1. บทที่ 18
เรื่อง การพิมพ์งานนาเสนอออกทางเครื่องพิมพ์
1. การกาหนดรายละเอียดต่างๆ บนสไลด์
ก่อนที่จะพิมพ์งานนาเสนอออกทางเครื่องพิมพ์ เราสามารถกาหนดเลขหน้า วันที่ เวลา หรือ
ข้อความแสดงที่ส่วนท้ายของสไลด์ได้ ดังนี้
1.1 ใส่หัวกระดาษและท้ายกระดาษ (Header and Footer)
เริ่มต้นด้วยการใส่หัวกระดาษและท้ายกระดาษ (Header and Footer) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกแท็บ (Insert)
ขั้นตอนที่ 2 เสร็จแล้วคลิกปุ่ม เพื่อใส่ค่าหัวและท้ายกระดาษ
ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นคลิกแท็บภาพนิ่ง (Slide) เพื่อใส่หัวและท้ายกระดาษ (Header
and Footer)
ขั้นตอนที่ 4 คลิกเครื่องหมายถูกหน้าท้ายกระดาษเพื่อใส่ข้อความ
ขั้นตอนที่ 5 เสร็จแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการแสดงในด้านล่างของสไลด์
ขั้นตอนที่ 6 เมื่อใส่ข้อความที่ต้องการเสร็จแล้วคลิกปุ่ม เพื่อตกลงให้นา
การตั้งค่านี้ไปใช้กับสไลด์ทั้งหมด
รูปที่ 18.1 แสดงการใส่หัวกระดาษและท้ายกระดาษ
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

2. 1.2 ใส่วันที่และเวลา (Date and Time)
วิธีการใส่วันที่และเวลา (Date and Time) ให้กับสไลด์ มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกเครื่องหมายถูกหน้าวันที่และเวลา เพื่อใส่วันและเวลา
ขั้นตอนที่ 2 เสร็จแล้วคลิกเลือกปรับปรุงอัตโนมัติเพื่อเลือกวันและเวลาอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นคลิกเลือก เพื่อเลือกแบบวันและเวลาที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 4 เสร็จแล้วคลิกปุ่ม เพื่อตกลงให้นาการตั้งค่านี้ไปใช้กับ
สไลด์ทั้งหมด
รูปที่ 18.2 แสดงการใส่วันที่และเวลา
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.3 กาหนดตัวเลขลาดับของสไลด์ (Slide Number)
การใส่ลาดับตัวเลขให้กับสไลด์ เพื่อช่วยในการจัดลาดับสไลด์ไม่ให้เกิดความสับสนในระหว่าง
การนาเสนองาน ซึ่งสามารถสร้างได้ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกเครื่องหมายถูกหน้าหมายเลขภาพนิ่งเพื่อใส่ลาดับเลขไว้บนสไลด์
ขั้นตอนที่ 2 เสร็จแล้วคลิกปุ่ม เพื่อตกลงให้นาการตั้งค่านี้ไปใช้กับ
สไลด์ทั้งหมด

3. รูปที่ 18.3 แสดงการกาหนดตัวเลขลาดับของสไลด์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.4 ดูตัวอย่างก่อนพิมพ์
เราสามารถตรวจสอบเอกสารก่อนการพิมพ์ก่อน โดยการดูตัวอย่างก่อนพิมพ์ ซึ่งมีขั้นตอน
ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกปุ่ม (Office Button) > พิมพ์ > แสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์
ขั้นตอนที่ 2 คลิกปุ่ม เพื่อเลือกดูรูปแบบเอกสารประกอบการบรรยาย
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากนั้นคลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ

4. รูปที่ 18.4 แสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.5 รูปแบบของการพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยาย
มาเริ่มต้นรู้จักกับรูปแบบของการพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยายว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง
เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผู้เข้าร่วมรับชม ซึ่งมีรูปแบบต่างๆ ดังนี้

5. 1.5.1 ภาพนิ่งสไลด์ (Slide)
เป็นรูปแบบก่อนพิมพ์ที่แสดงภาพนิ่ง (Slide) แบบเต็มจอเหมือนกับการฉายสไลด์
โดยเอกสารที่จัดพิมพ์จะมีลักษณะเหมือนกับสไลด์ (Slide) นั่นเอง
รูปที่ 18.5 แสดงภาพนิ่งก่อนพิมพ์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.5.2 เอกสารประกอบคาบรรยาย (Handout)
เป็นรูปแบบมุมมองที่ต้นแบบเอกสารก่อนพิมพ์ ที่สามารถปรับขนาด จัดรูปแบบ
ตั้งค่าหน้ากระดาษ และระบุจานวนภาพนิ่งที่จะพิมพ์ในแต่ละหน้าได้อีกด้วย
แบบ 2 ภาพนิ่งต่อหน้า แบบ 3 ภาพนิ่งต่อหน้า แบบ 6 ภาพนิ่งต่อหน้า
รูปที่ 18.6 แสดงเอกสารประกอบคาบรรยาย
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

6. 1.5.3 บันทึกย่อ (Note)
เป็นรูปแบบมุมมองก่อนพิมพ์ที่แสดงต้นแบบภาพนิ่ง (slide) แต่จะมีส่วนของพื้นที่
ในการบันทึกข้อความเพื่อใช้ในการประกอบการบรรยาย
รูปที่ 18.7 แสดงรูปเอกสารบันทึกย่อ (Note)
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.5.4 พิมพ์หัวข้อที่เป็นเค้าร่าง (Outline)
เป็นรูปแบบมุมองก่อนพิมพ์ที่แสดงภาพนิ่งและรายละเอียดทั้งหมดไว้ด้านข้าง โดย
เรียงลาดับจากภาพนิ่งแรกจนถึงภาพนิ่งสุดท้าย
รูปที่ 18.8 แสดงรูปเอกสารมุมมองเค้าร่าง (Outline)
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

7. 1.6 จัดทาบันทึกย่อของผู้บรรยาย (Speaker Notes)
ในบางครั้งการนาเสนองานในหนึ่งสไลด์อาจจะมีเนื้อหาที่จะต้องอธิบายมากจนจาไม่ได้หมด
และอาจทาให้เราลืมนาเสนอเนื้อหานั้นได้ ซึ่งโปรแกรม PowerPoint นั้นมีตัวช่วยในการจดบันทึก
เนื้อหาเพื่อช่วยในการเตือนความจาได้ คือ บันทึกย่อ (Speaker Notes) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกแท็บ (View)
ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อบันทึกข้อความ
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากนั้นคลิกในกล่องข้อความ เสร็จแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการบันทึก
รูปที่ 18.9 แสดงการทาบันทึกย่อของผู้บรรยาย
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.7 เปลี่ยนขนาดและตั้งข้อกาหนดให้กับพื้นที่พิมพ์สไลด์
หลังจากที่ได้ปรับตั้งรูปแบบและบันทึกข้อมูลเพื่อช่วยในการนาเสนอไปแล้ว ต่อไปเราจะ
กาหนดขนาดสไลด์และการปรับแนวการออกแบบสไลด์ (Slide) เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับงานที่
จะนาเสนอ ซึ่งมีขั้นตอนปรับแต่งได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกแท็บ (Design)
ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อปรับตั้งขนาดของกระดาษ

8. ขั้นตอนที่ 3 คลิกเลือกนาเสนอทางหน้าจอ ในช่องขนาดภาพนิ่งสาหรับเพื่อเลือกขนาด
กระดาษในการพิมพ์
ขั้นตอนที่ 4 คลิกเลือกขนาดสไลด์ในช่องขนาดภาพนิ่ง
ขั้นตอนที่ 5 จากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อยอมรับการตั้งค่า
รูปที่ 18.10 แสดงเปลี่ยนขนาดและตั้งข้อกาหนดให้กับพื้นที่พิมพ์สไลด์
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
1.8 ปรับสไลด์ให้เป็นแนวตั้งหรือแนวนอน
หลังจากที่ได้กาหนดขนาดสไลด์กันไปแล้ว ต่อไปเราจะทาการปรับแนวการออกแบบสไลด์
(Slide) เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับงานที่จะนาเสนอ ซึ่งมีขั้นตอนปรับแต่งได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกแท็บ (Design)
ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อปรับตั้งแนวของกระดาษ
ขั้นตอนที่ 3 คลิกเลือกแนวที่ต้องการในช่องการวางแนว

9. ขั้นตอนที่ 4 จากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อยอมรับการตั้งค่า
รูปที่ 18.11 ปรับสไลด์ให้เป็นแนวตั้งหรือแนวนอน
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)
2. พิมพ์เอกสารประกอบคาบรรยาย
2.1 พิมพ์เอกสาร
หลังจากที่ได้เลือกรูปแบบและดูตัวอย่างก่อนการพิมพ์ คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการพิมพ์
เอกสารเพื่อแจกให้กับผู้เข้าชม ซึ่งการพิมพ์เอกสารสามารถทาได้ตามขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกปุ่ม (Office Button) > พิมพ์ > พิมพ์
ขั้นตอนที่ 2 คลิกเลือกเครื่องพิมพ์ในช่องชื่อ (Name)
ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นเลือกจานวนหน้าที่ต้องการพิมพ์ในช่วงระยะที่พิมพ์ (Print range)
ขั้นตอนที่ 4 คลิกเลือกจานวนชุดที่จะพิมพ์ในช่องจานวนสาเนา (Number of copies)
ขั้นตอนที่ 5 เมื่อเลือกพิมพ์เสร็จแล้วคลิกปุ่ม เพื่อเริ่มพิมพ์เอกสารผ่าน
เครื่องพิมพ์ (Printer)

10. รูปที่ 18.12 แสดงการพิมพ์เอกสาร
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

11. 2.2 สั่งพิมพ์โดยไม่พิมพ์พื้นหลัง
การพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยายนั้น ในบางครั้งเราอาจไม่ต้องการภาพพื้นหลัง
(Background) ของสไลด์ เพราะพื้นหลังไม่ได้ช่วยให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น และเพื่อเป็นการลดค่า
การพิมพ์ลง ซึ่งเราสามารถเอาพื้นหลังออก มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกแท็บ (Design)
ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นคลิกเลือกชุดรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 3 หลังจากนั้นให้สั่งพิมพ์เอกสารโดยไม่มีพื้นหลังได้ตามต้องการ
รูปที่ 18.13 แสดงการสั่งพิมพ์โดยไม่พิมพ์พื้นหลัง
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

12. 2.3 การพิมพ์ไฟล์ PDF
การพิมพ์ไฟล์ PDF หรือจะเรียกว่าเป็นการ “บันทึก” ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยแฟ้ม PDF
(Portable Document Format) นี้ เป็นรูปแบบแฟ้มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการรักษาการจัดรูปแบบ
เอกสาร โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง แฟ้มจะยังคงรักษารูปแบบเหมือนกับที่เราต้องการ เหมาะสาหรับ
การแสดงออนไลน์หรือสั่งพิมพ์หรือส่งงานให้กับโรงพิมพ์ การเปิดดูแฟ้ม PDF เราต้องมีโปรแกรม
อ่าน PDF เช่น Acrobat Reader หรือ Adobe Reader ติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งจะ
ใช้คาสั่ง Print ในการแปลงไฟล์ และเครื่องต้องติดตั้งโปรแกรมสาหรับแปลงไฟล์ Adobe
Acrobat ขั้นตอนการพิมพ์ไฟล์ PDF ทาได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกปุ่ม (Office Button) เลือกพิมพ์ แล้วคลิกคาสั่ง พิมพ์
ขั้นตอนที่ 2 คลิกเลือก Adobe PDF
ขั้นตอนที่ 3 คลิกปุ่ม
ขั้นตอนที่ 4 เลือกโฟลเดอร์และตั้งชื่อไฟล์
ขั้นตอนที่ 5 คลิกปุ่ม

13. รูปที่ 18.14 แสดงการสั่งพิมพ์ไฟล์ PDF
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

14. 2.4 การพิมพ์ไฟล์ XPS
การพิมพ์ไฟล์ XPS หรือจะเรียกว่าเป็นการ “บันทึก” ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยบันทึกเป็นแฟ้ม
XML Paper Specification (XPS) ซึ่งเป็นรูปแบบแฟ้มอิเล็กทรอนิกส์ (คล้ายกับแฟ้ม PDF) ที่มี
การรักษาการจัดรูปแบบเอกสารโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง เหมาะสาหรับการแสดงออนไลน์หรือสั่ง
พิมพ์ ที่จะยังคงรักษารูปแบบเหมือนกับที่เห็น ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในแฟ้มได้ โดยสามารถเปิดดู
ผ่านโปรแกรมบราวเซอร์ เช่น Internet Explorer ได้เหมือนไฟล์เว็บเพจ และมีเครื่องมือให้ใช้
ควบคุมการแสดงแต่ละแผ่นได้ด้วย ขั้นตอนการพิมพ์ไฟล์ XPS ทาได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกปุ่ม (Office Button) เลือกพิมพ์ แล้วคลิกคาสั่ง พิมพ์
ขั้นตอนที่ 2 คลิกเลือก Microsoft XPS Document Writer
ขั้นตอนที่ 3 คลิกปุ่ม
ขั้นตอนที่ 4 เลือกโฟลเดอร์และตั้งชื่อไฟล์
ขั้นตอนที่ 5 คลิกปุ่ม

15. รูปที่ 18.15 แสดงการสั่งพิมพ์ไฟล์ PDF
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

16. 2.5 พิมพ์คู่มือประกอบการบรรยายที่ MS-Word
เราสามารถสั่งพิมพ์คู่มือประกอบการบรรยายได้อีกแบบหนึ่ง โดยการส่งเนื้อหาสไลด์ของคุณ
ไปพิมพ์ที่โปรแกรม Microsoft Word และสามารถเก็บบันทึกเอกสารที่ได้นั้นเป็นไฟล์ของเวิร์ด
เพื่อนาไปใช้งานภายหลังได้ ขั้นตอนการพิมพ์ไฟล์ MS-Word ทาได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกปุ่ม (Office Button) เลื่อนไปที่ (Publish) และ
เลือกสร้างเอกสารประกอบคาบรรยาย Microsoft Office Word
ขั้นตอนที่ 2 เลือกการจัดวางสไลด์ในเวิร์ด
ขั้นตอนที่ 3 คลิกปุ่ม
ขั้นตอนที่ 4 หลังจากได้คู่มือประกอบการบรรยายใน Word แล้วเราก็เลือกสั่ง (Save)
หรือ Print งานได้ตามต้องการ จะตกแต่งหรือเพิ่มเนื้อหาใหม่ลงก็ก็ได้เช่นเดียวกัน

17. รูปที่ 18.16 แสดงการสั่งพิมพ์คู่มือประกอบบรรยาย MS-Word
(ที่มา : สุรีรัตน์ ทักษะวสุ, 2553)

18. ใบงานที่ 18.1
จุดประสงค์ของงาน
1. เพื่อให้มีทักษะในการพิมพ์ผลงานนาเสนอออกทางเครื่องพิมพ์
กิจกรรม
คาสั่ง ให้นักศึกษารวบรวมใบงานที่ได้ส่งครู ในรูปแบบของการพิมพ์และไฟล์ ลงในดีวีดี
พร้อมทั้งเขียนชื่อนามสกุล เลขที่ ภาคเรียน นาส่งครูก่อนหมดชั่วโมงเรียน
เกณฑ์การพิจารณา
1. ตรวจดูใบงานที่มอบหมายว่าครบถ้วนหรือไม่