minibook group10 room932

1. หนังสือเล่มเล็กประกอบการศึกษาเรียนรู้ด้านโครงสร้างอวัยวะสืบพันธ์
ของพืชดอกตัวอย่าง จานวน 3 ชนิด ได้แก่ ลีลาวดี ชบา รางจืด
นาเสนอครูผู้สอน
นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตาแหน่งครู คศ.1 สาขาชีววิทยา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
คณะผู้จัดทา กลุ่มที่ 10
1. นายเตชิต เมธมโนศักดิ์ เลขที่ 33
2. นายธนดล เธียรรัตนากร เลขที่ 34
3. นายพสธร ภู่ประเสริฐ เลขที่ 35
4. นายพีรณัฐ โตปรีชา เลขที่ 37
ระดับชั้น ม.5 ห้อง 932 แผนการเรียน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
ภาคเรียน 2 ปีการศึกษา 2561
คานา
สมุด minibook เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5
โดยที่คณะผู้จัดทามีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาโครงสร้างและ
ลักษณะของพืชดอก และองค์ประกอบต่างๆของพืชดอก โดยการใช้กล้อง
จุลทรรศน์ โดยทางคณะผู้จัดทาหวังว่าผู้อ่านจะได้รับความรู้จากสมุดเล่มนี้เป็น
อย่างมาก
ในการทางานชิ้นนี้ในครั้งนี้ คณะผู้จัดทาขอขอบคุณ อาจารย์วิชัย
ลิขิตพรรักษ์ ครู คศ.1 ที่ให้ความรู้และความช่วยเหลือจนงานได้บรรลุล่วง
คณะผู้จัดทา
วันที่ 22 พ.ย. 2561

2. สารบัญ
หัวข้อน้าเสนอ หน้า
1. การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 1 คือ รางจืด 1
1.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤษศาสตร์ 1
1.2 องค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 2
1.3 ตัวอย่างแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 3
2. การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 1 คือ ลีลาวดี 4
2.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤษศาสตร์ 4
2.2 องค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 5
2.3 ตัวอย่างแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 6
3. การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 1 คือ ชบา 7
3.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤษศาสตร์ 7
3.2 องค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 8
3.3 ตัวอย่างแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้างสาคัญของดอก 9
4. Clip VDO ประกอบการศึกษา 10
5. บรรณานุกรม 11
6. ภาคผนวก 12
การจัดกลุ่มโครงสร้างดอกตามลักษณะสาคัญ
โดยดอกที่ทาการจาแนก คือ ชบา ลีลาวดี รางจืด
1.จานวนดอกที่ติดอยู่บนก้าน (ดอกช่อ/ดอกเดี่ยว)
โดยที่ดอกเดี่ยว ได้แก่ ชบา ลีลาวดี รางจืด
2.ส่วนประกอบต่างๆบนฐานรองดอก (ดอกครบส่วน/ดอกไม่ครบส่วน)
โดยที่ ดอกครบส่วน ได้แก่ ชบา รางจืด
ดอกไม่ครบส่วนได้แก่ ลีลาวดี
3.เพศ (สมบูรณ์เพศ/ไม่สมบูรณ์เพศ)
โดยที่ ดอกสมบูรณ์เพศ ได้แก่ ชบา ลีลาวดี รางจืด
4.รูปแบบของรังไข่ (superior ovary/half inferior ovary/inferior ovary)
โดยที่ superior ovary ได้แก่ ชบา รางจืด
Half inferior ovary ได้แก่ ลีลาวดี
5.ความสมมาตรของดอก (ดอกสมมาตรรัศมี/สมมาตรครึ่งซึก)
โดยที่ สมมาตรครึ่งซึก ได้แก่ ชบา ลีลาวดี รางจืด

3. การจัดกลุ่มโครงสร้างดอกตามลักษณะสาคัญ
ลักษณะดอก
การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 1 คือ รางจืด
1.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thunbergia laurifolia Lindl.
ชื่อสามัญ : Laurel clockvine, Blue trumphet vine
วงศ์ : ACANTHACEAE
ลักษณะทางพันธุกรรม :
ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ลักษณะของใบ
คล้ายรูปหัวใจโคนใบมนเว้า ปลายใบเรียวแหลม
มีเส้นอยู่ 3 เส้นออกจากโคนใบ
ดอกเป็นช่อห้อยลงมาตามซอกใบ ช่อละ 3-4
ดอก ดอกมีสีม่วงอมฟ้า มีใบประดับสีเขียวประแดง มี
กลีบเลี้ยงรูปจาน ดอกเป็นรูปแตรสั้น โคนกลีบดอกมีสี
เหลืองอ่อน โคนดอกเป็นหลอดกรวย และมักมีน้าหวาน
บรรจุอยู่ภายในหลอด กลีบดอกมีปลายแยกเป็น 5 กลีบ มี
เกสรตัวผู้4 อัน
ผลลักษณะเป็นฝักกลม ปลายเป็นจะงอย เมื่อแก่
จะแตกออกเป็น 2 ซีก
ดอกช่อ ดอกเดี่ยว
ดอกสมบูรณ์เพศ ดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ดอกครบส่วน
ดอกไม่ครบส่วน
Superior ovary Inferior ovaryHalf Inferior ovary
ลีลาวดี
ชบา รางจืด
1

4. 1.2 องค์ประกอบสาคัญของดอก 1.3 องค์ประกอบแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้าง
Style
เกสรเพศเมีย
Pollen
Anther
Ovary
Petal
Sepal
2 3

5. การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 2 คือ ลีลาวดี
2.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Plumeria spp.
ชื่อสามัญ : Frangipani , Pagoda tree, Temple tree
วงศ์ : APOCYNACEAE
ลักษณะทางพันธุกรรม :
ใบเป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและ
หนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง ใบหนา เหนียวแข็งและมีสีเขียว
มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก
ดอกดอกจะผลิออกมาจากปลายยอด
เหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม มีขนาดใหญ่ถึง
กลาง กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรตัวผู้ตัวเมีย อยู่ลึกเข้า
ไปข้างใน ดอกมีลักษณะคล้ายท่อ มีเกสรตัวผู้5 อัน
อยู่ที่โคนก้านดอก เกสรตัวเมียอยู่ลึกลงไปในก้านดอก
ผลผลเป็นฝักคู่ รูปรียาว ตรงกลางโป่งพอง
บริเวณขั้วและปลายแหลม กว้าง 2-3 เซนติเมตร ผิว
เปลือกมีสีเขียวและเป็นสีน้าตาลจนถึงดาเมื่อแก่จัด และ
จะแตกเป็นสองซีกเมื่อแก่จนฝักแห้ง
2.2 องค์ประกอบสาคัญของดอก
Ovary
Corolla lobe Corolla tube
Stigma
Stigma
Anther
Peduncle
Style
Calyx
4 5

6. 2.3 องค์ประกอบแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้าง การศึกษาโครงสร้างดอกชนิดที่ 3 คือ ชบา
3.1 ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus rosa-sinensis L.
ชื่อสามัญ : Shoe flower, Hibiscus, Chinese rose
วงศ์ : MALVACEAE
ลักษณะทางพันธุกรรม :
ใบ ใบเรียงสลับ ใบเดี่ยว รูปไข่ โคนใบมนหรือ
กว้าง ปลายใบแหลม ขอบใบหยักมนหรือ จักฟันเลื่อย
หรือเว้าเป็น 3 พู แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม มีหูใบแบบ free
lateral stipule
ดอกดอกเดี่ยวออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง
กลีบดอกชั้นเดียวถึงดอกซ้อน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียว
กลีบดอก 5 กลีบ ปลายกลีบดอกมนและกลม ก้านเกสร
เพศเมีย เพศผู้เชื่อมกันเป็นหลอดยาว โผล่พ้นกลีบดอก
ผลผลเดี่ยวแบบ capsule สีน้าตาล เมื่อแก่จะ
แห้งและแตกเป็น 5 แฉก
6 7

7. 3.2 องค์ประกอบสาคัญของดอก 3.3 องค์ประกอบแห้งแสดงองค์ประกอบโครงสร้าง
Pollen
Style
Stamen
Petal
Sepal
Ovary
Pollen
Filament
Anther
8 9

8. Clip VDO ประกอบการศึกษาโครงสร้างดอกของพืชตัวอย่าง 3 ชนิด
Link youtube :
https://www.youtube.com/watch?v=0r3FbRtCaiI&feature=youtu.be
บรรณานุกรม
รางจืด สรรพคุณและประโยชน์ของว่านรางจืด 20 ข้อ !, (2556), [ออนไลน์], เข้าถึง
ได้จาก : https://medthai.com/%E0% B8%A3%E0% B8%B2%E0%B8%
87%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94/ (วันที่ค้นข้อมูล : 22 พฤษ
จิกายน 2561).
ลักษณะพฤกษศาสตร์ของลีลาวดี, (2552), [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก : https://www.
nanagarden.com/topic/3650, (วันที่ค้นข้อมูล : 22 พฤษจิกายน 2561).
ชบา, [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก : https://il.mahidol.ac.th/e-media/plants/webcont
tent3/interactive_key/key/describ/chaba.htm, (วันที่ค้นข้อมูล : 22 พฤษจิ
กายน 2561).
10 11

9. ภาคผนวก ภาคผนวก
12

10. ภาคผนวก
ครูผู้สอน : นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตาแหน่ง ครู คศ.1 สาขาชีววิทยา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
คณะผู้จัดทา
13
14