2562 final-project 26

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน
ปัญหาพฤติกรรมการก้าวร้าว
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ…นางสาวพัชราภรณ์ ขอร้อง…
เลขที่ …26……ชั้น ม.6…………ห้อง..8........
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1.นางสาวพัชราภรณ์ ขอร้อง. เลขที่..26……
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ปัญหาพฤติกรรมการก้าวร้าว
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Aggressive Behavior
ประเภทโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวพัชราภรณ์ ขอร้อง
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม
-
ระยะเวลาดาเนินงาน
-
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันเด็กไทย 1.5 แสนคนทั่วประเทศ เป็นโรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญ
เรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยผลสารวจของกรมสุขภาพจิตในปี 2559 ในกลุ่มเด็กอายุ 2-5 ปีและ
เยาวชนอายุ13-17 ปีที่มีประมาณ 4 ล้านกว่าคน พบเป็นโรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าวร้อยละ 3.8 คาดว่ามีประมาณ 1.
5 แสนคนทั่วประเทศ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นเพศชาย โรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว (conduct disorder) เป็นโรคทาง
พฤติกรรมชนิดหนึ่งของเด็ก พบได้บ่อยในเด็ก เด็กวัยเรียนและวัยรุ่น ที่มีความก้าวร้าว เกเรรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมการ
ก้าวร้าวเกิดจากการที่ตัวเด็กเอง มีอารมณ์ก้าวร้าวรุนแรงเป็นพื้นฐานของจิตใจมีอาการสมาธิสั้น โตมากับ
ความก้าวร้าวรุนแรง คือ พ่อแม่อาจใช้อารมณ์ในการตัดสินเด็ก เช่น การดุด่าว่ากล่าวแรงๆ การใช้กาลัง เป็น
ต้น หรือแม้แต่ในพ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงต่อกันถูกตามใจก็มีส่วนที่ทาให้เด็กมีปัญหาความก้าวร้าวได้ อย่างใน
เวลาที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะไม่มีใครสามารถขัดใจได้ ตัวอย่างที่พบบ่อยคือเด็กที่ลงไปนอนดิ้นกับพื้น
แล้วสุดท้ายพ่อแม่หรือผู้ปกครองอื่นๆ ก็จะยอมให้ในสิ่งที่เด็กต้องการ ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียตามมาและเกิด
ปัญหาสุขภาพทางจิตตามมาอีกด้วยจากการศึกษาโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องปัญหาพฤติกรรมการก้าวร้าว ข้าพเจ้า
ได้ไปค้นคว้าหาสาเหตุ วิจัยที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการก้าวร้าว ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลังหรือผลกระทบและ
วิธีการรับมือกับพฤติกรรมดังกล่าวพร้อมกับวิธีการแก้ไขในอินเตอร์เน็ตและงานวิจัย ทาให้ผู้จัดทามีความรู้ ความ

3. 3
เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมการก้าวร้าว ว่าเราไม่ควรตามใจเด็กและควรอบรมสั่งสอนแนะนาในทางที่ดี
ดังนั้นทางผู้จัดทาจึงคิดที่จะทาสื่อการพัฒนาการศึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการก้าวร้าวในรูปแบบที่
หลากหลายจากประสบการณ์ที่พบเจอจริงและในอินเตอร์เน็ตนามานาเสนอในโครงงานเล่มนี้และทางผู้จัดทาหวังว่า
โครงงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านและเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศึกษาและสนใจต่อไป
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1) เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาการก้าวร้าว
2) เพื่อให้รู้ถึงผลกระทบที่ตามมาของเด็กที่ก้าวร้าว
3) เพื่อรู้จักวิธีการรับมือหากบุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมการก้าวร้าว
4) เพื่อป้องกันการก้าวร้าวที่จะเกิดขึ้นในบุตรหลานของท่าน
5) เพื่อจะได้รู้ว่าหากมีพฤติกรรมการก้าวร้าวขั้นไหนถึงจะไปปรึกษาจิตแพทย์
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
โรคพฤติกรรมการก้าวร้าวของเด็กในช่วง 2-5 ปี และเยาวชนอายุ13-17 ปี ในกลุ่มตัวอย่างของนักเรียน
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-5
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
พบหมอศิริราช : เมื่อไหร่ควรพบจิตแพทย์เด็ก
พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกของตนเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีทุกด้าน และพ่อแม่มักเป็นบุคคลแรกที่พบเห็นปัญหา
ของเด็กในด้านต่าง ๆ เช่น ปัญหาพัฒนาการ พฤติกรรม หรืออารมณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาให้พ่อแม่หนักใจและเกิดความ
ลังเลว่า เมื่อไรที่ควรนาเด็กไปพบจิตแพทย์เด็กเพื่อรับการรักษา ผศ.นพ.วิฐารณ บุญสิทธิ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
อธิบายว่า ในเด็กสามารถพบปัญหาต่าง ๆ ได้ เช่น ปัญหาพัฒนาการล่าช้าด้านการสื่อ ความหมาย พฤติกรรม
ก้าวร้าว ภาวะกลัวหรือวิตกกังวล ปัญหาด้านสติปัญญาและการเรียน ภาวะสมาธิสั้นหรือซนมากกว่า
ปกติ พฤติกรรมย้าคิดย้าทา อาการป่วยที่หาสาเหตุทางกายไม่พบ อาการหวาดระแวง หรือพฤติกรรมผิดปกติอื่น
ๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้หากได้รับการตรวจประเมิน และช่วยเหลือรักษาตั้งแต่เบื้องต้นก็จะสามารถช่วยให้เด็กมีอาการที่ดี
ขึ้นได้เร็วและมีพัฒนาการที่ดีต่อไป แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็อาจกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นยากต่อการ
แก้ไขในภายหลัง ตัวอย่างของปัญหาที่ต้องการการรักษาโดยทีมงานจิตเวชเด็ก เช่น เด็กในวัย 1-2 ขวบที่ยังไม่พูด ไม่
ค่อยสบตา ไม่ตอบสนองต่อคาพูดของพ่อแม่ และมีพฤติกรรมชอบเล่นคนเดียวหรือทาอะไรซ้า ๆ อาจมีภาวะ
ออทิสติก ซึ่งจาเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยโดยเร็วที่สุดและรักษาด้วยการกระตุ้นพัฒนาการ ปรับพฤติกรรมฝึกพูด
และทักษะด้านการสื่อสาร ในเด็กวัยประถมต้นที่มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง ขาดความรอบคอบในการทางาน มีสมาธิ
สั้น ทางานไม่เสร็จ อาจเกิดจากการที่เด็กมีภาวะซน สมาธิสั้น ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยพฤติกรรมบาบัดและการปรับ
วิธีการสอนร่วมกับการใช้ยาเพิ่มสมาธิ หรือในกรณีที่เด็กมีอาการกลัว ไม่ยอมไปโรงเรียน มักเกิดจากโรควิตกกังวล
ต่อการแยกจากจาเป็นต้องได้รับการรักษาช่วยเหลือโดยเร็ว เนื่องจากถ้าเด็กไม่ได้ไปโรงเรียนนานก็จะกลับไปเรียน
ตามปกติได้ยากยิ่งขึ้น หากคุณพ่อ คุณแม่ท่านใดเห็นว่าลูกมีปัญหาดังกล่าวข้างต้นควรปรึกษากับแพทย์ประจาตัวเด็ก
หรือกุมารแพทย์ เพื่อช่วยเหลือในขั้นต้นก่อน หากปัญหายังคงเป็นอยู่หรือรุนแรงมากขึ้น ก็ควรปรึกษาจิตแพทย์
เด็ก ซึ่งมีอยู่ในโรงพยาบาลหลายแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน
ในการจัดทาโครงงานศึกษาในครั้งนี้ ทางผู้จัดทาได้ศึกษาเอกสารจากเว็บไซด์ ดังนี้
1) พฤติกรรมก้าวร้าวเด็กปฐมวัย
2) สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์(Child and Adolescent Mental Health Institute(CAMR))
3) พฤติกรรมก้าวร้าว (Aggressive Behavior)

4. 4
4) มารู้จักพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กกัน
5) วิธีควบคุมอารมณ์เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
6) สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ แนวทางการดูแลช่วยเหลือวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมความรุนแรง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกค้นคว้าหาข้อมูลจริงและนาข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาวิเคราะห์ พิจารณาว่าข้อมูลไหนที่
ศึกษาและเรียนรู้ ดูแล้วเข้าใจง่ายและเกิดประโยชน์มากที่สุด หลักจากนั้นจึงนาข้อมูลที่ศึกษามาแล้วนามาจัดทาเป็น
Powerpointและแผ่นพับ จากนั้นนาเสนอคุณครูและปรับปรุงแก้ไขงาน หลังจากนั้นนาเสนอในรูปแบบการจัดแสดง
งานโดยที่เราจะจัดรูปแบบการนาเสนอที่แปลกใหม่ น่าสนใจและที่สาคัญคือผู้รับสารดูแล้วเข้าใจง่าย หลังจากนั้นนาไป
แจกให้นักเรียนโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยได้ศึกษาหรืออาจจะจัดเป็นนิทรรศการที่ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เราได้
ศึกษามาทั้งในรูปแบบอธิบาย บรรยายและให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้ามาศึกษาจากนิทรรศการและแผ่นพับที่จัดพิมพ์
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.แหล่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและในหนังสือ
3.โปรแกรมPowerpoint
4.กระดาษที่ใช้ทาแผ่นพับ
5.เครื่องปริ้นเอกสาร
6.บอร์ดแสดงนิทรรศการ
งบประมาณ
ประมาณ 500-900บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน

5. 5
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
คาดว่าผู้ที่มาศึกษาดูงานจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ และการเอาใจใส่บุตรหลานของท่าน และยังได้รับ
ความรู้เพิ่มเติมในการทายังไงไม่ให้บุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมก้าวร้าวที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังสามารถนา
ความรู้ที่ได้รับนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันโดยเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเอง บุตรหลานของท่านรวมทั้งส่วนรวมอีก
ด้วย
สถานที่ดาเนินการ
1.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
2. สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.วิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา)
2.สุขะและพลศึกษา
3.การงานอาชีพและเทคโนโลยี
4.ภาษาไทย
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
เว็บไซด์ https://www.honestdocs.co/aggressive-behavior
เว็บไซด์ https://www.baanjomyut.com/library_2/extension
เว็บไซด์ http://www.edtechcreation.com/th/articles/22966-%
เว็บไซด์ https://www.pobpad.com/
เว็บไซด์ https://www.gotoknow.org/posts/395509
เว็บไซด์ http://abnormalbehaviorchild.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8

6. 6