1. 1. ข้อใดคือการอ่านออกเสียงที่ถูกต้อง ?
1. สามเณรสมคิดกำาหนดท่าทางที่จะอ่าน
2. สามเณรสมศักดิ์ทดลองเสียงก่อนที่จะอ่าน
3. สามเณรสมเดชศึกษาเจตนาของผู้แต่งเรื่องที่จะอ่าน
4. สามเณรสมพงษ์ทำาความเข้าใจในเรื่องที่จะอ่านอย่างถี่ถ้วน
2. ข้อใดไม่ใช่การอ่านเพื่อความรู้ ?
1. นางสาวอรทัยอ่านฉลากยาแล้วปฏิบัติตาม
2. นางสาวกัลยาณีอ่านตำาราอาหารไทยไปทำาขนมขาย
3. นางสาวตั๊กแตนอ่านนวนิยายเก็บข้อมูลแล้วไปเขียนนิยายส่งเข้า
ประกวด
4. นางสาวจินตรามีความทุกข์จึงไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนาเพื่อผ่อน
คลายความทุกข์
3. การทำาเครื่องหมายในบทอ่าน ถ้าใช้เครื่องหมาย/หมายความว่าอย่างไร ?
1. หยุดอ่าน
2. หยุดหายใจ
3. เว้นวรรคเล็กน้อยที่หยุดหายใจ
4. ให้สังเกตข้อความที่จะอ่านต่อไปข้างหน้า
4. ถ้าต้องการให้ทอดหางเสียง ต้องใช้เครื่องหมายใดใดกำากับ ?
1. //
2. ........
3. -----
4. ****
5. ทักษะในข้อใดมีความจำาเป็นสำาหรับนักเรียนในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
?

2. 1. การฟัง
2. การพูด
3. การอ่าน
4. การเขียน
6. “ผลจากการวิจัยปี 2548 จะพบว่า ประเทศไทยมีผู้ที่ไม่อ่านหนังสือถึง 22.4
ล้านคนหรือเกือบ 40% ของประชากรทั้งประเทศ ด้วยเหตุผลว่าชอบดู
โทรทัศน์ หรือฟังวิทยุมากกว่า ขณะที่เด็กที่มีอายุ 10-14 ปี กว่า 60% ให้
เหตุผลในการไม่อ่านหนังสือว่า เพราะไม่ชอบและไม่สนใจ ส่งผลให้สถิติ
การอ่านของคนไทยเฉลี่ยเพียงปีละ 2 เล่ม ซึ่งนับว่าตำ่ามากๆ เมื่อเปรียบ
เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ที่มีสถิติการอ่านหนังสือปีละ 40-
50 เล่ม ส่วนเวียดนาม มีสถิติการอ่านหนังสือปีละ 60 เล่ม จากเหตุดังกล่าว
บ่งบอกให้เห็นว่า การอ่านหนังสือของคนไทยกำาลังก้าวสู่ภาวะวิกฤตอย่าง
”แท้จริง ใจความสำาคัญของข้อความนี้ตรงกับข้อใด ?
1. คนเวียดนามอ่านหนังสือมากที่สุด
2. คนไทยไม่มีนิสัยรักการอ่าน
3. คนสิงคโปร์รักการอ่านรองจากเวียดนาม
4. คนไทยอ่านหนังสือปีละ 2 เล่ม
7. ข้อความจากข้อ 6 นี้มีประโยชน์สำาหรับใครมากที่สุดในการที่จะช่วยให้เด็ก
ไทยอ่านมากขึ้น ?
1. เด็กอายุ 10-14 ปี
2. พ่อแม่ ผู้ปกครอง
3. ครูและผู้บริหารสถานศึกษา
4. รัฐบาล ผู้บริหารประเทศ
8. การอ่านตีความต้องพิจารณาสิ่งใดก่อน ?
1. ชื่อของงานเขียน
2. ประเภทของงานเขียน

3. 3. เนื้อหาของงานเขียน
4. นำ้าเสียงของผู้เขียน
9. การอ่านตีความผู้อ่านไม่จำาเป็นต้องมีความรู้เรื่องใด ?
1. ประเภทของงานเขียน
2. จุดประสงค์ของผู้เขียน
3. นำ้าเสียงของผู้เขียน
4. ประวัติ ภูมิหลังของผู้เขียน
10. การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น หรือพิจารณาอารมณ์ ความ
รู้สึกของผู้เขียนอยู่ในขั้นตอนใดของการอ่านตีความ ?
1. การอ่านคร่าวๆ
2. การอ่านอย่างละเอียด
3. การวิเคราะห์ถ้อยคำา
4. การพิจารณานำ้าเสียง
11. ข้อใดเป็นข้อคิดเห็น ?
1. เขาจะให้เราเอารูปไปใส่ในแสตมป์ที่ระลึกของงานอภิเษกได้ด้วย
2. เราไปอยู่ที่สถานที่ที่เขาจัดให้สื่อจากทั่วโลกมายืนอยู่ด้วยกัน
3. ใครอยากได้มุมไหนก็ยืนตามอัธยาศัยเพียงแต่ให้อยู่ในเขตที่บอก
เท่านั้น
4. เรามีของขวัญเป็นหุ่นกระบอกใส่ชุดไทยสวยงามวิจิตรบรรจงอยู่ในตู้
กระจก
12. ถามว่า ปู่ย่าตายายเรา พ่อแม่เรา หรือหลักสูตรที่โรงเรียนเรา เคย
สอนเราเกี่ยวกับการรับมือภัยธรรมชาติ อาทิ อุทกภัย วาตภัย หรือไม่ คำา
ตอบคือ ไม่มี ไม่เคย ไม่ค่อยสอน วิชาสังคมศึกษาสอนเราว่า “เมืองไทยของ
เรานี้แสนดีหนักหนา โชคดีกว่าภัยธรรมชาติแบบประเทศอื่น ไม่มีแผ่นดิน
ไหวแบบหมู่เกาะญี่ปุ่น ไม่มีนำ้าท่วมใหญ่แบบแม่นำ้าหวางเหอ ไม่มีเฮอริเคน
แบบอ่าวเม็กซิโก” ผู้เขียนข้อความนี้ต้องการนำาเสนอเรื่องราวใด ?

4. 1. หลักสูตร
2. ภัยธรรมชาติ
3. การเตรียมรับภัยธรรมชาติ
4. การป้องกันภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น
13. จากข้อความในข้อที่ 12 ใครเป็นผู้ที่นำาแนวคิดนี้ไปใช้ประโยชน์มาก
ที่สุด ?
1. ครู
2. ผู้จัดทำาหลักสูตรการศึกษา
3. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
4. นักวิชาการจากทุกหน่วยงาน
14. “เรื่องของความหน้าใหญ่ของผู้หลักผู้ใหญ่ในแดนอิเหนาก็สร้างความ
รำาคาญให้กับชาวต่างชาติไม่น้อย ในวันที่ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทยลงแข่ง
ชันนัดชิงชนะเลิศกับอินโดนีเซีย ผู้ว่าการเกาะสุมาตราใต้เพิ่งเดินทางมาถึง
ทีหลังแข่งจบเซตแรกไปเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะรอให้จบการแข่งขันแล้ว
ค่อยลงไปทักทายนักกีฬา แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันขอหยุดเกมแล้วให้นักกีฬา
ตั้งแถวให้การต้อนรับท่านผู้ว่า พร้อมทั้งให้ท่านเดินลงมาจับมือแนะนำาตัว
กับนักกีฬาถึงสนาม ต้องบอกเลยว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างแรง”
ข้อความดังกล่าว คำาในข้อใดมีความหมายโดยนัย ?
1. จบเซ็ต – หยุดเกม
2. หน้าใหญ่ – แดนอิเหนา
3. ตระกร้อทีมเดี่ยว – แนะนำาตัว
4. ผู้หลักผู้ใหญ่ – ให้การต้อนรับ
15. จากข้อความ ในข้อที่ 14 ผู้เขียนมีจุดมุ่งหมายในการเขียนอย่างไร ?
1. ตำาหนิ
2. เสนอแนะ

5. 3. ให้ข้อคิดเห็น
4. ชี้แจงแนวทางปฏิบัติ
16. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการคัดลายมือ?
1. ทำางานเป็นระเบียบ
2. เขียนหนังสือสวยงาม
3. ปลูกฝังความมีระเบียบวินัยให้ตนเอง
4. ใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ
17. การเขียนตัวอักษรจะต้องเริ่มที่ส่วนใดก่อน?
1. ส่วนหัวตัวอักษร
2. ส่วนหางตัวอักษร
3. ส่วนที่เป็นเส้นตรง
4. เขียนตามความพอใจ
18. ตัวอักษรอาลักษณ์ มีลักษณะอย่างไร ?
1. หัวกลม – ตัวมน
2. หัวกลม – ตัวเหลี่ยม
3. หัวบัว – ตัวมน
4. หัวบัว – ตัวเหลี่ยม
19. ช่องไฟ หมายความว่าอย่างไร ?
1. ระยะห่างของตัวอักษร
2. ความกว้างของตัวอักษร
3. ความสมำ่าเสมอของตัวอักษร
4. การเว้นวรรคตัวอักษรแต่ละตัว

6. 20. หากนักเรียนต้องการให้งานเขียนของตนเองเป็นที่สนใจของบุคคล
อื่น นักเรียนจะต้องทำาอย่างไร ?
1. เขียนด้วยลายมือของคนรุ่นใหม่
2. เขียนด้วยลายมือของตนเองอย่างสวยงาม
3. เขียนให้ถูกต้องตามรูปแบบของตัวอักษรไทย
4. สำารวจความคิดเห็นของผู้อ่านก่อนลงมือเขียน
21. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะผู้มีความสามารถในการใช้ภาษาเขียน ?
1. เลือกใช้คำาที่สุภาพ
2. เลือกใช้คำาที่หลากหลาย
3. เลือกใช้คำาที่เป็นภาษาเขียน
4. เลือกใช้คำาที่ตรงความหมาย
22. คำาขวัญ มีลักษณะอย่างไร ?
1. ข้อความสั้นๆ ไพเราะ
2. ข้อความที่ส่งเสริมให้ทำาความดี
3. ข้อความสั้นๆ ที่มีพลังในการโน้มน้าวใจผู้ฟัง
4. ข้อความที่เป็นคำาแนะนำาให้ผู้ฟังประพฤติปฏิบัติตาม
23. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำาคม ?
1. ถ้อยคำาที่ไพเราะ
2. ถ้อยคำาที่แหลมคม
3. ถ้อยคำาที่ชวนให้คิด
4. ถ้อยคำาที่เป็นหลักความจริง
24. “เทรนด์ใหม่ของธุรกิจยุคนวัตกรรมไม่รู้จบ” ข้อความนี้เป็นงานเขียน
ประเภทใด ?
1. คำาคม

7. 2. คำำขวัญ
3. โฆษณำ
4. คำำแนะนำำ
25. กำรเขียนชีวประวัติที่เอ่ยแต่เพียงด้ำนดีเพียงด้ำนเดียวเป็นกำรเขียน
ชีวประวัติประเภทใด ?
1. ชีวประวัติแบบสดุดี
2. ชีวประวัติแบบรอบวง
3. ชีวประวัติแบบประเมินค่ำ
4. ชีวประวัติแบบจำำลองลักษณ์
26. เรื่องที่นำำมำเขียนอธิบำย ควรมีลักษณะอย่ำงไร ?
1. เรื่องที่ทันสมัย
2. เรื่องที่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำำวัน
3. เรื่องที่น่ำสนใจ น่ำรู้ และต้องกำรคำำอธิบำย
4. เรื่องที่ให้ควำมรู้ ควำมคิด และนำำปฏิบัติตำมได้
27. บุคคลใดเขียนแสดงควำมคิดเห็นไม่ถูกต้องตำมหลักกำร ?
1. กุ้ง ไม่มีอคติในเรื่องที่เขียน
2. หอย เขียนเพื่อชักจูงเกลี้ยกล่อมผู้อื่น
3. ปู เขียนโดยใช้ข้อมูลในกำรนำำเสนอที่ถูกต้อง
4. ปลำ ต้องกำรเขียนเพื่อให้เกิดกำรปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพัฒนำไปใน
ทำงที่ดีขึ้น
28. กำรใช้ข้อมูลภำคสนำมในกำรทำำรำยงำนกำรศึกษำค้นคว้ำทำำได้โดย
วิธีใด ?
1. ผู้ทำำรำยงำนต้องรวบรวมจำกกำรขุดค้นในสถำนที่จริง
2. ผู้ทำำรำยงำนต้องรวบรวมจำกสื่อที่มีควำมหลำกหลำย

8. 3. ผู้ทำำรำยงำนต้องรวบรวมจำกเอกสำรที่ยังไม่ได้เผยแพร่
4. ผู้ทำำรำยงำนต้องรวบรวมขึ้นจำกกำรทดลอง กำรสัมภำษณ์ กำรสังเกต
และอื่นๆ
29. ข้อใดเขียนบรรณำนุกรมหนังสือเล่มได้ถูกต้อง?
1. ธีรภำพ โลหิตกุล. จดหมำยถึงสำยนำ้ำบันทึกขวัญข้ำว. แพรว
สำำนักพิมพ์. 2551
2. ธีรภำพ โลหิตกุล. (2551). จดหมำยถึงสำยนำ้ำบันทึกขวัญข้ำว.
กรุงเทพฯ : แพรวสำำนักพิมพ์.
3. ธีรภำพ โลหิตกุล. แพรวสำำนักพิมพ์. จดหมำยถึงสำยนำ้ำบันทึก
ขวัญข้ำว, 2551
4. ธีรภำพ โลหิตกุล. แพรวสำำนักพิมพ์. 2551. จดหมำยถึงสำยนำ้ำ
บันทึกขวัญข้ำว
30. ภำษำที่ใช้ในกำรเขียนชื่อโครงงำน ควรมีลักษณะอย่ำงไร ?
1. ใช้ภำษำเข้ำใจง่ำย
2. ใช้ภำษำทันสมัย เร้ำใจผู้อ่ำน
3. ใช้ภำษำตรงไปตรงมำ สื่อควำมหมำยได้อย่ำงชัดเจน
4. ใช้ภำษำที่เป็นแบบแผน และใช้ถ้อยคำำที่มีควำมหมำยลึกซึ้ง
31. บุคคลในข้อใดมีวิจำรญำณในกำรฟังและกำรดู ?
1. เอ ฟังและดูสื่อแล้วนำำไปปฏิบัติตำม
2. บี ฟังและดูสื่อแล้วศึกษำจุดมุ่งหมำยของเรื่อง
3. ซี ฟังและดูสื่อพูดวิพำกษ์วิจำรณ์ตำมควำมพอใจ
4. ดี ฟังและดูสื่อแล้ววิเครำะห์จุดมุ่งหมำย ควำมน่ำเชื่อถือแล้วประเมินค่ำ
32. ข้อใดไม่ใช่ภำษำในกำรพูดแสดงควำมคิดเห็น ?
1. ดิฉันรู้ว่ำ
2. ดิฉันคิดว่ำ

9. 3. ดิฉันเห็นว่ำ
4. ดิฉันอยำกทรำบว่ำ
33. นำยเดชฟังเรื่องรำวแล้วนำำมำแยกแยะออกเป็นส่วนๆ แสดงว่ำเขำใช้
วิธีใดในกำรฟัง ?
1. วิจำรณ์
2. สรุปควำม
3. วิเครำะห์
4. ประเมินค่ำ
34. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของกำรพูดวิเครำะห์วิจำรณ์ ?
1. พูดโต้ตอบ
2. พูดอธิบำย
3. พูดชี้แจงเหตุผล
4. พูดแสดงควำมคิดเห็น
35. กำรมีมำรยำทในกำรพูดเป็นผลดีต่อผู้พูดอย่ำงไร ?
1. ทำำให้มีบุคลิกดี
2. สร้ำงควำมศรัทธำให้แก่ผู้ฟัง
3. ทำำให้ไม่มีข้อขัดแย้งกับผู้อื่น
4. เป็นที่เคำรพนับถือของผู้ฟัง
36. “ ”ญัตติ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร ?
1. วิธีกำรเสนอควำมคิดเห็น
2. กำรนำำเหตุผลมำคัดค้ำนฝ่ำยตรงข้ำม
3. หัวข้อหรือเรื่องที่นำำมำใช้ในกำรโต้วำที
4. ข้อควำมที่เป็นประเด็นขัดแย้งในกำรโต้วำที
37. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของข้อควำมที่ใช้เป็นญัตติในกำรโต้วำที ?

10. 1. เข้ำใจง่ำย
2. สั้น กะทัดรัด
3. มีควำมหมำยชัดเจนสมบูรณ์
4. เป็นเรื่องที่ทันต่อเหตุกำรณ์
38. ผู้ดำำเนินกำรโต้วำทีมีควำมสำำคัญอย่ำงไร ?
1. เป็นผู้กำำหนดญัตติในกำรโต้วำที
2. เป็นผู้กำำหนดตัวบุคคลในคณะโต้วำที
3. เป็นผู้กำำหนดรำยละเอียดต่ำงๆ ในกำรโต้วำที
4. เป็นผู้กำำหนดให้กำรโต้วำทีดำำเนินไปตำมลำำดับขั้นตอน
39. ข้อใดเป็นลักษณะของกำรโต้วำทีที่ดี ?
1. ให้ควำมรู้ควำมคิด
2. ให้ควำมสนุกเพลิดเพลิน
3. ให้ควำมรู้และควำมบันเทิง
4. ใช้ควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์
40. หัวข้อกำรอภิปรำยควรมีลักษณะอย่ำงไร ?
1. เรื่องที่น่ำสนใจ
2. เรื่องที่ทันสมัยอยู่ในควำมสนใจของผู้ฟัง
3. เรื่องที่สนุกเพลิดเพลินให้ควำมบันเทิงใจแก่ผู้ฟัง
4. เรื่องที่ให้ควำมรู้ควำมคิดสำมำรถนำำไปใช้แก้ปัญหำได้
41. คำำที่เกี่ยวข้องกับอำหำรกำรกิน มักจะยืมมำจำกภำษำใด ?
1. ภำษำจีน 3. ภำษำอังกฤษ
2. ภำษำเขมร 4. ภำษำชวำ-มลำยู
42. คำำว่ำ “เมตตำ ”วิญญำณ ยืมมำจำกภำษำใด ?

11. 1. เขมร 3. ชวำ
2. บำลี 4. สันสกฤต
43. คำำในข้อใดเป็นคำำภำษำเขมร ?
1. เพลิง 3. เพชร
2. มรกต 4. บูรณะ
44. ข้อใดเป็นลักษณะของคำำภำษำจีนที่ใช้ในภำษำไทย ?
1. ส่วนใหญ่เป็นเสียงสำมัญ
2. ไม่มีตัวสะกดแต่นิยมผสมด้วยสระเสียงยำว
3. พยัญชนะต้นเป็นอักษรกลำงมำกกว่ำอักษรอื่น
4. ส่วนใหญ่เป็นคำำพยำงค์เดียว ไทยนำำมำสร้ำงคำำใหม่เป็นคำำประสม
45. คำำภำษำชวำเข้ำมำในภำษำไทยพร้อมกับวรรณคดีเรื่องใด ?
1. รำมเกียรติ์
2. ระเด่นลันได
3. ลิลิตเพชรมงกุฎ
4. ดำหลังและอิเหนำ
46. ข้อใดเป็นส่วนประกอบของประโยคสำมัญ ?
1. ประธำน กิริยำ
2. ประธำน กริยำ ส่วนขยำย
3. ประธำน กริยำ ส่วนขยำย คำำเชื่อมกริยำ
4. ประธำน กริยำ กรรม ส่วนขยำย คำำเชื่อมกริยำ
47. ข้อใดเป็นประโยคสำมัญที่มีหลำยกริยำวลี ?
1. คุณพ่อขับรถยนต์ไปต่ำงจังหวัด
2. น้องชำยประสบอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้

12. 3. คุณแม่ดูรำยกำรท่องเที่ยวในโทรทัศน์
4. ฉันเก็บสมุด หนังสือ อุปกรณ์กำรเรียนใส่กระเป๋ำ
48. คำำรำชำศัพท์ในข้อใดใช้ไม่ถูกต้อง ?
1. พระรำชอำำนำจ
2. พระรำชประสงค์
3. พระรำชบุตรเขย
4. พระรำชปรำรภ
49. สรรพนำมบุรุษที่ 2 ที่ใช้ในกำรพูดกับสมเด็จพระรำชำคณะคือข้อใด ?
1. พระคุณเจ้ำ
2. ท่ำนเจ้ำประคุณ
3. ท่ำนพระเดชพระคุณเจ้ำ
4. พระเดชพระคุณท่ำนเจ้ำคุณ
50. ของถวำยพระ เรียกว่ำอย่ำงไร ?
1. เครื่องไทยธรรม
2. เครื่องไทยทำน
3. เครื่องอัฐบริขำร
4. เครื่องปัจจัยไทยทำน
51. คำำสุภำพใช้กับใคร ?
1. บุคคลทั่วไป
2. บุคคลชั้นนำำในสังคม
3. บุคคลซึ่งเป็นที่เคำรพนับถือ
4. บุคคลที่ได้รับกำรยกย่องว่ำเป็นคนดี

13. 52. ข้อใดใช้ภาษาในระดับเดียวกันกับการเขียนบทสุนทรพจน์ในงานพิธี
ของทางราชการ ?
1. ประกาศขององค์กรเอกชน
2. แถลงการณ์สำานักพระราชวัง
3. งานเขียนที่มีเนื้อหาให้ความรู้ทั่วไป
4. การแสดงความคิดเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับการดำาเนินชีวิต
53. “คำาคล้องจองกัน ช่วยให้ร้องกรองมีท่วงทำานองเสียงที่ร้อยเรียงเกี่ยว
”เนื่องกัน กล่าวถึงลักษณะบังคับในข้อใด ?
1. คณะ
2. สัมผัส
3. จังหวะ
4. คำาเอก คำาโท
54. ข้อใด ไม่ใช่ คำาตาย ?
1. ปลา
2. เลข
3. ราก
4. เกาะ
55. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะในโคลง ?
1. จังหวะ
2. สัมผัส
3. เสียงในบท
4. จำานวนคำาในบท
56. ข้อใดไม่จัดอยู่ในประเภทโคลง ?
1. โคลงตั้น

14. 2. โคลงสุภาพ
3. โคลงโบราณ
4. โคลงสุภาษิต
57. ข้อใดเป็นคำาไทยแท้ทุกคำา ?
1. บะช่อ ตะเกียบ เกาเหลา
2. โครม โปรด ทราบ
3. แด เขนย บุหลัน
4. โกย จาม ไม้
58. ข้อใดจัดเป็นคำาซ้อนที่มีความหมายตรงข้ามกัน ?
1. ได้เสีย ชั่วดี
2. ถ้วยชาม เสื้อผ้า
3. ขัดถู ห่างไกล
4. หน้าตา เหล้ายา
59. โคลงภาพพระราชพงศาวดารเป็นวรรณคดี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ
อะไร ?
1. เพื่อให้คนไทยภูมิใจและยกย่องบรรพบุรุษ
2. เพื่อให้คนไทยทราบประวัติศาสตร์ชาติไทย
3. เพื่อให้คนไทยรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
4. เพื่อให้คนไทย มีความรักสมัครสมานสามัคคีกัน
60. พระปิตุรงค์ทรงศักดิ์รักใคร่ ด้วยเนื้อไขมิได้คิดริษยา
เฝ้าเลี้ยงลูกผูกเปลแล้วเห่ช้า จนใหญ่กล้าอายุได้สิบแปดปี
จากบทประพันธ์ข้างต้นคำาว่า “ริษยา” มีความหมายว่าอย่างไร ?
1. เกลียดชัง 3. ปองร้าย
2. พยาบาท 4. อาฆาต

15. 61. มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกนำ้าใจกล้าหาญ
ตั้งแต่สยมภูวญาณ ประทานให้ล้างเท้าเทวา
คำาที่ขีดเส้นใต้อ่านว่าอย่างไร ? จึงจะถูกต้องตามหลักภาษา
1. สะ – หยม – พู – วะ – ยาน 3. สะ – ยะ – มะ – พู – วะ –
ยาน
2. สะ – ยม – พู – วะ – หยาน 4. สะ – หยม – มะ – พู – วะ –
ยาน
62. ลักษณะการโต้วาทีที่ดีควรพิจารณาตามข้อใด?
1. มุ่งชนะคู่ต่อสู้ด้วยวาทศิลป์และเหตุผล
2. มุ่งเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยวาจาที่เผ็ดร้อน
3. มุ่งชนะคู่ต่อสู้ด้วยลีลาและวาทศิลป์
4. มุ่งชนะคู่ต่อสู้ด้วยลีลาการพูด
63. การพิจารณาจุดมุ่งหมายของผู้เขียนเพื่อตอบสนองในการนำาเสนอ
ด้านใด ?
1. ด้านจุดมุ่งหมาย
2. เพื่อความรู้สึกและอารมณ์
3. พิจารณาจุดบกพร่องของผู้เขียน
4. การนำาประโยชน์จากเรื่องที่อ่านไปใช้อย่างถูกต้อง
64. การเขียนแผนผังความคิดมีประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนรู้อย่างไร ?
1. สามารถตอบได้ตรงประเด็น
2. สามารถตอบได้ตามบทเรียน
3. สามารถตอบได้อย่างมีเหตุมีผล
4. สามารถตอบได้อย่างหลากหลาย
65. องค์ประกอบของการอ่านเพื่อจับใจความสำาคัญ กล่าวถึงเรื่องใด ?

16. 1. การเลือกหนังสือดี ๆ มาอ่าน
2. พิจารณาชื่อเรื่อง
3. กำาหนดเวลาอ่าน
4. อ่านตามที่ชอบ
66. “กลอนนิทานเรื่องพระอภัยมณี เนื้อหาให้ความสนุกสนาน ตื่นเต้น
โศกเศร้า มีบทรัก บทรบ ครบครัน แต่ละตอนให้ข้อคิด การอ่านต้องปรับทำา
เสียงจึงจะไพเราะและได้อารมณ์” บทความนี้ผู้เขียนต้องการเน้นในเรื่องใด
เป็นสำาคัญ ?
1. ความรักของตัวละคร
2. การนำามาซึ่งความสามัคคี
3. นิทานเรื่องนี้สร้างความสนุกสนาน
4. บทความที่กล่าวถึงนี้ให้ความหลากหลาย
67. สาเหตุที่แท้จริงที่ทำาให้นางยักษ์มีอารมณ์โกรธขึ้นมาทันที มาจาก
สาเหตุใด ?
1. เพราะสินสมุทรขัดใจ
2. ด้วยตัวใหญ่และว่ายนำ้าไม่เป็น
3. น้อยอกน้อยใจในความอัปลักษณ์
4. นางยักษ์ถูกตักเตือนจากฤาษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร
68. ฝ่ายโยคีมียศพจนารถ ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ จะตัดบ่วง
ห่วงใยในอาลัยลาน อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเอง เมื่ออ่านบทความทั้งสี่
วรรคนี้แล้วมีคำาศัพท์ใดที่มีความหมายที่หลากหลายกว่าคำาศัพท์อื่น ?
1. บ่วง 3. พจนารถ
2. ลูกผัว 4. อาลัยลาน
69. การวิจารณ์อย่างสมเหตุสมผลตรงกับข้อใด ?
1. การโฆษณาชวนเชื่อ

17. 2. เกษตรกรพูดผ่านโทรโข่ง
3. โฆสกพูดทางหอกระจายข่าว
4. วิทยากรอธิบายชี้แจงเหตุผลพร้อมจุดมุ่งหมาย
70. หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวลำาพูนเมืองที่ไม่ควรพลาด “หิริภุญ
”ไชย เป็นเมืองในอดีต ปัจจุบันคือจังหวัดลำาพูน เมืองผ่านที่ไม่ใช่จุดหมาย
ปลายทางในการท่องเที่ยวและเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในภาคเหนือ ข้อเท็จ
จริงของบทความนี้มีความสัมพันธ์ด้านใด ?
1. สินค้า OTOP
2. เมืองหิริภุญไชย
3. การท่องเที่ยวของจังหวัด
4. หิริภุญไชย เมืองผ่านการท่องเที่ยว
71. ลักษณะใดเป็นข้อคิดเห็น ?
1. การเพาะถั่วงอกเป็นศิลปเช่นเดียวกับการหุงข้าว
2. การใช้เมล็ดถั่วเขียวมาทำาอาหารได้หลายอย่าง
3. ถั่วงอกได้จากการเพาะเมล็ดถั่ว
4. การเพาะเมล็ดถั่วทำาเป็นอาชีพได้
72. การอ่านวรรณคดีบางเรื่องที่มีข้อเตือนใจที่เป็นประโยชน์ในการ
ดำาเนินชีวิตทำาให้ผู้อ่านทบทวนการประพฤติของตนและหาทางปรับปรุง
แก้ไขให้ดีขึ้นนั้น เพื่อจุดมุ่งหมายอะไร ?
1. อ่านเพื่อความเพลิดเพลินอารมณ์
2. อ่านเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต
3. อ่านอย่างเพ่งเล็งข้อเท็จจริงเหมือนอ่านตำารา
4. อ่านเพราะชอบว่าเป็นเรื่องที่ถูกบังคับและชีวิตของตน
73. ผู้อ่านทราบข้อมูลและพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง จะ
ช่วยทำาให้ผู้อ่านเข้าใจถึงอะไร ?

18. 1. สาเหตุของเรื่อง
2. เนื้อหาของเรื่อง
3. สาระของเรื่อง
4. แก่นของเรื่อง
74. ผู้เขียนมีจุดประสงค์จะชักจูงให้ผู้อ่านยอมรับในสิ่งที่เสนอ เพื่ออะไร ?
1. อธิบาย
2. โน้มนาว
3. เล่าเรื่อง
4. จินตนาการ
75. ก่อนลงมือปฏิบัติงานทุกครั้ง เพื่อให้งานที่จะปฏิบัติเป็นไปอย่างถูก
ต้องและสัมฤทธิ์ผล ควรเลือกใช้วิธีการใด ?
1. การศึกษาคู่มือให้เข้าใจทุกครั้งก่อนลงมือ
2. ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง
3. ทำาด้วยความรวดเร็วเท่านั้น
4. ตรวจสอบเครื่องมือ
76. ข้อใดใช้คำาถูกต้องตรงตามความหมาย ?
1. สุภาพกำาลังตกแต่งลูกสาวให้เป็นฝังเป็นฝา
2. สุดาชอบไปสอดแทรกในเรื่องส่วนตัวของคนอื่น
3. สุวิชาเป็นตำารวจสืบสวนหาแหล่งหาเสพติด
4. สุพัตรานำาข้าวสารชนิดดีผสมกับชนิดไม่ดีเพื่อปลอมแปลงข้าวสาร
77. การสื่อสารภาษาระดับไม่เป็นทางการน่าจะตรงกับข้อใด ?
1. ธนาคารส่งจดหมายนัดให้ชูชาติไปสอบสัมภาษณ์
2. ลูกสาวของเขาทั้งสองหน้าตาพอไปวัดไปว่าได้

19. 3. ผู้อำำนวยกำรได้รับเชิญให้กล่ำวคำำอวยพรในงำนมงคลสมรส
4. เจ้ำหน้ำที่ตรวจเอกสำรว่ำถูกต้องแล้วจึงประทับตรำรับรอง
78. “ ”มีพิธีกรรมหลำยอย่ำงในงำนวันนี้ ประโยคนี้เน้นส่วนใด ?
1. กริยำ
2. กรรม
3. ผู้กระทำำ
4. ผู้ถูกกระทำำ
79. “กำรอ่ำนออกเสียงเป็นกำรอ่ำนเพื่อให้ผู้ฟังเกิดควำมรู้ เกิดอำรมณ์
ควำมรู้สึก นอกจำกจะเกิดจินตนำกำรร่วมกับผู้สื่อสำร ทำำให้ผู้อ่ำนออกเสียง
ได้ถูกต้อง ทำำให้นำำไปพัฒนำตนเองสู่อำชีพต่ำง ๆ ได้” เมื่ออ่ำนบทควำมนี้ มี
ควำมประสงค์ที่จะนำำผู้อ่ำนมุ่งประเด็นไปทำงใด ?
1. จินตนำกำรต่ำง ๆ 3. มีอำรมณ์ร่วมขณะอ่ำนบทควำม
2. เกิดควำมเพลิดเพลิน 4. มีกำรพัฒนำตนเองไปสู่อำชีพต่ำง ๆ
80. คำำใดเขียนถูกต้องตำมพจนำนุกรม ?
1. พร้อมสรรพ์ เสกสรรค์
2. กฎเกณฑ์ กฎหมู่
3. เคียวเข็ญ ยำกเข็ญ
4. เอกฉันท์ สมำนฉันท์
81. คำำรำชำศัพท์ในข้อใดไม่ถูกต้อง ?
1. ทรงพระสุบิน
2. ทรงพระผนวช
3. ทรงพระประชวร
4. ทรงพระรำชดำำเนิน
82. บทควำมที่แสดงเนื้อหำสำระข้อเท็จจริง เสนอผลกำรวิจัย เรียก
บทควำมนั้นว่ำ ?

20. 1. บทควำมวิเครำะห์
2. บทควำมวิชำกำร
3. บทควำมวิจำรณ์
4. บทควำมรู้ทั่วไป
83. ข้อใดเรียงลำำดับได้ถูกต้องตำมประเภทของบุคคล ?
1. กำำเนิด กำรศึกษำ เกียรติยศ งำนทั่วไป
2. กำำเนิด เกียรติยศ งำนทั่วไป กำรศึกษำ
3. กำำเนิด งำนทั่วไป กำรศึกษำ เกียรติยศ
4. กำำเนิน กำรศึกษำ งำนทั่วไป เกียรติยศ
84. ข้อใดเป็นกำรเขียนบรรยำยประสบกำรณ์ ?
1. คำำขวัญ
2. ถ้อยคำำสำำนวน
3. ประวัติของตนเอง
4. กำรส่งข้อควำมทำงแฟกซ์
85. ข้อใดเป็นกำรเขียนคำำนำำที่ดีในกำรเขียนเรียงควำม ?
1. นำำด้วยนิทำนต่ำง ๆ
2. นำำด้วย ภำษิต คำำพังเพย
3. นำำด้วยข่ำวในชีวิตประจำำวัน
4. นำำด้วยกำรยกตัวอย่ำงเหตุกำรณ์
86. ข้อใดสำมำรถเปลี่ยนแปลงได้ในกำรเขียนย่อควำม ?
1. เนื้อควำม
2. คำำรำชำศัพท์
3. คำำสรรพนำม

21. 4. รูปแบบกำรเขียน
87. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรแสดงควำมคิดเห็น ?
1. กำรแสดงอำรมณ์และข้อสันนิษฐำนที่ผู้พูดหรือผู้เขียนมีต่อสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง
2. กำรแสดงควำมคิดและข้อสันนิษฐำนนั้นออกมำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่ำนรับรู้
3. กำรแสดงควำมรู้สึกและข้อสันนิษฐำนนั้นออกมำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่ำนรับ
รู้
4. กำรแสดงข้อเท็จจริงเพื่อให้ผู้อ่ำนหรือผู้ฟังรับรู้
88. “เรียน อำจำรย์สมชำย ปัญญำดี กระผมขอเชิญท่ำนเป็นวิทยำกร
บรรยำยให้ควำมรู้...” ถ้ำเห็นข้อควำมดังกล่ำวแล้วนักเรียนอำจพิจำรณำได้
ว่ำเป็นจดหมำย ชนิดใด ?
1. จดหมำยธุรกิจ 3. จดหมำยส่วนตัว
2. จดหมำยรำชกำร 4. จดหมำยกิจธุระ
89. ข้อใดเป็นคำำขึ้นต้นและลงท้ำยในกำรเขียนจดหมำยถึงพระภิกษุ ?
1. นมัสกำร ขอนมัสกำรด้วยควำมเคำรพ
2. ขอนมัสกำร นมัสกำรด้วยควำมเคำรพ
3. กรำบเรียน ขอนมัสกำรด้วยควำมนับถือ
4. กรำบนมัสกำร ขอแสดงควำมนับถืออย่ำงสูง
90. ข้อใด ใช้ภำษำไม่เหมำะสมในกำรเขียนรำยงำนทำงวิชำกำร ?
1. ปัจจุบันพบว่ำผู้สูงอำยุมีปัญหำเกี่ยวกับโรคหัวใจมีจำำนวนมำกขึ้น
2. หัวใจเป็นอวัยวะที่ทำำงำนหนักที่สุด เพรำะเต้นอยู่ตลอดเวลำ
3. ทุกคนอยำกให้หัวใจแข็งแรงเพื่อมีสุขภำพแข็งแรง
4. หัวใจมีหน้ำที่สูบฉีดโลหิตไปทั่วร่ำงกำย
91. ข้อใดเป็นคำำขึ้นต้นและลงท้ำยในกำรเขียนจดหมำยกิจธุระ ?

22. 1. กรำบเรียน ด้วยควำมเคำรพ
2. เรียน ขอแสดงควำมนับถือ
3. กรำบเรียน ขอแสดงควำมเคำรพ
4. เรียน ด้วยควำมเคำรพอย่ำงสูง
92. ข้อใดถูกต้อง เมื่อเป็นผู้โทรศัพท์ ไปติดต่อผู้อื่น ?
1. สวัสดีครับ ผมต้องกำรพูดกับคุณสมปอง
2. สวัสดีครับ ช่วยตำมอรรถมำพูดหน่อยครับ
3. สวัสดีครับ ผมวิทยำ ขอพูดกับคุณวินัยหน่อยครับ
4. สวัสดีครับ บอกให้สมชำยมำรับโทรศัพท์ผมด่วน
93. กำรวิเครำะห์ผู้ฟังมีควำมสำำคัญต่อกำรพูดอย่ำงไร ?
1. เพื่อให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมในกำรพูดทุกครั้ง
2. เพื่อจะได้ใช้ภำษำเหมำะแก่กลุ่มผู้ฟัง
3. เพื่อจะให้ผู้ฟังสำมำรถตั้งคำำถำมได้
4. เพื่อให้ผู้ฟังฟังอย่ำงมีสมำธิ
94. กำรพูดแบบใดที่ต้องอำศัยควำมสำมำรถของผู้พูดมำกที่สุด ?
1. เพื่อจรรโลงใจ
2. เพื่อโน้มน้ำวใจ
3. เพื่อสนุกสนำน
4. เพื่อค้นหำคำำตอบ
95. “ ”ผมกินข้ำวแล้วครับ มีเสียงวรรณยุกต์เรียงตำมลำำดับตำมข้อใด ?
1. จัตวำ เอก โท ตรี โท
2. จัตวำ สำมัญ โท ตรี ตรี
3. จัตวำ สำมัญ เอก โท ตรี

23. 4. สำมัญ เอก โท ตรี สำมัญ
96. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบ ๕ เสียง ?
1. เข็ญครกขึ้นภูเขำ
2. เถียงคำำไม่ตกฟำก
3. ถืออำำนำจบำดใหญ่
4. นำ้ำเชี่ยวอย่ำเรือขวำง
97. ข้อใดใช้ลักษณะนำมเหมือนกันทุกคำำ ?
1. ยักษ์ ผี ฤำษี เทวดำ
2. กลอง ขัน ฆ้อง กริ่ง
3. พัด หนังสือ สมุด ค้อน
4. จดหมำย ธนบัตร ใบเสร็จ
98. “สำมำรถอำจห้ำมงด วำจำ ตนเอง
มำงเมื่อยังโกรธำ ขุนแค้น
หยุดคิดพิจำรณำ แพ้ชนะ ก่อนนำ
ชอบผิดคิดเห็นแม้น ”ไม่ยั้งเสียควำม
จำกบทประพันธ์ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?
1. เวลำทำำให้อะไรต้องมีเหตุผล
2. ควำมโกรธทำำให้เรำเสียทุกอย่ำง
3. กำรเอำชนะด้วยคำำพูดอำจผิดพลำดได้
4. ก่อนจะพูดอะไรควรมีสติและควรหยุดคิดพิจำรณำก่อน
99. ลีลำของโคลงสี่สุภำพ มีลักษณะอย่ำงไร ?
1. ลีลำอ่อนโยนพลิ้วไหว
2. ลีลำคึกคักคะนองว่องไว

24. 3. ลีลำกระฉับกระเฉงรวดเร็ว
4. ลีลำเนิบนำบ แต่มีท่วงท่ำสง่ำงำม
100. โคลงในวรรณคดีเรื่องใดที่ได้รับกำรยกย่องให้เป็นโคลงครู ?
1. จินดำมณี
2. ลิลิตพระลอ
3. นิรำศสุพรรณ
4. โคลงทวำทศมำศ
“ขอให้นักเรียนโชคดี ”มีควำมสุข