SlideShare a Scribd company logo
1 of 44
Download to read offline
รายงาน
เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
จัดทําโดย
นางสาวนนทิยา สิงห์เชื้อ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 เลขที่ 27
เสนอ
คุณครูประกาศิต ศรีสะอาด
คุณครูที่ปรึกษา
1.คุณครูฉวีวรรณ วู้ดส์
2.คุณครูจารุวรรณ เสียงไพเราะ
3.คุณครูธนันญาณ์ บุตรศรี
ผู้บริหารสถานศึกษา
ว่าที่ ร.ท.วิเศษ แก้วมีศรี
รายงานเรื่องนี่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์
โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
2
คํานํา
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ใน
การจัดทํารายงานฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อให้ได้เล็งเห็นว่ายุคของคอมพิวเตอร์
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์ ขนาดของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่
อธิบายให้เข้าใจถึงเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิชา
คอมพิวเตอร์และยังสามารถนําความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและ
แก่สังคมได้อีกด้วย รวมถึงการจัดทํารายงานในเรื่องนี้ ถือเป็นการต่อยอดองค์
ความรู้และเป็นการศึกษาทําความเข้าใจในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความ
เข้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
รายงานฉบับนี้ได้มาจากการศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต โดยผู้จัดทํามี
ความประสงค์อย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้ คงจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย
สําหรับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ปรับแก้ข้อสรุปที่
ผิดพลาดของคอมพิวเตอร์
หากท่านผู้อ่านพบข้อผิดพลาดประการใดในรายงานฉบับนี้ ผู้จัดทําจึง
ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย
ผู้จัดทํา
นางสาวนนทิยา สิงห์เชื้อ
3
สารบัญ
เรื่อง หน้า
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 4-5
จุดประสงค์การเรียนรู้ 6
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ก่อนเรียน) 7-9
ระบบคอมพิวเตอร์ 10-39
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (หลังเรียน) 40-42
4
หน่วยที่ 4
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
หัวเรื่อง
1. ระบบคอมพิวเตอร์
2. ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
3. หน่วยรับเข้า
5
4. หน่วยประมวลผลกลาง
5. หน่วยความจําหลัก
6. หน่วยความจํารอง
7. หน่วยส่งออก
แนวคิด
1. ระบบคอมพิวเตอร์ คือ องค์ประกอบหลักที่จะทําให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถ
ทํางานได้อย่างสมบูรณ์ถ้าขาดองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถที่จะ
ทํางานได้ ระบบของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก ที่สําคัญ 5 ส่วน คือฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ และพีเพิลแวร์ ข้อมูลและสารสนเทศ และกระบวนการทํางาน
2. การทํางานของคอมพิวเตอร์จะทํางานตามโปรแกรมที่กําหนดไว้ก่อนล่วงหน้า
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ การทํางานของคอมพิวเตอร์
ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ
1. หน่วยรับข้อมูล
2. หน่วยประมวลผลกลาง
3. หน่วยความจําหลัก
4. หน่วยความจํารอง
5. หน่วยส่งออก
3. หน่วยรับเข้า เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วย
ความจําหลัก และใช้ในการประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูลมีหลายประเภท เช่น แผงแป้นอักขระ
เมาส์ แทร็กบอล ก้านควบคุม เครื่องกราดตรวจ เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก จอสัมผัส
4. หน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีพียู (Central Processing Unit : CPU)
หน่วยประมวลผลกลางเป็นส่วนที่สําคัญของคอมพิวเตอร์ หน่วยประมวลผลกลาง แบ่งออกเป็น 2
หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และหน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU)
5. หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้
งาน หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี หน่วยความจําหลักแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
รอม และแรม
6. หน่วยความจํารอง มีไว้เพื่อใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อ และเมื่อต้องการใช้
งานเมื่อไรก็จะถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจํารองมาไว้ที่หน่วยความจําหลักที่เป็นแรม เพื่อให้หน่วย
6
ประมวลผลทํางาน หน่วยความจํารองที่ใช้กันในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท เช่น แผ่น
บันทึก ฮาร์ดดิสก์
7. หน่วยส่งออก เป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผล หรือ
เก็บไว้ในหน่วยความจํารอง เป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง หน่วยส่งออกที่ใช้ในระบบ
คอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ได้
2. บอกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ได้
3. อธิบายหน้าที่ของส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ได้
4. บอกส่วนประกอบของหน่วยรับเข้าได้
5. บอกส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลางได้
6. บอกส่วนประกอบของหน่วยความจําหลักได้
7. บอกส่วนประกอบของหน่วยความจํารองได้
8. บอกส่วนประกอบของหน่วยแสดงผลได้
7
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ก่อนเรียน)
หน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
คําชี้แจง จงเลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล้วทําเครื่องหมาย (X)
ลงในกระดาษคําตอบ
1. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ก. ฮาร์ดแวร์
ข. ซอฟต์แวร์
ค. พีเพิลแวร์
ง. ถูกทุกข้อ
2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ย่อมาจากคําในข้อใด
ก. Center Processor Unit
ข. Center Procesing Unit
ค. Central Processor Unit
ง. Central Processing Unit
3. หน่วยใดของ CPU ทําหน้าที่คํานวณทางคณิตศาสตร์
ก. หน่วยคํานวณและตรรกะ
ข. หน่วยควบคุม
ค. หน่วยรับเข้า
8
ง. หน่วยวิเคราะห์
4. หน่วยความจําที่เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมขณะที่กําลังทํางานเท่านั้น
ก. ROM
ข. RAM
ค. Hard Disk
ง. Floppy Disk
5. หน่วยความจําใดเป็นหน่วยความจําที่อ่านได้อย่างเดียวเท่านั้น
ก. ROM
ข. RAM
ค. Hard Disk
ง. Floppy Disk
6. ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของหน่วยความจําสํารองได้ถูกต้อง
ก. บรรจุคําสั่งในการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ
ข. เก็บข้อมูลและชุดคําสั่งไว้ใช้งานต่อไป
ค. เก็บชุดคําสั่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในการประมวลผล
ง. ถูกทั้ง ข และ ค
7. แผ่นบันทึก ทําหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. หน่วยรับโปรแกรมและข้อมูล
ข. หน่วยประมวลผลกลาง
ค. หน่วยความจําหลัก
ง. หน่วยความจํารอง
8. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่ตรงตามข้อใด
ก. รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
ข. รับโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
ค. รับโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผล
ง. รับข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเตรียมประมวลผล
9. อุปกรณ์ในข้อใด ไม่อยู่ในหน่วยรับข้อมูล
9
ก. เมาส์
ข. จอภาพ
ค. ก้านควบคุม
ง. เครื่องขับแผ่นบันทึก
10. อุปกรณ์ใดอยู่ในหน่วยแสดงผล
ก. แป้นพิมพ์
ข. แผ่นบันทึก
ค. ลําโพง
ง. จอสัมผัส
11. อุปกรณ์ใดใช้ในการแสดงผล
ก. จอภาพ
ข. เครื่องพิมพ์
ค. ไมโครโฟน
ง. ก. และ ข. ถูก
12. หน่วยแสดงผลทําหน้าที่ตรงตามข้อใด
ก. แสดงผลลัพธ์จากหน่วยรับข้อมูลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจํารอง
ข. แสดงผลลัพธ์จากหน่วยรับข้อมูลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจําหลัก
ค. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจํารองแสดง
ทางจอภาพหรือบันทึกลงสื่อข้อมูล
ง. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจําหลักแสดง
ทางจอภาพหรือบันทึกลงสื่อข้อมูล
13. เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียกว่าอะไร
ก. ฮาร์ดแวร์
ข. ซอฟต์แวร์
ค. พีเพิลแวร์
ง. ซีพียู
14. ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์มีกี่หน่วย
ก. 2 หน่วย
ข. 3 หน่วย
ค. 4 หน่วย
10
ง. 5 หน่วย
15. อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในห้างสรรพสินค้าเพื่อให้อ่านรหัสของสินค้า คืออุปกรณ์ใด
ก. ก้านควบคุม
ข. เครื่องอ่านรหัสแท่ง
ค. แทร็กบอล
ง. จอสัมผัส
สาระการเรียนรู้/เนื้อหา
1. ระบบคอมพิวเตอร์
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คําจํากัดความว่า คอมพิวเตอร์
คือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทําหน้าที่เสมือนสมองกลใช้สําหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่
ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4
ประการเพื่อทดแทนข้อจํากัดของมนุษย์เรียกว่า 4Sspecial ดังนี้
1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจํานวนมากและเป็น
เวลานาน นับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทํางานแบบอัตโนมัติของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ทั้งเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องด้วย
11
2. ความเร็ว (Speed) หมายถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (ProcessingSpeed)
โดยใช้เวลาน้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เป็นตัวบ่งชี้
ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สําคัญส่วนหนึ่ง
3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล
ตามลําดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะใน
ขั้นตอนการกําหนดโปรแกรมคําสั่งและข้อมูลก่อนการประมวลผล
4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิด ผลลัพธ์ที่
ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้
เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคําสั่งและข้อมูลที่มนุษย์กําหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือ
หากมนุษย์ป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องด้วยเช่นกัน
ระบบคอมพิวเตอร์ คือ องค์ประกอบหลักที่จะทําให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทํางาน
ได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าขาดองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วคอมพิวเตอร์ ก็ไม่สามารถที่จะทํางาน
ได้ ระบบของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบหลักที่สําคัญ 5 ส่วน คือฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ พีเพิลแวร์ ข้อมูลและสารสนเทศ และกระบวนการทํางาน
ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
(Peripheral Devices) ที่เห็นได้หรือจับต้องได้ได้แก่ ส่วนประกอบทุกส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์
เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด
ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมคําสั่งที่สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทํางานโดย
โปรแกรมจะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจํา หลังจากนั้นเครื่องจะทํางานด้วยตนเองตามโปรแกรม
ภายใต้การควบคุมของหน่วยควบคุม
พีเพิลแวร์ (Peopleware) หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งทรงตรง
และทางอ้อม บุคคลที่เกี่ยวข้องทางตรง ได้แก่ บุคคลที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น
นักวิเคราะห์ระบบงาน โปรแกรมเมอร์ ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น บุคคลที่เกี่ยวข้อง
ทางอ้อม ได้แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์
ข้อมูลและสารสนเทศ (Data / Information) ในการทํางานต่าง ๆ จะต้องมีข้อมูลเกิดขึ้น
ตลอดเวลา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ถูกเก็บรวบรวมมาประมวลผล เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็น
ประโยชน์ต่อผู้ใช้ ซึ้งในปัจจุบันมีการนําเอาระบบคอมพิวเตอร์มาเป็นข้อมูลในการดัดแปลงข้อมูล
ให้ได้ประสิทธิภาพโดยแตกต่างๆ ระหว่าง ข้อมูล และ สารสนเทศ ข้อมูล คือ ได้จากการสํารวจ
จริง แต่สารสนเทศ คือ ได้จากข้อมูลไปผ่านกระบวนการหนึ่งก่อน
12
กระบวนการทํางาน (Procedure) หรือโพรซีเยอร์ หมายถึง ขั้นตอนที่ผู้ใช้จะต้องทําตาม
เพื่อให้ได้งานเฉพาะอย่างจากคอมพิวเตอร์ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนต้องรู้การทํางานพื้นฐานของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่อง ฝาก-ถอนเงิน
อัตโนมัติ
รูปที่ 4.1 ระบบคอมพิวเตอร์
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2. ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ คอมพิวเตอร์
มีจุดเด่น คือสามารถจัดการข้อมูล คิดคํานวณตัวเลขจํานวนมากได้รวดเร็วและแม่นยํา นอกจากนี้
คอมพิวเตอร์ยังสามารถเก็บข้อมูลได้มาก เมื่อจัดเก็บแล้วสามารถเรียกค้น หรือคัดแยกได้อย่าง
ถูกต้องและรวดเร็ว โดยที่การดําเนินการต่างๆ จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์
กําหนดไว้
คอมพิวเตอร์ทํางานตามชุดคําสั่งหรือโปรแกรม ตามหลักการที่ จอห์น วอน นอยแมน
(John Von Neumann) เสนอและใช้กันมาจนถึงปัจจุบันคือ คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจําสําหรับ
เก็บซอฟต์แวร์และข้อมูล การทํางานของคอมพิวเตอร์จะทํางานตามโปรแกรมที่กําหนดไว้ก่อน
ล่วงหน้าแล้ว ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ (hardware)
13
รูปที่ 4.2 ฮาร์ดแวร์
(ที่มา : satan-it.exteen.com/20080802/entry)
การทํางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ
1. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่รับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในหน่วยความจําหลักจากนั้นข้อมูล
จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลกลาง
2. หน่วยประมวลผลกลาง ทําหน้าที่ในการคิดคํานวณหรือประมวลผลข้อมูล
โดยทําตามโปรแกรมที่เก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก
3. หน่วยความจําหลัก เป็นหน่วยสําหรับเก็บข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ
ประมวลผล ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางสามารถอ่าน เขียน จากหน่วยความจําหลักรวดเร็วมาก
ทําให้หน่วยประมวลผลกลางนํามาตีความและกระทําตามได้อย่างรวดเร็ว
4. หน่วยความจํารอง มีไว้สําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่มีจํานวนมากและ
ต้องการนํามาใช้อีกในภายหลัง หากจะใช้งานก็มีการโอนถ่ายจากหน่วยความจํารองมายัง
หน่วยความจําหลัก
5. หน่วยแสดงผล เป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผล หรือ
เก็บไว้ในหน่วยความจํารอง
14
รูปที่ 4.3 ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
3. หน่วยรับเข้า
เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก ใช้ในการ
ประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูล มีหลายประเภท
รูปที่ 4.4 อุปกรณ์รับข้อมูล
(ที่มา: http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/index1.htm)
1. แผงแป้นอักขระ (keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าที่รับข้อมูล โดยรับข้อมูลจาก
การกดบนแผงแป้นอักขระ (keyboard) แล้วส่งรหัสให้กับคอมพิวเตอร์ แผงแป้นอักขระมาตรฐาน
ที่นิยมใช้กันมากในขณะนี้มีจํานวนแป้น 101 แป้น แผงแป้นอักขระ เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลที่นิยมใช้
กันโดยทั่วไป ซึ่งจะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้
รูปที่ 4.5 แผงแป้ นอักขระ (Keyboard)
15
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
- แป้ นอักขระ (alphabetic keys) เป็ นแป้ นที่มีการจัดวางอักขระเหมือนกับ
แป้นพิมพ์ดีดทั่วไป
- แป้ นตัวเลข (numeric keypad) เป็นแป้ นตัวเลขทางขวามือ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วย
อํานวยความสะดวกสําหรับงานที่ต้องป้อนข้อมูลตัวเลขเป็นประจํา
- แป้ นฟังก์ชัน (function keys) เป็นแป้ นที่อยู่บนแถวแรกของแป้ นพิมพ์ ใช้
สัญลักษณ์ F1-F12 แป้นฟังก์ชันเป็นแป้ นทางลัดในการเลือกคําสั่ง ซึ่งแต่ละแป้ นได้มีการบันทึก
คําสั่งไว้แล้ว และแป้ นฟังก์ชันของแต่ละโปรแกรมจะทําหน้าที่แตกต่างกันออกไป โปรแกรม
สําเร็จรูปส่วนใหญ่จะกําหนดแป้นฟังก์ชันเพื่อเข้าถึงคําสั่งโดยทางลัดได้
- แป้นลูกศร (arrow keys) เป็นแป้นที่ทําหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์
- แป้ นควบคุม (control keys) เป็นแป้ นพิมพ์ที่ทําหน้าที่ร่วมกับแป้ นพิมพ์อื่น ๆ เช่น
แป้น Ctrl แป้น Shift และแป้น Alt เป็นต้น
รูปที่ 4.6 แผงแป้ นอักขระ (Keyboard)
(ที่มา : www.overclockzone.com/.../2008/01/47/)
นอกจากแป้นพิมพ์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปแล้ว ยังมีแป้นพิมพ์แบบไร้สาย
wireless) ที่สามารถทํางานกับคอมพิวเตอร์ผ่านแสงอินฟาเรด และยังมีปุ่มเมาส์อยู่บนแป้ นพิมพ์
ด้วย นอกจากนี้ยังมีแป้ นพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานเฉพาะด้านเพื่อเป็นการอํานวย ความ
สะดวกและรวดเร็วในการบันทึก ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์เพื่องานธนาคาร ร้านอาหารจานด่วน (fast
food) ตู้ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) เป็นต้น
16
รูปภาพที่ 4.7 แป้ นพิมพ์ที่ใช้กับตู้ ATM
(ที่มา: http://www.wangjianshuo.com/personal/places/
pudongairport/shanghai.pvg-ATM-large.jpg)
2. เมาส์ (mouse)
เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่สามารถเลื่อนตัวชี้ไปยังตําแหน่งที่ต้องการบนจอภาพ มีลักษณะ
เป็นปุ่มกดครอบอยู่กับลูกกลมที่เมื่อลากไปกับพื้นแล้วจะมีการส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และ
แกน y เข้าสู่คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีหลายรูปแบบให้ผู้ใช้เลือกใช้ตามความต้องการ
รูปที่ 4.8 เมาส์
(ที่มา : http://home.kku.ac.th/regis/student/success/hardware_1.html )
3. แทร็กบอล (trackball)
คือ ลูกกลมที่กลิ้งไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถบังคับลูกกลมให้หมุนไปมา เพื่อ
ควบคุมการทํางานของตัวชี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีการสร้างแทรกบอลไว้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใช้พื้นที่น้อย
17
4. ก้านควบคุม
มีลักษณะเป็นก้านโยกซึ่งโยกได้หลายทิศทาง ขณะที่โยกก้านไปมาตําแหน่งของตัวชี้จะ
เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ก้านควบคุมมักเป็นอุปกรณ์ที่
นิยมใช้กันมากในการเล่นเกม
รูปที่ 4.10 ก้านควบคุม
(ที่มา: http://school.obec.go.th/uts_s/webpages/computer/input.htm)
5. เครื่องกราดตรวจ (scanner)
รูปที่ 4.9 ชนิดของแทร็กบอล
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
18
รูปที่ 4.11 เครื่องกราดตรวจ
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
เป็ นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผ่านแสง เพื่อทําการอ่านรหัส
สัญลักษณ์ หรือรูปภาพ แล้วให้คอมพิวเตอร์นําไปประมวลผลต่อไป เครื่องกราดตรวจช่วยให้การ
รับข้อมูลทําได้รวดเร็วกว่าการกดแป้ นบนแผงแป้ นอักขระ อีกทั้งยังลดข้อผิดพลาดอันอาจเกิดจาก
การกดแป้นอีกด้วย เครื่องกราดตรวจที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วๆ ไปได้แก่
1) เครื่องกราดตรวจรายหน้า (page scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านรูปภาพหรือ
ตัวหนังสือ เช่น รูปถ่าย และสัญลักษณ์ต่างๆ
รูปที่ 4.12 เครื่องกราดตรวจรายหน้า
(ที่มา: http://www.thaigoodview.com/roomnet/roomnet46/IT46_4/index.html-page4.htm)
2) เครื่องอ่านรหัสแท่ง (bar code) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ใช้สําหรับอ่านรหัสแท่ง (bar
code) ซึ่งเป็นแถบเส้นที่ประกอบด้วยเส้นขนาดแตกต่างกัน ใช้แทนรหัสข้อมูลต่างๆ การอ่านจะใช้
แสงส่องแถบเส้นทําให้เกิดการสะท้อนเพื่อรับรหัสเข้ามาตีความหมาย ปัจจุบันนิยมใช้ใน
ห้างสรรพสินค้า สินค้าทุกชนิดจะติดรหัสแท่งไว้ ผู้ขายใช้เครื่องอ่านเพื่อจะได้ทราบว่าเป็นรหัส
ของสินค้าใด ราคาเท่าใด และสามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้อย่างอัตโนมัติ
19
รูปที่ 4.13 เครื่องอ่านรหัสแท่ง
(ที่มา : http://www.sglcomp.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=376068)
3) เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก(Magnetic-Ink Character Recognition: MICR)
ที่พบเห็นได้บ่อยครั้งคือ เครื่องอ่านตัวเลขที่พิมพ์อยู่บนตั๋วสัญญาใช้เงิน ตัวเลขเหล่านี้มีลักษณะ
พิเศษที่ทําให้เครื่องอ่านได้ เนื่องจากแต่ละวันธนาคารต้องรับและออกตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นจํานวน
มาก จึงมีการใช้เครื่องอ่านตัวเลขช่วยในการอ่าน หรือเครื่องอ่านตัวเลขที่สํานักงานไปรษณีย์ใช้
เพื่อช่วยแยกจดหมายตามรหัสไปรษณีย์
รูปที่ 4.14 เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก
(ที่มา : http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/techno/WEB%20_JAN/p07/p7.html)
4) จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก
จอภาพสามารถรับข้อมูลไปประมวลผลได้โดยการสัมผัสบนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอ
สัมผัสประกอบด้วยตาข่ายของลําแสงอินฟาเรด เมื่อมีวัตถุมาสัมผัสบนจอภาพจะมีการส่ง
สัญญาณไฟฟ้ า ซึ่งสามารถระบุตําแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กําลังทํางานอยู่ได้ การใช้
งานจอสัมผัสมีความสะดวก แต่อาจผิดพลาดจากการระบุตําแหน่งบนจอภาพ ถ้าตําแหน่งบน
จอภาพมีขนาดเล็กเกินไป จอสัมผัสประยุกต์ใช้กับงานหลายอย่าง เช่น การจองตั๋วชมภาพยนตร์
การจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหาร
20
รูปที่ 4.15 จอสัมผัส
(ที่มา : http://atcloud.com/stories/66066)
5) กล้องถ่ายภาพดิจิตอล สามารถถ่ายภาพและบันทึกไว้ในหน่วยความจําภายในตัว
กล้อง จากนั้นสามารถส่งข้อมูลภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้
รูปที่ 4.16 กล้องถ่ายภาพดิจิตอล
(ที่มา : http://www.banchee.lopburi1.net/input_page_type.html)
4. หน่วยประมวลผลกลาง
หน่วยประมวลผลกลางเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีพีย◌ู (Central Processing Unit : CPU)
หน่วยประมวลผลกลางเป็นส่วนที่สําคัญของคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการผลิต
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากจนถึงขั้นสามารถผลิตวงจรหน่วยประมวลผลกลางทั้งวงจรไว้
ในชิปเพียงตัวเดียวได้ชิปหน่วยประมวลผลกลางนี้มีชื่อเรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์
รูปที่ 4.17 หน่วยประมวลผลกลาง
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และ
หน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU)
หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการควบคุมลําดับการทํางานภายในหน่วยประมวลผลกลาง
ระหว่างประมวลผล
21
หน่วยคํานวณและตรรกะ ทําหน้าที่นําข้อมูลซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าแบบตัวเลขฐานสอง
มาประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์
รูปที่ 4.18 ผังแสดงหน่วยประมวลผลกลาง
(ที่มา: http://www.comcn.in.th/elearnning/e-learning%20kru_fon/WEB- computer/ct103A2.html)
พัฒนาการของหน่วยประมวลผลกลางได้เริ่มจากการให้หน่วยประมวลผลกลางอ่านข้อมูล
จากหน่วยความจําหลักด้วยรหัสเลขฐานสอง ครั้งละ 8 บิต เรียกซีพียูแบบนี้ว่าซีพียูขนาด 8 บิต
ต่อมาเมื่อสร้างหน่วยประมวลผลกลางได้ดีขึ้นทําให้อ่านคําสั่งหรือข้อมูลเข้ามาได้ครั้งละ 16 บิต
การประมวลผลก็กระทํา ครั้งละ 16 บิตด้วย เรียกซีพียูแบบนี้ว่าซีพียูขนาด 16 บิต ปัจจุบันซีพียูที่ใช้
งานสามารถอ่านคําสั่ง หรือข้อมูลได้ถึงครั้งละ 128 บิต ทําให้ทํางานได้มากและรวดเร็วขึ้น
ซีพียู 8 บิต ซีพียู 16 บิต ซีพียู 32 บิต
รูปที่ 4.19 พัฒนาการของหน่วยประมวลผลกลาง
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
วิวัฒนาการของไมโครโพรเซสเซอร์
22
1. ไมโครโพรเซสเซอร์ 8086 เริ่มพัฒนาและนําออกมาใช้งานตั้งแต่ พ.ศ.2523เป็น
ซีพียูขนาด 16 บิต ซีพียูรุ่นนี้มีโครงสร้างการทํางานที่ต่อเชื่อมกับหน่วยความจําหลักโดยตรง
ได้มากถึง 1 เมกะไบต์ หน่วยของหน่วยความจํา เป็นดังนี้
1 ไบต์ (byte)
1 กิโลไบต์(kilobyte)
1 เมกะไบต์(megabyte)
1 กิกะไบต์(gigabyte)
เท่ากับ
เท่ากับ
เท่ากับ
เท่ากับ
8 บิต
1024 ไบต์
1024 กิโลไบต์
1024 เมกะไบต์
รูปที่ 4.20 ไมโครโปรเซสเซอร์ 8086
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80286 เป็นพัฒนาการรุ่นต่อมาของ 8086 เป็นไมโครโพรเซสเซอร์
ขนาด 16 บิต แต่สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยความจําหลักได้โดยตรงถึง 16 เมกะไบต์
รูปที่ 4.21 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80286
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
23
3. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80386 เป็นซีพียูรุ่นที่สามที่ใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์ เป็น
ไมโครโพรเซสเซอร์ขนาด 32 บิต มีประสิทธิภาพการทํางานได้ดีกว่า 80286โดยเฉพาะโครงสร้าง
การเชื่อมต่อกับหน่วยความจําสามารถต่อได้ถึง 4 กิกะไบต์
รูปที่ 4.22 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80386
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
4. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 พัฒนาต่อเนื่องมาจาก 80386 เพิ่มขีดความสามารถ
ในการคํานวณจํานวนจริง ไมโครโพรเซสเซอร์นี้มีสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนขึ้น มีจํานวนทรานซิสเตอร์
กว่าหนึ่งล้านตัวในชิพเดียวกัน
รูปที่ 4.23 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80486
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
5. ไมโครโพรเซสเซอร์ที่สูงกว่าไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 บริษัทผู้ผลิตได้เปลี่ยน
ชื่อรุ่นซีพียูจากการใช้หมายเลขมาเป็นชื่อทางการค้า เช่น เพนเที่ยม (pentium) เอทรอน (athlon)
ซึ่งซีพียูนี้มีจํานวนทรานซิสเตอร์มากกว่าสามล้านตัว
เป็นซีพียูขนาด 64 บิต และทํางานได้เร็วกว่า
ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 โดยเฉพาะมีการทํางาน
ภายในด้วยกระบวนการทํางานแบบขนานเพื่อให้ทํางาน
ได้เร็วขึ้น
รูปที่ 4.24 ซีพียู ขนาด 64 บิต
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
24
รูปที่ 4.25 แสดงรุ่นของไมโครโปรเซสเซอร์
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
5. หน่วยความจําหลัก
หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้งาน
หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว
เลขฐานสอง
รูปที่ 4.26 หน่วยความจําหลัก (RAM)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
หน่วยความจําหลักที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์แบ่งได้เป็น
1. แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจําที่เก็บข้อมูลสําหรับ
ใช้งานทั่วไป การอ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ของข้อมูลใดๆ เพื่อการเขียนและการอ่าน จะกระทําแบบการ
เข้าถึงโดยสุ่มคือเรียกไปที่ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลใดก็ได้ หน่วยความจํานี้เรียกว่า แรม หน่วยความจํา
ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่กระแสไฟฟ้ าจ่ายให้วงจร หากไฟฟ้ าดับเมื่อไรข้อมูลก็จะสูญ
หายทันที
25
รูปที่ 4.27 แรม (Random Access Memory : RAM)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2. รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจําอีกประเภทหนึ่งที่มีการ
อ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลแบบเข้าถึงโดยสุ่ม หน่วยความจําประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรจุ โปรแกรม
สําคัญบางอย่าง เมื่อเปิดเครื่องซีพียูจะเริ่มต้นทํางานทันทีข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บไว้ในรอมจะถูก
บันทึกมาก่อนแล้ว ผู้ใช้ไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเดียว
ข้อมูลหรือโปรแกรมที่อยู่ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวรแม้จะปิดเครื่องข้อมูลหรือโปรแกรมก็จะไม่ถูก
ลบไป
รูปที่ 4.28 รอม (Read Only Memory : ROM)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
6. หน่วยความจํารอง
แรมเป็นหน่วยความจําหลักสําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ขณะทํางาน ข้อมูลหรือ
ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะถูกลบทิ้งไปถ้าปิดเครื่องหรือไฟดับ ดังนั้นจึงต้องมีหน่วยความจํารองเพื่อใช้
เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อไป หน่วยความจํารองที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท
เช่น
1. แผ่นบันทึก (floppy disk หรือ diskette)
26
ไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มีหน่วยขับแผ่นบันทึกอย่างน้อยหนึ่งตัว แผ่นบันทึกที่
นิยมใช้ในปัจจุบันมีขนาด 3.5 นิ้ว ตัวแผ่นบันทึกเป็นแผ่นบางฉาบผิวด้วย สารแม่เหล็กยู่ใน
กรอบพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันการขีดข่วน
การเก็บข้อมูลจะทําโดยบันทึกลงไปที่ผิวของแผ่นปกติใช้ได้ทั้งสองด้าน หัวอ่าน
ของเครื่องขับจึงมีสองหัว แผ่นจะหมุนด้วยความเร็วคงที่ หัวอ่านวิ่งเข้าออกเพื่ออ่านข้อมูล
ในตําแหน่งที่อยู่ที่ต้องการ ผิวที่ใช้เก็บข้อมูลจะแบ่งเป็นวง เรียกว่า แทร็ก (track) แต่ละแทร็ก
จะแบ่งเป็นช่องเก็บข้อมูลเรียกว่า เซกเตอร์ (sector) แผ่นบันทึกขนาด 3.5 นิ้ว มีความจุ 1.44
เมกะไบต์ ในอดีตมีการใช้แผ่นบันทึกขนาด 5.25 นิ้ว ซึ่งมีความจุ 1.2 เมกะไบต์
รูปที่ 4.29 แผ่นบันทึก (floppy disk หรือ diskette)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2. ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)
จะประกอบด้วยแผ่นบันทึกแบบแข็งที่เคลือบสารแม่เหล็กหลายแผ่นเรียงซ้อนกัน
หัวอ่านของหน่วยขับจะมีหลายหัว ขณะที่แผ่นบันทึกแต่ละแผ่นหมุนหัวอ่านจะเคลื่อนที่เข้าออก
เพื่ออ่านข้อมูลที่เก็บบนพื้นผิวแผ่น การเก็บข้อมูลในแต่ละแผ่นจะเป็นวง เรียกแต่ละวงของทุก
แผ่นบันทึกว่า ไซลินเดอร์ (cylinder) แต่ละไซลินเดอร์ จะแบ่งเป็น เซกเตอร์แต่ละเซกเตอร์เก็บ
ข้อมูลเป็นชุดๆ
ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีความจุสูงมาก ขนาดของฮาร์ดดิสก์มีความจุเป็น
กิกะไบต์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ความจุ 15 กิกะไบต์ การเขียนอ่านข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ จะกระทําเป็น
เซกเตอร์ และเขียนอ่านได้เร็วมาก เวลาที่ใช้ในการวัดการเข้าถึงข้อมูลมีหน่วยเป็นมิลลิวินาที
27
รูปที่ 4.30 ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
3. เทปแม่เหล็ก (magnetic tape)
เป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้กันมานานแล้ว ลักษณะของเทปเป็นแถบสายพลาสติก เคลือบ
ด้วยสารแม่เหล็กเหมือนเทปบันทึกเสียง เทปแม่เหล็กใช้สําหรับเก็บข้อมูลจํานวนมาก มีการจัดเก็บ
และเรียกค้นข้อมูลแบบเป็นลําดับ การประยุกต์ใช้เน้นใช้สําหรับสํารองข้อมูลเพื่อความมั่นใจ เช่น
ถ้าฮาร์ดดิสก์เสียหายข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อาจเสียหายได้ จึงจําเป็นต้องเก็บสํารองไว้
รูปที่ 4.31 เทปแม่เหล็ก (magnetic tape)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
4. แผ่นซีดี (CD-ROM)
วิวัฒนาการของการใช้หน่วยความจํารองได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลําดับ ปัจจุบันได้มีการ
ประดิษฐ์แผ่นซีดี (CompactDisk:CD)ใช้ในการเก็บข้อมูลจํานวนมาก การเก็บข้อมูลบนแผ่นซีดีใช้
หลักการทางแสงทําให้สามารถเก็บข้อมูลแบบดิจิตอลได้ แผ่นซีดีที่นิยมใช้มากเป็นแผ่นซีดีที่อ่าน
ได้อย่างเดียว เรียกกันว่า ซีดีรอม (CD ROM) ข้อมูลที่บันทึกจะถูกบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิต
เหมือนการบันทึกเพลงหรือภาพยนตร์ ข้อเด่นของแผ่นซีดีคือ ราคาถูก จุข้อมูลได้มาก สามารถ
28
เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมได้มากกว่า 750 เมกะไบต์ต่อแผ่น แผ่นซีดีมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
5 นิ้ว ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตแผ่นซีดีได้ก้าวหน้าขึ้น สามารถเขียนข้อมูลบนแผ่นซีดีได้
เหมือนฮาร์ดดิสก์ เรียกว่า ออปติคัลดิสก์ (optical disk)
รูปที่ 4.32 แผ่นซีดี (CD-ROM)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
5. หน่วยความจําแบบแฟลช (flash memory)
เป็นหน่วยความจําประเภทรอมที่เรียกว่า อีอีพร็อม (Electrically Erasable Programmable
Read Only Memory : EEPROM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของรอมและแรมรวมกัน ให้หน่วยความจํา
ชนิดนี้สามารถเก็บข้อมูลได้เหมือนฮาร์ดดิสก์ คือสามารถเก็บและลบข้อมูลได้ตามต้องการและ
ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว หน่วยความจําชนิดนี้มีขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา พกพาได้สะดวก
ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลได้มาก
รูปที่ 4.33 หน่วยความจําแบบแฟลช (flash memory)
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
7. หน่วยแสดงผล
หน่วยแสดงผลเป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง อุปกรณ์ส่งออกที่ใช้ในระบบ
คอมพิวเตอร์ทั่วไป คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์
1. จอภาพ (monitor)
29
มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของข้อมูลจะปรากฏบน
จอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ด้วย
จอภาพมี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอดรังสีอิเล็กตรอน
เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทําให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD)
ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาในระบบตัวเลข การ
แสดงผลบนจอภาพจะแสดงด้วยจุดเล็กๆ ตามแนวนอนและแนวตั้ง แต่เดิมจอภาพแสดงผลได้เพียง
สีเดียว พัฒนาการต่อมาทําให้การแสดงผลเป็นสีหลายสีได้ นอกจากนี้ยังมีความละเอียดมากขึ้น
จอภาพโดยทั่วไปจะมีขนาด 15 นิ้ว หรือ 17 นิ้ว การแสดงผลของจอภาพควบคุมโดยแผงวงจร
อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเ ตอร์
รูปที่ 4.34 จอภาพ
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2. เครื่องพิมพ์ (printer)
เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์เครื่องพิมพ์เป็น
อุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีดังนี้
1) เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix printer)
เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่นผ้าหมึกเพื่อให้หมึกติดบน
กระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ หัวเข็มที่ใช้ยิงไปยังผ้าหมึกมี
จํานวนหลายหัว โดยปกติใช้ขนาด 24 หัวเข็ม ซึ่งจัดวางเรียงกันในแนวตั้งทําให้ได้ตัวหนังสือที่
ละเอียดพอควร
30
รูปที่ 4.35 เครื่องพิมพ์แบบจุด
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
2) เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer)
เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง
ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์จึงเป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับ
งานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพ พัฒนาการทางเทคโนโลยีทําให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ได้รับความนิยม
สูงขึ้นเพราะเมื่อเทียบประสิทธิภาพ ต่อราคาแล้วเครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในสํานักงาน
แต่ไม่สามารถพิมพ์สําเนากระดาษคาร์บอนได้
รูปที่ 4.36 เครื่องพิมพ์เลเซอร์
(ที่มา: http://social.eduzones.com/dotnetengcom/17376)
3) เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (inkjet printer)
เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสี คือแดง เหลืองและ
นํ้าเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบนกระดาษ ในปัจจุบัน
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีที่สวยงาม
31
รูปที่ 4.37 เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
(ที่มา : http://58.147.80.102/online1/Webpage1/File6.htm)
4) เครื่องพิมพ์รายบรรทัด (line printer)
เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก สามารถพิมพ์ได้หลายร้อยบรรทัดต่อ
นาที กล่าวคือ มีความเร็วในการพิมพ์ได้ถึง 2000 บรรทัดต่อนาที ลักษณะการพิมพ์มีหลายแบบ บาง
แบบใช้พิมพ์ด้วยแถบโซ่ตัวอักษรที่หมุนอยู่ และมีคันเคาะตัวอักษรในตําแหน่งที่กําหนด บางแบบ
ใช้หัวยิงแบบจุด แต่มีจํานวนหัวยิงเป็นจํานวนมากเพื่อให้พิมพ์ได้เร็ว เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับ
ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจํานวนมาก และพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
รูปที่ 4.38 เครื่องพิมพ์รายบรรทัด
(ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
32
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
1. ให้พิจารณาว่าอุปกรณ์ต่อไปนี้เป็นอุปกรณ์ประเภทใด
ลําดับ
อุปกรณ์
ความ
จําหลัก
ความจํา
รอง
หน่วย
รับเข้า
หน่วย
แสดงผล
หน่วย
ประมวลผล
1. เมาส์
2 ซีพียู
3 เครื่องอ่านรหัสแท่ง
4 เครื่องขับแผ่นบันทึก
5 จอภาพ
6 เครื่องขับแผ่นซีดี
7 ก้านควบคุม
8 ลําโพง
9 แผงแป้นอักขระ
10 เครื่องพิมพ์
11 แรม
12 แผ่นบันทึก
13 ฮาร์ดดิสก์
14 แผ่นซีดี
15 รอม
2. บอกจุดเด่นของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการประมวลผลข้อมูล
3. บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์
4. หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกได้เป็นกี่หน่วย อะไรบ้าง จงอธิบาย
5. บอกหน้าที่ของหน่วยประมวลผลกลาง
6. บอกหน่วยความจําหลัก
7. บอกความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม
33
8 บอกหน้าที่ของหน่วยความจําหลักและหน่วยความจํารอง
9. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยรับเข้า พร้อมอธิบาย
10. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยแสดงผล พร้อมอธิบาย
34
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
1. ให้พิจารณาว่าอุปกรณ์ต่อไปนี้เป็นอุปกรณ์ประเภทใด
ลําดับ อุปกรณ์ ความ
จําหลัก
ความจํา
รอง
หน่วย
รับเข้า
หน่วย
แสดงผล
หน่วย
ประมวลผล
1. เมาส์ 
2 ซีพียู 
3 เครื่องอ่านรหัสแท่ง 
4 เครื่องขับแผ่นบันทึก 
5 จอภาพ 
6 เครื่องขับแผ่นซีดี 
7 ก้านควบคุม 
8 ลําโพง 
9 แผงแป้นอักขระ 
10 เครื่องพิมพ์ 
11 แรม 
12 แผ่นบันทึก 
13 ฮาร์ดดิสก์ 
14 แผ่นซีดี 
15 รอม 
35
2. บอกจุดเด่นของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการประมวลผลข้อมูล
เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการ เพื่อทดแทนข้อจํากัดของ
มนุษย์เรียกว่า 4 S special ดังนี้
1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจํานวนมากและเป็น
เวลานานนับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทํางานแบบอัตโนมัติของเครื่อง
คอมพิวเตอร์
2. ความเร็ว (Speed) หมายถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูล โดยใช้เวลา
น้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด
3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล
ตามลําดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ
4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่
ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์
3. บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ
1. หน่วยประมวลผลกลาง ทําหน้าที่ในการคํานวณหรือแประมวลผลข้อมูล โดยทําตาม
โปรแกรมที่เก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก
2. หน่วยความจําหลัก เป็นหน่วยสําหรับเก็บข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผล
ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางสามารถอ่าน เขียนจากหน่วยความจําหลักรวดเร็วมาก ทําให้หน่วย
ประมวลผลกลางนํามาตีความและกระทําตามได้อย่างรวดเร็ว
3. หน่วยความจํารอง มีไว้สําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่มีจํานวนมาก และต้อง
การนํามาใช้อีกในภายหลัง เมื่อจะใช้งานก็มีการโอนถ่ายจากหน่วยความจํารองมายังหน่วยความ
จําหลัก
4. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่รับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้บนหน่วยความจําหลัก จากนั้นข้อมูล
จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลกลาง
5. หน่วยแสดงผลเป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผลหรือเก็บ
ไว้ในหน่วยความจํารอง
36
4. หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกได้เป็นกี่หน่วย อะไรบ้าง จงอธิบาย
หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และ
หน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU)
หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการควบคุมลําดับการทํางานภายในหน่วยประมวลผลกลาง
ระหว่างประมวลผล
หน่วยคํานวณและตรรกะ ทําหน้าที่นําข้อมูลซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าแบบตัวเลขฐานสอง
มาประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์
5. บอกหน้าที่ของหน่วยประมวลผลกลาง
หน่วยประมวลผลกลาง หรือไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่นํา
คําสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจํามาแปลความหมาย และกระทําตามคําสั่งพื้นฐานของ
ไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งแทนด้วยรหัสเลขฐานสอง
6. บอกหน่วยของหน่วยความจําหลัก
หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้
งานได้ หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว
เลขฐานสอง หน่วยความจําหลักที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจําอีกประเภทหนึ่งที่มีการอ้างอิง
ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลแบบเข้าถึงโดยสุ่ม หน่วยความจําประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรจุ โปรแกรมสําคัญ
บางอย่างเพื่อว่าเมื่อเปิดเครื่องมาซีพียูจะเริ่มต้นทํางานได้ทันที ข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บไว้ใน
รอมจะถูกบันทึกมาก่อนแล้ว ผู้ใช้ไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอ่านข้อมูลได้
อย่างเดียว ข้อมูลหรือโปรแกรมที่อยู่ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวร แม้จะปิ ดเครื่องข้อมูลหรือ
โปรแกรมก็จะไม่ถูกลบไป
แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจําที่เก็บข้อมูลสําหรับใช้งาน
ทั่วไป การอ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ของข้อมูลใดๆเพื่อการเขียนและการอ่านจะกระทําแบบการเข้าถึง
โดยสุ่ม คือเรียกไปที่ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลใดก็ได้ หน่วยความจํานี้เรียกว่า แรม
หน่วยความจําประเภทนี้จะเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่กระแสไฟฟ้าจ่ายให้วงจร ถ้าไฟฟ้า
ดับเมื่อไรข้อมูลก็จะสูญหายทันที
37
7. บอกความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม
ความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม คือ
หน่วยความจํารอม จะอ่านข้อมูลมาใช้งานได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเขียนข้อมูลใหม่เข้าไปไม่ได้
ข้อมูลในรอมจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง หน่วยความจําแรม ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเก็บอยู่
ในตําแหน่งใด เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถนําข้อมูลไปเก็บ (เขียน) หรือดึงข้อมูลออกมา (อ่าน) จาก
แรมได้ ข้อมูลในแรมจะเปลี่ยนไปก็ต่อเมื่อมีการนําเอาข้อมูลใหม่เข้ามาแทนที่ หรือเมื่อปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ข้อมูลทั้งหมดในแรมจะหายไป
8. บอกหน้าที่ของหน่วยความจําหลักและหน่วยความจํารอง
หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้งาน
ได้ หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว
เลขฐานสอง
หน่วยความจํารอง มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อ และหากต้องการใช้งาน
เมื่อไรก็จะถ่ายจากหน่วยความจํารองมาไว้ที่หน่วยความจําหลักที่เป็นแรมเพื่อให้หน่วยประมวลผล
ทํางาน
9. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยรับเข้า พร้อมอธิบาย
หน่วยรับเข้า เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา
หลัก ใช้ในการประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูลมีหลายประเภท
1. แผงแป้ นอักขระ (keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าที่รับข้อมูล โดยรับข้อมูลจาการ
กดบนแผงแป้ นอักขระ (keyboard) แล้วส่งรหัสให้กับคอมพิวเตอร์ แผงแป้ นอักขระมาตรฐานที่
นิยมใช้กันมากในขณะนี้มีจํานวนแป้น101 แป้น
2. เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าอย่างหนึ่ง มีลักษณะเป็นปุ่มกดครอบอยู่กับ ลูก
กลมที่เมื่อลากไปกับพื้นแล้วจะมีการ ส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และแกน y เข้าสู่ คอมพิวเตอร์
3. แทร็กบอล (trackball) คือ ลูกกลมที่กลิ้งไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถ บังคับลูก
กลมให้หมุนไปมาเพื่อควบคุมการทํางานของตัวชี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันมีการสร้างแทรก
บอลไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใช้พื้นที่น้อย
38
4. ก้านควบคุม มีลักษณะเป็นก้านโยกซึ่งโยกได้หลายทิศทาง ขณะที่โยกก้านไปมา
ตําแหน่งของตัวชี้จะเปลี่ยนไปด้วยเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่
นิยมใช้กันมากในการเล่นเกม
5. เครื่องกราดตรวจ (scanner) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผ่าน
แสงเพื่อทําการอ่านรหัสสัญลักษณ์หรือรูปภาพ แล้วให้คอมพิวเตอร์นําไปประมวลผลต่อไป
เครื่องกราดตรวจที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วๆ ไปได้แก่
- เครื่องกราดตรวจรายหน้า (page scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านรูปภาพหรือ
ตัวหนังสือ เช่น รูปถ่าย และ สัญลักษณ์ต่างๆ เป็นต้น
- เครื่องอ่านรหัสแท่ง (bar code) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ใช้สําหรับอ่านรหัสแท่ง
(bar code) ซึ่งเป็นแถบเส้นที่ประกอบด้วยเส้นขนาดแตกต่างกัน ใช้แทนรหัสข้อมูลต่างๆ การอ่าน
จะใช้แสงส่องแถบเส้นทําให้เกิดการสะท้อนเพื่อรับรหัสเข้ามาตี
ความหมาย
นิยมใช้ในห้างสรรพสินค้า
6. เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก (Magnetic-Ink Character Recognition: MICR) ที่พบ
เห็นได้บ่อยครั้งคือ เครื่องอ่านตัวเลขที่พิมพ์อยู่บนตั๋วสัญญาใช้เงิน ตัวเลขเหล่านี้มีลักษณะพิเศษที่
ทําให้เครื่องอ่านได้มีการใช้เครื่องอ่านตัวเลขช่วยในการอ่าน หรือเครื่องอ่านตัวเลขที่สํานักงาน
ไปรษณีย์ใช้เพื่อช่วยแยกจดหมายตามรหัสไปรษณีย์
7. จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก จอภาพ
สามารถรับข้อมูลไปประมวลผลได้โดยการสัมผัสบนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอสัมผัส
ประกอบด้วยตาข่ายของลําแสงอินฟาเรด เมื่อมีวัตถุมาสัมผัสบนจอภาพจะมีการส่งสัญญาณไฟฟ้ า
ซึ่งสามารถระบุตําแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กําลังทํางานอยู่ได้ เช่น การจองตั๋วชม
ภาพยนตร์ การจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหาร
8. กล้องถ่ายภาพดิจิตอล สามารถถ่ายภาพและบันทึกไว้ในหน่วยความจําภายในตัว
กล้อง จากนั้นสามารถส่งข้อมูลภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้
10. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยแสดงผล พร้อมอธิบาย
หน่วยแสดงผลเป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
1. จอภาพ (monitor) มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของ
ข้อมูลจะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดง
39
รูปภาพได้ด้วย จอภาพ มี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอด
รังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทําให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral
Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาใน
ระบบตัวเลข
2. เครื่องพิมพ์(printer) เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยี
การพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มี
ดังนี้
1. เครื่องพิมพ์แบบจุด เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่น
ผ้าหมึก เพื่อให้หมึกติดบนกระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ
2. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง
การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว
3. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สี
สามสีคือแดง เหลืองและนํ้าเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบน
กระดาษ
4. เครื่องพิมพ์รายบรรทัด เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก
เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจํานวนมาก และพิมพ์อย่าง
ต่อเนื่อง
40
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (หลังเรียน)
หน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
คําชี้แจง จงเลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล้วทําเครื่องหมาย (X)
ลงในกระดาษคําตอบ
1. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ก. ฮาร์ดแวร์
ข. ซอฟต์แวร์
ค. พีเพิลแวร์
ง. ถูกทุกข้อ
2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ย่อมาจากคําในข้อใด
ก. Center Processor Unit
ข. Center Procesing Unit
ค. Central Processor Unit
ง. Central Processing Unit
3. หน่วยใดของ CPU ทําหน้าที่คํานวณทางคณิตศาสตร์
ก. หน่วยคํานวณและตรรกะ
ข. หน่วยควบคุม
ค. หน่วยรับเข้า
ง. หน่วยวิเคราะห์
4. หน่วยความจําที่เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมขณะที่กําลังทํางานเท่านั้น
ก. ROM
ข. RAM
ค. Hard Disk
ง. Floppy Disk
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์

More Related Content

What's hot

รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์napatson chaiyasan
 
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อpeter dontoom
 
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6พงศธร ภักดี
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์laddawan wangkhamlun
 
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์Aiice Pimsupuk
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์xavi2536
 
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศpeter dontoom
 
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมSomsak Kaeosijan
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอมwarunya mobmit
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์รัสนา สิงหปรีชา
 
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์chaiwat vichianchai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสารโครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสารIzezjk
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์Kriangx Ch
 

What's hot (20)

รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
ข้อสอบ5 เม.ย. การใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เนต ปวส 2558มี80ข้อ
 
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
แผนการสอน ผลิตสื่อวีดีทัศน์ ม.6
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์
ประมวลรายวิชา ง30206 การตัดต่อภาพยนตร์
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
 
10447 com
10447 com10447 com
10447 com
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อสอบปลายภาค5ข้อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
คอมจ้ะ
คอมจ้ะคอมจ้ะ
คอมจ้ะ
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์
รายงานผลการดำเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สารคดีพื้นบ้านตามรอยวัฒนธรรมกู่สันตรัตน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสารโครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
โครงงานคอมพิวเตอร์ เกาะแสมสาร
 
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
2tablet jamrat
2tablet jamrat2tablet jamrat
2tablet jamrat
 

Similar to รายงานคอมพิวเตอร์

รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์kanlaya champatho
 
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษา
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษา
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษาJenchoke Tachagomain
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยพัน พัน
 
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆ
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆการ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆ
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆพัน พัน
 
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์devilp Nnop
 
โครงงาน2
โครงงาน2โครงงาน2
โครงงาน2Bream Mie
 
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...ฐนกร คำเรือง
 
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...ฐนกร คำเรือง
 
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศบทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศwilaiporntoey
 
รหัสข้อสอบ
รหัสข้อสอบรหัสข้อสอบ
รหัสข้อสอบArunee Chaipichit
 

Similar to รายงานคอมพิวเตอร์ (20)

รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
Computer system
Computer systemComputer system
Computer system
 
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษา
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษา
คอมพิวเตอร์สำหรับบัณฑิตศึกษา
 
pretest (1)
pretest (1)pretest (1)
pretest (1)
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
 
Poject comm.5
Poject comm.5Poject comm.5
Poject comm.5
 
Assembly Computer
Assembly ComputerAssembly Computer
Assembly Computer
 
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัยระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
ระบบคอมพิวเตอร์และยุคสมัย
 
E-BOOK
E-BOOKE-BOOK
E-BOOK
 
Chepter1
Chepter1Chepter1
Chepter1
 
A0141 20
A0141 20A0141 20
A0141 20
 
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆ
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆการ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆ
การ Print การแชร์ การติดตั้ง แบบต่างๆ
 
หน่วยที่1
หน่วยที่1หน่วยที่1
หน่วยที่1
 
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 3 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน2
โครงงาน2โครงงาน2
โครงงาน2
 
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
 
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
38743023 เธซเธ™เนˆเธงเธขเธ—เธตเนˆ-1-เน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡-เธซเธฅเธฑเธเธเธฒเธฃเ...
 
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศบทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ
บทที่ 1 การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ
 
รหัสข้อสอบ
รหัสข้อสอบรหัสข้อสอบ
รหัสข้อสอบ
 

รายงานคอมพิวเตอร์

  • 1. รายงาน เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ จัดทําโดย นางสาวนนทิยา สิงห์เชื้อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 เลขที่ 27 เสนอ คุณครูประกาศิต ศรีสะอาด คุณครูที่ปรึกษา 1.คุณครูฉวีวรรณ วู้ดส์ 2.คุณครูจารุวรรณ เสียงไพเราะ 3.คุณครูธนันญาณ์ บุตรศรี ผู้บริหารสถานศึกษา ว่าที่ ร.ท.วิเศษ แก้วมีศรี รายงานเรื่องนี่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
  • 2. 2 คํานํา รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ใน การจัดทํารายงานฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อให้ได้เล็งเห็นว่ายุคของคอมพิวเตอร์ วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์ ขนาดของคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ อธิบายให้เข้าใจถึงเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิชา คอมพิวเตอร์และยังสามารถนําความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและ แก่สังคมได้อีกด้วย รวมถึงการจัดทํารายงานในเรื่องนี้ ถือเป็นการต่อยอดองค์ ความรู้และเป็นการศึกษาทําความเข้าใจในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความ เข้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รายงานฉบับนี้ได้มาจากการศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต โดยผู้จัดทํามี ความประสงค์อย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้ คงจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย สําหรับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ปรับแก้ข้อสรุปที่ ผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ หากท่านผู้อ่านพบข้อผิดพลาดประการใดในรายงานฉบับนี้ ผู้จัดทําจึง ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ผู้จัดทํา นางสาวนนทิยา สิงห์เชื้อ
  • 3. 3 สารบัญ เรื่อง หน้า เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 4-5 จุดประสงค์การเรียนรู้ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ก่อนเรียน) 7-9 ระบบคอมพิวเตอร์ 10-39 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (หลังเรียน) 40-42
  • 5. 5 4. หน่วยประมวลผลกลาง 5. หน่วยความจําหลัก 6. หน่วยความจํารอง 7. หน่วยส่งออก แนวคิด 1. ระบบคอมพิวเตอร์ คือ องค์ประกอบหลักที่จะทําให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถ ทํางานได้อย่างสมบูรณ์ถ้าขาดองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถที่จะ ทํางานได้ ระบบของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก ที่สําคัญ 5 ส่วน คือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และพีเพิลแวร์ ข้อมูลและสารสนเทศ และกระบวนการทํางาน 2. การทํางานของคอมพิวเตอร์จะทํางานตามโปรแกรมที่กําหนดไว้ก่อนล่วงหน้า ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ การทํางานของคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ 1. หน่วยรับข้อมูล 2. หน่วยประมวลผลกลาง 3. หน่วยความจําหลัก 4. หน่วยความจํารอง 5. หน่วยส่งออก 3. หน่วยรับเข้า เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วย ความจําหลัก และใช้ในการประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูลมีหลายประเภท เช่น แผงแป้นอักขระ เมาส์ แทร็กบอล ก้านควบคุม เครื่องกราดตรวจ เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก จอสัมผัส 4. หน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีพียู (Central Processing Unit : CPU) หน่วยประมวลผลกลางเป็นส่วนที่สําคัญของคอมพิวเตอร์ หน่วยประมวลผลกลาง แบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และหน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU) 5. หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้ งาน หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี หน่วยความจําหลักแบ่งได้ 2 ประเภท คือ รอม และแรม 6. หน่วยความจํารอง มีไว้เพื่อใช้เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อ และเมื่อต้องการใช้ งานเมื่อไรก็จะถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจํารองมาไว้ที่หน่วยความจําหลักที่เป็นแรม เพื่อให้หน่วย
  • 6. 6 ประมวลผลทํางาน หน่วยความจํารองที่ใช้กันในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท เช่น แผ่น บันทึก ฮาร์ดดิสก์ 7. หน่วยส่งออก เป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผล หรือ เก็บไว้ในหน่วยความจํารอง เป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง หน่วยส่งออกที่ใช้ในระบบ คอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 2. บอกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ได้ 3. อธิบายหน้าที่ของส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ได้ 4. บอกส่วนประกอบของหน่วยรับเข้าได้ 5. บอกส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลางได้ 6. บอกส่วนประกอบของหน่วยความจําหลักได้ 7. บอกส่วนประกอบของหน่วยความจํารองได้ 8. บอกส่วนประกอบของหน่วยแสดงผลได้
  • 7. 7 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ก่อนเรียน) หน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ คําชี้แจง จงเลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล้วทําเครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคําตอบ 1. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ก. ฮาร์ดแวร์ ข. ซอฟต์แวร์ ค. พีเพิลแวร์ ง. ถูกทุกข้อ 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ย่อมาจากคําในข้อใด ก. Center Processor Unit ข. Center Procesing Unit ค. Central Processor Unit ง. Central Processing Unit 3. หน่วยใดของ CPU ทําหน้าที่คํานวณทางคณิตศาสตร์ ก. หน่วยคํานวณและตรรกะ ข. หน่วยควบคุม ค. หน่วยรับเข้า
  • 8. 8 ง. หน่วยวิเคราะห์ 4. หน่วยความจําที่เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมขณะที่กําลังทํางานเท่านั้น ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk 5. หน่วยความจําใดเป็นหน่วยความจําที่อ่านได้อย่างเดียวเท่านั้น ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk 6. ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของหน่วยความจําสํารองได้ถูกต้อง ก. บรรจุคําสั่งในการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ข. เก็บข้อมูลและชุดคําสั่งไว้ใช้งานต่อไป ค. เก็บชุดคําสั่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในการประมวลผล ง. ถูกทั้ง ข และ ค 7. แผ่นบันทึก ทําหน้าที่ตรงกับข้อใด ก. หน่วยรับโปรแกรมและข้อมูล ข. หน่วยประมวลผลกลาง ค. หน่วยความจําหลัก ง. หน่วยความจํารอง 8. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่ตรงตามข้อใด ก. รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ข. รับโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ค. รับโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผล ง. รับข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเตรียมประมวลผล 9. อุปกรณ์ในข้อใด ไม่อยู่ในหน่วยรับข้อมูล
  • 9. 9 ก. เมาส์ ข. จอภาพ ค. ก้านควบคุม ง. เครื่องขับแผ่นบันทึก 10. อุปกรณ์ใดอยู่ในหน่วยแสดงผล ก. แป้นพิมพ์ ข. แผ่นบันทึก ค. ลําโพง ง. จอสัมผัส 11. อุปกรณ์ใดใช้ในการแสดงผล ก. จอภาพ ข. เครื่องพิมพ์ ค. ไมโครโฟน ง. ก. และ ข. ถูก 12. หน่วยแสดงผลทําหน้าที่ตรงตามข้อใด ก. แสดงผลลัพธ์จากหน่วยรับข้อมูลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจํารอง ข. แสดงผลลัพธ์จากหน่วยรับข้อมูลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจําหลัก ค. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจํารองแสดง ทางจอภาพหรือบันทึกลงสื่อข้อมูล ง. แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลโดยนําผลลัพธ์มาจากหน่วยความจําหลักแสดง ทางจอภาพหรือบันทึกลงสื่อข้อมูล 13. เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียกว่าอะไร ก. ฮาร์ดแวร์ ข. ซอฟต์แวร์ ค. พีเพิลแวร์ ง. ซีพียู 14. ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์มีกี่หน่วย ก. 2 หน่วย ข. 3 หน่วย ค. 4 หน่วย
  • 10. 10 ง. 5 หน่วย 15. อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในห้างสรรพสินค้าเพื่อให้อ่านรหัสของสินค้า คืออุปกรณ์ใด ก. ก้านควบคุม ข. เครื่องอ่านรหัสแท่ง ค. แทร็กบอล ง. จอสัมผัส สาระการเรียนรู้/เนื้อหา 1. ระบบคอมพิวเตอร์ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คําจํากัดความว่า คอมพิวเตอร์ คือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทําหน้าที่เสมือนสมองกลใช้สําหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการเพื่อทดแทนข้อจํากัดของมนุษย์เรียกว่า 4Sspecial ดังนี้ 1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจํานวนมากและเป็น เวลานาน นับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทํางานแบบอัตโนมัติของเครื่อง คอมพิวเตอร์ทั้งเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องด้วย
  • 11. 11 2. ความเร็ว (Speed) หมายถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (ProcessingSpeed) โดยใช้เวลาน้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เป็นตัวบ่งชี้ ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สําคัญส่วนหนึ่ง 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล ตามลําดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะใน ขั้นตอนการกําหนดโปรแกรมคําสั่งและข้อมูลก่อนการประมวลผล 4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิด ผลลัพธ์ที่ ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้ เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคําสั่งและข้อมูลที่มนุษย์กําหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือ หากมนุษย์ป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องด้วยเช่นกัน ระบบคอมพิวเตอร์ คือ องค์ประกอบหลักที่จะทําให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทํางาน ได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าขาดองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วคอมพิวเตอร์ ก็ไม่สามารถที่จะทํางาน ได้ ระบบของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบหลักที่สําคัญ 5 ส่วน คือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ พีเพิลแวร์ ข้อมูลและสารสนเทศ และกระบวนการทํางาน ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง (Peripheral Devices) ที่เห็นได้หรือจับต้องได้ได้แก่ ส่วนประกอบทุกส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมคําสั่งที่สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทํางานโดย โปรแกรมจะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจํา หลังจากนั้นเครื่องจะทํางานด้วยตนเองตามโปรแกรม ภายใต้การควบคุมของหน่วยควบคุม พีเพิลแวร์ (Peopleware) หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งทรงตรง และทางอ้อม บุคคลที่เกี่ยวข้องทางตรง ได้แก่ บุคคลที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น นักวิเคราะห์ระบบงาน โปรแกรมเมอร์ ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น บุคคลที่เกี่ยวข้อง ทางอ้อม ได้แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ ข้อมูลและสารสนเทศ (Data / Information) ในการทํางานต่าง ๆ จะต้องมีข้อมูลเกิดขึ้น ตลอดเวลา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ถูกเก็บรวบรวมมาประมวลผล เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็น ประโยชน์ต่อผู้ใช้ ซึ้งในปัจจุบันมีการนําเอาระบบคอมพิวเตอร์มาเป็นข้อมูลในการดัดแปลงข้อมูล ให้ได้ประสิทธิภาพโดยแตกต่างๆ ระหว่าง ข้อมูล และ สารสนเทศ ข้อมูล คือ ได้จากการสํารวจ จริง แต่สารสนเทศ คือ ได้จากข้อมูลไปผ่านกระบวนการหนึ่งก่อน
  • 12. 12 กระบวนการทํางาน (Procedure) หรือโพรซีเยอร์ หมายถึง ขั้นตอนที่ผู้ใช้จะต้องทําตาม เพื่อให้ได้งานเฉพาะอย่างจากคอมพิวเตอร์ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนต้องรู้การทํางานพื้นฐานของ เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่อง ฝาก-ถอนเงิน อัตโนมัติ รูปที่ 4.1 ระบบคอมพิวเตอร์ (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2. ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ มีจุดเด่น คือสามารถจัดการข้อมูล คิดคํานวณตัวเลขจํานวนมากได้รวดเร็วและแม่นยํา นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์ยังสามารถเก็บข้อมูลได้มาก เมื่อจัดเก็บแล้วสามารถเรียกค้น หรือคัดแยกได้อย่าง ถูกต้องและรวดเร็ว โดยที่การดําเนินการต่างๆ จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ กําหนดไว้ คอมพิวเตอร์ทํางานตามชุดคําสั่งหรือโปรแกรม ตามหลักการที่ จอห์น วอน นอยแมน (John Von Neumann) เสนอและใช้กันมาจนถึงปัจจุบันคือ คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจําสําหรับ เก็บซอฟต์แวร์และข้อมูล การทํางานของคอมพิวเตอร์จะทํางานตามโปรแกรมที่กําหนดไว้ก่อน ล่วงหน้าแล้ว ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เรียกรวมว่า ฮาร์ดแวร์ (hardware)
  • 13. 13 รูปที่ 4.2 ฮาร์ดแวร์ (ที่มา : satan-it.exteen.com/20080802/entry) การทํางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ 1. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่รับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในหน่วยความจําหลักจากนั้นข้อมูล จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลกลาง 2. หน่วยประมวลผลกลาง ทําหน้าที่ในการคิดคํานวณหรือประมวลผลข้อมูล โดยทําตามโปรแกรมที่เก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก 3. หน่วยความจําหลัก เป็นหน่วยสําหรับเก็บข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ ประมวลผล ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางสามารถอ่าน เขียน จากหน่วยความจําหลักรวดเร็วมาก ทําให้หน่วยประมวลผลกลางนํามาตีความและกระทําตามได้อย่างรวดเร็ว 4. หน่วยความจํารอง มีไว้สําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่มีจํานวนมากและ ต้องการนํามาใช้อีกในภายหลัง หากจะใช้งานก็มีการโอนถ่ายจากหน่วยความจํารองมายัง หน่วยความจําหลัก 5. หน่วยแสดงผล เป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผล หรือ เก็บไว้ในหน่วยความจํารอง
  • 14. 14 รูปที่ 4.3 ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 3. หน่วยรับเข้า เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก ใช้ในการ ประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูล มีหลายประเภท รูปที่ 4.4 อุปกรณ์รับข้อมูล (ที่มา: http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/index1.htm) 1. แผงแป้นอักขระ (keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าที่รับข้อมูล โดยรับข้อมูลจาก การกดบนแผงแป้นอักขระ (keyboard) แล้วส่งรหัสให้กับคอมพิวเตอร์ แผงแป้นอักขระมาตรฐาน ที่นิยมใช้กันมากในขณะนี้มีจํานวนแป้น 101 แป้น แผงแป้นอักขระ เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลที่นิยมใช้ กันโดยทั่วไป ซึ่งจะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้ รูปที่ 4.5 แผงแป้ นอักขระ (Keyboard)
  • 15. 15 (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) - แป้ นอักขระ (alphabetic keys) เป็ นแป้ นที่มีการจัดวางอักขระเหมือนกับ แป้นพิมพ์ดีดทั่วไป - แป้ นตัวเลข (numeric keypad) เป็นแป้ นตัวเลขทางขวามือ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วย อํานวยความสะดวกสําหรับงานที่ต้องป้อนข้อมูลตัวเลขเป็นประจํา - แป้ นฟังก์ชัน (function keys) เป็นแป้ นที่อยู่บนแถวแรกของแป้ นพิมพ์ ใช้ สัญลักษณ์ F1-F12 แป้นฟังก์ชันเป็นแป้ นทางลัดในการเลือกคําสั่ง ซึ่งแต่ละแป้ นได้มีการบันทึก คําสั่งไว้แล้ว และแป้ นฟังก์ชันของแต่ละโปรแกรมจะทําหน้าที่แตกต่างกันออกไป โปรแกรม สําเร็จรูปส่วนใหญ่จะกําหนดแป้นฟังก์ชันเพื่อเข้าถึงคําสั่งโดยทางลัดได้ - แป้นลูกศร (arrow keys) เป็นแป้นที่ทําหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์ - แป้ นควบคุม (control keys) เป็นแป้ นพิมพ์ที่ทําหน้าที่ร่วมกับแป้ นพิมพ์อื่น ๆ เช่น แป้น Ctrl แป้น Shift และแป้น Alt เป็นต้น รูปที่ 4.6 แผงแป้ นอักขระ (Keyboard) (ที่มา : www.overclockzone.com/.../2008/01/47/) นอกจากแป้นพิมพ์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปแล้ว ยังมีแป้นพิมพ์แบบไร้สาย wireless) ที่สามารถทํางานกับคอมพิวเตอร์ผ่านแสงอินฟาเรด และยังมีปุ่มเมาส์อยู่บนแป้ นพิมพ์ ด้วย นอกจากนี้ยังมีแป้ นพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานเฉพาะด้านเพื่อเป็นการอํานวย ความ สะดวกและรวดเร็วในการบันทึก ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์เพื่องานธนาคาร ร้านอาหารจานด่วน (fast food) ตู้ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) เป็นต้น
  • 16. 16 รูปภาพที่ 4.7 แป้ นพิมพ์ที่ใช้กับตู้ ATM (ที่มา: http://www.wangjianshuo.com/personal/places/ pudongairport/shanghai.pvg-ATM-large.jpg) 2. เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่สามารถเลื่อนตัวชี้ไปยังตําแหน่งที่ต้องการบนจอภาพ มีลักษณะ เป็นปุ่มกดครอบอยู่กับลูกกลมที่เมื่อลากไปกับพื้นแล้วจะมีการส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และ แกน y เข้าสู่คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีหลายรูปแบบให้ผู้ใช้เลือกใช้ตามความต้องการ รูปที่ 4.8 เมาส์ (ที่มา : http://home.kku.ac.th/regis/student/success/hardware_1.html ) 3. แทร็กบอล (trackball) คือ ลูกกลมที่กลิ้งไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถบังคับลูกกลมให้หมุนไปมา เพื่อ ควบคุมการทํางานของตัวชี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีการสร้างแทรกบอลไว้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใช้พื้นที่น้อย
  • 17. 17 4. ก้านควบคุม มีลักษณะเป็นก้านโยกซึ่งโยกได้หลายทิศทาง ขณะที่โยกก้านไปมาตําแหน่งของตัวชี้จะ เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ก้านควบคุมมักเป็นอุปกรณ์ที่ นิยมใช้กันมากในการเล่นเกม รูปที่ 4.10 ก้านควบคุม (ที่มา: http://school.obec.go.th/uts_s/webpages/computer/input.htm) 5. เครื่องกราดตรวจ (scanner) รูปที่ 4.9 ชนิดของแทร็กบอล (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
  • 18. 18 รูปที่ 4.11 เครื่องกราดตรวจ (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) เป็ นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผ่านแสง เพื่อทําการอ่านรหัส สัญลักษณ์ หรือรูปภาพ แล้วให้คอมพิวเตอร์นําไปประมวลผลต่อไป เครื่องกราดตรวจช่วยให้การ รับข้อมูลทําได้รวดเร็วกว่าการกดแป้ นบนแผงแป้ นอักขระ อีกทั้งยังลดข้อผิดพลาดอันอาจเกิดจาก การกดแป้นอีกด้วย เครื่องกราดตรวจที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วๆ ไปได้แก่ 1) เครื่องกราดตรวจรายหน้า (page scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านรูปภาพหรือ ตัวหนังสือ เช่น รูปถ่าย และสัญลักษณ์ต่างๆ รูปที่ 4.12 เครื่องกราดตรวจรายหน้า (ที่มา: http://www.thaigoodview.com/roomnet/roomnet46/IT46_4/index.html-page4.htm) 2) เครื่องอ่านรหัสแท่ง (bar code) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ใช้สําหรับอ่านรหัสแท่ง (bar code) ซึ่งเป็นแถบเส้นที่ประกอบด้วยเส้นขนาดแตกต่างกัน ใช้แทนรหัสข้อมูลต่างๆ การอ่านจะใช้ แสงส่องแถบเส้นทําให้เกิดการสะท้อนเพื่อรับรหัสเข้ามาตีความหมาย ปัจจุบันนิยมใช้ใน ห้างสรรพสินค้า สินค้าทุกชนิดจะติดรหัสแท่งไว้ ผู้ขายใช้เครื่องอ่านเพื่อจะได้ทราบว่าเป็นรหัส ของสินค้าใด ราคาเท่าใด และสามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้อย่างอัตโนมัติ
  • 19. 19 รูปที่ 4.13 เครื่องอ่านรหัสแท่ง (ที่มา : http://www.sglcomp.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=376068) 3) เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก(Magnetic-Ink Character Recognition: MICR) ที่พบเห็นได้บ่อยครั้งคือ เครื่องอ่านตัวเลขที่พิมพ์อยู่บนตั๋วสัญญาใช้เงิน ตัวเลขเหล่านี้มีลักษณะ พิเศษที่ทําให้เครื่องอ่านได้ เนื่องจากแต่ละวันธนาคารต้องรับและออกตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นจํานวน มาก จึงมีการใช้เครื่องอ่านตัวเลขช่วยในการอ่าน หรือเครื่องอ่านตัวเลขที่สํานักงานไปรษณีย์ใช้ เพื่อช่วยแยกจดหมายตามรหัสไปรษณีย์ รูปที่ 4.14 เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก (ที่มา : http://www.streesmutprakan.ac.th/teacher/techno/WEB%20_JAN/p07/p7.html) 4) จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก จอภาพสามารถรับข้อมูลไปประมวลผลได้โดยการสัมผัสบนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอ สัมผัสประกอบด้วยตาข่ายของลําแสงอินฟาเรด เมื่อมีวัตถุมาสัมผัสบนจอภาพจะมีการส่ง สัญญาณไฟฟ้ า ซึ่งสามารถระบุตําแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กําลังทํางานอยู่ได้ การใช้ งานจอสัมผัสมีความสะดวก แต่อาจผิดพลาดจากการระบุตําแหน่งบนจอภาพ ถ้าตําแหน่งบน จอภาพมีขนาดเล็กเกินไป จอสัมผัสประยุกต์ใช้กับงานหลายอย่าง เช่น การจองตั๋วชมภาพยนตร์ การจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหาร
  • 20. 20 รูปที่ 4.15 จอสัมผัส (ที่มา : http://atcloud.com/stories/66066) 5) กล้องถ่ายภาพดิจิตอล สามารถถ่ายภาพและบันทึกไว้ในหน่วยความจําภายในตัว กล้อง จากนั้นสามารถส่งข้อมูลภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้ รูปที่ 4.16 กล้องถ่ายภาพดิจิตอล (ที่มา : http://www.banchee.lopburi1.net/input_page_type.html) 4. หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยประมวลผลกลางเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีพีย◌ู (Central Processing Unit : CPU) หน่วยประมวลผลกลางเป็นส่วนที่สําคัญของคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการผลิต วงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากจนถึงขั้นสามารถผลิตวงจรหน่วยประมวลผลกลางทั้งวงจรไว้ ในชิปเพียงตัวเดียวได้ชิปหน่วยประมวลผลกลางนี้มีชื่อเรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ รูปที่ 4.17 หน่วยประมวลผลกลาง (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และ หน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU) หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการควบคุมลําดับการทํางานภายในหน่วยประมวลผลกลาง ระหว่างประมวลผล
  • 21. 21 หน่วยคํานวณและตรรกะ ทําหน้าที่นําข้อมูลซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าแบบตัวเลขฐานสอง มาประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์ รูปที่ 4.18 ผังแสดงหน่วยประมวลผลกลาง (ที่มา: http://www.comcn.in.th/elearnning/e-learning%20kru_fon/WEB- computer/ct103A2.html) พัฒนาการของหน่วยประมวลผลกลางได้เริ่มจากการให้หน่วยประมวลผลกลางอ่านข้อมูล จากหน่วยความจําหลักด้วยรหัสเลขฐานสอง ครั้งละ 8 บิต เรียกซีพียูแบบนี้ว่าซีพียูขนาด 8 บิต ต่อมาเมื่อสร้างหน่วยประมวลผลกลางได้ดีขึ้นทําให้อ่านคําสั่งหรือข้อมูลเข้ามาได้ครั้งละ 16 บิต การประมวลผลก็กระทํา ครั้งละ 16 บิตด้วย เรียกซีพียูแบบนี้ว่าซีพียูขนาด 16 บิต ปัจจุบันซีพียูที่ใช้ งานสามารถอ่านคําสั่ง หรือข้อมูลได้ถึงครั้งละ 128 บิต ทําให้ทํางานได้มากและรวดเร็วขึ้น ซีพียู 8 บิต ซีพียู 16 บิต ซีพียู 32 บิต รูปที่ 4.19 พัฒนาการของหน่วยประมวลผลกลาง (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) วิวัฒนาการของไมโครโพรเซสเซอร์
  • 22. 22 1. ไมโครโพรเซสเซอร์ 8086 เริ่มพัฒนาและนําออกมาใช้งานตั้งแต่ พ.ศ.2523เป็น ซีพียูขนาด 16 บิต ซีพียูรุ่นนี้มีโครงสร้างการทํางานที่ต่อเชื่อมกับหน่วยความจําหลักโดยตรง ได้มากถึง 1 เมกะไบต์ หน่วยของหน่วยความจํา เป็นดังนี้ 1 ไบต์ (byte) 1 กิโลไบต์(kilobyte) 1 เมกะไบต์(megabyte) 1 กิกะไบต์(gigabyte) เท่ากับ เท่ากับ เท่ากับ เท่ากับ 8 บิต 1024 ไบต์ 1024 กิโลไบต์ 1024 เมกะไบต์ รูปที่ 4.20 ไมโครโปรเซสเซอร์ 8086 (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80286 เป็นพัฒนาการรุ่นต่อมาของ 8086 เป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ขนาด 16 บิต แต่สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยความจําหลักได้โดยตรงถึง 16 เมกะไบต์ รูปที่ 4.21 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80286 (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
  • 23. 23 3. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80386 เป็นซีพียูรุ่นที่สามที่ใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์ เป็น ไมโครโพรเซสเซอร์ขนาด 32 บิต มีประสิทธิภาพการทํางานได้ดีกว่า 80286โดยเฉพาะโครงสร้าง การเชื่อมต่อกับหน่วยความจําสามารถต่อได้ถึง 4 กิกะไบต์ รูปที่ 4.22 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80386 (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 4. ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 พัฒนาต่อเนื่องมาจาก 80386 เพิ่มขีดความสามารถ ในการคํานวณจํานวนจริง ไมโครโพรเซสเซอร์นี้มีสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนขึ้น มีจํานวนทรานซิสเตอร์ กว่าหนึ่งล้านตัวในชิพเดียวกัน รูปที่ 4.23 ไมโครโปรเซสเซอร์ 80486 (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 5. ไมโครโพรเซสเซอร์ที่สูงกว่าไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 บริษัทผู้ผลิตได้เปลี่ยน ชื่อรุ่นซีพียูจากการใช้หมายเลขมาเป็นชื่อทางการค้า เช่น เพนเที่ยม (pentium) เอทรอน (athlon) ซึ่งซีพียูนี้มีจํานวนทรานซิสเตอร์มากกว่าสามล้านตัว เป็นซีพียูขนาด 64 บิต และทํางานได้เร็วกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486 โดยเฉพาะมีการทํางาน ภายในด้วยกระบวนการทํางานแบบขนานเพื่อให้ทํางาน ได้เร็วขึ้น รูปที่ 4.24 ซีพียู ขนาด 64 บิต (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
  • 24. 24 รูปที่ 4.25 แสดงรุ่นของไมโครโปรเซสเซอร์ (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 5. หน่วยความจําหลัก หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้งาน หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว เลขฐานสอง รูปที่ 4.26 หน่วยความจําหลัก (RAM) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) หน่วยความจําหลักที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์แบ่งได้เป็น 1. แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจําที่เก็บข้อมูลสําหรับ ใช้งานทั่วไป การอ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ของข้อมูลใดๆ เพื่อการเขียนและการอ่าน จะกระทําแบบการ เข้าถึงโดยสุ่มคือเรียกไปที่ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลใดก็ได้ หน่วยความจํานี้เรียกว่า แรม หน่วยความจํา ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่กระแสไฟฟ้ าจ่ายให้วงจร หากไฟฟ้ าดับเมื่อไรข้อมูลก็จะสูญ หายทันที
  • 25. 25 รูปที่ 4.27 แรม (Random Access Memory : RAM) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2. รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจําอีกประเภทหนึ่งที่มีการ อ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลแบบเข้าถึงโดยสุ่ม หน่วยความจําประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรจุ โปรแกรม สําคัญบางอย่าง เมื่อเปิดเครื่องซีพียูจะเริ่มต้นทํางานทันทีข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บไว้ในรอมจะถูก บันทึกมาก่อนแล้ว ผู้ใช้ไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเดียว ข้อมูลหรือโปรแกรมที่อยู่ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวรแม้จะปิดเครื่องข้อมูลหรือโปรแกรมก็จะไม่ถูก ลบไป รูปที่ 4.28 รอม (Read Only Memory : ROM) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 6. หน่วยความจํารอง แรมเป็นหน่วยความจําหลักสําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ขณะทํางาน ข้อมูลหรือ ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะถูกลบทิ้งไปถ้าปิดเครื่องหรือไฟดับ ดังนั้นจึงต้องมีหน่วยความจํารองเพื่อใช้ เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อไป หน่วยความจํารองที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายประเภท เช่น 1. แผ่นบันทึก (floppy disk หรือ diskette)
  • 26. 26 ไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มีหน่วยขับแผ่นบันทึกอย่างน้อยหนึ่งตัว แผ่นบันทึกที่ นิยมใช้ในปัจจุบันมีขนาด 3.5 นิ้ว ตัวแผ่นบันทึกเป็นแผ่นบางฉาบผิวด้วย สารแม่เหล็กยู่ใน กรอบพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันการขีดข่วน การเก็บข้อมูลจะทําโดยบันทึกลงไปที่ผิวของแผ่นปกติใช้ได้ทั้งสองด้าน หัวอ่าน ของเครื่องขับจึงมีสองหัว แผ่นจะหมุนด้วยความเร็วคงที่ หัวอ่านวิ่งเข้าออกเพื่ออ่านข้อมูล ในตําแหน่งที่อยู่ที่ต้องการ ผิวที่ใช้เก็บข้อมูลจะแบ่งเป็นวง เรียกว่า แทร็ก (track) แต่ละแทร็ก จะแบ่งเป็นช่องเก็บข้อมูลเรียกว่า เซกเตอร์ (sector) แผ่นบันทึกขนาด 3.5 นิ้ว มีความจุ 1.44 เมกะไบต์ ในอดีตมีการใช้แผ่นบันทึกขนาด 5.25 นิ้ว ซึ่งมีความจุ 1.2 เมกะไบต์ รูปที่ 4.29 แผ่นบันทึก (floppy disk หรือ diskette) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2. ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) จะประกอบด้วยแผ่นบันทึกแบบแข็งที่เคลือบสารแม่เหล็กหลายแผ่นเรียงซ้อนกัน หัวอ่านของหน่วยขับจะมีหลายหัว ขณะที่แผ่นบันทึกแต่ละแผ่นหมุนหัวอ่านจะเคลื่อนที่เข้าออก เพื่ออ่านข้อมูลที่เก็บบนพื้นผิวแผ่น การเก็บข้อมูลในแต่ละแผ่นจะเป็นวง เรียกแต่ละวงของทุก แผ่นบันทึกว่า ไซลินเดอร์ (cylinder) แต่ละไซลินเดอร์ จะแบ่งเป็น เซกเตอร์แต่ละเซกเตอร์เก็บ ข้อมูลเป็นชุดๆ ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีความจุสูงมาก ขนาดของฮาร์ดดิสก์มีความจุเป็น กิกะไบต์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ความจุ 15 กิกะไบต์ การเขียนอ่านข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ จะกระทําเป็น เซกเตอร์ และเขียนอ่านได้เร็วมาก เวลาที่ใช้ในการวัดการเข้าถึงข้อมูลมีหน่วยเป็นมิลลิวินาที
  • 27. 27 รูปที่ 4.30 ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 3. เทปแม่เหล็ก (magnetic tape) เป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้กันมานานแล้ว ลักษณะของเทปเป็นแถบสายพลาสติก เคลือบ ด้วยสารแม่เหล็กเหมือนเทปบันทึกเสียง เทปแม่เหล็กใช้สําหรับเก็บข้อมูลจํานวนมาก มีการจัดเก็บ และเรียกค้นข้อมูลแบบเป็นลําดับ การประยุกต์ใช้เน้นใช้สําหรับสํารองข้อมูลเพื่อความมั่นใจ เช่น ถ้าฮาร์ดดิสก์เสียหายข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อาจเสียหายได้ จึงจําเป็นต้องเก็บสํารองไว้ รูปที่ 4.31 เทปแม่เหล็ก (magnetic tape) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 4. แผ่นซีดี (CD-ROM) วิวัฒนาการของการใช้หน่วยความจํารองได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลําดับ ปัจจุบันได้มีการ ประดิษฐ์แผ่นซีดี (CompactDisk:CD)ใช้ในการเก็บข้อมูลจํานวนมาก การเก็บข้อมูลบนแผ่นซีดีใช้ หลักการทางแสงทําให้สามารถเก็บข้อมูลแบบดิจิตอลได้ แผ่นซีดีที่นิยมใช้มากเป็นแผ่นซีดีที่อ่าน ได้อย่างเดียว เรียกกันว่า ซีดีรอม (CD ROM) ข้อมูลที่บันทึกจะถูกบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิต เหมือนการบันทึกเพลงหรือภาพยนตร์ ข้อเด่นของแผ่นซีดีคือ ราคาถูก จุข้อมูลได้มาก สามารถ
  • 28. 28 เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมได้มากกว่า 750 เมกะไบต์ต่อแผ่น แผ่นซีดีมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตแผ่นซีดีได้ก้าวหน้าขึ้น สามารถเขียนข้อมูลบนแผ่นซีดีได้ เหมือนฮาร์ดดิสก์ เรียกว่า ออปติคัลดิสก์ (optical disk) รูปที่ 4.32 แผ่นซีดี (CD-ROM) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 5. หน่วยความจําแบบแฟลช (flash memory) เป็นหน่วยความจําประเภทรอมที่เรียกว่า อีอีพร็อม (Electrically Erasable Programmable Read Only Memory : EEPROM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของรอมและแรมรวมกัน ให้หน่วยความจํา ชนิดนี้สามารถเก็บข้อมูลได้เหมือนฮาร์ดดิสก์ คือสามารถเก็บและลบข้อมูลได้ตามต้องการและ ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว หน่วยความจําชนิดนี้มีขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา พกพาได้สะดวก ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลได้มาก รูปที่ 4.33 หน่วยความจําแบบแฟลช (flash memory) (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 7. หน่วยแสดงผล หน่วยแสดงผลเป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง อุปกรณ์ส่งออกที่ใช้ในระบบ คอมพิวเตอร์ทั่วไป คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ 1. จอภาพ (monitor)
  • 29. 29 มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของข้อมูลจะปรากฏบน จอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดงรูปภาพได้ด้วย จอภาพมี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอดรังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทําให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาในระบบตัวเลข การ แสดงผลบนจอภาพจะแสดงด้วยจุดเล็กๆ ตามแนวนอนและแนวตั้ง แต่เดิมจอภาพแสดงผลได้เพียง สีเดียว พัฒนาการต่อมาทําให้การแสดงผลเป็นสีหลายสีได้ นอกจากนี้ยังมีความละเอียดมากขึ้น จอภาพโดยทั่วไปจะมีขนาด 15 นิ้ว หรือ 17 นิ้ว การแสดงผลของจอภาพควบคุมโดยแผงวงจร อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเ ตอร์ รูปที่ 4.34 จอภาพ (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2. เครื่องพิมพ์ (printer) เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์เครื่องพิมพ์เป็น อุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีดังนี้ 1) เครื่องพิมพ์แบบจุด (dot matrix printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่นผ้าหมึกเพื่อให้หมึกติดบน กระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ หัวเข็มที่ใช้ยิงไปยังผ้าหมึกมี จํานวนหลายหัว โดยปกติใช้ขนาด 24 หัวเข็ม ซึ่งจัดวางเรียงกันในแนวตั้งทําให้ได้ตัวหนังสือที่ ละเอียดพอควร
  • 30. 30 รูปที่ 4.35 เครื่องพิมพ์แบบจุด (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2) เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์จึงเป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับ งานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพ พัฒนาการทางเทคโนโลยีทําให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ได้รับความนิยม สูงขึ้นเพราะเมื่อเทียบประสิทธิภาพ ต่อราคาแล้วเครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในสํานักงาน แต่ไม่สามารถพิมพ์สําเนากระดาษคาร์บอนได้ รูปที่ 4.36 เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (ที่มา: http://social.eduzones.com/dotnetengcom/17376) 3) เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (inkjet printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สีสามสี คือแดง เหลืองและ นํ้าเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบนกระดาษ ในปัจจุบัน เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาเป็นสีที่สวยงาม
  • 31. 31 รูปที่ 4.37 เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (ที่มา : http://58.147.80.102/online1/Webpage1/File6.htm) 4) เครื่องพิมพ์รายบรรทัด (line printer) เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก สามารถพิมพ์ได้หลายร้อยบรรทัดต่อ นาที กล่าวคือ มีความเร็วในการพิมพ์ได้ถึง 2000 บรรทัดต่อนาที ลักษณะการพิมพ์มีหลายแบบ บาง แบบใช้พิมพ์ด้วยแถบโซ่ตัวอักษรที่หมุนอยู่ และมีคันเคาะตัวอักษรในตําแหน่งที่กําหนด บางแบบ ใช้หัวยิงแบบจุด แต่มีจํานวนหัวยิงเป็นจํานวนมากเพื่อให้พิมพ์ได้เร็ว เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับ ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจํานวนมาก และพิมพ์อย่างต่อเนื่อง รูปที่ 4.38 เครื่องพิมพ์รายบรรทัด (ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
  • 32. 32 แบบฝึกหัดหน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 1. ให้พิจารณาว่าอุปกรณ์ต่อไปนี้เป็นอุปกรณ์ประเภทใด ลําดับ อุปกรณ์ ความ จําหลัก ความจํา รอง หน่วย รับเข้า หน่วย แสดงผล หน่วย ประมวลผล 1. เมาส์ 2 ซีพียู 3 เครื่องอ่านรหัสแท่ง 4 เครื่องขับแผ่นบันทึก 5 จอภาพ 6 เครื่องขับแผ่นซีดี 7 ก้านควบคุม 8 ลําโพง 9 แผงแป้นอักขระ 10 เครื่องพิมพ์ 11 แรม 12 แผ่นบันทึก 13 ฮาร์ดดิสก์ 14 แผ่นซีดี 15 รอม 2. บอกจุดเด่นของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการประมวลผลข้อมูล 3. บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ 4. หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกได้เป็นกี่หน่วย อะไรบ้าง จงอธิบาย 5. บอกหน้าที่ของหน่วยประมวลผลกลาง 6. บอกหน่วยความจําหลัก 7. บอกความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม
  • 33. 33 8 บอกหน้าที่ของหน่วยความจําหลักและหน่วยความจํารอง 9. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยรับเข้า พร้อมอธิบาย 10. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยแสดงผล พร้อมอธิบาย
  • 34. 34 เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 1. ให้พิจารณาว่าอุปกรณ์ต่อไปนี้เป็นอุปกรณ์ประเภทใด ลําดับ อุปกรณ์ ความ จําหลัก ความจํา รอง หน่วย รับเข้า หน่วย แสดงผล หน่วย ประมวลผล 1. เมาส์  2 ซีพียู  3 เครื่องอ่านรหัสแท่ง  4 เครื่องขับแผ่นบันทึก  5 จอภาพ  6 เครื่องขับแผ่นซีดี  7 ก้านควบคุม  8 ลําโพง  9 แผงแป้นอักขระ  10 เครื่องพิมพ์  11 แรม  12 แผ่นบันทึก  13 ฮาร์ดดิสก์  14 แผ่นซีดี  15 รอม 
  • 35. 35 2. บอกจุดเด่นของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการประมวลผลข้อมูล เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการ เพื่อทดแทนข้อจํากัดของ มนุษย์เรียกว่า 4 S special ดังนี้ 1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจํานวนมากและเป็น เวลานานนับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทํางานแบบอัตโนมัติของเครื่อง คอมพิวเตอร์ 2. ความเร็ว (Speed) หมายถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูล โดยใช้เวลา น้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล ตามลําดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ 4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ ถูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ 3. บอกส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยสําคัญ 5 หน่วย คือ 1. หน่วยประมวลผลกลาง ทําหน้าที่ในการคํานวณหรือแประมวลผลข้อมูล โดยทําตาม โปรแกรมที่เก็บไว้ในหน่วยความจําหลัก 2. หน่วยความจําหลัก เป็นหน่วยสําหรับเก็บข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผล ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางสามารถอ่าน เขียนจากหน่วยความจําหลักรวดเร็วมาก ทําให้หน่วย ประมวลผลกลางนํามาตีความและกระทําตามได้อย่างรวดเร็ว 3. หน่วยความจํารอง มีไว้สําหรับเก็บข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ที่มีจํานวนมาก และต้อง การนํามาใช้อีกในภายหลัง เมื่อจะใช้งานก็มีการโอนถ่ายจากหน่วยความจํารองมายังหน่วยความ จําหลัก 4. หน่วยรับข้อมูล ทําหน้าที่รับข้อมูลเข้ามาเก็บไว้บนหน่วยความจําหลัก จากนั้นข้อมูล จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลกลาง 5. หน่วยแสดงผลเป็นหน่วยที่นําข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลแล้วมาแสดงผลหรือเก็บ ไว้ในหน่วยความจํารอง
  • 36. 36 4. หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกได้เป็นกี่หน่วย อะไรบ้าง จงอธิบาย หน่วยประมวลผลกลางแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ หน่วยควบคุม (control unit) และ หน่วยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic Logic Unit : ALU) หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการควบคุมลําดับการทํางานภายในหน่วยประมวลผลกลาง ระหว่างประมวลผล หน่วยคํานวณและตรรกะ ทําหน้าที่นําข้อมูลซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าแบบตัวเลขฐานสอง มาประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์ 5. บอกหน้าที่ของหน่วยประมวลผลกลาง หน่วยประมวลผลกลาง หรือไมโครโพรเซสเซอร์ของไมโครคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่นํา คําสั่งและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจํามาแปลความหมาย และกระทําตามคําสั่งพื้นฐานของ ไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งแทนด้วยรหัสเลขฐานสอง 6. บอกหน่วยของหน่วยความจําหลัก หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้ งานได้ หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว เลขฐานสอง หน่วยความจําหลักที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจําอีกประเภทหนึ่งที่มีการอ้างอิง ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลแบบเข้าถึงโดยสุ่ม หน่วยความจําประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรจุ โปรแกรมสําคัญ บางอย่างเพื่อว่าเมื่อเปิดเครื่องมาซีพียูจะเริ่มต้นทํางานได้ทันที ข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บไว้ใน รอมจะถูกบันทึกมาก่อนแล้ว ผู้ใช้ไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงไปได้แต่สามารถอ่านข้อมูลได้ อย่างเดียว ข้อมูลหรือโปรแกรมที่อยู่ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวร แม้จะปิ ดเครื่องข้อมูลหรือ โปรแกรมก็จะไม่ถูกลบไป แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจําที่เก็บข้อมูลสําหรับใช้งาน ทั่วไป การอ้างอิงตําแหน่งที่อยู่ของข้อมูลใดๆเพื่อการเขียนและการอ่านจะกระทําแบบการเข้าถึง โดยสุ่ม คือเรียกไปที่ตําแหน่งที่อยู่ข้อมูลใดก็ได้ หน่วยความจํานี้เรียกว่า แรม หน่วยความจําประเภทนี้จะเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่กระแสไฟฟ้าจ่ายให้วงจร ถ้าไฟฟ้า ดับเมื่อไรข้อมูลก็จะสูญหายทันที
  • 37. 37 7. บอกความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม ความแตกต่างของหน่วยความจําหลักรอมและหน่วยความจําหลักแรม คือ หน่วยความจํารอม จะอ่านข้อมูลมาใช้งานได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเขียนข้อมูลใหม่เข้าไปไม่ได้ ข้อมูลในรอมจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง หน่วยความจําแรม ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเก็บอยู่ ในตําแหน่งใด เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถนําข้อมูลไปเก็บ (เขียน) หรือดึงข้อมูลออกมา (อ่าน) จาก แรมได้ ข้อมูลในแรมจะเปลี่ยนไปก็ต่อเมื่อมีการนําเอาข้อมูลใหม่เข้ามาแทนที่ หรือเมื่อปิดเครื่อง คอมพิวเตอร์ ข้อมูลทั้งหมดในแรมจะหายไป 8. บอกหน้าที่ของหน่วยความจําหลักและหน่วยความจํารอง หน่วยความจําหลัก มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่จะให้ซีพียูเรียกไปใช้งาน ได้ หน่วยความจําหลักเป็นอุปกรณ์ที่ทํามาจากไอซี วงจรหน่วยความจําจะเก็บข้อมูลในรูปตัว เลขฐานสอง หน่วยความจํารอง มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่ต้องการใช้งานต่อ และหากต้องการใช้งาน เมื่อไรก็จะถ่ายจากหน่วยความจํารองมาไว้ที่หน่วยความจําหลักที่เป็นแรมเพื่อให้หน่วยประมวลผล ทํางาน 9. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยรับเข้า พร้อมอธิบาย หน่วยรับเข้า เป็นอุปกรณ์ที่นําข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา หลัก ใช้ในการประมวลผล อุปกรณ์รับข้อมูลมีหลายประเภท 1. แผงแป้ นอักขระ (keyboard) เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าที่รับข้อมูล โดยรับข้อมูลจาการ กดบนแผงแป้ นอักขระ (keyboard) แล้วส่งรหัสให้กับคอมพิวเตอร์ แผงแป้ นอักขระมาตรฐานที่ นิยมใช้กันมากในขณะนี้มีจํานวนแป้น101 แป้น 2. เมาส์ (mouse) เป็นอุปกรณ์รับเข้าอย่างหนึ่ง มีลักษณะเป็นปุ่มกดครอบอยู่กับ ลูก กลมที่เมื่อลากไปกับพื้นแล้วจะมีการ ส่งสัญญาณ ตามแนวแกน x และแกน y เข้าสู่ คอมพิวเตอร์ 3. แทร็กบอล (trackball) คือ ลูกกลมที่กลิ้งไปมาวางอยู่ในเบ้า ผู้ใช้สามารถ บังคับลูก กลมให้หมุนไปมาเพื่อควบคุมการทํางานของตัวชี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันมีการสร้างแทรก บอลไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เพราะสะดวกต่อการใช้และใช้พื้นที่น้อย
  • 38. 38 4. ก้านควบคุม มีลักษณะเป็นก้านโยกซึ่งโยกได้หลายทิศทาง ขณะที่โยกก้านไปมา ตําแหน่งของตัวชี้จะเปลี่ยนไปด้วยเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ นิยมใช้กันมากในการเล่นเกม 5. เครื่องกราดตรวจ (scanner) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีของการผ่าน แสงเพื่อทําการอ่านรหัสสัญลักษณ์หรือรูปภาพ แล้วให้คอมพิวเตอร์นําไปประมวลผลต่อไป เครื่องกราดตรวจที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วๆ ไปได้แก่ - เครื่องกราดตรวจรายหน้า (page scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านรูปภาพหรือ ตัวหนังสือ เช่น รูปถ่าย และ สัญลักษณ์ต่างๆ เป็นต้น - เครื่องอ่านรหัสแท่ง (bar code) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ใช้สําหรับอ่านรหัสแท่ง (bar code) ซึ่งเป็นแถบเส้นที่ประกอบด้วยเส้นขนาดแตกต่างกัน ใช้แทนรหัสข้อมูลต่างๆ การอ่าน จะใช้แสงส่องแถบเส้นทําให้เกิดการสะท้อนเพื่อรับรหัสเข้ามาตี ความหมาย นิยมใช้ในห้างสรรพสินค้า 6. เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็ก (Magnetic-Ink Character Recognition: MICR) ที่พบ เห็นได้บ่อยครั้งคือ เครื่องอ่านตัวเลขที่พิมพ์อยู่บนตั๋วสัญญาใช้เงิน ตัวเลขเหล่านี้มีลักษณะพิเศษที่ ทําให้เครื่องอ่านได้มีการใช้เครื่องอ่านตัวเลขช่วยในการอ่าน หรือเครื่องอ่านตัวเลขที่สํานักงาน ไปรษณีย์ใช้เพื่อช่วยแยกจดหมายตามรหัสไปรษณีย์ 7. จอสัมผัส (touch screen) สามารถเป็นได้ทั้งหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก จอภาพ สามารถรับข้อมูลไปประมวลผลได้โดยการสัมผัสบนบริเวณจอภาพ บริเวณจอภาพของจอสัมผัส ประกอบด้วยตาข่ายของลําแสงอินฟาเรด เมื่อมีวัตถุมาสัมผัสบนจอภาพจะมีการส่งสัญญาณไฟฟ้ า ซึ่งสามารถระบุตําแหน่งบนจอภาพให้กับโปรแกรมที่กําลังทํางานอยู่ได้ เช่น การจองตั๋วชม ภาพยนตร์ การจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหาร 8. กล้องถ่ายภาพดิจิตอล สามารถถ่ายภาพและบันทึกไว้ในหน่วยความจําภายในตัว กล้อง จากนั้นสามารถส่งข้อมูลภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์ได้ 10. ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยแสดงผล พร้อมอธิบาย หน่วยแสดงผลเป็นอุปกรณ์ที่สําคัญและจําเป็นอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น 1. จอภาพ (monitor) มีลักษณะเป็นจอภาพเหมือนจอโทรทัศน์ทั่วไป การส่งออกของ ข้อมูลจะปรากฏบนจอภาพ ซึ่งแสดงได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายพิเศษ และยังสามารถแสดง
  • 39. 39 รูปภาพได้ด้วย จอภาพ มี 2 แบบคือ ซีอาร์ที (Cathode Ray Tube : CRT) ใช้เทคโนโลยีของหลอด รังสีอิเล็กตรอน เช่นเดียวกับจอโทรทัศน์ในการทําให้เกิดภาพ และจอแบบแอลซีดี (Liquid Crystral Display : LCD) ใช้เทคโนโลยีของการบรรจุของเหลวไว้ภายในจอ เช่นเดียวกับหน้าปัดนาฬิกาใน ระบบตัวเลข 2. เครื่องพิมพ์(printer) เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีหลายประเภทตามเทคโนโลยี การพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่พิมพ์ลงบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มี ดังนี้ 1. เครื่องพิมพ์แบบจุด เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีหัวยิงเป็นเข็มขนาดเล็ก พุ่งไปชนแผ่น ผ้าหมึก เพื่อให้หมึกติดบนกระดาษเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดเรียงกันเป็นตัวหนังสือหรือรูปภาพ 2. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูง การพิมพ์จะใช้หลักการทางแสง ปกติมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 600 จุดต่อนิ้ว 3. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้วิธีการพ่นหมึกและผสมสีจากแม่สี สามสีคือแดง เหลืองและนํ้าเงิน โดยจะผสมสีให้ได้สีตามความต้องการและพ่นหมึกเพื่อให้ติดบน กระดาษ 4. เครื่องพิมพ์รายบรรทัด เครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีความเร็วในการพิมพ์สูงมาก เครื่องพิมพ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องพิมพ์รายงานเป็นจํานวนมาก และพิมพ์อย่าง ต่อเนื่อง
  • 40. 40 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (หลังเรียน) หน่วยที่ 4 เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ คําชี้แจง จงเลือกคําตอบที่ถูกที่สุดเพียงคําตอบเดียว แล้วทําเครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคําตอบ 1. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ก. ฮาร์ดแวร์ ข. ซอฟต์แวร์ ค. พีเพิลแวร์ ง. ถูกทุกข้อ 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ย่อมาจากคําในข้อใด ก. Center Processor Unit ข. Center Procesing Unit ค. Central Processor Unit ง. Central Processing Unit 3. หน่วยใดของ CPU ทําหน้าที่คํานวณทางคณิตศาสตร์ ก. หน่วยคํานวณและตรรกะ ข. หน่วยควบคุม ค. หน่วยรับเข้า ง. หน่วยวิเคราะห์ 4. หน่วยความจําที่เก็บข้อมูลหรือโปรแกรมขณะที่กําลังทํางานเท่านั้น ก. ROM ข. RAM ค. Hard Disk ง. Floppy Disk