SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้      ( 4 MAT )


        พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ ศ      . . 2542        มาตรา        22กำาหนดแนวทางใน
การจัดการศึกษาไว้วา การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนา
                  ่
ตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำาคัญที่สุด ฉะนั้นครู ผู้สอนและผู้จัดการศึกษา จะต้องเปลี่ยนแปลง
บทบาทจากการเป็นผู้ชี้นำา ผู้ถายทอดความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุนผู้เรียนในการ
                             ่
                                                  (
แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ตาง ๆ กระทรวงศึกษาธิการ
                                         ่                                 2544 : 21)
                                                                                    การ
จัดการศึกษาต้องเน้นความสำาคัญทั้งความรู้ คุณภาพ กระบวนการเรียนรู้ และการบูรณาการอย่างเหมาะ
สม การจัดการเรียนรู้จึงต้องคำานึงถึงความสนใจ ความถนัดและความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นการฝึก
ทักษะกระบวนการคิด การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้
      การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้        (4 MAT)           เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัด
กระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญ เนื่องจากเป็นการจัดกิจกรรมทีคำานึงถึงลักษณะการเรียนรู้
                                                                           ่
ของผู้เรียน 4  แบบ กับการพัฒนาสมองซีกซ้ายและซีกขวาอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม
ลักษณะและความต้องการของตนเองอย่างเหมาะสม กิจกรรมบางช่วงจะตอบสนองให้ผู้เรียนแต่ละแบบมี
ความสุขในการเรียนในช่วงกิจกรรมทีตนถนัด และรู้สึกท้าทายในช่วงที่ผู้อื่นถนัด ดังนั้นผู้เรียนจะ
                                ่
สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ
        การจัดการเรียนรู้แบบ     4 MAT           เป็นการจัดการเรียนรู้ที่คำานึงถึงรูปแบบการเรียนรู้ของ
            4
กลุ่มผู้เรียน คุณลักษณะ กับพัฒนาการสมองซีกซ้ายและซีกขวาอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้
ตามแบบและความต้องการของตนอย่างเหมาะสม และสามารถพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งได้แก่
           ผู้เรียนแบบที่  1 ( Why )                   ผู้เรียนที่มีจินตนาการเป็นหลัก
            ผู้เรียนแบบที่ 2 (What )                   ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้านการวิเคราะห์และการเก็บราย
             ละเอียด
                                             เป็นหลัก
            ผู้เรียนแบบที่   3 ( How )            ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้วยสามัญสำานึกหรือประสาทสัมผัส
            ผู้เรียนแบบที่   4 ( If ) ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้วยการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรม
                                             ไปสู่การลงมือปฏิบติ
                                                              ั
        วัตถุประสงค์
        1. เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน       กับพัฒนาการทางสมองซีกซ้ายและ
             ซีกขวาอย่างเท่าเทียมกัน
        2. เพื่อให้ผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความถนัดของผู้เรียนแต่ละประเภทและผู้
             เรียนมีโอกาสประสบความสำาเร็จในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
        3. เพื่อให้ผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญและส่งเสริมให้ผู้เรียนมี
             คุณลักษณะที่ดี มีปัญญาและมีความสุขในการเรียนรู้


        องค์ประกอบสำาคัญ
                 การจัดการเรียนรู้แบบ     4 MAT            มีองค์ประกอบสำาคัญดังนี้
                 1. การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
                 2. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
                 3. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน

        แนวคิดเชิงทฤษฎีและความเป็นมาของการจัดการเรียนรู้แบบ             4 MAT
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดเรื่อง การศึกษาแผนใหม่    ( Progressivism )
   ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาแบบก้าวหน้าที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการกระทำานั้น เป็นแนวคิดทีคำานึงถึงความ
                                                                                           ่
   แตกต่างระหว่างบุคคล ซึ่งสนับสนุนปรัชญากลุ่มพิพัฒนาการนิยมหรือปรัชญากลุ่มก้าวหน้า โดยคำานึง
   ถึงผู้เรียนมีวิธีการเรียนรู้ในลักษณะที่แตกต่างกัน ถ้าผู้สอนจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน
   แต่ละประเภทผู้เรียนก็จะประสบความสำาเร็จในการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                4 MAT พัฒนาขึ้นจากการค้นคว้าวิจัยของ เบอร์นิส แมคคาร์ธี
            รูปแบบการเรียนรู้
   ( Bernie McCarthy ) นักการศึกษา นักแนะแนวทางการศึกษา ซึ่งเชื่อในศักยภาพ
   ของผู้เรียนในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยคำานึงถึงรูปแบบหรือวิธการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละ
                                                                       ี
   ประเภท
         ในปี ค ศ    . . 1979       เบอร์นิส แมคคาร์ธี ได้รับทุนวิจยเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้และ
                                                                   ั
   บทบาทของสมองที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ซึ่งเขาได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนแนวคิดกับนักการศึกษาต่าง ๆ
   มากมาย แต่ละแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อเบอร์นิส แมคคาร์ธี มากที่สุด คือแนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้ของ
   เดวิด คอล์ป    ( David Kolb ) ที่มีแนวคิดว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ใน 2 มิติ
   คือการรับรู้  ( Perception ) และการจัดกระบวนการ ( Processing ) โดยการ
   เรียนรู้จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นผลมาจากวิธีการทีบุคคลรับรู้แล้วจัดกระบวนการเสียใหม่ตาม
                                                              ่
                                               2 วิธี คือ การรับรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงหรือ
   แนวความถนัดของตนเอง ซึ่งการรับรู้จะเกิดขึ้นได้
   ประสบการณ์รูปธรรม ( Concrete Experience ) และการรับรู้โดยผ่านความคิด
   รวบยอดหรือนามธรรม ( Abstract Conceptualization )
          กระบวนการรับรู้ดังกล่าว เป็นกระบวนการที่เกิดจากการลงมือปฏิบติจริง ( Active
                                                                     ั
   Experimentation ) และเฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง ( Reflective
   observation ) ซึ่งเดวิด คอล์ป
   ( David Kolb ) ได้แบ่งรูปแบบการเรียนรู้ตามความแตกต่างของการเรียนรู้เป็น 4 ส่วน
   ตามจุดตัดของแกนการรับรู้ และแกนของกระบวนการ โดยให้ส่วนที่เป็นวงล้อแห่งการเรียนรู้เป็นลักษณะ
   ของผู้เรียน   4   แบบ ซึ่งมีรูปแบบการรับรู้และกระบวนการรับรู้ที่แตกต่างกัน ดังนี้



                                              ประสบการณ์ตรง
                                            ( Concrete
                                           Experience )

                                            กระบวน
                                            การ
       การปฏิบติ
              ั                                                                          การสังเกต
                                            การรับรู้
    ( Active                                                                        ( Reflective
Experimentation )                                                                  Observation )


                                               ความคิดรวบยอด
                                         ( Abstract
                                      Conceptualization
( Bernie McCarthy ) ได้ประยุกต์แนวคิดของเดวิด
        เบอร์นิส แมคคาร์ธี
คอล์ป ( David Kolb ) โดยให้พื้นที่ทั้ง 4 ส่วนที่เกิดจากการตัดกันของแกนการรับรู้
( Perception ) และแกนกระบวนการ ( Processing ) แทนลักษณะการเรียนรู้
ของผู้เรียน 4 ประเภท ซึ่งคำานึงถึงความคิดเกี่ยวกับระบบการทำางานของสมองซีกซ้ายและสมองซีก
ขวากับธรรมชาติของการเรียนรู้ซึ่งอธิบายโดยใช้แผนภาพและคำาอธิบายประกอบได้ ดังนี้




      If                                                                           Why

                                  4            1
                                Dynamic
                                Imaginative
                                Learners
                                      Learners

                                        3               2
   How                                                             What
                                 Commonsense
                                          Analytic
                                 Learners
           ส่วนที่1      ผู้เรียนที่ถนัดจินตนาการ ( Imaginative Learners )
                                          Learners
เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้จากประสบการณ์และกระบวนการเฝ้าสังเกตผู้เรียนในกลุ่มนี้จะสงสัยและตั้งคำาถามตรง
กันว่า “ ทำาไม” ทำาไมต้องเรียนเรื่องนี้
                  2
            ส่วนที่                                  ( Analytic Learners )
                              ผู้เรียนที่ถนัดการวิเคราะห์                                  เป็น
ผู้เรียนที่เรียนรู้ โดยรับรูจากการสังเกตอย่างไตร่ตรอง ไปสู่การสร้างประสบการณ์นามธรรมหรือความ
                            ้
คิดรวบยอด ผู้เรียนในกลุ่มนีจะตั้งคำาถามว่า “อะไร”
                           ้                       ( What ) เราจะเรียนอะไรกัน
       3ส่วนที่          ผู้เรียนที่ถนัดการใช้สามัญสำานึก ( Commonsense
Learners )            เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้จากการรับรู้ความคิดรวบยอดไปสู่การลงมือปฏิบติที่สะท้อน
                                                                                       ั
ระดับความเข้าใจของตนเอง ผู้เรียนในกลุ่มนี้จะตั้งคำาถามว่า “อย่างไร”    ( How )         เราจะเรียน
เรื่องนี้อย่างไร
       4ส่วนที่
            ผู้เรียนที่ถนัดการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบติ
                                                                         ั
( Dynamic Learners ) เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้และสนุกกับการได้ค้นพบด้วยตนเอง
โดยการลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนในกลุ่มนีจะตั้งคำาถาม “ถ้า”
                                    ้                  ( If … )    ถ้า … แล้วจะนำาไปใช้
อย่างไร
        จากพื้นที่ภายใต้วงล้อมแห่งการเรียนรู่ ตามเส้นแบ่งของการรับรู้และเส้นแบ่งกระบวนการรับรู้ที่
               4
แบ่งผู้เรียนเป็น ประเภทนั้น ไดมีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อตอบสนองการใช้สมองของผู้
เรียนตามบทบาทของสมองซีกซ้ายและซีกขวา เพื่อตอบสนองการพัฒนาศักยภาพทุกด้านของผู้เรียนใน
ลักษณะต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน จึงแบ่งวงล้อแห่งการเรียนรู้เป็น   8
                                                           ส่วน ย่อย ๆ เพื่อสะดวกในการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ที่ตอบสนองบทบาทและความต้องการของสมองทั้งสองซีกอย่างสมดุลโดยมีลักษณะขั้น
ตอนการเคลือนไหวอย่างเป็นลำาดับตามศักยภาพทางสมองดังนี้
          ่
                                         ประสบการณ์ตรง




                                                                          Why
               If

                             ผู้เรียนแบบที่   4        ผู้เรียนแบบ
                             ที่   1
  การปฏิบัติ                               L   L                                 การสังเกต
                                           L L
                
                             ผู้เรียนแบบที่ 3          ผู้เรียนแบบ
                             ที่ 2

               How                                                         What
                                                       


                                        ความคิดรวบยอด
        หมายเหตุ    :    R         =          Right        (กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา)
                         L         =          Left (กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย)

        จากการแบ่งวงล้อแห่งการเรียนรู้     8 ส่วน ตามบทบาทของสมองสองซีก ผู้สอนได้กำาหนดขั้น
ตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้   จากพื้นที่ทั้ง 8 ส่วน เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ 8 ขั้นตอน โดย
กำาหนดขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
ประสบการณ์ตรง




                                                         R              R
                                             8.      ขั้นแลก       1.  ขั้นสร้างคุณค่า
                                             เปลี่ยน         และประสบการณ์ของ
                                             ประสบการณ์เรียนรู้่งที่เรียน
                                                             สิ
                                             กับผูอื่น
                                                   ้                                        L
                              L
                       7.    ขั้นวิเคราะห์
                       คุณค่าและการ                                         2.   ขั้นวิเคราะห์
                       ประยุกต์ใช้                                          ประสบการณ์

การปฏิบัติ                                                                                                 การสังเกต

                         6.   ขั้นสร้างชิ้นงานเพื่อ
                                                                            3.    ขั้นปรับประสบการณ์
                                                                            เป็นความคิดรวบยอด
                         สะท้อนความเป็นตนเอง


                                                5.    ขั้น
                                                                    4.   ขั้นพัฒนา
                                                ลงมือปฏิบติั
                                                                    ความคิดรวบยอด
                                                                                            R
                                                จากกรอบ
                                                ความคิดที่
                                  R             กำาหนด



                                                               L        L

                                                        ความคิดรวบยอด
         หมายเหตุ           :           R      =    Right           ( กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา )
                            L           =      Left ( กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย )
         ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
         การจัดการเรียนรู้ที่คำานึงถึงรูปแบบการเรียนรู้ของกลุ่มผู้เรียน4 กลุ่ม กับพัฒนาการสมองซีกซ้ายและ
         สมองซีกขวาอย่างสมดุล ซึ่งได้แก่ ผู้ที่เรียนแบบที่         1 (Why) มีการจินตนาการเป็นหลัก ผู้ที่
         เรียนแบบที่   2 (What) มีการเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์และการเก็บรายละเอียดเป็นหลัก ผู้เรียน
         แบบที่ 3 (How) มีการเรียนรู้ด้วยสามัญสำานึกหรือประสาทสัมผัส ผู้เรียนแบบที่ 4 (If) มี
         การเรียนรู้ด้วยการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบติ ซึ่งเบอร์นิส แมคคาร์ธี (
                                                                      ั
         Bernice McCarthy ) ได้กำาหนดลำาดับขั้นของการเรียนรู้ 4 MAT โดยแบ่งวง
         ล้อกระบวนการเรียนรู้ออกเป็น 8 ขั้นตอน ดังมีรายละเอียดของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4
         MAT ดังนี้

         ส่วนที่   1   ผู้เรียนแบบที่   1      เรียนรู้จากประสบการณ์และการเฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง
( Imaginative Learners )
ประสบการณ์ตรง
                                         เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์และกระบวน    1 การ
                                         เฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง มักใช้คำาถามว่า “ทำาไม”      ( Why )
                              1          บทบาทของผู้สอน      :      ผู้คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดวิ

      1                   
                                                                            เคราะห์สิ่งที่สังเกตได้อย่าง
                                                                                        ไตร่ตรอง
                                                             :
การสังเกต     2                          วิธีการจัดกิจกรรม          ใช้คำาถามข้อมูลเพื่อให้ผู้เรียน
                                                                            สังเกตการร่วมอภิปรายการให้
                                                                            ผู้เรียนทำากิจกรรม
       ในส่วนที่      1
                   สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น                 2    ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ
                                                                                               ่
ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้
        ขั้นตอนที่
   ประสบการณ์ตรง
                      1        ขั้นสร้างคุณค่าและประสบการณ์ของสิ่งที่เรียน     (สมองซีกซ้าย)
                               ผู้สอนควรกระตุ้นความสนใจและแรงจูงใจให้ผู้เรียนคิด โดยใช้คำาถามที่
      1           
                               กระตุ้นให้ผู้เรียนสังเกต การออกไปปฎิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมจริง
                               ของสิ่งเรียน เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา
          2
   การสังขั้นตอนที่
         เกต          2        ขั้นวิเคราะห์ประสบการณ์    (สมองซีกซ้าย)

                               จากขั้นตอนที่   1    ที่ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้และสนใจในสิ่งที่
                               เรียนต่อจากนั้นในขั้นที่ 2นี้ผู้สอนควรให้ผู้เรียนวิเคราะห์หาเหตุผล ฝึก
   ประสบการณ์ตรง               ทำากิจกรรมกลุ่มอย่างหลากหลาย เช่น ฝึกเขียนแผนผังมโนมติ
(Concept
      1           
                               mapping)              ช่วยกันระดมสมองอภิปรายร่วมกันเป็นขั้นที่เน้นการจัด
กิจ
          2                    กรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย
   การสังเกต


ส่วนที่   2   ผู้เรียนแบบที่   2      เรียนรู้จากการสังเกตอย่างไตร่ตรองไปสู่การสร้างความคิดรวบยอด
                                   ( Analytic Learners )
      การสังเกต


                  3                      เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการสังเกตอย่างไตร่ตรองไปสู่การ
                                 2                                                        (What)
            4                            สร้างความคิดรวบยอด มักใช้คำาถามว่า “อะไร”
                                         เช่น เราจะเรียนอะไรกันดี
สร้างความคิดรวบยอด

บทบาทของผู้สอน    :            เตรียมข้อมูลที่ผู้เรียนควรทราบ และสาธิต
วิธีการจัดกิจกรรม :            ให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าเนื้อหาที่จะเรียนจากแหล่งต่าง ๆ เช่นใบ
                                          ความรู้ วีดีทัศน์ เล่นเกม ผู้สอนเป็นผู้ให้ข้อมูล เล่นเกมเป็นต้น


       ในส่วนที่      2
                   สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น                 2    ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ
                                                                                               ่
ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้




                
      สร้างความคิดรวบยอด
ขั้นตอนที่    3     ขึ้นปรับประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด      (สมองซีกขวา)
            การสังเกต
                                           ผู้สอนผู้สอนควรเน้นให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์อย่างไตร่ตรอง นำา
                                           ความรู้ทได้มาเชื่อมโยงกับข้อมูล ทีได้ศึกษาค้นคว้าโดยจัดระบบ
                                                     ี่                        ่
                        3                  การวิเคราะห์เปรียบเทียบการจัดลำาดับความสัมพันธ์ของสิ่งที่
                                           เรียน เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา


              ขั้นตอนที่    4     ขั้นพัฒนาความคิดรวบยอด        (สมองซีกซ้าย)
           การสังเกต
                                           ผู้สอนผู้สอนควรให้ทฤษฎี หลักการที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะรายละ
                                           เอียดของข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจและพัฒนาความคิด
                                           รวบยอดของตนเองในเรื่องที่เรียนกิจกรรมควรเป็นกิจกรรมที่ให้
                                           ผู้เรียนค้นคว้าจากใบความรู้ แหล่งวิทยาการท้องถิ่นการสาธิต
                                           การทดลองการใช้ห้องสมุด วีดีทัศน์ สื่อประสมต่าง ๆ เป็นขั้น
               4                           ที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย

                        
         สร้างความคิดรวบยอด
              ส่วนที่   3                    3 สร้างความคิดรวบยอดไปสู่การลงมือปฏิบติ และสร้างชิ้น
                                  ผู้เรียนแบบที่                                  ั
ลงมือปฏิบติ
         ั                        งานในลักษณะเฉพาะตัว (Commonsense Learners)

        6
                                                                           (
                                  เป็นช่วงที่ผู้เรียนจะสร้างความคิดรวบยอด มโนมติ   )
                                                                                 ไปสู่การลงมือปฏิบัติ
              5                  กิจกรรม การทดลอง ตามความคิดของตนเองและสร้างชิ้นงานที่เป็นลักษณะ
                                  เฉพาะตัว
3       สร้างความคิดรวบยอด

              บทบาทของผู้สอน      :                       (Coach) และผู้อำานวยความสะดวด
                                           ผู้คอยแนะนำาชี้แนะ
                                                   (Facilitator) แก่ผู้เรียน
              วิธีการจัดกิจกรรม   :        ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัตการทดลอง สรุปผลการ
                                                                    ิ
                                                      ทดลองทำาแบบฝึกหัดตามความเหมาะสมของเนื้อเรื่อง
                                                      ที่เรียน
            ในส่วนที่       3
                       สามารถแบ่งชี้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น            2   ขั้นตอนที่คำานึงถึง
    การทำางานของสมองซีกขวาและซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้


              ขั้นตอนที่    5                                               (
                                  ขั้นลงมือปฏิบติจากกรอบความคิดทีกำาหนด สมองซีกซ้าย
                                                  ั                      ่                )
        ลงมือปฏิบัติ              ผู้สอนผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้ปฏิบติกจกรรมการทดลองจากใบงานการ
                                                                       ั ิ
                                  ทดลอง ทำาแบบฝึกหัด การสรุปผลการปฏิบัตกิจกรรม สรุปผลการทด
                                                                                 ิ
                                 ลองทีถูกต้องชัดเจน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยก่อน
                                         ่
                                  ปฏิบติกิจกรรม ฝึกเลือกใช้อุปกรณ์บันทึกผลการทดลอง โดยผู้สอนจะ
                                       ั
                                  เป็นพี่เลี้ยงเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย

                5
              ขั้นตอนที่
        สร้างความคิดรวบ
                            6                                                  (
                                  ขั้นสร้างชิ้นงานเพื่อสะท้อนความเป็นตนเอง สมองซีกขวา     )
        ลงมื
        ยอดอปฏิบัติ               ผู้สอนต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถของตนเองตาม
                                  ความถนัด ความสนใจเพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานตามจินตนาการของตนเอง
                                  ที่แสดงถึงความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียน ให้เห็นเป็นรูปธรรมในรูป
                                  แบบต่าง ๆ โดยเลือกวิธีการนำาเสนอผลงานในลักษณะเฉพาะตัวชิ้นงาน
                                  ที่สร้างอาจเป็นภาพวาด นิทาน สมุดรวบรวมสิ่งที่เรียน สิ่งประดิษฐ์
                                  แผ่นพับ เป็นต้น เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา


        สร้างความคิดรวบ
        ยอด
    
                6
ส่วนที่   4     ผู้เรียนแบบที่   4   เรียนรู้จากประสบการณ์รปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบัตในชีวิต
                                                           ู                       ิ
                                     จริง   (Dynamic Learners)
     ประสบการณ์ตรง

4                                   เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้นำาเสนอผลงานของตนเอง โดยสอดแทรก
                                     การอภิปรายถึงปัญหา อุปสรรคในการปฏิบติกจกรรม วิธีการ
                                                                              ั ิ
                  7                  แก้ไขปัญหา เพื่อปรับปรุงชิ้นงานจนสำาเร็จและเป็นประโยชน์
          8                          ต่อตนเอง ซึ่งสามารถบูรณาการประยุกต์ใช้ เชื่อมโยงกับชีวต
                                                                                           ิ
                                     จริง   /   อนาคต

 ลงมือปฏิบทบาทของผู้สอน
         บติ
          ั                      :   ให้คำาแนะนำา ร่วมประเมินผลงานแนะนำาวิธีการปรับปรุงผลงาน
                                     และการรวบรวมผลงาน
          บทบาทของผู้เรียน       :   ผู้เรียนนำาเสนอชิ้นงานที่ปรับปรุง อภิปรายแลกเปลียนความคิด
                                                                                     ่
                                     เห็นกับผู้อื่น และนำาผูอื่น
                                                            ้


       ในส่วนที่       4
                   สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น          2       ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ
                                                                                           ่
ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้


          ขั้นตอนที่    7                                                 (
                                     ขั้นวิเคราะห์คุณค่าและการประยุกต์ใช้ สมองซีกซ้าย      )
                                     ผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์ชิ้นงานของตนเองโดยอธิบายขั้น
              ประสบการณ์ตรง          ตอนการทำางาน ปัญหาอุปสรรคในการทำางาน ทำางานและ
                                     วิธีการแก้ไข โดยบูรณาการ การประยุกต์ใช้เพื่อเชื่อมโยงกับ
                                                /
                                     ชีวิตจริง อนาคต ซึ่งอาจวิเคราะห์ชิ้นงานในรูปกลุ่มย่อยหรือ
                                    กลุ่มใหญ่ก็ได้ตามความเหมาะสมเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่
              7                      พัฒนาสมองซีกซ้าย


           ลงมือปฏิบัติ
          ขั้นตอนที่    8                                                     (
                                     ขั้นแลกเปลียนประสบการณ์เรียนรู้กับผูอื่น สมองซีกซ้าย
                                                 ่                           ้                 )
                                     เป็นขั้นสุดท้ายซึ่งผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้นำาผลงานของตนเองมา
          ประสบการณ์ตรง              นำาเสนอหรือจัดแสดงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดนิทรรศการ
                                     ป้ายนิเทศ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ชื่นชอบถือเป็นการแบ่งปันโอกาส
                  8                  ทางด้านความรู้และประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้ซาบซึ้ง ในขั้นนี้
                                     ผู้เรียนควรรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ยอมรับฟัง
                                     ความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมอง
                                     ซีกขวา
     
          ลงมือปฏิบติ
                   ั

More Related Content

What's hot

ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivism
ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivismทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivism
ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivismคน ขี้เล่า
 
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัยการตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัยNU
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาAon Narinchoti
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วนหน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วนInmylove Nupad
 
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน ฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน  ฟรอยด์ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน  ฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน ฟรอยด์6Phepho
 
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาแผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาNontaporn Pilawut
 
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้นโครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้นInmylove Nupad
 
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...เล็ก น่ารัก
 
อสมการ ม3
อสมการ ม3 อสมการ ม3
อสมการ ม3 Prang Donal
 
การเรียนรู้แบบ4 mat
การเรียนรู้แบบ4 matการเรียนรู้แบบ4 mat
การเรียนรู้แบบ4 matSukanya Burana
 
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)podjarin
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนatunya2530
 
4 MAT Leaning System
4 MAT Leaning System4 MAT Leaning System
4 MAT Leaning SystemPete Pitch
 
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละ
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละ
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละmakotosuwan
 
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์Mod DW
 
การประเมินการปฏิบัติ
การประเมินการปฏิบัติการประเมินการปฏิบัติ
การประเมินการปฏิบัติNU
 
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100ทับทิม เจริญตา
 
ข้อสอบแบบจับคู่
ข้อสอบแบบจับคู่ ข้อสอบแบบจับคู่
ข้อสอบแบบจับคู่ Nuch Silarak
 
โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์Nuchita Kromkhan
 

What's hot (20)

ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivism
ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivismทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivism
ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตัวเอง constructivism
 
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัยการตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
การตรวจสอบคุณภาพข้อสอบอัตนัย
 
โจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหา
โจทย์ปัญหา
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วนหน่วยการเรียนรู้ที่  1   เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทศนิยมและเศษส่วน
 
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน ฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน  ฟรอยด์ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน  ฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมัน ฟรอยด์
 
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาแผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
แผ่นพับสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
 
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้นโครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้น
โครงสร้างคณิตศาสตร์ พื้นฐาน ม.ต้น
 
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนของโพลยา เรื่อง พื้นที่ผิวและปริ...
 
เเผนสามเหลี่ยม ม2
เเผนสามเหลี่ยม ม2เเผนสามเหลี่ยม ม2
เเผนสามเหลี่ยม ม2
 
อสมการ ม3
อสมการ ม3 อสมการ ม3
อสมการ ม3
 
การเรียนรู้แบบ4 mat
การเรียนรู้แบบ4 matการเรียนรู้แบบ4 mat
การเรียนรู้แบบ4 mat
 
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)
แบบสำรวจฯ สำหรับบัณฑิต/ผู้สำเร็จการศึกษา (บัณฑิต ปีการศึกษา 2553)
 
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
ข้อสอบคณิตศาสตร์เรื่อง การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน
 
4 MAT Leaning System
4 MAT Leaning System4 MAT Leaning System
4 MAT Leaning System
 
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละ
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละ
ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน ลัดส่วนและร้อยละ
 
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
 
การประเมินการปฏิบัติ
การประเมินการปฏิบัติการประเมินการปฏิบัติ
การประเมินการปฏิบัติ
 
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100
แบบฝึกการแยกโจทย์ปัญหาบวกลบ100
 
ข้อสอบแบบจับคู่
ข้อสอบแบบจับคู่ ข้อสอบแบบจับคู่
ข้อสอบแบบจับคู่
 
โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์
 

Viewers also liked

แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrate
แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrateแผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrate
แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integratePrachoom Rangkasikorn
 
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุงการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุงkruteerapol
 
How to run an Online Workshop v1 0
How to run an Online Workshop v1 0How to run an Online Workshop v1 0
How to run an Online Workshop v1 0ianmurraytm
 
Stem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentStem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentWeerachat Martluplao
 
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Mia
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Miaการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Mia
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ MiaPrakasani Butkhot
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านKanjana Pothinam
 
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอน
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอน
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอนTeacher Sophonnawit
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษKritsadin Khemtong
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องmoohhack
 

Viewers also liked (10)

แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrate
แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrateแผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrate
แผนผังการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ ป.1-3+409+dltvsocp1+T2 p1 6-soc_integrate
 
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุงการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ปรับปรุง
 
How to run an Online Workshop v1 0
How to run an Online Workshop v1 0How to run an Online Workshop v1 0
How to run an Online Workshop v1 0
 
Expand
ExpandExpand
Expand
 
Stem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentStem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills development
 
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Mia
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Miaการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Mia
การสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบ Mia
 
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่านบทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
 
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอน
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอน
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และการพัฒนาการเรียนการสอน
 
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษวิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
วิจัยเรื่องการอ่านภาษาอังกฤษ
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
 

Similar to 4 mat

ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่panggoo
 
ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่Vachii Ra
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่Pitsiri Lumphaopun
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่Jo Smartscience II
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่Jo Smartscience II
 
งานครูมือใหม่
งานครูมือใหม่งานครูมือใหม่
งานครูมือใหม่Moss Worapong
 
ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้Rainbow Tiwa
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้Natida Boonyadetwong
 
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่Ailada_oa
 
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยtyehh
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางรูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางIaon Srichiangsa
 
ทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตรทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตรTawatchai Bunchuay
 
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนwannaphakdee
 

Similar to 4 mat (20)

ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่
 
บทที่ 4 new
บทที่ 4 newบทที่ 4 new
บทที่ 4 new
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
งานครูมือใหม่
งานครูมือใหม่งานครูมือใหม่
งานครูมือใหม่
 
Kku5
Kku5Kku5
Kku5
 
ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้ทฤษฎีการสร้างความรู้
ทฤษฎีการสร้างความรู้
 
งาน8และ construcionvism
งาน8และ construcionvismงาน8และ construcionvism
งาน8และ construcionvism
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้
 
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
การออกแบบการสอนระดับครูมือใหม่
 
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วย
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางรูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
 
ทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตรทฤ.หลักสูตร
ทฤ.หลักสูตร
 
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอน
 

4 mat

  • 1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ ( 4 MAT ) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ ศ . . 2542 มาตรา 22กำาหนดแนวทางใน การจัดการศึกษาไว้วา การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนา ่ ตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำาคัญที่สุด ฉะนั้นครู ผู้สอนและผู้จัดการศึกษา จะต้องเปลี่ยนแปลง บทบาทจากการเป็นผู้ชี้นำา ผู้ถายทอดความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุนผู้เรียนในการ ่ ( แสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ตาง ๆ กระทรวงศึกษาธิการ ่ 2544 : 21) การ จัดการศึกษาต้องเน้นความสำาคัญทั้งความรู้ คุณภาพ กระบวนการเรียนรู้ และการบูรณาการอย่างเหมาะ สม การจัดการเรียนรู้จึงต้องคำานึงถึงความสนใจ ความถนัดและความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นการฝึก ทักษะกระบวนการคิด การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัด กระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญ เนื่องจากเป็นการจัดกิจกรรมทีคำานึงถึงลักษณะการเรียนรู้ ่ ของผู้เรียน 4 แบบ กับการพัฒนาสมองซีกซ้ายและซีกขวาอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม ลักษณะและความต้องการของตนเองอย่างเหมาะสม กิจกรรมบางช่วงจะตอบสนองให้ผู้เรียนแต่ละแบบมี ความสุขในการเรียนในช่วงกิจกรรมทีตนถนัด และรู้สึกท้าทายในช่วงที่ผู้อื่นถนัด ดังนั้นผู้เรียนจะ ่ สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เป็นการจัดการเรียนรู้ที่คำานึงถึงรูปแบบการเรียนรู้ของ 4 กลุ่มผู้เรียน คุณลักษณะ กับพัฒนาการสมองซีกซ้ายและซีกขวาอย่างสมดุล เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ ตามแบบและความต้องการของตนอย่างเหมาะสม และสามารถพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งได้แก่  ผู้เรียนแบบที่ 1 ( Why ) ผู้เรียนที่มีจินตนาการเป็นหลัก  ผู้เรียนแบบที่ 2 (What ) ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้านการวิเคราะห์และการเก็บราย ละเอียด เป็นหลัก  ผู้เรียนแบบที่ 3 ( How ) ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้วยสามัญสำานึกหรือประสาทสัมผัส  ผู้เรียนแบบที่ 4 ( If ) ผู้เรียนที่เรียนรู้ด้วยการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรม ไปสู่การลงมือปฏิบติ ั วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน กับพัฒนาการทางสมองซีกซ้ายและ ซีกขวาอย่างเท่าเทียมกัน 2. เพื่อให้ผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความถนัดของผู้เรียนแต่ละประเภทและผู้ เรียนมีโอกาสประสบความสำาเร็จในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 3. เพื่อให้ผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำาคัญและส่งเสริมให้ผู้เรียนมี คุณลักษณะที่ดี มีปัญญาและมีความสุขในการเรียนรู้ องค์ประกอบสำาคัญ การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT มีองค์ประกอบสำาคัญดังนี้ 1. การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน แนวคิดเชิงทฤษฎีและความเป็นมาของการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT
  • 2. การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดเรื่อง การศึกษาแผนใหม่ ( Progressivism ) ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาแบบก้าวหน้าที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการกระทำานั้น เป็นแนวคิดทีคำานึงถึงความ ่ แตกต่างระหว่างบุคคล ซึ่งสนับสนุนปรัชญากลุ่มพิพัฒนาการนิยมหรือปรัชญากลุ่มก้าวหน้า โดยคำานึง ถึงผู้เรียนมีวิธีการเรียนรู้ในลักษณะที่แตกต่างกัน ถ้าผู้สอนจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แต่ละประเภทผู้เรียนก็จะประสบความสำาเร็จในการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4 MAT พัฒนาขึ้นจากการค้นคว้าวิจัยของ เบอร์นิส แมคคาร์ธี รูปแบบการเรียนรู้ ( Bernie McCarthy ) นักการศึกษา นักแนะแนวทางการศึกษา ซึ่งเชื่อในศักยภาพ ของผู้เรียนในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยคำานึงถึงรูปแบบหรือวิธการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละ ี ประเภท ในปี ค ศ . . 1979 เบอร์นิส แมคคาร์ธี ได้รับทุนวิจยเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้และ ั บทบาทของสมองที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ซึ่งเขาได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนแนวคิดกับนักการศึกษาต่าง ๆ มากมาย แต่ละแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อเบอร์นิส แมคคาร์ธี มากที่สุด คือแนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้ของ เดวิด คอล์ป ( David Kolb ) ที่มีแนวคิดว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ใน 2 มิติ คือการรับรู้ ( Perception ) และการจัดกระบวนการ ( Processing ) โดยการ เรียนรู้จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นผลมาจากวิธีการทีบุคคลรับรู้แล้วจัดกระบวนการเสียใหม่ตาม ่ 2 วิธี คือ การรับรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงหรือ แนวความถนัดของตนเอง ซึ่งการรับรู้จะเกิดขึ้นได้ ประสบการณ์รูปธรรม ( Concrete Experience ) และการรับรู้โดยผ่านความคิด รวบยอดหรือนามธรรม ( Abstract Conceptualization ) กระบวนการรับรู้ดังกล่าว เป็นกระบวนการที่เกิดจากการลงมือปฏิบติจริง ( Active ั Experimentation ) และเฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง ( Reflective observation ) ซึ่งเดวิด คอล์ป ( David Kolb ) ได้แบ่งรูปแบบการเรียนรู้ตามความแตกต่างของการเรียนรู้เป็น 4 ส่วน ตามจุดตัดของแกนการรับรู้ และแกนของกระบวนการ โดยให้ส่วนที่เป็นวงล้อแห่งการเรียนรู้เป็นลักษณะ ของผู้เรียน 4 แบบ ซึ่งมีรูปแบบการรับรู้และกระบวนการรับรู้ที่แตกต่างกัน ดังนี้ ประสบการณ์ตรง ( Concrete Experience ) กระบวน การ การปฏิบติ ั การสังเกต การรับรู้ ( Active ( Reflective Experimentation ) Observation ) ความคิดรวบยอด ( Abstract Conceptualization
  • 3. ( Bernie McCarthy ) ได้ประยุกต์แนวคิดของเดวิด เบอร์นิส แมคคาร์ธี คอล์ป ( David Kolb ) โดยให้พื้นที่ทั้ง 4 ส่วนที่เกิดจากการตัดกันของแกนการรับรู้ ( Perception ) และแกนกระบวนการ ( Processing ) แทนลักษณะการเรียนรู้ ของผู้เรียน 4 ประเภท ซึ่งคำานึงถึงความคิดเกี่ยวกับระบบการทำางานของสมองซีกซ้ายและสมองซีก ขวากับธรรมชาติของการเรียนรู้ซึ่งอธิบายโดยใช้แผนภาพและคำาอธิบายประกอบได้ ดังนี้ If Why 4 1 Dynamic Imaginative Learners Learners 3 2 How What Commonsense Analytic Learners ส่วนที่1 ผู้เรียนที่ถนัดจินตนาการ ( Imaginative Learners ) Learners เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้จากประสบการณ์และกระบวนการเฝ้าสังเกตผู้เรียนในกลุ่มนี้จะสงสัยและตั้งคำาถามตรง กันว่า “ ทำาไม” ทำาไมต้องเรียนเรื่องนี้ 2 ส่วนที่ ( Analytic Learners ) ผู้เรียนที่ถนัดการวิเคราะห์ เป็น ผู้เรียนที่เรียนรู้ โดยรับรูจากการสังเกตอย่างไตร่ตรอง ไปสู่การสร้างประสบการณ์นามธรรมหรือความ ้ คิดรวบยอด ผู้เรียนในกลุ่มนีจะตั้งคำาถามว่า “อะไร” ้ ( What ) เราจะเรียนอะไรกัน 3ส่วนที่ ผู้เรียนที่ถนัดการใช้สามัญสำานึก ( Commonsense Learners ) เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้จากการรับรู้ความคิดรวบยอดไปสู่การลงมือปฏิบติที่สะท้อน ั ระดับความเข้าใจของตนเอง ผู้เรียนในกลุ่มนี้จะตั้งคำาถามว่า “อย่างไร” ( How ) เราจะเรียน เรื่องนี้อย่างไร 4ส่วนที่ ผู้เรียนที่ถนัดการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบติ ั ( Dynamic Learners ) เป็นผู้เรียนที่เรียนรู้และสนุกกับการได้ค้นพบด้วยตนเอง
  • 4. โดยการลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนในกลุ่มนีจะตั้งคำาถาม “ถ้า” ้ ( If … ) ถ้า … แล้วจะนำาไปใช้ อย่างไร จากพื้นที่ภายใต้วงล้อมแห่งการเรียนรู่ ตามเส้นแบ่งของการรับรู้และเส้นแบ่งกระบวนการรับรู้ที่ 4 แบ่งผู้เรียนเป็น ประเภทนั้น ไดมีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อตอบสนองการใช้สมองของผู้ เรียนตามบทบาทของสมองซีกซ้ายและซีกขวา เพื่อตอบสนองการพัฒนาศักยภาพทุกด้านของผู้เรียนใน ลักษณะต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน จึงแบ่งวงล้อแห่งการเรียนรู้เป็น 8 ส่วน ย่อย ๆ เพื่อสะดวกในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่ตอบสนองบทบาทและความต้องการของสมองทั้งสองซีกอย่างสมดุลโดยมีลักษณะขั้น ตอนการเคลือนไหวอย่างเป็นลำาดับตามศักยภาพทางสมองดังนี้ ่ ประสบการณ์ตรง  Why If ผู้เรียนแบบที่ 4 ผู้เรียนแบบ ที่ 1 การปฏิบัติ L L  การสังเกต L L  ผู้เรียนแบบที่ 3 ผู้เรียนแบบ ที่ 2 How What  ความคิดรวบยอด หมายเหตุ : R = Right (กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา) L = Left (กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย) จากการแบ่งวงล้อแห่งการเรียนรู้ 8 ส่วน ตามบทบาทของสมองสองซีก ผู้สอนได้กำาหนดขั้น ตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จากพื้นที่ทั้ง 8 ส่วน เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ 8 ขั้นตอน โดย กำาหนดขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
  • 5. ประสบการณ์ตรง R R 8. ขั้นแลก 1. ขั้นสร้างคุณค่า เปลี่ยน และประสบการณ์ของ ประสบการณ์เรียนรู้่งที่เรียน สิ กับผูอื่น ้ L L 7. ขั้นวิเคราะห์ คุณค่าและการ 2. ขั้นวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ ประสบการณ์ การปฏิบัติ การสังเกต 6. ขั้นสร้างชิ้นงานเพื่อ 3. ขั้นปรับประสบการณ์ เป็นความคิดรวบยอด สะท้อนความเป็นตนเอง 5. ขั้น 4. ขั้นพัฒนา ลงมือปฏิบติั ความคิดรวบยอด R จากกรอบ ความคิดที่ R กำาหนด L L ความคิดรวบยอด หมายเหตุ : R = Right ( กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา ) L = Left ( กิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย ) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่คำานึงถึงรูปแบบการเรียนรู้ของกลุ่มผู้เรียน4 กลุ่ม กับพัฒนาการสมองซีกซ้ายและ สมองซีกขวาอย่างสมดุล ซึ่งได้แก่ ผู้ที่เรียนแบบที่ 1 (Why) มีการจินตนาการเป็นหลัก ผู้ที่ เรียนแบบที่ 2 (What) มีการเรียนรู้ด้วยการวิเคราะห์และการเก็บรายละเอียดเป็นหลัก ผู้เรียน แบบที่ 3 (How) มีการเรียนรู้ด้วยสามัญสำานึกหรือประสาทสัมผัส ผู้เรียนแบบที่ 4 (If) มี การเรียนรู้ด้วยการรับรู้จากประสบการณ์รูปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบติ ซึ่งเบอร์นิส แมคคาร์ธี ( ั Bernice McCarthy ) ได้กำาหนดลำาดับขั้นของการเรียนรู้ 4 MAT โดยแบ่งวง ล้อกระบวนการเรียนรู้ออกเป็น 8 ขั้นตอน ดังมีรายละเอียดของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 MAT ดังนี้ ส่วนที่ 1 ผู้เรียนแบบที่ 1 เรียนรู้จากประสบการณ์และการเฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง
  • 6. ( Imaginative Learners ) ประสบการณ์ตรง เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์และกระบวน 1 การ เฝ้าสังเกตอย่างไตร่ตรอง มักใช้คำาถามว่า “ทำาไม” ( Why ) 1 บทบาทของผู้สอน : ผู้คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดวิ 1  เคราะห์สิ่งที่สังเกตได้อย่าง ไตร่ตรอง : การสังเกต 2 วิธีการจัดกิจกรรม ใช้คำาถามข้อมูลเพื่อให้ผู้เรียน สังเกตการร่วมอภิปรายการให้ ผู้เรียนทำากิจกรรม ในส่วนที่ 1 สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น 2 ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ ่ ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้ ขั้นตอนที่ ประสบการณ์ตรง 1 ขั้นสร้างคุณค่าและประสบการณ์ของสิ่งที่เรียน (สมองซีกซ้าย) ผู้สอนควรกระตุ้นความสนใจและแรงจูงใจให้ผู้เรียนคิด โดยใช้คำาถามที่ 1  กระตุ้นให้ผู้เรียนสังเกต การออกไปปฎิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมจริง ของสิ่งเรียน เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา 2 การสังขั้นตอนที่ เกต 2 ขั้นวิเคราะห์ประสบการณ์ (สมองซีกซ้าย) จากขั้นตอนที่ 1 ที่ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้และสนใจในสิ่งที่ เรียนต่อจากนั้นในขั้นที่ 2นี้ผู้สอนควรให้ผู้เรียนวิเคราะห์หาเหตุผล ฝึก ประสบการณ์ตรง ทำากิจกรรมกลุ่มอย่างหลากหลาย เช่น ฝึกเขียนแผนผังมโนมติ (Concept 1  mapping) ช่วยกันระดมสมองอภิปรายร่วมกันเป็นขั้นที่เน้นการจัด กิจ 2 กรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย การสังเกต ส่วนที่ 2 ผู้เรียนแบบที่ 2 เรียนรู้จากการสังเกตอย่างไตร่ตรองไปสู่การสร้างความคิดรวบยอด ( Analytic Learners ) การสังเกต 3 เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการสังเกตอย่างไตร่ตรองไปสู่การ  2 (What) 4 สร้างความคิดรวบยอด มักใช้คำาถามว่า “อะไร” เช่น เราจะเรียนอะไรกันดี สร้างความคิดรวบยอด บทบาทของผู้สอน : เตรียมข้อมูลที่ผู้เรียนควรทราบ และสาธิต วิธีการจัดกิจกรรม : ให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าเนื้อหาที่จะเรียนจากแหล่งต่าง ๆ เช่นใบ ความรู้ วีดีทัศน์ เล่นเกม ผู้สอนเป็นผู้ให้ข้อมูล เล่นเกมเป็นต้น ในส่วนที่ 2 สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น 2 ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ ่ ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้  สร้างความคิดรวบยอด
  • 7. ขั้นตอนที่ 3 ขึ้นปรับประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด (สมองซีกขวา) การสังเกต ผู้สอนผู้สอนควรเน้นให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์อย่างไตร่ตรอง นำา ความรู้ทได้มาเชื่อมโยงกับข้อมูล ทีได้ศึกษาค้นคว้าโดยจัดระบบ ี่ ่ 3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบการจัดลำาดับความสัมพันธ์ของสิ่งที่ เรียน เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา ขั้นตอนที่ 4 ขั้นพัฒนาความคิดรวบยอด (สมองซีกซ้าย) การสังเกต ผู้สอนผู้สอนควรให้ทฤษฎี หลักการที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะรายละ เอียดของข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจและพัฒนาความคิด รวบยอดของตนเองในเรื่องที่เรียนกิจกรรมควรเป็นกิจกรรมที่ให้ ผู้เรียนค้นคว้าจากใบความรู้ แหล่งวิทยาการท้องถิ่นการสาธิต การทดลองการใช้ห้องสมุด วีดีทัศน์ สื่อประสมต่าง ๆ เป็นขั้น 4 ที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย  สร้างความคิดรวบยอด ส่วนที่ 3 3 สร้างความคิดรวบยอดไปสู่การลงมือปฏิบติ และสร้างชิ้น ผู้เรียนแบบที่ ั ลงมือปฏิบติ ั งานในลักษณะเฉพาะตัว (Commonsense Learners) 6 ( เป็นช่วงที่ผู้เรียนจะสร้างความคิดรวบยอด มโนมติ ) ไปสู่การลงมือปฏิบัติ  5 กิจกรรม การทดลอง ตามความคิดของตนเองและสร้างชิ้นงานที่เป็นลักษณะ เฉพาะตัว 3 สร้างความคิดรวบยอด บทบาทของผู้สอน : (Coach) และผู้อำานวยความสะดวด ผู้คอยแนะนำาชี้แนะ (Facilitator) แก่ผู้เรียน วิธีการจัดกิจกรรม : ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัตการทดลอง สรุปผลการ ิ ทดลองทำาแบบฝึกหัดตามความเหมาะสมของเนื้อเรื่อง ที่เรียน ในส่วนที่ 3 สามารถแบ่งชี้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น 2 ขั้นตอนที่คำานึงถึง การทำางานของสมองซีกขวาและซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้ ขั้นตอนที่ 5 ( ขั้นลงมือปฏิบติจากกรอบความคิดทีกำาหนด สมองซีกซ้าย ั ่ ) ลงมือปฏิบัติ ผู้สอนผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้ปฏิบติกจกรรมการทดลองจากใบงานการ ั ิ ทดลอง ทำาแบบฝึกหัด การสรุปผลการปฏิบัตกิจกรรม สรุปผลการทด ิ  ลองทีถูกต้องชัดเจน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยก่อน ่ ปฏิบติกิจกรรม ฝึกเลือกใช้อุปกรณ์บันทึกผลการทดลอง โดยผู้สอนจะ ั เป็นพี่เลี้ยงเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกซ้าย 5 ขั้นตอนที่ สร้างความคิดรวบ 6 ( ขั้นสร้างชิ้นงานเพื่อสะท้อนความเป็นตนเอง สมองซีกขวา ) ลงมื ยอดอปฏิบัติ ผู้สอนต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถของตนเองตาม ความถนัด ความสนใจเพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานตามจินตนาการของตนเอง ที่แสดงถึงความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียน ให้เห็นเป็นรูปธรรมในรูป แบบต่าง ๆ โดยเลือกวิธีการนำาเสนอผลงานในลักษณะเฉพาะตัวชิ้นงาน ที่สร้างอาจเป็นภาพวาด นิทาน สมุดรวบรวมสิ่งที่เรียน สิ่งประดิษฐ์ แผ่นพับ เป็นต้น เป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมองซีกขวา สร้างความคิดรวบ ยอด  6
  • 8. ส่วนที่ 4 ผู้เรียนแบบที่ 4 เรียนรู้จากประสบการณ์รปธรรมไปสู่การลงมือปฏิบัตในชีวิต ู ิ จริง (Dynamic Learners) ประสบการณ์ตรง 4  เป็นช่วงที่ผู้เรียนได้นำาเสนอผลงานของตนเอง โดยสอดแทรก การอภิปรายถึงปัญหา อุปสรรคในการปฏิบติกจกรรม วิธีการ ั ิ 7 แก้ไขปัญหา เพื่อปรับปรุงชิ้นงานจนสำาเร็จและเป็นประโยชน์ 8 ต่อตนเอง ซึ่งสามารถบูรณาการประยุกต์ใช้ เชื่อมโยงกับชีวต ิ จริง / อนาคต ลงมือปฏิบทบาทของผู้สอน บติ ั : ให้คำาแนะนำา ร่วมประเมินผลงานแนะนำาวิธีการปรับปรุงผลงาน และการรวบรวมผลงาน บทบาทของผู้เรียน : ผู้เรียนนำาเสนอชิ้นงานที่ปรับปรุง อภิปรายแลกเปลียนความคิด ่ เห็นกับผู้อื่น และนำาผูอื่น ้ ในส่วนที่ 4 สามารถแบ่งขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็น 2 ขั้นตอนทีคำานึงถึงการ ่ ทำางานของสมองซีกขวา และซีกซ้ายของผู้เรียน ได้ดังนี้ ขั้นตอนที่ 7 ( ขั้นวิเคราะห์คุณค่าและการประยุกต์ใช้ สมองซีกซ้าย ) ผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์ชิ้นงานของตนเองโดยอธิบายขั้น ประสบการณ์ตรง ตอนการทำางาน ปัญหาอุปสรรคในการทำางาน ทำางานและ วิธีการแก้ไข โดยบูรณาการ การประยุกต์ใช้เพื่อเชื่อมโยงกับ / ชีวิตจริง อนาคต ซึ่งอาจวิเคราะห์ชิ้นงานในรูปกลุ่มย่อยหรือ  กลุ่มใหญ่ก็ได้ตามความเหมาะสมเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่ 7 พัฒนาสมองซีกซ้าย ลงมือปฏิบัติ ขั้นตอนที่ 8 ( ขั้นแลกเปลียนประสบการณ์เรียนรู้กับผูอื่น สมองซีกซ้าย ่ ้ ) เป็นขั้นสุดท้ายซึ่งผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้นำาผลงานของตนเองมา ประสบการณ์ตรง นำาเสนอหรือจัดแสดงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดนิทรรศการ ป้ายนิเทศ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ชื่นชอบถือเป็นการแบ่งปันโอกาส 8 ทางด้านความรู้และประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้ซาบซึ้ง ในขั้นนี้ ผู้เรียนควรรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นขั้นที่เน้นการจัดกิจกรรมที่พัฒนาสมอง ซีกขวา  ลงมือปฏิบติ ั