More Related Content
Similar to จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (20)
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- 2. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถือเป็นจังหวัดของภาคตะวันตก แต่พื้นที่อยู่ตอนบนของภาคใต้ หรืออาจเรียกว่า เป็นประตูสู่ภาคใต้ สมัยรัชกาลที่ 4 ได้รวมเมืองบางนางรม เมืองกุยบุรี เมืองคลองวาฬ เป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีที่ว่าการอยู่ ณ เมืองกุยบุรี จน พ . ศ . 2441 จึงย้ายมาอยู่ที่อ่าวเกาะหลักหรืออ่าวประจวบฯ ซึ่งเป็นที่ตั้ง ตัวเมืองในปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีชายฝั่งทะเลยาวตลอดแนว ที่ขึ้นชื่อคือชายทะเลหัวหินและเขตพื้นที่ที่แคบที่สุดของประเทศไทย จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ “ ประจวบคีรีขันธ์ ” เคยเป็นที่ตั้งของเมืองนารัง สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แต่ได้ร้างไปเมื่อครั้งกรุงแตก ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงตั้งเมืองขึ้นใหม่
- 3. ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหลักเมืองชัยคู่บ้าน คู่เมือง ของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างขึ้นในสมัย ร . ต . อำนวย ไทยานนท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ . ศ . 2537 เพื่อให้เป็นสิริมงคลและหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองเป็นที่สักการบูชาของชาวประจวบฯ สืบไป
- 5. ความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ประมาณ 212 กิโลเมตรและชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 224.8 กิโลเมตร มีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศอยู่ในเขตตำบลคลองวาฬอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์จากอ่าวไทยถึงเขตแดนพม่าประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษมประมาณ 323 กิโลเมตร ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ และตาม เส้นทางรถไฟสายใต้ ประมาณ 318 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
- 6. หน่วยการปกครอง การปกครองแบ่งออกเป็น 8 อำเภอ 48 ตำบล 388 หมู่บ้าน 1. อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ 2. อำเภอทับสะแก 3. อำเภอบางสะพาน 4. อำเภอบางสะพานน้อย 5. อำเภอปราณบุรี 6. อำเภอหัวหิน 7. อำเภอสามร้อยยอด 8. อำเภอกุยบุรี
- 7. การเดินทางจากอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปยังอำเภอต่าง ๆ 1. อำเภอเมือง - กิโลเมตร 2. อำเภอกุยบุรี 30 กิโลเมตร 3. อำเภอทับสะแก 34 กิโลเมตร 4. อำเภอสามร้อยยอด 54 กิโลเมตร 5. อำเภอปราณบุรี 71 กิโลเมตร 6. อำเภอบางสะพาน 87 กิโลเมตร 7. อำเภอหัวหิน 90 กิโลเมตร 8. อำเภอบางสะพานน้อย 110 กิโลเมตร
- 13. 1. วัดอ่าวน้อย ( ถ้ำพระนอน ) ตั้งอยู่เชิงเขาบริเวณอ่าวน้อย ก่อนถึง ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีทางเข้า แยกจากถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 314 เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ในบริเวณวัดมีถ้ำขนาดเล็กประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ในอดีตถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝน
- 14. 2. อ่าวบ่อทองหลาง ห่างจากอ่าวแม่รำพึงตามถนนเลียบชายหาด ประมาณ 4 กิโลเมตร มีชายหาดโค้งเกือบจะเป็นรูป วงกลม ยามน้ำลดจะปรากฏแนวหาดทรายขาว เป็น ลานกว้าง ผู้คนนิยมมา เล่นน้ำ พักผ่อนหย่อนใจเพราะระดับน้ำตื้นและมีเกาะหินขนาดเล็กตั้งเรียงรายด้านหน้าอ่าว บริเวณชายหาดมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มบริการนักท่องเที่ยว การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 กิโลเมตรที่ 397 มี ทางแยกเข้าอำเภอบางสะพานทางด้านซ้ายมือ ไป ตามทางหลวงหมายเลข 3169 ต่อด้วยถนนกลางอ่าว เลียบหาดไปจนถึงทางเข้าอ่าวบ่อทองหลาง
- 15. 3. อ่าวแม่รำพึง ห่างจากตัวเมืองประจวบฯ ประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ( ถนนเพชรเกษม ) แยกเข้าตัวอำเภอ บางสะพานไปประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามแห่งหนึ่งหาดทรายขาว มีถนนเลาะเลียบตลอดแนวชายหาด มีร้านอาหารทะเลบริการนักท่องเที่ยวเหมาะสำหรับพักผ่อน
- 16. 4. อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอทับสะแก และอำเภอบางสะพาน มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 161 ตารางกิโลเมตร หรือ 100,625 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงบนเทือกเขาตะนาวศรี เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่เกิดจากสันเขากั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย กับประเทศสหภาพพม่า ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ . ศ . 2534 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 70 ของประเทศไทย ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่บริเวณน้ำตกห้วยยาง บริเวณอุทยานฯ ร่มรื่นน่าพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีน้ำตกอีกหลายจุด
- 17. 5. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ . ศ . 2535 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 76 และ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลลำดับที่ 18 สภาพป่าเป็นป่า เบญจพรรณ สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งประกอบด้วยไม้ ผลัดใบหลายชนิดปะปนได้แก่ ไผ่ป่า ประดู่ มะค่าโมง เดิมพื้นที่ป่าเป็นป่าปลูกผสมผสานกับป่าธรรมชาติที่ฟื้นตัว พันธุ์ไม้ที่ปลูกได้แก่ เสลา ตะแบก สัก พะยอม สนทะเลและสนประดิพัทธ์ สัตว์ป่าพบจำนวนน้อยชนิด ส่วนใหญ่จะพบนกชนิดต่างๆได้แก่ นกขมิ้นท้ายทอยดำ นกยางทะเล นกแซงแซวหางปลา นกตะขาบทุ่ง และนกอีกหลายชนิดมากมาย อุทยานครอบคลุมพื้นน้ำประมาณ 15.36 ตารางกิโลเมตร สัตว์น้ำที่พบมีปลาน้ำจืดได้แก่ปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ ปลานิลและปลาทะเลต่างๆ ชายหาดมีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร เรียงรายด้วยทิวสนทะเลเป็นแนวไปตามชายหาด
- 18. เป็นภูเขา 2 ลูกที่อยู่ใกล้กัน อยู่ห่างจากตัวอำเภอหัว หินไปทางทิศใต้ประมาณ 14 กิโลเมตร มีทางแยก ซ้ายมือจากถนนเพชรเกษมที่กิโลเมตร 235 เข้าไป ประมาณ 500 เมตร จากตลาดหัวหินมีรถโดยสารวิ่งระหว่างหัวหิน - เขาไกรลาส - เขาตะเกียบ เขาตะเกียบเป็นเขาที่ยื่นออกไปในทะเลมีโขดหินสวยงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่หันหน้าออกสู่ทะเล บนยอดเขามีทางเดินขึ้นไปสามารถชมทิวทัศน์ของท้องทะเล และตัวเมืองหัวหินได้อย่างชัดเจน ชายหาดเขาตะเกียบมีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีความลาดชันน้อย ทรายขาวละเอียด บริเวณชายหาดมีร้านอาหาร ที่พัก และร้านขายของที่ระลึกมากมายไว้บริการ
- 20. 8. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอกุยบุรีและกิ่งอำเภอสาม ร้อยยอด ห่างจากหัวหินลงมาทางใต้ ประมาณ 63 กิโลเมตร ตามตำนานเล่ากันว่า พื้นที่แถบนี้เคยเป็นทะเลมีเกาะใหญ่น้อยอยู่มากมาย ในสมัยนั้นมีขบวนเรือสำเภาจีนแล่นผ่านมา และประสบกับลมพายุมรสุมจนเรืออับปาง คนบนเรือที่รอดชีวิต 300 คนได้ไปอาศัยอยู่ตามเกาะต่าง ๆ จึงเรียกว่า “ เกาะสามร้อยรอด ” ต่อมาเพี้ยนเป็น “ เขาสามร้อยยอด ” จนทุกวันนี้
- 21. 9. เขาธงชัย 9 เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของชายหาดบ้าน กรูด จาก จุดนี้จะมองเห็นเวิ้งอ่าวและทิว มะพร้าวสุดสายตา เหมาะสำหรับชมพระ อาทิตย์ขึ้นและตก บนเขาธงชัยเป็นที่ ประดิษฐาน “ พระพุทธกิตติสิริชัย ” หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ชาวบางสะพานสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบห้ารอบ บนเขายังเป็นที่ตั้งของ ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อันเป็นที่เคารพสักการะยิ่งของชาวเรือจะเห็นตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์สวยเด่นเป็นสง่าบนยอดเขาธงชัย
- 22. 10. น้ำตกป่าละอู ตั้งอยู่ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ในพื้นที่ป่าละอู มีพื้นที่ประมาณ 273,125 ไร่ อุดมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม และสัตว์ป่านานาชนิด ป่าละอูจัดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีหน่วยพิทักษ์อุทยานน้ำตกป่าละอูของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำก่อนถึงตัวน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นผู้ดูแลน้ำตกป่าละอูประกอบด้วย น้ำตกละอูใหญ่ และน้ำตกละอูน้อย ซึ่งไหลลดหลั่นกันอย่างสวยงามถึง 11 ชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผีเสื้อชุกชุม ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือน พฤศจิกายนถึงเมษายน ในช่วงเช้าตรู่เนื่อง จากอากาศเย็นสบายและมีโอกาสพบเห็น สัตว์ป่า รวมทั้งนกหายากหลายชนิด
- 23. 11. สถานีรถไฟหัวหิน สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้ คือ พลับเพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับเพลาจัตุรมุขสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีไว้ในการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่าและลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธี เป็นประจำทุกปีหลังจากสิ้นรัชสมัยของพระองค์ การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้รื้อถอนมาเก็บไว้ เพื่อเป็นการ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระองค์
- 24. 12. เขาหินเหล็กไฟ ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวหิน ห่างจากตัวเมืองหัวหินไป ทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุด ชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก แห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถชมวิวได้ 4 ทิศ จุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นตัวเมือง และอ่าวหัวหิน โดยรอบบนยอดเขาเป็นพื้นที่ราบและผาหินที่สวยงาม พร้อมกับมีศูนย์จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง พื้นที่อเนกประสงค์ปลูกพันธุ์ไม้ในวรรณคดี สวนนก ร้านอาหาร เครื่องดื่ม นอกจากนี้แล้วยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ช่วงเวลาที่เหมาะในการชมวิว คือ เช้าตรู่และช่วงค่ำ
- 25. 13. อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของวง การวิทยาศาสตร์ไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี ว่าจะมองเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอแห่งนี้และ ได้เสด็จมาทอดพระเนตรพร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ และทูตานุทูตชาว ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ . ศ . 2411 และในวันที่ 3 พฤษภาคม 2533 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานนามว่า “ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้าเจ้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
- 26. พระราชวังไกลกังวล พระบาทสมเด็จพระปก เกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วน พระองค์ สำหรับใช้เป็นที่ประทับในฤดู ร้อนและ พระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรม ราชินี โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้าอิทธิ เทพสรรค์ กฤดากร ผู้อำนวยการกรมศิลปากร ในสมัยนั้นเป็นผู้ออกแบบ และเป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน ตุลาคมพ . ศ . 2469 ต่อมาได้รับการซ่อมแซม และก่อสร้างเพิ่มเติมในสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ในบริเวณมีพระตำหนักหลายหลังมีชื่อคล้องจองกัน ได้แก่พระตำหนักเปี่ยมสุข ปลุกเกษม เอิบเปรม เอมปรีดิ์ สร้างอยู่กลางอุทยานไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ โดยมีพื้นที่ด้านหนึ่งติดชายทะเล นอกจากนั้นยังมี พิพิธภัณฑ์หอย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมหอยทุกชนิด
- 27. สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะพื้นที่ยาวเรียวจากเหนือจรดใต้ พื้นที่ 2 ใน 3 เป็นป่าเขาเกษตรกรรม ประกอบกับมีทรัพยากรที่เอื้ออำนวยในทางเศรษฐกิจ ทั้งทางด้านการเพาะปลูก ประมง เหมืองแร่ และป่าไม้ นอกจากนั้นจังหวัดยังมีเขื่อนที่สำคัญ ได้แก่ เขื่อนชลประทานปราณบุรี และเขื่อนชลประทานยางชุม การประมงน้ำเค็ม เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวประจวบฯ ด้วยภูมิประเทศด้านตะวันออกทุกอำเภอติดกับชายฝั่งทะเล ปลาที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ปลาทู และปลาลัง และจัดให้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอีกด้วย เกษตรกรของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริม ควบคู่กับการประกอบอาชีพเกษตรอื่น ๆ โดยเฉพาะการเลี้ยงโคนมและโคขุน
- 28. การสาธารณูปโภค การให้บริการสาธารณูปโภค ส่วนมากอยู่ในเมือง ในเขตชนบทกันดารที่ห่างออกไป ยังไม่สามารถ ให้บริการได้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน การสาธารณูปโภคโภคที่สำคัญของจังหวัด มีดังนี้ 1. การประปา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีกำลังผลิตน้ำวันละ 7,200 ลูกบาศก์เมตร มีการประปาไว้บริการตามอำเภอต่าง ๆ ครบทุกอำเภอ 2. การไฟฟ้า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีไฟฟ้าของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สามารถให้บริการไฟฟ้า ให้แก่ราษฎรได้ครอบคลุมทุกตำบล
- 30. การคมนาคม ทางรถยนต์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีถนนเพชรเกษมเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลัก การติดต่อระหว่างจังหวัดมีความสะดวกสูง และเป็นทางผ่านของรถยนต์โดยสารสู่ ภาคใต้ สำหรับรถยนต์โดยสารมีทั้งธรรมดาและปรับอากาศ ทางรถไฟ รถไฟสายใต้ทุกขบวนจะต้องผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งขบวนขึ้นและล่อง มีความสะดวกในการเดินทางไปยังกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดใกล้เคียง ทางน้ำ สภาพพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะยาวไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ทิศตะวันตกติดกับชายแดนพม่า ด้านตะวันออก เป็นแนวชายทะเลด้านอ่าวไทยตลอดแนว การเดินทางของประชากรส่วนใหญ่เดินทางด้านคมนาคม ทางบก แต่เส้นทางเดินเรือไฮโดรฟลอร์ระหว่างหัวหิน - พัทยา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมสถานีท่องเที่ยว สำคัญในอนาคต
- 31. ทางอากาศ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสนามบิน 2 แห่ง คือ 1. สนามบินบ่อฝ้าย ของกรมการบินพาณิชย์ อำเภอหัวหิน 2. สนามบินกองบิน 53 ของกอง ทัพอากาศ อ่าวมะนาว อำเภอเมืองฯ เส้นทางการบิน ปัจจุบัน มีเครื่องบินของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด ทำการบินระหว่างกรุงเทพฯ - หัวหิน ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 08.20 น . , 17.00 น . และออกจากหัวหิน เวลา 09.20 น . , 18.00 น . อัตราค่าโดยสาร 900 บาท
- 35. 2. งานวันที่ระลึกวีรกรรม 8 ธันวาคม 2484 จัดขึ้นที่บริเวณอ่าวมะนาว ภายในพื้นที่กองบิน 53 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม เพื่อเป็นการรำลึกและเชิดชูวีรกรรมของพลเรือน ตำรวจ ทหารของไทย ที่เข้าร่วมต่อสู้กับกองกำลังทหารญี่ปุ่น ซึ่งยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการทางวิชาการของหน่วยงานทหารอากาศและส่วนราชการต่าง ๆ และมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้น - เมือง การแสดงมหรสพ เช่น ลำตัด และโขนสด
- 36. 3. หัวหินแจ๊ส เฟสติวัล เป็นงานเทศกาลดนตรีแจ๊ส มีนักดนตรีจากไทยและต่างประเทศมาแสดงในงานนี้ โดยจัดบริเวณชายหาดหัวหินประมาณเดือนมิถุนายน
- 38. 2. ผ้าบาติก ผ้าพิมพ์ลายไทย ผ้าบาติกของประจวบคีรีขันธ์มีแหล่งผลิตอยู่หลายแห่ง และมีจำหน่ายที่ร้านค้าในตัวอำเภอหัวหินซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ นอกจากนี้ยังมีผ้าพิมพ์ลายไทยจำหน่ายที่ร้านโขมพัสต์ในอำเภอหัวหิน
- 39. 3. ผลิตภัณฑ์จากสับปะรด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งผลผลิตส่งเข้าโรงงานสับปะรดกระป๋องสำหรับเป็นผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องส่งออกไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าชุมชนที่เป็นผลผลิตจากสับปะรดอีกมากทั้งของใช้และของกิน ได้แก่ กระดาษใยสับปะรด ทำเป็นของใช้ที่สวยงามได้แก่ กรอบรูป กล่องกระดาษ สมุดโน้ต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารจากสับปะรดมากมายได้แก่ สับปะรดกวน สับปะรดอบแห้ง สับปะรดสี่รส ไวน์สับปะรด และขนมปังกรอบไส้สับปะรด เป็นต้น