More Related Content
Similar to โครงการในพระราชดำร (1)
Similar to โครงการในพระราชดำร (1) (20)
More from DekDoy Khonderm
More from DekDoy Khonderm (6)
โครงการในพระราชดำร (1)
- 2. ความเป็นมา
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสร็จพระราชดาเนิน
การดาเนินงานของศูนย์การศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดาริ
อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และได้พระราชทานพระราชดาริให้พัฒนาพื้นที่
ป่าแม่ขุนกวง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนแม่กวง อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัด
เชียงใหม่โดยสรุปได้ดังนี้
โดยพิจารณาดาเนินการพัฒนาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวงพื้นที่จาก
หมู่บ้าน ศาลา ปางสัก ตาบลเชิงดอย อาเภอดอยสะเก็ดไปจดขอบอ่างน้าแม่กวง ซึ่ง
ได้มีการดาเนินการให้ราษฎรทากินเป็นการชั่วคราว ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ยังมี
การบุกรุกของราษฎรดังนั้นควรจะได้มีการปรับปรุงให้เป็นพื้นที่ต้นน้าลาธาร มี
ความชุ่มชื้น สามารถทากินได้
- 3. ความเป็นมา
ทรงรับสั่งให้กรมป่าไม้ดาเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงและพัฒนาปลูกป่าไม้
โดยให้ปลูกไม้ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลักให้พยายามปลูกไม้ที่ไม่ผลัดใบ สาหรับ
พื้นที่ใดที่ไม่สามารถปลูกได้ให้จักปลูกพันธุ์ไม้ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่
หรือปลูกไม้ยูคาลิปตัส และให้กรมชลประทานจัดหาแหล่งน้า โดยใช้น้าจากน้าแม่
ลายและทาให้เป็นอ่างเก็บน้าขนาดเล็กในพื้นที่จาเป็นและทา Check Dam เป็นจุดๆ
เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นเช่นเดียวกัน สาหรับหมู่บ้านหรือราษฎรที่อาศัยอยู่ก่อนแล้วก็
ควรพิจารณาให้อยู่อาศัยหรือทากินต่อไป โดยมีการควบคุมของเจ้าหน้าที่และไม่ให้มี
การบุกรุกเพิ่มเติม แต่ไม่ควรจะเกิน 100 ครอบครัว และห้ามให้มีการบุกรุกเพิ่ม
- 4. ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดาริเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นทีป่าขุนแม่ก
่
วง อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ สรุปได้ดังนี้
1.ให้พิจารณาดาเนินการพัฒนาพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติป่าขุนแมกวง โดยให้แบ่งพืนที่ดาเนินการ
่ ้
เป็น 3 ระยะคือ
1.1) ระยะที่ 1 พื้นที่ดาเนินการมีขอบเขตทางด้านทิศเหนือของศูนย์ศึกษาการ พัฒนาห้วยฮ่อง
ไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดาริ ขึ้นไปจนจรดขอบอ่างเก็บ น้าแม่กวง รวมเนื้อที่ประมาณ
30,000 ไร่
1.2) ระยะที่ 2 พื้นที่ดาเนินการมีขอบเขตต่อจากระยะที่ 1 ขึ้นไปทางด้านทิศเหนือจนจรดอาเภอ
แม่แตง และอาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ รวมเนื้อที่อีกประมาณ 70,000 ไร่
1.3) ระยะที่ 3 ดาเนินงานในพืนทีส่วนที่เหลือในเขตลุ่มน้าแม่กวง มีพื้นที่ดาเนินการอีกประมาณ
้ ่
245,000 ไร่ ต่อจากระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ไปทางด้านตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่อาเภอดอย
สะเก็ด จนจรดพื้นที่อาเภอสันกาแพง อาเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย และอาเภอแม่แจ้ห่ม
จังหวัดลาปาง
- 5. ความเป็นมา
2. แนวทางการพัฒนาพื้นที่ได้พระราชทานไว้ดังนี้
2.1) พิจารณาคัดเลือกพื้นทีเหมาะสมจัดให้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
โครงการก่อนแล้วทากินเพื่อการเกษตรไม่ให้มีการบุกรุกป่าเพิ่มเติม
2.2) เร่งรัดให้มีการปลูกป่าในพื้นที่ที่ถูกทาลาย ฟื้นฟูแหล่งต้นน้าลาธาร
2.3) พิจารณาดาเนินการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ที่สมบูรณ์ และมีมาตรการ ป้องกันรักษาป่าที่
เหมาะสม
2.4) พิจารณาสร้างฝายต้นน้าลาธารกระจายพื้นที่โครงการ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่พื้นที่ป่า
และจัดหาน้าสนับสนุนโครงการตามความเหมาะสม
2.5) พิจารณาให้ปลูกหญ้าแฝกเพื่อเป็นกาแพงป้องกันไม่ให้สารพิษลงอ่างเก็บน้าตามบริเวณที่
ก่อสร้างฝายต้นน้าลาธาร
- 7. วัตถุประสงค์ของโครงการ
1) เพื่อป้องกันรักษาป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่ให้เป็นแหล่งต้นน้้าล้าธาร และที่อยู่
อาศัยของสัตว์ป่ามิให้ถูกท้าลาย ตลอดจนรักษาสภาพแวดล้อม และฟื้นฟูสภาพป่าที่
ถูกท้าลายจนเสื่อมโทรมให้คืนสู่สภาพป่าที่สมบูรณ์ดังเดิม
2) เพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่เหมาะสม ส้าหรับราษฎรที่อาศัยอยู่ในป่าสงวน
แห่งชาติในพื้นที่โครงการ ตลอดจนการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานที่จ้าเป็นในด้านแหล่งน้้า
และที่ดินท้ากิน
3) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่โครงการให้สูงขึ้น สามารถ
ด้ารงชีพอยู่ได้ตามความเหมาะสมของท้องถิ่น
4) เพื่อน้าผลการศึกษาและวิจัยของศูนย์ศึกษาธิการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อัน
เนื่องมาจากพระราชด้าริ อ้าเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่เหมาะสมมาขยายผล
ในการพัฒนา และให้บริการแก่ราษฎรในพื้นที่โครงการ
- 8. เป้าหมายของโครงการ
1) ป้องกันรักษาป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่แล้ว พื้นที่ 262,000 ไร่ ให้คงสภาพป่า
ที่สมบูรณ์ต่อไป
2) ฟื้นฟูปรับปรุง และพัฒนาป่าไม้ที่เสื่อมโทรม จานวนประมาณ 46,000 ไร่ ให้
มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ต่อไป
3) จัดและพัฒนาที่ดินทากินให้แก่ราษฎร ประมาณ 1,360 ไร่ พัฒนาและส่งเสริม
อาชีพที่เหมาะสม ทั้งในด้านการเกษตร และนอกการเกษตร เพื่อให้ราษฎรมี
ระดับการครองชีพที่ดีขึ้น
- 10. ทฤษฎีที่เชื่อมโยงทางระบบนิเวศ
การปลูกป่าที่มีความชุ่มชื้นสูงให้ปลูกต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบ เช่น ต้นตะแบก
เป็นพันธุ์ไม้ของป่าเบญจพรรณชื้นเจริญเติบโตในที่ชุ่มชื้น ทาให้ป่าไม้อยู่ได้
ยั่งยืนเนื่องจากบริเวณป่าไม้เป็นบริเวณที่ชุ่มชื้น
การปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้นน้อยเนื่องจากต้นยูคาลิปตัส
นั้น สามารถปลกได้ในสภาพพื้นดินที่แห้งแล้ง ช่วยให้เกิดความสมดุลตาม
ธรรมชาติ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่เนื่องจาก ปริมาณน้าที่ต้นไม้ยูคาลิปตัส
ดูดขึ้นไปคายน้าออกทางใบ เป็นปริมาณกว่า 95% มีส่วนช่วยทาให้ฝนตก
ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหารในดิน
- 11. ทฤษฎีที่เชื่อมโยงทางระบบนิเวศ
ทฤษฏีการกระจายตัวของประชากร(Dispersion)
แบบการกระจายตัวเป็นกลุ่มอยู่กนอย่างอิสระภายในกลุ่มเพื่อความอยูรอดของประชากร
ั ่
ให้มากที่สุดเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันซึ่งเป็นไปตามหลักการของ แอลลี(Allee’s principle)ที่
จานวนประชากรต้องมีพอเหมาะไม่มากจนเกินไปหรือน้อยจนเกินไปซึ่งเป็นไปตามข้อกาหนด
สาหรับหมู่บ้านหรือราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก่อนหน้านีแล้วให้ทากินต่อไปโดยให้เจ้าหน้าที่
้
ป่าไม้ควบคุมดูแลไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมแต่ไม่ควรเกิน100ครอบครัว เพื่อจะทาให้
ประชากรได้ดารงชีวิตอย่างเพียงพอต่อความต้องการเพราะ ถ้ามีประชากรน้อยเกินไปจะทาให้
สภาพแวดล้อมอยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุลเนื่องจากการเปลียนแปลงสิ่งแวดล้อมสูง หรือถ้ามี
่
ประชากรมากเกินไปจะทาให้เกิดการแก่งแย่งจนทาให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมเนื่องจากการ
บุกรุกพื้นที่ป่า การหาอาหาร ล่าสัตว์ป่าเพิ่มขึ้น
- 12. ทฤษฎีที่เชื่อมโยงทางระบบนิเวศ
การปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินและการปลูกหญ้าแฝกผสมกับ
ฝ่ายหิน(Check Dam) ช่วยลดการพังทลายของดินและลดความรุนแรงของกระแสน้าในลา
ห้วย ทาให้ระยะเวลาการไหลของน้าเพิ่มมากขึ้น ความชุ่มชื้นมีเพิ่มขึ้น และแผ่ขยายกระจาย
ความชุ่มชื้นออกไปเป็นวงกว้างในพืนที่ทงสองฝั่งของลาห้วย
้ ั้
- 13. ทฤษฎีที่เชื่อมโยงทางระบบนิเวศ
Check Dam หรือ “ฝายชะลอความชุ่มชื้น” ซึ่งในโครงการสร้างไว้หลายจุดเพื่อ ขวางกัน ้
ทางเดินของลาน้า ซึ่งจะกั้นห้วยลาธารขนาดเล็กในบริเวณที่เป็นต้นน้าหรือพื้นที่ที่มความลาด
ี
ชัน สูงทาให้สามารถดารงชีพอยู่ได้ และหากช่วงที่น้าไหลแรงก็สามารถชะลอการไหลของน้า
ให้ช้าลงและกักเก็บตะกอนไม่ให้ไหลเทลงไป ในบริเวณลุ่มน้าตอนล่าง
เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่พื้นที่ จากการที่ความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้น ความ
หนาแน่นของพันธุพืชก็ย่อมจะมีมากขึ้น
์
การที่สามารถทาให้เกิดเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้า และใช้เป็นแหล่งน้าเพื่อการบริโภคของ
มนุษย์และสัตว์ต่างๆ ตลอดจนนาไปใช้ในการเกษตรได้อีกด้วย