SlideShare a Scribd company logo
1 of 14
Download to read offline
รายงาน
เรื่อง การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์
จัดทาโดย
กลุ่มที่ 2 5/7
เสนอ
ครูจิรายุ ทองดี
รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชคอมพิวเตอร์
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
คานา
โครงงานการวิจัยฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา คอมพิวเตอร์ จัดทาขึ้นเพื่อ
ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ กลุ่มกระผม
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย หากมี
ข้อผิดพลาดประการใด กลุ่มกระผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบรรยาย การตรวจสอบ
ความถูกต้องของข้อมูล การประมวลผล การจัดเก็บ การจัดการหรือการกระทากับข้อมูลข่าวสาร โดยใช้
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สานักงานต่าง ๆ ในการปฎิบัติงาน เพื่อให้ได้สารสนเทศหรือความรู้ที่
นามาใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต และเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้เกิดความรู้ความเข้าใจ
ร่วมกัน
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่ดี มีขั้นตอน ดังนี้
1.การรวบรวมข้อมูล เป็นการนาข้อมูลที่ต้องการจากหลาย ๆ แหล่งข้อมูลมารวมกันด้วยวิธีการต่าง
ๆ เช่น การให้กลุ่มเป้าหมายช่วยตอบแบบสอบถามที่ตนเองคิดขึ้นมา การอ่านรหัสแท่งจากแถบ
รหัสสินค้า หรืออ่านข้อมูลจากการฝนดินสอลงในกระดาษคาตอบในการทาข้อสอบ เป็นต้น
2.การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เป็นการนาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาตรวจสอบและ
แก้ไขให้ถูกต้องด้วยการใช้สายตามนุษย์หรือตั้งกฎเกณฑ์ให้คอมพิวเตอร์ตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่
น่าเชื่อถือ เหมาะสาหรับนามาใช้ประโยชน์ต่อไป
3.การประมวลผลข้อมูล เป็นการนาข้อมูลที่ได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องแล้วมาทาการ
ประมวลผลด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น จัดกลุ่ม จัดเรียงตามตัวอักษร และเปรีบเทียบหรือคานวณข้อมูล เพื่อให้
ได้ผลสรุปที่เป็นสารสนเทศและนาไปใช้งานได้
4.การจัดเก็บ เป็นการนาสารสนเทศที่ทาการประมวลผลแล้ว มาจัดเก็บในหน่วยความจาของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ หรือสื่อบันทึกชนิดอื่น ๆ เช่น แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี หน่วยความจาแบบแฟลซ(แฟลซไดรฟ์) เป็น
ต้น
5.การทาสาเนา เป็นการนาสารสนเทศที่จัดเก็บไว้มาทาสาเนาเพื่อสารองสารสนเทศไว้ใช้หากข้อมูล
ต้นฉบับเกิดการสูญหาย และสามารถนาไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งทาได้หลาย
วิธี เช่น การถ่ายเอกสารเก็บไว้ในแฟ้ม การทาสาเนาลงในแผ่นซีดี แผ่นดีวีดี หรือหน่วยความจาแบบ
แฟรซ เป็นต้น
6.การเผยแพร่สารสนนเทศ เป็นการนาสารสนเทศไปแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้มีความรู้ความเข้าใจและ
นาไปใช้ประโยชน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเผยแพร่ลงเว็บไซต์สาธารณะ กระดานสนทนา ทาแผ่นพับหรือ
ใบปลิว ทาสาเนาลงในสื่อบันทึกข้อมูล วางไว้ในสถานที่ที่หยิบง่าย จัดป้ายนิเทศในบริเวณที่เป็นจุดสนใจหรือ
งานนิทรรศการ เป็นต้น
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอน โดยใช้
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้การปฎิบัติงานสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง
และแม่นยา ในการใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยแก้ปัญหา จาเป็นต้องปรับรูปแบบวิธีการ
ทางาน ให้เหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
วิธีแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิธีที่อาจคล้ายกับการแก้ปัญหาด้วย
วิธีการอื่น ๆ แต่มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา หรือเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการทางาน แต่ต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้ให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งนี้
เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ทุก
เรื่อง นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนที่สูญเปล่า ต้อง
เลือกวิธีแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับงาน จัดหาเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ไม่เกินจาเป็น
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เหมาะกับระบบงานที่ต้องทางานอย่างใด
อย่างหนึ่งซ้าซาก และมีปริมาณงานมาก หรืองานที่ต้องการความรวดเร็วในการคานวณเกินกว่าคนธรรมดา
จะทาได้ วิธีการโดยทั่วไปก็คือ ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือระบบการทางานแบบเดิมมาใช้ระบบงานที่มี
คอมพิวเตอร์ช่วย ทาเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด เท่าที่สามารถจะทาแทนคนได้
ดังนั้น การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงต้องมีการสร้างระบบงาน
คอมพิวเตอร์ขึ้นมาช่วยทางานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งโดยทั่วไปเราอาจไม่ต้องสร้างระบบงานทั้งหมดขึ้น
ใหม่ แต่พัฒนาระบบงานเดิมให้เป็นระบบงานที่ทางานด้วยคอมพิวเตอร์ นิยมเรียกกันว่า การพัฒนา
ระบบงานคอมพิวเตอร์(Computerization) นั่นเอง
ดังนั้น การแก้ปัญหาในการทางานในปัจจุบันที่มีขั้นตอนการทางานที่ซ้าซ้อน ส่วนมากมักใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยา และสามารถทาซ้าได้ง่าย
หลักการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหลักการสาคัญ คือ ปัญหาทุกปัญหาต้อง
สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือวิธีการให้เหมาะสม โดยคานึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ด้านเวลา ด้าน
แรงงาน และค่าใช้จ่าย
การใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหา
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหาร่วมกับกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถทาได้โดย
ใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ต่าง ๆ และการเขียนโปรแกรม ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.การใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการแก้ปัญหา เช่น ไมโครซอฟต์เวิร์ด ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอ
ยนต์ ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล ไมโครซอฟต์แอกเซส ซอฟต์แวร์โปรเดสท็อบ เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมต่าง ๆ
เหล่านี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในการทางานได้ ดังนี้
ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เวิร์ด(Microsoft Word) ช่วยแก้ปัญหาในการจัดทางานเอกสารต่าง ๆ
เช่น ช่วยให้การพิมพ์งานเอกสารทาได้รวดเร็วมากกว่าการใช้พิมพ์ดีดไฟฟ้า มีการตรวจสอบการสะกด
ไวยากรณ์เพื่อป้องกันการพิมพ์ที่ผิดพลาด สามารถลบคาผิดและปรับปรุงข้อความในเอกสารได้ง่ายและสะอาด
เรียบร้อย โดยไม่ต้องใช้น้ายาลบคาผิด แก้ปัญหาสิ้นเปลืองเวลาในการส่งจดหมายเวียนภายในองค์กรโดย
พิมพ์จดหมายต้นแบบเพียงฉบับเดียวแล้วส่งไปให้ทุกหน่วยงานในองค์กรผ่านทางคอมพิวเตอร์แทนการถ่าย
สาเนาเอกสาร แล้วให้คนส่งเอกสารนาส่งทีละหน่วยงาน เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล(Microsoft Excel) ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการคานวณตัวเลข จัดทา
ตารางข้อมูล แผนภูมิและกราฟ เช่น การคานวณตัวเลขหลายจานวนในตารางข้อมูล การใช้สูตรคานวณ
แทนการใช้เครื่องคิดเลข การจัดทาตารางข้อมูลให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย การใช้ข้อมูลในตารางสร้าง
แผนภูมิแลกราฟได้อย่างง่ายดาย ถูกต้องและแม่นยา เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์แอกเซส(Microsoft Access) ช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บข้อมูล โดย
จัดเก็บข้อมูลจานวนมากให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกต่อการค้นหาและนามาใช้
ซอฟต์แวร์ไมโคซอฟต์เพาเวอร์พอยนต์(Microsoft PowerPoint) ช่วยแก้ปัญหาการนาเสนอ
งาน โดยทาให้การสร้างงานนาเสนอทาได้ง่าย และน่าสนใจกว่าการนาเสนองานตามปกติที่ไม่ใช้
คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์โปรเดสท็อป (Pro/DESKTOP) ช่วยแก้ปัญหาในการออกแบบและสร้างชิ้นงาน
จาลอง โดยอานวยความสะดวกในการออกแบบและสร้างชิ้นงานจาลองด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีใน
ซอฟต์แวร์ซึ่งมีความแม่นยา และทราบผลทันที รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุ อุปกรณ์มา
เขียนแบบหรือสร้างชิ้นงานจาลอง
2.การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา เป็นการใช้ความรู้ความสามารถด้านภาษาคอมพิวเตอร์และ
ประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา ดัง
ตัวอย่าง
ภาษาคอมพิวเตอร์ การใช้งาน
ภาษาฟอร์แทน(Fortran) ใช้แก้ปัญหาด้านการคานวณทาง
วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และงานวิจัยต่าง
ๆ
ภาษาโคบอล(COBOL) ใช้แก้ปัญหาด้านงานธุรกิจ
ภาษาเบสิก(BASIC) ใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทุกสาขาวิชา เหมาะสาหรับ
ผู้ที่ไม่ใช่นักเขียนโปรแกรมอาชีพ และผู้ฝึกเขียน
โปรแกรมใหม่ ๆ
ภาษาปาสคาล(Pascal) ใช้ในการเรียนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ภาษาซีและซีพลัสพลัส(C และ C++) ใช้ในการเขียนโปรแกรมควบคุมการทางานของ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
ภาษาวิชวลเบสิก(Visual Basic) ใช้สร้างโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้งานได้หลากหลาย
บนระบบปฎิบัติการวินโดวส์ และใช้เป็นโปรแกรม
แบบรูปภาพ เช่น ปุ่มคาสั่งต่าง ๆ
ภาษาจาวา(Java) ใช้เขียนโปรแกรมประยุกต์สาหรับเชื่อมต่อเข้าสู่
อินเทอร์เน็ต และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต
ภาษาเดลไฟ(Delphi) ใช้ในการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพเพื่อสร้างส่วน
ติดต่อผู้ใช้ที่เป็นแบบรูปภาพ เช่น ปุ่มคาสั่งต่าง ๆ
โปรแกรมเชิงวัตถุและโปรแกรมเชิงจินตภาพแตกต่างกันอย่างไร
โปรแกรมเชิงวัตถุ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ จะแยกงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ เรียกว่าวัตถุ เพื่อให้
ง่ายต่อการเรียกใช้ โดยสามารถนามาประกอบและรวมกันได้ แต่จะเห็นผลลัพธ์เมื่อพัฒนาซอฟต์แวร์
เสร็จแล้ว ในขณะที่โปรแกรมเชิงจินตภาพ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถมองเห็นผลลัพธ์ของงานได้ตั้งแต่
เริ่มพัฒนาโปรแกรมโดยไม่จาเป็นต้องรอให้การพัฒนานั้นเสร็จสมบูรณ์
โปรแกรมเมอร์/นักเขียนโปรแกรม(Programmer)
เป็นอาชีพที่ทางานเกี่ยวกับการเขียนชุดคาสั่งของคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการทางานและ
แก้ปัญหาต่าง ๆ โดยต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องภาษาคอมพิวเตอร์และการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เป็นอย่างดี
วิธีการแก้ปัญหา
มนุษย์ทุกคนต้องเคยพบกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาการเรียน ปัญหาการ
ทางาน ปัญหาครอบครัว ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ตามความรู้ความสามารถ และ
ประสบการณ์ โดยใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เคยศึกษาผ่านมาหรือเคยทดลองใช้แล้วประสบความสาเร็จ เช่น วิธี
ลองผิดลองถูก วิธีการขจัด วิธีการใช้เหตุผล เป็นต้น ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่า วิธีการ
แก้ปัญหาเหล่านี้ต่างมีขั้นตอนที่เหมือนกัน
วิธีการแก้ปัญหาเป็นหนึ่งในขั้นตอนการประมวลผลของกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งแบ่ง
ได้ ขั้นตอน ดังนี้
1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา เป็นขั้นตอนการทาความเข้าใจกับปัญหา เพื่อ
แบ่งแยกให้ชัดเจนโดยใช้คาถามต่อไปนี้
ข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหาหรือเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร เพื่อ ระบุข้อมูลเข้า
สิ่งที่ต้องการคืออะไร เพื่อ ระบุข้อมูล
ออก
วิธีการที่ใช้ประมวลผลคืออะไร เพื่อ กาหนด
วิธีการประมวลผล
ตัวอย่าง การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหาเกี่ยวกับการหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า
ระบุข้อมูลเข้า ® ความกว้างและความยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ระบุข้อมูลออก ® พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า
กาหนดวิธีการประมวลผล ® นาความกว้าง และความยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาหาพื้นที่
โดยการคูณ
2.การวางแผนในการแก้ปัญหาและถ่ายทอดความคิดอย่างมีขั้นตอน เป็นขั้นตอนการจาลอง
ความคิดในการแก้ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาสามารถเข้าใจและปฎิบัติตามไปใน
แนวทางเดียวกัน ซึ่งทาได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
2.1การใช้ข้อความหรือคาบรรยาย เป็นการเขียนเค้าโครงแผนงานด้วยข้อความหรือคาบรรยายที่
มนุษย์ใช้สื่อสารกันหรือภาษาคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทราบขั้นตอนการทางานของการแก้ปัญหาแต่ละ
ขั้นตอน ดังตัวอย่าง
ตัวอย่าง การวางแผนหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยใช้ข้อความหรือคาบรรยาย
เริ่มต้น
1.กาหนดค่าความกว้าง
2.กาหนดค่าความยาว
3.คานวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าจากสูตร กว้าง x ยาว
4.แสดงผลค่าพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า
สิ้นสุด
2.2การใช้สัญลักษณ์ เป็นการใช้สัญลักษณ์รูปแบบต่าง ๆ มาเรียงต่อกันเป็นแผนภาพเพื่อสื่อสารให้ผู้
ที่พบเห็นเข้าใจตรงกัน ซึ่งสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงนี้ได้กาหนดขึ้นโดยสถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (ANSI :
The American National Standard Institute) ดังตัวอ
ย่าง
3.การดาเนินการแก้ปัญหา เป็นขั้นตอนการลงมือแก้ปัญหาตามที่วางแผนไว้ โดยอาศัยซอฟต์แวร์
ประยุกต์หรือใช้การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมแก้ปัญหา ซึ่งผู้แก้ปัญหาต้องศึกษาวิธีใช้
ซอฟต์แวร์ประยุกต์หรือการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ให้เข้าใจและเชี่ยวชาญตลอดจนรู้จักปรับเปลี่ยน
แนวทางการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเสมอ
4.การตรวจสอบและปรับปรุง เป็นขั้นตอนการตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จากการดาเนินการแก้ปัญหาว่า
ถูกต้องสอดคล้องกับข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และวิธีการประมวลผลหรือไม่ ถ้ายังพบข้อบกพร่องต้องปรับปรุง
แก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การใช้ขั้นตอนที่ 4 นี้เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการเขียนหรือพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะ
ช่วยให้สามารถประสบความสาเร็จได้เป็นอย่างดี
บรรณานุกรม
https://sites.google.com/site/pkpanploy ๑๒ มกราคม ๒๕๔๗

More Related Content

What's hot

ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
devilp Nnop
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
พัน พัน
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
พัน พัน
 
กิจกรรมที่3 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3                 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่3                 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
jatesada5803
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
N'Ice Thnaphop
 
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
peter dontoom
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พัน พัน
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
พัน พัน
 

What's hot (20)

เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์การทำงานของคอมพิวเตอร์
การทำงานของคอมพิวเตอร์
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
 
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
สาขาอาชีพอนาคตสดใสในโลกไซเบอร์
สาขาอาชีพอนาคตสดใสในโลกไซเบอร์สาขาอาชีพอนาคตสดใสในโลกไซเบอร์
สาขาอาชีพอนาคตสดใสในโลกไซเบอร์
 
กิจกรรมที่3 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3                 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่3                 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่3 องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
 
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงาน บทบาทและอุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 

Viewers also liked

รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
NooLuck
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
siriluk602
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
NooLuck
 
Properties
PropertiesProperties
Properties
jimbank
 
ระบบเครือค่าย
ระบบเครือค่ายระบบเครือค่าย
ระบบเครือค่าย
เค้ก
 
รายงาน คอม
รายงาน คอมรายงาน คอม
รายงาน คอม
NooLuck
 
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
sarankorn
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
aragamammy
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
dekthai
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
Narinthip Wakuram
 

Viewers also liked (20)

รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
Properties
PropertiesProperties
Properties
 
ระบบเครือค่าย
ระบบเครือค่ายระบบเครือค่าย
ระบบเครือค่าย
 
รายงาน คอม
รายงาน คอมรายงาน คอม
รายงาน คอม
 
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้นความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
เรื่อง วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์
 
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ความรู้คอมพิวเตอร์
ความรู้คอมพิวเตอร์ความรู้คอมพิวเตอร์
ความรู้คอมพิวเตอร์
 
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษรการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
การเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นตัวอักษร
 
รายงาน Google Android - Know2pro.com
รายงาน Google Android - Know2pro.comรายงาน Google Android - Know2pro.com
รายงาน Google Android - Know2pro.com
 
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 

Similar to การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2

งานคอมเกด
งานคอมเกดงานคอมเกด
งานคอมเกด
G'ad Smile
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
iceskywalker
 
งานคอมเกด
งานคอมเกดงานคอมเกด
งานคอมเกด
G'ad Smile
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
 
โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435
Praw Vanitt
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
nuknook
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Paweena Kittitongchaikul
 
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
Beauso English
 
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
โครงงานคอมพ วเตอร  2-8โครงงานคอมพ วเตอร  2-8
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
Prom Pan Pluemsati
 

Similar to การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2 (20)

การแก้ปัญหาด้วยด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศการแก้ปัญหาด้วยด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน
 
งานคอมเกด
งานคอมเกดงานคอมเกด
งานคอมเกด
 
[NTUN] การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
[NTUN] การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ[NTUN] การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
[NTUN] การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
A0141 20
A0141 20A0141 20
A0141 20
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
งานคอมเกด
งานคอมเกดงานคอมเกด
งานคอมเกด
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435โครงงานคอม 60435
โครงงานคอม 60435
 
งานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอมงานนำเสนอ1 คอม
งานนำเสนอ1 คอม
 
การสร้างงานด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานด้วยภาษาคอมพิวเตอร์การสร้างงานด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
การสร้างงานด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
 
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
บทที่ 5 ระบบซอฟท์แวร์
 
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
โครงงานคอมพ วเตอร  2-8โครงงานคอมพ วเตอร  2-8
โครงงานคอมพ วเตอร 2-8
 

การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ 5 7-กลุ่ม 2

  • 1. รายงาน เรื่อง การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ จัดทาโดย กลุ่มที่ 2 5/7 เสนอ ครูจิรายุ ทองดี รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชคอมพิวเตอร์ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
  • 2. คานา โครงงานการวิจัยฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา คอมพิวเตอร์ จัดทาขึ้นเพื่อ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ กลุ่มกระผม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย หากมี ข้อผิดพลาดประการใด กลุ่มกระผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
  • 3. หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบรรยาย การตรวจสอบ ความถูกต้องของข้อมูล การประมวลผล การจัดเก็บ การจัดการหรือการกระทากับข้อมูลข่าวสาร โดยใช้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สานักงานต่าง ๆ ในการปฎิบัติงาน เพื่อให้ได้สารสนเทศหรือความรู้ที่ นามาใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต และเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้เกิดความรู้ความเข้าใจ ร่วมกัน กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่ดี มีขั้นตอน ดังนี้ 1.การรวบรวมข้อมูล เป็นการนาข้อมูลที่ต้องการจากหลาย ๆ แหล่งข้อมูลมารวมกันด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การให้กลุ่มเป้าหมายช่วยตอบแบบสอบถามที่ตนเองคิดขึ้นมา การอ่านรหัสแท่งจากแถบ รหัสสินค้า หรืออ่านข้อมูลจากการฝนดินสอลงในกระดาษคาตอบในการทาข้อสอบ เป็นต้น 2.การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เป็นการนาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาตรวจสอบและ แก้ไขให้ถูกต้องด้วยการใช้สายตามนุษย์หรือตั้งกฎเกณฑ์ให้คอมพิวเตอร์ตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ น่าเชื่อถือ เหมาะสาหรับนามาใช้ประโยชน์ต่อไป 3.การประมวลผลข้อมูล เป็นการนาข้อมูลที่ได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องแล้วมาทาการ ประมวลผลด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น จัดกลุ่ม จัดเรียงตามตัวอักษร และเปรีบเทียบหรือคานวณข้อมูล เพื่อให้ ได้ผลสรุปที่เป็นสารสนเทศและนาไปใช้งานได้ 4.การจัดเก็บ เป็นการนาสารสนเทศที่ทาการประมวลผลแล้ว มาจัดเก็บในหน่วยความจาของเครื่อง คอมพิวเตอร์ หรือสื่อบันทึกชนิดอื่น ๆ เช่น แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี หน่วยความจาแบบแฟลซ(แฟลซไดรฟ์) เป็น ต้น 5.การทาสาเนา เป็นการนาสารสนเทศที่จัดเก็บไว้มาทาสาเนาเพื่อสารองสารสนเทศไว้ใช้หากข้อมูล ต้นฉบับเกิดการสูญหาย และสามารถนาไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งทาได้หลาย วิธี เช่น การถ่ายเอกสารเก็บไว้ในแฟ้ม การทาสาเนาลงในแผ่นซีดี แผ่นดีวีดี หรือหน่วยความจาแบบ แฟรซ เป็นต้น
  • 4. 6.การเผยแพร่สารสนนเทศ เป็นการนาสารสนเทศไปแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้มีความรู้ความเข้าใจและ นาไปใช้ประโยชน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเผยแพร่ลงเว็บไซต์สาธารณะ กระดานสนทนา ทาแผ่นพับหรือ ใบปลิว ทาสาเนาลงในสื่อบันทึกข้อมูล วางไว้ในสถานที่ที่หยิบง่าย จัดป้ายนิเทศในบริเวณที่เป็นจุดสนใจหรือ งานนิทรรศการ เป็นต้น การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอน โดยใช้ กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้การปฎิบัติงานสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยา ในการใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยแก้ปัญหา จาเป็นต้องปรับรูปแบบวิธีการ ทางาน ให้เหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิธีที่อาจคล้ายกับการแก้ปัญหาด้วย วิธีการอื่น ๆ แต่มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทางาน แต่ต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้ให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ทุก เรื่อง นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนที่สูญเปล่า ต้อง เลือกวิธีแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับงาน จัดหาเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ไม่เกินจาเป็น การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เหมาะกับระบบงานที่ต้องทางานอย่างใด อย่างหนึ่งซ้าซาก และมีปริมาณงานมาก หรืองานที่ต้องการความรวดเร็วในการคานวณเกินกว่าคนธรรมดา จะทาได้ วิธีการโดยทั่วไปก็คือ ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือระบบการทางานแบบเดิมมาใช้ระบบงานที่มี คอมพิวเตอร์ช่วย ทาเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด เท่าที่สามารถจะทาแทนคนได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงต้องมีการสร้างระบบงาน คอมพิวเตอร์ขึ้นมาช่วยทางานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งโดยทั่วไปเราอาจไม่ต้องสร้างระบบงานทั้งหมดขึ้น ใหม่ แต่พัฒนาระบบงานเดิมให้เป็นระบบงานที่ทางานด้วยคอมพิวเตอร์ นิยมเรียกกันว่า การพัฒนา ระบบงานคอมพิวเตอร์(Computerization) นั่นเอง ดังนั้น การแก้ปัญหาในการทางานในปัจจุบันที่มีขั้นตอนการทางานที่ซ้าซ้อน ส่วนมากมักใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยา และสามารถทาซ้าได้ง่าย หลักการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • 5. การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหลักการสาคัญ คือ ปัญหาทุกปัญหาต้อง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือวิธีการให้เหมาะสม โดยคานึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ด้านเวลา ด้าน แรงงาน และค่าใช้จ่าย การใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหาร่วมกับกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถทาได้โดย ใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ต่าง ๆ และการเขียนโปรแกรม ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1.การใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการแก้ปัญหา เช่น ไมโครซอฟต์เวิร์ด ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอ ยนต์ ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล ไมโครซอฟต์แอกเซส ซอฟต์แวร์โปรเดสท็อบ เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมต่าง ๆ เหล่านี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในการทางานได้ ดังนี้ ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เวิร์ด(Microsoft Word) ช่วยแก้ปัญหาในการจัดทางานเอกสารต่าง ๆ เช่น ช่วยให้การพิมพ์งานเอกสารทาได้รวดเร็วมากกว่าการใช้พิมพ์ดีดไฟฟ้า มีการตรวจสอบการสะกด ไวยากรณ์เพื่อป้องกันการพิมพ์ที่ผิดพลาด สามารถลบคาผิดและปรับปรุงข้อความในเอกสารได้ง่ายและสะอาด เรียบร้อย โดยไม่ต้องใช้น้ายาลบคาผิด แก้ปัญหาสิ้นเปลืองเวลาในการส่งจดหมายเวียนภายในองค์กรโดย พิมพ์จดหมายต้นแบบเพียงฉบับเดียวแล้วส่งไปให้ทุกหน่วยงานในองค์กรผ่านทางคอมพิวเตอร์แทนการถ่าย สาเนาเอกสาร แล้วให้คนส่งเอกสารนาส่งทีละหน่วยงาน เป็นต้น
  • 6. ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล(Microsoft Excel) ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการคานวณตัวเลข จัดทา ตารางข้อมูล แผนภูมิและกราฟ เช่น การคานวณตัวเลขหลายจานวนในตารางข้อมูล การใช้สูตรคานวณ แทนการใช้เครื่องคิดเลข การจัดทาตารางข้อมูลให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย การใช้ข้อมูลในตารางสร้าง แผนภูมิแลกราฟได้อย่างง่ายดาย ถูกต้องและแม่นยา เป็นต้น
  • 7. ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์แอกเซส(Microsoft Access) ช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บข้อมูล โดย จัดเก็บข้อมูลจานวนมากให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกต่อการค้นหาและนามาใช้ ซอฟต์แวร์ไมโคซอฟต์เพาเวอร์พอยนต์(Microsoft PowerPoint) ช่วยแก้ปัญหาการนาเสนอ งาน โดยทาให้การสร้างงานนาเสนอทาได้ง่าย และน่าสนใจกว่าการนาเสนองานตามปกติที่ไม่ใช้ คอมพิวเตอร์
  • 8. ซอฟต์แวร์โปรเดสท็อป (Pro/DESKTOP) ช่วยแก้ปัญหาในการออกแบบและสร้างชิ้นงาน จาลอง โดยอานวยความสะดวกในการออกแบบและสร้างชิ้นงานจาลองด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีใน ซอฟต์แวร์ซึ่งมีความแม่นยา และทราบผลทันที รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุ อุปกรณ์มา เขียนแบบหรือสร้างชิ้นงานจาลอง
  • 9. 2.การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา เป็นการใช้ความรู้ความสามารถด้านภาษาคอมพิวเตอร์และ ประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา ดัง ตัวอย่าง ภาษาคอมพิวเตอร์ การใช้งาน ภาษาฟอร์แทน(Fortran) ใช้แก้ปัญหาด้านการคานวณทาง วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และงานวิจัยต่าง ๆ ภาษาโคบอล(COBOL) ใช้แก้ปัญหาด้านงานธุรกิจ ภาษาเบสิก(BASIC) ใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทุกสาขาวิชา เหมาะสาหรับ ผู้ที่ไม่ใช่นักเขียนโปรแกรมอาชีพ และผู้ฝึกเขียน
  • 10. โปรแกรมใหม่ ๆ ภาษาปาสคาล(Pascal) ใช้ในการเรียนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ภาษาซีและซีพลัสพลัส(C และ C++) ใช้ในการเขียนโปรแกรมควบคุมการทางานของ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ภาษาวิชวลเบสิก(Visual Basic) ใช้สร้างโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้งานได้หลากหลาย บนระบบปฎิบัติการวินโดวส์ และใช้เป็นโปรแกรม แบบรูปภาพ เช่น ปุ่มคาสั่งต่าง ๆ ภาษาจาวา(Java) ใช้เขียนโปรแกรมประยุกต์สาหรับเชื่อมต่อเข้าสู่ อินเทอร์เน็ต และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต ภาษาเดลไฟ(Delphi) ใช้ในการเขียนโปรแกรมเชิงจินตภาพเพื่อสร้างส่วน ติดต่อผู้ใช้ที่เป็นแบบรูปภาพ เช่น ปุ่มคาสั่งต่าง ๆ โปรแกรมเชิงวัตถุและโปรแกรมเชิงจินตภาพแตกต่างกันอย่างไร โปรแกรมเชิงวัตถุ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ จะแยกงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ เรียกว่าวัตถุ เพื่อให้ ง่ายต่อการเรียกใช้ โดยสามารถนามาประกอบและรวมกันได้ แต่จะเห็นผลลัพธ์เมื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ เสร็จแล้ว ในขณะที่โปรแกรมเชิงจินตภาพ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถมองเห็นผลลัพธ์ของงานได้ตั้งแต่ เริ่มพัฒนาโปรแกรมโดยไม่จาเป็นต้องรอให้การพัฒนานั้นเสร็จสมบูรณ์ โปรแกรมเมอร์/นักเขียนโปรแกรม(Programmer) เป็นอาชีพที่ทางานเกี่ยวกับการเขียนชุดคาสั่งของคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการทางานและ แก้ปัญหาต่าง ๆ โดยต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องภาษาคอมพิวเตอร์และการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นอย่างดี วิธีการแก้ปัญหา มนุษย์ทุกคนต้องเคยพบกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาการเรียน ปัญหาการ ทางาน ปัญหาครอบครัว ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ตามความรู้ความสามารถ และ ประสบการณ์ โดยใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เคยศึกษาผ่านมาหรือเคยทดลองใช้แล้วประสบความสาเร็จ เช่น วิธี ลองผิดลองถูก วิธีการขจัด วิธีการใช้เหตุผล เป็นต้น ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่า วิธีการ
  • 11. แก้ปัญหาเหล่านี้ต่างมีขั้นตอนที่เหมือนกัน วิธีการแก้ปัญหาเป็นหนึ่งในขั้นตอนการประมวลผลของกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งแบ่ง ได้ ขั้นตอน ดังนี้ 1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา เป็นขั้นตอนการทาความเข้าใจกับปัญหา เพื่อ แบ่งแยกให้ชัดเจนโดยใช้คาถามต่อไปนี้ ข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหาหรือเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร เพื่อ ระบุข้อมูลเข้า สิ่งที่ต้องการคืออะไร เพื่อ ระบุข้อมูล ออก วิธีการที่ใช้ประมวลผลคืออะไร เพื่อ กาหนด วิธีการประมวลผล ตัวอย่าง การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหาเกี่ยวกับการหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ระบุข้อมูลเข้า ® ความกว้างและความยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้า ระบุข้อมูลออก ® พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า กาหนดวิธีการประมวลผล ® นาความกว้าง และความยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาหาพื้นที่ โดยการคูณ 2.การวางแผนในการแก้ปัญหาและถ่ายทอดความคิดอย่างมีขั้นตอน เป็นขั้นตอนการจาลอง ความคิดในการแก้ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาสามารถเข้าใจและปฎิบัติตามไปใน แนวทางเดียวกัน ซึ่งทาได้ 2 รูปแบบ ดังนี้ 2.1การใช้ข้อความหรือคาบรรยาย เป็นการเขียนเค้าโครงแผนงานด้วยข้อความหรือคาบรรยายที่ มนุษย์ใช้สื่อสารกันหรือภาษาคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทราบขั้นตอนการทางานของการแก้ปัญหาแต่ละ ขั้นตอน ดังตัวอย่าง ตัวอย่าง การวางแผนหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยใช้ข้อความหรือคาบรรยาย เริ่มต้น
  • 12. 1.กาหนดค่าความกว้าง 2.กาหนดค่าความยาว 3.คานวณหาพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าจากสูตร กว้าง x ยาว 4.แสดงผลค่าพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า สิ้นสุด 2.2การใช้สัญลักษณ์ เป็นการใช้สัญลักษณ์รูปแบบต่าง ๆ มาเรียงต่อกันเป็นแผนภาพเพื่อสื่อสารให้ผู้ ที่พบเห็นเข้าใจตรงกัน ซึ่งสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงนี้ได้กาหนดขึ้นโดยสถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (ANSI : The American National Standard Institute) ดังตัวอ ย่าง
  • 13. 3.การดาเนินการแก้ปัญหา เป็นขั้นตอนการลงมือแก้ปัญหาตามที่วางแผนไว้ โดยอาศัยซอฟต์แวร์ ประยุกต์หรือใช้การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมแก้ปัญหา ซึ่งผู้แก้ปัญหาต้องศึกษาวิธีใช้ ซอฟต์แวร์ประยุกต์หรือการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ให้เข้าใจและเชี่ยวชาญตลอดจนรู้จักปรับเปลี่ยน แนวทางการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเสมอ 4.การตรวจสอบและปรับปรุง เป็นขั้นตอนการตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จากการดาเนินการแก้ปัญหาว่า ถูกต้องสอดคล้องกับข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และวิธีการประมวลผลหรือไม่ ถ้ายังพบข้อบกพร่องต้องปรับปรุง แก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การใช้ขั้นตอนที่ 4 นี้เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการเขียนหรือพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะ ช่วยให้สามารถประสบความสาเร็จได้เป็นอย่างดี