More Related Content
Similar to การดูแลดอกกุหลาบ
Similar to การดูแลดอกกุหลาบ (7)
การดูแลดอกกุหลาบ
- 1. ดอกกุหลาบ
กุหลาบนับว่าเป็นไม้ดอกที่มีความงามยากที่ไม้ดอกอื่นจะเทียบเท่า จนได้รับชื่อว่าเป็น
"ราชินีแห่งดอกไม้" (Queen offlower) กุหลาบมีมานานประมาณ 30 ล้านปีมาแล้ว
มีทั้งหมดประมาณ 200 สปีชี่ส์ พันธุ์ดั้งเดิม(wild
species) มีทั้งชนิดกลีบดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
ส่วนกุหลาบที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันเป็นกุหลาบที่ผ่านการวิวัฒนาการมานานนับร้อยๆ ปี
และทั้งหมดเป็นกุหลาบลูกผสมซึ่งได้จากการผสมพันธุ์ระหว่างกุหลาบ 1-8 สปีชี่ส์
และส่วนมากมีถิ่นกาเนิดในทวีปเอเชีย
การปลูกและดูแลรักษา
สภาพที่เหมาะสมในการปลูก
พื้นที่ปลูก ควรปลูกในที่ที่ระบายน้าได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอ็ช ประมาณ 6-6.5
และได้แสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของกุหลาบคือ กลางคืน15-18
- 2. องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่จะทาให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี
และให้ผลผลิตสูงหากอุณหภูมิต่ากว่า 15 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้าอย่างมาก
หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพื่อชลอการคายน้า ความชื้น
ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80แสงกุหลาบจะให้ผลผลิตสูง
และดอกมีคุณภาพดี ถ้าความเข้มของแสงมาก และช่วงวันยาว
การขยายพันธุ์
กุหลาบ สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่นการตัดชา การตอน การติดตา
และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ต้นกุหลาบที่มีระบบรากที่แข็งแรง
และให้ผลผลิตสูงเกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า การปลูกและการจัดการ
การขยายพันธุ์กุหลาบที่นิยมใช้มี 3 วิธี คือ
1. การตัดชา
วิธีการตัดชาที่นิยมทาอยู่ทั่วไปคือ เลือกกิ่งกุหลาบที่ไม่แก่และไม่อ่อน
จนเกินไปนามาตัดเป็นท่อนประมาณ 12-15 เซนติเมตร หรือ 1 คืบ รอยตัดต้อง
อยู่ใต้ข้อพอดีแล้วตัดใบตรงโคนกิ่งออก จากนั้นเฉือนโคนทิ้ง แล้วจุ่มโคนกิ่งตัดชานี้ในฮอร์โมนเร่งราก เซ่น
เซอราดิกส์ เบอร์ 2 (เพื่อช่วยเร่งให้ออกรากเร็วขึ้น) แล้วผึ่ง ให้แห้งนาไปปักชาในแปลงพ่นหมอกกลางแจ้ง
ถ้าไม่มีแปลงพ่นหมอกก็ใช้เครื่องพ่นน้ารดสนามหญ้าก็ได้แล้วให้น้าเป็นระยะ ๆตามความจาเป็น
โดยมีหลักว่าอย่า ให้ใบกุหลาบแห้ง กิ่งกุหลาบจะออกรากใน 12-15 วัน แล้วแต่พันธุ์ การชากิ่งนี้
นิยมทากันมากในปัจจุบันเพราะได้จานวนต้นมากในระยะเวลาสั้นเสียค่าใช้จ่าย
- 3. น้อยแต่กิ่งชานี้เมื่อนาไปปลูกต้นจะโทรมเร็วภายใน 3-4 ปี ซึ่งกุหลาบพันธุ์สีเหลือง
และสีขาวมักจะออกรากยา
ตัดกิ่งกุหลาบเป็นท่อนประมาณ 12-15 ซม.
เฉือนโคนกิ่งทิ้ง
จุ่มโคนกิ่งตัดชาในฮอร์โมนเร่งราก
2. การตอน
กิ่งที่ใช้ตอนมักมาจากกิ่งที่มีสภาพแตกต่างกันทั้งกิ่งอ่อนและกิ่งแก่
คละกันไปทาให้การเจริญเติบโตของต้นกุหลาบหลังลงแปลงปลูกในแปลงไม่สม่าเสมอ
ซึ่งการตอนนี้จะใช้เวลาในการเกิดรากนานประมาณ 4-7 สัปดาห์ ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์ที่จะใช้ตอน
- 4. 3. การติดตา
วิธีการทาต้นกุหลาบติดตานี้ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการทา นานกว่า 2 วิธีแรกคือ
ตั้งแต่เริ่มตัดชาต้นตอป่าจนถึงพันธุ์ดีทีนาไปติดนั้นออก ดอกแรกจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน
โดยในขั้นแรกจะต้องตัดชาต้นตอป่า (ของกุหลาบป่า)
ให้ออกรากและเลี้ยงต้นตอป่านั้นให้แตกยอดใหม่ยาวเกิน 1 ฟุต ขึ้นไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
(หลังตัดชาและออกราก) จากนั้นจึงนา ตาพันธุ์ดีที่ต้องการไปติดตาที่บริเวณโคนของต้นตอป่า
การติดตานี้จะต้องอาศัย ฝีมือและความชานาญพอสมควรโดยจะใช้วิการติดตาแบบใดก็ได้ เช่น แบบตัวที
เป็นต้น
วิธีติดตา วิธีติดตากุหลาบที่ได้ผลดีคือการติดตาแบบที่เรียกว่ารูปตัวที หรือ แบบโล่ มีวิธีทาดังนี้คือ
1. เลือกบริเวณที่จะติดตา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพยายามติดตาให้ต่าที่สุด เท่าที่จะทาได้คือ
ประมาณไม่เกิน 3 นิ้วนับจากผิวดิน แล้วใช้กรรไกรหรือมีด ตัดหนามตรงบริเวณที่จะติดตาออกโดยรอบกิ่ง
2. ใช้ปลายมีดกรีดที่เปลือกเป็นรูปตัวที แล้วเผยอเปลือกตรงรอยกรีด ด้านบนให้เปิดออกเล็กน้อย
3. เฉือนตาเป็นรูปโล่ ให้ได้แผ่นตายาวประมาณ 1 นิ้ว และให้แผ่นตานั้น
มีเนื้อไม้ติดมาด้วยเพียงบางๆ ไม่ต้องแกะเนื้อไม้ติดมามาก ให้ลอกเนื้อไม้ออกอย่าง
ระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาโค้งงอหรือบอบช้า
4. นาแผ่นตาไปเสียบลงที่รอยกรีดของต้นตออย่างระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาช้า
โดยใช้มือซ้ายจับแผ่นตา (ตรงก้านใบ) ค่อย ๆ กดลงไปขณะเดียวกันมือขวา ก็ค่อยเปิดเปลือกช่วย
แล้วพันด้วยพลาสติก
เพื่อให้ตาเจริญเติบโตเร็วขึ้น ควรปล่อยให้กิ่งใหม่เจริญเติบโตจนกระทั่ง
กิ่งใหม่ยาวพอสมควรแล้วจึงตัดต้นตอที่อยู่เหนือกิ่งใหม่ออกทั้งหมด สาหรับ พลาสติก
ที่ติดตาอยู่นั้นอาจจะปล่อยให้ผุหรือหลุดไปเองก็ได้ถ้าเห็นว่าแผ่นพลาสติกนั้นรัด
ต้นเดิมแน่นเกินไปหรือไปขัดขวางการเจริญเติบโตของกิ่งใหม่ก็ให้แกะออก
ส่าหรับกิ่งที่แตกออกมาใหม่นี้ ควรมีไม้ผูกพยุงกิ่งไว้เสมอเพราะอาจจะ
เกิดการฉีกขาดตรงรอยต่อได้ง่ายเนื่องจากรอยประสานยังไม่แข็งแรงนัก
- 5. ในกรณีที่การติดตานั้นไม่ได้ผล คือแผ่นตาที่นาไปติดตานั้นเปลี่ยนเป็น
สีน้าตาลหรือสีดาให้รีบแกะแผ่นพลาสติกและแผ่นตานั้นออกแล้วติดตาใหม่ในด้าน ตรงข้ามกับของเดิม
หากไม่ได้ผลอีกต้องเลี้ยงดูต้นตอนั้นจนกว่ารอยแผลจะเชื่อม ก้นดีแล้วจึงนามาติดตาใหม่ได้
สาหรับการติดตาในกุหลาบแบบทรงต้นสูง (STANDARD) นั้นก็ทาเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ตาแหน่งที่ติดตาอยู่ในระดับสูงกว่าเท่านั้นเอง การติดตาจะติดที่ต้นตอหรือกิ่ง
ขนาดใหญ่ที่แตกออกมาก็ได้
การดูแลรักษา
การให้น้า
ให้น้าระบบน้าหยด หรือใช้หัวพ่นน้าระหว่างแถวปลูก อัตรา 6-7 ลิตร/ตร.ม./ วัน หรือ 49ลิตร/ตร.ม./สัปดาห์
อาจให้ทุกวัน วันเว้นวัน หรือ 2-3วันต่อครั้ง แล้วแต่สภาพการอุ้มน้าของดิน อย่ารดน้าให้ดินแฉะตลอดเวลา
ควรให้ดินมีโอกาสระบายน้า และมีอากาศเข้าไปแทนที่บ้าง ดังนั้นใน 1 สัปดาห์
หากปลูกในโรงเรือนจะต้องใช้น้าประมาณ 78,400ลิตรหรือ 78.4คิวบิคเมตร ต่อไร่
น้าที่ใช้ควรมีคุณภาพดี มี PH5.8-6.5
การให้ปุ๋ ยก่อนปลูก
ปุ๋ยก่อนปลูก คือปุ๋ยที่ผสมกับเครื่องปลูกก่อนการปลูกพืช ซึ่งให้ประโยชน์ 2 ประการคือ
1. ให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างเพียงพอตั้งแต่เริ่มปลูก
2. ให้ธาตุอาหารบางชนิดในปริมาณมากและเพียงพอสาหรับการปลูกพืชตลอดฤดูซึ่งทาให้สามาร
ถงดหรือลดการให้ปุ๋ยนั้น ๆได้
ระหว่างการปลูกพืชการให้ธาตุอาหารทุกชนิดแก่พืชในขณะปลูก ทาได้ลาบากเนื่องจากมีถึง 14 ธาตุ
ธาตุบางชนิดจะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว บางชนิดต้องให้เพิ่มเติม
หากเป็นไปได้ควรส่งดินไปตรวจเพื่อรับคาแนะนาว่าควรปรับปรุงดินได้อย่างไร
ซึ่งตัวอย่างสามารถส่งไปตรวจที่กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ
การให้ปุ๋ ยระหว่างปลูก
- 6. ปริมาณ และสัดส่วนของธาตุอาหาร การให้ปุ๋ยระหว่างปลูกพืช
เนื่องจากธาตุอาหารส่วนใหญ่จะมีอยู่ในดินแล้วเมื่อปลูกพืชจึงยังคงเหลือธาตุ ไนโตรเจน และโปแทสเซียม
ซึ่งจะถูกชะล้างได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องให้ปุ๋ย ทั้งสองในระหว่างที่พืชเจริญเติบโต
ซึ่งการให้ปุ๋ยอาจทาได้โดยการให้พร้อมกับการให้น้า (FERTIGATION)
การให้ปุ๋ยพร้อมกับน้าสาหรับกุหลาบ หากให้ทุกวันจะให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 160
มก./ลิตร (PPM) และหากให้ปุ๋ยทุกสัปดาห์ควรให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 480 มก./ลิตร
สัดส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O) และโปแตสเซียม (K2O) สาหรับกุหลาบในระยะต่าง ๆคือ
1. ระยะสร้างทรงพุ่ม สัดส่วน1 : 0.58 : 0.83
2. ระยะให้ดอก สัดส่วน1 : 0.5 : 0.78
3. ระยะตัดแต่งกิ่ง สัดส่วน1: 0.8 : 0.9
การดูแลกุหลาบระยะแรกหลังปลูก เมื่อตากุหลาบเริ่มแตก ควรส่งเสริมให้มีการเจริญทางใบ
เพื่อการสะสมอาหาร และสร้างกิ่งกระโดง เพื่อให้ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ และก้านยาว
ซึ่งทาได้ด้วยการเด็ดยอดเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเด็ดส่วนเหนือใบสมบูรณ์ (5 ใบย่อย)
ใบที่สองจากยอด เมื่อดอกมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา จากนั้นกิ่งกระโดงจะเริ่มแทงออก
ซึ่งกิ่งกระโดงนี้จะเป็นโครงสร้างหลักให้ต้นกุหลาบ ที่ให้ดอกมีคุณภาพดี
การตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งกุหลาบปฏิบัติได้หลายวิธี แต่ละวิธีจะใช้หลักการที่คล้ายกัน
คือตัดแต่งเพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์เพื่อการตัดดอก และเพื่อให้ได้กิ่งกระโดง (WATER SPROUT หรือ BOTTOM
BREAK) มากขึ้น และจะรักษาใบไว้กับต้นให้มากที่สุด เพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด
ควรรักษาให้พุ่มกุหลาบโปร่ง และไม่สูงมากเกินไปนัก เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา
และแสงที่กระทบโคนต้นกุหลาบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิ่งกระโดงอีกด้วย
การตัดแต่งกิ่งที่นิยมในปัจจุบันได้แก่ การตัดแต่งกิ่งแบบ ตัดสูงและต่า
การตัดแต่งแบบตัดสูงและต่า (สูงและต่าจากจุดกาเนิดของกิ่งสุดท้าย)
เป็นการตัดแต่งเพื่อให้มีการผลิตดอกสม่าเสมอทั้งปี