แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวพัชรา พลสาลี เลขที่ 43 ชั้นม.6 ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวพัชรา พลสาลี เลขที่ 43
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Thai herbs for health
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพัชรา พลสาลี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม –
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันผู้คนมีปัญหาเรื่องสุขภาพกันมาก ทาให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการ
รักษาซึ่งจาเปนนต้องใช้เงินจานวนมาก ผู้คนจึงเริ่มหันมาพึ่งพาแพทย์ทางเลือกกันมากขึนน โดยเพพาะ
แพทย์แผนไทยที่ใช้สมุนไพรในการรักษาโรคและดูแลสุขภาพ จึงทาให้สมุนไพรกลายเปนนอีกทางเลือก
หนึ่งในการดูแลสุขภาพเพราะหาได้ง่ายและสามารถรักษาโรคได้ หากเรารู้จักสรรพคุณและวิธีการใช้งาน
ของสมุนไพรแต่ละชนิด
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเปนนข้อ)
1. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆ
2. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้สมุนไพร

3. 3
3. เพื่อให้สามารถนาไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจาวัน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
เปนนโครงงานสาหรับการเรียนรู้สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
สมุนไพร หมายถึง “พืชที่ใช้ทาเปนนเครื่องยา” ส่วน ยาสมุนไพร หมายถึง “ยาที่ได้จากส่วนของ
พืช สัตว์ และแร่ ซึ่งยังมิได้ผสมปรุง หรือ แปรสภาพ” ส่วนการนามาใช้ อาจดัดแปลงรูปลักษณะของ
สมุนไพรให้ใช้ได้สะดวกขึนน เช่น นามาหั่นให้มีขนาดเล็กลง หรือ นามาบดเปนนผงเปนนต้นมีแต่พืชเพียง
อย่างเดียวหามิได้เพราะยังมีสัตว์และแร่ธาตุอื่นๆอีกสมุนไพร ที่เปนนสัตว์ได้แก่ เขา หนัง กระดูก ดี หรือ
เปนนสัตว์ทันงตัวก็มี เช่น ตุ๊กแกไส้เดือน ม้านนา ฯลฯ "พืชสมุนไพร" นันนตันงแต่โบราณก็ทราบกันดีว่ามีคุณค่า
ทางยามากมายซึ่ง เชื่อกันอีกด้วยว่า ต้นพืชต่างๆ ก็เปนนพืชที่มีสารที่เปนนตัวยาด้วยกันทันงสินนเพียงแต่ว่าพืช
ชนิดไหนจะมีคุณค่าทางยามากน้อยกว่ากันเท่านันน
"พืชสมุนไพร" หรือวัตถุธาตุนีน หรือตัวยาสมุนไพรนีน แบ่งออกเปนน 5 ประการ
1. รูป ได้แก่ ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ กระพีนไม้ รากไม้ เมล็ด
2. สี มองแล้วเห็นว่าเปนนสีเขียวใบไม้ สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีม่วง สีนนาตาล สีดา
3. กลิ่น ให้รู้ว่ามรกลิ่น หอม เหม็น หรือกลิ่นอย่างไร
4. รส ให้รู้ว่ามีรสอย่างไร รสจืด รสฝาด รสขม รสเค็ม รสหวาน รสเปรีนยว รสเย็น
5. ชื่อ ต้องรู้ว่ามีชื่ออะไรในพืชสมุนไพรนันนๆ ให้รู้ว่า ขิงเปนนอย่างไร ข่า เปนนอย่างไร ใบขีนเหล็กเปนนอย่างไร
ดอกมะขามเปนนอย่างไร ผลมะเกลือเปนนอย่างไร
สมุนไพรนอกจากจะนามาใช้ประโยชน์เปนนยารักษาโรคแล้ว ยังสามารถนามาใช้ประโยชน์
ทางด้านอื่นๆอีก เช่นนามาบริโภคเปนนอาหาร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องดื่ม สีผสมอาหาร และสีย้อม
ตลอดจนใช้ทาเครื่องสาอางอีกด้วย การใช้สมุนไพรเปนนยาบาบัดโรคนันน อาจใช้ในรูปยาสมุนไพรเดี่ยวๆ
หรือใช้ในรูปตารับยาสมุนไพร ปัจจุบันตารับยาสามัญประจาบ้านแผนโบราณที่กระทรวงสาธารณสุข
อนุญาติให้ใช้รักษาโรคได้ มีทันงหมด 28 ขนาน เช่น
- ยาจันทน์ลีลา ใช้แก้ไข้ แก้ตัวร้อน
- ยามหานิลแท่งทอง ใช้แก้ไข้ แก้หัด อีสุกอีใส
- ยาหอมเทพพิจิตร แก้ลม บารุงหัวใจ
- ยาเหลืองปิดสมุทร แก้ท้องเสีย
- ยาประสะมะแว้ง แก้ไอ ขับเสมหะ
- ยาตรีหอม แก้ท้องผูกในเด็กระบายพิษไข้

4. 4
เกณฑ์การเลือกใช้สมุนไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน
๑. เปนนสมุนไพรที่ใช้รักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่วินิจพัยได้เอง เช่น อาการจุกเสียด ท้องผูก
ท้องเสีย บาดแผลเล็กน้อย และโรคผิวหนังบางชนิด เปนนต้น
๒. เปนนสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่น เพื่อประชาชนจะได้มีใช้เมื่อต้องการ
๓. ยาที่เตรียมขึนนจากสมุนไพรต้องเปนนยาที่เตรียมได้ง่าย ไม่ต้องใช้ความรู้ เทคโนโลยี หรือความชานาญ
สูง เช่น เตรียมโดยวิธีต้ม บด และชง เปนนต้น
๔. ยาสมุนไพรนันนต้องใช้ได้ง่าย หากเปนน สมุนไพรที่กินได้ยาก อาจแข่งขันกับยาแผนปัจจุบันไม่ได้
ตัวอย่างเช่น สมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีรสขมมาก อาจจะต้องปรับปรุงรูปแบบ โดยบรรจุในแคปซูลแทน
การชงนนากิน
๕. สมุนไพรนันนต้องปลอดภัย อย่างน้อยควรต้องมีการตรวจสอบทางพิษวิทยาอย่างเพียงพอ หากไม่มีหรือ
มีหลักฐานการตรวจสอบน้อย ก็ควรจะเปนนพืชอาหาร หรือเปนนยาที่ใช้ภายนอก เท่านันน
๖. ต้องแน่ใจว่า สมุนไพรนันนให้ผลดี อย่างน้อยควรจะมีหลักฐานทางเภสัชวิทยาที่ยืนยันผลการใช้ และถ้า
จะให้เปนนที่ยอมรับของบุคลากรสาธารณสุขก็จะต้องมีหลักฐานครบถ้วน ทันงเภสัชวิทยา พิษวิทยา และ
การทดลองทางคลินิก ดังนันน ขณะนีนจึงได้มีการส่งเสริมการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้เปนนที่ยอมรับของบุคลากร
เหล่านีน
๗. สมุนไพรที่นามาใช้ต้องถูกชนิด จึงจะได้ผลในการรักษา
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
จัดทาในรูปแบบ PowerPoint
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. หนังสือ
3. เว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรไทย
งบประมาณ
-

5. 5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอ
บ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน พัชรา
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
พัชรา
3 จัดทาโครงร่างงาน พัชรา
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
พัชรา
5 ปรับปรุงทดสอบ พัชรา
6 การทาเอกสารรายงาน พัชรา
7 ประเมินผลงาน พัชรา
8 นาเสนอโครงงาน พัชรา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึนนเมื่อสินนสุดการทาโครงงาน)
1. รู้สรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆ
2. รู้วิธีการใช้สมุนไพรแต่ละชนิด
3. สามารถนาความรู้เรื่องสมุนไพรมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจาวัน
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1. http://xn--o3cepkej9b3gpeg.net/
2. http://frynn.com/herb/
3. http://www.samunpri.com/
4. http://student.nu.ac.th/46313433/Thaiherb/keep.htm