More Related Content
Similar to Work com602 28&41
Similar to Work com602 28&41 (20)
Work com602 28&41
- 1. โครงงาน : การบาบัดความเครียดด้วยเสียงเพลง Music Therapy
โครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อการศึกษา
จัดทาโดย
นางสาวจารวี จี๋จันทร์ เลขที่ 28 ม.6/2
นางสาวอรทัย ทองตัน เลขที่ 41 ม.6/2
เสนอ
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
- 2. ในปัจจุบันผู้คนทุกรุ่นทุกวัยมักเกิดปัญหาเกี่ยวกับการงาน การเรียน หรือการเงินซึ่งเป็นต้นเหตุที่
ทาให้เกิดความเครียดได้ อีกทั้งยังเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตามมา ซึ่งความเครียดเป็น
อาการที่คนส่วนใหญ่เป็นกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ความเครียดนั้นหากปล่อยทิ้งไว้ จะส่งผลต่อร่างกายให้ป่วย
ง่ายอีกด้วย การบาบัดความเครียดมีหลายรูปแบบที่เกิดจากปัญหาที่แตกต่างกันไป
ความเครียด คือ การตอบสนองของร่างกายต่อความต้องการทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ และ
เมื่อความเครียดเกิดขึ้น ร่างกายจะปล่อยสารเคมีที่เพิ่มพลังงานและความแข็งเกร็งแก่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของ
ร่างกาย
การบาบัดความเครียดได้โดยดนตรีบาบัด หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Music Therapy เป็น
กิจกรรมทางดนตรีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การร้องเพลง การแต่งเพลง โดยมีจุดประสงค์เพื่อบาบัด
ความเจ็บป่วย ฟื้นฟูร่างกาย อารมณ์ รวมถึงสติของผู้เข้ารับการบาบัด ส่วนมากดนตรีบาบัด ถูกใช้ใน
โรงพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ โรงเรียน สถานเลี้ยงดู หรือแม้แต่ที่พักอาศัย โดยส่วนมากเราจะเห็น
ตามโรงพยาบาลของรัฐบาล ที่มีวงดนตรีของกลุ่มอาสาสมัคร ไปร้องเพลงเพื่อให้ประชาชนที่นั่งคอย การ
รักษาได้ฟัง เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วย และช่วยลดความเครียดจากการเจ็บป่วย หรือการรอคอย การเข้ารับ
บริการ เป็นเวลานาน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
- 5. ความเครียด ก็คือ การหดตัวของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนของร่างกายนั่นเอง ซึ่ง
ทุกคนจาเป็นต้องมีอยู่เสมอในการดารงชีวิตเช่น การทรงตัว เคลื่อนไหวทั่วๆไป มีการศึกษาพบว่าทุกครั้งที่เราคิด
หรือมีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นจะต้องมีการหดตัว เคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแห่งใดแห่งหนึ่งในร่างกายเกิดขึ้น
ควบคู่เสมอ
ความเครียด มีทั้งประโยชน์และโทษ แต่ความเครียดที่เป็นโทษนั้น เป็นความเครียดชนิดที่เกินความจาเป็น
แทนที่จะเป็นประโยชน์กลับกลายเป็นอุปสรรคและอันตรายต่อชีวิต เมื่อคนเราอยู่ในภาวะตึงเครียด ร่างกายก็จะ
เกิดความเตรียมพร้อมที่จะ "สู้" หรือ "หนี" โดยที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น
- หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น เพื่อฉีดเลือดซึ่งจะนาออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย พร้อม
กับขจัดของเสียออกจากกระแสเลือดอย่างเร็ว
- การหายใจดีเร็วขึ้น แต่เป็นการหายใจตื้นๆ
- ม่านตาขยายเพื่อให้ได้รับแสงมากขึ้น
- กล้ามเนื้อหดเกร็งเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหว เตรียมสู้หรือหนี
- เหงื่อออก เพราะมีการเผาผลาญอาหารมากขึ้น ทาให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น
- 6. ผลของความเครียดต่อชีวิต
1. ผลต่อสุขภาพทางกาย ได้แก่ อาการไม่สบายทางกายต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดเมื่อย
ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ความผิดปกติของหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ อาการท้องผูก
ท้องเสียบ่อยๆ นอนไม่หลับ หอบหืดเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ
2. ผลต่อสุขภาพจิตใจ นาไปสู่ความวิตกกังวล ซึมเศร้า กลัวอย่างไร้เหตุผล อารมณ์
ไม่มั่นคง เปลี่ยนแปลงง่าย หรือโรคประสาทบางอย่าง นอกจากนี้ความเครียดส่งผลต่อร่างกายและ
จิตใจ ย่อมส่งผลไปถึง ประสิทธิภาพในการทางาน สัมพันธภาพต่อครอบครัวและบุคคลแวดล้อม
และเมื่อประสิทธิภาพในงานตกต่า สัมพันธภาพเสื่อมทรามลง จิตใจย่อมได้รับผลตึงเครียดมากขึ้น
ซ้าซ้อน นับว่าความเครียดเป็นภัยต่อชีวิตอย่างยิ่ง
- 8. สาเหตุของความเครียด
1. สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น มลภาวะ ได้แก่ เสียงดังเกินไป จากเครื่องจักร เครื่องยนต์ อากาศเสีย
จากควันท่อไอเสีย น้าเสีย ฝุ่น ละออง ยาฆ่าแมลง การอยู่กันอย่างเบียดเสียด ยัดเยียด เป็นต้น
2. สภาพเศรษฐกิจที่ไม่น่าพอใจ เช่น รายได้น้อยกว่ารายจ่าย
3. สภาพแวดล้อมทางสังคม เช่น การสอบแข่งขันเข้าเรียน
4. เข้าทางาน เลื่อนขั้น เลื่อนตาแหน่ง เป็นต้น
5. นิสัยใจการกิน-ดื่ม ที่ส่งเสริมความเครียด เช่น ผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ตลอดจนกิน
ของกินที่มีน้าตาลมากๆ
6. มีสัมพันธภาพกับคนอื่นๆ ที่ไม่ราบรื่น มักมีข้อขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นเป็นปกติวิสัย
7. ความรู้สึกตนเองต่าต้อยกว่าคนอื่น ต้องพยายามต่อสู้เอาชนะ
8. ต้องการมีอานาจเหนือผู้อื่น
- 10. ความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่
ทาให้สุขภาพของเราลดลง ทาให้เราแก่ตัวเร็วขึ้น
วันนี้จะเสนอวิธีดนตรีบาบัด เพื่อเป็นอีกหนทาง
หนึ่งที่ช่วยละความเครียด และเป็นการชะลอ
ความแก่ และ ดูแลสุขภาพด้วยตนเองง่ายๆ
ดนตรี เป็นสื่อภาษาสากลที่ไม่ว่า
คนชาติไหนๆ ก็เข้าใจเนื้อดนตรีเดียวกัน ให้เป็น
ไปในทิศทางเดียวกันได้ ดนตรีจึงสามารถใช้
สื่อสารได้กับคนทั้งโลก รวมทั้งการนามารักษาโรคได้กับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนที่ผิดปกติทางอารมณ์
ฟัง เสียงดนตรีคึกคักใจเราก็อยากเต้นตาม แต่พอเป็นจังหวะสบายๆ เราก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย อย่างกับว่า
จังหวะและเสียงนั้นสั่งใจเราได้ก็ไม่ผิดนัก
ด้วยเหตุนี้เอง คนยุคใหม่เลยนาความมหัศจรรย์ของดนตรีมาใช้กับการบาบัดความเครียด นอกเหนือจาก
การฟังเพลงทั่วๆ ไปแล้วรู้สึกดี ซึ่งจะว่าไปแล้ว ดนตรีไม่ได้เกิดจากจินตนาการในการจับโน่นผสมนี่ของตัวโน้ตอย่างที่เรา
คิด แต่เป็นการเรียบเรียงที่เป็นแบบแผน และมีโครงสร้างที่สามารถอธิบายในแนวทางวิทยาศาสตร์ได้
ดนตรีจึงสามารถสร้างขึ้นเพื่อนามาบาบัดมความรู้สึก และอารมณ์เราได้อย่าง
น่าเชื่อถือ
- 11. ประโยชน์ของดนตรีบาบัด
1. ลดความวิตกกังวลได้ เพียง เราฟังดนตรีจังหวะช้าๆ ผ่อนคลาย พลางหลับตาจินตนาการภาพที่เรา
รู้สึกดี เราก็จะลดความตึงเกร็งของร่างกายทุกส่วนลง และยังปรับสมดุลใจเราให้เป็นปกติ
2. เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ เพราะเมื่อร่างกายสงบ การไหลเวียนเลือดเป็นปกติ การหายใจผ่อนคลาย และ
ความเจ็บปวดลดลง ร่างกายก็จะตอบสนองเป็นจิตใจที่ดี มีภูมิคุ้มกันยามเจ็บป่วย
3. เพิ่มทักษะการสื่อสาร คนที่สื่อสารติดขัด ดนตรียังช่วยปรับคลื่นเราสมองเราให้เป็นปกติ ทาให้เรา
เรียบเรียงความคิดและการสื่อสารออกไปดีขึ้นได้ รวมทั้งการแสดงออกของเราด้วย
4. ทาให้เรามั่นใจขึ้น การขาดความมั่นใจในตัวเองก็เป็นปัญหาทางจิตใจอย่างหนึ่ง แต่หากเราได้บาบัด
เป็นกลุ่ม ได้ร้องเพลงร่วมกัน ได้เต้นราไปด้วย ก็มีการพบว่าเราจะให้ความสาคัญกับตัวเรามากขึ้น มั่นใจใน
การแสดงออกขึ้น
5. เยียวยาบาบัดโรค โรคในที่นี้มีทั้งโรคทางร่างกาย และโรคทางจิต มีการนาดนตรีมารักษาอย่าง
จริงๆ จังๆ แล้วมากมาย แล้วพบว่าช่วยให้คนไข้เคลื่อนไหวและควบคุมตัวเองดีขึ้น ลดการแสดงออกที่ไม่
เหมาะสม แก้ปมในใจ และยังสร้างเสริมอารมณ์เชิงบวกได้เป็นอย่างดี
- 13. 1.ควรเป็นเพลงบรรเลง ไม่ควรมีเนื้อร้อง มีเสียงตามธรรมชาติ เช่น เสียงนก น้าตก
เป็นต้น
2.มีจังหวะที่ช้า มั่นคง สม่าเสมอประมาณ 70-80 ครั้ง/นาที และมีทานองราบเรียบ
นุ่มนวล ระดับเสียงปานกลาง-ต่า
3.ความเข้มของเสียงไม่ดังมาก ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของผู้ฟัง เนื่องจากความดัง
สามารถกระตุ้นให้มีความเจ็บปวดของผู้ป่วยให้เพิ่มมากขึ้นได้
4.ประเภทของดนตรีที่นิยมใช้ อาทิ พิณ เปียโน กีตาร์ วงออร์เคสตร้า แจ๊สแบบช้า
ป๊อป คลาสสิค เป็นต้น
5.ดนตรีที่ผู้ฟังมีความคุ้นเคย และความชอบ
- 15. 1.ดนตรีรักษาโรค
ดนตรีบาบัด หรือ “Music Therapy” เป็นการใช้ดนตรีควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์
เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านสังคม จิตใจ และร่างกาย โดยมีการบาบัดทั้งด้านการฟัง เพื่อลดความ
วิตกกังวล และด้านการร้อง การเต้น เพื่อฝึกการสื่อสาร เหมาะกับเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า ผู้มี
ปัญหาทางด้านสมองและอารมณ์ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รวมไปถึงผู้สูงอายุที่เป็นโรคอัลไซ
เมอร์ด้วยนอกจากนี้ดนตรีบาบัดยังเป็นยาบรรเทาปวดชั้นดีของผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด หากผู้ป่วย
ฟังเพลงก่อนและหลัง หรือ ระหว่างการผ่าตัด จะส่งผลให้พวกเค้ามีความเจ็บปวดที่น้อยลง
- 21. 7.อกหัก รักคุด มาฟังเพลงกันเถอะ
มีนักวิจัยค้นพบว่า ผู้ที่พบเจอเรื่องผิดหวัง เสียใจ ท้อแท้ในชีวิต รวมถึง
คนที่อกหัก ควรฟังเพลงแนวเมทัล เนื่องจากเป็นเพลงที่มีดนตรีค่อนข้างหนัก
สามารถทาให้ผู้ฟังรู้สึกกระฉับกระเฉง และได้ปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบอย่าง
เต็มที่