่สามารถทางานได ้อย่างมี
ประสิทธิภาพในเวลากลางวัน ก่อนพบแพทย์ควรทาตารางสารวจพฤติกรรมการนอน
ประมาณ 10 วันเพื่อให ้แพทย์วินิจฉัย ในการรักษาแพทย์จะแนะนาเรื่องการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมการนอน ถ ้าไม่ดีจึงจะให ้ยานอนหลับ
การนอนหลับอย่างพอเพียงทั้งระยะเวลา และคุณภาพของการนอนหลับจะเป็นปัจจัยในการ
ส่งเสริมสุขภาพที่ดีเหมือนกับการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ และการออกกาลังกาย
- 9. 9
ข้อดีของกำรนอนหลับ
โดย นพ.กฤษดำ เล่ำให้ฟั งถึงผลเสียของกำรนอนดึกว่ำ ทำให้ 5 อวัยวะหลักเสื่อมเร็ว
ขึ้น ทั้ง สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ และภูมิคุ้มกันร่ำงกำย แต่ถ้ำปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
มำเป็นคนนอนเร็วขึ้น ตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นนำทีทอง ก็จะช่วยให้มี
สุขภำพดีขึ้นถึง 10 ประกำร แบบนี้เลย
1. สมองสร้ำงเคมีสุข
อย่ำงที่รู้ว่ำ สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในกำรแจกงำนให้อวัยวะต่ำง ๆ แม้แต่เวลำนอนก็ยัง
มอบรำงวัลให้ร่ำงกำย ทั้ง เคมีนิทรำ (เมลำโทนิน), เคมีสุข (ซีโรโทนิน) และฮอร์โมนเพศ
แถมยังมีเคมีบำรุงออกมำควบคุมระบบในตัวเรำให้ทำงำนรำบรื่น ตื่นขึ้นมำอย่ำงสดชื่น สร้ำง
เกรำะป้องกันอำกำรป่ วยได้ด้วย
2. สร้ำงเคมีหนุ่มสำว
ปกติแล้ว เคมีหนุ่มสำวที่เรียกว่ำ "โกรทฮอร์โมน" จะค่อย ๆ ลดลงตำมวัย รวมทั้งกำร
นอนดึกก็ทำให้โกรทฮอร์โมนน้อยลงไปด้วย แต่ถ้ำเรำเข้ำนอนเร็ว สักรำว 4 ทุ่ม สมองจะช่วย
ผลิตโกรทฮอร์โมนธรรมชำติให้ สรุปว่ำยิ่งเรำหลับไว หลับสนิท เรำก็ยิ่งดูอ่อนเยำว์นะ
3. ควำมจำดีขึ้น
กำรศึกษำจำกสมำคมจิตวิทยำอเมริกัน (APA) ระบุว่ำ คนที่นอนหลับได้แค่รำว 4 ชั่วโมง
ต่อคืน ติดต่อกันนำน ๆ มีผลต่อควำมจำ, สมำธิและอุบัติเหตุมำกขึ้น นั่นก็เพรำะเวลำเรำนอน
สมองจะมีกลไกช่วยจัดระเบียบคล้ำยกับกำรแยกอีเมลขยะออกไป แต่ถ้ำเรำอดนอน เรำจะ
รู้สึกมึน ลืมง่ำย หรือไม่ก็ลิ้นพันกัน คิดอย่ำงพูดอย่ำง ดังนั้น ต้องนอนให้เต็มอิ่มจะได้เป็นกำร
ชำร์จแบตฯ ให้สมอง พร้อมรับควำมจำใหม่ ๆ
4. คุมควำมดันโลหิตได้
กำรนอนหลับเร็วจะช่วยให้ระบบประสำทอัตโนมัติทั้งหลำย และกลไกทำงชีววิทยำที่เป็น
เหมือนฟั นเฟืองขนำดจิ๋วทำงำนซับซ้อน ช่วยควบคุมหัวใจ และควำมดันโลหิตให้สงบลง ไม่
แกว่งขึ้น-ลงง่ำยเหมือนกับตอนตื่นนอน
5. ร่ำงกำยได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ
คนก็เหมือนเครื่องยนต์ ทำงำนมำหนักก็ต้องหยุดพักบ้ำงจริงไหม ซึ่งกำรนอนก็เหมือน
เข้ำอู่ซ่อมรถ ช่วยซ่อมแซมร่ำงกำยที่สึกหรอ ช่วยให้สมองได้พักผ่อน กล้ำมเนื้อคลำยตัว
- 10. 10
หัวใจสงบขึ้น ควำมดันลดลง
6. ลดควำมเสี่ยงโรคอ้วน
ทำไมน่ะหรือ ? ก็เพรำะถ้ำเรำนอนเร็วจะทำให้เรำไม่หิวกลำงดึกจนกินดุตำมมำไงล่ะ
นอกจำกนั้น ยังมีกลไกดับหิวด้วยกำรสร้ำงเคมีดับหิวขึ้นมำ ทำให้กำรนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนัก
ตัวได้ดีกว่ำ อีกทั้งยังกระตุ้นเตำเผำในร่ำงกำยให้ทำงำนได้ดี ช่วยให้ไม่อ้วนง่ำย ไม่สร้ำงเคมี
เก็บไขมันมำกด้วย
7. มีควำมสุขง่ำยขึ้น
ยิ่งอดนอนสมองของเรำก็ยิ่งอึมครึม ทำให้ขำดสมำธิ ควำมจำก็ไม่ดี อะไรมำกระทบนิด
กระทบหน่อยก็หงุดหงิดอำรมณ์เสียแล้ว แล้วจะมีควำมสุขได้อย่ำงไรล่ะ แต่ถ้ำเรำลองนอนให้
เร็วขึ้น เรำจะได้นอนอย่ำงเต็มอิ่ม ร่ำงกำยและสมองได้พักผ่อน ควำมจำดี มีสมำธิ มองอะรก็
มีควำมสุขได้ง่ำยขึ้นจริง ๆ นะ
8. ได้ล้ำงพิษ
เวลำที่เรำนอนจะเป็นช่วงเวลำที่อวัยวะอย่ำง ตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ช่วยล้ำงพิษ
ทำงำนได้ดีขึ้น ลองสังเกตดูสิ ถ้ำใครชอบอดนอน หรือนอนดึก นอกจำกหน้ำตำดูหม่นหมอง
แล้ว ยังมีปั ญหำท้องผูกด้วย นั่นเพรำะส่วนหนึ่งของพิษมำจำกกำรนอนดึก เพรำะฉะนั้น สำว
ๆ ที่ชอบปวดรอบเดือนบ่อย ๆ ให้นอนให้เร็วขึ้น จะช่วยคุมเคมีปวดได้มำก
9. ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ
เครื่องยนต์ที่ทำงำนเกินเวลำก็เสียได้ นับประสำอะไรกับมนุษย์ที่ไม่ยอมพักผ่อน ไม่ยอม
หลับยอมนอน ควำมเหนื่อยล้ำอ่อนเพลียก็อำจทำให้โรคที่พกอยู่ตำมอวัยวะต่ำง ๆ พำกัน
แผลงฤทธิ์ขึ้นได้ โดยเฉพำะโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ควำมดันสูง เบำหวำน ภูมิแพ้
โรคเครียดซึมเศร้ำ และโรคมะเร็ง
10. ช่วยป้องกันแก่
ไม่อยำกแก่รีบชวนกันนอนตั้งแต่หัวค่ำ เพรำะแค่นอนก็ช่วยเสริมสร้ำงควำมหนุ่มสำว
และช่วยลดปั จจัยเสี่ยงทั้งหลำยไม่ให้ทำร้ำยร่ำงกำยก่อนวัยอันควร จึงป้องกันควำมเสื่อมชรำ
ได้ด้วย
- 11. 11
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. ประชากรที่ใช้ในการศึกษาและกลุ่มตัวอย่าง
2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
3. การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.กระดาษแบบสอบถาม
2.ปากกา
งบประมาณ
500 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ผู้เข้าร่วมการเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนมีสุขภาพที่ดีขึ้น
2.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน