SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
โครงงาน 
เรอื่งสมุนไพรไล่ยุง 
วชิา กจิกรรมสรา้งสรรคป์ระโยชน(์Creativity 
Action Service) 
จดัทาโดย 
นายอนุสรณ์ เปาะสะเกษ เลขที่39 
นางสาวสุวนนัท ์ไสยาสน ์เลขที่48 
นกัเรยีนชนั้มธัยมศกึษาปีที่/2 
เสนอ 
นางสาวปราณปรยีา คุณประทุม 
โรงเรยีนแกง้ครอ้วทิยา 
สานกังานเขตพนื้ทกี่ารศกึษามธัยมศกึษาชยัภู 
มิเขต 30 
อาเภอแกง้ครอ้ จงัหวดัชยัภูมิ
บทคดัย่อ 
การเปรยีบเทยีบผลของกลนิ่ตะไครห้อม(cy 
mbopogon citratus (DC)Staph ) ขมนิ้ (Curcuma 
longa linnaeus) เปลอืกสม้(Citrus senesis L. 
Osbeck) เปลอืกมะกรูด(Citrus x hystrix L.) 
และใบเตย(Pandanus tectorius)ต่อยุง 
การเปรยีบเทยีบผลของกลนิ่ ตะไครห้อม ขมนิ้ 
เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยทมี่ผีลต่อยุงโดยมวีตัถุประสงคเ์พื่ 
อศกึษาคุณสมบตักิลนิ่ของตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยเพอื่เปรยีบเทยีบกลนิ่ทมี่ตี่อยุงนา 
ไปกบับา้น 3 หลงัหลงัละ 
2หอ้งในชุมชนโดยนาสมุนไพรแต่ละชนดินาไปลา้งนา้ทา 
ความสะอาดแลว้หนั่เป็นชนิ้เล็กๆต่อจากนนั้ก็นาไปตากแห้ 
งหลงัจากนนั้นาสมุนไพรไปนงึ่ประมาณ 20 
นาทพีอนงึ่เสร็จ 
ก็นาไปผงึ่แดดใหแ้หง้เพอื่ไลค่วามชนื้ออก 
จากนนั้ทา การเปิดหนา้ต่างหอ้งเพอื่ใหยุ้งเขา้ไปยู่เป็นเวลา 
1 
วนัทุกหอ้งหลงัจากนนั้นาสมุนไพรแต่ละชนดิมาห่อใสถุ่งต 
าข่ายทจี่ะทา การทดลองแลว้มดัจุกแลว้เอาไปทงิ้ไวแ้ต่ละห้ 
องจานวนหอ้งละ 10 จุก ทา การสงัเกตทุกๆ 30 นาที 
จนครบ 2ชวั่โมง 
หาจานวนปรมิาณยุงทตี่ายในแต่ละหอ้งทใี่ชส้มุนไพร 5 
ชนดิคอื ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยไดผ้ลดงันคี้อื 
กลนิ่ทมี่ฤีทธใิ์นการไลยุ่งไดด้ทีสีุ่ดคอืตะไครห้อมจานวนยุ 
งทตี่ายคอื 20 ตวั ขมนิ้ยุงตาย 14 ตวั เปลอืกสม้ยุงตาย 
12 ตวั สว่นกลนิ่ทมี่ฤีทธไิ์ลยุ่งนอ้ยทสีุ่ดคอื 
ใบเตยและเปลอืกมะกรูด คอืยุงตาย 4 ตวั
กติตกิรรมประกาศ 
ขอขอบพระคุณอาจารยป์ราณปรยีา คุณประทุม 
ครูทปี่รกึษาโครงงานวจิยั 
ทกี่รุณาใหค้วามเชอื่เหลอืและใหค้าปรกึษาแกไ้ขปัญหาจ 
นโครงงานเสร็จสมบรูณ์ 
ขอขอบพระคุณ นายไพรรมณ์ โสดาวรรณ 
และนางรชัณีพรรณ โสดาวรรณทชี่่วยเหลอืดา้นสถานที่ 
ทา การทดลองโครงงานวจิยัฉบบันี้ 
ขอขอบคุณเพอื่นๆทุกคนทคี่อยตชิมผลงานและนาไปสูก่า 
รแกไ้ขเพอื่ใหผ้ลงานมคีุณภาพทดีี่
บทที่1 
บทนา 
ทมี่าและความสาคญั 
ยุง (MOSQUITOES) ยุงเป็นแมลงทพี่บไดท้วั่โลกแต่พบม 
ากในเขตรอ้นและเขตอบอุ่น 
จากหลกัฐานทางฟอสซิลสามารถสนันษิฐานไดว้่า 
ยุงไดถ้อืกา เนดิขนึ้ในโลกตงั้แต่ยุคดกึดาบรรพเ์มอื่ประมา 
ณ 38-54 ลา้นปีมาแลว้ 
ปัจจุบนัพบว่าในโลกนมี้ยีุงประมาณ 3,450 ชนดิ 
สว่นในประเทศไทยพบว่ามยีุงอย่างนอ้ย 412 ชนดิ 
มชีอื่เรยีกตามภาษาไทยแบบง่าย ๆ คอื ยุงลาย ( Aedes ) 
ยุงราคาญ ( Culex ) ยุงกน้ปลอ่ง ( Anopheles ) 
ยุงเสอืหรอืยุงลายเสอื ( Mansonia ) และ 
ยุงยกัษห์รอืยุงชา้ง (Toxorhynchites ) 
ซึ่งไม่ครอบคลุมสกุลของยุงทงั้หมดทมี่อียู่ สว่น “ ยุงด า ” 
ทปี่รากฏในต 
ารางเรยีนของกระทรวงศกึษานนั้ไม่สามารถระบุไดว้่าหมา 
ยถงึยุงอะไรจงึควรตดัออก 
ยุงเป็นแมลงทมี่ขีนาดเล็กโดยทวั่ไปมขีนาดลา ตวัยาว 4-6 
มม . บางชนดิมขีนาดเล็กมาก 2-3 มม . 
และบางชนดิอาจยาวมากกว่า 10 มม . ยุงมสีว่นหวั อก 
และทอ้ง 
มองเห็นไดอ้ย่างชดัเจนและสามารถแยกออกจากแมลงช 
นดิอนื่ ไดอ้ย่างง่ายๆ โดยสงัเกตจากรูปพรรณสณัฐาน
ดงัต่อไปนคี้อื มปีากคลา้ยงวง ยนื่ยาวออกไปขา้งหนา้ 
และมปีีกสา หรบับนิ 1 คู่ ยุงมวีงจรชวีติแบบสมบูรณ์ 
(holometabolous) ซึ่งประกอบดว้ย ไข่ (egg) ลูกนา้ 
(larva; พหูพจน ์=larvae) ตวัโม่ง (pupa; พหูพจน ์ 
=pupae) และยุงตวัแก่(adult) 
ยุงเมอื่ลอกคราบออกจากระยะตวัโม่งไดไ้ม่กนี่าทกี็สามาร 
ถออกบนิไดเ้ลย 
อาหารทใี่ชใ้นระยะนขี้องทงั้ตวัผูแ้ละตวัเมยีเป็นนา้หวานจ 
ากดอกไมห้รอืตน้ไม้ 
การผสมพนัธุส์ว่นใหญ่เกดิขนึ้ในอากาศ 
บางชนดิการผสมพนัธุเ์กดิขนึ้ในขณะทยีุ่งตวัผูม้กีารบนิวน 
เป็นกลุม่ (swarming) โดยเฉพาะเวลาหวัค่า และใกลรุ้่ง 
ตามพุ่มไม้บนศรีษะ ทุง่โลง่ หรอืบรเิวณใกลก้บัเหยอื่ 
เป็นตน้ และตวัเมยีจะบนิเขา้ไปเพอื่ผสมพนัธุ ์ 
ยุงตวัเมยีสว่นใหญ่ผสมพนัธุเ์พยีงครงั้เดยีวโดยทเี่ชอื้อสุจิ 
จากตวัผูจ้ะถูกกกัเก็บในถุงเก็บนา้เชอื้ 
ซึ่งสามารถใชไ้ปไดต้ลอดชวีติของมนั 
สว่นยุงตวัผูส้ามารถผสมพนัธุไ์ดห้ลายครงั้ 
ยุงตวัเมยีทจี่บัไดต้ามธรรมชาตมิกัมเีชอื้อสุจอิยู่ในถุงเก็บ 
นา้เชอื้เสมอ ยุงตวัเมยีเมอื่มอีายุได้2-3 
วนัจงึเรมิ่ออกหากนิเลอืดคนหรอืสตัวเ์พอื่นาเอาโปรตนีแล 
ะแร่ธาตุไปใชส้า หรบัการเจรญิเตบิโตของไข่ในรงัไข่ 
แต่มยีุงบางชนดิทไี่ม่จาเป็นตอ้งกนิเลอืดก็สามารถสรา้งไ 
ข่ในรงัไข่ได้เช่น ยุงยกัษ ์ 
เลอืดทกี่นิเขา้ไปถูกย่อยหมดไปในเวลา 2-4 วนั 
แต่ถา้อากาศเย็นลงการย่อยจะใชเ้วลานานออกไป 
เมอื่ไข่สุกเต็มทยีุ่งตวัเมยีจะหาแหลง่นา้ทเี่หมาะสมในการว 
างไข่ 
หลงัจากวางไข่แลว้ยุงตวัเมยีก็ออกดูดเลอืดใหม่และวางไ 
ข่ไดอ้กี บางชนดิทมี่อีายุยนืมากอาจไข่ไดร้่วม 10 ครงั้ 
แต่ละครงั้ห่างกนัประมาณ 4-5 วนั 
แต่อาจเร็วกว่าหรอืนานกว่า
ขนึ้อยู่กบัอุณหภูมแิละชนดิของยุง 
สว่นยุงตวัผูต้ลอดอายุขยัจะกนิอาหารจากแหลง่นา้หวานข 
องดอกไมห้รอืพชืทผี่ลตินา้ตาลในธรรมชาติ 
ในภูมปิระเทศเขตรอ้นตวัโม่งจะใชเ้วลา 2-4 วนั 
ยุงตวัเต็มวยัลอกคราบออกมาไม่กนี่าทกี็สามารถบนิได้ 
ยุงตวัเมยีบางชนดิชอบกดักนิเลอืดคน philic) 
บางชนดิชอบกนิเลอืดสตัว ์(zoophilic) 
บางชนดิกดัดูดเลอืดโดยไม่เลอืก 
ยุงสามารถเสาะพบเหยอื่ไดโ้ดยอาศยัปัจจยัหลายประการ 
เช่น กลนิ่ตวั คารบ์อนไดออกไซด ์( 
ทอี่อกมาจากลมหายใจ ) หรอือุณหภูมขิองร่างกาย 
นสิยัการกนิเลอืดของยุงมคีวามสา คญัในดา้นการแพร่เชอื้ 
โรคหรอืปรสติต่าง ๆ 
ยุงสว่นมากจะบนิกระจายจากแหลง่เพาะพนัธุไ์ปไดไ้กลออ 
กไปในรศัมปีระมาณ 1-2 กโิลเมตร 
โดยบนิทวนลมตามกลนิ่เหยอื่ไป 
กระแสลมทแี่รงอาจทา ใหยุ้งบางชนดิแพร่ออกจากแหลง่เ 
พาะพนัธุไ์ปไดไ้กลยงิ่ขนึ้ 
ในปัจจุบนัยุงสามารถแพร่ไปจากประเทศหนงึ่ไปสูป่ระเทศ 
หนงึ่หรอืทวปีหนงึ่ไปยงัอกีทวปีหนงึ่ โดยอาศยัเครอื่งบนิ 
เรอืหรอืรถยนตโ์ดยสาร 
ในประเทศเขตรอ้น 
ยุงตวัเมยีสว่นใหญ่สามารถมชีวีติอยู่ได้2-3 สปัดาห ์ 
หรอืถา้อุณหภูมิ 
ความชนื้และแสงสว่างเหมาะสมก็อาจนานถงึ 4-6 สปัดาห ์ 
หรอืนานกว่านี้สว่นยุงตวัผูโ้ดยทวั่ไปมอีายุประมาณ 1 
สปัดาห ์ 
ยุงกน้ปลอ่งมคีวามสา คญัในทางการแพทยโ์ดยเฉพาะเป็น 
พาหนะโรคมาลาเรยี 
ในประเทศไทยเทา่ทพี่บในปัจจุบนัมยีุงกน้ปลอ่งอย่างนอ้ย 
73 ชนดิ แต่มเีพยีง 3 ชนดิทเี่ป็นพาหนะสา คญั 
สงัเกตยุงชนดินไี้ดง้่ายเวลามนัเกาะพกั
จะยกกน้ชเี้ป็นปลอ่ง ยุงลายทพี่บตามบา้นเรอืนหรอืชนบท 
(Aedes. aegypti, และ Aedes albopictus ) 
เป็นพาหนะสา คญัของโรคไขเ้ลอืดออก 
สว่นยุงลายป่าเป็นพาหะโรคเทา้ชา้ง 
ยุงลายชนดิ Ae.aegyptiหรอื ยุงลายบา้น 
พบบอ่ยเป็นประจาในเขตเมอืง มขีนาดค่อนขา้งเล็ก 
บนิไดว้่องไว บน scutum มลีายสขีาวรูปเคยีว 2 
อนัอยู่ดา้นขา้ง มขีาลายชดัเจน 
ยุงชนดินเี้พาะพนัธุใ์นภาชนะทมี่นีา้ขงัทุกขนาดทงั้ในและ 
นอกบา้น ชอบกดักนิเลอืดคนมากกว่ากนิเลอืดสตัว ์ 
มกัหากนิเวลากลางวนัช่วงสายและบา่ย 
ยุงลายชอบเขา้กดัคนทางดา้นมดืหรอืทมี่เีงาโดยเฉพาะบริ 
เวณขาและแขน ขณะทกี่ดัมกัไม่ค่อยรูส้กึเจ็บ 
คนถูกกดัจงึไม่รูส้กึตวั 
ยุงAe. aegyptiกดัทงั้ในบา้นและนอกบา้น 
และเกาะพกัตามมุมมดืในหอ้ง โอ่ง ไห 
หรอืตามพุ่มไมท้เี่ย็นชนื้ ยุงลายอกีชนดิหนงึ่ 
คอื Ae.albopictusพบไดท้วั่ไปในเขตชานเมอืง 
ชนบทและในป่า มลีวดลายที่scutum แตกต่างจาก Ae. 
aegypti คอืมแีถบยาวสขีาวพาดผ่านตรงกลางไปตามคว 
ามยาวของลา ตวั เพาะพนัธุใ์นภาชนะทมี่นีา้ขงั กระบอกไม้ 
โพรงไม้กะลามะพรา้ว ใบไม้ฯลฯ 
ยุงชนดินมี้อีุปนสิยัคลา้ย ๆ 
กบั Ae.aegyptiแต่มคีวามว่องไวนอ้ยกว่ายุงราคาญมหีลา 
ยชนดิทไี่ม่ใช่กอ่ความราคาญเพยีงอย่างเดยีว 
แต่เป็นพาหะทสี่า คญัของทงั้ไวรสัไขส้มองอกัเสบและโรคเ 
ทา้ชา้ง 
ลูกนา้ยุงราคาญมกัอาศยัอยู่ในนา้ไม่ว่าจะเป็นนา้นงิ่หรอื 
นา้ไหล 
ทคี่่อนขา้งสกปรกทมี่ไีนโตรเจนสูงหรอืมกีารหมกัเน่าของ 
พชื ยุงราคาญ ทพี่บบอ่ยในเขตเมอืง 
ไดแ้ก่Culex quinquefasciatusเป็นยุงสนีา้ตาลอ่อน
เพาะพนัธุใ์นนา้เสยี ตามร่องระบายนา้ คูและหลุมบอ่ต่าง ๆ 
ยุงราคาญพบบอ่ยในชนบท 
ไดแ้ก่Cx. tritaeniorhynchusและ Cx. 
vishnu, เนอื่งจากมทีอ้งนาเป็นแหลง่เพาะพนัธุห์ลกั 
โดยเฉพาะช่วงทไี่ถนา และบรเิวณหญา้แฉะรกรา้ง 
จงึมมีากในฤดูฝน ยุงชนดินชี้อบกดัสตัว ์พวกววั 
ควายและหมูมากกว่าคน 
นอกจากกอ่ความราคาญแลว้ยงัเป็นพาหนะนาโรคไขส้มอ 
งอกัเสบ 
ยุงทกี่อ่ความราคาญอกีสกุลหนงึ่ทมี่กักดัในเวลาพลบค่า 
มขีนาดใหญ่บนิชา้ๆ และกดัเจ็บ คอื 
ยุง Armigeres ไม่มชีอื่ภาษาไทย ยุงลายเสอืหรอืยุงเสอื 
ลา ตวัและขามลีวดลายค่อนขา้งสวยงาม 
บางชนดิมสีเีหลอืงขาวสลบัดาคลา้ยลายของเสอืโคร่ง 
เช่น Ma. uniformis บางชนดิมลีายออกเขยีว 
คลา้ยตุ๊กแก เช่น Ma. 
annulifera ยุงเหลา่นชี้อบเพาะพนัธุใ์นบรเิวณทเี่ป็นหนอ 
ง คลอง บงึ สระ ทมี่พีชืนา้พวก จอกและ ผกัตบชวา อยู่ 
ยุงลายเสอืหลายชนดิเป็นพาหะของโรคเทา้ชา้งในภาคใต้ 
ของประเทศไทย บางชนดิเป็นพาหะบรเิวณชายแดนไทย 
- พม่า 
ในประเทศไทยมยีุงเป็นพาหนะนาโรคอยู่มากเนอื่งจากสภ 
าพแวดลอ้มเหมาะกบัการเจรญิเตบิโตของยุง 
ทา ใหม้ผีูป้่วยและเสยีชวีติมาก กรมควบคุมโรคตดิต่อ 
กระทรวงธารณสุขจงึไดจดัทา โครงการควบคุมยุงในประเ 
ทศไทยมาตงั้แต่ปี พ.ศ.2493 จนถงึปัจจุบนั 
จากการตดิตามเฝ้าระวงัสถานการณ์โรคไขเ้ลอืดออกในปี 
2551ในรอบ10สปัดาห ์ตงั้แต่เดอืนมกราคมถงึวนัที่8 
มนีาคม ทวั่ประเทศมรีายงานผูป้่วยแลว้ 5,836 ราย 
เสยีชวีติ 7 
รายจานวนผูป้่วยสูงกว่าช่วงเดยีวกนัในปีทผี่่านมาถงึรอ้ย 
ละ 77 พบในภาคกลางมากทสีุ่ด 3,669 ราย เสยีชวีติ 6
รายรองลงมาคอืภาคใตป้่วย 1,015 ราย เสยีชวีติ 1 ราย 
ภาคเหนอืป่วย 655ราย และภาคตะวนัออกเฉยีงเหนอืป่วย 
498 ราย สว่น 
ใน กทม. พบป่วย 1,037 ราย ยงัไม่มรีายงานการเสยีชวีติ 
การป้องกนัและควบคุมยุงในปัจจุบนันจี้งึตอ้งคานงึถงึควา 
มปลอดภยัของมนุษย ์ 
สงิ่มชีวีติชนดิอนื่ๆและสงิ่แวดลอ้มเป็นอนัดบัแรก 
สา หรบัประเทศไทยนนั้ 
เป็นทนี่่ายนิดอีย่างยงิ่ทปี่ระเทศของเรามพีชืพรรณไมท้ขีึ่้ 
นเองตามธรรมชาติหรอืนามาเพาะปลูกไดไ้ม่นอ้ยกว่า 
20,000ชนดิ ซึ่งคดิเป็นรอ้ยละ 8 
ของพชืพรรณไมท้มี่อียู่ในโลกนี้ 
และมพีชืพรรณไมไ้ม่นอ้ยกว่า 500 ชนดิ 
ทบี่รรพบุรุษของเราไดคดัเลอืกมาอย่างชาญฉลาด 
เพอื่นามาใชเ้ป็นอาหารและสมุนไพรพนื้บา้นทใี่ชใ้นการรกั 
ษาโรคภยัไขเ้จ็บซึ่งภูมปิัญญาทอ้งถนิ่นถี้อืเป็นบรรพบุรุษข 
องการวจิยั 
ทชี่แี้ละเนน้ใหเ้ห็นของขุมทรพัยอ์นัมคี่าของพชืสมุนไพรที่ 
คนยุคใหม่อย่างพวกเราสามารถนามาศกึษาวจิยัต่อยอด 
หรอืนามาเพอื่ประยุกตใ์ชใ้นดา้นอนื่ๆไดอ้กีมากมายสมุนไ 
พรหรอืพชืพนื้บา้นหลายชนดิทเี่รารูจ้กักนัเป็นอย่างดีเช่น 
ตะไครห้อม เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูด เตย และ ขมนิ้ 
ซึ่งมสีารเคมทีสี่ามารถใชใ้นการกา จดัลูกนา้ได้ 
จากการสงัเกตเห็นว่า ตะไครห้อมมฤีทธใิ์นการไลยุ่งไดดี้ 
ตะไครห้อมมปีระสทิธภิาพสูงในการไลยุ่งซึ่งเป็นพาหนะ 
สา คญัในการน าโรคไขเ้ลอืดออก โรคไขม้าลาเลยี 
และโรคอนื่ๆในประเทศไทยและต่างประเทศ 
ขอ้ดขีองตะไครห้อมอกีอย่างหนงึ่คอืมกีลนิ่หอมไม่กอ่ใหเ้ 
กดิมลภาวะมคีวามคงตวัทางชวีภาพสูงเก็บรกัษาไวไ้ดน้าน 
โดยทกี่ารออกฤทธไิ์ลยุ่งยงัมปีระสทิธภิาพดี 
ดงันนั้การทดลองครงั้นไี้ดศ้กึษาสมุนไพรทสี่ามารถไลยุ่งไ 
ด้เพอื่ช่วยในการไลยุ่งไม่ใหยุ้งกดัและแพร่เชอื้
ซึ่งจะนามาสูโ่รคต่างๆได้ 
การป้องกนัยุงกดัเป็นวธิทีสี่ามารถลดความราคาญทเี่กดิจ 
ากยุงและลดความเสยี่งในการตดิเชอื้ทมี่ยีุงเป็นพาหะ 
บทที่2 
บทตรวจเอกสาร 
ยุงเป็นแมลงทมี่กีารแพร่กระจายอยู่ทวั่โลก 
มรีายงานพบเกอืบทุกพนื้ทที่งั้ในเขตรอ้น เขตอบอุ่น 
เขตหนาว 
ยุงมคีวามสา คญัทางการแพทยใ์นแง่เป็นพาหะแพร่เชอื้โร 
คหรอืปรสติต่างๆ ผ่านทางการกนิเลอืด 
ซึ่งการกดัของยุงนอกจากจะกอ่ใหเ้กดิความราคาญ 
สูญเสยีเลอืด 
หรอืในบางรายอาจมอีาการแพโ้ปรตนีในนา้ลายยุงอย่างรุ 
นแรง ทา ใหเ้กดิตุ่มหรอืแผลพุพองบรเิวณผวิหนงั 
การกดักนิเลอืดของยุงหลายชนดิสามารถนาโรคตดิต่อรา้ 
ยแรงมาสูม่นุษยไ์ดอ้กีดว้ย 
ดงันนั้การควบคุมโรคตงั้แต่อดตีจนถงึปัจจุบนัจงึเนน้ไปที่ 
การควบคุมยุงพาหะเป็นสา คญั 
ซึ่งสามารถทา ไดห้ลากหลายวธิแีละมวีวิฒันาการมาเรอื่ยๆ 
โดยวธิทีใี่หผ้ลดทีสีุ่ดในการกา จดัยุงพาหะ คอื 
การใชส้ารเคมสีงัเคราะหห์รอืสารฆ่าแมลง 
ซึ่งสารเคมทีนี่ยิมใชใ้นปัจจุบนัมมีากมายหลายชนดิ 
เช่น Abate, Fenthion, Fenitrothion, 2-hydroxy-methyl- 
cyclohexyl acetic acid lactone (CIC-4), 
Permethrin, และ Dieldrin 
อย่างไรก็ตามจากการศกึษาพบว่าสารเคมเีหลา่นแี้มจ้ะใช้ 
ไดผ้ลดีมปีระสทิธภิาพสูง 
แต่จะมอีนัตรายหรอืมผีลขา้งเคยีงต่อคนและสตัวเ์ลยี้ง 
รวมไปถงึแมลงอนื่ๆ
เป็นตน้โดยประโยชนท์างเกษตรกรรม 
นกัวทิยาศาสตรท์วั่โลกไดพ้ยายามหาวธิกีารต่างๆ 
มาใชใ้นการควบคุมยุงพาหะทดแทนการใชส้ารเคมีอาทิ 
การใชส้ารสกดัจากธรรมชาติ(Natural chemicals) 
การใชส้งิ่มชีวีติตามธรรมชาตมิาควบคุมกนัเอง 
(Biological control) การจดัการทางสภาพแวดลอ้ม 
(Environmental management) 
การใชเ้ครอื่งมอืในการกา จดัแมลง (Mechanical 
control) และการใชว้ธิคีวบคุมหลายๆ วธิมีาประกอบกนั 
(Integrated control) 
เพอื่ใหส้ามารถควบคุมยุงไดอ้ย่างมปีระสทิธภิาพมากยงิ่ขึ้ 
น 
กลุม่นกัเรยีนเจา้ของโครงงานเรอื่ง 
ศกึษาผลของสารจากใบในการกา จดัยุงกน้ปลอ่งและยุงล 
าย ประกอบดว้ย นางสาวสุวนนัท ์ไสยาสน,์ 
นายอนุสรณ ์เปาะสะเกษ โดยเรามคีวามเห็นว่า 
การใชส้ารสงัเคราะหท์างเคมี 
ในการฆ่าลูกนา้ยุงป้องกนัการวางไข่ของยุงและไลยุ่งนนั้ 
กอ่ใหเ้กดิโทษต่อสงิ่มชีวีติและสงิ่แวดลอ้ม 
พวกเธอและเขาจงึมแีนวคดิว่าน่าจะทดลองสกดัสารจากพื 
ชบางชนดิ เพอื่นามาใชใ้นการกา จดัยุงแทน 
โดยไดศ้กึษาหาสารสกดัจากพชื ทมี่ผีลต่อยุงรา้ย 2 ชนดิ 
คอื ยุงกน้ปลอ่งและยุงลาย 
โครงงานวทิยาศาสตรข์องนกัเรยีนกลุม่นี้ 
นบัเป็นโครงงานทนี่่าสนใจโครงงานหนงึ่ในการหาวธิกีาร 
กา จดัยุง ดว้ยสารทปี่ลอดภยัต่อสงิ่แวดลอ้ม
บทที่3 
วธิกีารดาเนนิงาน 
3.1 วธีกีารทดลอง 
การศกึษาครงั้นเี้ป็นการศกึษาเปรยีบเทยีบเชงิทดลอง 
เพอื่ศกึษากลนิ่ของตะไครห้อมเปลอืกมะกรูด เตย 
และขมนิ้ทที่สี่ามารถไลยุ่งไดซึ้่งกลนิ่สมุนไพรแต่ละชนดิ 
ทใี่ชใันการทดลองไดจ้ากการศกึษา 
หนงัสอืวรรณกรรมภูมปิัญญา 
และทดลองแลว้นากลนิ่สมุนไพรแต่ละชนดิมาทดลองในบ้ 
านทมี่ลีกัษณะบรเิวณทปี่ลูกใกลเ้คยีงกนั 
ขนั้ตอนการศกึษา 
ยุง สถานที่ สมุนไพร 
เรานาลูกน้าที่ยู่ตามที่ต่างๆมาเพาะเลี้ยงจนได้ตัวยุงรว เราเลือกบ้าน นาสมุนไพรคือ
มทั้งยุงในธรรมชาติก็คือเราจะเลือกบ้านที่ใช้ในการทด 
ลองคือบริเวณชุมชนศรีสง่าโดยการเปิดหน้าต่างห้องน 
อนไว้เป็นเวลา 1 วัน 
ให้ยุงเข้ามาอยู่ในห้อง 
จานวน 3 
หลังที่อยู่ใกล้ 
เคียงกันบริเว 
ณหมู่บ้านศรี 
สง่า 
ซึ่งมีต้นไม้ 
จานวนมาก 
ตะไคร้หอม ใบเตย 
เปลือกมะกรูด 
เปลือกส้ม และขมนิ้ 
มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 
นาไปตากแห้งในที่ร่มแ 
ล้วนามานึ่งประมาณ 
20 
นาทีหลังจากน้นันาไป 
ผึ่งเพื่อไล่ความชื้นพอเ 
สร็จแล้วนาบรรจุตาข่า 
ยอย่างละ 10 
ก้อนเพื่อทาการทดลอง 
ประสิทธิภาพโดยนาไป 
ทิ้งไว้ในห้อง 
3.2 สถานทที่า การทดลอง 
ภาคสนาม 
บา้นศรสีง่า จงัหวดัชยัภูมิบรเิวณทมี่ยีุงชุกชุม 
เป็นแหลง่ทมี่กีารศกึษาและรวบรวมขอ้มูลทเี่กยี่วกบัยุง 
3.3 วสัดุและอุปกรณ์ทไี่วใ้นการทดลอง 
1.ยุง 
2.เปลอืกมะกรูด 
3.เปลอืกสม้ 
4.ใบเตย 
5.ตะไคร้ 
6.ขมนิ้ 
7.เขยีง 
8.มดี 
9.ภาชนะสา หรบันงึ่
10.กระดง้ 
11.ผา้ขาวบาง 
3.4 วธิกีารทดลอง 
1.การเก็บตวัอย่างสตัวท์ดลอง สา รวจแหลง่ชุมชนบรเิวณ 
หมู่บา้นศรสีง่าจงัหวดัชยัภูมิ 
เพอื่หาดูบรเิวณทมี่นีา้ขงัและยุงชุกชุม 
และหลงัจากนนั้เก็บตวัอย่างใสใ่นขวดเก็บตวัอย่าง 
แลว้นาลูกนา้ทไี่ดท้งั้หมดมารวมกนัเพาะเอาตวัยูงเพอื่ใหไ้ 
ดข้นาดเทา่กนั 
2.การเก็บตวัอย่างพชืสมุนไพร นาตะไครห้อม 
เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ ใบเตยและขมนิ้ 
ลา้งนา้ใหส้ะอาดแลว้น าสมุนไพรทงั้ 5 ชนดิผงึ่ใหแ้หง้ 
ขนั้ตอนการทาถุงหอมไล่ยุง 
-นา้สมุนไพรทงั้ 5 ชนดิ มาหนั่ใหม้ขีนาดเล็กลง 
แลว้นาไปผงึ่แดด 1 วนั 
-นา้สมุนไพรแต่ละ ชนดิมานงึ่โดยใชเ้วลา 30 นาที 
- 
นา้สมุนแต่ละชนดิไปทดลองกบัยุงโดยนาสมุนไพรในปรมิ 
าณ1 ชอ้นโต๊ะห่อใสผ่า้ตาข่ายแลว้นาไปอุดไวท้ภี่าชนะเพ 
าะยุง 
-เมอื่ทราบผลการทดลองแลว้น 
าสมุนไพรมาผสมกนัชนดิละ 1ชอ้นโต๊ะ 
-บรรจุสมุนไพรทผี่สมกนัแลว้ใสถุ่งตาข่ายถุงละ 1ชอ้นโต๊ะ 
และตกแต่งใหส้วยงาม
บทที่4 
ผลการวเิคราะหข์อ้มูลและการอภปิรายผล 
ศกึษากลนิ่ของ ตะไครห้อม(Cymbopogon citratus 
(DC.) Staph)เปลอืกมะกรูด(Citrus x 
hystrix L.) (Curcuma longa Linnaeus)ต่อยุง 
ในรูปร่างลกัษณะทใี่กลเ้คยีงกนัจานวน 20 ตวั 
โดยทา การเปรยีบเทยีบกลนิ่ของ ตะไครห้อม 
เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ ใบเตย และขมนิ้ 
โดยการตากแหง้แลว้นาไปนงึ่ในเวลา 20 นาที 
ไดก้ลนิ่สมุนไพรจากพชื 5 ชนดิ ดงันี้ตะไครห้อม 10 ห่อ 
เปลอืกมะกรูด 10 ห่อ เปลอืกสม้ 10 ห่อ ใบเตย 10 ห่อ 
และขมนิ้ 10 ห่อ 
แลว้นากลนิ่ของสมุนไพรทไี่ดไ้ปทดลองประสทิธภิาพ
ทมี่ตี่ออตัราการตายในกลนิ่ของสมุนไพรแต่ละชนดิ 
จากการทดลองในทุก 30 นาที 
นาผลการทดลองจานวนยุงทา เป็นตารางแสดงผลเพอื่หา 
ความสมัพนัธ ์ระหว่างความเขม้ขน้ของ ตะไครห้อม 
เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ 
ใบเตยและขมนิ้กบัอตัราการตายของยุง 
ตารางแสดงการตายของยุง 
สถานที่(ห้อง) สมุนไพร เวลา(นาที) 
30 60 90 120 
ห้องที่1 ตะไคร้หอม 8 13 18 20 
ห้องที่2 ขมนิ้ 3 6 11 14 
ห้องที่3 เปลือกส้ม 5 7 10 12 
ห้องที่4 เปลือกมะกรูด - 2 3 5 
ห้องที่5 ใบเตย - - 1 4 
ห้องที่6 สมุนไพร 5 
ชนิดรวมกัน 
7 16 23 28 
จากการทดลองพบว่าจานวนการตายของยุงใน 
แต่ละ 30 นาที 
มคีวามแตกต่างกนัในแต่ละชนดิและกลนิ่ของสมุนไพร 
โดยกลนิ่ของตะไครห้อมใน 30 นาที 
มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งดทีสีุ่ด ยุงตายจานวน 8ตวั 
รองลงมาคอืขมนิ้ทเี่วลา 1 ชวั่โมงแรก ยุงตายจานวน 
6 ตวั และเปลอืกสม้ทเี่วลา 30 นาทียุงตาย 5ตวั 
และเปลอืกมะกรูดใบเตยในเวลา 1ชวั่โมง 
มปีระสทิธภิาพนอ้ยในการไลยุ่งและเมอื่นาสมุนไพร 5 
ชนดิมารวมกนัทดลองในเวลา 30 นาที 
มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งมากทสีุ่ด ในช่วงเวลา 
30นาทแีรก ยุงตายจานวน 28 ตวั
บทที่5 
บทสรุป 
5.1 สรุปผลการทดลอง 
1. 
การทดลองเปรยีบเทยีบกลนิ่ของสมุนไพรทมี่ผีลต่อไลยุ่ง 
ภายใน 2 ชวั่โมง จากการนา ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยมานงึ่ในเวลา 20 
นาทสีามารถทา ใหก้ลนิ่ของสมุนไพรทงั้ 5 
ชนดิมกีลนิ่หอมมาก แลว้น 
าสมุนไพรทนี่งึ่เสร็จแลว้ไปผงึแดดในเวลา 1 นาที
เพอื่ทจี่ะไดใ้หไ้อนา้ละเหยออกซึ่งสมุนไพรจะไม่อบัและมกี 
ลนิ่หอมมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งทา ใหยุ้งบนิหรอืตายได้ 
ภายในเวลา 2 ชวั่โมง โดยเรานบัช่วงเวลาเป็นช่วง 30 - 
60 - 90 – 
90 โดยเรานาสมุนไพรทุกชนดิมาใสใ่นถุงหอมอย่างละ 1 
กโิลกรมั พบว่ากลนิ่ของสมุนไพร ตะไครห้อม ขมนิ้ 
เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูด 
และใบเตยมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งไดม้ากทสีุ่ดทมี่ปีรมิ 
าณ 1 กโิลกรมัเทา่ๆกนั ในถุงหอมขนาด 8x8 นวิ้ 
2. 
กลนิ่ของสมุนไพรแต่ละชนดิมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งไ 
ดด้ตี่อยุง 
กลนิ่ของตระไครห้อมและขมนิ้มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่ง 
ดทีสีุ่ด 
กลนิ่ทสี่ามารถไลยุ่งไดด้ทีสีุ่ดคอืตะไครห้อมลองลงมาคอื 
ขมนิ้ 
และเปลอืกสม้รวมถงึสมุนไพรแต่ละชนดิมสีรรพคุณรกัษา 
โรคไดอ้กี 
5.2 การประยุกตผ์ลการทดลอง 
การศกึษานนี้าไปประยุกตใ์ชใ้นทางปฏบิตัไิด้เช่น 
มุมหอ้งภายในบา้น หนา้รถ ในหอ้งนา้ 
หอ้งครวัและในตูเ้สอื้ผา้นาถุงหอมสมุนไพรแขวนไว้ณ 
บรเิวณนนั้ ซึ่งจากการทดลองพบว่ากลนิ่ของสมุนไพรทงั้ 
5 ชนดิ รวมกนัอย่างละ1 กโิลกรมั 
มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งทดี่ทีสีุ่ด 
ถา้กลนิ่ของสมุนไพรอ่อนกลนิ่ลงเราก็สามารถนาไปนงึ่ให 
ม่ไดอ้กี 
ทา ใหช้่วยประหยดัดว้ยซึ่งถอืไดว้่ากลนิ่ของสมุนไพรค่อน 
ขา้งมผีลดตี่อสงิ่แวดลอ้มและยงัเป็นพชืสมุนไพรทใี่ชใ้นก 
ารประกอบอาหาร 
จงึไม่เป็นอนัตรายต่อชวีติและสงิ่แวดลอ้ม
5.3 ขอ้เสนอแนะในการทดลอง 
1. ควรทา การศกึษาความเป็นพษิของ ตะไครห้อม ขมนิ้ 
เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยทมี่ตี่อยุงโดยสามารถนาไปประยุ 
กตเ์ป็นสารสกดัหรอืสเปรย ์ทสี่ามารถใชไ้ดส้ะดวกสบาย 
และเป็นการใชต้น้ทุนค่าและนาไปใชใ้นภาคสนามเพอื่ประ 
เมนิค่าใชจ้่ายและทศันคตกิารยอมรบัของประชาชนเพอื่ 
นาไปประเมนิความคุม้ค่าในการนาไปใชใ้นแผนงานโครง 
การแกปั้ญหาทางสาธารณสุขในการควบคุมจานวนยุงแล 
ะป้องกนัโรคต่างๆทเี่กดิจากยุง 
2. ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตย 
เป็นพชืทมี่กีลนิ่หอมเฉพาะ บางชนดิอาจมกีลนิ่แรง 
จงึทา ใหป้ระชาชนบางคนไม่ชอบไม่อยากใชด้งันนั้ควรทจี่ 
ะนาผลติภณัฑท์ไี่ดจ้าก ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ 
เปลอืกมะกรูดและใบเตยไปไว้ณ 
บรเิวณนนั้ทมี่อีากาศถา่ยเทสะดวก 
เพอื่จะไดก้ลนิ่สมุนไพรอ่อนและหอมสูดดมสดชนื่และยงัไ 
ม่เป็นอนัตรายต่อร่างกายหรอืผูใ้ช้

More Related Content

What's hot

รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้ารายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
chunkidtid
 
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์มเพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
กิตติพงศ์ วิศวะ
 
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดเทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
sornblog2u
 
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
Naddanai Sumranbumrung
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
bass-mail
 

What's hot (16)

รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้ารายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
รายงานเรื่องเห็ดนางฟ้า
 
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์มเพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
เพาะเห็ดฟางโดยใช้ทะลายปาล์ม
 
การเพาะเห็ดภายในบ้าน
การเพาะเห็ดภายในบ้านการเพาะเห็ดภายในบ้าน
การเพาะเห็ดภายในบ้าน
 
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดเทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
 
การเพาะเห็ดขอนขาว
การเพาะเห็ดขอนขาวการเพาะเห็ดขอนขาว
การเพาะเห็ดขอนขาว
 
เห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้าเห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้า
 
โครงงาน54เห็ด
โครงงาน54เห็ดโครงงาน54เห็ด
โครงงาน54เห็ด
 
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
ออกแบบและการวางแผนการทำโครงงาน2
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
3ภาคผนวก ค ผลการศึกษา รายชื่อเห็ด
3ภาคผนวก ค ผลการศึกษา รายชื่อเห็ด3ภาคผนวก ค ผลการศึกษา รายชื่อเห็ด
3ภาคผนวก ค ผลการศึกษา รายชื่อเห็ด
 
โครงงานเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยน้ำ
โครงงานเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยน้ำโครงงานเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยน้ำ
โครงงานเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยน้ำ
 
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
 
รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เชื้อเห็ดราเอคโตไมคอร์ไรซากับการเจริญเติบโตขอ...
รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เชื้อเห็ดราเอคโตไมคอร์ไรซากับการเจริญเติบโตขอ...รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เชื้อเห็ดราเอคโตไมคอร์ไรซากับการเจริญเติบโตขอ...
รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เชื้อเห็ดราเอคโตไมคอร์ไรซากับการเจริญเติบโตขอ...
 
การดำรงพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต
การดำรงพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตการดำรงพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต
การดำรงพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต
 
29 08-56
29 08-5629 08-56
29 08-56
 
11111
1111111111
11111
 

Similar to โครงงานวิท

Ipmแมลงศัตรูผัก
IpmแมลงศัตรูผักIpmแมลงศัตรูผัก
Ipmแมลงศัตรูผัก
Kaemkaem Kanyamas
 
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
dnavaroj
 
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืชหน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
varut
 
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
MukMik Melody
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์
Wan Ngamwongwan
 
Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8
Wichai Likitponrak
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
Suwimon Bausap
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
Suwimon Bausap
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
Suwimon Bausap
 
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
krunidhswk
 

Similar to โครงงานวิท (20)

อาณาจักรพืช
อาณาจักรพืชอาณาจักรพืช
อาณาจักรพืช
 
Ipmแมลงศัตรูผัก
IpmแมลงศัตรูผักIpmแมลงศัตรูผัก
Ipmแมลงศัตรูผัก
 
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
 
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศป.6
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศป.6ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศป.6
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศป.6
 
Plant
PlantPlant
Plant
 
wan
wanwan
wan
 
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืชหน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
หน่วยที่5การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
 
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
E0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b887e0b8b2e0b899e0b980e0b884e0b8a3e0b8b7e0b988e0b8a...
 
02life
02life02life
02life
 
What is life
What is lifeWhat is life
What is life
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์
 
การเก็บยาสมุนไพร
การเก็บยาสมุนไพรการเก็บยาสมุนไพร
การเก็บยาสมุนไพร
 
Minibook pdf 931 number 5,6,15,32
Minibook pdf 931 number 5,6,15,32Minibook pdf 931 number 5,6,15,32
Minibook pdf 931 number 5,6,15,32
 
Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
 
ส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืชส่วนประกอบของพืช
ส่วนประกอบของพืช
 
การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)การถ่ายละอองเรณู (T)
การถ่ายละอองเรณู (T)
 
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
 

โครงงานวิท

  • 1. โครงงาน เรอื่งสมุนไพรไล่ยุง วชิา กจิกรรมสรา้งสรรคป์ระโยชน(์Creativity Action Service) จดัทาโดย นายอนุสรณ์ เปาะสะเกษ เลขที่39 นางสาวสุวนนัท ์ไสยาสน ์เลขที่48 นกัเรยีนชนั้มธัยมศกึษาปีที่/2 เสนอ นางสาวปราณปรยีา คุณประทุม โรงเรยีนแกง้ครอ้วทิยา สานกังานเขตพนื้ทกี่ารศกึษามธัยมศกึษาชยัภู มิเขต 30 อาเภอแกง้ครอ้ จงัหวดัชยัภูมิ
  • 2. บทคดัย่อ การเปรยีบเทยีบผลของกลนิ่ตะไครห้อม(cy mbopogon citratus (DC)Staph ) ขมนิ้ (Curcuma longa linnaeus) เปลอืกสม้(Citrus senesis L. Osbeck) เปลอืกมะกรูด(Citrus x hystrix L.) และใบเตย(Pandanus tectorius)ต่อยุง การเปรยีบเทยีบผลของกลนิ่ ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยทมี่ผีลต่อยุงโดยมวีตัถุประสงคเ์พื่ อศกึษาคุณสมบตักิลนิ่ของตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยเพอื่เปรยีบเทยีบกลนิ่ทมี่ตี่อยุงนา ไปกบับา้น 3 หลงัหลงัละ 2หอ้งในชุมชนโดยนาสมุนไพรแต่ละชนดินาไปลา้งนา้ทา ความสะอาดแลว้หนั่เป็นชนิ้เล็กๆต่อจากนนั้ก็นาไปตากแห้ งหลงัจากนนั้นาสมุนไพรไปนงึ่ประมาณ 20 นาทพีอนงึ่เสร็จ ก็นาไปผงึ่แดดใหแ้หง้เพอื่ไลค่วามชนื้ออก จากนนั้ทา การเปิดหนา้ต่างหอ้งเพอื่ใหยุ้งเขา้ไปยู่เป็นเวลา 1 วนัทุกหอ้งหลงัจากนนั้นาสมุนไพรแต่ละชนดิมาห่อใสถุ่งต าข่ายทจี่ะทา การทดลองแลว้มดัจุกแลว้เอาไปทงิ้ไวแ้ต่ละห้ องจานวนหอ้งละ 10 จุก ทา การสงัเกตทุกๆ 30 นาที จนครบ 2ชวั่โมง หาจานวนปรมิาณยุงทตี่ายในแต่ละหอ้งทใี่ชส้มุนไพร 5 ชนดิคอื ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยไดผ้ลดงันคี้อื กลนิ่ทมี่ฤีทธใิ์นการไลยุ่งไดด้ทีสีุ่ดคอืตะไครห้อมจานวนยุ งทตี่ายคอื 20 ตวั ขมนิ้ยุงตาย 14 ตวั เปลอืกสม้ยุงตาย 12 ตวั สว่นกลนิ่ทมี่ฤีทธไิ์ลยุ่งนอ้ยทสีุ่ดคอื ใบเตยและเปลอืกมะกรูด คอืยุงตาย 4 ตวั
  • 3. กติตกิรรมประกาศ ขอขอบพระคุณอาจารยป์ราณปรยีา คุณประทุม ครูทปี่รกึษาโครงงานวจิยั ทกี่รุณาใหค้วามเชอื่เหลอืและใหค้าปรกึษาแกไ้ขปัญหาจ นโครงงานเสร็จสมบรูณ์ ขอขอบพระคุณ นายไพรรมณ์ โสดาวรรณ และนางรชัณีพรรณ โสดาวรรณทชี่่วยเหลอืดา้นสถานที่ ทา การทดลองโครงงานวจิยัฉบบันี้ ขอขอบคุณเพอื่นๆทุกคนทคี่อยตชิมผลงานและนาไปสูก่า รแกไ้ขเพอื่ใหผ้ลงานมคีุณภาพทดีี่
  • 4. บทที่1 บทนา ทมี่าและความสาคญั ยุง (MOSQUITOES) ยุงเป็นแมลงทพี่บไดท้วั่โลกแต่พบม ากในเขตรอ้นและเขตอบอุ่น จากหลกัฐานทางฟอสซิลสามารถสนันษิฐานไดว้่า ยุงไดถ้อืกา เนดิขนึ้ในโลกตงั้แต่ยุคดกึดาบรรพเ์มอื่ประมา ณ 38-54 ลา้นปีมาแลว้ ปัจจุบนัพบว่าในโลกนมี้ยีุงประมาณ 3,450 ชนดิ สว่นในประเทศไทยพบว่ามยีุงอย่างนอ้ย 412 ชนดิ มชีอื่เรยีกตามภาษาไทยแบบง่าย ๆ คอื ยุงลาย ( Aedes ) ยุงราคาญ ( Culex ) ยุงกน้ปลอ่ง ( Anopheles ) ยุงเสอืหรอืยุงลายเสอื ( Mansonia ) และ ยุงยกัษห์รอืยุงชา้ง (Toxorhynchites ) ซึ่งไม่ครอบคลุมสกุลของยุงทงั้หมดทมี่อียู่ สว่น “ ยุงด า ” ทปี่รากฏในต ารางเรยีนของกระทรวงศกึษานนั้ไม่สามารถระบุไดว้่าหมา ยถงึยุงอะไรจงึควรตดัออก ยุงเป็นแมลงทมี่ขีนาดเล็กโดยทวั่ไปมขีนาดลา ตวัยาว 4-6 มม . บางชนดิมขีนาดเล็กมาก 2-3 มม . และบางชนดิอาจยาวมากกว่า 10 มม . ยุงมสีว่นหวั อก และทอ้ง มองเห็นไดอ้ย่างชดัเจนและสามารถแยกออกจากแมลงช นดิอนื่ ไดอ้ย่างง่ายๆ โดยสงัเกตจากรูปพรรณสณัฐาน
  • 5. ดงัต่อไปนคี้อื มปีากคลา้ยงวง ยนื่ยาวออกไปขา้งหนา้ และมปีีกสา หรบับนิ 1 คู่ ยุงมวีงจรชวีติแบบสมบูรณ์ (holometabolous) ซึ่งประกอบดว้ย ไข่ (egg) ลูกนา้ (larva; พหูพจน ์=larvae) ตวัโม่ง (pupa; พหูพจน ์ =pupae) และยุงตวัแก่(adult) ยุงเมอื่ลอกคราบออกจากระยะตวัโม่งไดไ้ม่กนี่าทกี็สามาร ถออกบนิไดเ้ลย อาหารทใี่ชใ้นระยะนขี้องทงั้ตวัผูแ้ละตวัเมยีเป็นนา้หวานจ ากดอกไมห้รอืตน้ไม้ การผสมพนัธุส์ว่นใหญ่เกดิขนึ้ในอากาศ บางชนดิการผสมพนัธุเ์กดิขนึ้ในขณะทยีุ่งตวัผูม้กีารบนิวน เป็นกลุม่ (swarming) โดยเฉพาะเวลาหวัค่า และใกลรุ้่ง ตามพุ่มไม้บนศรีษะ ทุง่โลง่ หรอืบรเิวณใกลก้บัเหยอื่ เป็นตน้ และตวัเมยีจะบนิเขา้ไปเพอื่ผสมพนัธุ ์ ยุงตวัเมยีสว่นใหญ่ผสมพนัธุเ์พยีงครงั้เดยีวโดยทเี่ชอื้อสุจิ จากตวัผูจ้ะถูกกกัเก็บในถุงเก็บนา้เชอื้ ซึ่งสามารถใชไ้ปไดต้ลอดชวีติของมนั สว่นยุงตวัผูส้ามารถผสมพนัธุไ์ดห้ลายครงั้ ยุงตวัเมยีทจี่บัไดต้ามธรรมชาตมิกัมเีชอื้อสุจอิยู่ในถุงเก็บ นา้เชอื้เสมอ ยุงตวัเมยีเมอื่มอีายุได้2-3 วนัจงึเรมิ่ออกหากนิเลอืดคนหรอืสตัวเ์พอื่นาเอาโปรตนีแล ะแร่ธาตุไปใชส้า หรบัการเจรญิเตบิโตของไข่ในรงัไข่ แต่มยีุงบางชนดิทไี่ม่จาเป็นตอ้งกนิเลอืดก็สามารถสรา้งไ ข่ในรงัไข่ได้เช่น ยุงยกัษ ์ เลอืดทกี่นิเขา้ไปถูกย่อยหมดไปในเวลา 2-4 วนั แต่ถา้อากาศเย็นลงการย่อยจะใชเ้วลานานออกไป เมอื่ไข่สุกเต็มทยีุ่งตวัเมยีจะหาแหลง่นา้ทเี่หมาะสมในการว างไข่ หลงัจากวางไข่แลว้ยุงตวัเมยีก็ออกดูดเลอืดใหม่และวางไ ข่ไดอ้กี บางชนดิทมี่อีายุยนืมากอาจไข่ไดร้่วม 10 ครงั้ แต่ละครงั้ห่างกนัประมาณ 4-5 วนั แต่อาจเร็วกว่าหรอืนานกว่า
  • 6. ขนึ้อยู่กบัอุณหภูมแิละชนดิของยุง สว่นยุงตวัผูต้ลอดอายุขยัจะกนิอาหารจากแหลง่นา้หวานข องดอกไมห้รอืพชืทผี่ลตินา้ตาลในธรรมชาติ ในภูมปิระเทศเขตรอ้นตวัโม่งจะใชเ้วลา 2-4 วนั ยุงตวัเต็มวยัลอกคราบออกมาไม่กนี่าทกี็สามารถบนิได้ ยุงตวัเมยีบางชนดิชอบกดักนิเลอืดคน philic) บางชนดิชอบกนิเลอืดสตัว ์(zoophilic) บางชนดิกดัดูดเลอืดโดยไม่เลอืก ยุงสามารถเสาะพบเหยอื่ไดโ้ดยอาศยัปัจจยัหลายประการ เช่น กลนิ่ตวั คารบ์อนไดออกไซด ์( ทอี่อกมาจากลมหายใจ ) หรอือุณหภูมขิองร่างกาย นสิยัการกนิเลอืดของยุงมคีวามสา คญัในดา้นการแพร่เชอื้ โรคหรอืปรสติต่าง ๆ ยุงสว่นมากจะบนิกระจายจากแหลง่เพาะพนัธุไ์ปไดไ้กลออ กไปในรศัมปีระมาณ 1-2 กโิลเมตร โดยบนิทวนลมตามกลนิ่เหยอื่ไป กระแสลมทแี่รงอาจทา ใหยุ้งบางชนดิแพร่ออกจากแหลง่เ พาะพนัธุไ์ปไดไ้กลยงิ่ขนึ้ ในปัจจุบนัยุงสามารถแพร่ไปจากประเทศหนงึ่ไปสูป่ระเทศ หนงึ่หรอืทวปีหนงึ่ไปยงัอกีทวปีหนงึ่ โดยอาศยัเครอื่งบนิ เรอืหรอืรถยนตโ์ดยสาร ในประเทศเขตรอ้น ยุงตวัเมยีสว่นใหญ่สามารถมชีวีติอยู่ได้2-3 สปัดาห ์ หรอืถา้อุณหภูมิ ความชนื้และแสงสว่างเหมาะสมก็อาจนานถงึ 4-6 สปัดาห ์ หรอืนานกว่านี้สว่นยุงตวัผูโ้ดยทวั่ไปมอีายุประมาณ 1 สปัดาห ์ ยุงกน้ปลอ่งมคีวามสา คญัในทางการแพทยโ์ดยเฉพาะเป็น พาหนะโรคมาลาเรยี ในประเทศไทยเทา่ทพี่บในปัจจุบนัมยีุงกน้ปลอ่งอย่างนอ้ย 73 ชนดิ แต่มเีพยีง 3 ชนดิทเี่ป็นพาหนะสา คญั สงัเกตยุงชนดินไี้ดง้่ายเวลามนัเกาะพกั
  • 7. จะยกกน้ชเี้ป็นปลอ่ง ยุงลายทพี่บตามบา้นเรอืนหรอืชนบท (Aedes. aegypti, และ Aedes albopictus ) เป็นพาหนะสา คญัของโรคไขเ้ลอืดออก สว่นยุงลายป่าเป็นพาหะโรคเทา้ชา้ง ยุงลายชนดิ Ae.aegyptiหรอื ยุงลายบา้น พบบอ่ยเป็นประจาในเขตเมอืง มขีนาดค่อนขา้งเล็ก บนิไดว้่องไว บน scutum มลีายสขีาวรูปเคยีว 2 อนัอยู่ดา้นขา้ง มขีาลายชดัเจน ยุงชนดินเี้พาะพนัธุใ์นภาชนะทมี่นีา้ขงัทุกขนาดทงั้ในและ นอกบา้น ชอบกดักนิเลอืดคนมากกว่ากนิเลอืดสตัว ์ มกัหากนิเวลากลางวนัช่วงสายและบา่ย ยุงลายชอบเขา้กดัคนทางดา้นมดืหรอืทมี่เีงาโดยเฉพาะบริ เวณขาและแขน ขณะทกี่ดัมกัไม่ค่อยรูส้กึเจ็บ คนถูกกดัจงึไม่รูส้กึตวั ยุงAe. aegyptiกดัทงั้ในบา้นและนอกบา้น และเกาะพกัตามมุมมดืในหอ้ง โอ่ง ไห หรอืตามพุ่มไมท้เี่ย็นชนื้ ยุงลายอกีชนดิหนงึ่ คอื Ae.albopictusพบไดท้วั่ไปในเขตชานเมอืง ชนบทและในป่า มลีวดลายที่scutum แตกต่างจาก Ae. aegypti คอืมแีถบยาวสขีาวพาดผ่านตรงกลางไปตามคว ามยาวของลา ตวั เพาะพนัธุใ์นภาชนะทมี่นีา้ขงั กระบอกไม้ โพรงไม้กะลามะพรา้ว ใบไม้ฯลฯ ยุงชนดินมี้อีุปนสิยัคลา้ย ๆ กบั Ae.aegyptiแต่มคีวามว่องไวนอ้ยกว่ายุงราคาญมหีลา ยชนดิทไี่ม่ใช่กอ่ความราคาญเพยีงอย่างเดยีว แต่เป็นพาหะทสี่า คญัของทงั้ไวรสัไขส้มองอกัเสบและโรคเ ทา้ชา้ง ลูกนา้ยุงราคาญมกัอาศยัอยู่ในนา้ไม่ว่าจะเป็นนา้นงิ่หรอื นา้ไหล ทคี่่อนขา้งสกปรกทมี่ไีนโตรเจนสูงหรอืมกีารหมกัเน่าของ พชื ยุงราคาญ ทพี่บบอ่ยในเขตเมอืง ไดแ้ก่Culex quinquefasciatusเป็นยุงสนีา้ตาลอ่อน
  • 8. เพาะพนัธุใ์นนา้เสยี ตามร่องระบายนา้ คูและหลุมบอ่ต่าง ๆ ยุงราคาญพบบอ่ยในชนบท ไดแ้ก่Cx. tritaeniorhynchusและ Cx. vishnu, เนอื่งจากมทีอ้งนาเป็นแหลง่เพาะพนัธุห์ลกั โดยเฉพาะช่วงทไี่ถนา และบรเิวณหญา้แฉะรกรา้ง จงึมมีากในฤดูฝน ยุงชนดินชี้อบกดัสตัว ์พวกววั ควายและหมูมากกว่าคน นอกจากกอ่ความราคาญแลว้ยงัเป็นพาหนะนาโรคไขส้มอ งอกัเสบ ยุงทกี่อ่ความราคาญอกีสกุลหนงึ่ทมี่กักดัในเวลาพลบค่า มขีนาดใหญ่บนิชา้ๆ และกดัเจ็บ คอื ยุง Armigeres ไม่มชีอื่ภาษาไทย ยุงลายเสอืหรอืยุงเสอื ลา ตวัและขามลีวดลายค่อนขา้งสวยงาม บางชนดิมสีเีหลอืงขาวสลบัดาคลา้ยลายของเสอืโคร่ง เช่น Ma. uniformis บางชนดิมลีายออกเขยีว คลา้ยตุ๊กแก เช่น Ma. annulifera ยุงเหลา่นชี้อบเพาะพนัธุใ์นบรเิวณทเี่ป็นหนอ ง คลอง บงึ สระ ทมี่พีชืนา้พวก จอกและ ผกัตบชวา อยู่ ยุงลายเสอืหลายชนดิเป็นพาหะของโรคเทา้ชา้งในภาคใต้ ของประเทศไทย บางชนดิเป็นพาหะบรเิวณชายแดนไทย - พม่า ในประเทศไทยมยีุงเป็นพาหนะนาโรคอยู่มากเนอื่งจากสภ าพแวดลอ้มเหมาะกบัการเจรญิเตบิโตของยุง ทา ใหม้ผีูป้่วยและเสยีชวีติมาก กรมควบคุมโรคตดิต่อ กระทรวงธารณสุขจงึไดจดัทา โครงการควบคุมยุงในประเ ทศไทยมาตงั้แต่ปี พ.ศ.2493 จนถงึปัจจุบนั จากการตดิตามเฝ้าระวงัสถานการณ์โรคไขเ้ลอืดออกในปี 2551ในรอบ10สปัดาห ์ตงั้แต่เดอืนมกราคมถงึวนัที่8 มนีาคม ทวั่ประเทศมรีายงานผูป้่วยแลว้ 5,836 ราย เสยีชวีติ 7 รายจานวนผูป้่วยสูงกว่าช่วงเดยีวกนัในปีทผี่่านมาถงึรอ้ย ละ 77 พบในภาคกลางมากทสีุ่ด 3,669 ราย เสยีชวีติ 6
  • 9. รายรองลงมาคอืภาคใตป้่วย 1,015 ราย เสยีชวีติ 1 ราย ภาคเหนอืป่วย 655ราย และภาคตะวนัออกเฉยีงเหนอืป่วย 498 ราย สว่น ใน กทม. พบป่วย 1,037 ราย ยงัไม่มรีายงานการเสยีชวีติ การป้องกนัและควบคุมยุงในปัจจุบนันจี้งึตอ้งคานงึถงึควา มปลอดภยัของมนุษย ์ สงิ่มชีวีติชนดิอนื่ๆและสงิ่แวดลอ้มเป็นอนัดบัแรก สา หรบัประเทศไทยนนั้ เป็นทนี่่ายนิดอีย่างยงิ่ทปี่ระเทศของเรามพีชืพรรณไมท้ขีึ่้ นเองตามธรรมชาติหรอืนามาเพาะปลูกไดไ้ม่นอ้ยกว่า 20,000ชนดิ ซึ่งคดิเป็นรอ้ยละ 8 ของพชืพรรณไมท้มี่อียู่ในโลกนี้ และมพีชืพรรณไมไ้ม่นอ้ยกว่า 500 ชนดิ ทบี่รรพบุรุษของเราไดคดัเลอืกมาอย่างชาญฉลาด เพอื่นามาใชเ้ป็นอาหารและสมุนไพรพนื้บา้นทใี่ชใ้นการรกั ษาโรคภยัไขเ้จ็บซึ่งภูมปิัญญาทอ้งถนิ่นถี้อืเป็นบรรพบุรุษข องการวจิยั ทชี่แี้ละเนน้ใหเ้ห็นของขุมทรพัยอ์นัมคี่าของพชืสมุนไพรที่ คนยุคใหม่อย่างพวกเราสามารถนามาศกึษาวจิยัต่อยอด หรอืนามาเพอื่ประยุกตใ์ชใ้นดา้นอนื่ๆไดอ้กีมากมายสมุนไ พรหรอืพชืพนื้บา้นหลายชนดิทเี่รารูจ้กักนัเป็นอย่างดีเช่น ตะไครห้อม เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูด เตย และ ขมนิ้ ซึ่งมสีารเคมทีสี่ามารถใชใ้นการกา จดัลูกนา้ได้ จากการสงัเกตเห็นว่า ตะไครห้อมมฤีทธใิ์นการไลยุ่งไดดี้ ตะไครห้อมมปีระสทิธภิาพสูงในการไลยุ่งซึ่งเป็นพาหนะ สา คญัในการน าโรคไขเ้ลอืดออก โรคไขม้าลาเลยี และโรคอนื่ๆในประเทศไทยและต่างประเทศ ขอ้ดขีองตะไครห้อมอกีอย่างหนงึ่คอืมกีลนิ่หอมไม่กอ่ใหเ้ กดิมลภาวะมคีวามคงตวัทางชวีภาพสูงเก็บรกัษาไวไ้ดน้าน โดยทกี่ารออกฤทธไิ์ลยุ่งยงัมปีระสทิธภิาพดี ดงันนั้การทดลองครงั้นไี้ดศ้กึษาสมุนไพรทสี่ามารถไลยุ่งไ ด้เพอื่ช่วยในการไลยุ่งไม่ใหยุ้งกดัและแพร่เชอื้
  • 10. ซึ่งจะนามาสูโ่รคต่างๆได้ การป้องกนัยุงกดัเป็นวธิทีสี่ามารถลดความราคาญทเี่กดิจ ากยุงและลดความเสยี่งในการตดิเชอื้ทมี่ยีุงเป็นพาหะ บทที่2 บทตรวจเอกสาร ยุงเป็นแมลงทมี่กีารแพร่กระจายอยู่ทวั่โลก มรีายงานพบเกอืบทุกพนื้ทที่งั้ในเขตรอ้น เขตอบอุ่น เขตหนาว ยุงมคีวามสา คญัทางการแพทยใ์นแง่เป็นพาหะแพร่เชอื้โร คหรอืปรสติต่างๆ ผ่านทางการกนิเลอืด ซึ่งการกดัของยุงนอกจากจะกอ่ใหเ้กดิความราคาญ สูญเสยีเลอืด หรอืในบางรายอาจมอีาการแพโ้ปรตนีในนา้ลายยุงอย่างรุ นแรง ทา ใหเ้กดิตุ่มหรอืแผลพุพองบรเิวณผวิหนงั การกดักนิเลอืดของยุงหลายชนดิสามารถนาโรคตดิต่อรา้ ยแรงมาสูม่นุษยไ์ดอ้กีดว้ย ดงันนั้การควบคุมโรคตงั้แต่อดตีจนถงึปัจจุบนัจงึเนน้ไปที่ การควบคุมยุงพาหะเป็นสา คญั ซึ่งสามารถทา ไดห้ลากหลายวธิแีละมวีวิฒันาการมาเรอื่ยๆ โดยวธิทีใี่หผ้ลดทีสีุ่ดในการกา จดัยุงพาหะ คอื การใชส้ารเคมสีงัเคราะหห์รอืสารฆ่าแมลง ซึ่งสารเคมทีนี่ยิมใชใ้นปัจจุบนัมมีากมายหลายชนดิ เช่น Abate, Fenthion, Fenitrothion, 2-hydroxy-methyl- cyclohexyl acetic acid lactone (CIC-4), Permethrin, และ Dieldrin อย่างไรก็ตามจากการศกึษาพบว่าสารเคมเีหลา่นแี้มจ้ะใช้ ไดผ้ลดีมปีระสทิธภิาพสูง แต่จะมอีนัตรายหรอืมผีลขา้งเคยีงต่อคนและสตัวเ์ลยี้ง รวมไปถงึแมลงอนื่ๆ
  • 11. เป็นตน้โดยประโยชนท์างเกษตรกรรม นกัวทิยาศาสตรท์วั่โลกไดพ้ยายามหาวธิกีารต่างๆ มาใชใ้นการควบคุมยุงพาหะทดแทนการใชส้ารเคมีอาทิ การใชส้ารสกดัจากธรรมชาติ(Natural chemicals) การใชส้งิ่มชีวีติตามธรรมชาตมิาควบคุมกนัเอง (Biological control) การจดัการทางสภาพแวดลอ้ม (Environmental management) การใชเ้ครอื่งมอืในการกา จดัแมลง (Mechanical control) และการใชว้ธิคีวบคุมหลายๆ วธิมีาประกอบกนั (Integrated control) เพอื่ใหส้ามารถควบคุมยุงไดอ้ย่างมปีระสทิธภิาพมากยงิ่ขึ้ น กลุม่นกัเรยีนเจา้ของโครงงานเรอื่ง ศกึษาผลของสารจากใบในการกา จดัยุงกน้ปลอ่งและยุงล าย ประกอบดว้ย นางสาวสุวนนัท ์ไสยาสน,์ นายอนุสรณ ์เปาะสะเกษ โดยเรามคีวามเห็นว่า การใชส้ารสงัเคราะหท์างเคมี ในการฆ่าลูกนา้ยุงป้องกนัการวางไข่ของยุงและไลยุ่งนนั้ กอ่ใหเ้กดิโทษต่อสงิ่มชีวีติและสงิ่แวดลอ้ม พวกเธอและเขาจงึมแีนวคดิว่าน่าจะทดลองสกดัสารจากพื ชบางชนดิ เพอื่นามาใชใ้นการกา จดัยุงแทน โดยไดศ้กึษาหาสารสกดัจากพชื ทมี่ผีลต่อยุงรา้ย 2 ชนดิ คอื ยุงกน้ปลอ่งและยุงลาย โครงงานวทิยาศาสตรข์องนกัเรยีนกลุม่นี้ นบัเป็นโครงงานทนี่่าสนใจโครงงานหนงึ่ในการหาวธิกีาร กา จดัยุง ดว้ยสารทปี่ลอดภยัต่อสงิ่แวดลอ้ม
  • 12. บทที่3 วธิกีารดาเนนิงาน 3.1 วธีกีารทดลอง การศกึษาครงั้นเี้ป็นการศกึษาเปรยีบเทยีบเชงิทดลอง เพอื่ศกึษากลนิ่ของตะไครห้อมเปลอืกมะกรูด เตย และขมนิ้ทที่สี่ามารถไลยุ่งไดซึ้่งกลนิ่สมุนไพรแต่ละชนดิ ทใี่ชใันการทดลองไดจ้ากการศกึษา หนงัสอืวรรณกรรมภูมปิัญญา และทดลองแลว้นากลนิ่สมุนไพรแต่ละชนดิมาทดลองในบ้ านทมี่ลีกัษณะบรเิวณทปี่ลูกใกลเ้คยีงกนั ขนั้ตอนการศกึษา ยุง สถานที่ สมุนไพร เรานาลูกน้าที่ยู่ตามที่ต่างๆมาเพาะเลี้ยงจนได้ตัวยุงรว เราเลือกบ้าน นาสมุนไพรคือ
  • 13. มทั้งยุงในธรรมชาติก็คือเราจะเลือกบ้านที่ใช้ในการทด ลองคือบริเวณชุมชนศรีสง่าโดยการเปิดหน้าต่างห้องน อนไว้เป็นเวลา 1 วัน ให้ยุงเข้ามาอยู่ในห้อง จานวน 3 หลังที่อยู่ใกล้ เคียงกันบริเว ณหมู่บ้านศรี สง่า ซึ่งมีต้นไม้ จานวนมาก ตะไคร้หอม ใบเตย เปลือกมะกรูด เปลือกส้ม และขมนิ้ มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นาไปตากแห้งในที่ร่มแ ล้วนามานึ่งประมาณ 20 นาทีหลังจากน้นันาไป ผึ่งเพื่อไล่ความชื้นพอเ สร็จแล้วนาบรรจุตาข่า ยอย่างละ 10 ก้อนเพื่อทาการทดลอง ประสิทธิภาพโดยนาไป ทิ้งไว้ในห้อง 3.2 สถานทที่า การทดลอง ภาคสนาม บา้นศรสีง่า จงัหวดัชยัภูมิบรเิวณทมี่ยีุงชุกชุม เป็นแหลง่ทมี่กีารศกึษาและรวบรวมขอ้มูลทเี่กยี่วกบัยุง 3.3 วสัดุและอุปกรณ์ทไี่วใ้นการทดลอง 1.ยุง 2.เปลอืกมะกรูด 3.เปลอืกสม้ 4.ใบเตย 5.ตะไคร้ 6.ขมนิ้ 7.เขยีง 8.มดี 9.ภาชนะสา หรบันงึ่
  • 14. 10.กระดง้ 11.ผา้ขาวบาง 3.4 วธิกีารทดลอง 1.การเก็บตวัอย่างสตัวท์ดลอง สา รวจแหลง่ชุมชนบรเิวณ หมู่บา้นศรสีง่าจงัหวดัชยัภูมิ เพอื่หาดูบรเิวณทมี่นีา้ขงัและยุงชุกชุม และหลงัจากนนั้เก็บตวัอย่างใสใ่นขวดเก็บตวัอย่าง แลว้นาลูกนา้ทไี่ดท้งั้หมดมารวมกนัเพาะเอาตวัยูงเพอื่ใหไ้ ดข้นาดเทา่กนั 2.การเก็บตวัอย่างพชืสมุนไพร นาตะไครห้อม เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ ใบเตยและขมนิ้ ลา้งนา้ใหส้ะอาดแลว้น าสมุนไพรทงั้ 5 ชนดิผงึ่ใหแ้หง้ ขนั้ตอนการทาถุงหอมไล่ยุง -นา้สมุนไพรทงั้ 5 ชนดิ มาหนั่ใหม้ขีนาดเล็กลง แลว้นาไปผงึ่แดด 1 วนั -นา้สมุนไพรแต่ละ ชนดิมานงึ่โดยใชเ้วลา 30 นาที - นา้สมุนแต่ละชนดิไปทดลองกบัยุงโดยนาสมุนไพรในปรมิ าณ1 ชอ้นโต๊ะห่อใสผ่า้ตาข่ายแลว้นาไปอุดไวท้ภี่าชนะเพ าะยุง -เมอื่ทราบผลการทดลองแลว้น าสมุนไพรมาผสมกนัชนดิละ 1ชอ้นโต๊ะ -บรรจุสมุนไพรทผี่สมกนัแลว้ใสถุ่งตาข่ายถุงละ 1ชอ้นโต๊ะ และตกแต่งใหส้วยงาม
  • 15. บทที่4 ผลการวเิคราะหข์อ้มูลและการอภปิรายผล ศกึษากลนิ่ของ ตะไครห้อม(Cymbopogon citratus (DC.) Staph)เปลอืกมะกรูด(Citrus x hystrix L.) (Curcuma longa Linnaeus)ต่อยุง ในรูปร่างลกัษณะทใี่กลเ้คยีงกนัจานวน 20 ตวั โดยทา การเปรยีบเทยีบกลนิ่ของ ตะไครห้อม เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ ใบเตย และขมนิ้ โดยการตากแหง้แลว้นาไปนงึ่ในเวลา 20 นาที ไดก้ลนิ่สมุนไพรจากพชื 5 ชนดิ ดงันี้ตะไครห้อม 10 ห่อ เปลอืกมะกรูด 10 ห่อ เปลอืกสม้ 10 ห่อ ใบเตย 10 ห่อ และขมนิ้ 10 ห่อ แลว้นากลนิ่ของสมุนไพรทไี่ดไ้ปทดลองประสทิธภิาพ
  • 16. ทมี่ตี่ออตัราการตายในกลนิ่ของสมุนไพรแต่ละชนดิ จากการทดลองในทุก 30 นาที นาผลการทดลองจานวนยุงทา เป็นตารางแสดงผลเพอื่หา ความสมัพนัธ ์ระหว่างความเขม้ขน้ของ ตะไครห้อม เปลอืกมะกรูด เปลอืกสม้ ใบเตยและขมนิ้กบัอตัราการตายของยุง ตารางแสดงการตายของยุง สถานที่(ห้อง) สมุนไพร เวลา(นาที) 30 60 90 120 ห้องที่1 ตะไคร้หอม 8 13 18 20 ห้องที่2 ขมนิ้ 3 6 11 14 ห้องที่3 เปลือกส้ม 5 7 10 12 ห้องที่4 เปลือกมะกรูด - 2 3 5 ห้องที่5 ใบเตย - - 1 4 ห้องที่6 สมุนไพร 5 ชนิดรวมกัน 7 16 23 28 จากการทดลองพบว่าจานวนการตายของยุงใน แต่ละ 30 นาที มคีวามแตกต่างกนัในแต่ละชนดิและกลนิ่ของสมุนไพร โดยกลนิ่ของตะไครห้อมใน 30 นาที มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งดทีสีุ่ด ยุงตายจานวน 8ตวั รองลงมาคอืขมนิ้ทเี่วลา 1 ชวั่โมงแรก ยุงตายจานวน 6 ตวั และเปลอืกสม้ทเี่วลา 30 นาทียุงตาย 5ตวั และเปลอืกมะกรูดใบเตยในเวลา 1ชวั่โมง มปีระสทิธภิาพนอ้ยในการไลยุ่งและเมอื่นาสมุนไพร 5 ชนดิมารวมกนัทดลองในเวลา 30 นาที มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งมากทสีุ่ด ในช่วงเวลา 30นาทแีรก ยุงตายจานวน 28 ตวั
  • 17. บทที่5 บทสรุป 5.1 สรุปผลการทดลอง 1. การทดลองเปรยีบเทยีบกลนิ่ของสมุนไพรทมี่ผีลต่อไลยุ่ง ภายใน 2 ชวั่โมง จากการนา ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยมานงึ่ในเวลา 20 นาทสีามารถทา ใหก้ลนิ่ของสมุนไพรทงั้ 5 ชนดิมกีลนิ่หอมมาก แลว้น าสมุนไพรทนี่งึ่เสร็จแลว้ไปผงึแดดในเวลา 1 นาที
  • 18. เพอื่ทจี่ะไดใ้หไ้อนา้ละเหยออกซึ่งสมุนไพรจะไม่อบัและมกี ลนิ่หอมมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งทา ใหยุ้งบนิหรอืตายได้ ภายในเวลา 2 ชวั่โมง โดยเรานบัช่วงเวลาเป็นช่วง 30 - 60 - 90 – 90 โดยเรานาสมุนไพรทุกชนดิมาใสใ่นถุงหอมอย่างละ 1 กโิลกรมั พบว่ากลนิ่ของสมุนไพร ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูด และใบเตยมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งไดม้ากทสีุ่ดทมี่ปีรมิ าณ 1 กโิลกรมัเทา่ๆกนั ในถุงหอมขนาด 8x8 นวิ้ 2. กลนิ่ของสมุนไพรแต่ละชนดิมปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งไ ดด้ตี่อยุง กลนิ่ของตระไครห้อมและขมนิ้มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่ง ดทีสีุ่ด กลนิ่ทสี่ามารถไลยุ่งไดด้ทีสีุ่ดคอืตะไครห้อมลองลงมาคอื ขมนิ้ และเปลอืกสม้รวมถงึสมุนไพรแต่ละชนดิมสีรรพคุณรกัษา โรคไดอ้กี 5.2 การประยุกตผ์ลการทดลอง การศกึษานนี้าไปประยุกตใ์ชใ้นทางปฏบิตัไิด้เช่น มุมหอ้งภายในบา้น หนา้รถ ในหอ้งนา้ หอ้งครวัและในตูเ้สอื้ผา้นาถุงหอมสมุนไพรแขวนไว้ณ บรเิวณนนั้ ซึ่งจากการทดลองพบว่ากลนิ่ของสมุนไพรทงั้ 5 ชนดิ รวมกนัอย่างละ1 กโิลกรมั มปีระสทิธภิาพในการไลยุ่งทดี่ทีสีุ่ด ถา้กลนิ่ของสมุนไพรอ่อนกลนิ่ลงเราก็สามารถนาไปนงึ่ให ม่ไดอ้กี ทา ใหช้่วยประหยดัดว้ยซึ่งถอืไดว้่ากลนิ่ของสมุนไพรค่อน ขา้งมผีลดตี่อสงิ่แวดลอ้มและยงัเป็นพชืสมุนไพรทใี่ชใ้นก ารประกอบอาหาร จงึไม่เป็นอนัตรายต่อชวีติและสงิ่แวดลอ้ม
  • 19. 5.3 ขอ้เสนอแนะในการทดลอง 1. ควรทา การศกึษาความเป็นพษิของ ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยทมี่ตี่อยุงโดยสามารถนาไปประยุ กตเ์ป็นสารสกดัหรอืสเปรย ์ทสี่ามารถใชไ้ดส้ะดวกสบาย และเป็นการใชต้น้ทุนค่าและนาไปใชใ้นภาคสนามเพอื่ประ เมนิค่าใชจ้่ายและทศันคตกิารยอมรบัของประชาชนเพอื่ นาไปประเมนิความคุม้ค่าในการนาไปใชใ้นแผนงานโครง การแกปั้ญหาทางสาธารณสุขในการควบคุมจานวนยุงแล ะป้องกนัโรคต่างๆทเี่กดิจากยุง 2. ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตย เป็นพชืทมี่กีลนิ่หอมเฉพาะ บางชนดิอาจมกีลนิ่แรง จงึทา ใหป้ระชาชนบางคนไม่ชอบไม่อยากใชด้งันนั้ควรทจี่ ะนาผลติภณัฑท์ไี่ดจ้าก ตะไครห้อม ขมนิ้ เปลอืกสม้ เปลอืกมะกรูดและใบเตยไปไว้ณ บรเิวณนนั้ทมี่อีากาศถา่ยเทสะดวก เพอื่จะไดก้ลนิ่สมุนไพรอ่อนและหอมสูดดมสดชนื่และยงัไ ม่เป็นอนัตรายต่อร่างกายหรอืผูใ้ช้